คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานผลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ
ผู้ป่วยยาเสพติด ระหว่างวันที่ 7-13 พฤศจิกายน 2546 โดยผลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยยาเสพ
ติด จากรายงานทั้งสิ้น 76 จังหวัด มีผู้ป่วยเข้ารับการบำบัดรักษาทั้งสิ้น  2,020  ราย  สถานบำบัดที่ให้การบำบัด
มากที่สุดคือ ระดับโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป  รองลงมาคือ  สังกัดกรมสุขภาพจิต  สังกัดกรมการแพทย์
ระดับ PCU/สถานีอนามัย และระดับโรงพยาบาลชุมชน ตามลำดับ  ส่วนวิธีการบำบัดรักษา แยกเป็นวิธีการบำบัด
โดยบำบัดในชุมชน 569 ราย วิธีผู้ป่วยนอก 1,090 ราย วิธีผู้ป่วยใน 361 ราย  สถานบำบัดที่ให้การบำบัดโดยวิธี
บำบัดในชุมชนสูงสุด  คือ  PCU/สถานีอนามัย  วิธีผู้ป่วยนอกสูงสุดคือ  สถานบริการสังกัดกรมสุขภาพจิต  และวิธี
ผู้ป่วยในบริการสูงสุดคือ  ระดับโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป    สำหรับลักษณะการบำบัดของผู้มารับการ
บริการ เป็นการมารับการบำบัดโดยสมัครใจ 1,846 ราย โดยการบังคับบำบัด  174  ราย  สถานบำบัดที่ให้การ
บำบัดโดยสมัครใจสูงสุดคือ กรมสุขภาพจิต และบังคับให้บริการสูงสุดคือ ระดับโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาล
ทั่วไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 6 ที่มีมติอนุมัติ
หลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดลักษณะ ชนิด  ประเภท  และปริมาณ
ยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. ....  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา  แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดย
สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวงฉบับนี้เป็นการกำหนดลักษณะ  ชนิด  และประเภทของยาเสพติดให้โทษ   สำหรับ
ความผิดฐานเสพยาเสพติดให้โทษ ได้แก่ ยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ประเภท 2  และประเภท 5  ทุกชนิด  ตาม
กฎหมายว่าด้วยยาเสพติดให้โทษ รวมทั้งกำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษในประเภท 1 ประเภท 2  และประเภท 5  
สำหรับความผิดฐานเสพและมีไว้ในครอบครอง   ความผิดฐานเสพและมีไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่าย  และความผิด
ฐานเสพและจำหน่ายซึ่งยาเสพติดให้โทษ   ทั้งนี้   ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับข้อสังเกตของคณะรัฐมน
ตรีไปพิจารณาด้วยว่าร่างกฎกระทรวงที่เสนอในครั้งนี้ ออกตามความในพระราชบัญญัติยาเสพติดให้โทษ พ.ศ. 2522 
แต่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เสพยาเสพติด ที่ได้กระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดให้โทษได้เข้าสู่ระบบการฟื้นฟูสมรรถ
ภาพผู้ติดยาเสพติด     เช่นเดียวกับวัตถุประสงค์ของกฎกระทรวงว่าด้วยการกำหนดลักษณะ   ชนิด  ประเภท    และ
ปริมาณของยาเสพติด  พ.ศ. 2546 ซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. 2545 
ซึ่งประกาศใช้บังคับไปแล้ว   แต่หลักการตามกฎกระทรวงซึ่งออกตามความในพระราชบัญญัติฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติด
ยาเสพติด ฯ มีลักษณะเป็นการใช้บังคับกับผู้ที่ตกเป็นผู้ต้องหาว่ากระทำความผิดให้เข้าสู่ระบบการฟื้นฟูสมรรถภาพ
ผู้ติดยาเสพติด  ดังนั้น  การคำนวณปริมาณยาเสพติดจึงเป็นปริมาณตามที่ถูกกล่าวหา  สำหรับหลักการของร่างกฎ
กระทรวงในเรื่องนี้จะใช้กับผู้สมัครใจขอเข้ารับการบำบัด รักษา ก่อนความผิดจะปรากฏ ปริมาณยาเสพติดในกรณีนี้
อาจมิได้มีอยู่ในครอบครองจึงเป็นปริมาณที่ได้จากการคำนวณ   ฉะนั้น  จึงควรมีหลักเกณฑ์และระยะเวลาที่จะนำมา
คำนวณที่ชัดเจน  อย่างไรก็ตาม  หากบทบัญญัติของร่างกฎกระทรวงฉบับนี้จะมีความสอดคล้อง  และเป็นไปในแนว
ทางเดียวกันกับกฎกระทรวงดังกล่าวซึ่งใช้บังคับแล้ว ก็จะเหมาะสมและป้องกันความสับสนที่อาจเกิดขึ้นได้

           คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานผลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ
ผู้ป่วยยาเสพติด ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม - 6 พฤศจิกายน 2546 โดยผลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้
ป่วยยาเสพติด จากรายงานทั้งสิ้น 76 จังหวัด มีผู้ป่วยเข้ารับการบำบัดรักษาทั้งสิ้น 3,181 ราย สถานบำบัดที่ให้
การบำบัดมากที่สุดคือ สังกัดกรมสุขภาพจิต  ส่วนวิธีการบำบัด ประกอบด้วย การบำบัดรักษาโดยบำบัดในชุมชุน
1,028 ราย วิธีผู้ป่วยนอก 1,726 ราย วิธีผู้ป่วยใน 427 ราย สถานบำบัดที่ให้การบำบัดโดยวิธีบำบัดในชุมชนสูง
สุดคือ  ระดับ  PCU/สถานีอนามัย  วิธีผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในให้บริการสูงสุดโดยสถานบริการสังกัดกรมสุขภาพ
จิตสำหรับลักษณะการบำบัดของผู้มารับการบริการ เป็นการมารับการบำบัดโดยสมัครใจ  2,968  ราย โดยการ
บังคับบำบัด  213  ราย  สถานบำบัดที่ให้การบำบัดโดยสมัครใจสูงสุดคือ  ระดับ PCU/สถานีอนามัย  และบังคับ
บำบัดให้บริการสูงสุดคือ ระดับโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานผลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ
ผู้ป่วยยาเสพติด ระหว่างวันที่ 24-30 ตุลาคม 2546  โดยผลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยยาเสพติด
จากรายงานทั้งสิ้น 76 จังหวัด มีผู้ป่วยเข้ารับการบำบัดรักษาทั้งสิ้น 3,190 ราย  สถานบำบัดที่ให้การบำบัดมากที่
สุดคือ ระดับ PCU/สถานีอนามัย รองลงมาคือ ในระดับโรงพยาบาลชุมชน สังกัดกรมสุขภาพจิต  ระดับโรงพยาบาล
ศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป สังกัดกรมการแพทย์ ตามลำดับ  ส่วนวิธีการบำบัดรักษา แยกเป็นวิธีการบำบัดโดยบำบัด
ในชุมชน 1,102 ราย วิธีผู้ป่วยนอก 1,804 ราย วิธีผู้ป่วยใน 284 ราย  สถานบำบัดที่ให้การบำบัดโดยวิธีบำบัดใน
ชุมชนสูงสุดคือระดับ PCU/สถานีอนามัย วิธีผู้ป่วยนอกสูงสุดคือ ระดับโรงพยาบาลชุมชน และวิธีผู้ป่วยในบริการสูง
สุดโดยสถานบริการสังกัดกรมสุขภาพจิต  ส่วนลักษณะการบำบัดของผู้มารับการบริการ  เป็นการมารับการบำบัด
โดยสมัครใจ 2,686 ราย  โดยการบังคับบำบัด  504  ราย  สถานบำบัดที่ให้การบำบัดโดยสมัครใจสูงสุดคือ ระดับ
 PCU/สถานีอนามัย และบังคับบำบัดให้บริการสูงสุดคือ ระดับโรงพยาบาลชุมชน

           คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานผลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ
ผู้ป่วยยาเสพติดของกระทรวงสาธารณสุข  ตั้งแต่วันที่ 17 - 23 ตุลาคม 2546  โดยผลการบำบัดรักษาและฟื้นฟู
สมรรถภาพผู้ป่วยยาเสพติดจากการรายงานทั้งสิ้น 76 จังหวัด มีผู้ป่วยเข้ารับการบำบัดรักษาทั้งสิ้น 1,915 ราย
สถานบำบัดที่ให้การบำบัดมากที่สุดคือ สังกัดกรมสุขภาพจิต 567 ราย รองลงมาคือ ในระดับโรงพยาบาลชุมชน
ระดับโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป สังกัดกรมการแพทย์ และระดับ PCU/สถานีอนามัย ตามลำดับ  ส่วน
วิธีการบำบัดรักษา แยกเป็นการบำบัดรักษาในชุมชน  283  ราย วิธีผู้ป่วยนอก  1,366  ราย  วิธีผู้ป่วยใน 266
ราย  สถานบำบัดที่ให้การบำบัดโดยวิธีบำบัดในชุมชนสูงสุดคือ ระดับโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป และ
วิธีผู้ป่วยนอกสูงสุด คือ ระดับโรงพยาบาลชุมชน วิธีผู้ป่วยในบริการสูงสุด โดยสถานบริการสังกัดกรมสุขภาพจิต
สำหรับลักษณะการบำบัดของผู้มารับการบริการ เป็นการมารับการบำบัดโดยสมัครใจ 1,337ราย และโดยการ
บังคับบำบัด  578  ราย  สถานบำบัดที่ให้บริการบำบัดโดยสมัครใจสูงสุดคือ สถานบริการสังกัดกรมสุขภาพจิต
และการบังคับบำบัดให้บริการสูงสุดคือ ระดับโรงพยาบาลชุมชน

            คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอให้องค์การเภสัชกรรมดำเนินการ
ก่อสร้างโรงงานผลิตยาต้านไวรัสเอดส์ให้ได้มาตรฐานที่ดีจากองค์การอนามัยโลก (WHO - GMP) ตามที่คณะกรรม
การองค์การเภสัชกรรมให้ความเห็นชอบ  ทั้งนี้  ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขปรึกษารองนายกรัฐมนตรี
(ศาสตราจารย์ ปุระชัย เปี่ยมสมบูรณ์) และรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ  เครืองาม) เกี่ยวกับแนวทางการดำเนิน
การก่อสร้างโรงงาน ฯ ซึ่งจะใช้วิธีจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จ (Turnkey) ให้เป็นไปด้วยความรอบคอบเหมาะสม และถูก
ต้อง  และให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการต่อไปได้  โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการ
เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ดังนี้ การก่อสร้างโรงงานผลิตยาต้านไวรัสเอดส์ควรมีการ
ทบทวนกระบวนการและขั้นตอนอย่างรอบคอบ เพื่อให้ได้ผลตอบแทนการลงทุน (IRR) 15 %  และมีระยะเวลาคืน
ทุนประมาณ 4.3 ปี ตามผลตอบแทนของโครงการที่ได้กำหนดไว้  รวมทั้งควรมีการประสานกับโครงการจัดตั้งศูนย์
เทคโนโลยีชีวภาพด้านการแพทย์และสาธารณสุขของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ ซึ่งเน้นการผลิตชีวภัณฑ์ทางการ
แพทย์ด้านยา  วัคซีนในระดับกึ่งอุตสาหกรรม  เพื่อให้สามารถเชื่อมโยงกับโครงการผลิตยาต้านไวรัสเอดส์ในระยะ
ต่อไป และควรมีการติดตามประเมินผลโครงการอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ การดำเนินงานโครงการในลักษณะของ
การจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จ  (Turn  key)  โดยจ้างผู้เชี่ยวชาญหรือบริษัทจากต่างประเทศมาดำเนินการทั้งหมดนั้น
ควรจัดทำข้อตกลงให้มีผู้เชี่ยวชาญหรือนักวิชาการไทยเข้าร่วมดำเนินการดังกล่าวอย่างเป็นหุ้นส่วนด้วยเพื่อให้เกิด
การเรียนรู้ และเป็นการถ่ายทอดเทคโนโลยีของโครงการอย่างยั่งยืนต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้ง นายธวัช  สุนทราจารย์  ให้ดำรง
ตำแหน่งรองปลัดกระทรวง (นักบริหาร 10 บส.) (กลุ่มภารกิจด้านพัฒนาการสาธารณสุข) สำนักงานปลัด
กระทรวง  กระทรวงสาธารณสุข   และแต่งตั้งนายพิพัฒน์  ยิ่งเสรี  ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
(ผู้ตรวจราชการ  10  บส.) สำนักงานปลัดกระทรวง  กระทรวงสาธารณสุข  ทั้งนี้  ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณา
โปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

           คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานผลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้
ป่วยยาเสพติดของกระทรวงสาธารณสุข ระหว่างวันที่ 3-9 ตุลาคม 2546 โดยผลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถ
ภาพผู้ป่วยยาเสพติดจากการรายงานทั้งสิ้น 76 จังหวัด มีผู้ป่วยเข้ารับการบำบัดรักษาทั้งสิ้น  1,683  ราย  สถาน
บำบัดที่ให้การบำบัดมากที่สุดคือ สังกัดกรมสุขภาพจิต  รองลงมาคือ สังกัดกรมการแพทย์ ระดับโรงพยาบาลศูนย์
/โรงพยาบาลทั่วไป ในระดับโรงพยาบาลชุมชน และระดับ PCU/สถานีอนามัย ตามลำดับ  ส่วนวิธีการบำบัดรักษา
แยกเป็นการบำบัดรักษาในชุมชน 320 ราย วิธีผู้ป่วยนอก 1,030 ราย  วิธีผู้ป่วยใน  333  ราย  สถานบำบัดที่ให้
การบำบัดในชุมชนสูงสุดคือ ระดับโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป วิธีผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในสูงสุดคือ  สังกัด
กรมสุขภาพจิต   สำหรับลักษณะการบำบัดของผู้มารับการบริการ   เป็นการมารับการบำบัดโดยสมัครใจ  1,524 
ราย  โดยการบังคับบำบัด  159  ราย  การบำบัดโดยการสมัครใจและการบังคับให้บริการสูงสุดคือ สังกัดกรมสุข
ภาพจิต

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานผลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ
ผู้ป่วยยาเสพติด ระหว่างวันที่ 26 กันยายน - 2 ตุลาคม 2546 โดยผลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วย
ยาเสพติดจากการรายงานทั้งสิ้น 76 จังหวัด  มีผู้ป่วยเข้ารับการบำบัดรักษาทั้งสิ้น 1,899 ราย   สถานบำบัดที่ให้
การบำบัดมากที่สุดคือ ในระดับโรงพยาบาลชุมชน  ระดับโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป  สังกัดกรมสุขภาพ
จิต  สังกัดกรมการแพทย์  และระดับ PCU/สถานีอนามัย ตามลำดับ  ส่วนวิธีการบำบัดรักษา  แยกเป็นการบำบัด
รักษาโดยบำบัดในชุมชน 373 ราย วิธีผู้ป่วยนอก 1,336 ราย  วิธีผู้ป่วยใน 190 ราย  สถานบำบัดที่ให้การบำบัด
โดยวิธีบำบัดในชุมชนสูงสุดคือ  โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป   และกรมการแพทย์   สถานบำบัดที่ให้การ
บำบัดโดยวิธีผู้ป่วยนอกสูงสุดคือระดับโรงพยาบาลชุมชน สำหรับวิธีผู้ป่วยในบริการสูงสุด โดยสถานบริการสังกัด
กรมสุขภาพจิต  ส่วนลักษณะการบำบัดของผู้มารับการบริการ  เป็นการมารับการบำบัดโดยสมัครใจ 1,385 ราย 
โดยการบังคับบำบัด  514  ราย  ทั้งนี้  การบำบัดโดยการสมัครใจสูงสุดคือ  กรมสุขภาพจิต และการบังคับบำบัด
ให้บริการสูงสุดคือ ระดับโรงพยาบาลชุมชน

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานผลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถ
ภาพผู้ป่วยยาเสพติดของกระทรวงสาธารณสุข ระหว่างวันที่ 19-25 กันยายน 2546 โดยผลการบำบัดรักษา
และฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยยาเสพติดจากการรายงานทั้งสิ้น 76 จังหวัด มีผู้ป่วยเข้ารับการบำบัดรักษาทั้งสิ้น
1,597  ราย  สถานบำบัดที่ให้การบำบัดมากที่สุดคือ  สังกัดกรมสุขภาพจิต  รองลงมาคือ ระดับโรงพยาบาล 
ศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป สังกัดกรมการแพทย์ ในระดับโรงพยาบาลชุมชน และระดับ PCU/สถานีอนามัย ตาม
ลำดับ ส่วนวิธีการบำบัดรักษา แยกเป็นการบำบัดรักษาในชุมชน 357 ราย วิธีผู้ป่วยนอก 985 ราย วิธีผู้ป่วย
ใน 255 ราย สถานบำบัดที่ให้การบำบัดโดยวิธีบำบัดในชุมชนสูงสุดคือ กรมการแพทย์และโรงพยาบาลศูนย์
/โรงพยาบาลทั่วไป  วิธีผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในบริการสูงสุด โดยสถานบริการสังกัดกรมสุขภาพจิต   สำหรับ
ลักษณะการบำบัดของผู้มารับการบริการ เป็นการมารับการบำบัดโดยสมัครใจ  1,539  ราย    และโดยการ
บังคับบำบัด 58 ราย  ทั้งนี้  การบำบัดโดยการสมัครใจและการบังคับให้บริการสูงสุด คือ ระดับโรงพยาบาล
ศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอให้ นายสุวิทย์ วิบุลผลประเสริฐ พ้นจากตำแหน่ง
รองปลัดกระทรวง (กลุ่มภารกิจด้านการพัฒนาการสาธารณสุข) (นักบริหาร 10 บส.) และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่ง
นักวิชาการสาธารณสุข 10 ชช.  (ด้านเศรษฐศาสตร์สาธารณสุข)  สำนักงานปลัดกระทรวง  และให้นายวิชัย  เทียน
ถาวร พ้นจากตำแหน่งนายแพทย์ 10 วช. (ด้านพัฒนาระบบบริการสาธารณสุข) และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งอธิบดี
(นักบริหาร 10 บส.) กรมอนามัย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

           คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ อนุมัติตามความเห็นสำนักงบประมาณให้กระทรวงสาธารณสุขเพิ่มเติมวงเงินและ
ขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราช  3  แห่ง  ได้แก่  รายการก่อสร้าง
อาคารผู้ป่วยนอก  โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชปัว จังหวัดน่าน อาคารผู้ป่วยนอก  โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพ
ราชกุฉินารายณ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ และอาคารผู้ป่วยนอก  โรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชเลิงนกทา จังหวัดยโสธร
จากปีงบประมาณ พ.ศ. 2545-2546  เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. 2546-2547  และให้กระทรวงสาธารณสุขกำกับ
ดูแลส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในสังกัดให้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติวิธีการประมาณ  พ.ศ. 2502    และที่แก้ไขเพิ่ม
เติมโดยเคร่งครัดต่อไป     รวมทั้งเห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอผลการดำเนินการทำสัญญาก่อสร้าง
อาคารดังกล่าว ได้ดำเนินการแล้ว  โดยโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชทั้ง  3  แห่ง  ได้ดำเนินการจัดจ้างก่อสร้าง
อาคารผู้ป่วยนอกแล้ว ในวงเงิน 24,500,000 บาท  วงเงิน 25,170,000 บาท  และวงเงิน  25,171,000  บาท
ตามลำดับ

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานผลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ
ผู้ป่วยยาเสพติด ระหว่างวันที่ 12-18 กันยายน 2546 โดยผลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยยาเสพ
ติด จากการรายงานทั้งสิ้น 76 จังหวัด  มีผู้ป่วยเข้ารับการบำบัดรักษาทั้งสิ้น  3,305  ราย  สถานบำบัดที่ให้การ
บำบัดมากที่สุดคือ  ในระดับ  PCU/สถานีอนามัย  รองลงมาคือ  สังกัดกรมสุขภาพจิต  โรงพยาบาลชุมชน  ระดับ
โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป  และสังกัดกรมการแพทย์  ตามลำดับ  ส่วนวิธีการบำบัดรักษาแยกเป็นการ
บำบัดในชุมชน 1,081 ราย วิธีผู้ป่วยนอก 1,849 ราย  วิธีผู้ป่วยใน 375 ราย  สถานบำบัดที่ให้การบำบัดโดยวิธี
บำบัดในชุมชนสูงสุดคือ  ระดับ  PCU/สถานีอนามัย   และวิธีผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในสูงสุดคือ  สถานบำบัดสังกัด
กรมสุขภาพจิต   สำหรับลักษณะการบำบัดของผู้มารับการบริการ   เป็นการมารับการบำบัดโดยสมัครใจ 2,666 
ราย  โดยการบังคับบำบัด  639  ราย  สถานบำบัดที่ให้บริการบำบัดโดยวิธีสมัครใจสูงสุดคือ ระดับ PCU/สถานี
อนามัยและวิธีบังคับให้บริการสูงสุดคือ ระดับโรงพยาบาลชุมชน

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา 
เสนอมาตรการในการควบคุมการโฆษณาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์และเครื่องดื่มที่ผสมกาเฟอีน 
โดยออกประกาศ ฯ จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่  ประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่อง หลักเกณฑ์
การโฆษณาเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ และประกาศสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เรื่อง 
หลักเกณฑ์การโฆษณาเครื่องดื่มที่ผสมกาเฟอีน โดยประกาศใช้ ณ วันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2546

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 6 ที่มีมติอนุมัติ
ในหลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอให้การเดินทางของข้าราชการที่ไปปฏิบัติงานในโครงการออกแบบก่อ
สร้างหมู่บ้านนักกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 15 ของประเทศกาตาร์  เป็นการไปทำการอย่างอื่น ซึ่งมิใช่การไปปฏิบัติ
งานในองค์การระหว่างประเทศ โดยรัฐมนตรีเจ้าสังกัด  โดยอนุมัติคณะรัฐมนตรีตามพระราชกฤษฎีกากำหนดหลัก
เกณฑ์การสั่งให้ข้าราชการไปทำการซึ่งให้นับเวลาระหว่างนั้นเหมือนเต็มเวลาราชการ พ.ศ. 2530  มาตรา  4  และ
ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีร่วมกับกระทรวงการต่างประเทศ   กระทรวงพาณิชย์   และหน่วยงานที่เกี่ยว
ข้อง ประชุมเพื่อวางระเบียบและข้อบังคับเกี่ยวกับการไปปฏิบัติงานในต่างประเทศของข้าราชการ  และการให้ความ
ช่วยเหลือผู้ที่ไปปฏิบัติงานดังกล่าว

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้ง นายสมศักดิ์ ประจักษ์วงศ์ ให้ดำรง
ตำแหน่ง นายแพทย์ 10 วช  ด้านเวชกรรมป้องกัน กลุ่มงานพัฒนาและรักษามาตรฐานการตรวจวินิจฉัย  กลุ่ม
มาลาเรีย สำนักโรคติดต่อนำโดยแมลง  กรมควบคุมโรค  กระทรวงสาธารณสุข  ตั้งแต่วันที่ 18 มีนาคม 2546

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานผลการเลือกตั้งผู้อำนวยการองค์การ
อนามัยโลกภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ในการประชุมรัฐมนตรีสาธารณสุขขององค์การอนามัยโลกภูมิภาค
เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ณ กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย ระหว่างวันที่ 8-13 กันยายน 2546  ซึ่งประเทศไทยได้
ส่งนายแพทย์สำลี เปลี่ยนบางช้าง คณบดีวิทยาลัยการสาธารณสุข จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย สมัครเข้ารับการ
เลือกตั้งตำแหน่งผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลกภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ บัดนี้ การเลือกตั้งดังกล่าวได้
สิ้นสุดลงแล้ว ผลปรากฏว่า นายแพทย์สำลี  เปลี่ยนบางช้าง  ได้รับการเลือกตั้ง  โดยมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ดำรง
ตำแหน่งดังกล่าว

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอร่างกฎกระทรวงกำหนดแบบบัตรประจำ
ตัวพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาท พ.ศ. .... (กำหนดให้บัตรประจำตัวพนัก
งานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายว่าด้วยวัตถุที่ออกฤทธิ์ต่อจิตและประสาทมีสีขาว  กับให้มีขนาดและลักษณะตามแบบท้าย
กฎกระทรวงนี้  รวมทั้งให้หัวหน้าส่วนราชการหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายจากหัวหน้าส่วนราชการเป็นผู้ออกบัตรประจำ
ตัวให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ในสังกัด   โดยบัตรประจำตัวดังกล่าวให้มีอายุห้าปีนับแต่วันที่ออกบัตร)  และให้ส่งสำนัก
งานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี 
คณะที่ 6 ที่มีมติอนุมัติตามที่ให้กระทรวงสาธารณสุขขยายเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ 
รายการก่อสร้างอาคารพักเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลโรคทรวงอก จำนวน 1 หลัง  จากปีงบประมาณ 
พ.ศ. 2543-2546  เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. 2543-พ.ศ. 2548ตามที่เสนอ

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานผลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ
ผู้ป่วยยาเสพติด  ระหว่างวันที่ 29 สิงหาคม-4 กันยายน 2546  โดยผลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วย
ยาเสพติด จากการรายงานทั้งสิ้น 76 จังหวัด  มีผู้ป่วยเข้ารับการบำบัดรักษาทั้งสิ้น  2,841  ราย  สถานบำบัดที่ให้
การบำบัดมากที่สุดคือ สังกัดกรมสุขภาพจิต รองลงมาคือ ระดับ PCU/สถานีอนามัย ระดับโรงพยาบาลชุมชน ระดับ
โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป   และสังกัดกรมการแพทย์   ตามลำดับ   ส่วนวิธีการบำบัดรักษาแยกเป็นการ
บำบัดรักษาโดยบำบัดในชุมชน 1,459 ราย  วิธีผู้ป่วยนอก 1,183 ราย  สถานบำบัดที่ให้การบำบัดโดยวิธีบำบัดใน
ชุมชนสูงสุดคือ ระดับโรงพยาบาลชุมชน และวิธีผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในสูงสุดคือ กรมสุขภาพจิต สำหรับลักษณะการ
บำบัดของผู้มารับการบริการ  เป็นการมารับการบำบัดโดยสมัครใจ  2,592  ราย  โดยการบังคับบำบัด  249  ราย 
สถานบริการที่ให้การบำบัดโดยการสมัครใจสูงสุดคือ  ระดับ PCU/สถานีอนามัย   และสถานบริการที่ให้การบำบัด
โดยการบังคับบำบัดสูงสุดคือ กรมสุขภาพจิต