ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 602 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 12021 - 12040 จากข้อมูลทั้งหมด 123972 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
12021 | ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง ยกเลิกประกาศกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการส่งสินค้าออกไปนอกราชอาณาจักร (ฉบับที่ 43) พ.ศ. 2530 พ.ศ. .... | พณ | 01/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง ยกเลิกประกาศกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการส่งสินค้าออกไปนอกราชอาณาจักร (ฉบับที่ ๔๓) พ.ศ. ๒๕๓๐ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเพื่อยกเลิกการกำหนดให้สินค้ากุ้งและปลาหมึกแช่เย็นหรือแช่แข็ง และผลิตภัณฑ์อาหารที่มีกุ้งผสมที่ส่งออกไปยังสหรัฐอเมริกาและสหภาพยุโรป เป็นสินค้าที่ต้องมีหนังสือรับรองด้านสุขอนามัย และผู้ส่งออกต้องเป็นสมาชิกสมาคมผู้ค้าผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำและอาหารแช่เยือกแข็งไทย ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12022 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2561 ของกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ | กค | 01/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๑ ของกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ประกอบด้วยงบแสดงฐานะการเงิน และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบรับรองงบการเงินและรายงานการใช้จ่ายเงินกองทุนฯ แล้วเห็นว่า งบการเงินดังกล่าวถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ การจัดทำงบการเงินของกองทุนพัฒนาระบบสถาบันการเงินเฉพาะกิจในปีต่อ ๆ ไป ให้กระทรวงการคลังเร่งรัดการดำเนินการให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12023 | รายงานผลการหารือโครงการสนับสนุนต้นทุนการผลิตให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต 2562/63 | กค | 01/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการหารือโครงการสนับสนุนต้นทุนการผลิตให้เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต ๒๕๖๒/๖๓ ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ปี ๒๕๖๒ โดยกระทรวงการคลังได้หารือร่วมกับสำนักงบประมาณและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) เรียบร้อยแล้ว โดยจะสนับสนุนต้นทุนการผลิตให้แก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี ปีการผลิต ๒๕๖๒/๖๓ ที่ ๕๐๐ บาทต่อไร่ ครัวเรือนละไม่เกิน ๒๐ ไร่ และค่าชดเชยต้นทุนเงินของ ธ.ก.ส. ในอัตรา FDR ๑๒ เดือน ของ ธ.ก.ส.+๑ หรือเท่ากับร้อยละ ๒.๔๐ ต่อปี (FDR ๑๒ เดือน ของ ธ.ก.ส. ณ เดือนกรกฎาคม ๒๕๖๒ เท่ากับร้อยละ ๑.๔๐) คิดเป็นวงเงินงบประมาณทั้งสิ้น ๒๕,๔๒๗.๔๘ ล้านบาท ซึ่งอยู่ภายในกรอบวงเงินตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๗ สิงหาคม ๒๕๖๒ และให้ใช้อัตราต้นทุนเงินดังกล่าวกับโครงการอื่นที่มีการมอบหมายให้ ธ.ก.ส. สำรองจ่ายเงินในลักษณะเดียวกันด้วย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12024 | ขอถอนร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การล้มละลายเกี่ยวกับต่างประเทศ) | ยธ | 01/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การล้มละลายเกี่ยวกับต่างประเทศ) ที่อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12025 | รัฐบาลสาธารณรัฐบอตสวานาเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐบอตสวานาประจำประเทศไทย (นายอึนโคลอย อึนโคลอย) | กต | 01/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายอึนโคลอย อึนโคลอย (Mr. Nkoloi Nkoloi) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐบอตสวานาประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายเจคอบ ดี. อึนกาเต (Mr. Jacob D. Nkate) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12026 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารราชการในต่างประเทศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กต | 01/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารราชการในต่างประเทศ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการบริหารราชการในต่างประเทศ พ.ศ. ๒๕๕๒ เกี่ยวกับการจัดหน่วยงานในต่างประเทศกรณีการไม่เพิ่มจำนวนหน่วยงาน เพื่อให้มีความคล่องตัวในการปรับปรุงโครงสร้างหน่วยงาน ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงาน ก.พ.ร. เกี่ยวกับกรณีที่มีผลเป็นการเพิ่มจำนวนหน่วยงานในต่างประเทศ ให้กระทำได้เมื่อได้รับความเห็นชอบจากสำนักงาน ก.พ.ร. และในการพิจารณาให้ความเห็นชอบดังกล่าว ให้ร่วมพิจารณากับผู้แทนสำนักงาน ก.พ. ผู้แทนสำนักงบประมาณ และผู้แทนกระทรวงการต่างประเทศ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศและสำนักงาน ก.พ.ร. รับความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับกรณีการจัดตั้งหน่วยงานในต่างประเทศที่มีผลเป็นการเพิ่มจำนวนหน่วยงานในต่างประเทศ การยุบเลิกหรือการรวมหน่วยงานในต่างประเทศตามร่างระเบียบฯ เห็นควรพิจารณาถึงความเหมาะสมกับบริบทในปัจจุบัน โดยคำนึงถึงประโยชน์ ความคุ้มค่าของประเทศ และภาระด้านงบประมาณ รวมทั้งการบริหารราชการที่มุ่งเน้นผลสัมฤทธิ์ต่อภารกิจของรัฐเป็นสำคัญ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12027 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (มาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการระดมทุนของสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ) | กค | 01/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินได้ที่เป็นดอกเบี้ยสลากออมทรัพย์และรางวัลสลากออมทรัพย์ที่ออกจำหน่ายตั้งแต่วันที่ ๑ สิงหาคม ๒๕๖๒ เป็นต้นไป และเงินฝากประเภทออมทรัพย์ของธนาคารอาคารสงเคราะห์ สำหรับดอกเบี้ยที่คำนวณตั้งแต่วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๖๒ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12028 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการจดทะเบียนคนเกิดและคนตายที่มีขึ้นนอกราชอาณาจักร พ.ศ. .... | กต | 01/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการจดทะเบียนคนเกิดและคนตายที่มีขึ้นนอกราชอาณาจักร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์แลวิธีการในการจดทะเบียนคนเกิดและคนตายที่มีขึ้นนอกราชอาณาจักรสำหรับคนที่เกิดในต่างประเทศโดยมีบิดาหรือมารดาเป็นคนสัญชาติไทย คนต่างด้าวที่ได้รับอนุญาตให้มีถิ่นที่อยู่ในราชอาณาจักรตามกฎหมายว่าด้วยคนเข้าเมือง หรือคนต่างด้าวหรือคนไร้สัญชาติซึ่งเดินทางไปหรืออาศัยอยู่นอกราชอาณาจักร โดยใช้เอกสารการเดินทางที่รัฐบาลไทยเป็นผู้ออกให้ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. อนุมัติให้ถอนร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการจดทะเบียนคนเกิดและคนตายที่มีขึ้นนอกราชอาณาจักร พ.ศ. .... ที่อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๗ เมษายน ๒๕๕๕) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอได้ แล้วแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12029 | ร่างพระราชกฤษฎีกาและร่างกฎกระทรวงเพื่อปรับปรุงการจัดเก็บภาษีเงินได้จากการลงทุนในตราสารหนี้ผ่านกองทุนรวม | กค | 01/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาและร่างกฎกระทรวงเพื่อปรับปรุงการจัดเก็บภาษีเงินได้จากการลงทุนในตราสารหนี้ผ่านกองทุนรวม รวม ๒ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นภาษีเงินได้ให้แก่บุคคลธรรมดา และบริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสำหรับเงินหรือผลประโยชน์อื่นใดที่ได้รับเนื่องมาจากกองทุนรวมหรือที่เกี่ยวกับกองทุนรวมบางกรณี ๒. ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยภาษีเงินได้ มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวง ฉบับที่ ๑๔๔ (พ.ศ. ๒๕๒๒) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยภาษีเงินได้ เพื่อกำหนดอัตราหักภาษี ณ ที่จ่าย สำหรับการจ่ายเงินได้พึงประเมินตามมาตรา ๔๐ (๔) (ก) แห่งประมวลรัษฎากร ให้แก่กองทุนรวมที่เป็นนิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายไทย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12030 | ร่างกฎกระทรวงที่ออกตามพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. 2511 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2562 จำนวน 3 ฉบับ | อก | 01/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง จำนวน ๓ ฉบับ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการการขออนุญาต การตรวจสอบ และการออกใบอนุญาตแสดงเครื่องหมายมาตรฐานกับผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม การทำผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และการนำผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเข้ามาเพื่อจำหน่ายในราชอาณาจักร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการการขออนุญาต การตรวจสอบ และการออกใบอนุญาตแสดงเครื่องหมายมาตรฐานกับผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม การทำผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม และการนำผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเข้ามาเพื่อจำหน่ายในราชอาณาจักร ตามกฎหมายว่าด้วยมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการขอและการออกใบแทนใบอนุญาตการย้ายสถานที่ที่ระบุไว้ในใบอนุญาต และการโอนใบอนุญาต พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการขอและการออกใบแทนใบอนุญาต การย้ายสถานที่ที่ระบุไว้ในใบอนุญาต และการโอนใบอนุญาต ตามกฎหมายว่าด้วยมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ๓. ร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของเครื่องหมายมาตรฐานและหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการแสดงเครื่องหมายมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงหลักเกณฑ์และวิธีการเกี่ยวกับการแสดงเครื่องหมายมาตรฐานกับผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ตามกฎหมายว่าด้วยมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12031 | สรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม | นร01 | 01/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบสรุปผลการดำเนินงานของคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมที่ได้รวบรวมผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการเพื่อช่วยเหลือการปฏิบัติงาน จำนวน ๘ คณะ ที่รับผิดชอบการแก้ไขปัญหาในประเด็นต่าง ๆ เช่น ปัญหาที่ดิน ปัญหาที่สาธารณประโยชน์และที่ดินเอกชนปล่อยทิ้งร้าง ปัญหาเกี่ยวกับสถานะและสิทธิของบุคคล ปัญหาที่อยู่อาศัยและสินเชื่อ ปัญหาด้านคดีความ กฎหมาย และกระบวนการยุติธรรม และปัญหาความมั่นคงในที่อยู่อาศัยและพื้นที่ทำกิน รวมจำนวน ๑๕๙ คดี โดยพบว่า คณะอนุกรรมการฯ ได้ดำเนินการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของภาคประชาชนจนได้ข้อยุติ จำนวน ๖๔ กรณี และอยู่ระหว่างการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จำนวน ๙๕ กรณี โดยปัญหาที่อยู่ระหว่างการดำเนินการส่วนใหญ่เป็นปัญหาที่ยืดเยื้อและมีความยุ่งยากซับซ้อน ส่วนใหญ่เป็นกรณีที่ดินทำกินและที่อยู่อาศัยซึ่งมีความเกี่ยวข้องกับภารกิจของหลายหน่วยงาน และเป็นเรื่องที่ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบในการดำเนินการ รวมทั้งใช้ระยะเวลาในการแก้ไขปัญหาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะประเด็นปัญหาที่เกี่ยวข้องกับข้อกฎหมาย อีกทั้งบางประเด็นเป็นปัญหาที่ต้องแก้ไขในระดับนโยบาย ซึ่งถึงแม้ว่าคณะกรรมการแก้ไขปัญหาฯ จะได้ขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจนเป็นที่ยุติบางส่วนแล้ว แต่ยังคงมีหลายกรณีที่อยู่ระหว่างรอหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการช่วยเหลือแก้ไขปัญหา และมอบหมายให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงยุติธรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาของประชาชนอย่างต่อเนื่องต่อไป ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ โดยให้รับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ปัญหาที่ดิน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดกระบวนการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนและโฉนดชุมชนภายใต้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ และกระบวนการรังวัดสำรวจรายแปลงร่วมกับราษฎรในพื้นที่และผู้แทนขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมต่อไป เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒. ให้หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายตามข้อ ๑ รายงานผลการดำเนินการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรมให้คณะกรรมการกำกับติดตามการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของมวลชนทราบ และประชาสัมพันธ์ผลการดำเนินการดังกล่าวให้ประชาชนทราบอย่างต่อเนื่องด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12032 | ขออนุมัติการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณเพื่อเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการ | พน | 01/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงพลังงานก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ตามนัยมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อเป็นค่าเช่ารถยนต์ประจำตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน ตามกำหนดอัตราค่าเช่ารถประจำตำแหน่งรองอธิบดีหรือเทียบเท่า ไม่เกินเดือนละ ๒๖,๑๐๐ บาท/คัน/เดือน (ขนาดปริมาตรกระบอกสูบไม่เกิน ๒,๐๐๐ ซีซี) ระยะเวลา ๕ ปี ภายในวงเงิน ๑,๔๐๙,๔๐๐ บาท โดยเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ จำนวน ๑๕๖,๖๐๐ บาท ซึ่งสำนักงบประมาณได้เสนอตั้งงบประมาณรองรับไว้แล้ว และผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๗ จำนวน ๑,๒๕๒,๘๐๐ บาท โดยให้เสนอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนให้สอดคล้องกับวงเงินสัญญาต่อไป และยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรี กรณีเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการต่ำกว่า ๕ ปี ด้วย หากการเช่ารถยนต์ประจำตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงานดังกล่าวมีระยะเวลาต่ำกว่า ๕ ปี ทั้งนี้ ให้สำนักงานนโยบายและแผนพลังงานดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน โดยคำนึงถึงความจำเป็นและเหมาะสม อันสอดคล้องกับเงื่อนเวลาของภารกิจดังกล่าว และประโยชน์ที่ทางราชการจะได้รับเป็นสำคัญด้วย ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12033 | (ร่าง) แถลงการณ์ร่วมอาเซียนว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศสำหรับการประชุมรัฐภาคี กรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 25 | ทส | 01/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบ (ร่าง) แถลงการณ์ร่วมอาเซียนว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (ASEAN Joint Statement on Climate Change) สำหรับการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ ๒๕ (United Nations Framework Convention on Climate Change, the 25th Session of the Conference of the Parties : UNFCCC COP 25) โดยร่างแถลงการณ์ร่วมอาเซียนฯ มีสาระสำคัญเป็นการแสดงจุดยืนร่วมกันของประเทศสมาชิกอาเซียน ได้แก่ (๑) เน้นย้ำความมุ่งมั่นของรัฐภาคีต่อกรอบอนุสัญญาฯ ภายใต้การดำเนินการที่ผ่านมาในด้านต่าง ๆ ของภูมิภาคอาเซียน (๒) เน้นย้ำผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ จากรายงานการประเมินและรายงานพิเศษของคณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเรียกร้องให้รัฐภาคียกระดับการดำเนินการด้านการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและการปรับตัวต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ตามการประกาศการมีส่วนร่วมที่ประเทศกำหนด (๓) ยินดีต่อข้อตัดสินใจที่รับรองในที่ประชุมรัฐภาคีอนุสัญญาฯ สมัยที่ ๒๔ และที่ประชุมรัฐภาคีความตกลงปารีส สมัยที่ ๑ ที่เมืองคาโตวิเซ สาธารณรัฐโปแลนด์ และเรียกร้องให้เร่งดำเนินการเพื่อหาข้อยุติในการเจรจาในประเด็นสำคัญที่กำหนดให้มีข้อสรุปภายในปีนี้ (๔) ตระหนักถึงความสำคัญของการยกระดับการดำเนินงานก่อนปี ๒๕๖๓ และข้อกำหนดกลไกการดำเนินงานของรัฐภาคีประเทศพัฒนาแล้ว (๕) เน้นย้ำถึงความจำเป็นของการเสริมสร้างการสนับสนุนประเทศสมาชิกอาเซียนและรัฐภาคีประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ ในการวิเคราะห์ความเสี่ยงและการปรับตัวต่อผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และ (๖) เน้นย้ำความจำเป็นของการสนับสนุนและการเข้าถึงแหล่งเงินทุนด้านสภาพภูมิอากาศ การสนับสนุนด้านการพัฒนาและถ่ายทอดทางเทคโนโลยีและการเสริมสร้างศักยภาพต่อประเทศสมาชิกอาเซียนและรัฐภาคีประเทศกำลังพัฒนาอื่น ๆ ๑.๒ มอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมเห็นชอบ (ร่าง) แถลงการณ์ร่วมฯ ในการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ ๑๕ ณ เมืองเสียมราฐ ราชอาณาจักรกัมพูชา ในวันที่ ๗-๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๒ และมอบหมายให้รัฐมนตรีหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมรับรอง (ร่าง) แถลงการณ์ร่วมฯ ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๓๕ ในวันที่ ๓๑ ตุลาคม-๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ณ กรุงเทพมหานคร ตามลำดับ ๑.๓ มอบหมายให้นายกรัฐมนตรีหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายนำเสนอ (ร่าง) แถลงการณ์ร่วมอาเซียนฯ ต่อที่ประชุม UNFCCC COP 25 ในวันที่ ๒-๑๓ ธันวาคม ๒๕๖๒ ณ กรุงซันติอาโก สาธารณรัฐชิลี ตามความเหมาะสมในฐานะที่ไทยดำรงตำแหน่งประธานอาเซียนปี ๒๕๖๒ ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยน (ร่าง) แถลงการณ์ร่วมฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยจะได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12034 | การขอความเห็นชอบต่อร่างถ้อยแถลงร่วมว่าด้วยการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือด้านสื่อมวลชนอาเซียน-จีน | นร02 | 01/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่สำนักนายกรัฐมนตรี (กรมประชาสัมพันธ์) เสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างถ้อยแถลงร่วมว่าด้วยการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือด้านสื่อมวลชนอาเซียน-จีน (Joint Statement on Strengthening Media Exchanges and Cooperation between ASEAN and China) มีสาระสำคัญเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียน-จีน ผ่านกิจกรรมความร่วมมือด้านสื่อสารมวลชนที่หลากหลายเพื่อมุ่งให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และประโยชน์สูงสุดร่วมกัน ได้แก่ (๑) การส่งเสริมการสื่อสารระหว่างรัฐบาลของอาเซียนและจีนเกี่ยวกับนโยบายและประเด็นด้านสื่อสารมวลชน (๒) ความร่วมมือด้านการรายงานข่าวและการผลิตข่าว (๓) การยกระดับความร่วมมือด้านการผลิตเนื้อหาสื่อ (๔) การส่งเสริมความร่วมมือเพื่อประโยชน์ร่วมกันในการเผยแพร่ภาพยนตร์และรายการโทรทัศน์ที่มีคุณภาพ (๕) การส่งเสริมให้สื่อมวลชนจากทั้งสองฝ่ายเข้าร่วมเทศกาลภาพยนตร์และโทรทัศน์ที่จัดขึ้นในจีนและประเทศสมาชิกอาเซียน (๖) การเพิ่มพูนความร่วมมือด้านการวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี และ (๗) การส่งเสริมการศึกษาและการฝึกอบรมด้านสื่อสารมวลชน ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายเทวัญ ลิปตพัลลภ) ในฐานะรัฐมนตรีสารนิเทศอาเซียนของไทยรับรองร่างถ้อยแถลงร่วมฯ แบบเวียน (Ad-referendum Endorsement) โดยกรมประชาสัมพันธ์จะประสานสำนักเลขาธิการอาเซียนเพื่อแจ้งยืนยันการรับรองของไทย และเสนอให้ผู้นำรับรองในที่ประชุมสุดยอดอาเซียน-จีน ครั้งที่ ๒๒ ในเดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๒ ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพต่อไป ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างถ้อยแถลงร่วมฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้สำนักนายกรัฐมนตรี (กรมประชาสัมพันธ์) ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12035 | งบการเงินของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำหรับปีสิ้นสุด วันที่ 31 ธันวาคม 2561 | ยธ | 01/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบงบการเงินของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๑ ประกอบด้วยงบแสดงฐานะการเงิน และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบรับรองงบการเงินของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติดเรียบร้อยแล้วโดยถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ทั้งนี้ การจัดทำงบการเงินของกองทุนป้องกันและปราบปรามยาเสพติดในปีต่อ ๆ ไป ให้กระทรวงยุติธรรมเร่งรัดการดำเนินการให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้อย่างเคร่งครัด
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12036 | รายงานตามมาตรา 36 แห่งพระราชบัญญัติกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ พ.ศ. 2544 ประจำปี 2561 | สสส. | 01/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานประจำปี ๒๕๖๑ แห่งพระราชบัญญัติกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ พ.ศ. ๒๕๔๔ ประจำปี ๒๕๖๑ โดยมีสาระสำคัญประกอบด้วย (๑) สถานการณ์ปัจจัยเสี่ยงหลักต่อสุขภาพและผลงานเด่นในปี ๒๕๖๑ เช่น ขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ลดผู้ป่วยจากโรคไม่ติดต่อเรื้อรัง ปลุกพลังคนรุ่นใหม่ สร้างสังคมปลอดบุหรี่ ชุมชนเข้มแข็งสู้เหล้า และส่งเสริมสุขภาพพระสงฆ์ไทย สู่ผู้นำสุขภาวะ (๒) ผลการดำเนินงาน ประกอบด้วยเป้าประสงค์ ๖ ประการ ได้แก่ ลดปัจจัยเสี่ยงหลัก พัฒนากระบวนการลดปัจจัยเสี่ยงทางสุขภาพอื่น ๆ พัฒนาต้นแบบสุขภาวะ สร้างความตื่นตัวและค่านิยมใหม่ในสังคม ขยายโอกาสในการสร้างนวัตกรรม และส่งเสริมสมรรถนะของระบบสุขภาพและบริการสุขภาพ และ (๓) การตรวจสอบ ติดตาม และประเมินผลการดำเนินงานในปี ๒๕๖๑ ในส่วนของรายงานผลการตรวจสอบงบการเงินของกองทุนฯ สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๑ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบงบการเงินของกองทุนฯ ผลการดำเนินงานและกระแสเงินสด สำหรับปีสิ้นสุดวันเดียวกันแล้วเห็นว่า ถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกูล) ประธานกรรมการกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพเสนอ ๒. ในการจัดทำรายงานประจำปีในปีต่อ ๆ ไป ให้กองทุนฯ เร่งรัดการดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว และเสนอคณะรัฐมนตรีภายในกรอบระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดไว้ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12037 | แนวทางการกำหนดราคาน้ำตาลทรายเพื่อใช้บริโภคในราชอาณาจักร | อก | 01/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบแนวทางการกำหนดราคาน้ำตาลทรายเพื่อใช้บริโภคในราชอาณาจักร ของคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย โดยการกำหนดราคาน้ำตาลทราย ณ หน้าโรงงานตามมาตรา ๑๗ (๑๘) เป็นสูตรคำนวณราคาจำหน่ายน้ำตาลทรายในราชอาณาจักร ที่ประกอบด้วยข้อมูลต้นทุนการผลิตอ้อย ต้นทุนการผลิตน้ำตาลทราย ค่าจัดการจำหน่าย และผลตอบแทนการผลิตอ้อยและน้ำตาลทราย และแนวทางปฏิบัติในการใช้ข้อมูลและวิธีการคำนวณเพื่อการกำหนดราคาจำหน่ายน้ำตาลทรายในราชอาณาจักร และขอใช้แนวทางดังกล่าวเป็นการชั่วคราว จนกว่าการแก้ไขร่างพระราชบัญญัติอ้อยและน้ำตาลทราย พ.ศ. ๒๕๒๗ จะแล้วเสร็จ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ๒. เห็นชอบในหลักการร่างประกาศคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการในการกำหนดราคาจำหน่ายน้ำตาลทรายภายในราชอาณาจักร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้สำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายออกประกาศราคาจำหน่ายน้ำตาลทรายในราชอาณาจักรตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดก่อนเริ่มต้นฤดูการผลิต ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๓. ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศที่เห็นควรพิจารณาจัดเตรียมแนวทางการชี้แจงต่อฝ่ายบราซิลถึงเหตุผลความจำเป็นในการกำหนดราคาน้ำตาลทราย โดยใช้สูตรคำนวณวิธี ที่เสนอเป็นมาตรการชั่วคราว เพื่อให้เป็นไปตามกฎหมายที่มีอยู่ในปัจจุบันก่อน จนกว่าการแก้ไขกฎหมายของไทยจะแล้วเสร็จ พร้อมแสดงความมุ่งมั่นกับฝ่ายบราซิลว่าจะแก้ไขข้อพิพาทในประเด็นนี้ตามแผนการปรับโครงสร้างอุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทรายของไทย เพื่อไม่ให้การดำเนินการดังกล่าวส่งผลกระทบเชิงลบต่อพัฒนาการล่าสุดของการปรึกษาหารือระหว่างไทยกับบราซิลภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12038 | ขอความเห็นชอบต่อร่างคำมั่นของไทยที่จะประกาศในการประชุมระดับสูงว่าด้วยความไร้รัฐ | กต | 01/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างคำมั่นของไทยที่จะประกาศในการประชุมระดับสูงว่าด้วยความไร้รัฐ ในวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๒ ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ซึ่งเป็นการประชุมวันแรกของการประชุมคณะกรรมการบริหารของสำนักงานข้าหลวงใหญ่ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ ๗๐ ณ นครเจนีวา สมาพันธรัฐสวิส ระหว่างวันที่ ๗-๑๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ และเห็นชอบให้หัวหน้าคณะผู้แทนไทยร่วมให้คำมั่นของไทยต่อการประชุมระดับสูงว่าด้วยความไร้รัฐ โดยร่างคำมั่นของไทยฯ มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองเพื่อพัฒนากระบวนการแก้ไขปัญหาคนไร้รัฐไร้สัญชาติให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นบนพื้นฐานของกฎหมายและระเบียบที่มีอยู่ และให้ครอบคลุมกลุ่มที่ตกหล่นจากการแก้ไขปัญหาในอดีต ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างคำมั่นของไทยฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับ เปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติที่เห็นควรมีการประชาสัมพันธ์การประกาศคำมั่นและความก้าวหน้าในการดำเนินการอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องของไทยตระหนัก และให้ความสำคัญกับการดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมและมีประสิทธิภาพ อันจะส่งผลดีต่อภาพลักษณ์ของไทยในเวทีระหว่างประเทศต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12039 | ข้อเสนอการปรับปรุงโครงการพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ | นร12 | 01/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบในหลักการของข้อเสนอการปรับปรุงโครงการพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ (โครงการ นปร.) ตามมติคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ในการประชุมครั้งที่ ๔/๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๑๕ สิงหาคม ๒๕๖๒ โดยให้สำนักงาน ก.พ.ร. รับไปพิจารณาทบทวนและหารือร่วมกับสำนักงาน ก.พ. สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องในประเด็นต่าง ๆ ให้เหมาะสมชัดเจน ดังนี้ ๑.๑ แนวทางการพัฒนานักบริหารการเปลี่ยนแปลงรุ่นใหม่ (นปร.) ทั้งในด้านวิชาการและการฝึกปฏิบัติราชการควรจะต้องสอดคล้องและตรงตามความต้องการของแต่ละส่วนราชการซึ่งมีบทบาทและภารกิจที่แตกต่างกัน มากยิ่งขึ้น ๑.๒ การบรรจุและแต่งตั้ง นปร. เข้ารับราชการ ควรพิจารณาดำเนินการให้มีการกระจายตัวไปยังส่วนราชการต่าง ๆ อย่างเหมาะสมและทั่วถึง (ไม่กระจุกตัวอยู่ในส่วนราชการเดิม ๆ เพียง ๒-๓ แห่ง เท่านั้น) ๑.๓ นอกเหนือจากการพิจารณาความจำเป็นเหมาะสมของการขยายกรอบอัตรากำลังของ นปร. เป็นจำนวน ๑๕๐ อัตราแล้ว ควรพิจารณาแนวทางการกำหนดอัตรากำลังรองรับการบรรจุและแต่งตั้ง นปร. ของแต่ละส่วนราชการให้เหมาะสมและมีความคล่องตัวมากยิ่งขึ้นด้วย ๑.๔ เมื่อ นปร. ได้รับการบรรจุและแต่งตั้งให้รับราชการแล้ว ควรมีกลไกการติดตาม กำกับ ดูแล เพื่อให้ นปร. ดังกล่าวสามารถปฏิบัติหน้าที่ให้แก่ส่วนราชการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และคงไว้ซึ่งความเป็นข้าราชการที่มีความสามารถสูง มีคุณธรรม จริยธรรม และเป็นผู้ขับเคลื่อนการเปลี่ยนแปลงให้แก่องค์กร ทั้งนี้ ให้สำนักงาน ก.พ.ร. รับความเห็น ข้อเสนอแนะ และข้อสังเกตของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น (๑) ควรมุ่งเน้นส่งเสริมสร้างขีดสมรรถนะในการบริหารเชิงยุทธศาสตร์ (Strategic Management) ในการพัฒนา นปร. รวมทั้งควรศึกษาและกำหนดกรอบแนวทางจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องอย่างรอบคอบ ตลอดจนรูปแบบ วิธีการประเมินผล และแนวทางการบรรจุ นปร. กลับไปยังส่วนราชการนั้น ๆ ภายหลังเสร็จสิ้นโครงการอย่างเป็นระบบ และ (๒) ควรเพิ่มการเรียนรู้และฝึกปฏิบัติทางด้านเทคโนโลยีในอนาคตที่มีผลต่อการพัฒนาระบบราชการ เพื่อประโยชน์ต่อการสร้างนวัตกรรมในระบบราชการ เป็นต้น ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการดังกล่าวด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้สำนักงาน ก.พ. และสำนักงาน ก.พ.ร. ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดแนวทางในการพัฒนาและบริหารจัดการบุคลากรภาครัฐในภาพรวม ตั้งแต่กระบวนการสรรหาและคัดเลือกบุคลากรที่มีศักยภาพสูงเข้าสู่ระบบราชการ การฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรภาครัฐที่อยู่ในระบบราชการแล้วให้มีความรู้ ความสามารถ และทักษะต่าง ๆ ที่สอดคล้องและเท่าทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการรักษาบุคลากรภาครัฐไว้ในระบบราชการ เพื่อให้กลุ่มบุคลากรดังกล่าวเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนระบบราชการให้มีประสิทธิภาพอย่างยั่งยืนต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12040 | แถลงการณ์ของการประชุมระดับสูงของคณะกรรมการบริหารศูนย์การพัฒนาขององค์กรเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา ครั้งที่ 5 | กต | 01/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแถลงการณ์ของการประชุมระดับสูงของคณะกรรมการบริหาร ครั้งที่ ๕ (5th High-Level Meeting of the Governing Board HLM) ของศูนย์การพัฒนา (Development Centre หรือ DEV) ภายใต้องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (Organisation for Economic Co-operation and Development หรือ OECD) เมื่อวันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ซึ่งที่ประชุมได้ให้การรับรองแถลงการณ์ให้เป็นเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมดังกล่าว โดยมีการปรับถ้อยคำบางส่วนของร่างแถลงการณ์ให้มีความเหมาะสมและให้เป็นปัจจุบัน ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
.....