ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 26 จากทั้งหมด 102 หน้า แสดงรายการที่ 501 - 520 จากข้อมูลทั้งหมด 2031 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
501 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตรสำหรับการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มสุกรเป็นมาตรฐานบังคับ พ.ศ. .... | กษ. | 05/10/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตรสำหรับการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดีสำหรับฟาร์มสุกรเป็นมาตรฐานบังคับ
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดมาตรฐานสินค้าเกษตรสำหรับฟาร์มสุกรเป็นมาตรฐานบังคับ
เพื่อยกระดับมาตรฐานการผลิตตั้งแต่ระดับฟาร์ม สร้างความมั่นใจถึงความปลอดภัยต่อผู้บริโภค
สามารถป้องกันและควบคุมโรคระบาดที่สำคัญในสุกรได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดปัญหาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม
และเพิ่มศักยภาพในการผลิตและการค้าผลิตภัณฑ์สุกรของประเทศไทย ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้พิจารณาประเด็นตามข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรมและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรมีมาตรการในการสนับสนุนเกษตรกรด้านการอบรมให้ความรู้ในการจัดทำมาตรฐาน
การจัดหาปัจจัยการผลิตที่เหมาะสม เช่น อาหาร พ่อพันธุ์ ยารักษาโรค
เพื่อให้เกษตรกรมีความพร้อมและไม่ประสบปัญหาด้านต้นทุนการผลิตในการปรับเปลี่ยนมาตรฐานที่เพิ่มขึ้น
สร้างความรู้ความเข้าใจ ให้คำแนะนำ รวมทั้งช่วยอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการฟาร์มสุกรทุกขนาดก่อนที่จะมีการบังคับใช้กฎหมายฉบับนี้
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
502 | การรับรองร่างเอกสารวาระบาหลี 2022 : แผนที่นำทางระดับโลกเรื่องเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Bali Agenda 2022: A Global Roadmap for Creative Economy) | วธ. | 05/10/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างเอกสารวาระบาหลี ๒๐๒๒ : แผนที่นำทางระดับโลกเรื่องเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Bali
Agenda 2022 : A Global Roadmap for Creative Economy) เพื่อให้ทันต่อกำหนดเวลาในการรับรองเอกสารวาระบาหลี
๒๐๒๒ : แผนที่นำทางระดับโลกเรื่องเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Bali
Agenda 2022 : A Global Roadmap for Creative Economy)
ระหว่างการประชุม World Conference on Creative Economy
ครั้งที่ ๓ วันที่ ๕-๗ ตุลาคม ๒๕๖๕ ซึ่งจะจัดขึ้นในรูปแบบผสมผสาน ณ Bali
International Convention Center (BICC) เมืองบาหลี
สาธารณรัฐอินโนนีเซีย และอนุมัติให้ผู้แทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมที่ได้รับมอบหมายรับรองร่างเอกสารวาระบาหลี
๒๐๒๒ : แผนที่นำทางระดับโลกเรื่องเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Bali
Agenda 2022 : A Global Roadmap for Creative Economy) ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารวาระบาหลี ๒๐๒๒ : แผนที่นำทางระดับโลกเรื่องเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (Bali Agenda 2022 :
A Global Roadmap for Creative Economy)
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงวัฒนธรรมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงวัฒนธรรมร่วมกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์
(องค์การมหาชน)
บูรณาการและขับเคลื่อนการดำเนินการด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของไทยในภาพรวม
ให้สอดคล้องและเป็นไปตามแนวทางการประชุม World Conference on Creative Economy (WCCE) ครั้งที่
๓ และแผนปฏิบัติการด้านการส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์
(องค์การมหาชน) ต่อไป ๓.
ให้กระทรวงวัฒนธรรมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
503 | ร่างประกาศคณะกรรมการพิจารณาคัดกรองผู้ได้รับการคุ้มครอง เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการพิจารณาคัดกรองคำขอเป็นผู้ได้รับการคุ้มครอง | ตช. | 05/10/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างประกาศคณะกรรมการพิจารณาคัดกรองผู้ได้รับการคุ้มครอง เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขการพิจารณาคัดกรองคำขอเป็นผู้ได้รับการคุ้มครอง มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ
และเงื่อนไขการพิจารณาคัดกรองคนต่างด้าวที่เข้ามาในประเทศไทยและไม่สามารถเดินทางกลับประเทศอันเป็นภูมิลำเนาได้
เพื่อให้สถานะเป็นผู้ได้รับการคุ้มครอง ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ที่เห็นว่า คำว่า
“ผู้เยาว์” ควรปรับเป็นคำว่า “เด็ก” เพื่อให้สอดคล้องตามพระราชบัญญัติคุ้มครองเด็ก
พ.ศ. ๒๕๔๖ ควรมีการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานตามหลักเกณฑ์ฯ
ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาทบทวนการปฏิบัติงานให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ทางสังคม และควรกำหนดให้เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานและครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมาย
โดยเฉพาะกลุ่มคนพิการ ควรมีการจัดเตรียมรูปแบบที่เหมาะสมกับแต่ละประเภทความพิการ ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
504 | การอนุมัติให้ นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส ไปรักษาราชการแทนหรือไปปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี | นร. | 05/10/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส
ไปรักษาราชการแทนหรือไปปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
505 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายธนู ขวัญเดช ฯลฯ จำนวน 4 ราย) | ศธ. | 05/10/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงศึกษาธิการ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๔ ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
และสับเปลี่ยนหมุนเวียน ทั้งนี้
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอ
ดังนี้ ๑. นายธนู ขวัญเดช ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการสภาการศึกษา
สำนักงานเลขาธิการสภาการศึกษา ๒. นายพิเชฐ โพธิ์ภักดี ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายพีรศักดิ์ รัตนะ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นายมณฑล ภาคสุวรรณ์ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
506 | ผลการพิจารณาศึกษาญัตติ เรื่อง ราคาหนังสัตว์โค - กระบือตกต่ำ ของคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ สภาผู้แทนราษฎร | สผ. | 05/10/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
507 | (ร่าง) นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. 2566-2570) | นร.08 | 05/10/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
508 | ขออนุมัติกู้เงินเพื่อใช้ในการดำเนินงาน (กรณีรายได้ไม่เพียงพอสำหรับรายจ่าย) วงเงิน 15,200 ล้านบาท และวงเงินกู้ระยะสั้น จำนวน 1,500 ล้านบาท ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 | คค. | 05/10/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการกู้เงินของการรถไฟฟ้าแห่งประเทศไทย (รฟท.)
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ ดังนี้ (๑)
เงินกู้เพื่อบรรเทาการขาดสภาพคล่องในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ วงเงิน ๑๕,๒๐๐ ล้านบาท
เพื่อให้มีเงินสดหมุนเวียนในการใช้จ่ายดำเนินงาน และการชำระหนี้เงินกู้ และ (๒)
เงินกู้ระยะสั้น วงเงิน ๑,๕๐๐ ล้านบาท
โดยให้ดำเนินการคัดเลือกสถาบันการเงินด้วยวิธีการประมูลวงเงินกู้ระยะสั้น
(วงเงินกู้เบิกเกินบัญชี)
เพื่อให้มีวงเงินสำรองไว้ใช้เสริมสภาพคล่องในการบริหารโครงการการลงทุนขนาดใหญ่ โดย
รฟท. จะเป็นผู้รับภาระต้นเงินกู้ ดอกเบี้ย และค่าใช้จ่ายในการกู้เงิน ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
และให้กระทรวงคมนาคม (การรถไฟแห่งประเทศไทย)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ
(หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๐๙/๑๓๒๓๘ ลงวันที่ ๓๑ สิงหาคม ๒๕๖๕)
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (หนังสือสำนักงบประมาณ
สภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ด่วนที่สุด ที่ นร ๑๑๒๔/๔๒๒๓ ลงวันที่ ๒๖
กรกฎาคม ๒๕๖๕) เช่น ให้กระทรวงการคลังพิจารณา วิธีการกู้เงิน เงื่อนไข
และรายละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงินและการค้ำประกันเงินกู้ได้ตามความเหมาะสมและจำเป็นของการกู้เงินดังกล่าว
การกู้ระยะสั้น (วงเงินกู้เบิกเกินบัญชี) ให้ รฟท.
พิจารณาคัดเลือกสถาบันการเงินด้วยวิธีประมูลวงเงินกู้ระยะสั้น
(วงเงินกู้เบิกเกินบัญชี) และให้ รฟท.
เร่งรัดดำเนินการตามแผนการแก้ไขปัญหาองค์กรตามมติคณะกรรมการที่เกี่ยวข้อง
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
509 | ขอยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 15 พฤษภาคม 2533 และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 8 กันยายน 2535 เกี่ยวกับการอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์พื้นที่ป่าไม้ เพื่อการปลูกสร้างสวนป่าภาคเอกชน | ทส. | 05/10/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๘
กันยายน ๒๕๓๕ (เรื่อง การปรับปรุงภารกิจและโครงสร้างของกรมป่าไม้ และร่างพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการกรมป่าไม้
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ พ.ศ. ....) เฉพาะในส่วนของการปลูกต้นไม้ในเขตป่าสงวนเสื่อมโทรมที่มีผู้ครอบครองอยู่แล้ว
ที่ขอแก้ไขมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๓๓
เป็นการอนุมัติให้เข้าทำประโยชน์พื้นที่ป่าไม้เพื่อการปลูกสร้างสวนป่าภาคเอกชนให้ระงับการพิจารณา
เว้นแต่เป็นกรณีที่เข้าเงื่อนไขครบทั้ง ๕ ประการ
รวมทั้งเห็นชอบให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๓๓ (เรื่อง
การอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้)
เฉพาะในส่วนของการอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์พื้นที่ป่าไม้เพื่อการปลูกสร้างสวนป่าภาคเอกชน
และเห็นชอบให้ภาคเอกชนเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ เพื่อการปลูกสร้างสวนป่า
ตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไปได้
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรมีมาตรการรองรับการยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว โดยเฉพาะการตรวจสอบสิทธิการใช้ประโยชน์ในที่ดินอย่างสม่ำเสมอ
เพื่อป้องกันไม่ให้ภาคเอกชนรายใหญ่สามารถซื้อหรือสวมสิทธิ์ของเกษตรกรรายย่อย
การควบคุมไม่ให้มีการรุกล้ำเข้าไปในพื้นที่ป่าไม้โดยไม่ได้รับอนุญาต และการกำหนดเขตพื้นที่ในการเข้าทำประโยชน์ให้ชัดเจน
และคำนึงถึงผลกระทบต่อระบบนิเวศจากการปลูกสร้างสวนป่าใกล้บริเวณพื้นที่ที่มีระบบนิเวศเปราะบางและพื้นที่ป่าอนุรักษ์
โดยดำเนินมาตรการดังกล่าวให้รัดกุมเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ๒๐ ปี
โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจฐานรากในประเด็นการลดความเหลื่อมล้ำการกระจายการถือครองที่ดินและการเข้าถึงทรัพยากร
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ทั้งนี้
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับไปพิจารณาความจำเป็นเหมาะสมในการกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขเพิ่มเติมประกอบการอนุญาตให้เข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้
เพื่อการปลูกสวนป่าภาคเอกชน โดยส่งเสริมให้เอกชนปลูกไม้ยืนต้นที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจ
๕๘ ชนิดด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
510 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง แนวทางการเสริมสร้างวัฒนธรรมประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม : กรณีเครือข่ายสภาเด็กและเยาวชนระดับอำเภอ ของคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา | สว. | 05/10/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง
แนวทางการเสริมสร้างวัฒนธรรมประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม :
กรณีเครือข่ายสภาเด็กและเยาวชนระดับอำเภอ
ของคณะกรรมาธิการการพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน วุฒิสภา
ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
โดยเห็นชอบข้อเสนอแนะและมีการดำเนินการที่เป็นการส่งเสริมและlนับสนุนการพัฒนาเครือข่ายเด็กและเยาวชน
เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้ดำเนินการโครงการ
“ผู้นำพลเมืองดี” (Active Citizen Leadership : ACL) ดำเนินการเพิ่มพื้นที่การจัดตั้งชมรมคบเด็ก...สร้างบ้านอบอุ่น
(ชมรมริบบิ้นขาว)
และบูรณาการการทำงานผ่านกลไกในระดับจังหวัดและภาคีเครือข่ายในพื้นที่
รวมถึงขับเคลื่อนการรณรงค์ยุติความรุนแรงต่อเด็ก สตรี และบุคคลในครอบครัว
กระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินโครงการฝึกอบรมการจัดทำแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในระดับท้องถิ่นให้สอดคล้องตามแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนแห่งชาติ
ฉบับที่ ๒ พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔ กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายการส่งเสริมให้ความรู้
และปลูกฝังการเคารพสิทธิเสรีภาพของนักเรียน นักศึกษา ในสถานศึกษา
กรุงเทพมหานครมีการจัดกิจกรรมการเรียนรู้
“สานพลังเครือข่ายขับเคลื่อนสภาเด็กและเยาวชนกรุงเทพมหานคร
และสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้ดำเนินโครงการขับเคลื่อนกิจกรรมและโครงการเสริมสร้างความเป็นพลเมืองคุณภาพและความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
เป็นต้น สำหรับประเด็นการเฝ้าระวังผลกระทบนั้น
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ได้มีการบูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานภาคเครือข่ายที่ทำงานด้านเด็กและเยาวชนในการเสริมสร้างความรู้เกี่ยวกับสิทธิและหน้าที่ของเด็กและเยาวชนผ่านระบบการเรียนการสอน
ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
และแจ้งให้สำนักเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
511 | รายงานสรุปผลการดำเนินการภายใต้แผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ 3 (ปี 2560-2564) และการดำเนินการในระยะต่อไป | กค. | 05/10/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการดำเนินการภายใต้แผนพัฒนาตลาดทุนไทย
ฉบับที่ ๓ (ปี ๒๕๖๐-๒๕๖๔) และร่างหลักการการจัดทำแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ ๔ (ปี
๒๕๖๕-๒๕๗๐) ซึ่งมีผลการดำเนินการภายใต้แผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ ๓ (ปี
๒๕๖๐-๒๕๖๔) ที่แล้วเสร็จ เช่น
การออกหลักเกณฑ์เพื่อพัฒนาเครื่องมือการระดมทุนของกิจการจากบุคคลจำนวนมากสำหรับตราสารหนี้การแก้เกณฑ์เพื่อรองรับการจัดตั้งกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานเพื่ออนาคตประเทศไทย
และการพัฒนาจำหน่ายพันธบัตรออมทรัพย์ผ่านเทคโนโลยีบล็อกเชน
และแผนที่อยู่ระหว่างดำเนินการ เช่น การจัดทำกลไกคะแนนเครดิตที่สถาบันการเงินใช้ประเมินความสามารถในการชำระหนี้ให้แก่
SMEs และการปรับปรุงเกณฑ์ภาษีกองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐาน
ซึ่งการดำเนินการในระยะต่อไป คณะกรรมการพัฒนาตลาดทุนไทย
มีมติให้สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
จัดทำแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ ๔ (ปี ๒๕๖๕-๒๕๗๐) ซึ่งร่างหลักการจัดทำแผนพัฒนาตลาดทุนไทย ฉบับที่ ๔
มีสาระสำคัญ เช่น การจัดตั้งจัดทำแผนตลาดทุนไทย ฉบับที่ ๔
การศึกษาแผนยุทธศาสตร์ การพัฒนาตลาดทุนของต่างประเทศ และการจัดทำร่างแผนตลาดทุนไทย
ฉบับที่ ๔ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
512 | ขอความเห็นชอบการจัดทำและลงนามร่างความตกลงว่าด้วยการขนส่งทางอากาศที่ครอบคลุมระหว่างรัฐสมาชิกสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับสหภาพยุโรปและรัฐสมาชิกและร่างเอกสารบันทึกการหารือ | คค. | 05/10/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
513 | แนวทางการดำเนินการสำหรับผู้ลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ปี 2565 ที่ไม่สามารถติดตามคู่สมรสได้ | กค. | 05/10/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบแนวทางการดำเนินการสำหรับผู้ลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ
ที่ไม่สามารถติดตามคู่สมรสได้
และมอบหมายกระทรวงมหาดไทยให้ความร่วมมือในการดำเนินการรับรองกลุ่มเปราะบางที่ไม่สามารถติดตามคู่สมรสได้
ตลอดจนดำเนินการใด ๆ ในส่วนที่เกี่ยวข้อง ตามที่คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมเสนอ
ทั้งนี้ ให้คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคม
กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและธนาคารแห่งประเทศไทย
รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินการดังกล่าวให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก
เพื่อให้ได้จำนวนผู้ลงทะเบียนที่มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์
ครอบคลุมทุกกลุ่มเป้าหมายอย่างครบถ้วน อันจะเป็นการสร้างโอกาสในการเข้าถึงบริการแห่งรัฐอย่างครบวงจร
สามารถบรรเทาความเดือนร้อน
และเกิดผลสัมฤทธิ์ควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับประชาชนอย่างยั่งยืน
และเกิดประโยชน์สูงสุดในการดำเนินโครงการฯ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒. ให้คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
514 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ (นายปณิธิ ชุณหสวัสดิกุล) | ดศ. | 05/10/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายปณิธิ ชุณหสวัสดิกุล
เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านนิติศาสตร์) ในคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์
แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากขอลาออก
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๕ ตุลาคม ๒๕๖๕) เป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
โดยผู้ได้รับแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน
ทั้งนี้ ในครั้งต่อ ๆ ไป
ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมดำเนินการแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการธุรกรรมทางอิเล็กทรอนิกส์ให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ (เรื่อง
การดำเนินการแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามที่กฎหมายบัญญัติให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาตามกฎหมาย)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
515 | รายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ประจำครึ่งแรกของปี พ.ศ. 2565 | กค. | 27/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.)
ประจำครึ่งแรกของปี พ.ศ. ๒๕๖๕ สรุปได้ ดังนี้ (๑) เป้าหมายนโยบายการเงินสำหรับปี
๒๕๖๕ คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๔ ธันวาคม ๒๕๖๔)
อนุมัติให้ใช้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปในช่วงร้อยละ ๑-๓ เป็นเป้าหมายนโยบายการเงิน (๒)
การประเมินภาวะเศรษฐกิจการเงินและแนวโน้ม โดยเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ ๑ ปี ๒๕๖๕
ขยายตัวร้อยละ ๒.๒ จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และในไตรมาสที่ ๒ ปี ๒๕๖๕
เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ส่วนเศรษฐกิจไทยในปี ๒๕๖๕ และปี ๒๕๖๖
มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยจะขยายตัวที่ร้อยละ ๓.๓ และ ๔.๒ ตามลำดับ
และอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในช่วงครึ่งปีแรกของปี ๒๕๖๕ เฉลี่ยอยู่ที่ร้อยละ ๕.๖
ซึ่งสูงกว่ากรอบเป้าหมายและคาดว่าอัตราเงินเฟ้อทั่วไปจะทยอยลดลงและกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในปี
๒๕๖๖ ที่ร้อยละ ๒.๕ และเสถียรภาพทางระบบการเงินในช่วงครึ่งแรกของปี ๒๕๖๕
โดยรวมมีเสถียรภาพแต่ยังมีความเปราะบางในบางจุด โดยเฉพาะภาคครัวเรือนและบางภาคธุรกิจที่รายได้ยังฟื้นตัวไม่เต็มที่
(๓) การดำเนินนโยบายการเงิน ในช่วงไตรมาสที่ ๑ ของปี ๒๕๖๕
กนง. มีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ ๐.๕ ต่อปี
เพื่อให้เศรษฐกิจฟื้นตัวต่อเนื่อง
และเห็นควรผลักดันการสร้างระบบนิเวศใหม่ของตลาดอัตราแลกเปลี่ยนอย่างต่อเนื่อง
โดยเฉพาะการสนับสนุนผู้ประกอบการ SMEs ให้มีการป้องกันความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และ (๔)
การสื่อสารนโยบายการเงิน ในช่วงครึ่งแรกของปี ๒๕๖๕ กนง.
ได้เน้นการสื่อสารเกี่ยวกับเงินเฟ้อคาดการณ์ในระยะปานกลาง
และประเด็นที่มีนัยสำคัญต่อการตัดสินนโยบายการเงินผ่านช่องทางต่าง ๆ
เพื่อช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อนโยบายการเงิน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
516 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติมาตรการป้องกันการกระทำความผิดซ้ำในความผิดเกี่ยวกับเพศ หรือที่ใช้ความรุนแรง พ.ศ. .... | สว. | 27/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
517 | ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในโครงการภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขง-ล้านช้าง ประจำปี พ.ศ. 2565 (Memorandum of Understanding on the Cooperation on Projects of the Mekong-Lancang Cooperation Special Fund 2022) | อว. | 27/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
518 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อดำเนินโครงการ แก้ไขปัญหาภัยแล้งเพื่อการอุปโภคบริโภคขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรรณบุรี และโครงการจัดหาเครื่องสูบน้ำแบบชนิดเคลื่อนที่เร็ว ของกรมชลประทาน | นร.14 | 27/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕
งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการแก้ไขปัญหาภัยแล้งเพื่อการอุปโภคบริโภค
ด้วยระบบ Water Treatment System จำนวน ๒๗
รายการ วงเงิน ๑๔๐.๔๐๐๐ ล้านบาท ขององค์การบริหารส่วนจังหวัดสุพรรณบุรี
และโครงการจัดหาเครื่องสูบน้ำแบบชนิดเคลื่อนที่เร็ว ขับด้วยระบบไฮดรอลิคขนาดท่อส่งไม่น้อยกว่า
๔๒ นิ้ว จำนวน ๓๐ เครื่อง วงเงินทั้งสิ้น ๕๖๕.๕๕๐๐ ล้านบาท ของกรมชลประทาน ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
519 | ขอขยายเวลาการประกาศพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร | นร.51 | 27/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบสรุปผลการปฏิบัติงานตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
พ.ศ. ๒๕๕๑ ในเขตพื้นที่อำเภอศรีสาคร อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอแว้ง และอำเภอสุคิริน
จังหวัดนราธิวาส อำเภอยะหริ่ง อำเภอไม้แก่น และอำเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี
อำเภอเบตงและอำเภอกาบัง จังหวัดยะลา และอำเภอนาทวี อำเภอจะนะ อำเภอเทพา
และอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา
ตามที่กองอำนวยการการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรเสนอ ๒. อนุมัติให้ขยายระยะเวลาการประกาศพื้นที่ปรากฎเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
ในเขตท้องที่อำเภอศรีสาคร อำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอแว้ง และอำเภอสุคิริน จังหวัดนราธิวาส อำเภอยะหริ่ง
อำเภอไม้แก่น และอำเภอแม่ลาน จังหวัดปัตตานี อำเภอเบตงและอำเภอกาบัง จังหวัดยะลา
และอำเภอนาทวี อำเภอจะนะ อำเภอเทพา และอำเภอสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา ออกไปอีก ๑ ปี
ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๕ ถึงวันที่ ๓๐
กันยายน ๒๕๖๖ ตามที่กองอำนวยการการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรเสนอ ๓. เห็นชอบ ๓.๑ ร่างประกาศ เรื่อง
พื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ๓.๒ ร่างประกาศ เรื่อง
การให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑
เป็นเจ้าพนักงานหรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย ๓.๓ ร่างประกาศ เรื่อง กำหนดลักษณะความผิดอันมีผลกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร ตามมาตรา ๒๓ แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
พ.ศ. ๒๕๕๑ และ
๓.๔. ร่างข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๑๘ แห่งพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
พ.ศ. ๒๕๕๑ รวม
๔ ฉบับ ตามที่กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๔. ให้กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
520 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงสภาพสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในเขตอุตสาหกรรมทั่วไป นิคมอุตสาหกรรม หลักชัยเมืองยาง จังหวัดระยอง ในท้องที่ตำบลสำนักทอง อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย พ.ศ. .... | อก. | 27/09/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงสภาพสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในเขตอุตสาหกรรมทั่วไป
นิคมอุตสาหกรรมหลักชัยเมืองยาง จังหวัดระยอง ในท้องที่ตำบลสำนักทอง
อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ให้เป็นกรรมสิทธิ์ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการเปลี่ยนแปลงสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองที่ใช้ร่วมกัน
ซึ่งเดิมมีสภาพเป็นทางสาธารณประโยชน์และปัจจุบันพลเมืองเลิกใช้ประโยชน์แล้ว จำนวน
๑ แปลง มีเนื้อที่ประมาณ ๒ ไร่ ๑ งาน ๘๑
ตารางวา เพื่อนำไปพัฒนาให้เป็นส่วนหนึ่งของเขตอุตสาหกรรมทั่วไป
นิคมอุตสาหกรรมหลักชัยเมืองยาง จังหวัดระยอง ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|