คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเสนอผลการประชุมระดับ
รัฐมนตรีอาเซียน-สหภาพยุโรป ครั้งที่ 14 ณ กรุงบลัสเซลล์ ประเทศเบลเยี่ยม ระหว่างวันที่ 27-28 มกราคม
2546  สรุปได้ดังนี้  (1)  บทบาทของ  ARF  (ASEAN  Regional  Forum)  ต่อกรณีเกาหลีเหนือได้มีการหารือ
ระหว่างนายกรัฐมนตรีกับนายโก๊ะ จ๊ก ตง นายกรัฐมนตรีสิงคโปร์ เกี่ยวกับการที่จะให้ ARF เข้ามามีบทบาทใน
การช่วยคลี่คลายสถานการณ์ความตึงเครียดในเกาหลีเหนือ   มีการตกลงที่จะออกแถลงสถานการณ์ร่วมกรณี
เกาหลืเหนือ รวมทั้งสนับสนุนให้ประเทศกัมพูชา จัดตั้งกลุ่มประเทศที่เรียกว่า Friends of the Chair ขึ้นมาเพื่อ
ร่วมเสริมบทบาทของประธานในการดำเนินงาน   (2)   กลยุทธ์ทางเศรษฐกิจของอาเซียนในการจัดตั้ง  AEC
(ASEAN  Economic  Community) ซึ่งความร่วมมือทางเศรษฐกิจของอาเซียนที่มุ่งไปสู่การจัดตั้ง AEC (ASEAN
Economic Community) รวมทั้งการจัดทำเขตการค้าเสรี  (Free  Trade  Area)  และความร่วมมือที่ใกล้ชิดทาง
เศรษฐกิจ  (Closer Ecomomic Partnership)  กับประเทศอื่น ๆ  ซึ่งสหภาพยุโรปให้ความสนใจและสนับสนุน
การดำเนินการในทิศทาง  (Road Map)  ดังกล่าวของอาเซียนและพร้อมจะทำงานร่วมกับอาเซียนในเรื่องดัง
กล่าวต่อไป ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ ฯ อาจใช้แนวทางดังกล่าวติดต่อเจรจา
กับสหภาพยุโรปในเรื่องที่เกี่ยวข้องต่อไปได้    และ  (3)  คำเตือนสำหรับผู้เดินทาง  (Travel  Advisory)  ของ
ประเทศในสหภาพยุโรป    โดยให้สหภาพยุโรปร่วมมือและแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารกับอาเซียนอย่างใกล้ชิด
ก่อนการออกคำเตือนไปยังผู้เดินทางของประเทศในสหภาพยุโรป

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอคำตอบกระทู้ถามที่ 825 ร. เรื่อง การจ่ายค่า
เสียหายเบื้องต้นให้แก่ผู้ประสบภัยจากรถล่าช้า ของนายอำนวย คลังผา  สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี
และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป โดยสาระสำคัญของคำตอบสรุปได้ว่า  (1)  การจ่ายค่าเสียหายเบื้อง
ต้นให้แก่ผู้ประสบภัยจากรถ กรณีที่ผู้ประสบภัยเตรียมเอกสารหลักฐานถูกต้องครบถ้วนตามที่กฎหมายกำหนด
สำนักงานกองทุนทดแทนผู้ประสบภัยจากรถสามารถจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นให้แก่ผู้ประสบภัยให้แล้วเสร็จได้
ภายใน 1 วัน และอย่างช้าไม่เกิน 7 วัน นับแต่วันร้องขอ  (2) กระทรวงพาณิชย์ มีนโยบายให้สำนักงานกองทุน
ทดแทนผู้ประสบภัยจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นให้แล้วเสร็จด้วยความรวดเร็ว และได้ดำเนินการเผยแพร่ความรู้และ
ประชาสัมพันธ์ตามสื่อต่าง ๆ อย่างต่อเนื่องตลอดมา รวมทั้งจัดทำคู่มือแนะนำผู้ประสบภัยและหน่วยงานที่เกี่ยว
ข้อง ให้ทราบถึงหน้าที่และขั้นตอนวิธีปฏิบัติในการเตรียมเอกสารหลักฐานของการขอรับค่าเสียหายเบื้องต้น 
และได้ดำเนินการแก้ไขกฎระเบียบให้มีความคล่องตัวขึ้น

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานผลการหารือระหว่าง ฯพณฯ นายกรัฐมนตรี
กับรัฐมนตรีการค้าและอุตสาหกรรมสหราชอาณาจักร (นาง Patricia Hewitt) ในโอกาสที่เดินทางมาเยือนประเทศ
ไทย เพื่อหารือเรื่องนโยบายเศรษฐกิจของรัฐบาล การส่งเสริมธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม  (SMEs) การเจรจา
การค้าภายใต้ WTO  การดำเนินงานของอาเซียน การห้ามนำเข้าเนื้อวัวและผลิตภัณฑ์  การเก็บภาษีสรรพสามิตซ้ำ
ซ้อน (Double Taxation) การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา  ปัญหาสถานการณ์ในตะวันออกกลาง  โครงการตอบ
แทนกลับคืนทางเศรษฐกิจ  รวมทั้งได้หารือในประเด็นด้านการค้าระหว่างไทยกับสหภาพยุโรป  (EU)  นอกจากนี้
รัฐมนตรีการค้า ฯ  ได้หารือกับรองนายกรัฐมนตรี  (นายสุวิทย์  คุณกิตติ)  รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  และ
รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (ร.อ. สุชาติ เชาว์วิศิษฐ์) โดยในส่วนของการหารือระหว่างรัฐมนตรีการค้า ฯ
กับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์  ทั้งสองฝ่ายได้หารือเรื่องการเจรจารอบใหม่ของ WTO โดยรัฐมนตรีการค้า ฯ
ได้กล่าวว่า สหราชอาณาจักร (UK)  ให้ความสำคัญกับการเจรจารอบใหม่ของ WTO และต้องการให้การเจรจาสำเร็จ
ตามกำหนดเวลาโดย UK ให้ความสนใจเรื่อง การค้าสินค้าเกษตร  การค้าบริการ  รวมไปถึงการลงทุนและการแข่งขัน 
พร้อมทั้งให้ความสำคัญ และสนับสนุนประเทศกำลังพัฒนา และได้หารือเรื่องการเก็บภาษีสรรพสามิตซ้ำซ้อนสำหรับ
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ของไทย การคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา การเปิดเสรีสาขาพลังงาน การห้ามนำเข้าเนื้อวัวและ
ผลิตภัณฑ์    โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้ยกประเด็นปัญหาอุปสรรคของไทยเพื่อเร่งรัดผลักดันให้  UK
ช่วยเร่งรัดให้  EU  ยกเลิกมาตรการตรวจเข้มการนำเข้ากุ้งและไก่จากไทย   และยกเลิกการอุดหนุนการส่งออกสิน
ค้าเกษตร

          คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอคำตอบกระทู้ถามที่ 008  ร. เรื่อง 
ปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์เกี่ยวกับการผลิตและจำหน่ายเทปและซีดี  ของนายสนิท  จันทรวงศ์   สมาชิกวุฒิสภา
จังหวัดอุบลราชธานี และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป โดยสาระสำคัญของคำตอบสรุปได้ว่า (1) กรณี
การนำเข้าเครื่องจักรเป็นเครื่องฉีดพลาสติก แล้วทำการดัดแปลงเป็นเครื่องผลิตซีดี  รัฐบาลโดยกรมศุลกากรได้
ดำเนินการตรวจสอบ ยึด และจับกุมเครื่องจักรผลิตแผ่นซีดีที่ผิดกฎหมายอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด จำนวน 13 
ราย และเครื่องจักรดังกล่าวเจ้าหน้าที่ได้ยึดไว้ในฐานะเป็น "สิ่งอันพึงต้องริบ" ตามกฎหมายศุลกากร เมื่อยึดครบ
30 วันนับจากวันที่ยึด ของดังกล่าวจะตกเป็นของแผ่นดินโดยผลของกฎหมาย  ซึ่งเครื่องจักรดังกล่าวจะตกอยู่ใน
ฐานะเป็น "ของกลาง" เมื่อผู้ต้องหาขอทำความตกลงระงับคดีตามกฎหมายศุลกากร และขอซื้อคืน หรือมีการประมูล
ขายทอดตลาด  ของดังกล่าวพ้นสภาพจาก  "ของนำเข้า"  จึงไม่ต้องขออนุญาตนำเข้า  ทั้งนี้  เพื่อมิให้โรงงานนำ
เครื่องจักรดังกล่าวกลับมาใช้อีก กรมศุลกากรได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาทบทวนและแก้ไขประกาศกระทรวง
พาณิชย์ ว่าด้วยการนำเข้ามาในราชอาณาจักร (ฉบับที่ 96) พ.ศ. 2536 เพื่อพิจารณาทบทวนและแก้ไขประกาศ
กระทรวงพาณิชย์ดังกล่าว รวมทั้งระเบียบกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการอนุญาตให้นำเครื่องจักรใช้เพื่อประโยชน์
ในการละเมิดลิขสิทธิ์เข้ามาในราชอาณาจักรให้มีความชัดเจน และครอบคลุมถึงเครื่องผลิตแผ่นซีดีทุกประเภท  (2) 
สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้ออกมาตรการเร่งรัดในการสืบสวน จับกุม ปราบปรามผู้กระทำผิด พร้อมกับลงโทษ
เจ้าพนักงานตำรวจท้องที่ที่ปล่อยปละละเลย  และได้ปรับปรุงศูนย์ปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาให้
มีประสิทธิภาพในการปฏิบัติงาน โดยจัดตั้งชุดปฏิบัติการปราบปรามขึ้น ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค สำหรับ
สถิติคดีที่อยู่ระหว่างการดำเนินคดี และส่งฟ้องไปแล้ว ในปี พ.ศ. 2543 มีคดีเกิด 1,331 คดี สอบสวนเสร็จสิ้นส่ง
สำนวนให้อัยการไปแล้ว จำนวน 979 คดี และอยู่ระหว่างสอบสวน 352 คดี ปี พ.ศ. 2544 มีคดีเกิด 1,361 คดี 
สอบสวนเสร็จสิ้น ฯ จำนวน 369 คดี อยู่ระหว่างสอบสวน 992 คดี  และ (3) รัฐบาลได้จัดตั้งคณะกรรมการปราบ
ปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหาและให้การป้องกันและปราบปรามการกระทำผิด
ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีการตั้งคณะอนุกรรมการขึ้น 3 ฝ่าย เพื่อให้การดำเนินการอย่างมีประสิทธิภาพและได้
ผลอย่างเป็นรูปธรรม

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอขยายระยะเวลาการเบิกเงินเพิ่มพิเศษสำหรับข้าราช
การซึ่งมีตำแหน่งหน้าที่ประจำอยู่ในต่างประเทศ  (พ.ข.ต.)  ของนางอภิรดี  ตันตราภรณ์   อธิบดีกรมเจรจาการค้า
ระหว่างประเทศ ในส่วนที่เกินอำนาจของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ตั้งแต่วันที่ 31 พฤษภาคม-29 มิถุนายน
2545 เป็นระยะเวลา 30 วัน เป็นกรณีพิเศษ  และในส่วนของรายละเอียดการเบิกจ่ายเงินงบประมาณให้เป็นไปตาม
ความเห็นของสำนักงบประมาณ   ที่ให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี  พ.ศ. 2546    ของสำนักงานปลัด
กระทรวงพาณิชย์ แผนงานส่งเสริมพาณิชย์ระหว่างประเทศ งานดำเนินภารกิจในต่างประเทศ งบบุคลากร รายการ
เงินเดือนและค่าจ้างประจำ

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานผลการประชุมทวิภาคีระหว่างรัฐมนตรี
ว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทยและรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์ของสหภาพพม่า  เมื่อวันที่ 16 - 17 มกราคม
2546  โดยผลการประชุมที่สำคัญ ได้แก่ (1) การค้าแบบหักบัญชี (Account Trade) ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามใน
บันทึกหารือร่วมกัน (Agreed Minutes) ว่าด้วยการจัดทำ  Account Trade  โดยไทยได้เสนอให้เร่งรัดให้มีการ
ซื้อขายโดยระบบดังกล่าวโดยเร็ว นำโดยการค้าแบบรัฐต่อรัฐ ซึ่งพม่าเห็นชอบ  และสนใจที่จะซื้อวัสดุจากไทย
(2)  การขยายปริมาณและมูลค่าการค้าระหว่างสองประเทศ   พม่าขอให้ไทยซื้อสินค้าจากพม่ามากขึ้น  โดย
เฉพาะสินค้าถั่วเหลือง ซึ่งไทยยินดีซื้อถั่วเหลืองจากพม่าในปริมาณ 1 แสนตัน แต่ขอให้พม่าปรับปรุงคุณภาพ
ผลผลิต (3) ความร่วมมือทางการค้าและการลงทุน พม่าจะจัดงานแสดงสินค้าประมงและปศุสัตว์  (Myanmar
Fishery & Livestock Fair)  และจะเชิญประเทศคู่ค้าสำคัญในอาเซียนและเอเชีย 6 ประเทศ รวมทั้งไทยเข้าร่วม
งาน   ซึ่งไทยได้ตอบรับที่จะนำภาคเอกชนเข้าร่วมงานด้วย  และได้เสนอว่า  นอกจากการจัดงานดังกล่าวแล้ว
พม่าควรจัดการสัมมนาเกี่ยวกับกฎเกณฑ์ทางการค้า  ลู่ทางและโอกาสทางการค้าและการลงทุนของพม่าใน
ลักษณะ  Road Show  นอกประเทศด้วย  โดยไทยยินดีให้ความร่วมมือในการจัดงานขึ้นในประเทศไทย  (4)
ไทยแจ้งว่า  จะเพิ่มคณะผู้แทนทางการค้า (Trade Mission) ไปเยือนสหภาพพม่ามากขึ้น  และขอให้พม่าแจ้ง
รายการสินค้าที่เห็นว่ามีศักยภาพ เพื่อจะได้จัดคณะผู้แทนจากภาคเอกชนที่สนใจจริง ๆ เดินทางไปพม่าเพื่อ
ให้กิจกรรมดังกล่าวประสบผลสำเร็จอย่างเต็มที่ และ (5) ไทยได้ขยายโครงการสนับสนุนประเทศสมาชิกใหม่
อาเซียน  รวมทั้งพม่า ในการเข้าร่วมงานแสดงสินค้าระหว่างประเทศในประเทศไทยออกไปอีก 3 ปี ซึ่งโครง
การจะสิ้นสุดในเดือนกันยายน 2546 เพื่อเป็นการเพิ่มประสบการณ์ในการเข้าร่วมงานระดับนานาชาติแก่
พม่าต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์  คุณกิตติ) ประธานกรรมการนโยบาย
และมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรเสนอผลการตรวจสอบการใช้เงินกองทุนรวมเพื่อช่วยเหลือเกษตรกร (คชก.) และ 
เห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอเพิ่มเติมให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ คุณกิตติ) รับไปดำเนินการจัดจ้างผู้
ตรวจสอบอิสระที่มีความรู้และประสบการณ์  รวมทั้งเป็นมืออาชีพเพื่อทำหน้าที่เร่งรัดตรวจสอบ ติดตาม  และสรุป
ผลการดำเนินโครงการของหน่วยงานต่าง ๆ ที่ยืมเงินจาก คชก.  ไปเป็นทุนหมุนเวียนดำเนินงานและยังไม่ได้ใช้คืน
แก่  คชก.  ทั้งหมดให้แล้วเสร็จโดยเร็ว  โดยในชั้นต้นนี้ให้เร่งรัด ตรวจสอบข้อมูลทางด้านการเงินของโครงการก่อน
(Financial Audit) และในระยะต่อไป ให้ดำเนินการตรวจสอบและประเมินผลในด้านการปฏิบัติงาน (Performance
 Audit) เพื่อจัดทำข้อเสนอแนะในการปรับปรุงประสิทธิภาพการดำเนินโครงการต่อไป  ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลัง
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ ให้ความร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินการดังกล่าวในส่วนที่
เกี่ยวข้องด้วย และให้เร่งรัดดำเนินการติดตั้งระบบคอมพิวเตอร์ on line เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลการใช้จ่ายเงิน และการ
ดำเนินงานโครงการต่าง ๆ ขององค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อตก.) องค์การคลังสินค้า (อคส.) และธนาคารเพื่อ
การเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธกส.) ที่ใช้เงินทุนหมุนเวียนของ  คชก.  เพื่อให้ทราบความเคลื่อนไหวและผล
การดำเนินงานได้อย่างรวดเร็ว สามารถใช้เป็นข้อมูลประกอบการอ้างอิง และตรวจสอบได้   และให้กระทรวงการ
คลังรับไปประสานและเจรจาต่อรองกับ ธกส.  เพื่อขอลดอัตราดอกเบี้ยที่  ธกส.  คิดจากโครงการต่าง ๆ  ที่ได้รับ
สินเชื่อจาก ธกส. และยังไม่สามารถปิดโครงการได้ในปัจจุบันเพื่อให้ได้รับอัตราดอกเบี้ยที่เหมาะสมและเป็นธรรม
มากยิ่งขึ้น เพื่อลดค่าใช้จ่ายของโครงการและประหยัดเงิน คชก. ต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอเรื่อง การปรับเปลี่ยนองค์ประกอบของคณะ
กรรมการแก้ไขปัญหาธุรกิจค้าส่งค้าปลีกไทย ในส่วนของประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ กรรมการ
รวมทั้งกรรมการและเลขานุการ  โดยให้รองนายกรัฐมนตรี (นายพรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช) เป็นประธานกรรม
การ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นรองประธานกรรมการ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นาย
วัฒนา เมืองสุข) เป็นกรรมการ และอธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เป็นกรรมการและเลขานุการ โดยมีอำนาจ
หน้าที่คงเดิม  และคณะรัฐมนตรีเห็นว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2545  ให้กระทรวง
การคลังประสานงานกับธนาคารออมสิน และบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมขนาดย่อม  (บอย.)  เพื่อสนับสนุน
ร้านค้าปลีกที่เข้าร่วมโครงการสร้างความเข้มแข็งให้ผู้ค้าปลีกรายย่อย และได้ดำเนินการมาระยะเวลาหนึ่งแล้ว
นั้น  ปรากฏว่ายังไม่เกิดผลในทางปฏิบัติเท่าที่ควร จึงมอบให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
(นายเนวิน ชิดชอบ)  รับไปติดตามและประสานงานกับผู้เกี่ยวข้องเพื่อแก้ไขปัญหาข้อขัดข้องต่าง ๆ ต่อไปด้วย

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์  เรื่อง 
การนำสินค้าข้าวโพดที่ใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์และกากถั่วเหลืองเข้ามาในราชอาณาจักร  ภายใต้เขตการค้า
เสรีอาเซียน (AFTA) พ.ศ. ....  โดยร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ ฯ  มีสาระสำคัญดังนี้ (1) ให้สินค้าข้าวโพดที่
ใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์ และกากถั่วเหลืองที่มีถิ่นกำเนิด และส่งมาจากประเทศสมาชิกภายใต้เขตการค้าเสรี
อาเซียน (AFTA) ตามความตกลงว่าด้วยการใช้อัตราภาษีศุลกากรพิเศษที่เท่ากัน เป็นสินค้าที่ต้องมีหนังสือรับ
รองแหล่งกำเนิดสินค้าแบบดี (Form D) ที่ออกโดยประเทศสมาชิกที่ส่งออก เพื่อแสดงต่อกรมศุลกากรประกอบ
การทำพิธีการนำเข้ามาในราชอาณาจักร  และ  (2)  ภายใต้บังคับของประกาศกระทรวงพาณิชย์ ว่าด้วยการ
นำสินค้าเข้ามาในราชอาณาจักร (ฉบับที่ 74) พ.ศ. 2533  และประกาศกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการกำหนด
อัตราค่าธรรมเนียมพิเศษในการนำเข้าข้าวโพด  ปลาป่น  และกากถั่วเหลือง  (ฉบับที่ 19)  พ.ศ. 2540   ให้
สินค้าข้าวโพดที่ใช้เป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์  และกากถั่วเหลือง   เป็นสินค้าที่ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมพิเศษใน
การนำเข้า และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วให้ดำเนินการต่อไปได้

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอรายงานผลการจัดทำบันทึก
ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือปฏิบัติงานเกี่ยวกับการป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของกระทรวง
พาณิชย์ สรุปได้ว่า (1) กระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำร่างบันทึกความตกลงว่าด้วยความร่วมมือปฏิบัติงานเกี่ยวกับ
การป้องปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ระหว่าง 13 หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง  และได้ลงนามเมื่อวัน
ศุกร์ที่ 20 ธันวาคม 2545 โดยร่างดังกล่าวจัดทำเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานความร่วมมือในการป้อง
ปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาอย่างจริงจังและต่อเนื่อง  และร่วมกันพิจารณากำหนดมาตรการต่าง  ๆ 
เพื่อช่วยเสริมสร้างกลไกการป้องปรามให้มีความสมบูรณ์ เป็นระบบ  และมีประสิทธิภาพ  และ  (2)  ได้จัดทำ
แผนปฏิบัติการเพื่อให้มีแนวทางการปฏิบัติงานตามบันทึกความตกลง ฯ เช่น การควบคุมการนำเข้าเครื่องจักร
ผลิตซีดีและชิ้นส่วน   การควบคุมการนำเข้าและส่งออกสินค้าละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา  การควบคุมจำนวน
เครื่องจักรผลิตซีดีและโรงงานผลิตสินค้าที่น่าสงสัยว่าจะละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา การควบคุมวัตถุดิบ  และ
การควบคุมจำนวนสินค้าที่ผลิตได้และการจำหน่าย   ทั้งนี้   มอบให้รองนายกรัฐมนตรี  (พลเอก ชวลิต  ยงใจ
ยุทธ)  รับไปประสานและสั่งการให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ  กวดขัน   ตรวจสอบ   และจับกุมผู้กระทำผิดใน
เรื่องดังกล่าวอย่างเต็มที่ ต่อเนื่อง ให้ได้ผลเป็นรูปธรรมต่อไป

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและให้ดำเนินการต่อไปได้ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และที่กระทรวงการ
ต่างประเทศเสนอเพิ่มเติม เกี่ยวกับกรอบความตกลงว่าด้วยการเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจไทย - บาห์เรน  โดย
กรอบความตกลงดังกล่าวมีสาระสำคัญครอบคลุมเรื่องการเปิดเสรีการค้าสินค้า  การค้าบริการ  และการลงทุน
รวมทั้งการขยายความร่วมมือทางเศรษฐกิจสาขาต่าง ๆ เช่น สาขาพลังงาน การเงินและธนาคาร การผลิต  การ
ค้า  การประกันภัย   การประมง   และการยอมรับร่วมกันในมาตรฐานสินค้าระหว่างกัน  เป็นต้น   และมอบให้
กระทรวงพาณิชย์เจรจารายละเอียดการลดภาษีสินค้า 642 รายการ ซึ่งมีสินค้าที่สำคัญ เช่น  ข้าว  อาหารปรุง
แต่ง อาหารสำเร็จรูป สับปะรดกระป๋อง น้ำผลไม้ และพืชผักต่าง ๆ เครื่องปรับอากาศ รถยนต์และส่วนประกอบ
เครื่องจักรกล ตู้เย็น น้ำมันสำเร็จรูป เคมีภัณฑ์ เครื่องสำอาง  เสื้อผ้าสำเร็จรูป  อัญมณีและเครื่องประดับ  ผลิต
ภัณฑ์พลาสติก เป็นต้น ลงเหลือร้อยละ 0 - 3 ซึ่งจะมีผลย้อนหลังตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2545  และให้เจรจา
กำหนดแนวทางการลดภาษีสินค้าที่เหลือให้เหลือ  0%  หรือต่ำสุดในปี  พ.ศ. 2553   เพื่อให้เป็นไปตามกรอบ
ความตกลงดังกล่าว

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ให้ใช้งบกลางกรณีฉุกเฉิน สำหรับปีงบประมาณ
พ.ศ. 2546 เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการตกแต่งอาคารทั้งภายในและภายนอก และการบริหารจัดการและอื่น ๆ ของ
อาคารในโครงการศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ  จำนวน 329.40 ล้านบาท และอนุมัติหลักการร่างพระ
ราชกฤษฎีกาจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ  พ.ศ. ....  (ให้มีการจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่าง
ประเทศ) และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของส่วนราชการที่เกี่ยว
ข้อง  ไปประกอบการพิจารณาด้วย   แล้วดำเนินการต่อไปได้   และให้กระทรวงพาณิชย์เร่งดำเนินการจัดทำราย
ละเอียดแบบรูปรายการ  ประมาณการค่าใช้จ่าย   และแผนการใช้จ่ายเงิน   รวมถึงค่าใช้จ่ายในการเตรียมความ
พร้อมด้านบริหารจัดการ และขอทำความตกลงเรื่องการเงินกับสำนักงบประมาณอีกครั้งหนึ่ง

           คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการและเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยอนุมัติหลักการร่าง
ประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง  การส่งออกไปนอกและการนำเข้ามาในราชอาณาจักรซึ่งเพชรที่ยังไม่ได้เจีย
ระไนทุกชนิด พ.ศ. 2545  (กำหนดให้เพชรที่ยังไม่ได้เจียระไนทุกชนิด  (Rough Diamonds)  ตามพิกัดอัตรา
อากรขาเข้าประเภทที่  7102.10,  7102.21   และ  7102.31  เป็นสินค้าที่ต้องมีหนังสือรับรอง)  และร่าง
ระเบียบกระทรวงพาณิชย์  ว่าด้วยหลักเกณฑ์  วิธีการ  และเงื่อนไขการออกหนังสือรับรองการส่งออก   และ
การนำเข้าเพชรที่ยังไม่ได้เจียระไนทุกชนิด พ.ศ. 2545  (กำหนดหลักเกณฑ์   วิธีการ   และเงื่อนไขการออก
หนังสือรับรองการส่งออกเพชรที่ยังไม่ได้เจียระไนและการนำเข้าเพชรที่ยังไม่ได้เจียระไน)  รวม 2 ฉบับ และ
ให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้  โดยให้ร่างระเบียบ ฯ  มีผล
ใช้บังคับพร้อมกับร่างประกาศ ฯ   ทั้งนี้  หากในกรณีที่ร่างประกาศและร่างระเบียบดังกล่าวไม่สามารถมีผล
บังคับใช้ได้ทันวันที่  1  มกราคม  2546  เห็นชอบให้กระทรวงพาณิชย์  และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐ
และเอกชนดำเนินกระบวนการออกหนังสือรับรองระหว่างประเทศสำหรับเพชรที่ยังไม่ได้เจียระไน   ภายใต้
กรอบความตกลง Kimberley Process และแบบฟอร์มหนังสือรับรองการส่งออกเพชรที่ยังไม่ได้เจียระไนของ
กระทรวงพาณิชย์ไปก่อน  เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายต่ออุตสาหกรรมการเจียระไนเพชร และอุตสาหกรรม
อัญมณีเครื่องประดับของไทย

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 5 (คกก.5) 
ที่มีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดกิจการเป็นพาณิชยกิจ พ.ศ. .... 
(กำหนดให้การให้บริการเครื่องคอมพิวเตอร์เพื่อใช้อินเตอร์เน็ต   การให้บริการฟังเพลงและร้องเพลงโดยคารา
โอเกะ การให้บริการเครื่องเล่นเกมส์  รวมทั้งการให้บริการตู้เพลง เป็นพาณิชยกิจตามความหมายแห่งพระราช
บัญญัติทะเบียนพาณิชย์  พ.ศ.  2499)  และเห็นชอบให้ยกเลิกประกาศสำนักคณะรัฐมนตรี  เรื่อง  แต่งตั้งคณะ
กรรมการพิจารณาการถอนใบทะเบียนพาณิชย์ของผู้ประกอบการพาณิชยกิจ ลงวันที่ 28 เมษายน 2499 และ
แต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาการถอนใบทะเบียนพาณิชย์ของผู้ประกอบการพาณิชยกิจชุดใหม่      และให้ส่ง
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาร่างพระราชกฤษฎีกา ฯ และยกร่างประกาศแต่งตั้งคณะกรรม
การ  ฯ  ตามความเห็นของ  คกก.5  โดยในส่วนขององค์ประกอบคณะกรรมการ  ฯ  ควรมีผู้แทนของกระทรวง
อุตสาหกรรม  และกระทรวงการคลัง (กรมสรรพากร) ร่วมเป็นคณะกรรมการดังกล่าวด้วย  และโดยที่ปัจจุบัน
กรมทะเบียนการค้าได้เปลี่ยนเป็นกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแล้ว เห็นควรเปลี่ยนแปลงประธานและกรรมการใน
ส่วนของกรมทะเบียนการค้า  เป็นกรมพัฒนาธุรกิจการค้าทุกแห่ง   และให้กระทรวงพาณิชย์พิจารณาปรับลด
จำนวนกรรมการในส่วนของกรมพัฒนาธุรกิจการค้า  เพื่อให้คณะกรรมการชุดนี้มีกรรมการไม่เกินจำนวนตาม
ที่กฎหมายกำหนด แล้วให้ดำเนินการต่อไปได้

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 5 ที่มีมติ
อนุมัติหลักการตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์  เรื่อง  การนำสินค้ารถยนต์ที่ใช้
แล้วเข้ามาในราชอาณาจักร พ.ศ. 2545 (ยกเลิกมาตรการควบคุมการนำเข้ารถยนต์บรรทุกคนโดยสารใหม่
สำเร็จรูป ชนิด 6 ล้อ 30 ที่นั่งขึ้นไป  และควบคุมเฉพาะรถยนต์ที่ใช้แล้ว) และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการ
กฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้  โดยคณะรัฐมนตรีเห็นว่า  ปัจจุบันมีผู้ป่วยที่เกิดจากมลพิษ
ทางอากาศมากขึ้น     และมลภาวะทางอากาศในเมืองใหญ่ส่วนมากจะเกิดจากไอเสียของรถยนต์หรือเครื่อง
ยนต์เก่า    จึงมอบให้กระทรวงคมนาคมรับไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงพลังงาน  และกระทรวงสาธารณสุข  เพื่อกำหนดมาตรการแก้ไขในเรื่องดังกล่าวโดยอาจสนับสนุน
ให้นำก๊าซ NGV มาใช้กับรถยนต์ให้มากขึ้น ซึ่งจะช่วยแก้ไขปัญหาได้ทางหนึ่ง

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานความเคลื่อนไหวดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปและ
ดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนธันวาคม 2545 และปี พ.ศ. 2545  สรุปได้ว่า  ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่ว
ไปของประเทศเดือนธันวาคม 2545 เทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2545  สูงขึ้นร้อยละ  0.1  เป็นผลจากดัชนีราคา
สินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ได้แก่  น้ำมันพืช  และอาหารตามสั่ง  รวมทั้งดัชนีราคาสินค้าหมวดอื่น ๆ  ที่มิใช่
อาหารและเครื่องดื่ม ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิง และของใช้ส่วนบุคคล มีราคาสูงขึ้น ทั้งนี้ ดัชนีราคาผู้บริโภคทั่วไปของ
ประเทศเฉลี่ยทั้งปี พ.ศ. 2545  เท่ากับ 104.2  เทียบกับดัชนีราคาเฉลี่ยปี พ. ศ. 2544  ซึ่งเท่ากับ 103.5  สูงขึ้น
ร้อยละ 0.7 เป็นผลจากการสูงขึ้นของดัชนีราคาสินค้าหมวดอาหารและเครื่องดื่ม ร้อยละ 0.3 ในขณะที่ดัชนีราคา
หมวดสินค้าอื่น ๆ  ที่มิใช่อาหารสูงขึ้นร้อยละ  0.8  สำหรับดัชนีราคาผู้บริโภคพื้นฐานของประเทศเดือนธันวาคม
2545 เท่ากับ 104.4  เทียบกับเดือนพฤศจิกายน 2545  สูงขึ้นร้อยละ 0.1  เดือนธันวาคม 2544  สูงขึ้นร้อยละ
0.3 เฉลี่ยทั้งปี พ.ศ. 2545 เทียบกับปี พ.ศ. 2544 สูงขึ้นร้อยละ 0.4

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอเรื่อง การติดตามตรวจสอบการปฏิบัติงาน
ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการรักษาระดับราคาสินค้าเกษตร ได้แก่  ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์
การเกษตร  องค์การตลาดเพื่อเกษตรกร   และองค์การคลังสินค้า   ซึ่งมักเกิดปัญหาเกี่ยวกับประสิทธิภาพ
ประสิทธิผล  และถูกวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่โปร่งใส  ตลอดจนการทุจริตอยู่เสมอ  จึงขอให้กระทรวงการ
คลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงพาณิชย์ ซึ่งเป็นหน่วยงานต้นสังกัด รับไปแก้ไขปัญหา โดย
อาจตั้งคณะทำงาน  (Task  Force)   ขึ้นเพื่อทำหน้าที่พิจารณาปรับปรุงแก้ไขระบบการทำงานและติดตาม
ตรวจสอบการปฏิบัติงานของหน่วยงานดังกล่าวในโครงการต่าง ๆ อย่างใกล้ชิด และให้รายงานผลให้คณะ
รัฐมนตรีทราบต่อไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอคำตอบกระทู้ถามที่  686  ร.
เรื่อง การจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า "ตุ๊ก ตุ๊ก" ในประเทศอังกฤษ ของนายพฤติชัย ดำรงรัตน์ สมาชิกสภา
ผู้แทนราษฎรกรุงเทพมหานคร   และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป  โดยสรุปคือ  ยังไม่พบว่ามีการจด
ทะเบียนดังกล่าว     และกระทรวงพาณิชย์ได้ขอให้สำนักงานทรัพย์สินทางปัญญาของอังกฤษตรวจสอบว่าได้มี
การยื่นขอจดทะเบียนหรือไม่ และในเรื่องนี้คณะรัฐมนตรีเห็นว่า เพื่อพัฒนาการผลิตรถสามล้อเครื่อง (ตุ๊ก ตุ๊ก)
ให้มีความปลอดภัยและมีคุณภาพดี   เหมาะสมกับการใช้งาน     และเพื่อส่งเสริมการผลิตรถดังกล่าวเพื่อส่งไป
จำหน่ายยังต่างประเทศ   จึงให้กระทรวงคมนาคมรับไปพิจารณาว่าหากจะมีข้อกำหนดให้ชัดเจนว่า รถสามล้อ
เครื่องสามารถใช้ในกิจการใด ในทางหรือถนนหรือพื้นที่ใดได้บ้างจะเหมาะสมหรือไม่  กับให้กระทรวงอุตสาห
กรรม   และกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี   ร่วมกันพิจารณาพัฒนาการออกแบบรถสามล้อเครื่องให้มี
ประสิทธิภาพ ความปลอดภัย และความทันสมัย และให้กระทรวงพาณิชย์รับไปพิจารณาศึกษาแนวทางการจด
ทะเบียนเครื่องหมายการค้า   และสิทธิบัตรเกี่ยวกับรถสามล้อเครื่องของไทยว่าสามารถดำเนินการได้เพียงใด   
หรือไม่โดยรับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาด้วยว่า    หากไม่สามารถจดทะเบียนได้ในนามบุคคลจะ
สามารถจดทะเบียนในนามประเทศ เพื่อนำมาใช้ร่วมกัน (Heritage Talent) ได้หรือไม่

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอคำตอบกระทู้ถามที่ 725 ร.
เรื่อง การเชื่อมโยงจากท้องถิ่นไปสู่ตลาดโลก ของนายอำนวย คลังผา สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดลพบุรี
สรุปได้ว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมส่งเสริมการส่งออก ได้นำกลุ่มผู้ส่งออก  นักออกแบบผลิตภัณฑ์  และตัว
แทนการค้าไปให้คำแนะนำเกี่ยวกับด้านรูปแบบผลิตภัณฑ์ และความรู้ด้านการตลาดแก่กลุ่มผู้ผลิตในภูมิภาค
เพื่อพัฒนากลุ่มผู้ผลิตให้มีศักยภาพ และความพร้อมในการผลิตเพื่อการส่งออก หรือผลิตสินค้าให้สอดคล้อง 
กับความต้องการของตลาดโลก  โดยได้ดำเนินโครงการอย่างต่อเนื่องมาแล้ว  3  ปี  รวมทั้งได้นำกลุ่มผลิตใน
ภูมิภาคเข้าร่วมงานแสดงสินค้าในประเทศที่กรมส่งเสริมการส่งออกจัดขึ้น     และได้นำกลุ่มผู้ผลิตในภูมิภาค
75 จังหวัดเข้าร่วมงานซึ่งได้รับความสนใจจากผู้ซื้อทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศเป็นจำนวนมาก และได้นำ
กลุ่มผู้ผลิตในภูมิภาค  75  จังหวัดดังกล่าวเข้าร่วมงานแสดงสินค้า  Made In Thailand  และในโครงการหนึ่ง
ตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์ เพื่อเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าให้ได้กว้างขวางยิ่งขึ้น อีกทั้งเป็นการพัฒนาสินค้า
ท้องถิ่นให้ได้คุณภาพและมีมาตรฐานเป็นที่ยอมรับในตลาดโลก  และในปีงบประมาณ พ.ศ. 2546  ได้มีแผน
งานจัดนิทรรศการสินค้า  OTOP  ในงานแสดงสินค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ   นอกจากนี้   กระทรวง
พาณิชย์ได้ให้ความสำคัญกับสื่อมวลชนแขนงต่าง  ๆ  ในการเพิ่มความรู้ให้กับประชาชนเพื่อเชื่อมโยงสู่ตลาด
โลก โดยจัดทำสารคดีที่สอดแทรกความรู้เรื่องการส่งออกเผยแพร่ผ่านทางสื่อต่าง ๆ ด้วย

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอคำตอบกระทู้ถามที่ 201 เรื่อง
ปัญหาการเอาเปรียบนักท่องเที่ยวอย่างเรื้อรังกรณีนักท่องเที่ยวชาวจีน ของนายสมพงษ์ สระกวี สมาชิกวุฒิสภา
จังหวัดสงขลา   สรุปได้ว่า  จากกรณีนักท่องเที่ยวชาวจีนถูกเอารัดเอาเปรียบจากบริษัททัวร์ และมัคคุเทศก์ ของ
ประเทศไทย   เนื่องจากบริษัทนำเที่ยว  (ฝ่ายไทย)  แข่งขันตัดราคาค่าบริการนำเที่ยวจนเกิดสภาพทัวร์ศูนย์
เหรียญและจ่ายเงินซื้อทัวร์จากฝ่ายจีน  เป็นเหตุให้บริษัทนำเที่ยวฝ่ายไทยมีพฤติกรรมเอารัดเอาเปรียบนักท่อง
เที่ยวจีน    ทั้งนี้   สำนักงานทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์จะเชิญบริษัทนำเที่ยวที่ถูกกล่าวอ้างพร้อมกับ
มัคคุเทศก์มาสอบหาข้อเท็จจริงในทางปฏิบัติหากหลักฐานชัดเจนว่าบริษัทนำเที่ยว ฯ ฝ่าฝืนประกาศคณะกรรม
การธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์เรื่องข้อกำหนดในการประกอบธุรกิจนำเที่ยว ฯ ในตลาดจีน มีมาตรการลงโทษ
ตามพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์ ฯ  และได้ลงโทษบริษัทนำเที่ยว ฯ ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมใน
การประกอบธุรกิจนำเที่ยวในปี พ.ศ. 2545  (ม.ค. - พ.ย.) จำนวน 15 ราย  และเพิกถอนใบอนุญาตประกอบ
ธุรกิจนำเที่ยวจำนวน 5 ราย รวมทั้งลงโทษมัคคุเทศก์ที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่จำนวน 11
ราย แต่สภาพความเป็นจริงตัวกรรมการผู้จัดการจะไปเปิดบริษัทใหม่โดยจดทะเบียนกับกระทรวงพาณิชย์ เป็น
นิติบุคคล ยื่นคำขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจนำเที่ยว ซึ่งพระราชบัญญัติธุรกิจนำเที่ยว ฯ พ.ศ. 2535 ไม่ได้
กำหนดคุณสมบัติของบุคคลดังกล่าวต้องห้ามสำหรับการประกอบธุรกิจนำเที่ยว ต้องแก้ไขกฎหมายห้ามมิให้
บุคคลดังกล่าวเข้ามาประกอบธุรกิจนำเที่ยวอีก   และมอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
ตอบในที่ประชุมวุฒิสภาต่อไป