ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 686 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 13701 - 13720 จากข้อมูลทั้งหมด 124240 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
13701 | คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563) (สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ) | สม | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ของ (๑) สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จำนวน ๒,๖๑๔,๑๐๓,๒๐๐ บาท (๒) สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำนวน ๑๐,๓๑๓,๔๔๔,๑๐๐ บาท (๓) สำนักงานศาลปกครอง จำนวน ๓,๔๑๙,๒๙๘,๓๐๐ บาท (๔) สำนักงานอัยการสูงสุด จำนวน ๑๓,๗๘๕,๔๗๘,๔๐๐ บาท (๕) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จำนวน ๕,๓๕๙,๓๒๑,๔๐๐ บาท (๖) สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จำนวน ๓๒๓,๓๙๔,๙๐๐ บาท (๗) สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จำนวน ๕๒๖,๐๒๒,๐๐๐ บาท และ (๘) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน จำนวน ๓,๔๐๙,๖๐๙,๓๐๐ บาท ทั้งนี้ ให้ถือว่าการเสนอคำของบประมาณรายจ่ายดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ตามนัยมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ พร้อมทั้งให้หน่วยงานดังกล่าวยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ดังกล่าว ให้สำนักงบประมาณพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13702 | คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563) (สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน) | ผผ | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ของ (๑) สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จำนวน ๒,๖๑๔,๑๐๓,๒๐๐ บาท (๒) สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำนวน ๑๐,๓๑๓,๔๔๔,๑๐๐ บาท (๓) สำนักงานศาลปกครอง จำนวน ๓,๔๑๙,๒๙๘,๓๐๐ บาท (๔) สำนักงานอัยการสูงสุด จำนวน ๑๓,๗๘๕,๔๗๘,๔๐๐ บาท (๕) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จำนวน ๕,๓๕๙,๓๒๑,๔๐๐ บาท (๖) สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จำนวน ๓๒๓,๓๙๔,๙๐๐ บาท (๗) สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จำนวน ๕๒๖,๐๒๒,๐๐๐ บาท และ (๘) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน จำนวน ๓,๔๐๙,๖๐๙,๓๐๐ บาท ทั้งนี้ ให้ถือว่าการเสนอคำของบประมาณรายจ่ายดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ตามนัยมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ พร้อมทั้งให้หน่วยงานดังกล่าวยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ดังกล่าว ให้สำนักงบประมาณพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13703 | คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563) (สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน) | ตผ | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ของ (๑) สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จำนวน ๒,๖๑๔,๑๐๓,๒๐๐ บาท (๒) สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำนวน ๑๐,๓๑๓,๔๔๔,๑๐๐ บาท (๓) สำนักงานศาลปกครอง จำนวน ๓,๔๑๙,๒๙๘,๓๐๐ บาท (๔) สำนักงานอัยการสูงสุด จำนวน ๑๓,๗๘๕,๔๗๘,๔๐๐ บาท (๕) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จำนวน ๕,๓๕๙,๓๒๑,๔๐๐ บาท (๖) สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จำนวน ๓๒๓,๓๙๔,๙๐๐ บาท (๗) สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จำนวน ๕๒๖,๐๒๒,๐๐๐ บาท และ (๘) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน จำนวน ๓,๔๐๙,๖๐๙,๓๐๐ บาท ทั้งนี้ ให้ถือว่าการเสนอคำของบประมาณรายจ่ายดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ตามนัยมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ พร้อมทั้งให้หน่วยงานดังกล่าวยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ดังกล่าว ให้สำนักงบประมาณพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13704 | รายงานผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. 2539 ประจำปี 2560 | นร09 | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ ประจำปี ๒๕๖๐ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผลการดำเนินงานของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง โดยให้คำแนะนำเกี่ยวกับการดำเนินงานของเจ้าหน้าที่ในทางปฏิบัติตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ โดยเป็นประเด็นข้อหารือเกี่ยวกับคำสั่งทางปกครอง หลักการมีส่วนได้เสียและหลักความเป็นกลางในการพิจารณาทางปกครอง การอุทธรณ์คำสั่งทางปกครอง การก้ไข การเยียวยา และการเพิกถอนคำสั่งทางปกครอง ตลอดจนการนับระยะเวลาตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ ๒. ผลการดำเนินงานของสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง เช่น (๑) จัดวิทยากรของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อเผยแพร่ความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง (๒) เผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ของประชาชนให้กับประชาชนในจังหวัดต่าง ๆ และ (๓) สัมมนาร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อเผยแพร่ความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง รวมทั้งรับทราบปัญหาอุปสรรคของเจ้าหน้าที่ของรัฐในสังกัด องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น เป็นต้น ๓. ปัญหา อุปสรรค และข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการดำเนินการตามพระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ เช่น (๑) ควรมีการศึกษาและทบทวนปัญหาเกี่ยวกับการบังคับใช้พระราชบัญญัติวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ. ๒๕๓๙ โดยเฉพาะในส่วนที่พระราชบัญญัตินี้ยังมิได้บัญญัติไว้ รวมทั้งปรับปรุงบทบัญญัติที่ยังมีปัญหาในทางปฏิบัติ และ (๒) ควรมีการจัดให้มีการอบรมบุคลากรในภาครัฐเพื่อพัฒนาองค์ความรู้เกี่ยวกับหลักกฎหมายปกครองให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐ เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13705 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยกรมสรรพากรได้นำข้อเสนอของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ มาประกอบการพิจารณากำหนดแนวทางปฏิบัติของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง สำหรับการใช้บังคับกฎหมายในระยะแรก ๆ โดยมุ่งเน้นการให้ความรู้และให้คำปรึกษาในเรื่องการจัดทำเอกสารที่เกี่ยวข้องกับการกำหนดราคาโอน (TP documentation) เป็นสำคัญ และได้มีการประกาศกำหนดแบบรายงานมาตรฐานอย่างรอบคอบ เพื่อให้มีรายละเอียดที่ชัดเจน ไม่ให้เกิดปัญหาในการตีความ และกรณีร่างมาตรา ๗๑ ทวิ และร่างมาตรา ๗๑ ตรี ซึ่งเป็นบทบัญญัติในส่วนของภาษีเงินได้ย่อมไม่นำมาใช้บังคับกับภาษีมูลค่าเพิ่ม ตลอดจนพิจารณาความเหมาะสมในการยกเว้นหน้าที่การจัดทำเอกสารให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลที่มีความสัมพันธ์กันภายในประเทศที่อยู่ในบังคับต้องเสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตราเท่ากัน และไม่มีผลขาดทุนจากการประกอบกิจการในรอบระยะเวลาบัญชีหรือผลขาดทุนสะสมยกมาจากกรอบระยะเวลาบัญชีก่อน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13706 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสถาบันพระบรมราชชนก พ.ศ. .... | สว | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสถาบันพระบรมราชชนก พ.ศ. .... ซึ่งมีข้อสังเกตเห็นสมควรแก้ไขเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติฯ และข้อสังเกตเกี่ยวกับการกำหนดโครงสร้างส่วนราชการภายในตามร่างมาตรา ๑๐ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรคำนึงถึงบทบาท หน้าที่ และหลักดุลยภาพของการบริหาร Checks and Balances ระหว่างฝ่ายบริหารคือ อธิการบดี และฝ่ายกำกับดูแลด้านนโยบายคือ สภาสถาบัน และควรกำหนดให้มี “สำนักงานสภาสถาบัน” ขึ้น เพื่อทำหน้าที่เป็นหน่วยธุรการสนับสนุนภารกิจต่าง ๆ ของสภาสถาบันเป็นการเฉพาะในลักษณะเดียวกันกับสำนักงานอธิการบดีซึ่งเป็นหน่วยธุรการของฝ่ายบริหาร เพื่อมิให้เกิดปัญหาการขัดกันแห่งผลประโยชน์ และกรณีที่สถาบันอาจจัดการศึกษาหรือดำเนินการวิจัยร่วมกับสถานศึกษาชั้นสูง หรือสถาบันอื่น ๆ ตามความในวรรคหนึ่งหรือวรรคสามของร่างมาตรา ๑๓ นั้น ซึ่งคำว่า “สถาบันอื่น” ตามร่างมาตรา ๑๓ นี้ มีความมุ่งหมายกว้างเพื่อเปิดโอกาสให้สถาบันสามารถแสวงหาความร่วมมือทางวิชาการกับสถาบันอื่น ๆ ทั้งที่เป็นหน่วยงานของรัฐหรือภาคเอกชนได้ รวมทั้งหากต่อไปมีกฎหมายกลางที่เกี่ยวข้องใช้บังคับกับกรณีการบริหารงานบุคคลและตำแหน่งทางวิชาการของสถาบันอุดมศึกษาไว้เป็นการเฉพาะแล้ว หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรพิจารณาหรือดำเนินการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายว่าด้วยสถาบันพระบรมราชชนกให้มีความสอดคล้องกับหลักการและแนวทางดังกล่าวด้วย ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติสถาบันพระบรมราชชนก พ.ศ. .... ตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เป็นเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ในการประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป ๓. ให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานหลักรับข้อสังเกตดังกล่าวไปพิจารณาร่วมกับกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงาน ก.พ.ร. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อสังเกตดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13707 | รายงานผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด ประจำปี พ.ศ. 2561 | นร01 | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานของคณะกรรมการธรรมาภิบาลจังหวัด (ก.ธ.จ.) ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๑ โดย ก.ธ.จ. ทั้ง ๗๖ คณะ/จังหวัด ได้สอดส่องการปฏิบัติภารกิจของหน่วยงานของรัฐโดยสอดส่องแผนงาน/โครงการ และการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน (เรื่องร้องเรียน) ตามอำนาจหน้าที่ จำนวน ๑,๓๗๖ แผนงาน/โครงการ ปรากฏว่า มีโครงการ จำนวน ๓๖๕ โครงการ/เรื่อง ที่ไม่เป็นไปตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี โดยมีโครงการที่ไม่เป็นไปตามด้านที่ ๔ การปฏิบัติภารกิจให้เกิดผลสัมฤทธิ์ และมีประสิทธิภาพและมีความคุ้มค่าเป็นจำนวนมากที่สุด รองลงมาเป็นด้านที่ ๓ การปฏิบัติภารกิจเพื่อประโยชน์สุขของประชาชน และด้านที่ ๒ การปฏิบัติภารกิจเพื่ออำนวยความสะดวก ให้บริการ และสนองความต้องการของประชาชน ตามลำดับ โดย ก.ธ.จ. มีมติเป็นข้อเสนอแนะสำหรับโครงการที่ไม่เป็นไปตามหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองที่ดี จำนวน ๔๗๒ ข้อ ซึ่งจังหวัด/หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อเสนอแนะไปดำเนินการแล้ว จำนวน ๒๐๘ ข้อ หรือคิดเป็นร้อยละ ๔๔.๐๗ และ ก.ธ.จ. จะได้ติดตามผลการดำเนินงานตามข้อเสนอแนะในส่วนที่เหลือต่อไป ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13708 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง นโยบายและแนวทางการส่งเสริมให้มวลชนมีการออกกำลังกายและมีส่วนร่วมในกิจกรรมการกีฬา ของคณะกรรมาธิการการศึกษาและการกีฬา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ | สว | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการศึกษาและการกีฬา สภานิติบัญญัติแห่งชาติ เรื่อง นโยบายและแนวทางการส่งเสริมให้มวลชนมีการออกกำลังกายและมีส่วนร่วมในกิจกรรมการกีฬา โดยมีผลการดำเนินการรวม ๕ ประเด็น คือ (๑) ส่งเสริมและสนับสนุน ด้านการผลิตผู้นำการออกกำลังกายและกีฬา กรมพลศึกษาได้จัดอบรมครูสอนพลศึกษาที่ไม่มีวุฒิพลศึกษาเพื่อเข้ารับการอบรมผู้นำการออกกำลังกายที่ถูกต้องในสถานศึกษาและในชุมชน (๒) ส่งเสริมและสนับสนุนองค์ความรู้ด้านการออกกำลังกายกิจกรรมกีฬาและวิทยาศาสตร์การกีฬา เพื่อสร้างเสริมและพัฒนาอย่างถูกต้อง ให้กรมพลศึกษาเป็นศูนย์กลางข้อมูลองค์ความรู้ด้านการออกกำลังกายกิจกรรมกีฬาและวิทยาศาสตร์การกีฬาเพื่อสร้างเสริมและพัฒนาอย่างถูกต้อง (๓) ส่งเสริมและสนับสนุนด้านสมรรถภาพทางกายเยาวชนและประชาชน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำเกณฑ์การทดสอบมาตรฐานสมรรถภาพทางกายเยาวชนและประชาชนของกรมพลศึกษาไปใช้ในการประเมินผล (๔) ส่งเสริมและสนับสนุนให้มวลชนมีการออกกำลังกาย และมีส่วนร่วมในกิจกรรมกีฬา ให้แต่ละหน่วยงานกำหนดนโยบายหรือส่งเสริมให้มีการจัดกิจกรรมทางกาย/กิจกรรมการออกกำลังกายแก่ประชาชนบุคลากรในหน่วยงานและผู้ที่เกี่ยวข้อง และต้องมีการติดตามและรายงานผล และ (๕) ส่งเสริมและสนับสนุนการสร้างสภาพแวดล้อมและสถานที่สำหรับการออกกำลังกายและกิจกรรมกีฬาตามความเหมาะสมสำหรับชุมชน ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นร่วมกับกรมพลศึกษาตรวจสอบและติดตามสถานะความพร้อมของสถานที่สำหรับออกกำลังกายและกิจกรรมกีฬา และสรุปผลการจัดเก็บข้อมูลสถานที่สำหรับการออกกำลังกายและกิจกรรมกีฬาตามความเหมาะสมสำหรับชุมชนทั่วประเทศ ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13709 | รายงานผลการพิจารณาแผนระดับที่ 3 (ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2561) | นร11 | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบบัญชีรายชื่อแผนระดับ ๓ (ณ สิ้นเดือนธันวาคม ๒๕๖๑) ที่ผ่านกระบวนการพิจารณาแล้ว จำนวน ๕ แผน ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. ร่างแผนพัฒนาด้านการพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์ ระยะที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) กระทรวงวัฒนธรรม ๒. แผนแม่บทด้านการพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ ปี พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๗๙ แผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (พสวท.) ปี ๒๕๖๐-๒๕๖๔ และแผนปฏิบัติการโครงการส่งเสริมการผลิตครูที่มีความพิเศษทางวิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ ระยะที่ ๓ พ.ศ. ๒๕๕๖-๒๕๖๑ ฉบับปรับปรุงและขยายระยะเวลาดำเนินงาน ระยะที่ ๓ (พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๖) กระทรวงศึกษาธิการ ๓. ร่างแผนยุทธศาสตร์วัคซีน ฉบับที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) กระทรวงสาธารณสุข ๔. แผนแม่บทพัฒนาแรงงานไทยในระยะ ๕ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) กระทรวงแรงงาน ๕. แผนปฏิบัติการด้านการบริหารจัดการแรงงานนอกระบบ (พ.ศ. ๒๕๖๐-๒๕๖๔) กระทรวงแรงงาน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13710 | การกำหนดสินค้าและบริการควบคุมตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 | พณ | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการกำหนดสินค้าและบริการควบคุมปี ๒๕๖๒ จำนวน ๕๒ รายการ จำแนกเป็น ๔๖ สินค้า และ ๖ บริการ รวมทั้งการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการพิจารณาราคายาและเวชภัณฑ์ ค่ารักษาพยาบาล ค่าบริการทางการแพทย์ และค่าบริการอื่นของสถานพยาบาล เพื่อพิจารณาความพร้อมก่อนที่จะกำหนดมาตรการที่เหมาะสมตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. ๒๕๔๒ ตามมติคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ในคราวประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๙ มกราคม ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเกี่ยวกับการแต่งตั้งและการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการพิจารณาราคายาและเวชภัณฑ์ ค่ารักษาพยาบาล ค่าบริการทางการแพทย์ และค่าบริการอื่นของสถานพยาบาล โดยองค์ประกอบของคณะอนุกรรมการฯ ควรพิจารณาให้ครอบคลุมผู้แทนจากกลุ่มวิชาชีพที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การพิจารณากำหนดมาตรการต่าง ๆ ของคณะอนุกรรมการฯ เป็นไปอย่างรอบคอบ มีความโปร่งใส และเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เป็นต้น ไปดำเนินการให้เหมาะสมและรอบคอบต่อไป ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์เร่งดำเนินการสร้างการรับรู้แก่สาธารณชนเกี่ยวกับการประกาศกำหนดสินค้าและบริการควบคุม รวมทั้งการกำหนดมาตรการที่ใช้สำหรับสินค้าหรือบริการควบคุมตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. ๒๕๕๒ ให้ถูกต้อง ชัดเจน และทั่วถึงโดยด่วน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13711 | การปรับปรุงการยุบเลิกตำแหน่งและการเกลี่ยอัตรากำลังข้าราชการพลเรือนประจำ กอ.รมน. | นร51 | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการปรับปรุงการกำหนดตำแหน่งอัตราข้าราชการพลเรือนประจำกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ซึ่งที่ผ่านมาคณะกรรมการข้าราชการพลเรือนประจำ กอ.รมน. (ก.พ.กอ.รมน.) ได้มีการปรับปรุงการกำหนดตำแหน่งอัตราข้าราชการพลเรือนประจำ กอ.รมน. ภายใต้กรอบอัตรา จำนวน ๒๐๐ อัตรา โดยไม่เพิ่มงบประมาณด้านบุคลากร โดยปรับเกลี่ยจากเดิม จำนวน ๑๗๓ อัตรา เป็น จำนวน ๑๗๑ อัตรา และต่อมาในการประชุม ก.พ.กอ.รมน. เมื่อวันที่ ๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ซึ่งมีเลขาธิการ กอ.รมน. เป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบการดำเนินการปรับปรุงการยุบเลิกตำแหน่งและการเกลี่ยอัตรากำลังข้าราชการพลเรือนประจำ กอ.รมน. ภายใต้กรอบอัตรากำลัง จำนวน ๑๗๑ อัตรา (คงเดิม) โดยไม่เพิ่มงบประมาณด้านบุคลากร ตามที่ กอ.รมน. เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13712 | รายงานผลการดำเนินการจัดตั้งศูนย์ที่นี่มีงานทำ (Job Ready Center) | รง | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการจัดตั้งศูนย์ที่นี่มีงานทำ (Job Ready Center) ซึ่งเป็นการร่วมมือกันระหว่างหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนตามแนวทาง “ประชารัฐ ร่วมใจ เพื่อคนไทยมีงานทำ” เพื่อแก้ปัญหาให้กับผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีที่ตกงาน และส่งเสริมการจ้างงานผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีที่ยังไม่มีงานทำ ให้มีรายได้ตรงตามความต้องการและความสามารถของตนเอง โดยการสร้างโอกาสในการเข้าถึงตำแหน่งว่างงาน การพัฒนาทักษะอย่างเท่าเทียมได้รับการคุ้มครอง และมีหลักประกันเพื่อเสริมสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี โดยผลการดำเนินการในภาพรวม (๑๙ กรกฎาคม-๓๐ ตุลาคม ๒๕๖๑) มีผู้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรีสมัครงานผ่านศูนย์ฯ ได้รับการบรรจุงาน จำนวน ๑๗,๓๖๔ คน และได้งานทำผ่านแอปพลิเคชัน LINE JOBS จำนวน ๗,๕๕๘ คน รวมทั้งสิ้น ๒๔,๙๒๒ คน ก่อให้เกิดรายได้ จำนวน ๓๗๓,๘๐๐,๐๐๐ บาท ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13713 | รายงานผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน (เรื่อง สิทธิชุมชนกรณีกล่าวอ้างว่าการระงับการก่อสร้างเส้นทางเชื่อมโยงอำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร ถึงอำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน) | คค | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะของมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน (เรื่อง สิทธิมนุษยชนกรณีกล่าวอ้างว่าการระงับการก่อสร้างเส้นทางเชื่อมโยงอำเภอคลองลาน จังหวัดกำแพงเพชร ถึงอำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก เป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน) ซึ่งในส่วนของกระทรวงคมนาคม โดยกรมทางหลวง มีแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาทางหลวงในพื้นที่อำเภออุ้มผาง โดยปรับปรุงทางหลวงหมายเลข ๑๐๙๐ อำเภออุ้มผาง-อำเภอแม่สอด ให้มีมาตรฐานที่สูง และกระทรวงมหาดไทยมีแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๑ ของจังหวัดตาก ซึ่งมีโครงการเกี่ยวกับการสนับสนุนและส่งเสริมการเข้าถึงสาธารณูปโภค สำหรับกระทรวงศึกษาธิการมีแผนพัฒนาการศึกษา (พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๕) ของจังหวัดตาก เน้นเรื่องการขยายและสร้างโอกาสในการเรียนรู้อย่างทั่วถึงตลอดชีวิตเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ สร้างภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลง และพัฒนากำลังและเพิ่มขีดความสามารถรองรับการแข่งขันของประเทศ รวมทั้งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอยู่ระหว่างการศึกษาการนำมาตรการทางการเงินเพื่อสิ่งแวดล้อม เช่น ค่าบริการทางระบบนิเวศ (Payments for ecosystem services : PES) หรือการแบ่งปัน (Benefit sharing) มาใช้เป็นมาตรการชดเชยและส่งเสริมการพัฒนาในด้านต่าง ๆ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13714 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสุภารัชต์ กาญจนะวณิชย์) | สธ | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายเกียรติศักดิ์ ราชบริรักษ์ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขาอายุรกรรม) กลุ่มงานอายุรกรรม โรงพยาบาลหาดใหญ่ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสงขลา สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๑ มิถุนายน ๒๕๖๑ ๒. นางสุภารัชต์ กาญจนะวณิชย์ ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขากุมารเวชกรรม) กลุ่มงานกุมารเวชกรรม โรงพยาบาลนครพิงค์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๒๔ กรกฎาคม ๒๕๖๑
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13715 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดจำนวนการจ้างงาน หรือรายได้ของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. .... | นร | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดจำนวนการจ้างงาน หรือรายได้ของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเพิ่มเกณฑ์รายได้ของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจของโลก และโครงสร้างทางธุรกิจของกิจการที่ปัจจุบันได้เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ตามที่สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรผลักดันให้หน่วยงานภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องนำบทนิยามที่กำหนดขึ้นไปใช้ในการกำหนดลักษณะของวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมเป้าหมายสำหรับการดำเนินมาตรการ แผนงาน และโครงการในการส่งเสริมและสนับสนุนวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม เพื่อให้มีมาตรฐานเดียวกัน และสามารถเชื่อมโยงข้อมูลผู้รับบริการและข้อมูลผลการดำเนินงานระหว่างหน่วยงานได้อย่างเป็นระบบ เป็นประโยชน์ต่อการติดตามประเมินผลและการปรับปรุงการดำเนินงานให้บรรลุผลได้อย่างมีประสิทธิภาพในอนาคต ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13716 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลปูโยะ และตำบลมูโนะ อำเภอสุไหงโก - ลก จังหวัดนราธิวาส ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... | กษ | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดิน ในท้องที่ตำบลปูโยะ และตำบลมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ให้เป็นเขตปฏิรูปที่ดิน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินในท้องที่ดังกล่าว เพื่อให้สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) สามารถจัดซื้อที่ดินและนำมาจัดสรรให้แก่เกษตรกรผู้ไม่มีที่ดินทำกิน หรือมีที่ดินไม่เพียงพอแก่การครองชีพหรือต้องเช่าที่ดินของผู้อื่นประกอบเกษตรกรรมจำนวนมาก ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้ ส.ป.ก. พิจารณาดำเนินการให้สอดคล้องกับการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล รวมทั้งควรติดตามดูแลให้เกษตรกรสามารถรักษาที่ดินที่ได้รับให้เป็นแหล่งประกอบอาชีพได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน และควรกำหนดแนวทางการใช้ประโยชน์ที่ดินให้สอดคล้องกับศักยภาพของพื้นที่และความต้องการของตลาด รวมถึงแนวทางการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาลที่เหมาะสมกับเงื่อนไขการพัฒนาในพื้นที่ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13717 | ร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลดอนยายหอม และตำบลถนนขาด อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน | คค | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง กำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลดอนยายหอม และตำบลถนนขาด อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้การเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ ในท้องที่ตำบลดอนยายหอม และตำบลถนนขาด อำเภอเมืองนครปฐม จังหวัดนครปฐม เป็นกรณีที่มีความจำเป็นโดยเร่งด่วน เพื่อให้เจ้าหน้าที่หรือผู้ซึ่งได้รับมอบหมายจากเจ้าหน้าที่มีอำนาจวางเงินค่าทดแทน เข้าครอบครองหรือใช้อสังหาริมทรัพย์ที่จะต้องเวนคืน และส่งมอบพื้นที่ก่อสร้าง เพื่อสร้างทางหลวงชนบทสายเชื่อมระหว่างทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๗๕ กับทางหลวงชนบท นฐ. ๕๐๒๒ ได้ทันตามกำหนดเวลา ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13718 | การกู้เงินเพื่อใช้ในกิจการของสำนักงานธนานุเคราะห์ ประจำปีงบประมาณ 2562 จำนวน 500 ล้านบาท | พม | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการกู้เงินเพื่อใช้ในกิจการของสำนักงานธนานุเคราะห์ ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๒ จำนวน ๕๐๐ ล้านบาท เพื่อไว้ใช้เป็นเงินทุนในการหมุนเวียนและรองรับธุรกรรมการรับจำนำของประชาชนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งเพื่อประกันการขาดสภาพคล่องทางการเงินที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินกิจการ ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ๒. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ โดยสำนักงานธนานุเคราะห์ รับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรมีการจัดทำแผนบริหารความเสี่ยง การวางแผนการเงินล่วงหน้า และการพัฒนาระบบการบริหารทางการเงินให้มีประสิทธิภาพ เพื่อให้สามารถบริการประชาชนได้ทันต่อสถานการณ์ในทุกช่วงเวลา และไม่ก่อให้เกิดภาระงบประมาณในอนาคต ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13719 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งมีข้อสังเกตเห็นสมควรแก้ไขเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติฯ และข้อสังเกตให้สำนักงานศาลยุติธรรมควรแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับของประธานศาลฎีกา ว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับการเรียกประกันหรือหลักประกันในการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจำเลยในคดีอาญา พ.ศ. ๒๕๔๘ ให้สอดคล้องกับการปรับเพดานโทษที่ผู้ถูกปล่อยชั่วคราวต้องมีประกัน รวมทั้งกำหนดให้ศาลพิจารณามีคำสั่งให้ใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรืออุปกรณ์อื่นใดที่สามารถใช้ตรวจสอบหรือจำกัดการเดินทางของผู้ถูกปล่อยชั่วคราวในคดีที่มีอัตราโทษจำคุกอย่างสูงเกิน ๑๐ ปีขึ้นไป และข้อสังเกตเกี่ยวกับมาตรา ๑๖๑/๑ ที่มีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามเฉพาะโจทก์ที่ฟ้องคดีโดยไม่สุจริต รวมทั้งเห็นควรดำเนินการจัดทำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศฐานข้อมูลเรื่องการฟ้องคดีที่ยื่นฟ้องไว้ต่างศาลกัน ให้มีการรวบรวมและเชื่อมโยงระหว่างศาลเพื่อประโยชน์ในการพิจารณาพิพากษาอรรถคดี และควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาการปล่อยชั่วคราวผู้ต้องหาหรือจำเลยโดยวิธีการที่ไม่ต้องมีหลักประกันให้มากขึ้น เพื่อให้โอกาสผู้ต้องหาหรือจำเลยไปแสวงหาพยานหลักฐานมาต่อสู้คดี ซึ่งอาจใช้อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ให้มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน หรือให้ผู้นำชุมชน ผู้อำนวยการสถานศึกษา ผู้นำทางศาสนาสามารถประกันผู้ต้องหาหรือจำเลยโดยไม่ต้องมีหลักประกัน ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ เป็นเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ในการประกาศราชกิจจานุเบกษาต่อไป ๓. ให้สำนักงานศาลยุติธรรมเป็นหน่วยงานหลักรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ไปพิจารณาร่วมกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อสังเกตดังกล่าว และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการในภาพรวม แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13720 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการดำเนินโครงการภาคีสนับสนุนป่าชุมชนลดโลกร้อน) | กค | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (มาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการดำเนินโครงการภาคีสนับสนุนป่าชุมชนลดโลกร้อน) มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลผู้บริจาคเงินเพื่อสนับสนุนโครงการภาคีสนับสนุนป่าชุมชนลดโลกร้อนมีสิทธินำเงินบริจาคมาหักเป็นรายจ่ายได้เท่าที่บริจาค แต่ไม่เกินร้อยละ ๒ ของกำไรสุทธิ ทั้งนี้ การบริจาคตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๑ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๖๕ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้แก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชกฤษฎีกาในเรื่องนี้โดยให้ครอบคลุมพื้นที่อุทยานแห่งชาติ ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าในเมือง และพื้นที่สาธารณะอื่น ๆ ที่ต้องการอนุรักษ์และเพิ่มพื้นที่ป่า ตามข้อเสนอของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรจัดทำประมาณการรายได้เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน และใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินการทางการเงินการคลังและงบประมาณของประเทศ ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ต่อไป และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนป่าชุมชนลดโลกร้อนที่ผ่านมา เมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการ นอกจากนี้ ควรประชาสัมพันธ์สร้างการรับรู้แก่ภาคเอกชนและภาคประชาชนเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าวอย่างกว้างขวางและทั่วถึง เพื่อกระตุ้นให้ภาคส่วนต่าง ๆ เข้ามาสนับสนุนชุมชนที่ดูแลรักษาป่าชุมชนให้มากขึ้น รวมทั้งควรมีการติดตามประเมินผลการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องเพื่อให้มีข้อมูลประกอบการพิจารณาหากมีความจำเป็นต้องขยายระยะเวลาการดำเนินมาตรการในอนาคต ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
.....