ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 165 จากทั้งหมด 6213 หน้า แสดงรายการที่ 3281 - 3300 จากข้อมูลทั้งหมด 124248 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
3281 | แนวทางเพิ่มเติมเพื่อป้องกันและแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ โดยเฉพาะฝุ่นละออง PM2.5 | นร. | 06/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่
๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๖ (เรื่อง มาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ปี ๒๕๖๗ และกลไกการบริหารจัดการ)
เห็นชอบมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM ปี ๒๕๖๗
และกลไกการบริหารจัดการ และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป
รวมทั้งรับทราบการแต่งตั้งคณะกรรมการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศเพื่อความยั่งยืน
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ นั้น
จากการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์และสั่งการแก้ไขปัญหาดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง พบว่า
ปัญหาฝุ่นละออง PM2.5
ในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะกรุงเทพมหานคร ยังคงอยู่ในระดับที่สูงและส่งผลกระทบโดยตรงต่อสุขภาพอนามัยของประชาชน
จึงขอมอบหมายให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องรับแนวทางเพิ่มเติมในเรื่องต่าง
ๆ ไปพิจารณาดำเนินการเพื่อแก้ไขและบรรเทาปัญหามลพิษทางอากาศที่เกิดขึ้น ดังนี้ ๑. การตัดสิทธิในการรับความช่วยเหลือจากภาครัฐ (Negative Incentive) ๑.๑
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรณรงค์และประชาสัมพันธ์ให้เกษตรกรปรับเปลี่ยนจากวิธีการเผาแปลงเพาะปลูกไปใช้วิธีอื่น
เช่น การไถกลบตอซัง และให้พิจารณาตัดสิทธิการได้รับความช่วยเหลือชดเชยต่าง ๆ จากภาครัฐสำหรับเกษตรกรที่ไม่ให้ความร่วมมือในการดำเนินการดังกล่าว ๑.๒
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงพาณิชย์ กระทรวงการคลัง และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำหนดมาตรการลดหรือห้ามนำเข้าสินค้าเกษตรจากประเทศเพื่อนบ้านที่พิสูจน์ได้ว่ามีกระบวนการผลิตที่เกี่ยวข้องกับการเผา ๒. การบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด (Law Enforcement) ๒.๑
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงสาธารณสุขบังคับใช้กฎหมายที่เกี่ยวข้องตามหน้าที่และอำนาจอย่างเคร่งครัด
เช่น ๒.๑.๑
ให้กระทรวงมหาดไทยสั่งการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดออกประกาศเขตห้ามเผา โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย
พ.ศ. ๒๕๕๐ และบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดกับผู้ฝ่าฝืนประกาศดังกล่าว ๒.๑.๒
ให้กระทรวงมหาดไทยบังคับใช้พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. ๒๕๓๕ ในกรณีการเผาที่เป็นเหตุรำคาญ ๒.๒
ให้กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการป้องกัน ปราบปราม และบังคับใช้กฎหมายกับผู้ลักลอบนำเข้าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการเผาจากประเทศเพื่อนบ้านอย่างเข้มงวด ๒.๓
ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดกำกับดูแลไม่ให้มีการเผาหรือการลักลอบนำเข้าสินค้าที่เกี่ยวข้องกับการเผาในพื้นที่ความรับผิดชอบ
รวมทั้งให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการทางกฎหมายกับข้าราชการทุกระดับที่ปล่อยปะละเลยให้มีการกระทำการอันเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายอย่างเคร่งครัดด้วย ๓. การสนับสนุนเชิงรุก (Proactive Campaign) ๓.๑
ให้กรมประชาสัมพันธ์และบริษัท อสมท จำกัด (มหาชน)
ดำเนินการประชาสัมพันธ์เชิงรุกเกี่ยวกับการดำเนินการแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศของรัฐบาล
เพื่อให้เกิดการประสานความร่วมมือจากทุกภาคส่วนในการแก้ไขปัญหา ๓.๒
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ให้คำแนะนำและสร้างการรับรู้ให้แก่เกษตรกรเกี่ยวกับวิธีการบริหารจัดการเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรโดยไม่เผาให้ชัดเจนและทั่วถึง
เช่น การไถกลบตอซัง การแปรรูปเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเป็นพลังงานทดแทน
รวมทั้งผลเสียของการเผา ๓.๓
ให้กระทรวงอุตสาหกรรมประสานความร่วมมือกับผู้ประกอบการและกำหนดมาตรการสนับสนุนที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้มีการรับซื้อเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเพื่อนำมาแปรรูป
อันจะเป็นการลดการเผาต่อไป ๓.๔ ให้กระทรวงกลาโหมจัดกำลังพลและอุปกรณ์ที่จำเป็นเพื่อให้ความช่วยเหลือเกษตรกรในการขนส่งเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรจากพื้นที่การเกษตรไปยังโรงงานแปรรูปเศษวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตรเป็นพลังงานและปุ๋ย ทั้งนี้
ให้คณะกรรมการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศเพื่อความยั่งยืนนำแนวทางเพิ่มเติมทั้ง ๓
ข้อดังกล่าวข้างต้นไปพิจารณาในรายละเอียดร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง
และจัดทำเป็นมาตรการที่ครบถ้วนและชัดเจนมากยิ่งขึ้น แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่งต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3282 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 5 กุมภาพันธ์ 2567) | ปสส. | 06/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
(วันจันทร์ที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗) ซึ่งมีเรื่องเพื่อพิจารณาญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปในวุฒิสภา
เพื่อให้คณะรัฐมนตรีแถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน
พิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๑ ครั้งที่ ๑๕ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพุธที่ ๗ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๖ ปีที่ ๑ ครั้งที่
๑๖ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพฤหัสบดีที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3283 | ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง พ.ศ. 2558 .... พ.ศ. .... (นายอนุทิน ชาญวีรกูลกับคณะ เป็นผู้เสนอ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ กับคณะ เป็นผู้เสนอ นายพิทักษ์เดช เดชเดโช กับคณะ เป็นผู้เสนอ นายคอซีย์ มามุ กับคณะ เป็นผู้เสนอ และนายวรภาพ วิริยะโรจน์ กับคณะ เป็นผู้เสนอ) | ปสส. | 06/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้รับร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดการประมง
พ.ศ.๒๕๕๘ พ.ศ. .... (นายอนุทิน ชาญวีรกูล กับคณะ เป็นผู้เสนอ นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ
กับคณะ เป็นผู้เสนอ นายพิทักษ์เดช เดชเดโช กับคณะ เป็นผู้เสนอ นายคอซีย์ มามุ
กับคณะ เป็นผู้เสนอ และนายวรภพ วิริยะโรจน์ กับคณะ เป็นผู้เสนอ)
ไปพิจารณาก่อนรับหลักการภายใน ๖๐ วัน นับแต่วันที่สภาผู้แทนราษฎรมีมติ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3284 | การป้องกันและปราบปรามการลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมายตามแนวชายแดน | นร. | 06/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ในช่วงนี้มีการลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมายต่าง
ๆ ตามแนวชายแดน รวมทั้งพืชผลทางการเกษตรชนิดต่าง ๆ จากประเทศเพื่อนบ้านเพิ่มมากขึ้น
ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะในพื้นที่ภาคเหนือได้ร่วมกันปฏิบัติการเพื่อป้องกันและปราบปรามการกระทำผิดดังกล่าวได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม
พบว่าในหลายพื้นที่มีความพยายามลักลอบนำเข้าสินค้าผิดกฎหมายเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี จึงขอมอบหมายให้กระทรวงกลาโหม
กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข
และสำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจเพื่อร่วมกันป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดดังกล่าวอย่างเคร่งครัดและต่อเนื่อง
รวมทั้งให้บังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำความผิดอย่างเข้มงวดด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3285 | ร่างพระราชบัญญัติของคณะรัฐมนตรีที่ต้องเร่งรัดติดตามโดยเร่งด่วน | นร. | 06/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสมศักดิ์
เทพสุทิน)
ในฐานะประธานกรรมการเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล
รายงานว่า ในคราวประชุมคณะกรรมการเร่งรัดการเสนอร่างพระราชบัญญัติเพื่อขับเคลื่อนการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล
ครั้งที่ ๑/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๒ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗ ที่ประชุมได้มีมติ ๑.๑
เห็นควรให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการดำเนินการเสนอร่างพระราชบัญญัติของคณะรัฐมนตรีต่อคณะรัฐมนตรีโดยเร็วตามรายชื่อร่างพระราชบัญญัติ
ดังต่อไปนี้
๑.๑.๑
ร่างพระราชบัญญัติซึ่งเสนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและบรรจุในระเบียบวาระของสภาผู้แทนราษฎรแล้ว
จำนวน ๒ ฉบับ ได้แก่
๑.๑.๑.๑ ร่างพระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ .. ) พ.ศ .... (แก้ไขเพิ่มเติมกระบวนพิจารณาเกี่ยวกับการฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้) ๑.๑.๑.๒ ร่างพระราชบัญญัติการรับรองเพศ
พ.ศ. .... ๑.๒.๑
ร่างพระราชบัญญัติที่เกี่ยวด้วยการเงินซึ่งเสนอโดยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและอยู่ระหว่างนายกรัฐมนตรีพิจารณารับรอง
จำนวน ๒ ฉบับ ดังนี้
๑.๒.๑.๑ ร่างพระราชบัญญัติกัญชากัญชง พ.ศ. ....
๑.๒.๑.๒ ร่างพระราชบัญญัติปาล์มน้ำมันและผลิตภัณฑ์จากปาล์มน้ำมัน พ.ศ. .... ๑.๓
๑ ร่างพระราชบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการขับเคลื่อนนโยบายของรัฐบาล จำนวน ๒ ฉบับ
ดังนี้
๑.๓.๑.๑ ร่างพระราชบัญญัติการบริหารจัดการระบบตั๋วร่วม พ.ศ. ....
๑.๓.๑.๒ ร่างพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ๑.๒.
ขอความร่วมมือให้หัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาลกำชับให้กรรมาธิการในสัดส่วนของพรรคเข้าร่วมประชุมในที่ประชุมคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติยกเลิกพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค
พ.ศ. ๒๕๓๔ พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติมาตรการของฝ่ายบริหารในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... อย่างสม่ำเสมอ
เพื่อผลักดันและขับเคลื่อนให้ร่างพระราชบัญญัติทั้งสองฉบับดังกล่าวซึ่งเป็นร่างกฎหมายสำคัญของคณะรัฐมนตรีมีผลใช้บังคับโดยเร็ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3286 | การส่งเสริมและสนับสนุนการลงทุนในสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา | นร. | 06/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า สืบเนื่องจากการเดินทางไปเยือนสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาอย่างเป็นทางการ
ระหว่างวันที่ ๓-๔ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗
ตามคำเชิญของประธานาธิบดีแห่งสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา และได้มีการหารือร่วมกับภาคส่วนต่าง
ๆ ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนในประเด็นต่าง ๆ พบว่า
สาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกามีศักยภาพและความพร้อมด้านทรัพยากรธรรมชาติเป็นอย่างมาก
แต่อาจยังขาดองค์ความรู้และเทคโนโลยีที่จะมาดำเนินการ (Know-How) โดยเฉพาะอย่างยิ่งการลงทุนในด้านพลังงานสะอาดและการประมง
จึงมีความต้องการการลงทุนจากต่างชาติสูง ซึ่งถือเป็นโอกาสที่ดีที่ประเทศไทยจะเข้าไปลงทุนดำเนินธุรกิจในด้านต่าง
ๆ ดังกล่าวตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำในสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกา ดังนั้น
เพื่อเป็นการส่งเสริมความสัมพันธ์และความร่วมมืออันดีของทั้งสองประเทศ
จึงขอมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศรับไปประสานงานกับกระทรวงพลังงาน
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม
สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการส่งเสริมและสนับสนุนให้หน่วยงานของรัฐและภาคเอกชนไทยที่เกี่ยวข้องเข้าไปลงทุนในสาธารณรัฐสังคมนิยมประชาธิปไตยศรีลังกาเพื่อดำเนินกิจการต่าง
ๆ ที่มีความสนใจตามความเหมาะสมต่อไป ทั้งนี้
ให้ดำเนินการให้ถูกต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3287 | ผลการประชุมระดับสูงในห้วงสัปดาห์การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ประจำปี ค.ศ. 2023 | กต. | 06/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบผลการประชุมระดับสูงในห้วงสัปดาห์การประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ประจำปี ค.ศ. ๒๐๒๓ ซึ่งจัดขึ้นระหว่างวันที่
๑๑-๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ ณ นครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย ภายใต้หัวข้อหลัก
คือ “การสร้างอนาคตที่ยืดหยุ่นและยั่งยืนสำหรับทุกคน” (Creating a Resilient and Sustainable Future for
All) และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำผลการประชุมไปปฏิบัติและติดตามความคืบหน้าตามตารางติดตามผลการประชุมรัฐมนตรีเอเปคและการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค
ประจำปี ค.ศ. ๒๐๒๓ โดยผลการประชุมฯ มีสาระสำคัญในการส่งเสริมความเชื่อมโยง
ผ่านการสร้างสภาพแวดล้อมทางการค้าและการลงทุนที่เอื้ออำนวย การปรับใช้นวัตกรรมเพื่อความยั่งยืนในการรับมือกับวิกฤตสภาพภูมิอากาศ
ภัยพิบัติและการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติ ตลอดจนการเสริมสร้างความครอบคลุม
โดยมุ่งเน้นการผลักดันความเท่าเทียมทางเพศ
ส่งเสริมบทบาทและการมีส่วนร่วมทางเศรษฐกิจของกลุ่มต่าง ๆ
ซึ่งสอดคล้องกับการดำเนินงานของไทยเพื่อบรรลุเป้าหมายยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ
ประเด็นการต่างประเทศ มุ่งเน้นการสนับสนุนให้ไทยสามารถเชื่อมโยงกับภูมิภาคอย่างไร้รอยต่อ
ส่งเสริมความร่วมมือกับมิตรประเทศเพื่อเพิ่มโอกาสและลดอุปสรรคทางเศรษฐกิจของไทย ตลอดจนสนับสนุนการดำเนินงานเพื่อบรรลุเป้าหมายของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ฉบับที่ ๑๓ ในหมุดหมายที่ ๕ ที่มุ่งเน้นให้ไทยเป็นประตูการค้า การลงทุน
และยุทธศาสตร์ทางโลจิสติกส์ที่สำคัญของภูมิภาค ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
และให้กระทรวงการต่างประเทศรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
โดยกระทรวงการต่างประเทศจำเป็นต้องวิเคราะห์และประเมินผลการดำเนินงานตามที่มอบหมายดังกล่าว
รวมถึงสื่อสารผลลัพธ์และประโยชน์ที่มีต่อประเทศไทยให้สาธารณชนและทุกภาคส่วนได้รับทราบ
ทั้งนี้ สำนักงานฯ ในฐานะหน่วยงานรับผิดชอบหลักในคณะกรรมการเศรษฐกิจเอเปค
จะดำเนินการตามข้อเสนอแนะของรายการงานทบทวนระยะกลาง
การยกระดับวาระการปฏิรูปโครงสร้างเอเปค
โดยจะประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อติดตามความก้าวหน้า
ตลอดจนสนับสนุนการดำเนินงานในประเด็นที่เกี่ยวข้องต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3288 | มาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี 2566/2567 และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ปี 2567 | นร.14 | 06/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบและเห็นชอบรับทราบมาตรการรองรับฤดูแล้ง
ปี ๒๕๖๖/๒๕๖๗ (๙ มาตรการ)
และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง
ปี ๒๕๖๗ มอบหมายหน่วยงานดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว โดยรายงานให้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติทราบ
พร้อมทั้งสรุปผลการดำเนินงานรายงานคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบต่อไป ตามที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ
และให้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
และสำนักงบประมาณ โดยขอให้หน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
และหลักธรรมาภิบาลอย่างเคร่งครัดด้วย ทั้งนี้ กระทรวงคมนาคมยินดีให้การสนับสนุนและเร่งรัดดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง และควรให้ความสำคัญ
พร้อมทั้งเน้นย้ำหน่วยงานที่รับผิดชอบแผนงาน/โครงการให้ตรวจสอบแผนงาน/โครงการที่เสนอกับแผนงาน/โครงการตามแผนพัฒนาจังหวัดและกลุ่มจังหวัด
เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อน และสอดรับกับความต้องการของประชาชนกลุ่มผู้ใช้น้ำ
รวมทั้ง ให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดลำดับความสำคัญของพื้นที่และโครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วน
เพื่อให้สามารถบรรเทาความเดือดร้อนของกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวได้ตรงตามความต้องการและทันต่อสถานการณ์
รวมทั้งนำผลการดำเนินการ และปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการต่าง ๆ ตามมาตรการรองรับฤดูแล้งในปีที่ผ่านมา
มาใช้ประกอบการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3289 | ทบทวนการเรียกให้ทุนหมุนเวียนนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินของทุนหมุนเวียนส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน ปีบัญชี 2565 (ครั้งที่ 2) ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2566 | กค. | 06/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบให้กองทุนสงเคราะห์เกษตรกรนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน
ปีบัญชี ๒๕๖๕ (ครั้งที่ ๒) จำนวน ๑๗๔,๘๒๔,๖๓๓.๘๕ บาท โดยให้กองทุนสงเคราะห์เกษตรกรนำเงินจำนวนดังกล่าวส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินภายใน
๖๐ วัน ตามที่คณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนเสนอ ทั้งนี้
ให้คณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรดำเนินการกำกับ
ติตตามการดำเนินงานตามแผนงาน/โครงการที่นำมาพิจารณาการขอกำหนดจำนวนเงินสะสมสูงสุดเพิ่มขึ้น
รวมถึงสร้างการรับรู้และความเข้าใจกับทุนหมุนเวียนต่าง ๆ
เกี่ยวกับการเรียกทุนหมุนเวียนนำทุนหรือผลกำไรส่วนเกินส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดินว่าเป็นหน้าที่ที่จะต้องดำเนินการ
โดยคำนึงถึงประโยชน์ที่รัฐหรือประชาชนจะได้รับ ความคุ้มค่า
ความเสี่ยงที่เกิดขึ้นอย่างรอบคอบในทุกมิติ และให้กองทุนเพิ่มขีดความสามารถฯ
รายงานผลการใช้จ่ายเงินตามแผนงาน/โครงการให้คณะกรรมการฯ ทราบเป็นระยะ เพื่อให้ติดตามการเบิกจ่ายและการกำกับดูแลกองทุนเป็นไปตามวัตถุประสงค์อย่างมีประสิทธิภาพ
โปร่งใสและตรวจสอบได้ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3290 | ร่างกฎกระทรวงการคืนหรือการชดใช้คืนซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดและการชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน พ.ศ. .... | ปปง. | 06/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงการคืนหรือการชดใช้คืนซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดและการชดใช้ค่าเสียหายให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดระยะเวลา หลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขในการคุ้มครองสิทธิของผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน ตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
ตามที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงินเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3291 | การตกแต่งสถานที่ ประดับไฟและธงเฉลิมพระเกียรติ และการใช้ตราสัญลักษณ์ งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 6 รอบ 28 กรกฎาคม 2567 | นร. | 06/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ
(๙ มกราคม ๒๕๖๗) ให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐเร่งรัดการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องเกี่ยวกับการจัดทำโครงการหรือกิจกรรมเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ให้ถูกต้อง
ละเอียดรอบคอบ โดยเชิญชวนประชาชนจากทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดทำโครงการหรือกิจกรรม
และขอให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานกรรมการฝ่ายประชาสัมพันธ์
งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ เร่งดำเนินการประชาสัมพันธ์เผยแพร่การจัดงานเฉลิมพระเกียรติดังกล่าวในภาพรวมให้ถูกต้องและทั่วถึง
นั้น ขอกำชับให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐดำเนินการตามแนวทาง ดังนี้ ๑.
ให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐกำกับดูแลความเป็นระเบียบเรียบร้อย
การตกแต่งสถานที่ราชการ การประดับไฟและธง
ให้เหมาะสมและสมพระเกียรติตลอดช่วงเวลาของขอบเขตการจัดงานเฉลิมพระเกียรติฯ ๒.
ในส่วนของการเชิญตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา
๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ไปประดับหรือประดิษฐานบนหรือในอาคาร สถานที่ สิ่งปลูกสร้าง
หรือสิ่งของใด ๆ ให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามหลักเกณฑ์การพิจารณา การขออนุญาตใช้ตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗
ที่คณะกรรมการฝ่ายกลั่นกรองการขอใช้ตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ๓.
มอบหมายให้กรมประชาสัมพันธ์ดำเนินการประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่องให้ทุกส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ
ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไปทราบเกี่ยวกับการใช้ตราสัญลักษณ์งานเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๖ รอบ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๗ ให้ถูกต้องและทั่วถึงด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3292 | ราชอาณาจักรเบลเยียมขอเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ราชอาณาจักรเบลเยียม ณ จังหวัดภูเก็ต และแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์ราชอาณาจักรเบลเยียม ณ จังหวัดภูเก็ต (นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม) | กต. | 06/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติ
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑. เปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ราชอาณาจักรเบลเยียม ณ
จังหวัดภูเก็ต โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมจังหวัดภูเก็ต พังงา และกระบี่ ๒. แต่งตั้ง นายภูมิกิตติ์ รักแต่งาม
ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์ราชอาณาจักรเบลเยียม ณ จังหวัดภูเก็ต
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3293 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล) | นร.04 | 06/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายฐิติพงศ์ เขียวไพศาล เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้ง ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3294 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นายสุรชาติ เทียนทอง) | สธ. | 06/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายสุรชาติ เทียนทอง เป็นข้าราชการการเมือง
ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3295 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นางสาวปรมาภรณ์ บริบูรณ์) | นร.04 | 06/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นางสาวปรมาภรณ์
บริบูรณ์ เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๗) เป็นต้นไป
ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3296 | คณะกรรมการต่าง ๆ ที่แต่งตั้งโดยมติคณะรัฐมนตรี (กระทรวงการคลัง) | กค. | 06/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้คณะกรรมการพิจารณาโครงการสลากการกุศล คงอยู่ต่อไป ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๖ เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3297 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาวพิยะดา สุดกังวาล) | ดศ. | 06/02/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวพิยะดา สุดกังวาล ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งผู้อำนวยการกอง (ผู้อำนวยการสูง) กองยุทธศาสตร์และแผนงาน สำนักงานปลัดกระทรวง
ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการสื่อสาร (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ)
กลุ่มที่ปรึกษา สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ตั้งแต่วันที่ ๑๖ พฤษภาคม ๒๕๖๖ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3298 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นางเตือนใจ คงสมบัติ ฯลฯ จำนวน 4 ราย) | พม. | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๔ ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ดังนี้ ๑. นางเตือนใจ คงสมบัติ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นางสาวสนธยา บุณยภูษิต ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นางสาวนภาพร เมฆาผ่องอำไพ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3299 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นางอัญชลี สุวจิตตานนท์ ฯลฯ จำนวน 4 ราย) | กษ. | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง
จำนวน ๔ ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
ดังนี้ ๑. นางอัญชลี สุวจิตตานนท์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นางสาวนฤมล สงวนวงศ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายถาวร ทันใจ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นายกฤษ อุตตมะเวทิน ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3300 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ (1. นายชลธิศ สุรัสวดี ฯลฯ จำนวน 8 คน) | สคทช | 30/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ
จำนวน ๘ คน เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓๐ มกราคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑. นายชลธิศ สุรัสวดี ด้านการบริหารจัดการที่ดิน ๒. นายคณิต สุขรัตน์ ด้านทรัพยากรดิน ๓. นายวีระชัย นาควิบูลย์วงศ์ ด้านการปฏิรูปที่ดิน ๔. นายมณฑล สุดประเสริฐ ด้านการผังเมือง ๕. ผู้ช่วยศาสตราจารย์ขวัญชัย ดวงสถาพร ด้านการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ๖. นายเสรี นนทสูติ ด้านกฎหมาย ๗. รองศาสตราจารย์ชนินทร์ ทินนโชติ ด้านเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ
|