ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | ความตกลงระหว่างราชอาณาจักรไทยและรัฐสุลต่านบรูไนดารุสซาลามเพื่อการขจัดการเก็บภาษีซ้อนในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเก็บจากเงินได้ และการป้องกันการหลบหลีกและการหลีกเลี่ยงรัษฎากร | กค. | 04/06/2568 |
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างความตกลงเพื่อการเว้นการเก็บภาษีซ้อนไทย
- บรูไนดารุสซาลาม และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายลงนามในร่างความตกลงฯ
โดยให้กระทรวงการต่างประเทศออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่ผู้ที่ได้รับมอบหมายดังกล่าว
และดำเนินการแจ้งหนังสือผ่านช่องทางการทูตถึงการดำเนินการตามกระบวนการภายในที่จำเป็นเพื่อให้ความตกลงฯ
มีผลใช้บังคับเสร็จสมบูรณ์ โดยร่างความตกลงฯ มีสาระสำคัญเป็นการบรรเทาหรือขจัดภาระภาษีซ้ำซ้อนในส่วนที่เกี่ยวกับภาษีเงินได้ระหว่างประเทศอันเป็นผลจากอำนาจในการจัดเก็บภาษีของประเทศคู่สัญญาซึ่งทำให้เกิดการจัดเก็บภาษีซ้ำซ้อนบนฐานรายได้จำนวนเดียวกัน
และป้องกันการนำความตกลงดังกล่าวไปปรับใช้โดยมิชอบเพื่อการหลบหลีกและการหลีกเลี่ยงภาษี
หรือการวางแผนเพื่อหลบเลี่ยงภาษีและการเคลื่อนย้ายกำไรไปต่างประเทศที่มีอัตราภาษีต่ำ
(BEPS) ตลอดจนการไม่จัดเก็บภาษีในประเทศคู่สัญญาทั้งสองประเทศ
(Double non - taxation) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
โดยหากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างความตกลงฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการคลังดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ทั้งนี้
ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
ดังนี้ กระทรวงการต่างประเทศ เห็นว่าร่างความตกลงฯ เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา
๑๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
และหากส่วนราชการที่เกี่ยวข้องสามารถปฏิบัติตามพันธกรณีภายใต้ร่างความตกลงฯ ได้
โดยไม่ต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามหนังสือสัญญาก็ไม่เป็นหนังสือสัญญาประเภทอื่นตามมาตรา
๑๗๘ วรรคสองของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยที่จะต้องได้รับความเห็นชอบของรัฐสภา สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
เห็นว่าเงินปันผล ในร่างความตกลงฯ ยังไม่แน่ชัดว่ารวมถึงกรณีเงินได้จากการลงทุนทางอ้อมในหุ้นผ่านหลักทรัพย์อื่นด้วยหรือไม่
จึงขอให้หน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่พิจารณากำหนดขอบเขตและแนวทางการจัดเก็บภาษีเพื่อความชัดเจนและรองรับกรณีที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต |