ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1133 จากทั้งหมด 6217 หน้า แสดงรายการที่ 22641 - 22660 จากข้อมูลทั้งหมด 124327 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
22641 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 03/11/2558 | ||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการต่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีเกี่ยวกับการเพิ่มแหล่งการทำประมงในเขตประเทศที่มีความอุดมสมบูรณ์ของสัตว์ทะเล ซึ่งได้มี การเจรจาความร่วมมือด้านประมงไว้แล้ว เช่น บรูไนดารุสซาลาม กินี โดยให้เพิ่มเติมประเทศศรีลังกาซึ่งมีสัตว์ทะเลจำนวนมากด้วย ๒. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ๒.๑ ให้กระทรวงมหาดไทยเร่งดำเนินการจัดทำฐานข้อมูลประชาชนแต่ละกลุ่มเพื่อนำมากำหนดแนวทางการดูแลความเป็นอยู่และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน โดยพิจารณาให้ครอบคลุมประชาชนทุกกลุ่มอาชีพ และรายงานความคืบหน้าให้นายกรัฐมนตรีทราบต่อไป ๒.๒ ให้รองนายกรัฐมนตรีทุกท่านกำกับดูแลการปฏิบัติราชการของส่วนราชการอย่างใกล้ชิด ในการถ่ายทอดความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาลและ Road Map ของรัฐบาลและคณะรักษาความสงบแห่งชาติให้แก่เจ้าหนาที่ทุกระดับในสังกัด และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการ ดังนี้ ๒.๒.๑ ให้สำนักงาน ก.พ. เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับสำนักงาน ก.พ.ร. กระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องร่วมกันจัดทำแนวทางการประเมินผลการปฏิบัติงานของข้าราชการทุกสังกัด โดยให้ครอบคลุมการประเมินความเข้าใจเกี่ยวกับนโยบายรัฐบาล การบังคับบัญชาและการบริหารงาน ผลการปฏิบัติงานและผลสัมฤทธิ์ รวมทั้งความรู้ทั่วไป ทั้งนี้ ให้เสนอนายกรัฐมนตรีภายในปี ๒๕๕๘ และให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาทบทวนบทบาทการปฏิบัติงานของเอกอัครราชทูตและกงสุลประจำประเทศต่าง ๆ ให้มีบทบาทเชิงรุกในการสนับสนุนการดำเนินนโยบายด้านต่างประเทศของรัฐบาลต่อไปด้วย ๒.๒.๒ ให้กระทรวงมหาดไทย โดยผู้ว่าราชการจังหวัดร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาทบทวน การประเมินผลปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในระดับพื้นที่ เช่น เกษตรอำเภอ พาณิชย์จังหวัด โดยเฉพาะอย่างยิ่งการประเมินความรู้ ความเข้าใจในวัตถุประสงค์ ขั้นตอนการปฏิบัติในโครงการสำคัญของรัฐบาล เช่น มาตรการส่งเสริมความเป็นอยู่ของประชาชน (โครงการตำบลละ ๕ ล้านบาท) มาตรการช่วยเหลือปัจจัยการผลิตให้แก่เกษตรกร เพื่อให้การขับเคลื่อนนโยบายดังกล่าวมีผลสำเร็จและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประชาชน ๒.๓ ให้รัฐมนตรีใช้กลไกคณะอนุกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐประจำกลุ่มกระทรวงในการขับเคลื่อนนโยบายสำคัญของรัฐบาลให้เกิดผลสัมฤทธิ์ มีประสิทธิภาพ และโปร่งใส ทั้งนี้ หากคณะอนุกรรมการฯ พบกรณีทุจริต รวมทั้งการใช้จ่ายงบประมาณไม่คุ้มค่าหรือไม่มีประสิทธิภาพ ให้รายงานรัฐมนตรีเจ้าสังกัดพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ก่อน จากนั้นจึงจะรายงานคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐเพื่อรายงานนายกรัฐมนตรีทราบต่อไป ๒.๔ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๑๓ ตุลาคม ๒๕๕๘ เห็นชอบการดำเนินการเพื่อสนับสนุนการปฏิรูปประเทศ ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ โดยมีประเด็นเกี่ยวกับการแบ่งช่วงระยะเวลาการบริหารราชการแผ่นดินและการปฏิรูปประเทศเป็น ๓ ระยะ นั้น ในส่วนของระยะที่ ๒ ซึ่งเป็นการบริหารราชการแผ่นดินและการปฏิรูปประเทศของรัฐบาล ให้แบ่งช่วงระยะเวลาและให้ส่วนราชการดำเนินการ ดังนี้ ๒.๔.๑ ระหว่างวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๘-๓๑ มีนาคม ๒๕๕๙ การบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลและการขับเคลื่อนการปฏิรูประยะที่ ๑ จัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อใช้เป็นแนวทางการดำเนินงานของหน่วยงาน ๒.๔.๒ ระหว่างวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๕๙-๓๐ กันยายน ๒๕๕๙ การบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาลและการขับเคลื่อนการปฏิรูประยะที่ ๒ จัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อใช้เป็นแนวทางดำเนินการของหน่วยงาน ๒.๔.๓ ระหว่างวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๙-๓๑ มีนาคม ๒๕๖๐ การดำเนินการเกี่ยวกับการสร้างความปรองดองและสมานฉันท์ให้คนในชาติ จัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อใช้เป็นแนวทางการดำเนินการของหน่วยงานพร้อมทั้งจัดทำสรุปผลการดำเนินงาน ที่ผ่านมาเพื่อเตรียมส่งต่อให้รัฐบาลชุดต่อไป ๒.๔.๔ ระหว่างวันที่ ๑ เมษายน ๒๕๖๐-๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๐ การส่งต่อการบริหารราชการแผ่นดิน ให้รัฐบาลชุดใหม่ที่จะเข้ามารับช่วงต่อจากรัฐบาลชุดนี้ จัดทำประเด็นภารกิจสำคัญที่รัฐบาลชุดใหม่ต้องดำเนินการและกำหนดกลไก ในการขับเคลื่อนและติดตามการดำเนินงานเพื่อให้เกิดความต่อเนื่อง ๒.๕ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามสถานการณ์น้ำอย่างต่อเนื่อง และพิจารณากำหนดแนวทางการบริหารจัดการน้ำให้สอดคล้องกับสถานการณ์น้ำในปัจจุบันและเพียงพอกับ ความต้องการใช้น้ำในระยะต่อไปในด้านต่าง ๆ เช่น การอุปโภคบริโภค การรักษาระบบนิเวศน์ การทำการเกษตรกรรม แล้วรายงานคณะรัฐมนตรีตามกำหนดอย่างเคร่งครัดด้วย ๒.๖ ให้สำนักโฆษก (สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี) กรมประชาสัมพันธ์ และทุกส่วนราชการร่วมกันสร้าง การรับรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการดำเนินมาตรการต่าง ๆ ตามนโยบายสำคัญของรัฐบาล เช่น การส่งเสริมการลงทุน โดยเฉพาะเรื่อง การให้สิทธิประโยชน์ในภาพรวม นโยบายด้านการเงินการคลังของประเทศ โดยเฉพาะเรื่องการเสียภาษี มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับมาตรการป้องกันการเกิดปัญหาหนี้สินครัวเรือนที่เพิ่มขึ้น ปัญหาหนี้ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) นโยบายการลดเวลาเรียน เพิ่มเวลารู้ การประมูลคลื่นความถี่ (4G) รวมถึงความจำเป็นซึ่งต้องใช้อำนาจตามมาตรา ๔๔ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. ๒๕๕๗ ในการแก้ไขปัญหาสำคัญเร่งด่วน โดยให้เน้นช่องทางการสื่อสาร ที่ประชาชนเข้าถึงได้ง่าย เช่น social media โดยนำเสนอในรูปแบบที่เข้าใจง่าย ๒.๗ ให้กระทรวงวัฒนธรรมเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญในการนำเสนอศิลปวัฒนธรรมไทย เช่น การแสดงโขน อาหารไทย ในรูปแบบที่ดึงดูดและเข้าใจได้ง่ายผ่านช่องทางการสื่อสารที่ประชาชนเข้าถึง ได้ง่าย เช่น social media หรือสื่อโทรทัศน์ ๒.๘ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงแรงงาน กระทรวงคมนาคม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการแก้ไขปัญหาการทำประมงที่ผิดกฎหมาย และการปรับปรุงมาตรฐานการบินพลเรือนของไทยตามแนวทางขององค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ ให้เป็นไปตามกรอบเวลาที่กำหนด และรายงานรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลและนายกรัฐมนตรีต่อไป ๒.๙ ให้กระทรวงมหาดไทยเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับสำนักงบประมาณและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดรูปแบบมาตรฐานในการก่อสร้างอาคารและสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ ของหน่วยงานรัฐ รัฐวิสาหกิจ และองค์กรอิสระ ให้มีความเหมาะสมกับภารกิจที่รับผิดชอบและคุ้มค่ากับงบประมาณในการดำเนินการ ๒.๑๐ ให้กระทรวงสาธารณสุข (องค์การเภสัชกรรม) เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องศึกษาผลกระทบและแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับทรัพย์สินทางปัญญาของการคุ้มครองข้อมูลยา การนำเข้ายา จากต่างประเทศ และการลงทุนจากบริษัทยาภายนอก ซึ่งทำให้ประเทศไทยต้องซื้อยาในราคาที่แพงขึ้น เนื่องจากต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ภายใต้ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจภาคพื้นแปซิฟิก (Trans-Pacific Partnership : TPP) รวมทั้งความตกลงระหว่างประเทศอื่น ๆ ด้วย โดยให้มีผลการดำเนินการที่ชัดเจนเป็นรูปธรรมภายในปี ๒๕๕๙ ๒.๑๑ ให้กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเป็นหน่วยงานหลักรวบรวมข้อเสนอและความต้องการของ ทุกส่วนราชการเกี่ยวกับการวิจัยและพัฒนา พร้อมทั้งกำหนดแนวทางการวิจัยและพัฒนาในภาพรวมของประเทศอย่างเป็นระบบ โดยแบ่งเป็นระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว และให้มีผลงานวิจัยที่เป็นรูปธรรมภายในปี ๒๕๖๐ โดยคำนึงถึงแหล่งเงินทุน ในการวิจัย ผลตอบแทน นักวิจัย และให้ภาคเอกชนเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประเทศอย่างแท้จริงและเกิดความคุ้มค่าในการดำเนินการต่อไปด้วย ๒.๑๒ ให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง) และบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ตรวจสอบและเตรียมความพร้อมของระบบเทคโนโลยีและเครื่องมือต่าง ๆ ในการให้บริการภายในท่าอากาศยานต่าง ๆ ไม่ให้เกิดข้อขัดข้อง พร้อมทั้งจัดทำแผนการซ่อมและบำรุงรักษาเพื่อให้สามารถตอบสนองการให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง
|
|||||||||||||||||||||
22642 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียม ตามกฎหมายว่าด้วยโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. .... | กษ | 03/11/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียม ตามกฎหมายว่าด้วยโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมตามพระราชบัญญัติโรคระบาดสัตว์ พ.ศ. ๒๕๕๘ เพื่อให้มีความเหมาะสมกับสภาพการณ์ปัจจุบันและเป็นธรรมกับผู้ประกอบการ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
22643 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัย ราชภัฏราชนครินทร์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 03/11/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏราชนครินทร์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา และสีประจำสาขาวิชานิติศาสตร์ และสาขาวิชารัฐศาสตร์ เพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
22644 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการจำนองเรือและบุริมสิทธิทางทะเล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | คค | 03/11/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติการจำนองเรือและการบุริมสิทธิทางทะเล (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยได้ดำเนินการยกร่างพระราชบัญญัติเรือไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อแก้ไขให้เรือไทยที่ใช้ในแม่น้ำขนาดตั้งแต่ ๖๐ ตันกรอสส์ขึ้นไปที่อยู่ระหว่างการต่อสามารถนำมาจำนองได้ แต่ด้วยลักษณะทางกายภาพของแม่น้ำซึ่งตื้นและแคบกว่าทะเล ทั้งเพื่อให้กฎหมายมีสภาพที่ใช้บังคับได้เหมาะสมกับความต้องการของผู้ประกอบการขนส่งสินค้าทางน้ำ เห็นควรลดขนาดจาก ๖๐ ตันกรอสส์ เป็น ๒๐ ตันกรอสส์ ซึ่งสอดคล้องกับความเห็นของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นสถาบันการเงินที่ปล่อยสินเชื่อ และสมาคมผู้ประกอบการขนส่งสินค้าทางน้ำ ซึ่งเป็นตัวแทนของผู้ประกอบการขนส่งสินค้าทางน้ำภายในประเทศด้วย และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
22645 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองเชียงรากน้อย เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... | กษ | 03/11/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองเชียงรากน้อย เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองเชียงรากน้อย เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน เพื่อให้เกิดประโยชน์จากการใช้น้ำจากทางน้ำชลประทานอย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
22646 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ | นร | 27/10/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๒๖ ตุลาคม ๒๕๕๘ และรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) รับข้อสังเกตดังกล่าวประสานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป และ
๑. ให้เสนอร่างพระราชบัญญัติ และหนังสือสัญญา รวม ๕ ฉบับ ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองการดำเนินงานของทบวงการพลังงานหมุนเวียนระหว่างประเทศ พ.ศ. .... และธรรมนูญของทบวงการพลังงานหมุนเวียนระหว่างประเทศ เพื่อการสมัครเข้าเป็นภาคีสมาชิกทบวงการพลังงานหมุนเวียนระหว่างประเทศ (International Renewable Energy Agency : IRENA) ๑.๓ ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมเกี่ยวกับความผิดทางอาญา) ๑.๔ ร่างพิธีสารแก้ไขความตกลงทริปส์ ๒. ให้ทุกกระทรวงเร่งรัดพิจารณาออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์โดยรวมกับประชาชนและประเทศชาติ นอกจากนี้ เพื่อให้การออกกฎหมายที่อยู่ระหว่างดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเกิดประโยชน์สูงสุด ให้ส่วนราชการผู้รักษาการตามกฎหมายสร้างการรับรู้ให้ประชาชนเข้าใจถึงวัตถุประสงค์และประโยชน์ที่จะได้รับจากกฎหมายนั้นด้วย
|
|||||||||||||||||||||
22647 | การเร่งรัดพิจารณาออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน | นร | 27/10/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้ทุกกระทรวงเร่งรัดพิจารณาออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งจะทำให้เกิดประโยชน์โดยรวมกับประชาชนและประเทศชาติ นอกจากนี้ เพื่อให้การออกกฎหมายที่อยู่ระหว่างดำเนินการเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเกิดประโยชน์สูงสุด ให้ส่วนราชการผู้รักษาการตามกฎหมายสร้างการรับรู้ให้ประชาชนเข้าใจถึงวัตถุประสงค์และประโยชน์ที่จะได้รับจากกฎหมายนั้นด้วย
|
|||||||||||||||||||||
22648 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัย ราชภัฏธนบุรี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 27/10/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏธนบุรี (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา และสีประจำสาขาวิชาเทคโนโลยี และสาขาวิชานิเทศศาสตร์ เพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
22649 | รายงานการปฏิบัติงานของศาลปกครองและสำนักงานศาลปกครอง ประจำปี 2557 | ศป | 27/10/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการปฏิบัติงานของศาลปกครองและสำนักงานศาลปกครอง ประจำปี ๒๕๕๗ มีสาระสำคัญประกอบด้วย การพิจารณาและพิพากษาคดี การส่งเสริมความรู้ความเข้าใจให้แก่ทุกภาคส่วนในสังคม การสร้างโอกาสเข้าถึงความยุติธรรมทางปกครองให้กับประชาชน การสร้างความร่วมมือทางวิชาการและความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ การพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพื่อการบริหารจัดการที่ดี การสำรวจความเชื่อมั่นของประชาชนต่อการอำนวยความยุติธรรมของศาลปกครอง การวางหลักกฎหมายและแนวทางการปฏิบัติราชการที่ดี การเสริมสร้างวัฒนธรรมทางศาลปกครอง (TRUST) และทิศทางการดำเนินงานในระยะต่อไป ตามที่สำนักงานศาลปกครองเสนอ
|
|||||||||||||||||||||
22650 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การขายทอดตลาดห้องชุดในอาคารชุดและที่ดินจัดสรร) | สว | 27/10/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การขายทอดตลาดห้องชุดในอาคารชุดและที่ดินจัดสรร) ซึ่งมีข้อสังเกตว่า เห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการสร้างความเข้าใจแก่ประชาชนที่เกี่ยวกับหลักการของกฎหมายที่ได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมใหม่นี้ เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเกิดประสิทธิภาพสูงสุด กรณีมาตรา ๓๐๙ จัตวา วรรคสี่และวรรคห้า แห่งร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การขายทอดตลาดห้องชุดในอาคารชุดและที่ดินจัดสรร) โดยเฉพาะการขายทอดตลาดที่ดินจัดสรรที่กำหนดให้สามารถใช้บังคับกับการขายทอดตลาดที่ดินหรือบ้านจัดสรรที่ได้ดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรภายใต้หลักเกณฑ์ที่กำหนดไว้ตามพระราชบัญญัติจัดสรรที่ดิน พ.ศ. ๒๕๔๓ เท่านั้น เพราะโครงการที่ยังไม่ได้จดทะเบียนจัดตั้งนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร เจ้าของโครงการเป็นผู้รับผิดชอบในการบริหารทรัพย์ส่วนกลาง หากมีการเก็บค่าบริการจากผู้ซื้อบ้านในโครงการ ก็เป็นเพียงสัญญาผูกพันระหว่างเจ้าของโครงการกับผู้ซื้อเดิมซึ่งเป็นบุคคลสิทธิจึงไม่ผูกพันผู้ที่ซื้อจากการขายทอดตลาดที่จะต้องชำระหนี้ค้างชำระแต่ประการใด ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. มอบหมายให้กระทรวงยุติธรรมรับไปพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
22651 | รายงานการดำเนินการเพื่อให้ความช่วยเหลือเมียนมากรณีอุทกภัย | กต | 27/10/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการดำเนินการเพื่อให้ความช่วยเหลือเมียนมากรณีอุทกภัย ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การมอบเงินให้ความช่วยเหลือ ประเทศไทยได้มอบเงินพระราชทานและเงินช่วยเหลือในนามของรัฐบาลไทย กระทรวงการต่างประเทศ และกองทัพบก จำนวนรวมทั้งสิ้น ๑๘ ล้านบาท พร้อมด้วยสิ่งของบรรเทาทุกข์พระราชทาน ได้แก่ ถุงยังชีพ เต็นท์ ผ้าห่ม หมอน-มุ้ง ไฟฉาย และผงทำน้ำสะอาด เป็นต้น ๒. การมอบสิ่งของบรรเทาทุกข์ กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย กระทรวงมหาดไทย จัดส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์เพื่อให้ความช่วยเหลือเมียนมา โดยเป็นสิ่งของให้ความช่วยเหลือเนปาลที่ยังคั่งค้างอยู่ที่ประเทศไทย ประกอบด้วยถุงยังชีพ เสื้ออเนกประสงค์ ผ้าใบและผ้ายางอเนกประสงค์ และเสื้อผ้า พร้อมด้วยสิ่งของพระราชทาน ให้แก่ศูนย์บรรเทาทุกข์ฉุกเฉินในกรุงย่างกุ้ง และร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขจัดส่งยารักษาโรคพื้นฐาน เวชภัณฑ์ที่ไม่ใช่ยา และเครื่องกรองน้ำแบบไม่ใช้ไฟฟ้า ให้แก่เมียนมา ๓. การให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์ กระทรวงการต่างประเทศร่วมกับกองบัญชาการกองทัพไทยจัดส่งทีมแพทย์ทหารและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ ๔ สาขา ได้แก่ อายุรแพทย์ กุมารแพทย์ ศัลยแพทย์ และจิตแพทย์ ช่างประปาสนาม และเจ้าหน้าที่เวชกรรมป้องกัน ไปปฏิบัติภารกิจให้ความช่วยเหลือด้านการแพทย์แก่ชาวเมียนมา ในเมืองฮินทาดา ภาคอิระวดี รวมทั้งมอบสิ่งของอุปโภคบริโภคแก่ประชาชนในพื้นที่ ฉีดพ่นน้ำยากำจัดยุงและพ่นละอองฝอยกำจัดแมลงและฆ่าเชื้อโรค ผลิตน้ำดื่ม ตลอดจนให้คำแนะนำด้านสุขาภิบาลแก่เจ้าหน้าที่แพทย์และผู้ประสบภัย
|
|||||||||||||||||||||
22652 | เพิ่มเติมบุคคลตามองค์ประกอบในคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ | สลธ.คสช. | 27/10/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม (พลเอก อุดมเดช สีตบุตร) ร่วมเป็นกรรมการในคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ
|
|||||||||||||||||||||
22653 | ผลการประชุมระดับรัฐมนตรีเอเปคด้านการปฏิรูปโครงสร้าง ครั้งที่ 2 (The Second APEC Structural Reform Ministerial Meeting) และผลการประชุมคณะกรรมการเศรษฐกิจเอเปค (Economic Committee : EC) ครั้งที่ 2/2558 | นร11 | 27/10/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ รับทราบผลการประชุมระดับรัฐมนตรีเอเปคด้านการปฏิรูปโครงสร้าง ครั้งที่ ๒ (The Second APEC Structural Reform Ministerial Meeting) และผลการประชุมคณะกรรมการเศรษฐกิจเอเปค (Economic Committee : EC) ครั้งที่ ๒/๒๕๕๘ ณ เมืองเซบู ประเทศฟิลิปปินส์ ซึ่งการประชุมทั้งสองมีการอภิปรายในประเด็นต่าง ๆ เช่น การจัดทำยุทธศาสตร์การปฏิรูปโครงสร้างเศรษฐกิจใหม่ การปฏิรูปกฎระเบียบต่าง ๆ เพื่อสนับสนุน การพัฒนาและการค้าอย่างเท่าเทียมและเสรี การปรับตัวชี้วัดของความยากง่ายในการประกอบธุรกิจ เป็นต้น และการดำเนินการในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับการประยุกต์ใช้หลักการในที่ประชุมดังกล่าวมาปรับใช้กับประเทศไทย ๑.๒ มอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติดำเนินการประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการยกระดับและขับเคลื่อนวาระใหม่สำหรับการปฏิรูปโครงสร้างเอเปค (Renewed APEC Agenda for Structural Reform : RAASR) สำหรับปี ๒๕๕๙-๒๕๖๓ รวมทั้งการสร้างความชัดเจนถึงบทบาทของไทยในเวทีเอเปค โดยยึดเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติและแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมเป็นหลัก ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และสำนักงาน ก.พ.ร. ที่เห็นควรให้เพิ่มองค์ประกอบผู้แทนกระทรวงพาณิชย์ซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในฐานะคณะกรรมการว่าด้วยการค้าและการลงทุน (Committee on Trade and Investment : CTI) ภายใต้เอเปค เข้าร่วมในการประชุม EC เพื่อสร้างความเชื่อมโยงด้านสารัตถะภาคบริการ และบูรณาการการทำงานทีมประเทศไทยในเวทีเอเปค เพื่อปกป้องผลประโยชน์ของประเทศ และความเห็นเกี่ยวกับการปฏิรูปโครงสร้าง การเพิ่มประสิทธิภาพและการพัฒนานวัตกรรมในภาคบริการ การสนับสนุนและส่งเสริมนวัตกรรมทางสังคม (Social Innovation) โดยเฉพาะนวัตกรรมที่ช่วยยกระดับบริการด้านสาธารณสุข รวมทั้งการยกระดับและขับเคลื่อนวาระใหม่สำหรับการปฏิรูปโครงสร้างเอเปคที่เอื้ออำนวยให้การดำเนินธุรกิจของภาคเอกชนมีความง่ายและคล่องตัว (Ease of Ding Business : EoDB) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
22654 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัย ราชภัฏมหาสารคาม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ศธ | 27/10/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. มอบให้กระทรวงศึกษาธิการรับร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏมหาสารคาม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ไปพิจารณาตรวจสอบขั้นตอนการดำเนินการในการเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว และชี้แจงเหตุผลที่ไม่ดำเนินการเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาก่อนเปิดการสอน และความจำเป็นในการขอให้ร่างพระราชกฤษฎีกานี้มีผลใช้บังคับย้อนหลัง ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป ทั้งนี้ ให้ตรวจสอบการเสนอร่างพระราชกฤษฎีกาของมหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษาต่าง ๆ เพื่อมิให้มีการเสนอขอให้พระราชกฤษฎีกากำหนดปริญญาในแต่ละสาขามีผลใช้บังคับย้อนหลัง โดยให้ยึดหลักการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๘ กันยายน ๒๕๔๑ ว่า เมื่อมหาวิทยาลัยอนุมัติหลักสูตรสาขาวิชาใดแล้ว จะต้องเสนอร่างพระราชกฤษฎีกา แล้วจึงจะเปิดการสอนในสาขาวิชานั้นได้ ๒. ให้กระทรวงศึกษาธิการถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๘ กันยายน ๒๕๔๑ และกำชับให้มหาวิทยาลัยหรือสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ถือปฏิบัติอย่างเคร่งครัดด้วย
|
|||||||||||||||||||||
22655 | ข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตในกระบวนการบริหารงานบุคคลภาครัฐ | ปช | 27/10/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อเสนอแนะเพื่อป้องกันการทุจริตในกระบวนการบริหารงานบุคคลของภาครัฐ ของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ที่เสนอแนะให้มีการปฏิรูประบบบริหารงานบุคคลของภาครัฐ ๔ ประการหลัก ได้แก่ (๑) การตั้งคณะกรรมการกลาง (๒) การจัดตั้งศูนย์/หน่วยงานประเมินและวิเคราะห์ข้าราชการ (๓) การกำหนดแนวทางและขั้นตอนการประเมิน และ (๔) การกำหนดแบบการประเมินข้าราชการ ตามที่สำนักงาน ป.ป.ช. เสนอ และมอบหมายให้สำนักงาน ก.พ. เป็นหน่วยงานหลักรับข้อเสนอแนะของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงกลาโหม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมเป็นไปได้ของข้อเสนอแนะดังกล่าว เพื่อให้การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนมีความโปร่งใสและเป็นธรรม รวมทั้งเกิดประสิทธิภาพในการปฏิบัติงานโดยไม่ก่อให้เกิดการทุจริตในราชการตามมา และให้สำนักงาน ก.พ. จัดทำรายงานผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวมเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เมื่อคณะรัฐมนตรีพิจารณาและมีมติแล้ว สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจะได้แจ้งผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการของคณะรัฐมนตรีต่อคณะกรรมการ ป.ป.ช. ต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
22656 | ผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 48 และการประชุมกับประเทศคู่เจรจาที่เกี่ยวข้อง | กต | 27/10/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ ๔๘ และการประชุมกับประเทศคู่เจรจาที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ ๓-๖ สิงหาคม ๒๕๕๘ มีสาระสำคัญย้ำถึงเจตนารมณ์ของอาเซียนที่จะบรรลุเป้าหมายเรื่องการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียนภายในปี ๒๕๕๘ โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง การเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการพัฒนาภาคการเกษตรและการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม การเสริมสร้างความเข้มแข็งของสำนักเลขาธิการอาเซียนและกลไกของอาเซียน การรักษาความเป็นแกนกลางของอาเซียนในการดำเนินความสัมพันธ์ในภูมิภาค การแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในประเด็นปัญหาในภูมิภาคและระหว่างประเทศ การพัฒนาอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง รวมทั้งการเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาท้าทายที่มีผลกระทบต่อภูมิภาค เช่น การค้ามนุษย์และการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ การก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ ความมั่นคงทางทะเล และการรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทั้งนี้ จากการประชุมดังกล่าวมีประเด็นสำคัญที่หน่วยงานจะต้องรับไปดำเนินการต่อ ได้แก่ (๑) การรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียน (๒) การเสริมสร้างบทบาทนำของอาเซียนในสถาปัตยกรรมในภูมิภาค (๓) ประเด็นปัญหาในภูมิภาคและระหว่างประเทศ (๔) ความสัมพันธ์กับประเทศคู่เจรจา (๕) ความร่วมมือในลุ่มน้ำโขง และ (๖) การหารือทวิภาคี และมอบหมายให้หน่วยงานที่มีภารกิจเกี่ยวเนื่องกับรายงานผลการประชุมดังกล่าวรับไปปฏิบัติและติดตามความคืบหน้าต่อไป ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงอุตสาหกรรม เกี่ยวกับการประชุมกับประเทศคู่เจรจาที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ อาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลีที่ได้มีการเน้นย้ำความสำคัญของผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสนับสนุนการบริหารจัดการป่าไม้ที่ยั่งยืน นั้น ประเทศไทยและอาเซียนควรผลักดันให้เกิดการศึกษาเรียนรู้จากประสบการณ์ของสาธารณรัฐเกาหลีซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จในฐานะที่เป็นประเทศแรกในทวีปเอเชียที่สามารถผลักดันกฎหมายระดับชาติเกี่ยวกับก๊าซเรือนกระจก (GHG) และระบบการซื้อขายใบอนุญาตปล่อยก๊าซเรือนกระจก (ETS) และควรผลักดันให้มีการแลกเปลี่ยนบุคลากรหรือสร้างความร่วมมือเพื่อเรียนรู้จากสาธารณรัฐเกาหลีในด้านการบริหารจัดการป่าไม้ที่ยั่งยืน รวมทั้งการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศลุ่มน้ำโขงกับหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาเกี่ยวกับความร่วมมือเพื่อลดผลกระทบทางด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ควรนำประเด็นการคุกคามต่อความหลากหลายทางชีวภาพซึ่งส่งผลเสียต่อห่วงโซ่อาหารและก่อผลกระทบตามมาถึงความมั่นคงด้านอาหารของภูมิภาคอันเกิดจากการสร้างเขื่อนในกลุ่มประเทศแถบลุ่มน้ำโขงเข้าประกอบการพิจารณา ไปดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||
22657 | สรุปมติ - ข้อสั่งการที่สำคัญในการประชุมคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ ครั้งที่ 6/2558 | อื่นๆ | 27/10/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบสรุปมติ-ข้อสั่งการที่สำคัญในการประชุมคณะกรรมการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (คตช.) ครั้งที่ ๖/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๑๑ กันยายน ๒๕๕๘ ตามที่ คตช. เสนอ มีสาระสำคัญเกี่ยวกับ (๑) ผลการดำเนินงานคณะอนุกรรมการ คตช. ด้านการปลูกฝังจิตสำนึกและสร้างการรับรู้ในมาตรการการป้องกันการทุจริต (๒) ผลการสัมมนาผู้เชี่ยวชาญ (Focus Group) เพื่อหามาตรการติดตามทรัพย์สินที่ทุจริตคืนสู่รัฐ (๓) ผลการดำเนินงานด้านการปราบปรามการทุจริตของคณะอนุกรรมการ คตช. ด้านการปราบปรามการทุจริต และเห็นชอบในแนวทางการใช้ศูนย์ปฏิบัติการต่อต้านการทุจริตระดับกระทรวง (๔) ผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการ คตช. ด้านการประชาสัมพันธ์ (๕) ความก้าวหน้าการใช้ระบบข้อตกลงคุณธรรม (Integrity Pact) ในโครงการจัดซื้อรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงธรรมชาติ (NGV) จำนวน ๔๘๙ คัน ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ และโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (๖) ความก้าวหน้าการดำเนินงานโครงการความโปร่งใสในการก่อสร้างภาครัฐ (Construction Sector Transparency Initiative : CoST) ในโครงการพัฒนาท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ระยะที่ ๒ (๗) วัตถุประสงค์ แนวทาง หลักเกณฑ์และวิธีการในการจัดตั้งและบริหาร “กองทุนส่งเสริมธรรมาภิบาลและขจัดการทุจริต” (๘) ข้อเสนอแนะจากผลการสำรวจดัชนีสถานการณ์คอร์รัปชันประเทศไทย (Corruption Situation Index : CSI) ของมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย (๙) ความก้าวหน้าการเสนอตัวเข้าร่วมเป็นภาคีเครือข่ายองค์กรเพื่อความโปร่งใสในอุตสาหกรรมการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ (Extractive Industries Transparency Initiative : EITI) และ (๑๐) ข้อเสนอขององค์กรต่อต้านการคอร์รัปชัน (ประเทศไทย) ให้เร่งรัดพิจารณากฎหมายในการป้องกันการทุจริตซึ่งได้ผ่านความเห็นชอบจากสภาปฏิรูปแล้ว ๒. มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม กระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี กรมประชาสัมพันธ์ สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป |
|||||||||||||||||||||
22658 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดนราธิวาส พ.ศ. .... | มท | 27/10/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมจังหวัดนราธิวาส พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวม ในท้องที่จังหวัดนราธิวาส เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา และการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือชนบท ในด้านการใช้ประโยชน์ในทรัพย์สิน การคมนาคมและการขนส่ง การสาธารณูปโภค บริการสาธารณะ และสภาพแวดล้อม ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||
22659 | รายงานการพิจารณาศึกษาการผังเมืองและการใช้พื้นที่ | สว | 27/10/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการพิจารณาศึกษาการผังเมืองและการใช้พื้นที่ ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาศึกษาการผังเมืองและการใช้พื้นที่ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ โดยมีข้อเสนอแนะในการปรับปรุงการผังเมืองและการใช้พื้นที่อย่างยั่งยืน และแนวทางในการขับเคลื่อนให้การผังเมืองและการใช้พื้นที่ประสบผลสำเร็จ ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ และมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยรับรายงานและข้อเสนอแนะฯ ไปเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อเสนอดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||
22660 | ร่างพระราชบัญญัติยกเลิกพระราชบัญญัติสมาคมการค้า พ.ศ. 2509 พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขบทบัญญัติที่เกี่ยวกับการรวมกันเป็นสมาคมของบุคคล) และ ร่างพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน ห้างหุ้นส่วนจำกัด บริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 3 ฉบับ | นร09 | 27/10/2558 | ||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติรวม ๓ ฉบับ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณา ก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชบัญญัติยกเลิกพระราชบัญญัติสมาคมการค้า พ.ศ. ๒๕๐๙ พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติเกี่ยวกับการรวมตัวเป็นสมาคมของบุคคล) ๑.๓ ร่างพระราชบัญญัติกำหนดความผิดเกี่ยวกับห้างหุ้นส่วนจดทะเบียนห้างหุ้นส่วนจำกัด หรือบริษัทจำกัด สมาคม และมูลนิธิ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับความเห็นของกระทรวงยุติธรรมและสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับกรณีของสมาคมที่จัดตั้งขึ้นตามกฎหมายเฉพาะ ควรพิจารณาศึกษารายละเอียดของกฎหมายดังกล่าวว่าเป็นบทบัญญัติที่จำกัดสิทธิเสรีภาพขั้นพื้นฐานของบุคคลหรือไม่ และตามมาตรา ๖ ในร่างพระราชบัญญัติยกเลิกพระราชบัญญัติสมาคมการค้า พ.ศ. ๒๕๐๙ พ.ศ. .... กำหนดให้นายทะเบียนมีหน้าที่แจ้งเป็นหนังสือให้สมาคมการค้าที่จดทะเบียนตามพระราชบัญญัติสมาคมการค้า พ.ศ. ๒๕๐๙ ทราบถึงสิทธิและหน้าที่ตามที่กำหนดในมาตรา ๔ และมาตรา ๗ นั้น ในทางปฏิบัตินายทะเบียนควรระบุเรื่องที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ อาทิ แนวทาง ขั้นตอน และเอกสารที่ต้องใช้ในการดำเนินการขอจดทะเบียนพร้อมกันไปด้วย นอกจากนี้ บทบัญญัติตามมาตรา ๘ ในร่างพระราชบัญญัติยกเลิกพระราชบัญญัติสมาคมการค้า พ.ศ. ๒๕๐๙ พ.ศ. .... ซึ่งรองรับการอ้างถึงสมาคมการค้าในกฎหมาย กฎ ระเบียบ ข้อบังคับ หรือประกาศอื่นใดให้หมายถึงสมาคมที่จดทะเบียนตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ ในระยะต่อไป ควรพิจารณาให้มีการปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติหอการค้า พ.ศ. ๒๕๐๙ และพระราชบัญญัติสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๐๓ เพื่อให้เกิดความทันสมัยและสอดคล้องกับข้อเท็จจริงที่ปรับเปลี่ยน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
.....