ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | ผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 48 และการประชุมกับประเทศคู่เจรจาที่เกี่ยวข้อง | กต | 27/10/2558 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ ๔๘ และการประชุมกับประเทศคู่เจรจาที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย ระหว่างวันที่ ๓-๖ สิงหาคม ๒๕๕๘ มีสาระสำคัญย้ำถึงเจตนารมณ์ของอาเซียนที่จะบรรลุเป้าหมายเรื่องการรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียนภายในปี ๒๕๕๘ โดยมีประชาชนเป็นศูนย์กลาง การเสริมสร้างความร่วมมือทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะการพัฒนาภาคการเกษตรและการพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม การเสริมสร้างความเข้มแข็งของสำนักเลขาธิการอาเซียนและกลไกของอาเซียน การรักษาความเป็นแกนกลางของอาเซียนในการดำเนินความสัมพันธ์ในภูมิภาค การแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นในประเด็นปัญหาในภูมิภาคและระหว่างประเทศ การพัฒนาอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง รวมทั้งการเสริมสร้างความร่วมมือเพื่อแก้ไขปัญหาท้าทายที่มีผลกระทบต่อภูมิภาค เช่น การค้ามนุษย์และการโยกย้ายถิ่นฐานแบบไม่ปกติ การก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ ความมั่นคงทางทะเล และการรับมือกับภัยพิบัติทางธรรมชาติ ทั้งนี้ จากการประชุมดังกล่าวมีประเด็นสำคัญที่หน่วยงานจะต้องรับไปดำเนินการต่อ ได้แก่ (๑) การรวมตัวเป็นประชาคมอาเซียน (๒) การเสริมสร้างบทบาทนำของอาเซียนในสถาปัตยกรรมในภูมิภาค (๓) ประเด็นปัญหาในภูมิภาคและระหว่างประเทศ (๔) ความสัมพันธ์กับประเทศคู่เจรจา (๕) ความร่วมมือในลุ่มน้ำโขง และ (๖) การหารือทวิภาคี และมอบหมายให้หน่วยงานที่มีภารกิจเกี่ยวเนื่องกับรายงานผลการประชุมดังกล่าวรับไปปฏิบัติและติดตามความคืบหน้าต่อไป ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี กระทรวงยุติธรรม และกระทรวงอุตสาหกรรม เกี่ยวกับการประชุมกับประเทศคู่เจรจาที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศ อาเซียน-สาธารณรัฐเกาหลีที่ได้มีการเน้นย้ำความสำคัญของผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสนับสนุนการบริหารจัดการป่าไม้ที่ยั่งยืน นั้น ประเทศไทยและอาเซียนควรผลักดันให้เกิดการศึกษาเรียนรู้จากประสบการณ์ของสาธารณรัฐเกาหลีซึ่งถือว่าประสบความสำเร็จในฐานะที่เป็นประเทศแรกในทวีปเอเชียที่สามารถผลักดันกฎหมายระดับชาติเกี่ยวกับก๊าซเรือนกระจก (GHG) และระบบการซื้อขายใบอนุญาตปล่อยก๊าซเรือนกระจก (ETS) และควรผลักดันให้มีการแลกเปลี่ยนบุคลากรหรือสร้างความร่วมมือเพื่อเรียนรู้จากสาธารณรัฐเกาหลีในด้านการบริหารจัดการป่าไม้ที่ยั่งยืน รวมทั้งการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศลุ่มน้ำโขงกับหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาเกี่ยวกับความร่วมมือเพื่อลดผลกระทบทางด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน ควรนำประเด็นการคุกคามต่อความหลากหลายทางชีวภาพซึ่งส่งผลเสียต่อห่วงโซ่อาหารและก่อผลกระทบตามมาถึงความมั่นคงด้านอาหารของภูมิภาคอันเกิดจากการสร้างเขื่อนในกลุ่มประเทศแถบลุ่มน้ำโขงเข้าประกอบการพิจารณา ไปดำเนินการต่อไปด้วย |
.....