ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 68 จากทั้งหมด 570 หน้า แสดงรายการที่ 1341 - 1360 จากข้อมูลทั้งหมด 11388 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 1341 | ขออนุมัติค่าชดเชยปลูกป่าโครงการจัดตั้งศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติเพิ่มเติม | อก. | 05/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติปรับเพิ่มวงเงินค่าเชดเชยปลูกป่าทั้งโครงการ ๑,๒๓๔.๙๘ ไร่ จากเดิมจำนวน ๕๓,๐๕๕,๐๐๐ บาท เป็นจำนวน ๑๕๔,๐๑๗,๗๒๖.๘๒ บาท เพิ่มขึ้นจากกรอบวงเงินเดิม จำนวน ๑๐๐,๙๖๒,๗๒๖.๘๒ บาท เพื่อเป็นค่าชดเชยปลูกป่าให้กับกรมป่าไม้ จำนวน ๑๙,๕๗๗,๑๖๒.๔๘ บาท และองค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ จำนวน ๘๑,๓๘๕,๕๖๔.๓๔ บาท และให้กระทรวงอุตสาหกรรม
โดยสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนต่อไป
ทั้งนี้ กรอบวงเงินค่าเชดเชยปลูกป่าทั้งโครงการดังกล่าวอยู่ภายในกรอบวงเงินโครงการ
จำนวน ๓,๗๐๕,๗๐๐,๐๐๐
บาท ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๖๔
และควรเร่งดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
ทั้งนี้
ให้กระทรวงอุตสาหกรรมเร่งรัดการดำเนินโครงการจัดตั้งศูนย์ทดสอบยานยนต์และยางล้อแห่งชาติให้แล้วเสร็จโดยเร็วต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1342 | การขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 กันยายน 2556 (เรื่อง ขออนุมัติเปิดที่ทำการสถานกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐฝรั่งเศสแห่งใหม่ประจำจังหวัดภูเก็ต และขอแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐฝรั่งเศสคนใหม่ประจำจังหวัดภูเก็ต) และการแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐฝรั่งเศส ณ จังหวัดภูเก็ต คนใหม่ (นายอาแล็ง โฟโด) | กต. | 05/04/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑. ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๕๖
(เรื่อง
ขออนุมัติเปิดที่ทำการสถานกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐฝรั่งเศสแห่งใหม่ประจำจังหวัดภูเก็ต
และขอแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐฝรั่งเศสคนใหม่ประจำจังหวัดภูเก็ต)
เฉพาะในส่วนการกำหนดเขตกงสุลจากเดิมที่มีเขตกงสุลครอบคลุมจังหวัดภูเก็ต เป็น
มีเขตกงสุลครอบคลุม ๔ จังหวัด ได้แก่ ภูเก็ต กระบี่ พังงา และระนอง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1343 | มาตรการเร่งด่วนเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนจากสถานการณ์ราคาพลังงานอันเนื่องจากปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาคยุโรป | นร.11 สศช | 29/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบในหลักการของข้อเสนอมาตรการเร่งด่วนเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนจากสถานการณ์ราคาพลังงานอันเนื่องจากปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาคยุโรป
โดยมอบหมายให้กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม กระทรวงพลังงาน กระทรวงแรงงาน
กำกับและติดตามให้หน่วยงานในสังกัดที่มีอำนาจและหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมาตรการเร่งด่วนเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนจากสถานการณ์ราคาพลังงานอันเนื่องจากปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาคยุโรปตามข้อ
๓.๑ ตามขั้นตอนของระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมอบหมายให้กระทรวงการคลัง
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ
และธนาคารแห่งประเทศไทย
ร่วมกันพิจารณาติดตามและปรับปรุงมาตรการการให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่เหมาะสมตามสถานการณ์ของราคาพลังงานในตลาดโลก
โดยคำนึงถึงภาวะเศรษฐกิจ
ความพร้อมและความสามารถทางการเงินของภาครัฐภายใต้พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ รวมทั้งมอบหมายให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
รวบรวมข้อเสนอแนวทางหรือมาตรการผลกระทบของประชาชนและผู้ประกอบการจากสถานการณ์ราคาพลังงานอันเนื่องจากปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาคยุโรปที่มีลักษณะมุ่งเป้าของกระทรวงต่าง
ๆ เพื่อเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนดำเนินการเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงพลังงาน
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
ที่ควรให้ความสำคัญในการเตรียมความพร้อมของโครงการ
วิธีการดำเนินการเพื่อให้ได้ผลสัมฤทธิ์
เพื่อลดความเสี่ยงและความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการดำเนินการ
รวมถึงปฏิบัติให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนทุกขั้นตอน
เร่งสร้างความรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒.
ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1344 | การขอความเห็นชอบต่อร่างถ้อยแถลงร่วมสำหรับการประชุมคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ครั้งที่ 27 | พม. | 29/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบในหลักการร่างถ้อยแถลงร่วมสำหรับการประชุมคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
ครั้งที่ ๒๗ [Joint Statement of the Twenty-Seventh ASEAN Socio-Cultural
Community (ASCC) Council] และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมาย
ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
ครั้งที่ ๒๗ ร่วมรับรองร่างถ้อยแถลงร่วมฯ ในวันที่ ๓๐ มีนาคม ๒๕๖๕
ผ่านระบบการประชุมทางไกล (Video conference) โดยร่างแถลงร่วมฯ
มีสาระสำคัญเกี่ยวกับการสนับสนุนการเป็นประธานอาเซียนของราชอาณาจักรกัมพูชา
ภายใต้แนวคิดหลัก “อาเซียน เอ ซี ที การจัดการกับความท้าทายร่วมกัน (ASEAN
A.C.T. : Addressing Challenges Together)”
โดยเน้นการดำเนินการตามประเด็นสำคัญต่าง ๆ อาทิ เสริมสร้างค่านิยม ความตระหนักรู้
และอัตลักษณ์อาเซียน การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์และการเสริมสร้างพลังสตรี
การส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี
เสริมสร้างขีดความสามารถและประสิทธิผลเชิงสถาบันต่าง ๆ
ของประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างถ้อยแถลงร่วมฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1345 | การปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 | นร.07 | 29/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติการปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ ตามแนวทางการปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖
ที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบเมื่อวันที่ ๑๕ มีนาคม ๒๕๖๕ จำนวน ๓,๗๓๕.๙ ล้านบาท ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1346 | ขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น | พน. | 29/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
จำนวนเงินรวมทั้งสิ้น ๑๙๙.๖๕ ล้านบาท ให้กรมธุรกิจพลังงาน
โดยให้กรมบัญชีกลางเป็นผู้อนุมัติและดำเนินการแทนกรมธุรกิจพลังงาน
ผ่านวิธีการเบิกจ่ายงบประมาณแทนกัน
และให้กระทรวงพลังงานดำเนินมาตรการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1347 | การแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการสภาวิศวกร แทนตำแหน่งที่ว่าง (นายพิศุทธิ์ สุขุม) | มท. | 29/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายพิศุทธิ์ สุขุม เป็นกรรมการในคณะกรรมการสภาวิศวกร แทนกรรมการเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากขอลาออก
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๙ มีนาคม ๒๕๖๕) เป็นต้นไป
และให้ผู้ได้รับแต่งตั้งอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอ ทั้งนี้ ในครั้งต่อ ๆ ไป ให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการสภาวิศวกรให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างเคร่งครัดด้วย
ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ (เรื่อง
การดำเนินการแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามที่กฎหมายบัญญัติให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาตามกฎหมาย)
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1348 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ (1. นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์ ฯลฯ จำนวน 9 คน) | พปส. | 29/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
จำนวน ๙ คน ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้ ๑. นางพงษ์สวาท
กายอรุณสุทธิ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านกฎหมาย) ๒. นายพีรพน พิสณุพงศ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านศิลปวัฒนธรรม) ๓. นางสรวงมณฑ์ สิทธิสมาน กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการศึกษา) ๔.
นายธวัชชัย ไทยเขียว กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการพัฒนาเด็ก
เยาวชนและครอบครัว) ๕. นายยศพร
ปัญจมะวัต กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านสุขภาพจิต) ๖.
นางกรกนก ศิริวงษ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านคนพิการและผู้สูงอายุ) ๗. นางสุนทรี ทับทิมไทย ชัยสัมฤทธิ์โชค กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านการคุ้มครองผู้บริโภค) ๘.
นายอภิรักษ์ หาญพิชิตวณิชย์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านสื่อสารมวลชน) ๙.
นายประดิษฐ์ เรืองดิษฐ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านสื่อสารมวลชน) โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๙
มีนาคม ๒๕๖๕) เป็นต้นไป และให้กระทรวงวัฒนธรรม (สำนักงานกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์)
รับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการพัฒนาและส่งเสริมองค์การมหาชน ที่เห็นควรเร่งรัดกระบวนการสรรหาและคัดเลือกบุคคลเพื่อเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการองค์การมหาชนตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดและตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๖ มีนาคม ๒๕๖๔ เรื่อง การแต่งตั้งกรรมการตามกฎหมาย/กรรมการและผู้บริหารขององค์การมหาชนอย่างเคร่งครัด
เพื่อมิให้เกิดความล่าช้า ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1349 | ขออนุมัติการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณเพื่อเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการ | พศ. | 22/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
ตามนัยมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑
เพื่อเป็นค่าเช่ารถโดยสาร ๑๒ ที่นั่ง (ดีเชล) ขนาดปริมาตรกระบอกสูบไม่ต่ำกว่า ๒,๔๐๐ ซีซี จำนวน ๖ คัน อัตราค่าเช่า ๒๔,๗๕๐ บาทต่อคันต่อเดือน ระยะเวลา ๖๐
เดือน (ตั้งแต่เดือนมิถุนายน ๒๕๖๕ ถึงเดือนพฤษภาคม ๒๕๗๐) ภายในวงเงิน ๘,๙๑๐,๐๐๐ บาท โดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕
แผนงานพื้นฐานด้านการพัฒนาและเสริมสร้างสุขภาพศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ งบดำเนินงาน
ผลผลิตพระพุทธศาสนาได้รับการทำนุบำรุงส่งเสริม จำนวน ๓๙๖,๐๐๐ บาท
และผลผลิตพระพุทธศาสนาได้รับการส่งเสริมและเผยแผ่หลักธรรม จำนวน ๑๙๘,๐๐๐ บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น
๕๙๔,๐๐๐ บาท
ส่วนที่เหลือจำนวน ๘,๓๑๖,๐๐๐ บาท ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖-พ.ศ. ๒๕๗๐
โดยให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีให้สอดคล้องกับวงเงินตามสัญญาตามขั้นตอนต่อไป
ทั้งนี้ ขอให้สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ
ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน โดยคำนึงถึงความจำเป็น
และประโยชน์ที่ทางราชการจะได้รับเป็นสำคัญด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1350 | มาตรการลดการใช้พลังงานในหน่วยงานภาครัฐ | พน. | 22/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบแนวทางการประหยัดพลังงานในหน่วยงานภาครัฐ
เพื่อให้หน่วยงานราชการนำไปปฏิบัติ และได้ผลประหยัดพลังงานตามเป้าหมายที่กำหนด ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
ทั้งนี้ ให้กระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรให้กระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะกำหนดระเบียบหรือหลักเกณฑ์อย่างชัดเจนเพื่อเป็นมาตรฐานในการให้หน่วยงานสามารถนำไปใช้ได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่าในการใช้งบประมาณ
ซึ่งจะมีส่วนช่วยลดการใช้พลังงานและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของประเทศอย่างยั่งยืน
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒. ให้หน่วยงานของรัฐทุกแห่งดำเนินการตามแนวทางประหยัดพลังงานในหน่วยงานภาครัฐ
ในข้อ ๑ และให้รายงานผลการดำเนินการดังกล่าวในเว็บไซต์ของกระทรวงพลังงาน www.e-report.energy.go.th เป็นประจำทุกเดือน แล้วให้กระทรวงพลังงาน
(สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน)
รวบรวมข้อมูลทั้งหมดในภาพรวมเสนอต่อนายกรัฐมนตรีเป็นรายไตรมาสต่อไป ๓. ให้กระทรวงพลังงานได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1351 | การมอบหมายผู้ชี้แจงร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการ | นร.04 | 22/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอว่า
เพื่อให้ร่างพระราชบัญญัติของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ศาลหรือองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ
และผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการ
ตามมติคณะรัฐมนตรี (๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๔) [เรื่อง
การขอรับร่างพระราชบัญญัติของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
ศาลหรือองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ และผู้มีสิทธิเลือกตั้งมาพิจารณาก่อนรับหลักการ] ซึ่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเป็นหน่วยงานหลัก
โดยให้เชิญผู้แทนกระทรวง ทบวง กรม
ที่เกี่ยวข้องกับร่างพระราชบัญญัตินั้นมาร่วมพิจารณาเป็นไปด้วยความละเอียดรอบคอบ สอดคล้องกับเจตนารมณ์ทางกฎหมาย
จึงขอให้กระทรวงมอบหมายให้ผู้ดำรงตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับทรงคุณวุฒิเป็นผู้แทนเข้าร่วมพิจารณาร่างพระราชบัญญัติที่คณะรัฐมนตรีขอรับมาพิจารณาก่อนรับหลักการดังกล่าว
ซึ่งคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วลงมติเห็นชอบตามที่เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1352 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 | สธ. | 22/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
รับทราบโครงการแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่ : กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ระยะการระบาดระลอกมกราคม ๒๕๖๕ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕
(ระยะเวลาการดำเนินโครงการเดือนมกราคม ถึงเดือนมิถุนายน ๒๕๖๕) และอนุมัติการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ งบกลาง
รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา
และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙
จำนวนเงินทั้งสิ้น ๘,๔๕๘,๓๘๕,๑๔๑ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔
และปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ (ตุลาคม-ธันวาคม ๒๕๖๔)
และการดำเนินการโครงการในเดือนมกราคม ถึงเดือนมิถุนายน ๒๕๖๕
รวมทั้งอนุมัติขยายระยะเวลาการดำเนินกิจกรรมตามโครงการที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติเมื่อวันที่
๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ จากเดิมถึงเดือนธันวาคม ๒๕๖๔ เป็นถึงเดือนกันยายน ๒๕๖๕ และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ จากเดิมถึงเดือนธันวาคม ๒๕๖๔ เป็นถึงเดือนกันยายน ๒๕๖๕ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ๒.
ให้กระทรวงสาธารณสุขได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1353 | รายงานผลการเรียกให้ทุนหมุนเวียนนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 20 เมษายน 2564 และการเรียกให้ทุนหมุนเวียนนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน ปีบัญชี 2564 | กค. | 22/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1354 | โครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร ลูกหนี้ธนาคารของรัฐ 4 แห่ง | กษ. | 22/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบในหลักการการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
โดยให้เกษตรกรฯ
ทำสัญญาปรับโครงสร้างหนี้กับเจ้าหนี้เดิมโดยพักชำระเงินต้นครึ่งหนึ่ง (ร้อยละ ๕๐)
และดอกเบี้ยทั้งหมดไว้ก่อน และให้เกษตรกรฯ ทำสัญญาผ่อนชำระหนี้เงินต้นครึ่งหนึ่ง
(ร้อยละ ๕๐) ตามระยะเวลาที่ตกลงกัน แต่ไม่เกิน ๑๕ ปี สำหรับการชดเชยเงินต้นร้อยละ
๕๐ ในส่วนที่เกษตรกรฯ ไม่ต้องรับภาระ กลุ่มเป้าหมาย จำนวน ๕๐,๖๒๑ ราย รัฐจะรับภาระในการจัดสรรเมื่อเกษตรกรฯ
ได้ชำระหนี้คืนงวดสุดท้ายเสร็จสิ้นแล้ว ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร)
ร่วมกับกระทรวงการคลัง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ธนาคารออมสิน
ธนาคารอาคารสงเคราะห์ และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดรายละเอียดและแนวทางดำเนินการให้สอดคล้องกับหลักการข้างต้น
รวมถึงกำหนดกรอบวงเงินสำหรับดำเนินการตามความจำเป็นและเหมาะสม
และดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒.
ในส่วนของการขอยกเว้นดอกเบี้ยค้างชำระของธนาคารรัฐ ๔ แห่ง
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร)
เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงการคลัง ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร
ธนาคารออมสิน ธนาคารอาคารสงเคราะห์
และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาแนวทางการดำเนินการให้ได้ข้อยุติที่เหมาะสมแล้วเสนคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ๓. รับทราบการยกเลิกหลักเกณฑ์เงื่อนไขที่กำหนดในโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกร
สมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรที่ยั่งยืน
(ลูกหนี้ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร) ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒
ตุลาคม ๒๕๖๑ [เรื่อง
โครงการแก้ไขปัญหาหนี้สินเกษตรกรสมาชิกกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกรที่ยั่งยืน
(ลูกหนี้ ธ.ก.ส.)] ๔. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร) ประสานงานกับกระทรวงมหาดไทย
คณะกรรมการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง (คจพ.)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการให้เกษตรกร จำนวน ๕๐,๖๒๑ ราย ดังกล่าวข้างต้น
ได้รับการแก้ไขปัญหาหนี้สินของคนในกรอบการแก้ไขปัญหาความยกจนแบบพุ่งเป้าแต่ละครัวเรือนของ
คจพ. ด้วย ๕. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (สำนักงานกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรวมทั้งข้อสังเกตของกระทรวงการคลัง
เช่น ประเมินผลการดำเนินการของกองทุนฯ ทบทวนและปรับปรุงรูปแบบการดำเนินโครงการ เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกรอย่างยั่งยืน
ควรให้ความสำคัญกับการกำกับดูแลและการดำเนินโครงการฯ ให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ
ประกาศหลักเกณฑ์ของกองทุนฟื้นฟูและพัฒนาเกษตรกร
ตลอดจนเงื่อนไขและวิธีดำเนินโครงการฯ อย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1355 | รายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2566 | นร.07 | 15/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ พร้อมแนวทางการปรับปรุงรายละเอียดงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ๒.
ให้สำนักงบประมาณได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน
๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1356 | ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงกลาโหมกับกระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ ว่าด้วยความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศ | กห. | 15/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงกลาโหมกับกระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ
(สหราชอาณาจักร) ว่าด้วยความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศ
และให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ
โดยมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดแนวทางความร่วมมือในด้านการป้องกันประเทศและการนำความร่วมมือดังกล่าวไปปฏิบัติให้สอดคล้องกับหลักการแห่งความเสมอภาค
การต่างตอบแทน และการมีผลประโยชน์ร่วมกัน
ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ [กระทรวงกลาโหมมีกำหนดจัดพิธีลงนามบันทึกความเข้าใจฯ ในโอกาสที่ Baroness Annabel Goldie รัฐมนตรีประจำกระทรวงกลาโหมสหราชอาณาจักร
(เทียบเท่ารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม) เดินทางเยือนประเทศไทยอย่างเป็นทางการ
ระหว่างวันที่ ๒๒-๒๗ มีนาคม ๒๕๖๕] และหากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนบันทึกความเข้าใจฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงกลาโหมดำเนินได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว
ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ทั้งนี้ ให้กระทรวงกลาโหมรับความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นตามบันทึกความเข้าใจฯ
เห็นควรให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีของหน่วยรับงบประมาณที่เกี่ยวข้องตามความจำเป็นและเหมาะสม
ไปดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1357 | ขอความเห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย | นร.14 | 15/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบให้ยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ กรกฎาคม
๒๕๖๒ (เรื่อง คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี)
เฉพาะในส่วนของคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย
เพื่อให้คณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทยคงปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างต่อเนื่อง
นับตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ ๒. เห็นชอบการปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย
โดยมีรัฐมนตรีที่กำกับ ดูแล สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เป็นประธานกรรมการ
และให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
ทำหน้าที่เป็นสำนักเลขาธิการคณะกรรมการแม่น้ำโขงแห่งชาติไทย ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1358 | ขอความเห็นชอบในการแต่งตั้งผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (นายชูกิจ ลิมปิจำนงค์) | อว. | 15/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง ศาสตราจารย์ชูกิจ
ลิมปิจำนงค์ เป็นผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๖๕ เป็นต้นไป
(ตามมติคณะกรรมการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติในการประชุม ครั้งที่
๒/๒๕๖๕ เมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕) ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
โดยให้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติรับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร.
ที่ควรจัดทำระเบียบว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหาผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
โดยพิจารณานำหลักเกณฑ์วิธีการสรรหาผู้อำนวยการองค์การมหาชน
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ไปปรับใช้ด้วย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1359 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการจัดหาเวชภัณฑ์ยาและขยายระยะเวลาดำเนินการโครงการแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่ : กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระยะการระบาดระลอกเมษายน 2564 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 | สธ. | 15/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติเปลี่ยนแปลงรายการจัดซื้อเวชภัณฑ์ยา
จาก Molnupiravir เป็นยา Favipiravir
และยา Remdesivir และปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงินงบประมาณในการดำเนินโครงการที่ขอรับการจัดสรรงบประมาณของโครงการแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่
: กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ระยะการระบาดระลอกเมษายน ๒๕๖๔ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ และขยายระยะเวลาดำเนินการโครงการแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่ :
กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
ระยะการระบาดระลอกเมษายน ๒๕๖๔ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ ที่คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแล้วเมื่อวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๔
จากเดิมระยะเวลาดำเนินการเดือนตุลาคม ถึงเดือนธันวาคม ๒๕๖๔
เป็นระยะเวลาดำเนินการเดือนตุลาคม ๒๕๖๔ ถึงเดือนกันยายน ๒๕๖๕ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 1360 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อสนับสนุนการจัดการศพผู้สูงอายุตามประเพณี | พม. | 15/03/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวนเงินทั้งสิ้น ๕๗,๔๕๕ ราย เป็นเงินทั้งสิ้น ๑๗๒,๓๖๕,๐๐๐ บาท เพื่อสนับสนุนการจัดการศพผู้สูงอายุตามประเพณีที่ค้างจ่ายในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
และให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รับความเห็นของกระทรวงการคลัง ที่ควรคำนึงถึงความสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ต่าง
ๆ ที่กำหนดตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ กฎหมาย ระเบียบ
ประกาศ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด โดยให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ใช้จ่ายเงินอย่างโปร่งใส
คุ้มค่า และประหยัด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
