ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 605 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 12081 - 12100 จากข้อมูลทั้งหมด 124240 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
12081 | ขออนุมัติใช้งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายไปพลางก่อน ของสำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 | กษ | 29/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติใช้งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายไปพลางก่อนของสำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ จำนวน ๑๘๐.๘๐๗ ล้านบาท [ช่วง ๖ เดือนแรก (ตุลาคม ๒๕๖๒-มีนาคม ๒๕๖๓)] ประกอบด้วย ค่าใช้จ่ายบุคลากร (เงินเดือนพนักงานและลูกจ้าง) และค่าใช้จ่ายดำเนินงาน ตามที่สำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติเสนอ ๒. ในการดำเนินการตามภารกิจของสำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติเกี่ยวกับการส่งเสริมและพัฒนาการเกษตร ให้สำนักงานสภาเกษตรกรแห่งชาติประสานการดำเนินการร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อขับเคลื่อนการดำเนินงานให้บรรลุตามเป้าหมายต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
12082 | กำหนดวันหยุดราชการเพื่มเป็นกรณีพิเศษ ในปี 2562 (30 ธันวาคม 2562) | นร05 | 29/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีเห็นว่า เพื่อให้มีวันหยุดราชการอย่างต่อเนื่องในช่วงเทศกาลปีใหม่ อันจะเป็นผลดีต่อการเดินทางกลับภูมิลำเนาและการท่องเที่ยวของประชาชน จึงมีมติ ดังนี้
๑. กำหนดให้วันจันทร์ที่ ๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๒ เป็นวันหยุดราชการเพิ่มเป็นกรณีพิเศษอีก ๑ วัน ในปี ๒๕๖๒ ๒. ในกรณีที่หน่วยงานใดมีภารกิจในการให้บริการประชาชน หรือมีความจำเป็นหรือราชการสำคัญในวันหยุดดังกล่าวโดยได้กำหนดหรือนัดหมายไว้ก่อนแล้ว ซึ่งหากยกเลิกหรือเลื่อนไปจะเกิดความเสียหายหรือกระทบต่อการให้บริการประชาชน ให้หัวหน้าหน่วยงานนั้นพิจารณาดำเนินการตามที่เห็นสมควร โดยมิให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการและกระทบต่อการให้บริการประชาชน ๓. ในส่วนของรัฐวิสาหกิจ สถาบันการเงิน และภาคเอกชน ให้รัฐวิสาหกิจแต่ละแห่ง ธนาคารแห่งประเทศไทย และกระทรวงแรงงาน พิจารณาความเหมาะสมของการกำหนดเป็นวันหยุดให้สอดคล้องกับข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องในแต่ละกรณีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
12083 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ (นายกัลยาณะ วิภัติภูมิประเทศ และ นายสุริยา จินดาวงษฺ์) | กต | 29/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้ที่เกษียณอายุราชการ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. นายกัลยาณะ วิภัติภูมิประเทศ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงออตตาวา ประเทศแคนาดา ๒. นายสุริยา จินดาวงษ์ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ สิงคโปร์ สาธารณรัฐสิงคโปร์
|
|||||||||||||||||||||||||||
12084 | การแต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ ก.พ. (นางศรีสมร กสิศิลป์) | นร10 | 29/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางศรีสมร กสิศิลป์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ ก.พ. สำนักงาน ก.พ. สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
12085 | การแต่งตั้งข้าราชการดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ กปร. (นางสาวอุศนีย์ ธูปทอง) | กร | 29/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวอุศนีย์ ธูปทอง ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการ กปร. สำนักงาน กปร. ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่สำนักงาน กปร. เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
12086 | แต่งตั้งกรรมการ (ผู้แทนกองทัพอากาศและผู้ทรงคุณวุฒิ) ในคณะกรรมการกำกับ สำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย (จำนวน 5 คน 1. นาวาอากาศเอก ศักรินทร์ ไชยวาน ฯลฯ) | คค | 29/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการ (ผู้แทนกองทัพอากาศและผู้ทรงคุณวุฒิ) ในคณะกรรมการกำกับสำนักงานการบินพลเรือนแห่งประเทศไทย จำนวน ๕ คน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้
๑. นาวาอากาศเอก ศักรินทร์ ไชยวาน ผู้แทนกองทัพอากาศ ๒. นางสาริณี อังศุสิงห์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านบริหารกิจการการบินพาณิชย์ ๓. นายชนินทร์ แก่นหิรัญ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย ๔. นางอินทิรา โภคปุณยารักษ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงินหรือการคลัง ๕. นางสาวเยาวนุช วิยาภรณ์ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านบริหารจัดการ
|
|||||||||||||||||||||||||||
12087 | การแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการการบินพลเรือน (จำนวน 7 คน 1. นายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณ ฯลฯ) | คค | 29/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการการบินพลเรือน จำนวน ๗ คน แทนกรรมการเดิมที่ขอลาออกจากตำแหน่ง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้
๑. นายชัยศักดิ์ อังค์สุวรรณ ๒. นายกฤชเทพ สิมลี ๓. นายเกษมสิทธิ์ ปฐมศักดิ์ ๔. นางสาริณี อังศุสิงห์ ๕. นายชยธรรม์ พรหมศร ๖. นายปฐม เฉลยวาเรศ ๗. ผู้ช่วยศาสตราจารย์สัญลักข์ ปัญวัฒนลิขิต
|
|||||||||||||||||||||||||||
12088 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารธุรกิจในคณะกรรมการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก | ทส | 29/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายสมชาย หวังวัฒนาพาณิช เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการบริหารธุรกิจในคณะกรรมการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก แทนผู้ที่ลาออก โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
12089 | การแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการมาตรฐานสินค้า (จำนวน 5 คน 1. นายอิทธิพล ช้างหลำ ฯลฯ) | พณ | 29/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการมาตรฐานสินค้า จำนวน ๕ คน แทนกรรมการเดิมที่ดำรงตำแหน่งครบวาระสองปี ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรี (๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. นายอิทธิพล ช้างหลำ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานสินค้า ๒. นายอภิชาติ วรรณวิจิตร ผู้ทรงคุณวุฒิด้านห้องปฏิบัติการ ๓. นางลัดดาวัลย์ กรรณนุช ผู้ทรงคุณวุฒิด้านพัฒนาผลิตภัณฑ์ข้าว ๔. นางภาณุมาศ สิทธิเวคิน ผู้ทรงคุณวุฒิด้านกฎหมาย ๕. นางสาวเกื้อกูล ปิยะจอมขวัญ ผู้ทรงคุณวุฒิด้านมันสำปะหลัง
|
|||||||||||||||||||||||||||
12090 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายอนุชา บูรพชัยศรี) | ศธ | 29/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายอนุชา บูรพชัยศรี ให้ดำรงตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
12091 | รายงานความคืบหน้าผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 3 และ 10 กันยายน 2562 | นร | 29/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานความคืบหน้าผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓ และ ๑๐ กันยายน ๒๕๖๒ และการคาดการณ์พื้นที่เสี่ยงภัยแล้งและอุทกภัยภาคใต้ รวมทั้งเห็นชอบต่อมาตรการพื้นที่เสี่ยงภัยอุทกภัยแล้ง ปี ๒๕๖๒/๖๓ และพื้นที่เสี่ยงภาคใต้ ปี ๒๕๖๒ โดยให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการเพื่อลดผลกระทบความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้น ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ และให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่ให้นำมาตรการดังกล่าวไปประกอบการพิจารณาวางแผน เพื่อรองรับกับสถานการณ์ที่จะเกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม และหากมีความจำเป็นที่จะต้องดำเนินการโครงการตามมาตรการดังกล่าว เห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตรวจสอบภารกิจและความซ้ำซ้อนของแผนงาน โครงการและกิจกรรมต่าง ๆ จากแผนงาน โครงการ และมาตรการต่าง ๆ ที่เคยได้รับการอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีหรือที่ได้รับการจัดสรรงบประมาณที่ผ่านมาให้ครบถ้วน โดยคำนึงถึงแผนการจัดสรรน้ำอย่างมีประสิทธิภาพ การจัดหาแหล่งน้ำสำรอง การขุดเจาะบ่อบาดาล รวมถึงการส่งเสริมให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการเพาะปลูกให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ และหากยังมีโครงการที่มีความจำเป็นต้องดำเนินการเพิ่มเติมภายหลังจากการตรวจสอบความซ้ำซ้อนแล้ว เห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องขอเพิ่มงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ หรือจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามขั้นตอนต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ทั้งนี้ ในการรายงานข้อมูลเกี่ยวกับการบริหารจัดการน้ำของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติในครั้งต่อ ๆ ไป ให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อรายงานข้อมูลในภาพรวมในลักษณะของการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) ด้วย ๒. ให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติร่วมกับกระทรวงมหาดไทย (กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย) กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการการทำงานร่วมกันในการบริหารจัดการน้ำให้เหมาะสมและเพียงพอในแต่ละพื้นที่ โดยไม่กระทบกับการจัดสรรน้ำเพื่อการอุปโภคและบริโภคเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและสถานการณ์อุทกภัยภาคใต้ รวมทั้งสามารถลดผลกระทบจากความเสียหายที่จะเกิดขึ้นกับประชาชนด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||
12092 | ขอถอนร่างพระราชบัญญัติ จำนวน 4 ฉบับ ออกจากการพิจารณาของรัฐสภา [ร่างพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. .... ร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด ร่างพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. ....] [ขอถอนร่างพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. .... ร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด ร่างพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ] | ยธ | 29/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบให้ถอนร่างพระราชบัญญัติที่ร้องขอต่อรัฐสภาเพื่อให้พิจารณาร่างพระราชบัญญัติที่รัฐสภายังมิได้ให้ความเห็นชอบ ตามมาตรา ๑๔๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จำนวน ๔ ฉบับ ออกจากการพิจารณาของรัฐสภา ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้เร่งดำเนินการเพื่อเสนอร่างกฎหมายฉบับใหม่ตามขั้นตอนต่อไป ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายยาเสพติด พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างประมวลกฎหมายยาเสพติด ๑.๓ ร่างพระราชบัญญัติวิธีพิจารณาคดียาเสพติด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๔ ร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. .... ๒. ให้กระทรวงยุติธรรมได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๒ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||
12093 | ขอต่อเวลาการดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง) | ยธ | 29/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของ พันตำรวจเอก ไพสิฐ วงศ์เมือง ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ต่อไปอีก ๑ ปี (ครั้งที่ ๑) ตั้งแต่วันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ถึงวันที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๓ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
12094 | กำหนดการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2562 | นร04 | 29/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบกำหนดการนายกรัฐมนตรีในการเดินทางไปตรวจราชการจังหวัดราชบุรี และจังหวัดกาญจนบุรี และประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ ๑/๒๕๖๒ ณ จังหวัดกาญจนบุรี ระหว่างวันจันทร์ที่ ๑๑-วันอังคารที่ ๑๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
12095 | ขอความเห็นชอบร่างปฏิญญาว่าด้วยการตระหนักถึงเมืองอัจฉริยะและชุมชนในภูมิภาคเอเชียผ่านแนวทางแก้ไขและมาตรการด้านการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม | คค | 29/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างปฏิญญาฮานอยว่าด้วยการตระหนักถึงเมืองอัจฉริยะและชุมชนในภูมิภาคเอเชียผ่านแนวทางแก้ไขและมาตรการด้านการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันของประเทศสมาชิกและหน่วยงานที่เข้าร่วมการประชุมด้านการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในภูมิภาคเอเชีย (Regional Environmentally Sustainable Transport (EST) Forum in Asia) ครั้งที่ ๑๒ รวมทั้งองค์การระหว่างประเทศ องค์กรทวิภาคี และพหุภาคีต่าง ๆ ภาคประชาสังคม ภาคเอกชน ผู้เชี่ยวชาญด้านการขนส่งที่ยั่งยืน รวมถึงผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เพื่อสนับสนุนผู้ที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานด้านการส่งเสริมการขนส่งที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาสู่ความเป็นเมืองอัจฉริยะและมีความทนทาน การพัฒนาการเคลื่อนที่ในเมืองโดยตระหนักถึงการเพิ่มขึ้นของประชากรอย่างรวดเร็ว การสนับสนุนให้มีการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่สำหรับการพัฒนาเมืองอัจฉริยะและชุมชนในภูมิภาคเอเชีย การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชนสำหรับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านการขนส่ง และการสนับสนุนต่อข้อผูกพันและความตกลงระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องเพื่อการบรรลุตามเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยจะมีการรับรองร่างปฏิญญาฯ ในการประชุม EST ครั้งที่ ๑๒ ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๘-๓๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ ณ กรุงฮานอย สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างปฏิญญาฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๓. ให้กระทรวงคมนาคมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||
12096 | การขอความเห็นชอบต่อร่างแถลงการณ์ร่วมสำหรับการประชุมคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ครั้งที่ 22 | พม | 29/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมสำหรับการประชุมคณะมนตรีประชาสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ครั้งที่ ๒๒ ซึ่งเป็นเอกสารที่จะมีการรับรองโดยไม่มีการลงนามในการประชุมคณะมนตรีประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน ครั้งที่ ๒๒ ที่จะมีขึ้นในวันที่ ๒ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ณ กรุงเทพมหานคร และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ในฐานะหัวหน้าคณะผู้แทนไทยในการประชุมฯ ร่วมรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมฯ โดยร่างแถลงการณ์ร่วมฯ มีสาระสำคัญ เช่น การสนับสนุนและขอบคุณการเป็นประธานอาเซียนของประเทศไทย การรับรองและรับทราบเอกสารผลลัพธ์เกี่ยวกับประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน จำนวน ๙ ฉบับ ที่จะเสนอให้ผู้นำอาเซียนพิจารณาในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน ครั้งที่ ๓๕ การยืนยันความสำคัญของการสร้างราชการพลเรือนที่มีความพร้อมสำหรับการเปลี่ยนผ่านดิจิทัล และการชื่นชมการดำเนินการในประเด็นเกี่ยวกับสิทธิเด็กและข้อริเริ่มต่าง ๆ เพื่อให้บรรลุตามแผนงานประชาคมสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน พ.ศ. ๒๕๖๘ เป็นต้น ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||
12097 | ร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ 11 | กต | 29/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างเอกสารผลลัพธ์ของประชุม ได้แก่ (๑) ร่างถ้อยแถลงร่วมการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ ๑๑ เป็นเอกสารแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองของผู้นำประเทศสมาชิกในการขับเคลื่อนกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น และ (๒) ร่างข้อริเริ่มลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่นเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ค.ศ. ๒๐๓๐ เป็นเอกสารที่จะนำมาใช้แทนแผนปฏิบัติการทศวรรษที่มุ่งสู่การเป็นภูมิภาคลุ่มน้ำโขงสีเขียวซี่งได้รับการรับรองเมื่อปี ค.ศ. ๒๐๐๙ มีวัตถุประสงค์เพื่อกำหนดแนวทางในการส่งเสริมความร่วมมือเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง โดยจะมีการรับรองเอกสารผลลัพธ์ฯ ในการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น ครั้งที่ ๑๑ ในวันที่ ๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ณ กรุงเทพมหานคร ๑.๒ ให้นายกรัฐมนตรีหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายร่วมให้การรับรองร่างเอกสารผลลัพธ์ฯ ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารผลลัพธ์ฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลังพร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๓. ให้กระทรวงการต่างประเทศได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||
12098 | บันทึกช่วยจำว่าด้วยกรอบความร่วมมือแบบหุ้นส่วนระหว่างญี่ปุ่นกับไทย ระยะที่สาม [Memorandum on Japan - Thailand Partnership Programme Phase 3 (JTPP3)] | กต | 29/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบร่างบันทึกช่วยจำว่าด้วยกรอบความร่วมมือแบบหุ้นส่วนระหว่างญี่ปุ่นกับไทย ระยะที่สาม (Memorandum on Japan-Thailand Partnership Propramme Phase 3 (JTPP3) ซึ่งจัดทำขึ้นระหว่างรัฐบาลญี่ปุ่นและรัฐบาลไทย มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความเชื่อมโยงในภูมิภาคที่มีพลังและมีประสิทธิผล เพื่อส่งเสริมการรวมตัวของประชาคมอาเซียนที่จะก่อให้เกิดแนวคิดอินโด-แปซิฟิกที่เสรีและเปิดกว้าง ยุทธศาสตร์โตเกียว ค.ศ. ๒๐๑๘ เพื่อความร่วมมือลุ่มน้ำโขงกับญี่ปุ่น และแผนแม่บทยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิระวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง [Ayeyawady-Chao Phraya-Mekong Economic Cooperation Strategy (ACMECS)] ระยะ ๕ ปี (๒๕๖๒-๒๕๖๖) รวมทั้งสนับสนุนบรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน และแสวงหาการผสานข้อริเริ่มใหม่ ๆ ที่รวมถึงการส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพและนโยบายประเทศไทย ๔.๐ ๑.๒ อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายลงนามในบันทึกช่วยจำฯ JTPP3 ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนบันทึกช่วยจำฯ JTPP3 ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย ๓. ให้กระทรวงการต่างประเทศได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||
12099 | ร่างแถลงการณ์ร่วมต่อสื่อมวลชนระหว่างรัฐบาลราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนในโอกาสการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน | กต | 29/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบร่างแถลงการณ์ร่วมต่อสื่อมวลชนระหว่างรัฐบาลราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนในโอกาสการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน (Joint Press Statement Between the Government of the People’s Republic of China and the Government of the Kingdom of Thailand โดยร่างแถลงการณ์ร่วมฯ เป็นเอกสารผลลัพธ์การเยือนไทยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีสาธารณรัฐประชาชนจีน ในวันที่ ๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ ณ กรุงเทพมหานคร ภายหลังเสร็จสิ้นการเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ ๓๕ และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง มีสาระสำคัญเพื่อกำหนดแนวทางการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างกันอย่างรอบด้าน ได้แก่ (๑) ความสัมพันธ์ในภาพรวม (๒) เศรษฐกิจ การค้า การลงทุนและการท่องเที่ยว (๓) วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม (๔) การศึกษา วัฒนธรรมและความเชื่อมโยงระดับประชาชน (๕) การเมืองและความมั่นคง และ (๖) ความร่วมมือในภูมิภาคและเวทีระหว่างประเทศ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์ร่วมฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||
12100 | เอกสารที่จะรับรองในการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของเวทีความร่วมมือระหว่างเอเชียตะวันออกกับลาตินอเมริกา ครั้งที่ 9 ที่สาธารณรัฐโดมินิกัน | กต | 29/10/2562 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็บชอบร่าง Santo Domingo Declaration ซึ่งมีภาคผนวกคือ Guideline for FEALAC Cooperation Projects ที่จะรับรองในที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศของเวทีความร่วมมือระหว่างเอเชียตะวันออกกับลาตินอเมริกา (Forum for East Asia-Latin America Cooperation : FEALAC) ครั้งที่ ๙ ที่กรุงซันโตโดมิงโก สาธารณรัฐโดมินิกัน ในวันที่ ๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๒ โดยร่าง Santo Domingo Declaration มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์ของประเทศสมาชิก FEALAC ที่จะร่วมกันกระชับความร่วมมือระหว่างภูมิภาคเอเชียตะวันออกกับลาตินอเมริกา โดยมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารองค์กรและการทบทวนแผนปฏิบัติการ FEALAC ซึ่งเป็นพื้นฐานในการกำหนดทิศทางของการดำเนินโครงการและกิจกรรมที่ส่งเสริมความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิก และแสวงหาแนวทางเสริมสร้างประสิทธิภาพของเวทีความร่วมมือ FEALAC ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน รวมทั้งการศึกษาความเป็นไปได้ในการยกระดับให้มีกลไกความร่วมมือระดับการประชุมสุดยอด การส่งเสริมให้คณะทำงานต่าง ๆ หารือแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นอย่างใกล้ชิดยิ่งขึ้น การให้ความสำคัญกับการสร้างความเป็นหุ้นส่วนระหว่าง FEALAC กับองค์การระหว่างประเทศต่าง ๆ การส่งเสริมการค้าเสรีและเศรษฐกิจดิจิทัล การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และความร่วมมือด้านการศึกษา วัฒนธรรม สังคมและการเมืองระหว่างภูมิภาค ส่วนร่าง Guideline for FEALAC Cooperation Projects มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดวัตถุประสงค์ หลักการและแนวทางการดำเนินโครงการความร่วมมือภายใต้ FEALAC รวมถึงขั้นตอนการดำเนินโครงการ การประเมินและรายงานผลการดำเนินโครงการต่อคณะทำงานต่าง ๆ ตลอดจนบทบาทหน้าที่ของประธานร่วมของคณะทำงาน ๑.๒ อนุมัติให้นางพรพิมล กาญจนลักษณ์ ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุม FEALAC FMM ครั้งที่ ๙ ในฐานะผู้แทนพิเศษ (Special Envoy) ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และร่วมรับรองเอกสารทั้งสองฉบับดังกล่าว ๒. หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารทั้งสองฉบับดังกล่าวในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๓. ให้กระทรวงการต่างประเทศได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
.....