ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1382 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 27621 - 27640 จากข้อมูลทั้งหมด 124229 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
27621 | ขออนุมัติจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการระหว่างไทยกับไนจีเรีย | กต | 13/08/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติการจัดทำ และเห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐไนจีเรียว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการ (Memorandum of Understanding between the Government of the Kingdom of Thailand and the Government of the Federal Republic of Nigeria on Technical Cooperation) มีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการในรูปแบบต่าง ๆ อาทิ การแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญ นักวิชาการ และสิ่งอำนวยความสะดวกในการฝึกอบรม ส่งเสริมการศึกษาและโครงการที่ก่อให้เกิดการพัฒนาทางเศรษฐกิจและสังคม การให้ความช่วยเหลือในโครงการเฉพาะต่าง ๆ และความช่วยเหลือในรูปแบบอื่นที่ตกลงร่วมกัน ๑.๒ อนุมัติให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ ๑.๓ หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงถ้อยคำของร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญ เพื่อให้สอดคล้องกับผลประโยชน์และนโยบายของรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย ให้กระทรวงการต่างประเทศสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้ง ๒. สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินกิจกรรมภายใต้กรอบบันทึกความเข้าใจฯ ที่อาจเกิดขึ้น เห็นควรให้ใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีของกระทรวงการต่างประเทศ รายการเงินอุดหนุนการให้ความช่วยเหลือและความร่วมมือทางด้านวิชาการและเศรษฐกิจแก่ต่างประเทศ ตามความจำเป็นและเหมาะสม ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
||||||||||||||||||
27622 | การกำหนดหลักเกณฑ์ราคากลางการพัฒนาระบบคอมพิวเตอร์ | ทก | 13/08/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติและเห็นชอบตามที่กระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารเสนอ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติให้ส่วนราชการ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และหน่วยงานอื่นของรัฐใช้หลักเกณฑ์การกำหนดราคางานพัฒนาซอฟต์แวร์ประเภทโปรแกรมประยุกต์ บนเว็บไซต์ http://ni3.mict.go.th/ictestimate01/ ของกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ในการจัดหาระบบดังกล่าวต่อไป ๑.๒ เห็นชอบให้สำนักงบประมาณและหน่วยงานอื่นที่เกี่ยวข้องใช้หลักเกณฑ์การคำนวณราคางานพัฒนาซอฟต์แวร์ประเภทโปรแกรมประยุกต์ ประกอบการพิจารณาจัดสรร หรือตั้งงบประมาณ สำหรับงานพัฒนาซอฟต์แวร์ประเภทโปรแกรมประยุกต์ ๒. ให้คณะกรรมการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐทำหน้าที่พิจารณาทบทวนหลักเกณฑ์การกำหนดราคากลางงานพัฒนาซอฟต์แวร์ประเภทโปรแกรมประยุกต์ตามความเหมาะสมและจำเป็น โดยไม่จำเป็นต้องตั้งคณะกรรมการเพิ่มเติม เนื่องจากคณะกรรมการจัดหาระบบคอมพิวเตอร์ของรัฐทำหน้าที่ดังกล่าวอยู่แล้ว และสำนักงบประมาณจะพิจารณาตั้งงบประมาณและจัดสรรงบประมาณโดยไม่เกินหลักการแนวทางการประเมินราคางานพัฒนาระบบประเภทโปรแกรมประยุกต์ดังกล่าวต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ |
||||||||||||||||||
27623 | รายงานการแก้ไขปัญหาการรั่วไหลของน้ำมันดิบลงทะเลอ่าวมาบตาพุดและการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ | พน | 13/08/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการแก้ไขปัญหาการรั่วไหลของน้ำมันดิบลงทะเลอ่าวมาบตาพุดและการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การบริหารจัดการเหตุฉุกเฉินและการขจัดคราบน้ำมันดิบในพื้นที่ที่น้ำมันดิบรั่วไหล บริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) หรือ PTTGC และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนินการหยุดการรั่วไหลทันที โดยการปิดวาล์วและหยุดขนถ่ายน้ำมัน มีการประกาศเหตุฉุกเฉินพร้อมการตั้งศูนย์ควบคุมเหตุฉุกเฉิน และประสานงานกับบริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) บริษัทในกลุ่ม ปตท. และหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ความช่วยเหลือตามแนวทางปฏิบัติจากการซ้อมแผนฉุกเฉินรองรับภาวะวิกฤต และบริหารความต่อเนื่องของธุรกิจ ๒. ความคืบหน้าการกำจัดคราบน้ำมัน พบว่าสภาพในทะเลและชายหาดเริ่มเข้าสู่สภาวะปกติ ยังคงเหลือคราบน้ำมันบริเวณซอกหินเท่านั้น ทั้งนี้ PTTGC ได้ดำเนินการทำความสะอาดอย่างต่อเนื่อง โดยมีการใช้น้ำแรงดันสูง ซึ่งสามารถขจัดคราบได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีการพลิกทรายเพื่อให้น้ำมันขนาดเล็กทำปฏิกริยากับแสงแดดและสลายได้เองตามธรรมชาติ ๓. การเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบ มีผู้ร้องเรียน ๑,๒๕๐ ราย แบ่งกลุ่มผู้ได้รับผลกระทบเป็น ๔ กลุ่มหลัก คือ กลุ่มอาชีพประมง มีผู้ร้องเรียนประมาณ ๔๐๐ กว่าราย มีผู้ผ่านหลักเกณฑ์การพิจารณาผ่านการตรวจสอบเอกสาร และได้รับอนุมัติจากจังหวัด จำนวน ๑๑๗ ราย โดยจะมีการจ่ายเงินชดเชยในวันที่ ๑๐ สิงหาคม ๒๕๕๖ จ่ายค่าชดเชยรายละ ๓๐,๐๐๐ บาท (อัตราค่าชดเชย ๑,๐๐๐ บาทต่อวัน x จำนวน ๓๐ วัน) กลุ่มผู้ประกอบการโรงแรมและร้านอาหาร มีผู้ร้องเรียน จำนวนประมาณ ๖๐๐ กว่าราย อยู่ระหว่างการเจรจารายละเอียด กลุ่มผู้ได้รับผลกระทบทางด้านสุขภาพ มีผู้ร้องเรียน จำนวน ๑ ราย อยู่ระหว่างการเจรจารายละเอียด และกลุ่มอื่น ๆ ประกอบด้วย อาชีพรับจ้าง ค้าขาย และให้บริการ เช่น รถ-เรือเช่า ก่อสร้าง นวดแผนไทย เป็นต้น อยู่ระหว่างการเจรจารายละเอียด ๔. การกลับเข้าปฏิบัติงาน (Resume operation) อยู่ระหว่างการจัดทำแผนการกลับมาดำเนินการตามปกติ ตามมติคณะกรรมการ ปตท. และ PTTGC โดยก่อนใช้งานจริงจะมีการตรวจสอบระบบท่อและระบบที่เกี่ยวข้อง การเฝ้าระวังของเรือตรวจการณ์ ระบบความปลอดภัย แผนการจัดการหากเกิดเหตุฉุกเฉิน รวมถึงการทบทวนแผนปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้อง และได้มีการจัดตั้งคณะทำงานของ PTTGC เพื่อจัดทำแผนปฏิบัติการ (Action plan) เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในอุตสาหกรรม นอกจากนี้ ยังได้ศึกษาขีดความสามารถและความพร้อมของอุปกรณ์และระบบที่เกี่ยวข้อง ศึกษาศักยภาพของสมาคมต่าง ๆ ในด้านการจัดการความปลอดภัย และทบทวนกฎระเบียบ ข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง และปรับปรุงการดำเนินงานภายใต้ความปลอดภัย
|
||||||||||||||||||
27624 | ร่างถ้อยแถลงร่วมในโอกาสการเยือนทาจิกิสถานอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี | กต | 13/08/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการร่างถ้อยแถลงร่วม (Joint Statement) ระหว่างไทยกับทาจิกิสถาน เพื่อใช้เป็นเอกสารสรุปผลการเยือนทาจิกิสถานอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี ระหว่างวันที่ ๑๙-๒๐ สิงหาคม ๒๕๕๖ โดยเอกสารถ้อยแถลงร่วมฯ มีสาระสำคัญเพื่อเป็นการยืนยันเจตนารมณ์ร่วมและแสดงความมุ่งมั่นของรัฐบาลไทยและทาจิกิสถานในการกระชับความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองประเทศในประเด็นต่าง ๆ ได้แก่ ด้านความสัมพันธ์ในกรอบทวิภาคี ด้านความร่วมมือทางเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุน ด้านความร่วมมือในกรอบภูมิภาคและพหุภาคี และด้านความร่วมมือว่าด้วยการจัดการน้ำ ๒. หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงร่างถ้อยแถลงร่วมฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทยก่อนมีการเผยแพร่ถ้อยแถลงร่วมฯ ให้กระทรวงการต่างประเทศสามารถดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง |
||||||||||||||||||
27625 | การจัดการประชุม The Bangkok Dialogue on the Rule of Law : Investing in the Rule of Law, Justice and Security for the Post-2015 Development Agenda | ยธ | 13/08/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบการเป็นเจ้าภาพในการจัดการประชุม The Bangkok Dialogue on the Rule of Law : Investing in the Rule of Law, Justice and Security for the Post-2015 Development Agenda ในวันที่ ๑๕ พฤศจิกายน ๒๕๕๖ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้นำประเทศ นักวิชาการ และตัวแทนจากภาคประชาสังคม ได้ร่วมแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เกี่ยวกับหลักนิติธรรมและความเชื่อมโยงกับการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ เพื่อสร้างความตระหนักเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวทั้งในระดับประเทศและระดับระหว่างประเทศ และสร้างแรงผลักดันทางการเมืองในการพิจารณาให้ประเด็นเรื่องหลักนิติธรรมเข้าเป็นส่วนหนึ่งของระเบียบวาระการพัฒนาของสหประชาชาติภายหลังปี ค.ศ. ๒๐๑๕ (the Post-2015 United Nations Development Agenda) โดยสมบูรณ์ ๑.๒ ให้หน่วยงานราชการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งกระทรวงการต่างประเทศให้การสนับสนุนกระทรวงยุติธรรมในการเตรียมการเพื่อจัดการประชุมฯ ๑.๓ ให้การสนับสนุนด้านงบประมาณในการจัดการประชุมฯ เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามที่กำหนดไว้ ๒. เห็นชอบให้กระทรวงการต่างประเทศให้การสนับสนุนในการเชิญผู้นำประเทศ/ผู้นำรัฐบาลที่มีบทบาทสำคัญในด้านหลักนิติธรรม (the Rule of Law) เข้าร่วมประชุมฯ ด้วย ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอเพิ่มเติม
|
||||||||||||||||||
27626 | การสนับสนุนและยกย่องเชิดชูเกียรติให้แก่ นางสาวรัชนก อินทนนท์ นักกีฬาแบดมินตันทีมชาติไทย | กก | 13/08/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอทั้ง ๓ ข้อ ดังนี้ ๑.๑ เรื่องเงินรางวัล นางสาวรัชนก อินทนนท์ จะได้รับการสนับสนุนเงินรางวัลจากกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ตามระเบียบหลักเกณฑ์ของกองทุนฯ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น ๑,๐๐๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งล้านบาทถ้วน) แต่เนื่องจากนักกีฬาดังกล่าว สร้างผลงานเป็นที่ประจักษ์ได้รับการยอมรับทางสังคมทั้งในประเทศและต่างประเทศ เป็นบุคคลตัวอย่างที่ประพฤติตนเป็นแบบอย่างที่ดีของสังคมมาโดยตลอด ดังนั้น จึงเห็นควรให้กองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติสนับสนุนเงินรางวัลเพิ่มเติมเป็นกรณีพิเศษ ๑.๒ การยกย่องเชิดชูเกียรติ เนื่องจากปัจจุบันนางสาวรัชนก อินทนนท์ ได้รับเครื่องราชอิสริยาภรณ์ในชั้นเบญจมดิเรกคุณาภรณ์แล้ว และในปี พ.ศ. ๒๕๕๖ อยู่ระหว่างเสนอขอพระราชทานเครื่องราชฯ ในชั้นจตุตถดิเรกคุณาภรณ์ ซึ่งเป็นการขอตามผลงานการแข่งขันที่เกิดขึ้นในปี พ.ศ. ๒๕๕๕ ที่ผ่านมา ดังนั้น จึงเห็นควรพิจารณาเสนอขอพระราชทานเครื่องราชฯ ในลำดับที่สูงขึ้นเป็นกรณีพิเศษ โดยให้เสนอคณะกรรมการพิจารณาการเสนอขอพระราชทานเครื่องราชฯ เพื่อเป็นการยกย่องเชิดชูเกียรติในฐานะที่สร้างชื่อเสียงให้แก่ประเทศชาติ ๑.๓ เสนอขอหนังสือเดินทางราชการ เล่มสีน้ำเงิน (OFFICAL PASSPORT) ให้แก่นางสาวรัชนก อินทนนท์ เป็นกรณีพิเศษ เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกในการเดินทางไปแข่งขันในอนาคต โดยให้การกีฬาแห่งประเทศไทย เป็นผู้เสนอเรื่องดังกล่าวไปยังกระทรวงการต่างประเทศต่อไป ๒. ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศ และสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามขั้นตอนของระเบียบหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
||||||||||||||||||
27627 | การดูแลผู้หลบหนีเข้าเมืองทางทะเลชาวโรฮิงญา | พม | 13/08/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบแนวทางการดูแลผู้หลบหนีเข้าเมืองทางทะเลชาวโรฮิงญา ทั้งชาวโรฮิงญาหญิงและเด็กที่อยู่ในความดูแลของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และโรฮิงญาชายที่อยู่ในความดูแลของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง โดยจัดให้ไปอยู่ในความดูแลรวมกันที่ศูนย์พักพิง (ที่ไม่มีชาวพม่าพำนักอยู่) ซึ่งอยู่ในความรับผิดชอบของกระทรวงมหาดไทย และขอให้สำนักงานข้าหลวงใหญ่ ผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) เข้ามาช่วยเสริมการปฏิบัติงานในการดูแลกลุ่มชาวโรฮิงญาในภาพรวมด้วย ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ๒. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงมหาดไทย สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง
|
||||||||||||||||||
27628 | มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2556 | นร07 | 13/08/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ วงเงิน ๑๗๐,๔๗๕.๐๒๗ ล้านบาท ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐที่มีความพร้อมสามารถดำเนินการก่อหนี้ผูกพันได้ทันภายในเดือนกันยายน ๒๕๕๖ หรือไม่สามารถดำเนินการก่อหนี้ผูกพันได้ทันแต่มีความจำเป็นเร่งด่วนที่จะต้องดำเนินการใช้จ่ายเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม ๒๕๕๖ ภายใต้ยุทธศาสตร์ประเทศและนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ดังนี้ ๑.๑ กรณีส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ ยังคงมีความจำเป็นต้องดำเนินการตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณที่ได้รับความเห็นชอบแล้ว และมีความพร้อมที่จะสามารถก่อหนี้ผูกพันได้ภายในเดือนกันยายน ๒๕๕๖ ให้เสนอรัฐมนตรีเจ้าสังกัดพิจารณานำเสนอคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐเพื่อพิจารณาอนุมัติผ่อนผันต่อไป ๑.๒ กรณีส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ ที่ได้รับความเห็นชอบแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณแล้ว และไม่สามารถดำเนินการก่อหนี้ผูกพันโครงการหรือรายการภายในเดือนกันยายน ๒๕๕๖ แต่ยังมีความจำเป็นที่จะดำเนินการเพื่อเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงเดือนตุลาคม-ธันวาคม ๒๕๕๖ โดยในส่วนของงบประมาณรายจ่าย ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐ พิจารณาทบทวนแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๖ โครงการ/รายการที่ไม่สามารถดำเนินการหรือมีความซ้ำซ้อน หรือที่ได้ดำเนินการบรรลุวัตถุประสงค์แล้วและมีงบประมาณเหลือจ่าย หรือคาดว่าไม่สามารถเบิกจ่ายได้ตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ในแผนภายในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖ ให้พิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ โดยโอนเปลี่ยนแปลงงบประมาณ จากโครงการ/รายการเดิม เพื่อนำไปดำเนินการเป็นรายการงบประมาณที่มีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ประเทศ (Country Strategy) และนโยบายเร่งด่วนรัฐบาล, เป็นรายการงบประมาณที่ก่อให้เกิดประโยชน์ทางเศรษฐกิจ ซึ่งสามารถวิเคราะห์ความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจได้อย่างชัดเจน, เป็นรายการงบประมาณที่มีความพร้อมสามารถดำเนินงานได้ทันทีภายในวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๖, เป็นการโอนเปลี่ยนแปลงเพื่อการแก้ไขปัญหาของหน่วยงานในกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเท่านั้น, เป็นรายการที่ผ่านการตรวจสอบข้อกำหนดตามกฎหมายฉบับต่าง ๆ แล้ว เช่น กฎหมายสิ่งแวดล้อม และเป็นรายการที่แก้ปัญหา/ตอบสนองความต้องการของประชาชน สำหรับงบประมาณรายจ่ายงบกลาง หากรายการใดที่ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นของรัฐได้รับการจัดสรรงบประมาณไปใช้จ่ายบรรลุวัตถุประสงค์แล้วมีเงินคงเหลือ ให้ส่งคืนสำนักงบประมาณ และหากมีความจำเป็นต้องนำไปใช้จ่ายในรายการอื่น ๆ ให้พิจารณาดำเนินการตามขั้นตอนต่อไป ๒. ให้คณะกรรมการติดตามเร่งรัดการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐพิจารณาแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณของหน่วยงานต่าง ๆ ให้สอดคล้องกับมาตรการสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๕๖ (เรื่อง มาตรการสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจอย่างมีเสถียรภาพ) ต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||
27629 | ให้อำนาจหน้าที่ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบดำเนินการในพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรสิ้นสุด | นร05 | 13/08/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบประกาศ เรื่อง ให้อำนาจหน้าที่ของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักรที่ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบดำเนินการในพื้นที่ปรากฏเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักรสิ้นสุด ตั้งแต่วันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๕๖ ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||
27630 | แต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาโคนมและผลิตภัณฑ์อย่างครบวงจร | นร04 | 13/08/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาโคนมและผลิตภัณฑ์อย่างครบวงจร ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ โดยมีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ ดังนี้
๑. องค์ประกอบของคณะกรรมการฯ ประกอบด้วย รองนายกรัฐมนตรี (นายยุคล ลิ้มแหลมทอง) เป็นประธานกรรมการ ปลัดกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ปลัดกระทรวงพาณิชย์ ปลัดกระทรวงสาธารณสุข ปลัดกระทรวงการคลัง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ รองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ได้รับมอบหมาย ประธานสภาหอการค้าไทย ประธานสภาอุตสาหกรรม ประธานสภาเกษตรกรแห่งชาติ ประธานชุมนุมสหกรณ์โคนมแห่งประเทศไทย จำกัด นายกสมาคมกลุ่มเกษตรกรผู้รวบรวมน้ำนมดิบ นายกสมาคมผู้ประกอบการแปรรูปอาหารนม นายกสมาคมผู้ผลิตนมพาสเจอร์ไรส์ ผู้ทรงคุณวุฒิที่ประธานกรรมการแต่งตั้ง ๒ ท่าน เป็นกรรมการ อธิบดีกรมปศุสัตว์ เป็นเลขานุการ อธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ และผู้อำนวยการองค์การส่งเสริมกิจการโคนมแห่งประเทศไทย เป็นผู้ช่วยเลขานุการ ๒. อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการฯ ศึกษา และจัดทำแนวทางรวมทั้งมาตรการในการพัฒนาโคนมและผลิตภัณฑ์ รวมถึงการพัฒนาอุตสาหกรรมนม ที่เชื่อมโยงเป็นระบบครบวงจรตลอดห่วงโซ่การผลิต (Value Chain) เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มและเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในตลาดโลก เชิญบุคคลที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงหรือขอเอกสารหลักฐาน โดยให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของทางราชการให้ความร่วมมือ และสนับสนุนการดำเนินการของคณะกรรมการ แต่งตั้งคณะอนุกรรมการ คณะทำงาน เพื่อการดำเนินงานได้ตามความเหมาะสม รวมทั้งรายงานผลการดำเนินงานต่อนายกรัฐมนตรี และดำเนินการอื่นตามที่นายกรัฐมนตรีหรือคณะรัฐมนตรีมอบหมาย
|
||||||||||||||||||
27631 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (จำนวน 10 ราย 1. นายพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา ฯลฯ) | นร11 | 13/08/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ จำนวน ๑๐ คน ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๖ เป็นต้นไป ดังนี้
๑. นายพารณ อิศรเสนา ณ อยุธยา ประธานกรรมการ ๒. นางจุรี วิจิตรวาทการ กรรมการ ๓. นายอาชว์ เตาลานนท์ กรรมการ ๔. นายอิสระ ว่องกุศลกิจ กรรมการ ๕. นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการ ๖. นายศักรินทร์ ภูมิรัตน กรรมการ ๗. นายสนิท อักษรแก้ว กรรมการ ๘. นายอัชพร จารุจินดา กรรมการ ๙. นายอำพน กิตติอำพน กรรมการ ๑๐. นายศุภวุฒิ สายเชื้อ กรรมการ
|
||||||||||||||||||
27632 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ (จำนวน 9 คน 1. นายครรชิต มาลัยวงศ์ ฯลฯ) | นร01 | 13/08/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการข้อมูลข่าวสารของราชการ จำนวน ๙ คน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๖) เป็นต้นไป ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้
๑. นายครรชิต มาลัยวงศ์ ๒. พลตำรวจเอก เจตน์ มงคลหัตถี ๓. นายเธียรชัย ณ นคร ๔. ศาสตราจารย์นันทวัฒน์ บรมานันท์ ๕. นายพจน์ จิรวุฒิกุล ๖. นายประวัติ วีรกุล ๗. นายเรืองชัย ทรัพย์นิรันดร์ ๘. นาวาตรี วุฒิพงศ์ พงศ์สุวรรณ ๙. รองศาสตราจารย์สุรชาติ บำรุงสุข
|
||||||||||||||||||
27633 | แต่งตั้งข้าราชการให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์) (นายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต) | พม | 13/08/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายเลิศปัญญา บูรณบัณฑิต ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
|
||||||||||||||||||
27634 | การแต่งตั้งข้าราชการ (กระทรวงพลังงาน) (นายสมนึก บำรุงสาลี และนายเสมอใจ ศุขสุเมฆ) | พน | 13/08/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงพลังงาน ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ดังนี้
๑. นายสมนึก บำรุงสาลี ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายเสมอใจ ศุขสุเมฆ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||
27635 | แต่งตั้งเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ (นายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์) | วท | 13/08/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งนายพิเชฐ ดุรงคเวโรจน์ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งชาติ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๖) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ
|
||||||||||||||||||
27636 | รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีนเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตประจำประเทศไทย [นายหนิง ฟู่ขุย (Mr. Ning Fukui)] | กต | 13/08/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายหนิง ฟู่ขุย (Mr. Ning Fukui) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนประจำประเทศไทยคนใหม่ โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทนนายกว่าน มู่ (Mr. Guan Mu) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||
27637 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (จำนวน 10 ราย 1. นายนิทัศน์ รายยวา ฯลฯ) | สธ | 13/08/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๑๐ ราย โดยลำดับที่ ๑-๖ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้ง และลำดับที่ ๗-๑๐ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นายนิทัศน์ รายยวา ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายทรงยศ ชัยชนะ ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายพรเทพ ศิริวนารังสรรค์ ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมอนามัย ๔. นายเจษฎา โชคดำรงสุข ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมสุขภาพจิต ๕. นายวชิระ เพ็งจันทร์ ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๖. นายโสภณ เมฆธน ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมควบคุมโรค ๗. นายสุพรรณ ศรีธรรมมา ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมการแพทย์ ๘. นายอำนวย กาจีนะ ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๙. นายอภิชัย มงคล ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ๑๐. นายธวัชชัย กมลธรรม ให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก
|
||||||||||||||||||
27638 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม) (นายเริงชัย ประยูรเวช) | ทส | 13/08/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายเริงชัย ประยูรเวช ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
||||||||||||||||||
27639 | การปาฐกถาพิเศษ "Uniting for the future : Learning from each other's experience" | กต | 13/08/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางการจัดปาฐกถาพิเศษ "Uniting for the future : Learning from each other''s experience" ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. นายกรัฐมนตรีมีดำริให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการจัดปาฐกถาพิเศษเรื่อง "Uniting for the future : Learning from each other''s experience" ในวันที่ ๒ กันยายน ๒๕๕๖ ณ กรุงเทพมหานคร โดยเชิญอดีตผู้นำประเทศต่าง ๆ หรือบุคคลที่มีชื่อเสียงและประสบการณ์ในการเสริมสร้างประชาธิปไตยและกระบวนการปรองดองเป็นองค์ปาฐก เพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ที่จะเป็นประโยชน์สำหรับสาธารณชนไทยในวงกว้าง ๒. วัตถุประสงค์ของการจัดปาฐกถาพิเศษ เพื่อถ่ายทอดและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ บทเรียนและแนวปฏิบัติที่ดี โดยเฉพาะจากบุคคลระดับผู้นำที่มีชื่อเสียงและประสบการณ์ในเรื่องการปรองดองที่สำคัญจากประเทศต่าง ๆ ให้แก่ประชาชนและภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในประเทศไทย และเพื่อส่งเสริมการนำความรู้และประสบการณ์ที่ได้จากนานาประเทศไปประยุกต์ใช้ในสังคมไทย เพื่อให้เกิดการปรองดองระหว่างประชาชนกลุ่มต่าง ๆ ที่มีความคิดและความเห็นที่แตกต่างกันให้สามารถอยู่ร่วมกันในสังคมได้อย่างสงบสุข ๓. รูปแบบการจัดงาน กระทรวงการต่างประเทศ โดยสถาบันเทวะวงศ์วโรปการร่วมกับสถาบันความมั่นคงและนานาชาติศึกษา จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เป็นผู้ดำเนินการหลัก โดยจะพิจารณาเชิญผู้เข้าร่วมฟังการปาฐกถาจากภาคส่วนต่าง ๆ ของไทยรวมประมาณ ๓๐๐ คน เช่น ผู้แทนจากภาครัฐ กลไกภายใต้รัฐธรรมนูญ ภาคเอกชน ภาควิชาการ ภาคประชาสังคม สื่อมวลชน และฝ่ายการเมือง เป็นต้น โดยในช่วงเช้านายกรัฐมนตรีจะกล่าวถ้อยแถลงเปิดงาน ตามด้วยการปาฐกถาของวิทยากรระดับสูง ได้แก่ นายโทนี่ แบลร์ นายมาร์ตี อาห์ติซารี และนางพริซิลลา เฮย์เนอร์ โดยจะถ่ายทอดสดทางโทรทัศน์ให้แก่ประชาชนทั่วไปรับชม และในช่วงบ่ายมีการนำเสนอและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ/นักวิชาการ โดยผู้เชี่ยวชาญ/นักวิชาการที่มีชื่อเสียงในระดับระหว่างประเทศ ซึ่งจะมีการถ่ายทอดเสียงทางวิทยุในภาคภาษาไทยและภาษาอังกฤษ นอกจากนี้ จะได้เปิดโอกาสให้องค์ปาฐกและผู้เชี่ยวชาญได้พูดคุยกับภาคส่วนกลุ่มต่าง ๆ ตามความประสงค์ ในวันรุ่งขึ้นด้วย
|
||||||||||||||||||
27640 | แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการบริหารกิจการขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (จำนวน 3 คน 1.นายนภศูล อังคทะวานิช ฯลฯ) | ทส | 13/08/2556 | |||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการบริหารกิจการขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ จำนวน ๓ คน แทนกรรมการที่พ้นจากตำแหน่ง ทั้งนี้ ให้มีผลนับตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๓ สิงหาคม ๒๕๕๖) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
๑. นายนภศูล อังคทะวานิช ๒. นายจตุพร บุรุษพัฒน์ (เป็นผู้มีรายชื่อตามประกาศกระทรวงการคลัง เรื่อง บัญชีรายชื่อกรรมการรัฐวิสาหกิจ) ๓. ว่าที่ร้อยตรี เชิดศักดิ์ จำปาเทศ
|
.....