คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการโครงการจัดตั้งระบบเตือนภัยการเกิดอุทกภัยในพื้นที่เสี่ยงภัย  
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยที่การดำเนินโครงการนี้ควรดำเนินการในพื้นที่จำเป็นก่อนเพื่อการ 
ประหยัดและควรจัดทำทั้งระบบ  จึงให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (นายประพัฒน์  ปัญญา 
ชาติรักษ์) รับไปศึกษาและตรวจสอบพื้นที่ที่ล่อแหลมต่อการเกิดภัย  (sensitive  area)  โดยควรใช้ภาพถ่ายดาว 
เทียมเพื่อจัดทำระบบสารสนเทศภูมิศาสตร์ (GIS) ให้ชัดเจน    รวมทั้งการสร้างต้นแบบและจัดทำแผนเพื่อแก้ไข  
ปัญหาทั้งระบบ เช่น การพยากรณ์ การอพยพ  การฟื้นฟู  แล้วเสนอรองนายกรัฐมนตรี  (นายสุวิทย์  คุณกิตติ) 
พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง  ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงความเชื่อมโยงในการดำเนินการระหว่างกระทรวงมหาด
ไทยกับกรมอุตุนิยมวิทยาด้วย

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมรายงานผลการประชุมประจำปี 
ขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) สมัยที่ 89 ณ นครเจนีวา ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ระหว่างวันที่ 5-21 
มิถุนายน 2544 โดยมีปลัดกระทรวงแรงงาน ฯ และคณะ เป็นผู้แทนไทยเข้าร่วมประชุม  ซึ่งผลการประชุมที่สำคัญ 
ได้แก่   การรับรองมาตรฐานแรงงานใหม่ว่าด้วยความปลอดภัยและสุขอนามัยในงานเกษตรกรรม   การอภิปราย 
ครั้งแรกของคณะกรรมการว่าด้วยการส่งเสริมสหกรณ์ที่ตั้งขึ้นในระหว่างการประชุม ฯ เพื่อการออกข้อแนะว่าด้วย 
การส่งเสริมการสหกรณ์ การอภิปรายทั่วไปเกี่ยวกับการประกันสังคมของคณะกรรมการว่าด้วยการประกันสังคม
การรับรองแผนงานและงบประมาณประจำปี พ.ศ. 2545-2546  ที่เสนอโดยผู้อำนวยการใหญ่  ILO  การประชุม  
วาระพิเศษว่าด้วยการดำเนินโครงการภายใต้กรอบเวลา  (Time  Bound  Programme-TBP)  เพื่อขจัดการใช้แรง 
งานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายที่สุด   การประชุมวาระพิเศษกรณีพม่าละเมิดอนุสัญญา ฉบับที่  29   ว่าด้วยแรงงาน
บังคับ  รวมทั้งคำวินิจฉัยของคณะกรรมการสาส์นตราตั้งของ ILO กรณีการฟ้องร้องคัดค้านการแต่งตั้งผู้แทนฝ่าย
นายจ้างในคณะผู้แทนไทยในการประชุมสมัยที่ 89

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม รายงานการใช้จ่าย 
เงินกู้โครงการกองทุนสิ่งแวดล้อม ระยะที่ 1 ครั้งที่ 7  ณ  วันที่ 30 มิถุนายน 2544  โดยการใช้จ่ายเงินกู้โครงการ 
ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมายังไม่สามารถเบิกจ่ายเงินกู้ได้หมดทันตามระยะเวลาที่กำหนดไว้ สำนักงานนโยบายและ  
แผนสิ่งแวดล้อมจึงได้ประสานกับ JBIC และรัฐบาลญี่ปุ่น  โดยผ่านทางกระทรวงการคลังในการขอขยายเวลาการ   
เบิกจ่ายเงินกู้ออกไปอีก 36 เดือน  (20 มกราคม 2543 - 19 มกราคม 2546)  ทั้งนี้ การเบิกจ่ายเงินกู้ ฯ  ภาย  
ใต้โครงการกองทุนสิ่งแวดล้อม ระยะที่ 1  ได้เริ่มเบิกจ่ายตั้งแต่ปีงบประมาณ 2540  โครงการที่ผ่านการพิจารณา  
และได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี และคณะกรรมการกองทุนสิ่งแวดล้อม   ซึ่งประกอบด้วย   โครงการจัด 
การน้ำเสียเขตควบคุมมลพิษ  จังหวัดสมุทรปราการ  โครงการด้านการจัดการน้ำเสียและกำจัดขยะในพื้นที่อื่น ๆ  
รวมทั้งการว่าจ้างที่ปรึกษาเพื่อสนับสนุนสำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อมในการบริหารงานโครงการตาม  
เงื่อนไขสัญญาเงินกู้   การสนับสนุนโครงการได้อนุมัติโครงการไปแล้ว  27  โครงการ  สำนักงานนโยบาย ฯ  ได้  
ดำเนินการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดโครงการให้เป็นไปตามแผนการดำเนินงานที่กำหนดไว้     รวมถึงจัดทำ
เอกสารการประเมินความเหมาะสมโครงการตามคู่มือให้  JBIC  เพื่อทราบ  จัดประชุมสัมมนาเพื่อสร้างเสริมศักย  
ภาพในการบริหารโครงการให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สร้างความเข้าใจเกี่ยวกับขั้นตอนและระเบียบการจ่าย
เงิน ตลอดจนติดตามประเมินผลอย่างต่อเนื่องเพื่อเร่งรัดการดำเนินโครงการให้เป็นไปตามแผนงานและแผนการ 
เบิกจ่าย  นอกจากนี้  ได้จัดทำคู่มือเพื่อใช้เป็นแนวทางในการจัดทำแผน และจัดฝึกอบรมการปฏิบัติการเพื่อเสริม
สร้างศักยภาพและพัฒนาบุคลากรของหน่วยงาน ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์เทคโนโลยีและสิ่งแว้ดล้อมเสนอ

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานผลความคืบหน้าของการดำเนินโครงการ  
พักชำระหนี้และลดภาระหนี้ให้แก่เกษตรกรรายย่อยตามนโยบายของรัฐบาลผ่านระบบธนาคารเพื่อการเกษตร 
และสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ณ วันที่  20  มิถุนายน  2544  โดยมีจำนวนเกษตรกรที่สมัครใจเข้าร่วมโครง 
การ ฯ  จำนวน 2,016,490 ราย  จากจำนวนเกษตรกรกลุ่มเป้าหมาย จำนวน  2,361,631  ราย  จำแนกเป็น 
เกษตรกรที่สมัครใจขอพักชำระหนี้ จำนวน  1,008,645  ราย  และเกษตรกรที่สมัครใจขอลดภาระหนี้ จำนวน  
1,007,845  ราย  สำหรับเกษตรกรที่ยังไม่ได้เข้าร่วมโครงการ ฯ ตามเป้าหมาย นั้น ส่วนใหญ่เป็นเกษตรกรที่
ประกอบอาชีพนอกภูมิลำเนา เช่น ทำงานต่างประเทศ หรือทำงานรับจ้างต่างจังหวัด  เป็นต้น  ซึ่ง  ธ.ก.ส.  จะ 
ดำเนินการติดต่อให้ทายาทหรือกลุ่มลูกค้าที่เกษตรกรเหล่านั้นสังกัดเข้าร่วมโครงการ ฯ ต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางการดำเนินโครงการธนาคารประชาชน ตามนโยบายของรัฐบาล ของ 
ธนาคารออมสิน ซึ่งมีวัตถุประสงค์สำคัญเพื่อให้ความช่วยเหลือทางการเงินแก่ประชาชนทั่วไปที่ประกอบอาชีพอิสระ  
รายย่อย  และ/หรือมีความสนใจที่จะประกอบอาชีพอิสระรายย่อย  ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ  โดยให้กระทรวง  
การคลังประสานกับธนาคารออมสินให้ประชาสัมพันธ์และชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้องให้ประชาชนทราบรายละเอียดโครง 
การนี้อย่างชัดเจน  รวมทั้งชี้แจงให้พนักงานของธนาคาร ฯ  ได้เข้าใจโครงการอย่างถ่องแท้และปฏิบัติงานได้ถูกต้อง
และมีประสิทธิภาพ

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าการดำเนินโครงการพักชำระ    
หนี้และลดภาระหนี้ให้แก่เกษตรกรรายย่อยผ่านระบบธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร  (ธ.ก.ส.) 
โดย ณ วันที่ 30 พฤษภาคม 2544  มีจำนวนเกษตรกรที่สมัครใจเข้าร่วมโครงการ ฯ  จำนวนทั้งสิ้น 1,754,295  
ราย จำแนกเป็น เกษตรกรที่สมัครใจขอพักชำระหนี้ จำนวน 845,631 ราย และเกษตรกรที่สมัครใจขอลดภาระ  
หนี้ จำนวน 908,664 ราย  ทั้งนี้ การคัดเลือกเกษตรกรลูกค้าที่มีสิทธิเข้าร่วมโครงการระหว่างเดือนเมษายน - 
มิถุนายน 2544 จะสามารถดำเนินการได้แล้วเสร็จอย่างแน่นอน

                คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมรายงานผลการดำเนินงาน  
โครงการจ้างบัณฑิตอาสาเสริมสร้างความเข้มแข็งศูนย์สงเคราะห์ราษฎรประจำหมู่บ้าน ปี พ.ศ. 2543  ครั้งที่ 
4  (สิ้นสุดโครงการ  ณ  วันที่ 31 มกราคม 2544)  โดยผลการดำเนินโครงการ ฯ  ในช่วงระยะเวลาที่ผ่านมา  
จากจำนวน 71,110 ศูนย์ มีบัณฑิตอาสาปฏิบัติงานในส่วนภูมิภาคจำนวน 71,067 ศูนย์ (70,837 หมู่บ้าน)   
จำนวนประชากร 48,997,450 คน (10,573,462 ครอบครัว) ส่วนในเขตกรุงเทพมหานครจำนวน 43 ศูนย์  
นั้น ไม่มีบัณฑิตอาสาปฏิบัติงาน ทั้งนี้ จากการดำเนินงานตามโครงการ ฯ  สามารถกระตุ้นให้ศูนย์สงเคราะห์ 
ราษฎร ฯ มีความเข้มแข็งมากตามเป้าหมายของโครงการ  สำหรับปัญหาอุปสรรคในการเสริมสร้างความเข้ม    
แข็งศูนย์สงเคราะห์ราษฎร ฯ ได้แก่ จำนวนของผู้ประสบปัญหาความเดือดร้อนซึ่งมีมากกว่าจำนวนเงินที่จะให้   
ความช่วยเหลือ   คณะกรรมการชุดเก่าไม่ส่งมอบงานให้คณะกรรมการชุดใหม่   ขาดการประสานงานที่ดีของ 
คณะกรรมการในการขอรับความช่วยเหลือจากหน่วยงานหรือองค์กรภายนอกและการใช้จ่ายเงินของกองทุน 
ศูนย์สงเคราะห์ราษฎร  ฯ  ที่ทดรองจ่ายไปก่อนแล้วเบิกคืนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป  รวมทั้งขาดความ
กระตือรือร้นในการปฏิบัติงาน

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมรายงานผลความคืบหน้าการ   
ดำเนินงานโครงการเสริมศักยภาพการฝึกของศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัด ด้านครุภัณฑ์การฝึก (โครงการ  
เงินกู้เดนมาร์ก) ระหว่างเดือนมกราคม - มีนาคม 2544 ของบริษัท Carl F A/S ซึ่งได้ดำเนินการจัดส่งและติด   
ตั้งครุภัณฑ์ รวม 6 แห่ง คือ ลำพูน ร้อยเอ็ด สุรินทร์ นครพนม สกลนคร และศรีสะเกษ เสร็จเรียบร้อยแล้ว และ
ได้ทำการเบิกเงินกู้งวดสุดท้ายแล้วเมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2544  สำหรับผลการดำเนินโครงการในภาพรวม  
นับตั้งแต่เริ่มดำเนินโครงการเมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2542 แผนการปฏิบัติงานในปีแรกทั้งด้านจัดส่งและติดตั้ง  
สินค้า และการเบิกจ่ายเงินกู้แล้วเสร็จด้วยดี มีปัญหาเล็กน้อยในเรื่องของสินค้าที่ชำรุดเสียหายระหว่างรอการ 
ตรวจรับ ซึ่งส่งผลให้การส่งมอบสินค้าและการเบิกจ่ายเงินกู้ล่าช้ากว่าแผนประมาณ 2 เดือน แต่ทั้งนี้ยังเป็นไป 
ตามระยะเวลาสำรองที่สัญญาจัดซื้อระบุไว้

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 (คกก. 4) 
เกี่ยวกับการขอเพิ่มวงเงินในการดำเนินโครงการพัฒนาโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช ระยะที่ 3 (ปี พ.ศ. 2544   
- ปี พ.ศ. 2546) ของกระทรวงสาธารณสุข   โดยอนุมัติในหลักการให้เพิ่มวงเงินในการดำเนินโครงการดังกล่าว  
จำนวน 145,729,200 บาท จากที่สำนักงบประมาณให้ความเห็นชอบ จำนวน  297,553,700  บาท  รวมเป็น  
เงินทั้งสิ้น  443,282,900  บาท    และให้กระทรวงสาธารณสุขรับไปพิจารณาดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี  
เมื่อวันที่  24  เมษายน  2544   เรื่อง   การจัดทำงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ  พ.ศ. 2545  ต่อไป  
รวมทั้งให้รับข้อสังเกตของ คกก. 4 (เกี่ยวกับการจัดบุคลากรทางการแพทย์ให้เพียงพอและเหมาะสมกับครุภัณฑ์
และเครื่องมือแพทย์ที่มีอยู่ในโรงพยาบาลตามโครงการ) ไปพิจารณาดำเนินการด้วย

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปสถานการณ์เกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินงบประมาณประจำปีงบ 
ประมาณ พ.ศ. 2544  และเห็นชอบในหลักการมาตรการเร่งรัดเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินงบประมาณ ฯ เพิ่มเติม  
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้รับความเห็นของคณะรัฐมนตรี (เกี่ยวกับการเพิ่มเติมแนวทางในมาตรการ
ดังกล่าว  โดยการให้ปลัดกระทรวงหารือกรมต่าง ๆ เพื่อจัดทำแผนเร่งรัดการเบิกจ่ายในส่วนของโครงการปกติ 
มาตรการระยะสั้นให้เร็วขึ้น   และรายงานปัญหาอุปสรรคต่าง  ๆ   แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีประจำสำนักนายก  
รัฐมนตรี  (นายจาตุรนต์  ฉายแสง)  ภายใน  2  สัปดาห์  เพื่อพิจารณาร่วมกัน   โดยให้สำนักงบประมาณร่วม 
พิจารณาด้วย  ส่วนโครงการถ่ายโอนงาน/กิจกรรมสาธารณะให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นมาตรการระยะ 
สั้นซึ่งให้กระทรวงมหาดไทยเร่งประสานงานกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อส่งคืนโครงการให้ส่วนราชการ
เจ้าของงบประมาณดำเนินงานแทน  กรณีที่ท้องถิ่นไม่มีความพร้อมในการดำเนินโครงการ นั้น อาจมีปัญหาใน
ทางปฏิบัติ จึงมอบให้คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรับไปพิจารณาเสนอ  
คณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง     และให้กระทรวงมหาดไทยประสานกับคณะกรรมการการกระจายอำนาจ  ฯ   ใน
การพิจารณาแก้ไขระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการพัสดุขององค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2538 ด้วย 
นอกจากนี้  ให้รัฐมนตรีที่กำกับดูแลส่วนราชการในความรับผิดชอบให้ใช้จ่ายงบประมาณอย่างมีประสิทธิภาพ  
โดยให้ปรับปรุงแก้ไขระบบการปฏิบัติงานการเบิกจ่ายให้มีประสิทธิภาพและรัดกุม  มีความรวดเร็วและโปร่งใส 
รวมถึงให้เลือกสรรบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถเพื่อปฏิบัติงานเกี่ยวกับการเบิกจ่ายเงินประมาณประจำปี)
ไปพิจารณาดำเนินการด้วย

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงมหาดไทย (กรมการพัฒนาชุมชน) รายงานผลการดำเนิน 
งานโครงการแก้ไขปัญหาความยากจน  (กข.คจ.)  ในช่วงระยะเวลาเดือนตุลาคม 2543 - มกราคม 2544 งวด
ที่  1/2544   โดยผลการดำเนินโครงการ  กข.คจ.  ในช่วงระยะเวลาดังกล่าวสามารถตอบสนองความต้องการ
ของประชาชนในการพัฒนารายได้ให้แก่ครัวเรือนอย่างแท้จริง ประชาชนมีความสามารถและมีศักยภาพในการ
พัฒนาตนเอง  ครอบครัว  ชุมชน  และมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น  สามารถพึ่งตนเองได้ในชุมชนท่ามกลางวิกฤตด้าน 
เศรษฐกิจปัจจุบัน  โดยกิจกรรมสนับสนุนและเพิ่มประสิทธิภาพโครงการ  กข.คจ.  นั้น  ได้ดำเนินการปรับปรุง   
แก้ไขร่างระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยการบริหารและการใช้จ่ายเงินโครงการซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนิน 
การ รวมทั้งขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากองค์กรส่วนท้องถิ่น ทบทวนและเน้นแนวปฏิบัติของพัฒนาการ
อำเภอ  "สมุดบันทึกสถานะหมู่บ้าน กข.คจ. ระดับอำเภอ"  เพื่อใช้เป็นเครื่องมือในการบริหารและปฏิบัติอย่าง  
แท้จริงแต่งตั้งพัฒนากร (รายบุคคล) เพื่อรับผิดชอบหมู่บ้าน  กข.คจ.  ให้ทุกหมู่บ้าน   ตลอดจนการสับเปลี่ยน 
ตำแหน่งหน้าที่/พื้นที่รับผิดชอบให้เป็นปัจจุบัน    และให้จังหวัดปรับปรุงและจัดทำฐานข้อมูลโครงการ  กข.คจ.
ระดับหมู่บ้าน ตามแนวทางที่กำหนด

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการโครงการเร่งด่วนเพื่อพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยว และอนุมัติให้  
ดำเนินการต่อไปได้  ตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี  (นายสมศักดิ์  เทพสุทิน)  เสนอ  โดยงบประมาณ  
พิเศษเพิ่มเติมนอกเหนือจากงบปกติ ให้ดำเนินการภายในวงเงิน  500  ล้านบาท  และให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศ  
ไทย (ททท.) จัดทำแผนการใช้จ่ายเงินเพื่อลดค่าใช้จ่าย แล้วตกลงกับสำนักงบประมาณโดยด่วน  ทั้งนี้  งบประมาณ  
รายจ่ายประจำปีงบประมาณ  พ.ศ. 2544  ให้ใช้งบกลาง  รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น  ส่วน  
ในปีงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2545  ให้เสนอขอแปรญัตติ  หากไม่ได้หรือไม่เพียงพอ  ให้ใช้งบ   
กลาง รายการเงินสำรองจ่าย ฯ ต่อไป  โดยให้  ททท.  และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นและข้อสังเกตของคณะ     
รัฐมนตรี  (เกี่ยวกับการเชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมในงานแถลงข่าวโครงการ  ฯ   นอกเหนือจากผู้สื่อข่าวโทรทัศน์ 
และนิตยสารที่ได้รับความเชื่อถือแล้ว ควรเชิญผู้เขียนบทภาพยนตร์และดาราภาพยนตร์ด้วย  การจัดทำป้ายรณรงค์ 
ต่อต้านยาเสพติด  และประชาสัมพันธ์ภายในบริเวณท่าอากาศยาน  กับให้  ททท.  พิจารณาประสานงานกระทรวง
ทบวง   กรม   กรณีการให้ข้อเสนอพิเศษสำหรับหน่วยงานที่จะเข้ามาจัดการประชุมในประเทศไทย และประสานกับ
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เพื่อประชาสัมพันธ์และจูงใจให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวในช่วงฤดูผลไม้  ตลอดจนแหล่ง 
ท่องเที่ยวทางการเกษตรที่สำคัญ    โดยให้ทำการวิจัยหรือคิดวิธีการโฆษณาเพื่อจูงใจกำหนดเป็นมาตรการในการ  
ทำการตลาด    สำหรับการเปิดสำนักงาน ททท. ในต่างประเทศ นั้น  ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ  
เป็นเจ้าของเรื่องไปประชุมหารือร่วมกับส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดเป็นยุทธศาสตร์ในเรื่องนี้  
เพื่อรวมพลังการปฏิบัติงาน และให้เกิดการประหยัด นอกจากนี้ ททท. ควรพิจารณาร่วมกับส่วนราชการและหน่วย 
งานที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวที่เสื่อมโทรม   การแก้ไขการทำลายสิ่งแวดล้อมการพัฒนาแหล่ง  
ท่องเที่ยวใหม่   รวมไปถึงการจัดการกับผู้บุกรุกแหล่งท่องเที่ยว)  ไปพิจารณาดำเนินการด้วย   และให้หน่วยงานที่  
เกี่ยวข้องสนับสนุนการดำเนินโครงการ  ฯ   โดยปฏิบัติตามสรุปประเด็นสั่งการการประชุมแนวทางการพัฒนาและ
ส่งเสริมการท่องเที่ยวแห่งชาติ วันที่ 20 - 21 เมษายน 2544 ณ จังหวัดเชียงใหม่

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 (คกก. 4) 
เกี่ยวกับโครงการเปลี่ยนเส้นทางชีวิต : เกษียณก่อนกำหนด  รุ่นที่  3  (ปีงบประมาณ  พ.ศ. 2545)  ในส่วนของ  
กระทรวงกลาโหม โดยเห็นชอบโครงการดังกล่าว ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ  และให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรับ  
ไปดำเนินการเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของโครงการ  สำหรับข้าราชการทหารที่จะเข้าร่วมโครงการเปลี่ยนเส้นทาง 
ชีวิต ฯ รุ่นที่ 3  ปีงบประมาณ พ.ศ. 2545  ให้ถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่  3  สิงหาคม  2542  ที่ให้  
แยกดำเนินการเป็น 2 โครงการ  คือ  ให้ได้รับเฉพาะการขอพระราชทานชั้นยศหรือเลื่อนยศให้สูงขึ้นหนึ่งชั้นยศ  
เป็นกรณีพิเศษเท่านั้น  กับให้ได้รับเงินขวัญถุงและเงินช่วยเหลือรายเดือน ผู้รับเบี้ยหวัด บำนาญ  ตลอดจนสิทธิ  
ประโยชน์อื่นตามโครงการ  ตามความเห็นของสำนักงาน ก.พ.  โดยให้สำนักงาน ก.พ. รับข้อสังเกตของ  คกก. 4
(เกี่ยวกับการดำเนินโครงการเปลี่ยนเส้นทางชีวิต ฯ  รุ่นที่ 3  ปีงบประมาณ พ.ศ. 2545  ซึ่งเป็นรุ่นสุดท้าย  นั้น  
เห็นควรให้มีการติดตามประเมินผลโครงการ ฯ   เพื่อนำไปพิจารณากำหนดวัตถุประสงค์  เป้าหมาย  คุณสมบัติ
ของผู้เข้าร่วมโครงการ   รวมทั้งหลักเกณฑ์และวิธีการของโครงการ  หากจะมีการเสนอโครงการลักษณะนี้อีกใน
โอกาสต่อไป เนื่องจากการดำเนินงานตามโครงการดังกล่าวทำให้ทางราชการสูญเสียบุคลากรที่มีความรู้ ความ 
สามารถ และประสบการณ์ หรือมีศักยภาพที่จะอำนวยประโยชน์ต่อทางราชการ) ไปพิจารณาด้วย

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 4 (คกก. 4) 
เกี่ยวกับโครงการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสำหรับประชาชนชาวไทยในพื้นที่  6  จังหวัด  ได้แก่ จังหวัด  
ปทุมธานี สมุทรสาคร นครสวรรค์ พะเยา ยโสธร  และยะลา  ของกระทรวงสาธารณสุข  โดยเห็นชอบให้ดำเนิน   
โครงการดังกล่าวได้ ในวงเงิน 399,757,000 บาท  โดยให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ  
พ.ศ. 2544  ของสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข  ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้ปรับลดแล้ว  จำนวน  307,403,000  
บาท    ส่วนอีกจำนวน  92,354,000  บาท  สำนักงบประมาณจะนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อปรับลดเพิ่มเติมต่อ  
ไป  ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ   ทั้งนี้  ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นเพิ่มเติมและข้อสังเกตของ 
กระทรวงการคลัง  สำนักงบประมาณ  สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  และข้อ 
สังเกตของ   คกก.  4  (เกี่ยวกับการประมวลหาข้อสรุปด้านภาระต่องบประมาณสำหรับการดำเนินโครงการใน 
ระยะต่อไป กับแก้ไขระเบียบการใช้เงินจากกองทุนหมุนเวียนบัตรประกันสุขภาพเพื่อใช้ในการขยายการดำเนิน
การในโอกาสต่อไป  นอกจากนี้  ควรมีระบบการติดตามประเมินผลและรายงานเพื่อให้งานในลักษณะนำร่องนี้
สามารถนำไปดำเนินการอย่างจริงจังได้  รวมทั้งควรเร่งรัดให้มีการจัดทำฐานข้อมูลและระบบสารสนเทศที่เป็น  
ประโยชน์ ให้ความสำคัญกับระบบการกำกับ ตรวจสอบ ควบคุมคุณภาพมาตรฐานของการให้บริการของสถาน 
พยาบาลในระดับต่าง ๆ ทุกแห่ง  ตลอดจนประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนในเขตจังหวัดต่าง ๆ ซึ่งมีพื้นที่ติดต่อใกล้ 
เคียงและยังไม่ได้รับการบริการได้ทราบถึงหลักเกณฑ์ในการคัดเลือกจังหวัดเพื่อเข้าร่วมโครงการและการขยาย
การดำเนินงานไปยังจังหวัดใด เมื่อใด) ไปดำเนินการต่อไปด้วย

                คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบเรื่อง การพักชำระหนี้และลดภาระหนี้ให้แก่เกษตรกรรายย่อยตามนโยบาย 
ของรัฐบาลผ่านระบบธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) (เพิ่มเติม) และเห็นชอบในหลักการ
และแนวทางในการดำเนินโครงการดังกล่าว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยรูปแบบและระยะเวลาดำเนินการให้  
ดำเนินการในลักษณะเช่นเดียวกับโครงการพักชำระหนี้และลดภาระหนี้  ฯ  ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบแล้วเมื่อ  
วันที่ 13 และ 20 มีนาคม 2544  ยกเว้นกลุ่มเป้าหมายเกษตรกรรายย่อยลูกค้า ธ.ก.ส. ที่มีหนี้เงินกู้คงเหลือไม่เกิน 
100,000 บาท  ณ  วันที่ 31 มีนาคม 2544  โดยให้รวมถึงเกษตรกรรายที่มีวงเงินกู้เกิน  100,000  บาท  และไม่
ประสงค์จะใช้วงเงินกู้เกิน  100,000 บาท ตลอดระยะเวลา 3 ปี ของการดำเนินโครงการ สำหรับแหล่งเงินทุน ให้  
ใช้เงินงบประมาณที่ได้กำหนดไว้เดิมไปก่อน  หากไม่เพียงพอ ให้พิจารณาจัดสรรเงินงบประมาณเพิ่มเติมแก่ ธ.ก.ส.  
ต่อไป

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม  โดยกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน   
รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานโครงการเสริมศักยภาพการฝึกของศูนย์พัฒนาฝีมือแรงงาน ด้านครุภัณฑ์   
(โครงการเงินกู้เดนมาร์ก)  ระหว่างเดือนตุลาคม - ธันวาคม 2543  ในส่วนของการเบิกจ่ายเงินกู้  บริษัท Carll
F A/S  ซึ่งเป็นผู้ดำเนินโครงการได้ทำการเบิกเงินกู้เพิ่มเติมจากการรายงานครั้งที่แล้วอีก 4 งวด  รวมเงินกู้ที่ได้   
รับการเบิกแล้วทั้งสิ้น 77,815,312.66 โครนเดนมาร์ก ส่วนการติดตั้งและตรวจรับสินค้า ณ สิ้นเดือนธันวาคม 
2543  บริษัท ฯ  ได้ดำเนินการติดตั้งครุภัณฑ์และทำการตรวจรับเพิ่มจากครั้งที่แล้วอีก  6  แห่ง   ประกอบด้วย  
ร้อยเอ็ด  สุรินทร์  ศรีสะเกษ  สมุทรสงคราม  พิจิตร  และลำพูน   โดยในการดำเนินการตรวจรับ ฯ  ได้มีผู้แทน
จากบริษัท Bureau  Veritas  ซึ่ง  Danida  กระทรวงการต่างประเทศเดนมาร์กรับรองอย่างเป็นทางการให้เป็น
ผู้ตรวจสอบ  การดำเนินการตรวจรับ ฯ ทุกครั้ง  และจากการตรวจรับครุภัณฑ์ใน ศพจ. 6 แห่งสุดท้าย  ปรากฎ
ว่ามีครุภัณฑ์จำนวนหนึ่งไม่ผ่านการตรวจรับ  ทั้งนี้   จากผลการดำเนินโครงการ  บริษัท ฯ  สามารถดำเนินกิจ 
กรรมหลักของ  โครงการ ได้แก่ การเตรียมสถานที่ก่อนติดตัง การจัดซื้อ  การจัดส่ง  และการติดตั้งได้ครบถ้วน 
ใน ศพจ. ทั้ง 12  แห่ง  ตามแผน สำหรับแผนการเบิกจ่ายเงินกู้  ณ  สิ้นเดือนธันวาคม  2543  ซึ่งครบกำหนด 
การดำเนินโครงการ บริษัท ฯ ได้ทำการเบิกจ่ายเงินกู้แล้วร้อยละ 99.85 และการเบิกจ่ายเงินกู้ในยอดสุดท้าย 
อีกร้อยละ 0.15 แล้ว เสร็จเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2544

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขรายงานผลการดำเนินงาน
โครงการสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าสำหรับประชาชนชาวไทย โดยเริ่มดำเนินการจัดทำเป็นโครงการ  
นำร่องในพื้นที่ 6 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดปทุมธานี สมุทรสาคร นครสวรรค์ พะเยา ยโสธร และยะลา  ตั้งแต่วัน  
ที่ 1 เมษายน 2544  มีผู้ที่มีสิทธิเข้ารับบริการตามโครงการในพื้นที่ให้บริการจำนวน  1.9  ล้านคน  และได้
แจกบัตรไปแล้วร้อยละ 68 ของจำนวนผู้มีสิทธิ ฯ แต่ผู้มาใช้สิทธิไม่มากนัก  โดยมีคนไข้ซึ่งป่วยเป็นโรคต่าง ๆ 
มารักษา เช่น โรคเบาหวาน โรคมะเร็ง โรคเอดส์ รวมทั้งทำคลอด ประมาณ 6 - 10 รายทุกวัน ซึ่งประชาชน 
ส่วนใหญ่พอใจในบริการ  ทั้งนี้  ปัญหาในการดำเนินโครงการเนื่องจากประชาชนในพื้นที่จังหวัดใกล้เคียงได้ 
มีการโอนย้ายทะเบียนบ้านเข้ามาในพื้นที่ให้บริการเพื่อขอใช้สิทธิเข้ารับบริการ อีกทั้งมีการเรียกร้องให้เปิด 
บริการอย่างทั่วถึงในจังหวัดอื่น ๆ ด้วย

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักนายกรัฐมนตรี โดยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยรายงาน 
ผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาของสมัชชาคนจน ครั้งที่ 6 ระหว่างวันที่ 1-15 มกราคม 2544 เกี่ยวกับกรณีปัญหา  
เขื่อนปากมูล  จังหวัดอุบลราชธานี  ซึ่งคณะทำงานเพื่อกลั่นกรองข้อเสนอการศึกษาวิจัยด้านทรัพยากรประมงและ    
ฟื้นฟูระบบนิเวศวิทยาของแม่น้ำอยู่ระหว่างพิจารณาให้ความเห็นชอบข้อกำหนดการศึกษา  (Terms of Reference   
: TOR)  โครงการศึกษาวิจัยด้านทรัพยากรประมงและฟื้นฟูระบบนิเวศวิทยาของแม่น้ำมูลเพื่อเสนอคณะกรรมการ  
กำกับการดำเนินโครงการศึกษาวิจัยดังกล่าวพิจารณาต่อไป   ส่วนกรณีปัญหาเขื่อนสิรินธร   จังหวัดอุบลราชธานี 
คณะทำงานสำรวจพื้นที่บ้านโนนจันทร์เก่ายังอยู่ระหว่างการดำเนินการสืบหาเจ้าของที่ดินเดิม

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยและรัฐบาลแห่ง
สาธารณรัฐตุรกีว่าด้วยความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อม  โดยร่างความตกลงดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริม
ความร่วมมือด้านการพิทักษ์สิ่งแวดล้อมและการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ   การแลกเปลี่ยนข้อมูล   ข่าว  
สาร กิจกรรม การวิจัยพัฒนา การจัดประชุม การดำเนินโครงการฝึกอบรมและการแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญ  
รวมทั้งอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย
เป็นผู้ลงนามในนามรัฐบาลไทย ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมเสนอ

               คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการพักชำระหนี้และลดภาระหนี้ให้แก่เกษตรกรรายย่อยตามนโยบาย 
ของรัฐบาลผ่านระบบธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ที่ได้ปรับปรุงแล้ว ตามที่กระทรวง 
การคลังเสนอ โดยให้สำนักงบประมาณพิจารณาจัดสรรเงินงบประมาณเพื่อรับภาระในการดำเนินโครงการ รวม  
ค่าใช้จ่ายในส่วนที่ ธ.ก.ส. ต้องจ่ายเพิ่มจากการดำเนินงานตามปกติเท่าที่จ่ายจริงในวงเงินงบประมาณไม่เกินปีละ 
6,000 ล้านบาท  โดยให้กระทรวงการคลังเจรจาเพื่อให้ ธ.ก.ส. คิดอัตราดอกเบี้ยผู้เข้าร่วมโครงการทุกชั้นเท่ากับ 
ลูกค้าชั้น AAA และรัฐบาลจ่ายชดเชยดอกเบี้ย รวมทั้งค่าดำเนินงานของ ธ.ก.ส. ควรต้องลดลงจากเดิมด้วย และให้
กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ธ.ก.ส.  ประชาสัมพันธ์เชิงรุกเพื่อให้ประชาชนเข้าใจอย่างถูกต้อง 
นอกจากนี้ ให้จัดทำแผ่นพับแจกจ่ายเกษตรกรด้วย ทั้งนี้ ให้กรมประชาสัมพันธ์ได้ให้การสนับสนุนและร่วมมือใน
การประชาสัมพันธ์