รับทราบสรุปผลการประชุมชี้แจงมาตรการป้องกันการแสวงหาประโยชน์จากการเป็นกรรมการ    
รัฐวิสาหกิจ เมื่อวันศุกร์ที่ 27 กุมภาพันธ์ 2541    ตามคำกล่าวเปิดการประชุมชี้แจงของนายกรัฐมนตรี     
และคำบรรยายในหัวข้อต่าง ๆ     กับอนุมัติให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ ถือปฏิบัติและดำเนิน  
การ ตามความเห็นของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ดังนี้  
          1. การแต่งตั้งกรรมการรัฐวิสาหกิจ ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอนุมัติ  ให้ส่วนราชการต้น 
สังกัดและรัฐวิสาหกิจตรวจสอบคุณสมบัติให้ครบถ้วนโดยไม่ขัดกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องทุกฉบับ      โดย 
เฉพาะคุณสมบัติที่จะต้องเป็นผู้ไม่มีส่วนได้เสียหรือดำเนินธุรกิจที่แข่งขันกับรัฐวิสาหกิจนั้น ๆ     และให้  
รับรองความครบถ้วน ถูกต้อง ตามแบบฟอร์มประวัติที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีกำหนด  
          2. ให้กรรมการรัฐวิสาหกิจถือปฏิบัติตามจรรยาบรรณของกรรมการ ฯ      ตามที่กระทรวงการ  
คลัง เสนอ   และคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้ถือเป็นแนวปฏิบัติแล้ว เมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2541  
อย่างเคร่งครัด    โดยให้รายงานผลการประชุมและผลการปฏิบัติหน้าที่ให้ต้นสังกัดทราบทุกครั้ง,  จัด 
ระบบการตรวจสอบภายในระหว่างกรรมการด้วยกันเองแจ้งเวียนประวัติกรรมการรัฐวิสาหกิจหรือเมื่อ  
มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ   เกี่ยวกับการดำรงตำแหน่งของกรรมการ ฯ  ให้คณะกรรมการ ฯ  ทราบด้วย,   
ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์  สุจริต  อยู่ในขอบเขตอำนาจหน้าที่  รวมทั้งจะต้องไม่ใช้ความลับทรัพย์
สินหรือเงินทุนของรัฐวิสาหกิจไปในทางมิชอบ     และไม่ประกอบกิจการอันมีสภาพอย่างเดียวกันหรือ 
เป็นการแข่งขันกับรัฐวิสาหกิจนั้น  การลงมติจะต้องกระทำด้วยความระมัดระวัง รอบคอบ  คำนึงถึงผล  
กระทบที่อาจเกิดจากมตินั้น     โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการจัดซื้อจัดจ้าง และให้กรรมการ ฯ    ที่มา
จากบุคคลภายนอกปฏิบัติอย่างเคร่งครัดในการยื่นบัญชีแสดงทรัพย์สินและหนี้สิน ตามแบบที่ ป.ป.ป. 
กำหนด ภายใน 15 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับการแต่งตั้งและพ้นจากตำแหน่ง
          3. ให้กระทรวงการคลังรับเป็นเจ้าของเรื่อง   จัดให้ประธานกรรมการและผู้บริหารรัฐวิสาหกิจ 
ได้ร่วมประชุมกันเป็นระยะ ๆ  โดยสม่ำเสมอ   เพื่อแลกเปลี่ยนความคิดเห็นและพัฒนารัฐวิสาหกิจให้มี
ความเข้มแข็งยิ่งขึ้น 
          4. ให้ผู้บริหารรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งตรวจสอบ  และรวบรวมมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องทุก ๆ
  สัปดาห์    เพื่อแจ้งที่ประชุมคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจทราบ   และใช้ประกอบการตัด
สินใจหรือลงมติในเรื่องต่าง ๆ 
          5. ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเร่งรัดดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี   เมื่อวันที่ 30  
ธันวาคม 2540    เรื่อง   การแก้ไขเพิ่มเติมหรือยกร่างกฎหมายที่มีบทบัญญัติในทางป้องกันเกี่ยวกับ
การเข้ามาแสวงหาผลประโยชน์จากการเป็นกรรมการในคณะกรรมการรัฐวิสาหกิจ    เพื่อใช้เป็นกฎ 
หมายกลางสำหรับรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ โดยให้ครอบคลุมถึงข้าราชการให้แล้วเสร็จ  และนำเสนอคณะ 
รัฐมนตรีพิจารณาโดยด่วน

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองฝ่ายเศรษฐกิจ  โดยเห็นชอบ
กรอบแนวทางการวิเคราะห์งบลงทุนของรัฐวิสาหกิจปี 2541  ตามที่สำนักงานคณะกรรมการ
พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เสนอ โดยให้แก้ไขข้อความในข้อ 1  เป็น  "1. เห็นควรให้
ความเห็นชอบกรอบแนวทางการวิเคราะห์งบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการ
พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เสนอ สำหรับกรอบระยะเวลาการส่งงบลงทุนประจำปี 
กำหนดให้จัดส่งงบลงทุนให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
พิจารณาอย่างน้อย 60 วัน  ก่อนวันเริ่มงวดการบัญชีต่อไป  ส่วนปีงบประมาณ 2541  เนื่องจาก
เวลาได้ล่วงเลยมาแล้ว  จึงเห็นควรให้รัฐวิสาหกิจเร่งจัดส่งงบลงทุนให้สำนักงานคณะกรรมการ
พัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติภายในกำหนดเวลาไม่เกินเดือนกันยายน 2540  และ
ให้กระทรวงเจ้าสังกัดและรัฐวิสาหกิจทุกแห่งรับแนวทางดังกล่าวไปเป็นแนวปฏิบัติ"

          อนุมัติให้กรมราชทัณฑ์เพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันเพื่อเป็นค่าอาหารผู้ต้องขัง  โดยให้เบิกจ่าย
จากงบประมาณ  พ.ศ. 2540  ในลักษณะค่าใช้จ่ายค้างข้ามปีได้เป็นกรณีพิเศษ    ตามที่กระทรวง 
มหาดไทย เสนอ ส่วนรายละเอียดด้านงบประมาณให้ขอทำความตกลงกับสำนักงบประมาณ และ 
ในโอกาสต่อไปให้กรมราชทัณฑ์ดำเนินการตามแนวปฏิบัติเกี่ยวกับวิธีการงบประมาณอย่าง
เคร่งครัดเพื่อเป็นการรักษาวินัยการเงินการคลัง ตามความเห็นของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี

ในการเจรจาการค้าเบื้องต้น หรือการเยี่ยมเยือน หรือการพบปะกันในระดับผู้นำของประเทศหรือรัฐมนตรี
รวมทั้งการเจรจาทางการทูต ให้ถือเป็นหลักการและแนวปฏิบัติว่า การเจรจาหรือทำความตกลงทางการค้าที่มีวงเงินสูง
และต้องมีการแลกเปลี่ยนสินค้า (COUNTERTRADE) ไม่ควรมีเงื่อนไขที่เป็นผลผูกพันต่อรัฐ ก่อนที่จะนำเรื่องเสนอคณะ
รัฐมนตรี พิจารณาให้ความเห็นชอบ

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการโครงการศึกษาหลักสูตรฝ่ายอำนวยการ 
กองอาสารักษาดินแดน โดยให้การศึกษาหลักสูตร ฝ่ายอำนวยการ กองอาสารักษาดินแดน ได้ตามที่เสนอ
โดยรายละเอียดด้านงบประมาณให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ และให้ยึดแนวปฏิบัติตามมติ
คณะรัฐมนตรี เรื่องการเดินทางไปประชุมหรือดูงาน ณ ต่างประเทศโดยเคร่งครัด

          รับทราบรายงานความคืบหน้าการดำเนินงานโครงการรถไฟฟ้ามหานคร ระยะแรก สายหัวลำโพง - ศูนย์ประชุม ฯ 
สิริกิติ์ - บางซื่อ (สายสีน้ำเงิน) ตามที่องค์การรถไฟฟ้ามหานคร เสนอ  โดยให้รับความเห็นของรองนายกรัฐมนตรี
(นายสมัคร สุนทรเวช) เกี่ยวกับสถานที่ก่อสร้างศูนย์ซ่อมบำรุงของรถไฟฟ้าใต้ดินไปพิจารณาด้วย กับให้เร่งดำเนิน
การเจรจาต่อรองกับกลุ่มบริษัทผู้รับเหมา  Joint Venture BCKT  เพื่อปรับลดราคา ตามแนวปฏิบัติของการประกวด
ราคาของแหล่งเงินกู้ (OECF) และตามนโยบายของรัฐบาล  โดยให้ผู้ยืนอยู่บนพื้นฐานการรักษาผลประโยชน์ของรัฐ 
ให้มากที่สุด แล้วรายงานให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง ในวันอังคารที่ 27 สิงหาคม 2539

      เห็นชอบหลักการและแนวปฏิบัติในการรับนักเรียนมัธยมศึกษา 
สังกัดกรมสามัญศึกษาปีการศึกษา 2539 ตามที่นายกรัฐมนตรี เสนอ

     รับทราบและให้คงถือปฏิบัติตามมติ ครม. ที่เป็นแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการ
มอบอำนาจของ ครม. ตามที่ สลค. เสนอ

          เห็นชอบให้แก้ไขเพิ่มเติมมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2513   เรื่อง  การค้ำประกัน
ของธนาคารพาณิชย์ที่รัฐบาลมีหุ้นข้างมาก เฉพาะในส่วนที่กำหนดว่า  ในกรณีที่มีข้อพิพาทระหว่าง
ส่วนราชการกับรัฐวิสาหกิจด้วยกัน    และไม่สามารถตกลงกันได้ ให้ดำเนินการเป็นขั้น ๆ     ตามที่
กระทรวงการคลัง เสนอ  และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 ธันวาคม 2517 เรื่อง  การฟ้องร้องส่วน
ราชการและรัฐวิสาหกิจ  ในส่วนที่ให้คงแนวปฏิบัติในเรื่องนี้ไว้ตามเดิม    โดยให้เพิ่มเติมกรณีเกิดข้อ
พิพาทระหว่างส่วนราชการด้วยกันไว้ในมติคณะรัฐมนตรี   และให้ส่วนราชการถือปฏิบัติตามขั้นตอน
ดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีในเรื่องนี้โดยเคร่งครัด      สำหรับในกรณีที่มีความจำเป็นต้องฟ้อง 
สำหรับในกรณีที่มีความจำเป็นต้องฟ้องคดีต่อศาลโดยไม่ปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีก่อนไม่ว่ากรณี
ใด ๆ   ให้ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจผู้เป็นโจทก์ในคดีดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี   ภายหลัง
จากที่ได้ดำเนินการยื่นฟ้องแล้วด้วย

คณะรัฐมนตรีมีมติ     เดิมคณะรัฐมนตรีมีมติเรื่องการลงนามหนังสือราชการเฉพาะเรื่องที่ต้องนำเสนอ   
คณะรัฐมนตรีให้รัฐมนตรีว่าการลงนาม  เว้นแต่กรณีรัฐมนตรีป่วยหรือลา   และได้มอบหมายให้ผู้หนึ่งผู้ใดลงนาม  
แทนเป็นพิเศษและสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีได้ย้ำแนวปฏิบัติเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวไปยังกระทรวง ทบวงกรม 
อีกครั้งหนึ่งรับทราบและถือปฏิบัติต่อไปในการลงนามหนังสือราชการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเฉพาะเรื่องที่
ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรี ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงลงนามเอง      ถ้าป่วยหรือลาและมอบหมายให้ผู้ใดผู้หนึ่ง
ลงนามแทนเป็นพิเศษ

          เห็นชอบรายงานผลการประชุมระดับรัฐมนตรีเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจในเอเซีย - แปซิฟิก
ครั้งที่ 4 ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และกระทรวงการต่างประเทศ รายงาน สรุปได้ดังนี้
          1. ที่ประชุมได้ตกลงให้จัดตั้งสำนักเลขาธิการเอเปคขึ้น  ณ  สิงคโปร์  รวมทั้งจัดตั้งกองทุนเอเปค  
โดยกำหนดให้สมาชิกบริจาคเงินเป็นรายปี      ตามสูตรที่ใช้ผลผลิตมวลรวมประชาชาติเป็นฐานในการ 
พิจารณา          
          2. ที่ประชุมขอให้ทบทวนภาพรวมทางเศรษฐกิจในระยะสั้นและระยะกลาง    และพิจารณาเลือก 
ประเด็นทางเศรษฐกิจที่สำคัญที่สุด เพื่อให้กลุ่มเฉพาะกิจทำการศึกษาในรายละเอียด 
          3. การเปิดการค้าเสรีในภูมิภาค เห็นชอบการดำเนินการใน 4 ข้อ คือ 
              3.1 การศึกษาและจัดตั้งฐานข้อมูลอิเลคโทรนิคด้านภาษีศุลกากร
              3.2 การสำรวจการดำเนินการด้านพิธีการและแนวปฏิบัติด้านศุลกากร
              3.3 มาตรการบริหารการเข้าสู่ตลาด
              3.4 การจัดทำคู่มือเกี่ยวกับกฎระเบียบการลงทุน
          ทั้งนี้ กระทรวงการต่างประเทศเสนอว่า รัฐบาลไทยควรดำเนินการ ดังนี้
          1. เตรียมจัดสรรงบประมาณเพื่อบริจาคเข้ากองทุนเอเปคตามพันธกรณี   ประมาณ  50,000 
เหรียญสหรัฐ ฯ ในช่วงไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2536
         2. พิจารณาเรื่องการจัดส่งผู้เชี่ยวชาญไปปฏิบัติหน้าที่ประจำสำนักเลขาธิการเอเปค  ณ  
สิงคโปร์ ในช่วง 3 ปีแรก โดยรัฐบาลเป็นผู้รับชอบค่าใช้จ่าย 
         3. พิจารณาเรื่องการเสนอชื่อผู้ทรงคุณวุฒิเข้าร่วมปฏิบัติหน้าที่ในกลุ่มผู้ทรงคุณวุฒิเพื่อดูแลผล
ประโยชน์ของไทยในเรื่องการเปิดการค่าเสรี
          สำนักงบประมาณได้จัดเตรียมงบประมาณปี 2536 เพื่อการนี้ไว้แล้ว โดยให้กระทรวงการต่าง
ประเทศประสานกับสำนักงบประมาณต่อไป

     เห็นชอบในหลักการเกี่ยวกับการปฏิบัติภารกิจหน้าที่ของคณะรัฐมนตรีขณะอยู่ใน
ตำแหน่ง จนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งใหม่จะเข้ารับหน้าที่ และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับ
การประชุมคณะรัฐมนตรี ตามที่ สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี เสนอ

          เห็นชอบร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราช
บัญญัติสิทธิบัตร พ.ศ. 2522 รวม 8 ฉบับ
          1. ปรับปรุงอัตราค่าธรรมเนียมรายปีให้เหมาะสมและสอดคล้องกับอายุการคุ้มครองสิทธิ
บัตรที่ขยายเพิ่มขึ้น  
          2. ปรับปรุงข้อกำหนดเกี่ยวกับหลักเกณฑ์  วิธีการ  และเงื่อนไขในการขอใช้สิทธิตามสิทธิ  
บัตร เพื่อให้สอดคล้องกับหลักเกณฑ์ที่ทำหนดขึ้นตามพระราชบัญญัติสิทธิบัตรที่แก้ไขใหม่ 
          3. ปรับปรุงเงื่อนไข ข้อจำกัดสิทธิ หรือค่าตอบแทนในลักษณะที่เป็นการจำกัดการแข่งขัน 
โดยไม่ชอบธรรม    
          4. ปรับปรุงหลักเกณฑ์      และวิธีการในการขอรับสิทธิบัตรให้สอดคล้องตามแนวปฏิบัติ 
สากล
          5. ปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการตรวจสอบคำขอรับสิทธิบัตร 
          6. ปรับปรุงหลักเกณฑ์   และวิธีการในการขอรับบำเหน็จพิเศษ ในกรณีลูกจ้างเป็นผู้ประ  
ดิษฐ์
          7. ปรับปรุงหลักเกณฑ์ และวิธีการในการขอรับใบแทนสิทธิบัตร หรือเลิกข้อถือสิทธิบาง
ข้อ  
          8. ปรับปรุงหลักเกณฑ์  และวิธีการในการขอรับใบแทนสิทธิบัตร   หรือใบอนุญาตให้ใช้   
สิทธิ 
          ตามที่กระทรวงพาณิชย์ เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา 
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ตามข้อเสนอของคณะกรรมการกลั่นกรอง ฯ ฝ่ายเศรษฐกิจ

          ให้กำหนดหลักการเกี่ยวกับการปฏิบัติภาระหน้าที่ของคณะรัฐมนตรี ขณะอยู่ในตำแหน่ง 
จนกว่าคณะรัฐมนตรีที่ตั้งใหม่จะเข้ารับหน้าที่  และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการประชุมคณะรัฐมน 
ตรี ตามความเห็นของคณะรัฐมนตรี และภายหลังที่ไม่มีการประชุมคณะรัฐมนตรีแล้ว คณะรัฐมน  
ตรีจะพบปะปรึกษาหารือ   หรือรายงานความคืบหน้าผลการปฏิบัติงานในเรื่องที่คณะรัฐมนตรี 
มีมติไว้แล้วเป็ฯการภายในทุกวันอังคารเวลา 11.00 น. เป็นต้นไป และรับประทานอาหารกลาง  
วันร่วมกัน แต่สัปดาห์ใดมีความจำเป็นต้องพิจารณาเรื่องสำคัญและเร่งด่วน  นายกรัฐมนตรีอาจ 
มีบัญชาให้จัดระเบียบวาระเพื่อพิจารณาเป็นการเฉพาะก็ได้

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงการคลังจ่ายค่าชำระบัญชีเป็นการเหมาเป็นเงิน  จำนวน   
826,350 บาท   จากเงินงบกลางรายการเงินสำรองจ่าย  เพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น  ตามที่กระทรวง 
การคลังเสนอ โดยให้ขอทำความตกลงเรื่องการเงินกับสำนักงบประมาณสำหรับการเบิกจ่ายเงินเพื่อเป็น
ค่าใช้จ่ายและเงินตอบแทน ในการชำระบัญชีบริษัทที่ถูกเพิกถอนใบอนุญาต ซึ่งไม่มีทรัพย์สินที่จะจ่ายได้ 
ให้กระทรวงกาคลังนำเรื่องขออนุมัติเป็น รายๆ ไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอมาตรการและแนวทางบรรเทาปัญหาการ
เลิกจ้าง โดยให้คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนกำหนดมาตรการหรือแนวปฏิบัติเพื่อสนับสนุนการจ้างแรงงาน

          คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแนวปฏิบัติในการรับเชิญจากประเทศในกลุ่มสังคมนิยม/คอมมิวนิสต์  
โดยให้เพิ่มเติมมาตรการ  กลั่นกรองเหตุผลและวัตถุประสงค์    ตลอดจนผลประโยชน์ที่จะได้รับจากการ  
เยือนประเทศในกลุ่มสังคมนิยม/คอมมิวนิสต์   โดยให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ ตลอดจนข้าราชการและ 
พนักงานที่รับเชิญในฐานะเป็นกรรมการหรือสมาชิกสมาคมถือปฏิบัติ  ตามที่กระทรวงการต่างประเทศ
เสนอ โดยเคร่งครัด ทั้งนี้ ให้ขอความร่วมมือสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาด้วย

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการให้ความสะดวกและเอกสิทธิบางประการแก่ผู้แทนการค้าสาธารณรัฐ
ประชาธิปไตยประชาชนเกาหลี โดยให้ได้รับความสะดวกในการเข้าเมืองในด้านการตรวจลงตรา และการ 
อนุญาตให้อยู่ตลอดเวลาที่ปฏิบัติหน้าที่ กำหนดคราวละ 3 ปี  รวมทั้งภริยาและบุตรด้วย     และให้ได้รับ   
การยกเว้นภาษีรถยนตร์ 1 คัน   โดยให้เป็นไปตามแนวปฏิบัติสำหรับรถยนตร์ของคณะทูตไทยและได้รับ 
ยกเว้นภาษีของใช้ส่วนตัว (ไม่รวมรถยนตร์) ของหัวหน้าสำนักงาน ฯ   โดยอนุญาตให้นำเข้าเท่าที่จำเป็น 
ได้ภายใน 6 เดือน ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ