ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 167 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 3321 - 3340 จากข้อมูลทั้งหมด 123967 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
3321 | มาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ปี 2567 และกลไกการบริหารจัดการ | ทส. | 19/12/2566 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบมาตรการแก้ไขปัญหาฝุ่นพิษ PM2.5 ๒๕๖๗
และกลไกการบริหารจัดการ และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการต่อไป และรับทราบคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศเพื่อความยั่งยืน
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ
สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักงบประมาณ
และสำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงการต่างประเทศ
เห็นว่ากระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ในฐานะส่วนราชการเจ้าของเรื่องควรพิจารณาติดตามความคืบหน้าและทบทวนความมีประสิทธิภาพของมาตรการเป็นระยะ
ๆ ตามที่เห็นเหมาะสม
ซึ่งรวมถึงการบังคับใช้มาตรการและกฎหมายที่เกี่ยวข้องในทุกระดับอย่างเคร่งครัดด้วย คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เห็นควรเพิ่มเติมการบูรณาการการทำงานระหว่างจังหวัด
และขจัดปัญหาอุปสรรคในการกระจายอำนาจการบริหารจัดการสถานการณ์ไปยังองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเพื่อให้ตัดสินใจแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็ว
และเพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาในระยะยาว ควรเร่งรัดการออกกฎหมายว่าด้วยอากาศสะอาด
และกฎหมายการปลดปล่อยและเคลื่อนย้ายมลพิษ (Pollutant
Release and Transfer Register : PRTR)
ต่อไป ๒. ให้สำนักงาน ก.พ.ร.
เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับคณะกรรมการจัดการปัญหามลพิษทางอากาศเพื่อความยั่งยืน
กระทรวงมหาดไทย สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดให้การลดหรือการควบคุมปริมาณการปล่อยมลพิษทางอากาศ
(PM2.5) เป็นตัวชี้วัด (KPIs) ที่สำคัญของแต่ละจังหวัด
รวมทั้งเร่งชี้แจงทำความเข้าใจให้ทุกจังหวัดทราบและถือปฏิบัติต่อไปได้อย่างถูกต้อง
เหมาะสม เพื่อให้การแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศ (PM2.5)
เกิดผลสัมฤทธิ์เป็นรูปธรรมได้อย่างยั่งยืนต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||
3322 | การดำเนินการเพิ่มเติมในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการแก้ไขปัญหาหนี้ทั้งระบบ | นร. | 19/12/2566 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ตามที่รัฐบาลได้แถลงนโยบายในการแก้ไขปัญหาหนี้สินของทุกภาคส่วน
ซึ่งกระทรวงการคลังได้เสนอเรื่อง แนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้ทั้งระบบต่อคณะรัฐมนตรีแล้ว
นั้น เพื่อให้การดำเนินการแก้ไขปัญหาดังกล่าวมีความชัดเจนและครบถ้วนมากยิ่งขึ้น
จึงขอมอบหมายการดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ดังนี้ ๑. ให้ทุกส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ
และหน่วยงานของรัฐดำเนินการปรับปรุง/กำหนดหลักเกณฑ์การหักเงินเดือนทั้งเพื่อชำระหนี้เงินกู้และค่าใช้จ่ายอื่นใดของบุคลากรในสังกัด
โดยต้องมีเงินเดือนคงเหลือสุทธิเพื่อการดำรงชีพไม่น้อยกว่าร้อยละ ๓๐ ตามแนวทางเดียวกับระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการหักเงินเดือนบำนาญข้าราชการเพื่อชำระหนี้เงินกู้ให้แก่สวัสดิการภายในส่วนราชการและสหกรณ์
พ.ศ. ๒๕๕๑ ๒.
ให้ประธานกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อยประสานงานให้สถาบันการเงินและสหกรณ์ออมทรัพย์ต่าง
ๆ ที่เป็นเจ้าหนี้เงินกู้เพื่อสวัสดิการแก่บุคลากรของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐ
กำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อสวัสดิการให้ต่ำลง เพื่อให้เหมาะสมและสอดคล้องกับระดับความเสี่ยงที่ต่ำจากการที่รัฐบาล
รัฐวิสาหกิจ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้เข้ามาทำหน้าที่ประสานงานในการแก้ไขปัญหาหนี้ทั้งระบบ ๓. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
โดยกรมส่งเสริมสหกรณ์กำกับดูแลให้สหกรณ์ออมทรัพย์ทุกแห่งที่เป็นเจ้าหนี้เงินกู้เพื่อสวัสดิการแก่บุคลากรของส่วนราชการ
รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐให้ความร่วมมือกับประธานกรรมการกำกับการแก้ไขหนี้สินของประชาชนรายย่อยในการดำเนินการแก้ไขปัญหาหนี้สินตามแนวทาง
ดังนี้ ๓.๑
กำหนดอัตราดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อสวัสดิการให้เหมาะสมมากยิ่งขึ้น ๓.๒ กำหนดค่างวดเงินต้นให้เหมาะสม ๓.๓
ใช้ทุนเรือนหุ้นของลูกหนี้เพื่อบรรเทาภาระหนี้เงินกู้ลงตามความจำเป็น
|
||||||||||||||||||||||||||||||
3323 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นางครองขนิษฐ รักษ์เจริญ) | กต. | 19/12/2566 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางครองขนิษฐ รักษ์เจริญ
ข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต
ณ กรุงลิสบอน สาธารณรัฐโปรตุเกส ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมยุโรป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่จะว่าง
เนื่องจากผู้ดำรงตำแหน่งเดิมคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๖
อนุมัติแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูต สถานเอกอัศรราชทูต ณ กรุงเฮก ราชอาณาจักรเนเธอแลนด์
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
3324 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระ (นายอมรวิชช์ นาครทรรพ) | พปส. | 12/12/2566 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นายอมรวิชช์ นาครทรรพ เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
(ด้านการพัฒนาเด็ก เยาวชนและครอบครัว)
ในคณะกรรมการกองทุนพัฒนาสื่อปลอดภัยและสร้างสรรค์
แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระเนื่องจากลาออก
โดยให้ผู้ได้รับแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน
ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๒ ธันวาคม
๒๕๖๖) เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
3325 | การขออนุมัติการเปิดสถานเอกอัครราชทูตรัฐเอกราชปาปัวนิวกินีประจำประเทศไทย | กต. | 12/12/2566 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเปิดสถานเอกอัครราชทูตรัฐเอกราชปาปัวนิวกินีประจำประเทศไทย
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
3326 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง) | นร.14 | 12/12/2566 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นายไพฑูรย์ เก่งการช่าง ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งผู้ช่วยเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ให้ดำรงตำแหน่งรองเลขาธิการสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไปตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
3327 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายพาสิทธิ์ หล่อธีรพงศ์) | อว. | 12/12/2566 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายพาสิทธิ์
หล่อธีรพงศ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติ
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
3328 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายธรรมรัตน์ รัตนมณี) | นร.06 | 12/12/2566 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายธรรมรัตน์
รัตนมณี ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการต่อต้านการก่อการร้ายและอาชญากรรมข้ามชาติ
(นักการข่าวทรงคุณวุฒิ) กลุ่มงานที่ปรึกษา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ
ให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักข่าวกรองแห่งชาติ
สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่สำนักข่าวกรองแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
3329 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (1. นางสาวณิษา ไปรยายุตากุล ฯลฯ จำนวน 4 ราย) | สธ. | 12/12/2566 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้เลื่อนการพิจารณา เรื่อง การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (๑. นางสาวณิษา ไปรยายุตากุล ฯลฯ จำนวน ๔
ราย) ออกไปก่อน
|
||||||||||||||||||||||||||||||
3330 | นโยบายการตรวจเงินแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 | ตผ. | 12/12/2566 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบนโยบายการตรวจเงินแผ่นดิน
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ ซึ่งมีความสอดคล้องและเป็นไปตามนโยบายการตรวจเงินแผ่นดิน (พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐)
และได้วางไว้เพื่อให้ผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดินใช้เป็นกรอบในการจัดทำแผนการตรวจสอบและแผนปฏิบัติราชการประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗ เพื่อให้การตรวจเงินแผ่นดินเกิดผลสัมฤทธิ์
การบริหารการเงินการคลังมีเสถียรภาพ ส่งเสริมและสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายตามยุทธศาสตร์ชาติ
และเป้าหมายอื่น ๆ มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้ (๑)
ทิศทางและเป้าหมายในการตรวจเงินแผ่นดินที่ให้ความสำคัญกับเรื่องต่าง ๆ เช่น
การรักษาวินัยการเงินการคลัง
การตรวจสอบโครงการของรัฐบาลที่มีผลกระทบต่อฐานะการคลังของประเทศ
หรือโครงการที่มีผลกระทบต่อประชาชน การเตรียมความพร้อมในการตรวจสอบภายใต้สถานการณ์ประเด็นอุบัติใหม่
(Emerging Issues) และสถานการณ์ฉุกเฉิน (๒) ผลสัมฤทธิ์ในการตรวจเงินแผ่นดิน เช่น
การตรวจเงินแผ่นดินสามารถระงับยับยั้งคำสั่งอื่นความเสียหายอย่างร้ายแรงที่อาจเกิดขึ้นแก่การเงินการคลังและทรัพย์สินของรัฐ
(Foresight and Prevention) และ (๓)
การดำเนินการเพื่อพัฒนาการตรวจเงินแผ่นดินในด้านต่าง ๆ เช่น ส่งเสริมและผลักดันให้มีการแก้ไขกฎหมายที่เป็นปัญหาอุปสรรคต่อการตรวจเงินแผ่นดิน
ส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาระบบการตรวจเงินแผ่นดินอิเล็กทรอนิกส์
โดยการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data Analytics) มาช่วยในการปฏิบัติหน้าที่
ตามที่สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
3331 | รายงานประจำปี พ.ศ. 2565 ของคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | นร.01 | 12/12/2566 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๕
ของคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น สรุปได้ ดังนี้ (๑) การเลือกกรรมการผู้แทนผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
เป็นกรรมการในคณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (๒) การถ่ายโอนภารกิจสถานีอนามัยเฉลิมพระเกียรติ
๖๐ พรรษา นวมินทราชินี/โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด
(๓) การกำหนดสัดส่วนและการจัดสรรรายได้ให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ (๔) การทบทวนแก้ไขกฎหมายเพื่อให้เป็นไปตามแผนการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
และการวินิจฉัยกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
(๕) การคัดเลือกองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีการบริหารจัดการที่ดี ปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ (๖) การติดตามผลการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ : ผลการดำเนินงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
เพื่อบรรเทาผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ ตามที่คณะกรรมการการกระจายอำนาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
3332 | ร่างพระราชกฤษฎีกาเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ พ.ศ. .... | ตช. | 12/12/2566 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ
พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดการได้รับเงินประจำตำแหน่งและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของคณะกรรมการพิทักษ์ระบบคุณธรรมข้าราชการตำรวจ
ซึ่งรวมถึงสิทธิได้รับค่ารักษาพยาบาล
หรือการประกันสุขภาพตามที่จ่ายจริงในอัตราเบี้ยประกันคนละไม่เกิน ๓๐,๐๐๐ บาทต่อปี
และเงินบำเหน็จตอบแทนตามระยะเวลาในการดำรงตำแหน่ง ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
3333 | ร่างกฎกระทรวงจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. .... | อว. | 12/12/2566 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. ....
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา
กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยเปลี่ยนชื่อส่วนราชการ “คณะเทคโนโลยีอุตสาหกรรม” เป็น “คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยีอุตสาหกรรม”
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
3334 | รายงานผลการดำเนินโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตยาสูบแห่งใหม่ | กค. | 12/12/2566 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตยาสูบแห่งใหม่
เพื่อทดแทนโรงงานผลิตยาสูบเดิม โดยย้ายสถานที่ออกจากเขตกรุงเทพมหานคร เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุนการผลิต
โดยการเพิ่ม Economy of Scale
จากการสร้างโรงงานผลิตยาสูบใหม่แห่งเดียวที่เป็น Integrated Production
Complex ในพื้นที่ที่เหมาะสมด้านการขนส่ง
เพื่อปรับระบบการบริหารจัดการและการผลิตให้ทันสมัย
เพื่อเพิ่มสมรรถนะในการแข่งขันกับธุรกิจบุหรี่ของต่างประเทศทั้งในตลาดภายในประเทศและตลาดต่างประเทศโดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดในประเทศเพื่อนบ้าน
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
3335 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ (รายการค่าเช่ารถยนต์และค่าเช่าทรัพย์สินของกระทรวงสาธารณสุข) | สธ. | 12/12/2566 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗-พ.ศ. ๒๕๗๒ เพื่อเป็นค่าเช่ารถยนต์ ๑๖๓ คัน
และค่าเช่าทรัพย์สิน ๑ แห่ง วงเงินงบประมาณ ๒๓๐,๐๕๒,๕๐๐ บาท เนื่องจากเป็นกรณีที่มีความจำเป็นและเร่งด่วน
ตามนัยมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ทั้งนี้
ค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๗ จำนวน ๔๕,๗๖๐,๓๐๐ บาท รายการค่าเช่ารถยนต์ ๑๖๓ คัน และรายการค่าเช่าทรัพย์สิน ๑ แห่ง ดังกล่าวข้างต้น
เห็นควรให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงสาธารณสุขใช้จ่ายตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ ไปพลางก่อน และจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณให้สอดคล้องกับค่าเช่าที่จะต้องจ่ายจริงตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ (หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๑๒/๒๔
ลงวันที่ ๙ ตุลาคม ๒๕๖๖ และหนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๑๗๑๒/๖๖
ลงวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๖) และให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงการคลัง เกี่ยวกับการกำหนดกรอบการจัดสรรงบประมาณให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
โดยคำนึงถึงความสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ต่าง ๆ
ที่กำหนดตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ กฎหมาย ระเบียบ
ประกาศ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
3336 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ พ.ศ. .... | สธ. | 12/12/2566 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ที่ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษในประเภท ๑ ประเภท ๒
หรือประเภท ๕ และวัตถุออกฤทธิ์ในประเภท ๑ หรือประเภท ๒ ที่ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ
เพื่อใช้เป็นแนวทางพิจารณาว่าผู้ติดยาเสพติดใดสามารถเข้าสู่กระบวนการบำบัดรักษาตามประมวลกฎหมายยาเสพติดได้
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
3337 | ร่างถ้อยแถลงการณ์ร่วมของการประชุม Asia Zero Emission Community (AZEC) Leaders Meeting [Asia Zero Emission Community (AZEC) Leaders’ Joint Statement] | พน. | 12/12/2566 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างถ้อยแถลงการณ์ร่วมของการประชุม Asia Zero Emission Community
(AZEC) Leaders Meeting ( Asia Zero Emission Community (AZEC) Leaders’ Joint Statement และอนุมัติให้นายกรัฐมนตรี
(หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี)
เป็นผู้ให้การรับรองร่างถ้อยแถลงการณ์ร่วมฯ ดังกล่าว ในระหว่างการประชุม Asia
Zero Emission Community (AZEC) Leaders Meeting โดยร่างถ้อยแถลงการณ์การร่วมฯ มีสาระสำคัญที่มุ่งส่งเสริมการดำเนินความร่วมมือของประเทศพันธมิตร
AZEC โดยตั้งอยู่บนพื้นฐานของแนวทางที่หลากหลายและความสามารถในการปฏิบัติได้จริงตามสถานการณ์ของแต่ละประเทศ
เพื่อรับมือกับการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศควบคู่ไปกับการเสริมสร้างความมั่นคงด้านพลังงาน
ผ่านการพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีพลังงานสะอาด
การใช้ประโยชน์จากเชื้อเพลิงที่หลากหลาย การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานให้สามารถรองรับการเติบโตของการใช้พลังงานหมุนเวียน
การแบ่งปันข้อมูลและแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศ การส่งเสริมเวทีหารือเชิงนโยบาย
การแลกเปลี่ยนและพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การส่งเสริมความร่วมมือระหว่างภาครัฐและเอกชน
ตลอดจนการจัดหาแหล่งเงินทุน
และการพัฒนาตลาดพลังงานสะอาดเพื่อสนับสนุนการเร่งการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานในภูมิภาค
ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างถ้อยแถลงการณ์ร่วมของการประชุม Asia
Zero Emission Community (AZEC) Leaders Meeting ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงพลังงานดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว
และให้กระทรวงพลังงานรับความเห็นของสำนักงบประมาณ เกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นให้กระทรวงพลังงาน
โดยสำนักงานปลัดกระทรวงพลังงานพิจารณาใช้จ่ายตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการใช้งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ ไปพลางก่อน ตามขั้นตอนต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
3338 | การประชุมระดับรัฐมนตรีแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ ครั้งที่ 26 (The 26th GMS Ministerial Conference) | นร.11 สศช | 12/12/2566 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อเอกสารที่จะมีการรับรองในการประชุมระดับรัฐมนตรีแผนงาน
GMS ครั้งที่ ๒๖
ได้แก่ (๑) ร่างแถลงการณ์ร่วมระดับรัฐมนตรีแผนงาน GMS ครั้งที่
๒๖ มีสาระสำคัญเป็นการแสดงความชื่นชมและรับทราบผลการดำเนินงานของภาคส่วนต่าง ๆ
ที่มีความสำคัญภายใต้แผนงาน GMS รวมถึงการแสดงเจตจำนงที่จะให้ความร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงต่อไป
และ (๒)
ร่างข้อเสนอแนวคิดสำหรับการยกร่างยุทธศาสตร์นวัตกรรมเพื่อการพัฒนาของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง
พ.ศ. ๒๕๗๓ และอนุมัติให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายจุลพันธ์
อมรวิวัฒน์) หรือผู้แทนที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายจุลพันธ์
อมรวิวัฒน์) มอบหมาย
ปฏิบัติหน้าที่เป็นรัฐมนตรีประจำแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง
๖ ประเทศ (GMS Minister) และเป็นหัวหน้าคณะผู้แทนไทยเข้าร่วมการประชุมระดับรัฐนตรีแผนงาน
GMS ครั้งที่ ๒๖ ในวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๖ รวมทั้งเห็นชอบให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
(นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์) หรือผู้แทนที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
(นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์) มอบหมายได้ร่วมกับรัฐมนตรีของประเทศลุ่มกลุ่มแม่น้ำโขงให้การรับรอง
(๑) แถลงการณ์ร่วมระดับรัฐมนตรีแผนงาน GMS ครั้งที่ ๒๖ และ (๒)
ข้อเสนอแนวคิดสำหรับการยกร่างยุทธศาสตร์นวัตกรรมเพื่อการพัฒนาของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง
พ.ศ. ๒๕๗๓ ในวันที่ ๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๖ โดยไม่มีการลงนาม ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์ร่วมระดับรัฐมนตรีแผนงานความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง
๖ ประเทศ ครั้งที่ ๒๖
และร่างข้อเสนอแนวคิดสำหรับการยกร่างยุทธศาสตร์นวัตกรรมเพื่อการพัฒนาของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง
พ.ศ. ๒๕๗๓
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
3339 | การแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเพื่อทำหน้าที่ผู้แทนการค้าไทย | นร.04 | 12/12/2566 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแต่งตั้ง หม่อมหลวงชโยทิต กฤดากร
เป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเพื่อทำหน้าที่ผู้แทนการค้าไทย
ตามคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๓๕๘/๒๕๖๖ เรื่อง แต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรีเพื่อทำหน้าที่ผู้แทนการค้าไทย
ลงวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๖ ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
3340 | รายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง แนวทางการพัฒนาสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง (ไอซีดี) ลาดกระบัง ของคณะกรรมาธิการการคมนาคม วุฒิสภา | สว. | 12/12/2566 | |||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบรายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง แนวทางการพัฒนาสถานีบรรจุและแยกสินค้ากล่อง
(ไอซีดี) ลาดกระบัง ของคณะกรรมาธิการการคมนาคม วุฒิสภา โดยมีข้อเสนอแนะ
แบ่งออกเป็น ๒ แนวทาง ได้แก่ ๑) แนวทางการแก้ไขปัญหาระยะเร่งด่วน เช่น การแก้ไขปัญหาสัญญาสัมปทานสถานี
ระยะสั้น รฟท. ควรเร่งตรวจสอบรายงานผลการศึกษาและวิเคราะห์โครงการเพื่อคัดเลือกเอกชนเป็นผู้ประกอบการสถานี
และ รฟท.
ควรบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัดโดยการบริหารจัดการพื้นที่ลานจอดไม่ให้รถบรรทุกจากภายนอกเข้ามาจอดในสถานีแบบประจำ
และ ๒) ข้อเสนอแนะสำหรับแผนระยะกลางและระยะยาว เช่น รฟท. ควรประสานผู้ประกอบการไอซีดีปัจจุบัน
ทั้ง ๖ ราย ในการบริหารการรับส่งตู้สินค้าที่มีประสิทธิภาพ โดยการกำหนด KPI truck turnaround time ไม่เกิน
๒ ชั่วโมง และประเมินผลต่อเนื่อง
และควรเพิ่มปริมาณการขนส่งสินค้าทางรางระหว่างสถานี (ไอซีดี) ลาดกระบัง
และท่าเรือแหลมฉบังให้ได้มากกว่า ๓๐ เที่ยวต่อวัน (ไป-กลับ)
และเพิ่มขนส่งด้วยระบบรางอย่างน้อยร้อยละ ๕๐
ของจำนวนตู้สินค้าทั้งหมดที่ขนส่งผ่านสถานี
เพื่อลดปริมาณรถบรรทุกที่เข้ามารับส่งตู้สินค้าในสถานี และกรุงเทพมหานคร ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเสนอ
|