ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 177 จากทั้งหมด 6213 หน้า แสดงรายการที่ 3521 - 3540 จากข้อมูลทั้งหมด 124248 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
3521 | การจัดทำโครงการของขวัญปีใหม่ของกระทรวงมหาดไทยเพื่อมอบให้ประชาชน ประจำปี พ.ศ. 2567 | มท. | 26/12/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการจัดทำโครงการของขวัญปีใหม่ของกระทรวงมหาดไทยเพื่อมอบให้ประชาชน
ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๗ ดังนี้ (๑) ด้านบำบัดทุกข์ เช่น โครงการลูกหนี้อุ่นใจ มหาดไทยช่วยไกล่เกลี่ย
โครงการมาตรการปรับลดอัตราดอกเบี้ยสถานธนานุบาลขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อลดการก่อหนี้นอกระบบ
และโครงการมหาดไทย เติมน้ำ เติมสุข บำบัดทุกข์ คลายแล้ง เป็นต้น (๒) ด้านบำรุงสุข
เช่น โครงการ OTOP Giftset : กระเช้าปีใหม่ คนไทยร้องว้าว โครงการปันรักษ์ ปันสุข จากศูนย์แบ่งปันเมล็ดพันธุ์ชุมชน และโครงการสร้างรายได้
กระจายโอกาส ให้ชุมชนและเกษตรกรกับองค์การตลาด กระทรวงมหาดไทย เป็นต้น ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3522 | การกำกับ ควบคุม และดูแลงานก่อสร้าง/โครงการของภาครัฐและภาคเอกชนให้มีความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน | นร. | 26/12/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า เนื่องจากในช่วงที่ผ่านมาได้เกิดอุบัติเหตุทั้งในบริเวณพื้นที่ก่อสร้างโครงการรถไฟฟ้าสายต่าง
ๆ รวมทั้งโครงการก่อสร้างอาคาร สถานที่ และเส้นทางจราจรในสายทางต่าง ๆ
อยู่บ่อยครั้ง โดยครั้งล่าสุด ได้แก่ โครงการรถไฟฟ้าสายสีชมพู ช่วงแคราย-มีนบุรี และโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง
ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ซึ่งส่งผลให้ประชาชนเสียชีวิตบาดเจ็บ
และทรัพย์สินเสียหายเป็นจำนวนมาก ดังนั้น จึงขอมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
กระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจในการกำกับ
ควบคุม และดูแลงานก่อสร้าง/โครงการต่าง ๆ
ทั้งของภาครัฐและภาคเอกชนในความรับผิดชอบให้เป็นไปอย่างถูกต้อง เหมาะสม ตามบทบัญญัติของกฎหมาย
ระเบียบ หลักเกณฑ์
และมาตรการเกี่ยวกับการป้องกันและรักษาความปลอดภัยที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง
เพื่อป้องกันมิให้เกิดเหตุการณ์ในลักษณะเช่นนี้ขึ้นอีก
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3523 | แผนงาน/โครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2567 ให้แก่ประชาชนของกระทรวงกลาโหม | กห. | 26/12/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแผนงาน/โครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๗
ให้แก่ประชาชนของกระทรวงกลาโหม ประกอบด้วย ๓ กิจกรรม ได้แก่ (๑)
กิจกรรมระหว่างการเดินทาง เช่น จัดตั้งจุดบริการประชาชน
ประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารและเส้นทางจราจรต่าง ๆ (๒) กิจกรรมจุดหมายปลายทาง เช่น จัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือประชาชนและนักท่องเที่ยวทางทะเล
เปิดแหล่งท่องเที่ยวและพิพิธภัณฑ์ ให้บริการศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
และโครงการเกษตรผสมผสานตามแนวทางศาสตร์พระราชาในพื้นที่ทหารทั่วประเทศ
โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายในการเข้าชม และ (๓) กิจกรรมที่ดำเนินการตลอดห้วงปี ๒๕๖๗ เช่น จัดเจ้าหน้าที่ช่วยเหลือดูแลและฟื้นฟูบ้านเรือนที่ประสบอุทกภัยในทุกภูมิภาคของประเทศ
ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3524 | การดำเนินโครงการ/กิจกรรมของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2567 ให้แก่ประชาชน | อว. | 26/12/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการดำเนินโครงการ/กิจกรรมของกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. ๒๕๖๗ ให้แก่ประชาชน ของกระทรวงอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เช่น (๑) การอุดหนุนค่าสมัคร TCAS รอบ ๓ ปี ๒๕๖๗ ฟรี (๒)
การให้บริการภาพถ่ายจากดาวเทียม THEOS-2 ฟรี (๓) การจัดหลักสูตร
Upskill Reskill ให้แก่ประชาชนใน ๒๑ จังหวัด (๔) การอบรมอาชีพ
DIY ของขวัญปีใหม่ “สวนสวยในขวดแก้ว” (๕) โครงการ “โอเพ่นไทยจีพีที”
Chatbot ปัญญาประดิษฐ์ภาษาไทย ฟรีสำหรับคนไทยทุกคน (๖) การเปิดให้ประชาชนทั่วประเทศดาวน์โหลดหนังสือ
“เทิด ด้วย ทำ” จัดการน้ำสู่การพัฒนาที่ยั่งยืนได้ฟรี (๗) การให้บริการตรวจวัดรังสีที่อาจปนเปื้อนในอาหารทะเลจากประเทศญี่ปุ่นฟรี
ในเดือนมกราคม ๒๕๖๗ (๘) การให้ส่วนลดค่าบริการกลุ่มบริการทดสอบและสอบเทียบอุตสาหกรรมร้อยละ
๕-๑๐ และ (๙) การเข้าชมพิพิธภัณฑ์และกิจกรรมพิเศษต่าง ๆ เช่น การยกเว้นค่าเข้าชมแหล่งเรียนรู้ด้านเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ
(Space Inspirium) ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3525 | ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 2 หรือวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 พ.ศ. .... | สธ. | 26/12/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท
๒ หรือวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ พ..ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขการขออนุญาตและการอนุญาตให้จำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท
๒ หรือวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ กำหนดคุณสมบัติของผู้ขออนุญาต การออกใบอนุญาต การออกใบแทนใบอนุญาต
การต่ออายุใบอนุญาต และกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๒
วัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงานอัยการสูงสุด
ที่เห็นว่าร่างข้อ ๑๕ วรรคหนึ่ง
หากผู้อนุญาตไม่สามารถพิจารณาคำขอและอนุญาตให้เสร็จสิ้นได้ภายในกำหนด ๔๕ วัน
จะมีมาตรการอย่างไรในระหว่างที่พิจารณาคำขอ ควรกำหนดมาตรการเพื่อรองรับผลกระทบดังกล่าวด้วย
และร่างข้อ ๑๕ วรรคสอง กำหนดให้ผู้ขออนุญาตมีสิทธิอุทธรณ์ภายใน ๑๕ วัน
นับแต่วันที่มีคำสั่งไม่อนุญาต เห็นว่า
กำหนดระยะเวลาดังกล่าวเป็นระยะเวลาที่กระชั้นชิดควรเพิ่มระยะเวลาอุทธรณ์จาก ๑๕
วันเป็น ๓๐
วันนับตั้งแต่วันที่ผู้ขออนุญาตได้รับหรือถือว่าได้รับหนังสือแจ้งคำสั่งไม่อนุญาต
ซึ่งจะก่อให้เกิดความเป็นธรรมมากกว่า ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3526 | ร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท 2 และวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท 2 ประเภท 3 หรือประเภท 4 พ.ศ. .... | สธ. | 26/12/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการขออนุญาตและการอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท
๒ และวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ ประเภท ๓ หรือประเภท ๔ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขการอนุญาตให้มีไว้ในครอบครองซึ่งยาเสพติดให้โทษในประเภท ๒
และวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๒ ประเภท ๓ หรือประเภท ๔
การดำเนินการของผู้รับอนุญาตเพื่อประโยชน์ในการควบคุมกำกับดูแลยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์และการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมในเรื่องดังกล่าว
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
กระทรวงคมนาคม สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงานอัยการสูงสุด เช่น ควรพิจารณาให้เพิ่มข้อยกเว้นการปฏิบัติตามร่างกฎกระทรวงฯ
ในการมีมอร์ฟีน (Morphine) ซึ่งเป็นยาเสพติดให้โทษประเภทที่
๒ ไว้ในเรือเดินทะเลระหว่างประเทศ
เพื่อให้สอดคล้องกับแนวทางในระหว่างประเทศตามข้อแนะนำการรักษาพยาบาลในเรือขององค์การอนามัยโลกและองค์กรแรงงานระหว่างประเทศและตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข
เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ว่าด้วยการจัดให้มีอุปกรณ์
สิ่งอำนวยความสะดวกทางด้านการรักษาพยาบาลในห้องพยาบาลบนเรือการฝึกอบรมการปฐมพยาบาลและการรักษาพยาบาลบนเรือ
การกำหนดระยะเวลาการแจ้งคำสั่งไม่อนุญาตตามร่างกฎกระทรวงฯ ข้อ ๑๙ วรรคสอง
ควรกำหนดให้สอดคล้องตามมาตรา ๑๐ แห่งพระราชบัญญัติการอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ
พ.ศ. ๒๕๕๘ และการปรับอัตราค่าธรรมเนียมที่เพิ่มขึ้นควรแสดงให้เห็นถึงการพัฒนาประสิทธิภาพการให้บริการที่ดีขึ้น
ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3527 | ร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การยกเว้นอากร ลดและเพิ่มอัตราอากรศุลกากรตามข้อผูกพันในความตกลงมาร์ราเกชจัดตั้งองค์การการค้าโลก (ฉบับที่ ..) | กค. | 26/12/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง การยกเว้นอากร
ลด และเพิ่มอัตราอากรศุลกากรตามข้อผูกพันในความตกลงมาร์ราเกชจัดตั้งองค์การการค้าโลก
(ฉบับที่ ..) มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขปรับปรุงบัญชีอัตราอากรท้ายประกาศกระทรวงการคลัง
เรื่อง การยกเว้นอากรลดและเพิ่มอัตราอากรศุลกากรตามข้อผูกพันในความตกลงมาร์ราเกชจัดตั้งองค์การการค้าโลกลงวันที่
๒๘ ธันวาคม ๒๕๖๔
โดยขยายระยะเวลาการลดอัตราอากรศุลกากรในโควตาสำหรับสินค้ากากถั่วเหลือง
พิกัดอัตราศุลกากร ๒๓๐๔.๐๐.๒๙ รหัสย่อย ๐๑ เฉพาะที่นำเข้ามาเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมผลิตเป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์
ในอัตราร้อยละ ๒ ออกไปอีก ๓ ปี โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๗
ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๙ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
โดยให้แก้ไขระยะเวลาที่กำหนดในบัญชีอัตราอากรท้ายร่างประกาศกระทรวงการคลังให้เป็นไปตามความเห็นของคณะรัฐมนตรี
ที่เห็นควรให้ลดอัตราอากรศุลกากรในโควตาสำหรับสินค้ากากถั่วเหลืองเฉพาะที่นำเข้ามาเพื่อใช้ในอุตสาหกรรมผลิตเป็นวัตถุดิบอาหารสัตว์
ในอัตราร้อยละ ๒ เป็นระยะเวลา ๑ ปี โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม
๒๕๖๗ ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๗ แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรจะสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าว รวมถึงสถานการณ์
ความจำเป็น และประโยชน์ที่จะได้รับ ให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก
ตลอดจนติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการภาษีดังกล่าว ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๓ ต่อไป และควรพิจารณาแนวทางการเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิตถั่วเหลือง
เพื่อตอบสนองความต้องการส่วนเกินภายในประเทศภายใต้บริบทการพัฒนาภาคเกษตรของประเทศไทยควบคู่ไปกับการส่งเสริมการผลิตและการใช้วัตถุดิบอาหารสัตว์ทางเลือกเพื่อทดแทนและลดการพึ่งพาการนำเข้าจากต่างประเทศ
เพื่อเสริมสร้างความมั่นคงด้านอาหารให้กับประเทศไทยได้ตลอดห่วงโซ่อุปทาน ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่เห็นว่าจะกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขใด
ๆ ไว้ด้วยก็ได้ กรณีจึงเป็นการดำเนินการตามที่กฎหมายแม่บทให้อำนาจไว้
และอยู่ในอำนาจของคณะรัฐมนตรีที่จะพิจารณาให้ความเห็นชอบได้ตามที่เห็นสมควร อนึ่ง
โดยที่การเสนอร่างประกาศกระทรวงการคลังในครั้งนี้เป็นการขยายระยะเวลาการลดอัตราอากรในโควตาออกไปอีก
๓ ปี จึงเป็นกรณีที่กระทรวงการคลังจะต้องดำเนินการจัดทำประมาณการการสูญเสียรายได้จากการลดอัตราอากรดังกล่าวตามมาตรา
๓๒ วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ด้วย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3528 | การดำเนินโครงการเพื่อมอบเป็นของขวัญปีใหม่ พ.ศ. 2567 ให้แก่ประชาชน | กค. | 26/12/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3529 | การเปิดสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเสียมราฐ ราชอาณาจักรกัมพูชา และการปิดสถานกงสุลใหญ่ ณ กรุงอันตานานาริโว สาธารณรัฐมาดากัสการ์ เป็นการถาวร | กต. | 26/12/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงการต่างประเทศปิดสถานกงสุลใหญ่
ณ กรุงอันตานานาริโว สาธารณรัฐมาดากัสการ์ เป็นการถาวร และอนุมัติในหลักการให้เปิดสถานกงสุลใหญ่
ณ เมืองเสียมราฐ ราชอาณาจักรกัมพูชา โดยมีเขตกงสุลครอบคลุม ๘
จังหวัดของราชอาณาจักรกัมพูชา ประกอบด้วย (๑) จังหวัดเสียมราฐ (๒) จังหวัดพระตะบอง
(๓) จังหวัดไพลิน (๔) จังหวัดบันทายมีชัย (๕) จังหวัดอุดรมีชัย (๖)
จังหวัดพระวิหาร (๗) จังหวัดสตึงแตรง และ (๘) จังหวัดโพธิสัตว์ รวมทั้งเห็นชอบให้กระทรวงการต่างประเทศและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการในรายละเอียดการเปิดสถานกงสุลใหญ่
ณ เมืองเสียมราฐ ราชอาณาจักรกัมพูชา โดยหากไม่มีการเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญ ขอให้กระทรวงการต่างประเทศและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการได้โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีก
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ทั้งนี้
ให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงบประมาณ (หนังสือสำนักงบประมาณ
ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๑๘/๒๐๗๗ ลงวันที่ ๒๑ ธันวาคม ๒๕๖๖) สำนักงาน ก.พ.
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงาน ก.พ.ร. ที่เห็นว่าควรกำหนดอัตรากำลังภายใต้กรอบอัตรากำลังที่มีอยู่เดิม
เพื่อมิให้เป็นภาระงบประมาณในระยะยาวต่อไป ควรดำเนินการบริหารอัตรากำลังในภาพรวมตามความจำเป็นของภารกิจ
โดยคำนึงถึงหลักการและแนวทางการบริหารจัดการอัตรากำลังตามที่คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ
กำหนดไว้ในมาตรการบริหารจัดการกำลังคนภาครัฐ (พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐) ที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในการประชุมเมื่อวันที่
๑๔ มีนาคม ๒๕๖๖ ด้วย และในประเด็นเรื่องการกำหนดตัวชี้วัดของการจัดตั้งสถานกงสุลใหญ่
ณ เมืองเสียมราฐเพื่อสะท้อนผลสัมฤทธิ์และความคุ้มค่าในการจัดตั้งหน่วยงาน กระทรวงการต่างประเทศควรจัดเก็บสถิติข้อมูลและปริมาณงานในภารกิจแต่ละด้าน
เพื่อกำหนดตัวชี้วัดเชิงกระบวนการทำงานในระยะ ๑-๒ ปี และตัวชี้วัดเชิงผลลัพธ์ในระยะ
๓-๕ ปี ข้างหน้า โดยการจัดเก็บสถิติข้อมูลของสถานกงสุลใหญ่ ณ
เมืองเสียมราฐควรแยกออกจากสถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงพนมเปญ
เพื่อให้มีข้อมูลที่ชัดเจน
ใช้ประกอบการประเมินผลสัมฤทธิ์และความคุ้มค่าของหน่วยงานที่มีการจัดตั้งขึ้นใหม่
ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๙ สิงหาคม ๒๕๖๕ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3530 | รัฐบาลสาธารณรัฐนิการากัวเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐนิการากัวประจำประเทศไทย (นางซันดี อานาเบลล์ ดาบิลา ซันโดบัล) | กต. | 26/12/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นางซันดี อานาเบลล์ ดาบิลา ซันโดบัล (Mrs. Sandy Anabell Davila Sandoval) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐนิการากัวประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงโตเกียว ญี่ปุ่น สืบแทน นายโรดริโก โกโรเนล
คินลอก (Mr. Rodrigo Coronel Kinloch) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3531 | การสิ้นสุดหน้าที่ของกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์สาธารณรัฐฟินแลนด์ประจำจังหวัดภูเก็ต และการแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐฟินแลนด์ ณ จังหวัดภูเก็ต (นายศรคม กิจประสาน) | กต. | 26/12/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.
รับทราบการสิ้นสุดหน้าที่ของ นายประมุขพิสิฐ อัจฉริยะฉาย
กงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์สาธารณรัฐฟินแลนด์ประจำจังหวัดภูเก็ต ตั้งแต่วันที่ ๓๑
ธันวาคม ๒๕๖๔ เนื่องจากเกษียณอายุ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3532 | การแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ กรุงเรคยาวิก สาธารณรัฐไอซ์แลนด์ (นางแอนเดรีย สมพิศ เสี่ยงบุญ) | กต. | 26/12/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑. รับทราบการเปิดทำการของสถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ณ กรุงเรคยาวิก สาธารณรัฐไอซ์แลนด์
ซึ่งได้ปิดไว้เป็นการชั่วคราว
โดยปรับชื่อเรียกตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์จากกงสุลกิตติมศักดิ์ประจำกรุงเรคยาวิก
เป็น กงสุลกิตติมศักดิ์ ณ กรุงเรคยาวิก และปรับชื่อเรียกสถานทำการกงสุลจาก
สถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ประจำกรุงเรคยาวิก เป็น สถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ณ
กรุงเรคยาวิก โดยให้คงสถานะสถานกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ ณ กรุงเรคยาวิก สาธารณรัฐไอซ์แลนด์
ไว้เช่นเดิม
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3533 | การปรับเขตกงสุลของสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองเจดดาห์ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย | กต. | 26/12/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๕ มกราคม ๒๕๒๘ (เรื่อง การเปิดสถานกงสุลใหญ่ ณ เจดดาห์) โดยปรับให้สถานกงสุลใหญ่
ณ เมืองเจดดาห์ ราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย จากเดิม
มีเขตกงสุลครอบคลุมเฉพาะเมืองเจดดาห์ เป็น มีเขตกงสุลครอบคลุมมณฑลมักกะฮ์
มณฑลมะดีนะฮ์ มณฑลอัลบาฮะฮ์ มณฑลอะซีร และมณฑลญาซาน
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3534 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง | คค. | 26/12/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นายดรุณ แสงฉาย
เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีระบบราง ทั้งนี้
ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๖ ธันวาคม ๒๕๖๖) เป็นต้นไป
โดยผู้ได้รับแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3535 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นางสุดฤทัย เลิศเกษม ฯลฯ จำนวน 4 ราย) | นร.01 | 26/12/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง
จำนวน ๔ ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ ๑. นางสุดฤทัย เลิศเกษม ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ๒. นางทัศนีย์ ผลชานิโก ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ๓. นางมาลินี ภาวิไล ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ๔. นายอุฬาร จิ๋วเจริญ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3536 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล ฯลฯ จำนวน 3 ราย) | กษ. | 26/12/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๓ ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์สนอ
ดังนี้ ๑. นายทวีศักดิ์ ธนเดโชพล ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายวุฒิพงศ์ เนียมหอม ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายบัญชา สุขแก้ว ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมประมง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3537 | การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายรุ่งเรือง กิจผาติ) | อว. | 26/12/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติรับโอน
นายรุ่งเรือง กิจผาติ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ
(ด้านเวชกรรมป้องกัน) กลุ่มที่ปรึกษาระดับกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
กระทรวงสาธารณสุข และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมวิทยาศาสตร์บริการ
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3538 | ร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง ขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบรายการแสดงการส่งเงินสมทบและการนำส่งเงินสมทบผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e - Payment) พ.ศ. .... | รง. | 26/12/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง
ขยายกำหนดเวลาการยื่นแบบรายการแสดงการส่งเงินสมทบและการนำส่งเงินสมทบผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์
(e-Payment) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการขยายกำหนดเวลา
กรณีนายจ้างยื่นแบบรายการแสดงการส่งเงินสมทบและการนำส่งเงินสมทบตามมาตรา ๔๗
แห่งพระราชบัญญัติประกันสังคม พ.ศ. ๒๕๓๓
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติประกันสังคม (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๘
โดยผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-Payment) ออกไปอีก ๗ วันทำการนับแต่วันที่พ้นกำหนดวันที่ ๑๕
ของเดือนถัดจากเดือนที่มีการหักเงินสมทบไว้ สำหรับค่าจ้างตั้งแต่เดือนมกราคม ๒๕๖๗
ถึงเดือนธันวาคม ๒๕๖๗ เป็นระยะเวลา ๑๒ เดือน ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3539 | การทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเพื่อขยายวงเงินค้ำประกันสินเชื่อโครงการค้ำประกันสินเชื่อ Portfolio Guarantee Scheme ระยะที่ 10 | กค. | 26/12/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบการทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๘
กุมภาพันธ์ ๒๕๖๖ (เรื่อง มาตรการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการ SMEs ผ่านโครงการค้ำประกันสินเชื่อ Portfolio
Guarantee Scheme ระยะที่ ๑๐) ในส่วนของวงเงินค้ำประกันสินเชื่อเพิ่มอีก
๓,๒๕๐ ล้านบาท
จากเดิม วงเงินค้ำประกันสินเชื่อ ๕๐,๐๐๐ ล้านบาท เป็น
วงเงินค้ำประกันสินเชื่อ ๕๓,๒๕๐ ล้านบาท
และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลัง
(บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและธนาคารแห่งประเทศไทย เช่นควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับโครงการให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก
ตลอดจนติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์และรายงานผลการดำเนินงานตามโครงการดังกล่าวเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการ
ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑
และดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบ กฎหมาย และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงการคลัง
(บรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม) พิจารณากำหนดกลุ่มเป้าหมายในการจัดสรรวงเงินค้ำประกันสินเชื่อให้สอดคล้องกับวัตถุประสงค์ของโครงการ
โดยให้ความสำคัญกับกลุ่มที่มีความจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือก่อนเป็นลำดับแรก
เช่น ผู้ประกอบการธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก (Small and
Medium Enterprises : SMEs) ผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลาง
ขนาดย่อม และขนาดย่อย (Micro, Small and Medium Enterprises :
MSMES) ผู้ประกอบการธุรกิจในพื้นที่เมืองรอง
เพื่อส่งเสริมศักยภาพการแข่งขันให้สามารถประกอบธุรกิจต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3540 | รายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนเงินทดแทน สำนักงานประกันสังคม สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2565 | รง. | 26/12/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินกองทุนเงินทดแทน
สำนักงานประกันสังคม สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๕ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน
ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบรับรองแล้วเห็นว่า
ถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
|