ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | รายงานความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการกำกับดูแลความปลอดภัยด้านการบินแห่งสหภาพยุโรป (European Aviation Safety Agency - EASA) | สลธ.คสช. | 17/11/2558 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ประธานกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑.๑ แต่งตั้งคณะทำงานพิเศษหารือกับผู้แทนสหภาพยุโรป รวมทั้งสำนักงานบริหารการบินแห่งชาติ (Federal Aviation Administration : FAA) โดยมีนายพิศาล มาณวพัฒน์ เอกอัครราชทูตไทย ประจำกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เป็นหัวหน้าคณะทำงาน พลอากาศเอก ปรีชา ประดับมุข กรรมการและเลขานุการศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน และนายจุฬา สุขมานพ ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เป็นรองหัวหน้าคณะ และผู้เกี่ยวข้องจำนวนไม่เกิน ๕ นาย ร่วมเป็นคณะ เดินทางไปหารือเพื่อให้ข้อมูลความคืบหน้าของฝ่ายไทยในรายละเอียดแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งในสหภาพยุโรปและสหรัฐอเมริกานับตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยใช้งบประมาณของศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือน ๑.๒ เห็นชอบร่างบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเกี่ยวกับ Cooperation Framework Agreement on Aviation Safety ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้พิจารณาแล้วเห็นชอบด้วย โดยให้ผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย เป็นผู้ลงนาม ๑.๓ เห็นชอบค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นจากการทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือฯ ดังกล่าว ภายในวงเงิน ๒,๕๐๐,๐๐๐ ยูโร หรือไม่เกิน ๑๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ รายการเงินงบกลางเพื่อสำรองจ่ายในกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น โดยให้ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือนร่วมกับผู้แทนส่วนราชการ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เดินทางไปลงนามและเจรจากับองค์การกำกับดูแลความปลอดภัยด้านการบินแห่งสหภาพยุโรป (European Aviation Safety Agency : EASA) ในเรื่องขอบเขตของงานหรือรายละเอียดความร่วมมือแล้ววางแผนการดำเนินงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เสนอให้ทราบภายในเดือนธันวาคม ๒๕๕๘ ๑.๔ ให้ศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือนร่วมกับสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยร่วมกันพิจารณากำหนดมาตรการเร่งรัดผลักดันให้ผู้ที่ได้รับใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศทุกรายของสายการบินทั้ง ๔๑ สายการบิน เข้ามาดำเนินกระบวนการเพื่อออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศฉบับใหม่ ให้เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยให้มีมาตรการลงโทษทางปกครองเกี่ยวกับใบอนุญาต เช่น พักใช้หรือระงับใบอนุญาต ฯลฯ สำหรับสายการบินที่ไม่ให้ความร่วมมือ หรือมีความเสี่ยงสูงด้านความไม่ปลอดภัย ภายในระยะเวลาที่เหมาะสม และไม่เกิดความเสียหายต่อการแก้ไขปัญหาในภาพรวมของประเทศ ทั้งนี้ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยจะต้องไม่ออกใบรับรองผู้ดำเนินการเดินอากาศฉบับใหม่เพิ่มเติม จนกว่าจะสามารถแก้ไขข้อบกพร่องที่มีนัยสำคัญต่อความปลอดภัย (Significant Safety Concern : SSC) ได้โดยเร็วที่สุดด้วย ๑.๕ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเป็นผู้นำเสนอแผนปฏิบัติการที่มีรายละเอียด ขั้นตอนและระยะเวลาในการดำเนินงาน กิจกรรม ทุกเรื่อง โดยเฉพาะแผนงานด้านการจัดการบุคลากรของสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย ให้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรีทราบภายในเดือนธันวาคม ๒๕๕๘ ๑.๖ ให้คณะกรรมการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติเร่งรัดและติดตามผลการดำเนินการในภาพรวมแล้วรายงานให้ทราบทุกระยะ ๒. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงถ้อยคำในกรอบความตกลงว่าด้วยความร่วมมือด้านความปลอดภัยการบิน (Cooperation Framework Agreement on Aviation Safety) ในกรณีที่ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญ ไม่ขัดกับผลประโยชน์ของไทยและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติหรือให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงคมนาคมและศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือนสามารถดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย ๓. ในส่วนของงบประมาณในการดำเนินการให้กระทรวงคมนาคมและศูนย์บัญชาการแก้ไขปัญหาการบินพลเรือนทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณต่อไป ๔. ให้กระทรวงคมนาคมเร่งรัดการแต่งตั้งผู้อำนวยการสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทยเพื่อให้การแก้ไขปัญหาด้านการบินพลเรือนเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว |
.....