ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1495 จากทั้งหมด 6223 หน้า แสดงรายการที่ 29881 - 29900 จากข้อมูลทั้งหมด 124459 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 29881 | ขออนุมัติร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้มันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังเป็นสินค้าที่ต้องมีหนังสือรับรองและต้องปฏิบัติตาม มาตรการจัดระเบียบในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. .... (ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้มันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังเป็นสินค้าที่ต้องมีหนังสือรับรองและต้องปฏิบัติตามมาตรการจัดระเบียบในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. ....) | พณ | 09/10/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้มันสำปะหลังและผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังเป็นสินค้าที่ต้องมีหนังสือรับรองและต้องปฏิบัติตามมาตรการจัดระเบียบในการนำเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. .... ที่ได้แก้ไขปรับปรุงเกี่ยวกับความถูกต้องของสถานที่ตั้งด่านศุลกากรและอำนาจในการกำหนดด่านศุลกากรในการนำเข้าหรือส่งออก ตามความเห็นของกระทรวงการคลัง และแนวทางปฏิบัติในการนำเข้ามันสำปะหลัง ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ แล้วให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาโดยด่วน ๒. ให้รับประเด็นเกี่ยวกับการกำหนดด่านศุลกากรการนำเข้ามันสำปะหลังต้องปฏิบัติตามมาตรา ๑๕ แห่งพระราชบัญญัติการส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งสินค้า พ.ศ. ๒๕๒๒ โดยตัดข้อ ๖ (๕) เกี่ยวกับการกำหนดด่านศุลกากรนำเข้ามันสำปะหลัง ออกจากร่างประกาศฯ และให้กระทรวงการคลังออกประกาศกำหนดด่านศุลกากรในการนำเข้ามันสำปะหลังตามมาตรา ๑๕ ต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
| 29882 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ ประเภทบริหารระดับสูง (จำนวน 7 ราย 1. นายวิจารณ์ สิมาฉายา ฯลฯ) | ทส | 09/10/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๗ ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. นายวิจารย์ สิมาฉายา ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายสันติ บุญประคับ ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ๓. นายบุญชอบ สุทธมนัสวงษ์ ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมป่าไม้ ๔. นายนพพล ศรีสุข ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ๕. นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม ๖. นายนิทัศน์ ภู่วัฒนกุล ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ ๗. นายปราณีต ร้อยบาง ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมทรัพยากรธรณี
|
||||||||||||||||||||||||
| 29883 | การแต่งตั้งข้าราชการ (นายอำนวย ทองสถิตย์) | พน | 09/10/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงพลังงาน ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๓ ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ดังนี้
๑. นายอำนวย ทองสถิตย์ ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ๒. นายชวลิต พิชาลัย ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นางพูนทรัพย์ สกุณี ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||
| 29884 | การแต่งตั้งข้าราชการ (นายชวลิต พิชาลัย และนางพูนทรัพย์ สกุณี) | พน | 09/10/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงพลังงาน ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๓ ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ดังนี้
๑. นายอำนวย ทองสถิตย์ ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน ๒. นายชวลิต พิชาลัย ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นางพูนทรัพย์ สกุณี ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||
| 29885 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายทรงยศ ชัยชนะ และนายอำนวย กาจีนะ) | สธ | 09/10/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายทรงยศ ชัยชนะ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายอำนวย กาจีนะ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||
| 29886 | รายงานความก้าวหน้าการแจ้งความประสงค์ในการลงพื้นที่ของคณะรัฐมนตรีในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ณ อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี | นร11 | 09/10/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานความก้าวหน้าการแจ้งความประสงค์ในการลงพื้นที่ของคณะรัฐมนตรีในการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ณ อำเภอเกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรับไปปรับปรุงและจัดกลุ่มโครงการในการลงพื้นที่เพิ่มเติมให้เหมาะสม โดยให้ประสานงานเกี่ยวกับข้อมูลโครงการต่าง ๆ กับคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยด้วย รวมทั้งประสานงานกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การลงพื้นที่ในจังหวัดต่าง ๆ ในกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอ่าวไทยทั้ง ๔ จังหวัดเหมาะสมครบถ้วน ทั้งนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้แสดงความประสงค์จะลงพื้นที่ในจังหวัดชุมพรไว้แล้ว
|
||||||||||||||||||||||||
| 29887 | รายงานการเดินทางไปราชการต่างประเทศของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ | กษ | 09/10/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานการเดินทางไปราชการ ณ สาธารณรัฐอินโดนีเซีย ของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระหว่างวันที่ ๓๑ สิงหาคม-๑ กันยายน ๒๕๕๕ เพื่อหารือข้อราชการกับรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการค้าอินโดนีเซีย ในประเด็นเรื่องการลดลงของราคายางพารา และขอรับทราบท่าทีของฝ่ายอินโดนีเซียต่อประเด็นดังกล่าว รวมทั้งการจัดสรรงบประมาณ ๑๕,๐๐๐ ล้านบาท ของไทย สำหรับรักษาระดับราคายางภายในประเทศ สรุปผลการหารือได้ ดังนี้
๑. รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการค้าอินโดนีเซียกล่าวว่า ปัญหาการตกต่ำของราคายางพาราเกิดจากสาเหตุสำคัญ ๔ ประการ ได้แก่ ๑.๑ ปัญหาเศรษฐกิจโลก เนื่องจากทั้งยุโรปและสหรัฐอเมริกาประสบปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ ๑.๒ ประเทศจีน ซึ่งเป็นประเทศที่บริโภคยางพารารายใหญ่ของโลกเพิ่มการบริโภคยางในอัตราที่ลดลง ๑.๓ ประเทศญี่ปุ่น ผู้ผลิตยางรายใหญ่ของโลกได้ประมาณการว่า ๒-๓ ปีต่อจากนี้ ความต้องการใช้รถยนต์จะลดลง ๒-๓% ๑.๔ ประเทศเวียดนาม มีกำลังการผลิตยางพาราเพิ่มขึ้นทุกปี และมีแนวโน้มที่จะผลิตมากกว่ามาเลเซียในอนาคตอันใกล้นี้ แต่ยังไม่ได้เป็นสมาชิกสภาความร่วมมือด้านยางพาราระหว่างประเทศ (International Tripartite Rubber Council : ITRC) ซึ่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการค้าอินโดนีเซียเสนอว่า ควรมีการหารือกับประเทศจีนเพื่อหารือถึงปริมาณความต้องการใช้ยางพาราของจีนในอีก ๕ ปีข้างหน้า และชักชวนเวียดนามเข้าร่วมเป็นสมาชิก ITRC ๒. รัฐมนตรีทั้ง ๒ ประเทศเห็นพ้องตามมติที่ประชุม ITRC ที่เห็นชอบให้ชะลอปริมาณการส่งออกยางลง ๓๐๐,๐๐๐ ตัน ในระยะเวลา ๖ เดือน คือ ตั้งแต่เดือนตุลาคม ๒๕๕๕ ถึงเดือนมีนาคม ๒๕๕๖ เพื่อลดปริมาณยางที่ส่งออกไปตลาดโลก ด้วยคาดหวังว่าจะทำให้ราคายางพาราสูงขึ้น และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ของไทยจะพบปะหารือกับรัฐมนตรีผู้รับผิดชอบของมาเลเซีย ในวันที่ ๕ กันยายน ๒๕๕๕ เพื่อหาข้อสรุปในระดับรัฐมนตรีของทั้ง ๓ ประเทศ ต่อไป ๓. รัฐมนตรีทั้ง ๒ ประเทศเห็นด้วยว่า ITRC ควรดำเนินการเพื่อช่วยเสริมต่อมาตรการรักษาเสถียรภาพราคายางในระยะยาวต่อไป ได้แก่ การจัดตั้งตลาดซื้อขายยางพาราล่วงหน้าที่มีปริมาณการส่งมอบยางจริงในสัดส่วนที่สูง เพื่อลดหรือถ่วงดุลการชี้นำราคายางจากตลาดที่มีลักษณะการเก็งกำไรมากเกินไป และการจัดตั้งกองทุน เพื่อนำมาแทรกแซงราคายางพาราในกรณีที่ยางพารามีราคาตกต่ำ ซึ่งอินโดนีเซียเห็นด้วยกับการจัดตั้งตลาดซื้อขายยางพาราล่วงหน้า ส่วนการจัดตั้งกองทุน เพื่อนำมาแทรกแซงราคายางพารา นั้น มาเลเซียและเวียดนามอาจจะยังไม่พร้อม อย่างไรก็ตาม ฝ่ายไทยสามารถนำประเด็นทั้งสองดังกล่าวเสนอในการประชุม ITRC ครั้งต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
| 29888 | การเลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (วันจันทร์ที่ 15 ตุลาคม 2555) | นร04 | 09/10/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอว่า เนื่องจากในสัปดาห์หน้านายกรัฐมนตรีจะเดินทางไปราชการต่างประเทศ จึงให้เลื่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีจากวันอังคารที่ ๑๖ ตุลาคม ๒๕๕๕ เป็นวันจันทร์ที่ ๑๕ ตุลาคม ๒๕๕๕
|
||||||||||||||||||||||||
| 29889 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร | นร04 | 09/10/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (ปสส.) วันจันทร์ที่ ๘ ตุลาคม ๒๕๕๕ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๔ ปีที่ ๒ ครั้งที่ ๒๐ (สมัยสามัญทั่วไป) วันพุธที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๕๕ และครั้งที่ ๒๑ (สมัยสามัญทั่วไป) วันพฤหัสบดีที่ ๑๑ ตุลาคม ๒๕๕๕ ตามที่สำนักงานเลขานุการ ปสส. เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 29890 | ขอแก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 ตุลาคม 2555 (เรื่อง ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณและขออนุมัติค่าใช้จ่ายสำนักบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทย) | นร04 | 09/10/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่ผู้อำนวยการสำนักงบประมาณเสนอขอแก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๕๕ (เรื่อง ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการงบประมาณและขออนุมัติค่าใช้จ่ายสำนักบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทย) เป็นว่า “อนุมัติค่าใช้จ่ายของสำนักบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศไทย (กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี) จำนวน ๒๐.๒๖๓๕ ล้านบาท โดยให้ใช้จ่ายจากงบประมาณปี พ.ศ. ๒๕๕๕ งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการ ในส่วนค่าใช้จ่ายของสำนักนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (สบอช.) ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๐ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ให้ทบทวน จำนวน ๑๖๔.๙๔ ล้านบาท ทั้งนี้ ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สำนักบริหารจัดการทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและระบบแก้ไขปัญหาอุทกภัยของประเทศ) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย”
|
||||||||||||||||||||||||
| 29891 | การเลื่อนกำหนดการยกเลิกน้ำมันเบนซิน 91 | พน | 09/10/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เลื่อนกำหนดการยกเลิกน้ำมันเบนซิน ๙๑ ออกไปอีก ๓ เดือน จากวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๕ ไปเป็นวันที่ ๑ มกราคม ๒๕๕๖ ตามมติคณะกรรมการนโยบายพลังงานแห่งชาติ ในการประชุมครั้งที่ ๔/๒๕๕๕ (ครั้งที่ ๑๔๓) เมื่อวันที่ ๔ ตุลาคม ๒๕๕๕ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||
| 29892 | สถานการณ์ภูมิอากาศและสถานการณ์แก้ไขปัญหาน้ำท่วมและปัญหาการจราจร | นร | 09/10/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่ได้เกิดพายุ “แกมี” และส่งผลกระทบทำให้เกิดฝนตกหนักและสถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดต่าง ๆ รวมถึงกรุงเทพมหานครด้วยนั้น ขอขอบคุณคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) กระทรวงกลาโหม (กองทัพบก) กระทรวงมหาดไทย กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร กระทรวงและหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องที่ร่วมกันดำเนินการแก้ไขปัญหาอุทกภัยดังกล่าวเป็นอย่างดีผ่านระบบปฏิบัติการ Single Command รวมทั้งมีข้อมูลการเตือนภัยของกรมอุตุนิยมวิทยาที่มีความแม่นยำมาก ๒. รับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ประธาน กบอ. รายงานว่า ๒.๑ ขณะนี้พายุ “แกมี” ลดกำลังลงแล้วจากดีเปรสชั่นเป็นหย่อมความกดอากาศต่ำ และกำลังเคลื่อนตัวไปทางทะเลอันดามัน คาดว่าภายใน ๗ วัน สถานการณ์จะดีขึ้น ในส่วนของการวางแนวทางการเร่งระบายน้ำในแม่น้ำสำคัญต่าง ๆ ได้มีการเร่งระบายน้ำในแม่น้ำสำคัญต่าง ๆ ให้อยู่ในภาวะปกติโดยเร็วที่สุด และจะไม่ให้มีการผันน้ำจากแม่น้ำเจ้าพระยาไปยังแม่น้ำอื่น ๆ ชั่วคราว โดยเฉพาะไม่ให้มีการผันน้ำลงแม่น้ำบางปะกงและแม่น้ำท่าจีน ซึ่งได้รับน้ำมาจากพื้นที่ที่น้ำท่วมในปริมาณมากแล้ว ส่วนเขื่อนศรีนครินทร์ และเขื่อนวชิราลงกรณ จะดูปริมาณการปล่อยน้ำลงสู่แม่น้ำแม่กลองให้เหมาะสม และไม่ผันน้ำจากแม่น้ำแม่กลองไปยังแม่น้ำท่าจีน ทั้งนี้ หากไม่มีพายุใด ๆ เข้ามาในพื้นที่ภาคกลางจนถึงวันที่ ๓๑ ตุลาคม ๒๕๕๕ จะสามารถปิดแผนโครงการป้องกันน้ำท่วมสำหรับปีนี้ภายในสิ้นเดือนตุลาคมนี้ ๒.๒ ในส่วนของภาคใต้อาจมีพายุพาดผ่านและทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันขึ้นได้ ซึ่งในสัปดาห์หน้าจะลงไปในพื้นที่ภาคใต้เพื่อวางแผนป้องกันน้ำท่วม โดยได้จัดทำรายชื่อลุ่มน้ำที่สำคัญในภาคใต้ร่วมกับสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และจะส่งให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องที่จะต้องลงไปแก้ไขปัญหาน้ำท่วมในพื้นที่ภาคใต้ภายในสัปดาห์นี้เพื่อประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไป ๓. รับทราบตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม (นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์) รายงานว่า ๓.๑ การแก้ไขปัญหาแม่น้ำท่าจีนที่น้ำท่วมล้นไปยังพื้นที่ในจังหวัดนครปฐมและสุพรรณบุรี ได้สั่งการให้กรมทางหลวงชนบทเร่งยกระดับถนนตามแนวแม่น้ำท่าจีนเพื่อเป็นคันกั้นน้ำแบบชั่วคราวก่อน ซึ่งช่วยให้ปัญหาน้ำท่วมคลี่คลายลงได้ รวมทั้งพื้นที่ด้านตะวันออกที่มีปัญหาการผลักดันน้ำในบางจุด เช่น คลอง ๑๓ ซึ่งเป็นคลองหลักแนวเหนือใต้ในการดันน้ำลงทะเล แต่เนื่องจากน้ำจากคลองรังสิตไม่สามารถไหลลงไปยังคลอง ๑๓ ได้ ทำให้น้ำท่วมพื้นที่โดยรอบซึ่งได้แก้ไขปัญหาไปแล้ว นอกจากนี้ ได้ประสานกองทัพบกเพื่อขอใช้พื้นที่เป็นแก้มลิงรองรับน้ำ ซึ่งทางกองทัพบกและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ ๓.๒ การดำเนินการเพื่อแก้ไขปัญหาการจราจรในสถานการณ์น้ำท่วมในระยะต่อไป จะมีการประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบกในสัปดาห์หน้าเพื่อกำหนดแนวทางดำเนินการเกี่ยวกับการเข้มงวดการกระทำผิดวินัยจราจร และการจัดอบรมตำรวจจราจรเกี่ยวกับการควบคุมสัญญาณไฟจราจรให้เหมาะสม
|
||||||||||||||||||||||||
| 29893 | ผลการพิจารณาค่าใช้จ่ายในการให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย | นร07 | 02/10/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติผลการพิจารณาค่าใช้จ่ายในการให้ความช่วยเหลือ ฟื้นฟู เยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัย ตามที่สำนักงบประมาณและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. ผลการพิจารณาโครงการ/รายการที่สำคัญมีความจำเป็นต้องดำเนินการภายใต้ข้อจำกัดของวงเงินที่จะสามารถจัดสรรได้ เห็นสมควรอนุมัติให้ใช้เงินจากการส่งคืนงบประมาณ งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการเยียวยา ฟื้นฟู และป้องกันความเสียหายจากอุทกภัยอย่างบูรณาการ (๑๒๐,๐๐๐ ล้านบาท) ในครั้งนี้ เป็นเงินทั้งสิ้น ๓๘๙.๐๕๓๖ ล้านบาท ได้แก่ ๑.๑ โครงการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ประสบอุทกภัยตามข้อเสนอของจังหวัด จำนวน ๘ จังหวัด เป็นเงิน ๒๑๓.๖๕๔๑ ล้านบาท ประกอบด้วย จังหวัดพัทลุง ๗.๑๘๒๐ ล้านบาท จังหวัดสุราษฎร์ธานี ๑๘.๐๘๗๐ ล้านบาท จังหวัดนครศรีธรรมราช ๘.๐๕๗๑ ล้านบาท จังหวัดสงขลา ๑๙.๙๐๔๐ ล้านบาท จังหวัดระนอง ๘.๒๗๒๐ ล้านบาท จังหวัดร้อยเอ็ด ๔๔.๑๕๕๐ ล้านบาท จังหวัดพิจิตร ๙๗.๙๙๗๐ ล้านบาท และจังหวัดนนทบุรี ๑๐.๐๐๐๐ ล้านบาท ของกระทรวงมหาดไทย (สำนักงานปลัดกระทรวงมหาดไทย) ๑.๒ โครงการขุดลอกคลองน้ำไหลและขจัดสิ่งขวางทางน้ำเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการไหลของกระแสน้ำ ในพื้นที่จังหวัดอุตรดิตถ์ สุโขทัย และพิษณุโลก เป็นเงิน ๘๓.๖๘๗๗ ล้านบาท ของกระทรวงกลาโหม (กองทัพบก) ๑.๓ ค่าใช้จ่ายในการซ่อมแซมอาคารหัวงาน คลองส่งน้ำ คันกั้นน้ำ พนังกันน้ำ เป็นเงิน ๙๑.๗๑๑๘ ล้านบาท ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) ๒. สำหรับกรณีการจัดหารถบรรทุก ๖ ล้อ พร้อมเครน จำนวน ๑๔ คัน วงเงิน ๔๒.๐๐๐๐ ล้านบาท ของกรมทรัพยากรน้ำ ในแผนงานเผชิญเหตุเฉพาะพื้นที่เพื่อบรรเทาปัญหาอุทกภัยระยะเร่งด่วน ที่ให้ดำเนินการเสนอคณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) พิจารณาก่อนนำเสนอคณะรัฐมนตรี นั้น สำนักงบประมาณได้นำเสนอ กบอ. เห็นชอบแล้วในการประชุมเมื่อวันที่ ๖ กันยายน ๒๕๕๕ และจะพิจารณาจัดสรรงบประมาณในกรณีนี้ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 29894 | ขออนุมัติเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการ | ศธ | 02/10/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบตามความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการขออนุมัติเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ โดยให้ดำเนินการตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ให้บรรลุตามพันธกิจ วัตถุประสงค์และเป้าหมายที่กำหนดไว้ตามร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ ในโอกาสแรกก่อน หากเห็นว่าเรื่องดังกล่าวยังคงมีความจำเป็นต้องดำเนินการ ให้สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษานำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง โดยพิจารณาเจียดจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ จากแผนงานสร้างและกระจายโอกาสทางการศึกษาให้ทั่วถึงและเป็นธรรม ผลผลิตผู้สำเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ งบดำเนินงาน ไปดำเนินการต่อไป ๒. หากกระทรวงศึกษาธิการเห็นว่า ยังมีความจำเป็นต้องดำเนินการเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ให้กระทรวงศึกษาธิการพิจารณาเรื่องนี้ร่วมกับสำนักงบประมาณ แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
| 29895 | การให้สัตยาบันในข้อตกลงว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์อาเซียนว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ | ทส | 02/10/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. ให้ประเทศไทยให้สัตยาบันในข้อตกลงว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์อาเซียนว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ เพื่อแสดงเจตจำนงในการดำเนินการของประเทศไทยในฐานะสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และให้นำเสนอรัฐสภาเพื่อขอความเห็นชอบต่อไป ๒. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในข้อตกลงว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์อาเซียนว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ โดยมีสาระสำคัญ ได้แก่ ๒.๑ ศูนย์อาเซียนว่าด้วยการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ (ASEAN Centre for Biodiversity : ACB) เป็นโครงการร่วมภายใต้ความร่วมมือของสมาคมประชาชาติเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ หรือที่เรียกว่า “อาเซียน” มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมและประสานความร่วมมือด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและความหลากหลายทางชีวภาพในภูมิภาคอาเซียน และมีการดำเนินการสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ โดยจะสนับสนุนประเทศสมาชิกอาเซียนในการเสริมสร้างศักยภาพของบุคลากรในด้านการจัดการความหลากหลายทางชีวภาพ ๒.๒ ข้อตกลงว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์อาเซียนว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพในระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน ประเทศอื่น ๆ และระหว่างองค์กรต่าง ๆ มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ ประเทศฟิลิปปินส์ ๓. ให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจ (Full Powers) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายในการลงนามสัตยาบัน และเมื่อรัฐสภาได้ให้ความเห็นชอบต่อสัตยาบันข้อตกลงฯ แล้ว ให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำสัตยาบันสารมอบให้เลขาธิการอาเซียนต่อไป ๔. ให้สมทบงบประมาณสนับสนุนกองทุนความหลากหลายทางชีวภาพแห่งอาเซียน (ASEAN Biodiversity Fund) จำนวน ๕๐,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ |
||||||||||||||||||||||||
| 29896 | รองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยขอลาออกจากตำแหน่ง | นร | 02/10/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่นายกรัฐมนตรีแจ้งว่า รองนายกรัฐมนตรี (นายยงยุทธ วิชัยดิษฐ) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยได้ขอลาออกจากตำแหน่งตั้งแต่วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๕ ความเป็นรัฐมนตรีของนายยงยุทธ วิชัยดิษฐ จึงสิ้นสุดลงตั้งแต่วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๕ ตามความในมาตรา ๑๘๒ (๒) ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ดังนั้น การปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรีในกรณีของกระทรวงมหาดไทยจึงเป็นไปตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๒๒๔/๒๕๕๕ เรื่อง มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี เพิ่มเติม ลงวันที่ ๒ ตุลาคม ๒๕๕๕ ที่มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง) เป็นผู้กำกับการบริหารราชการของกระทรวงมหาดไทยแทนนายกรัฐมนตรี ส่วนกรณีผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๕๔ [เรื่อง การมอบหมายให้รักษาราชการแทน (กระทรวงมหาดไทย)] ที่มอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทยเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ตามลำดับ ได้แก่ นายชูชาติ หาญสวัสดิ์ และนายฐานิสร์ เทียนทอง
|
||||||||||||||||||||||||
| 29897 | การแก้ไขปัญหาสถานการณ์น้ำท่วมและปัญหาการจราจรติดขัด | นร | 02/10/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ในระยะนี้มีพายุแกมี (GAEMI) ที่อาจจะส่งผลกระทบมายังประเทศไทย ซึ่งจะทำให้ฝนตกหนักในพื้นที่ตอนกลางของประเทศ จึงขอให้คณะกรรมการบริหารจัดการน้ำและอุทกภัย (กบอ.) เตรียมการรองรับสถานการณ์ดังกล่าว เช่น การพร่องน้ำในเขื่อน ขุดลอกท่อและคูคลอง เร่งการระบายน้ำเพิ่มเติมทางฝั่งตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณคลองพระองค์เจ้าไชยานุชิต พร้อมทั้งติดตั้งเครื่องสูบน้ำในจุดเสี่ยง ส่วนปัญหาการจราจรที่จะเกิดผลกระทบตามมา ให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม (นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์) กำหนดยุทธศาสตร์ร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติ กรมทางหลวง สำนักงานนโยบายและบริหารจัดการน้ำและอุทกภัยแห่งชาติ (สบอช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดูแลในเรื่องการจราจรในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลไม่ให้เกิดปัญหาการจราจรติดขัด โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีลักษณะเป็นคอขวดต่าง ๆ ๒. รับทราบตามที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม (นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์) รายงานว่า การแก้ไขปัญหาจราจรในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลอยู่ในอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (คจร.) ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง) เป็นประธานกรรมการ ซึ่งจะมีการประชุมในสัปดาห์หน้า เพื่อพิจารณาตั้งคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาจราจรเร่งด่วนในเขตกรุงเทพมหานคร โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นประธานคณะอนุกรรมการฯ นอกจากนี้ ยังกำหนดให้มีหน่วยงานปฏิบัติการแก้ไขปัญหาซึ่งตั้งอยู่ที่ศูนย์ควบคุมและสั่งการจราจร โดยมีรองผู้บัญชาการตำรวจนครบาลเป็นหัวหน้าหน่วยงาน มีหน้าที่รับผิดชอบประสานงานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสั่งการให้แก้ไขปัญหาอย่างรวดเร็ว
|
||||||||||||||||||||||||
| 29898 | ผลการเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติที่ประเทศสหรัฐอเมริกาของนายกรัฐมนตรี | นร | 02/10/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอผลการเข้าร่วมประชุมสมัชชาสหประชาชาติ (United Nations General Assembly-UNGA) สมัยสามัญ สมัยที่ ๖๗ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา ระหว่างวันที่ ๒๔-๒๗ กันยายน ๒๕๕๕ โดยมีภารกิจที่สำคัญสรุปได้ ดังนี้
๑. การกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมฯ ในประเด็นเกี่ยวกับการรักษาสันติภาพ ความมั่นคง และการไม่ใช้ความรุนแรงในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้ง โดยรัฐบาลไทยจะส่งเสริมการแก้ปัญหาความขัดแย้งอย่างสันติวิธี ส่วนการแก้ไขปัญหาความมั่นคงจะคำนึงถึงประชาชนเป็นศูนย์กลาง และได้แสดงจุดยืนร่วมกับนานาชาติในการต่อต้านการค้ามนุษย์ รวมทั้งได้กล่าวถ้อยแถลงเกี่ยวกับนโยบายส่งเสริมคุณภาพชีวิตเด็กและสตรีของรัฐบาลไทย ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางของสหประชาชาติ ทั้งในส่วนของโครงการประกันสุขภาพถ้วนหน้า การสร้างโอกาสทางการศึกษาให้แก่เยาวชน และกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีที่มุ่งส่งเสริมศักยภาพของสตรีให้เท่าเทียมกับบุรุษ ๒. การหารือทวิภาคีกับประธานาธิบดีเต็งเส่ง แห่งสหภาพเมียนมาร์ เกี่ยวกับความคืบหน้าโครงการพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษทวาย ทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้จัดตั้งคณะกรรมการร่วมระหว่างไทย-เมียนมาร์ ขึ้นเพื่อดำเนินการและประสานงานร่วมกัน โดยไทยรับเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมครั้งแรกที่ประเทศไทย รวมทั้งการจัดตั้งคณะอนุกรรมการใน ๖ สาขา เช่น โครงสร้างพื้นฐาน และการก่อสร้าง ๓. การชี้แจงและสร้างความเชื่อมั่นกับนักธุรกิจและสถาบันการเงินของสหรัฐฯ โดยยืนยันถึงความมั่นคงในระบบเศรษฐกิจ การเงิน การคลังของไทย และการเข้ามาลงทุนในไทย รวมทั้งได้จัดกิจกรรมเชิญร้านอาหารไทยที่มีตราสัญลักษณ์ “ไทยซีเล็กท์” จำนวน ๕๐ แห่ง ที่มีอาหารเป็นเอกลักษณ์ของตนเองมาออกร้านให้ลูกค้าได้สัมผัสรสชาติอาหารไทย ๔. การศึกษาดูงานการพัฒนานครนิวยอร์กซึ่งเป็นเมืองเศรษฐกิจมีโครงสร้างผังเมืองที่ดี โดยมีการวางระบบผังเมืองอย่างมีระเบียบและวางแผนการใช้พื้นที่ของเมือง มีการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมที่ดีและโครงสร้างพื้นฐานที่เหมาะสมกับความต้องการ และที่ Highline Park มีการนำรางรถไฟเก่าที่ไม่ใช้แล้วมาปรับเป็นสวนสาธารณะลอยฟ้าเพื่อเป็นสถานที่ท่องเที่ยวและเพิ่มพื้นที่สีเขียวให้กับประชาชนที่อยู่ในเมือง ซึ่งเป็นแนวทางที่สามารถจะนำมาประยุกต์ใช้ในประเทศไทยได้ ๕. การเยี่ยมชมสำนักงานตำรวจนิวยอร์กในการใช้ระบบแก้ปัญหาอาชญากรรมและดูแลรักษาความปลอดภัย โดยใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศที่ทันสมัยในการเชื่อมต่อข้อมูลและการสั่งงานไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ซึ่งควรนำมาประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหาอาชญากรรมและการรักษาความปลอดภัยของไทย โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำรายงานสรุปแจ้งให้รองนายกรัฐมนตรี (ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง) ทราบต่อไปด้วย ๖. เรื่องการค้ามนุษย์เป็นเรื่องที่รัฐบาลไทยให้ความสำคัญและมุ่งมั่นที่จะแก้ไขปัญหาให้หมดสิ้น จึงขอให้รองนายกรัฐมนตรี (ร้อยตำรวจเอก เฉลิม อยู่บำรุง) ร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงแรงงาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำมาตรการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ให้สามารถแก้ไขปัญหาได้อย่างมีประสิทธิภาพและเป็นรูปธรรม โดยให้มีการชี้แจงต่อสาธารณชนและสื่อมวลชนทั้งภายในประเทศและต่างประเทศเกี่ยวกับข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น รวมทั้งมาตรการที่รัฐบาลได้ดำเนินการไปแล้ว และมาตรการที่จัดทำขึ้นใหม่เพื่อให้เกิดความชัดเจนและสร้างความเข้าใจที่ถูกต้องให้ประชาชนและหน่วยงานทั้งภาครัฐและเอกชนต่อไป ทั้งนี้ ให้มีความระมัดระวังและรอบคอบในการชี้แจงในเรื่องดังกล่าว เพื่อไม่ให้เกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อน
|
||||||||||||||||||||||||
| 29899 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันตามมาตรา 23 วรรคสี่ สำหรับงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 (การเช่าอาคารที่ทำการสำนักงานและ สัญญาเช่ารถยนต์เพื่อใช้ประจำสำนักงานการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานสาขาในประเทศและต่างประเทศ) | กก | 02/10/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) ทำสัญญาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการค่าเช่าอาคารสำนักงาน ททท. สาขาต่างประเทศ จำนวน ๑๑ สำนักงาน จำนวนเงิน ๒๓๔,๒๕๓,๐๐๐ บาท ได้แก่ ททท. สำนักงานกรุงโรม ททท. สำนักงานสตอกโฮล์ม ททท. สำนักงานฮ่องกง ททท. สำนักงานเฉิงตู ททท. สำนักงานปักกิ่ง ททท. สำนักงานปารีส ททท. สำนักงาน โอซากา ททท. สำนักงานกัวลาลัมเปอร์ ททท. สำนักงานนิวเดลี ททท. สำนักงานโฮจิมินห์ และ ททท. สำนักงานไทเป (ยกเว้น ททท. สำนักงานลอนดอน เนื่องจากจะลงนามในสัญญาเดือนมีนาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ จึงไม่มีความจำเป็นเร่งด่วน) และรายการค่าเช่ารถยนต์นั่งส่วนบุคคลเพื่อใช้ประจำสำนักงาน ททท. สาขาต่างประเทศ จำนวน ๘ สำนักงาน จำนวนเงิน ๒๘,๑๐๘,๐๐๐ บาท ได้แก่ ททท. สำนักงานปักกิ่ง ททท. สำนักงานนิวเดลี ททท. สำนักงานโฮจิมินท์ ททท. สำนักงานสิงคโปร์ ททท. สำนักงานลอนดอน ททท. สำนักงานกรุงโรม ททท. สำนักงานเฉิงตู และ ททท. สำนักงานฟุกุโอะกะ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๒๖๒,๓๖๑,๐๐๐ บาท ๑.๒ สำหรับรายการค่าเช่าอาคารสำนักงานของ ททท. สาขาในประเทศ จำนวน ๗ สำนักงานจำนวนเงิน ๖,๐๓๒,๐๐๐ บาท ได้แก่ ททท. สำนักงานเชียงราย ททท. สำนักงานพระนครศรีอยุธยา ททท. สำนักงานสุโขทัย ททท. สำนักงานตรัง ททท. สำนักงานกระบี่ ททท. สำนักงานนครนายก และ ททท. สำนักงานสุราษฎร์ธานี เป็นการดำเนินการต่อเนื่องจากปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ซึ่งเป็นวันเริ่มต้นปีงบประมาณแล้ว ให้ดำเนินการจัดหาไว้ล่วงหน้า และให้ก่อหนี้ผูกพันงบประมาณเมื่อพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๖ มีผลบังคับใช้ และได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้ก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ตามนัยมาตรา ๒๓ วรรคสาม แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๐๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยให้มีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๕ อันเป็นวันเริ่มต้นปีงบประมาณซึ่งสามารถดำเนินการตามปกติและเป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ข้อ ๑๓ และหนังสือคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุ (กวพ.) ด่วนที่สุด ที่ กค (กวพ.) ๐๔๐๘.๔/ว ๓๕๑ ลงวันที่ ๙ กันยายน ๒๕๔๘ ๒. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา โดย ททท. รับความเห็นของกระทรวงการคลังที่เห็นควรพิจารณาการใช้จ่ายเงินงบประมาณให้เป็นไปอย่างคุ้มค่า และมีการติดตามประเมินผลการดำเนินงานของสำนักงาน ททท. ในประเทศและต่างประเทศให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
| 29900 | แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การสวนพฤกษศาสตร์ (นายทวี ไอศูรย์พิศาลศิริ) | ทส | 02/10/2555 | |||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การสวนพฤกษศาสตร์ จำนวน ๒ ราย ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒ ตุลาคม ๒๕๕๕) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. นางสาววิชญาณี โอชา เป็นกรรมการอื่น แทนนายพงษ์ทร ชยาตุลชาต ที่ลาออก ๒. นายทวี ไอศูรย์พิศาลศิริ เป็นกรรมการผู้แทนกระทรวงการคลังเพิ่มเติม
|
||||||||||||||||||||||||
.....
