คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้ง นางระวิวรรณ
ปรีดีสนิท ให้ดำรงตำแหน่งนักวิชาการอาหารและยา 10 ชช  ด้านความปลอดภัยและประสิทธิผลของผลิต
ภัณฑ์และการใช้ผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา  กระทรวงสาธารณสุข
ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 6 กันยายน 2547 ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 5 ที่มี
มติอนุมัติตามความเห็นของกระทรวงการคลังให้กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพ
แห่งชาติขยายเวลาเบิกจ่ายเงินงบประมาณ จำนวน  240,655,200  บาท  รายการสัญญาซื้อระบบคอม
พิวเตอร์  โครงการระบบสารสนเทศ  ศูนย์ประมวลผลกลางการประกันสุขภาพถ้วนหน้า  สำนักงานหลัก
ประกันสุขภาพแห่งชาติ  1  ระบบ    และจ้างที่ปรึกษาบริหารโครงการระบบสารสนเทศศูนย์ประมวลผล
กลางการประกันสุขภาพถ้วนหน้า จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2547 ไปอีก  6  เดือน คือ ตั้งแต่วัน
ที่ 1 ตุลาคม 2547-31 มีนาคม 2548 เป็นกรณีพิเศษ

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 5 (คกก.5)
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอการขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการก่อ
สร้างโรงพยาบาลร้อยเอ็ด  และโรงพยาบาลพระพุทธบาท  สระบุรี   ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
โดยในส่วนของงบประมาณดำเนินการให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ โดยให้รับข้อสังเกต
ของ คกก.5 ไปพิจารณาดำเนินการ ดังนี้กรณีที่ผู้รับจ้างละทิ้งงาน จะต้องแจ้งให้กระทรวงการคลังทราบ
ภายใน  15  วัน  เพื่อกระทรวงการคลังจะได้แจ้งให้หน่วยงานอื่นของรัฐทราบถึงพฤติการณ์ของบริษัท 
เพื่อหลีกเลี่ยงการทำสัญญาจ้างกับบริษัทให้ดำเนินการกับเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้องเพื่อมิให้เกิดปัญหาเช่นนี้
อีกโดยหลักการเมื่อผู้รับจ้างละทิ้งงานจนเป็นเหตุให้ต้องบอกเลิกสัญญาผู้ละทิ้งงานต้องเป็นผู้รับผิดชอบ
เพื่อมิให้เป็นภาระแก่งบประมาณแผ่นดินควรเรียกร้องให้ผู้รับจ้างที่ละทิ้งงานชดใช้เงินค่าก่อสร้างในส่วนที่
เพิ่มขึ้นในกรณีที่จัดหาผู้รับจ้างรายใหม่ และค่าใช้จ่ายหรือความเสียหายอื่นจากบริษัทละทิ้งงาน และให้กระ
ทรวงสาธารณสุขดำเนินการในกรณีการบอกเลิกสัญญาและผู้ทิ้งงานให้เป็นไปตามระเบียบสำนักนายกรัฐ
มนตรีว่าด้วยการพัสดุ พ.ศ. 2535  และที่แก้ไขเพิ่มเติม  และที่กระทรวงการคลังกำหนด ตามนัยหนังสือคณะ
กรรมการว่าด้วยการพัสดุ ที่ กค (กวพ.) 0408.4/ว 3  ลงวันที่  5  มกราคม  2547  โดยเคร่งครัด ตลอดจน
ตรวจสอบข้อเท็จจริงในการปฏิบัติงาน และควรให้ความรู้แก่เจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานด้วย

        คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานผลการดำเนินงานโครงการความปลอด
ภัยด้านอาหาร ประจำเดือนกรกฎาคม 2547 ดังนี้ 
       (1) การดำเนินการตรวจสอบเภสัชเคมีภัณฑ์นำเข้า 950 รายการ คิดเป็นมูลค่ากว่า 497.54 ล้านบาท 
ทั้งนี้ ไม่พบการสำแดงเท็จ หรือการลักลอบนำเข้า ตรวจสอบอาหารทุกชนิดที่นำเข้ารวม 8,483 รายการ พบ
ข้อบกพร่องด้านเอกสาร  9  รายการ  ได้แก่  ข้อบกพร่องด้านฉลาก  และไม่มีใบรับรอง GMP  และตรวจสอบ
อาหารด้วยชุดทดสอบขณะนำเข้า 165  รายการ  ไม่พบข้อบกพร่องในทุกรายการที่ทดสอบ  
       (2) การตรวจสอบ GMP โรงงานอาหารแปรรูป 54 ประเภท ทั้งในกรุงเทพ ฯ และในส่วนภูมิภาค โดยทั่ว
ประเทศมีสถานที่ผลิตที่ได้รับการตรวจประเมิน GMP แล้ว 9,967 แห่ง  ผ่านเกณฑ์  GMP อาหาร 8,369 แห่ง 
       (3) การสุ่มตรวจเคลื่อนที่ โดยตรวจวิเคราะห์ตัวอย่างอาหารในพื้นที่กรุงเทพฯ  74  ตลาด  เก็บตัวอย่าง
ทดสอบทั้งสิ้น 2,913 ตัวอย่าง พบตกมาตรฐาน 174  ตัวอย่าง 
       (4) ความปลอดภัยด้านอาหารในโรงเรียน  สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาได้รับทุนจากสำนัก
งานส่งเสริมสุขภาพ ในวงเงิน 13.89 ล้านบาท ตามโครงการ  อย. น้อย (สสส)   
       (5) อาหารสะอาดรสชาติอร่อย มีร้านอาหารและแผงลอยจำหน่ายอาหารได้รับป้ายสัญลักษณ์  Clean 
Food Good Taste ไปแล้วจำนวน 34,789 แห่ง 
      (6) ตลาดสดน่าซื้อ มีจำนวนตลาดสดที่ผ่านเกณฑ์การพัฒนาระดับพื้นฐาน รวมทั้งสิ้น 573 แห่ง จำนวน
ตลาดสดน่าซื้อ รวมทั้งสิ้น 270 แห่ง
      (7) การจัดกิจกรรมรวมพลังอาหารปลอดภัย  มียอดจำหน่ายหนังสือ  "กินตามแม่"  รวม 162,621 เล่ม 
การเตรียมการจัดงาน "สืบสานปณิธานอาหารปลอดภัย ถวายแด่แม่ของแผ่นดิน"  เป็นต้น
      (8)  แผงอาหารปลอดภัย  ได้มอบป้ายอาหารปลอดภัยให้แผงจำหน่ายอาหารสดทั่วประเทศ   เป็นป้าย
ทอง 28,487 ป้าย  ป้ายชั่วคราว 63,224 ป้าย
       นอกจากนี้ได้มีการปรับปรุงพัฒนาห้องปฏิบัติการ Test kit  การรณรงค์ให้ความรู้ประชาสัมพันธ์เพื่อเผย
แพร่ความรู้ด้านอาหารปลอดภัย

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธาณสุขรายงานผลการปฏิบัติงานต่อสู้เพื่อเอาชนะ
ยาเสพติด  ระหว่างวันที่ 25 มิถุนายน-29 กรกฎาคม 2547  มีผู้ป่วยเข้ารับการบำบัดรักษาทั้งสิ้นจำนวน
6,321 ราย  สถานบำบัดที่ให้การบำบัดมากที่สุดคือ สังกัดกรมสุขภาพจิต  รองลงมาได้แก่ สังกัดกรมการ
แพทย์ ระดับโรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป ระดับโรงพยาบาลชุมชน  และระดับ PCU/สถานีอนามัย
ส่วนวิธีการบำบัดรักษา แยกเป็นการบำบัดรักษาโดยบำบัดในชุมชน 51 ราย  วิธีผู้ป่วยนอก  4,774  ราย
วิธีผู้ป่วยใน 1,496  ราย   สถานบำบัดที่ให้การบำบัดโดยวิธีบำบัดโดยชุมชนสูงสุดคือ  ระดับโรงพยาบาล
ชุมชน โดยวิธีผู้ป่วยนอกสูงสุดคือ สถานบริการสังกัดกรมสุขภาพจิต และวิธีผู้ป่วยในบริการสูงสุดคือ สังกัด
กรมการแพทย์   สำหรับลักษณะการบำบัดของผู้มารับการบริการ   เป็นการมารับการบำบัดโดยสมัครใจ
จำนวน 5,549 ราย โดยการบังคับบำบัดจำนวน 772 ราย  สถานบำบัดที่ให้การบำบัดโดยสมัครใจสูงสุด
คือ กรมสุขภาพจิต และบังคับบำบัดให้บริการสูงสุดคือ สังกัดกรมการแพทย์

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 5 (คกก.5)
ที่มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอการให้สัตยาบันกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบ โดย
ให้รับข้อสังเกตของ คกก.5 ไปพิจารณาดำเนินการด้วย รวมทั้งให้รับข้อสังเกตของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง
การคลัง  (นายวราเทพ รัตนากร)  ที่ได้รับการร้องเรียนจากเกษตรกรและสมาคมผู้เพาะปลูกและผู้ค้าใบยาสูบ
ไทย (ส.ย.ท.) ถึงความเดือดร้อนและข้อเสนอแนะของโรงงานยาสูบเกี่ยวกับกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุม
ยาสูบ โดยขอให้กระทรวงสาธารณสุขจัดทำแผนเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบรรลุตามข้อ
สังเกตทั้ง  7  ประการ ที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง  (นายวราเทพ รัตนากร)  ได้เคยตั้งไว้เมื่อคราว
ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2546  ดังนี้ 1.) การห้ามขายในร้านค้าปลอดภาษี ทำให้สูญเสีย
โอกาสทางการค้า  2.) การห้ามแบ่งขายปลีกเป็นมวน  กระทบต่อการขายปลีกในกลุ่มผู้บริโภคระดับล่าง  3.)
การพิมพ์คำเตือนบนกระดาษห่อ 10 ซอง ซึ่งเป็นส่วนที่ถูกทำลายทิ้ง เพิ่มภาระค่าใช้จ่ายด้านต้นทุน  4.) การ
จ่ายเงินเข้ากองทุนที่จะจัดตั้งขึ้นตามกรอบอนุสัญญาฯ ซ้ำซ้อนกับกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพของ
ประเทศไทยที่ได้ดำเนินการแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544  5.) การลดพื้นที่เพาะปลูกใบยา กระทบต่อรายได้ในภาค
เกษตรกร  6.) การห้ามใช้คำว่า MILD, LOW อาจมีปัญหาในเรื่องเครื่องหมายการค้าหรือทรัพย์สินทางปัญญา
และ  7.) การแจ้งแหล่งที่จะนำไปขายไว้ข้างหีบห่อ  เพื่อป้องกันการหลบเลี่ยงภาษี  ควรใช้กับบุหรี่ส่งออกหรือ
นำเข้าจากต่างประเทศ ทั้งนี้ หากจะมีการดำเนินการแก้ไขกฎหมายหรือออกกฎหมายใดๆ เพื่อให้เป็นไปตาม
กรอบอนุสัญญา ฯ จะต้องได้รับการแก้ไขปัญหาตามข้อสังเกตทั้ง 7 ประการ ให้หมดสิ้นไปเสียก่อน โดยหารือ
กับกระทรวงการคลัง และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง  สำหรับข้อสังเกตของ คกก.5 มีดังนี้  จากรายงานสรุป
ผลการประชุมปรึกษาหารือการดำเนินการตามกรอบอนุสัญญา ฯ ผู้แทนหน่วยงานที่เข้าประชุมค่อนข้างเป็น
ข้าราชการระดับ  6-8    กระทรวงสาธารณสุขควรเสนอผลการประชุมนี้ให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการ
คลัง (นายวราเทพ รัตนากร) ให้ความเห็นชอบอย่างเป็นทางการก่อน   และเมื่อมีการลงนามในอนุสัญญา ฯ
แล้ว จะต้องปฏิบัติให้ได้ผลจริง  เพราะอาจเป็นเงื่อนไขให้เจ้าหน้าที่ของรัฐไปมีส่วนได้เสียกับร้านค้าหรือไม่จะ
สามารถควบคุมดูแลอย่างไร และให้กระทรวงสาธารณสุขจัดทำรายละเอียดของเอกสารเพิ่มเติม ชี้แจงผลการ
ดำเนินการตามข้อสังเกตของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง  (นายวราเทพ  รัตนากร)  ให้ชัดเจนก่อน
เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา

         คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 5 (คกก.5) 
ที่มีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนองบกลาง  รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉิน
หรือจำเป็น เพื่อจัดทำโครงการลดผลกระทบทางเศรษฐกิจจากการระบาดของโรคติดเชื้ออุบัติใหม่ เช่น โรค
ซาร์ส ไข้หวัดนก  เพื่อพัฒนาศักยภาพการตรวจวินิจฉัยทางห้องปฏิบัติการของกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ 
ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค  วงเงินรวม 112,350,000 บาท  โดยให้รับข้อสังเกตของ คกก.5  ที่เห็นว่า
งบประมาณปี  พ.ศ.  2547   เหลือเวลาเพียง  2  เดือน  ระยะเวลาในการจัดซื้อจัดหาครุภัณฑ์วิทยาศาสตร์ 
สำหรับเพิ่มประสิทธิภาพในการตรวจของห้องปฏิบัติการที่มีอยู่เดิม ในวงเงิน 24 ล้านบาท จะต้องปรับแผน
การดำเนินการ หากกระทรวงสาธารณสุขจะดำเนินการในปีงบประมาณนี้ ต้องก่อหนี้ผูกพันงบประมาณใน
ปีต่อไป และงบประมาณส่วนที่เหลือขอให้แปรญัตติเพิ่มในงบประมาณ ปี พ.ศ. 2548  สำหรับโครงสร้างพื้น
ฐานเพื่อการปรับปรุงห้องปฏิบัติการครุภัณฑ์ บุคลากร รวมทั้งกิจกรรมต่าง ๆ  กระทรวงสาธารณสุขมีแผน
เพื่อดำเนินการทั้งในส่วนภูมิภาคและส่วนกลางอยู่แล้ว เนื่องจากยังไม่เห็นแผนงาน จะมีการฝึกอบรมบุคลา
กรอย่างไรให้ได้มาตรฐาน เมื่อเทียบกับหน่วยปฏิบัติการสากลและของต่างประเทศอื่น ๆ  มีการเตรียมงาน
ไว้หรือไม่ ไปพิจารณาดำเนินการ  สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานโครงการให้เป็นไปตามความเห็นของ
สำนักงบประมาณ

           คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานผลการแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองบริเวณ
หน้าพระลาน จังหวัดสระบุรี  โดยได้ดำเนินการดังนี้ (1) จัดทำร่างหลักเกณฑ์การปฏิบัติการปฏิบัติเพื่อการ
ควบคุมการประกอบกิจการ การระเบิด การโม่  การป่นหิน ด้วยเครื่องจักร  ซึ่งเป็นกิจการที่เป็นอันตรายต่อ
สุขภาพ  (2) ศึกษา  ค้นคว้า  รวบรวมข้อมูล จากหน่วยงานต่าง  ๆ  ที่ได้เคยดำเนินการศึกษาผลกระทบของ
ฝุ่นละอองที่มีต่อสุขภาพประชาชนและเด็ก (3)  กำหนดกรอบแนวทางในการดำเนินงานประเมินสุขภาพของ
ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากฝุ่นละอองที่มาจากการระเบิด  การโม่  การป่นหินด้วยเครื่องจักร  (4)  ถ่าย
ทอดความรู้ให้กับผู้ประกอบการโรงโม่หินในเรื่องบทบาทของผู้ประกอบการ การระเบิด  การโม่  การป่นหิน
ด้วยเครื่องจักร  (5)  กำหนดการประชุมร่วมกับทีมงานสาธารณสุขจังหวัดอีกครั้ง  เพื่อวางแผนการเฝ้าระวัง
สุขภาพประชาชนในปีงบประมาณ 2548

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 5 ที่มี
มติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกำหนดป้อง
กันการใช้สารระเหย พ.ศ. 2533 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยมีสาระสำคัญดังนี้  (1)  ปรับแก้ตำแหน่งอธิบดี
กรมประชาสงเคราะห์เป็นอธิบดีกรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ และเพิ่มองค์ประกอบของคณะกรรมการ
ป้องกันการใช้สารระเหย คือ ปลัดกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงมหาดไทย  อัยการสูงสุด  อธิบดีกรม
พินิจและคุ้มครองเด็กและเยาวชน  อธิบดีกรมสุขภาพจิต   เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา   และปลัด
กรุงเทพมหานคร (2) ปรับปรุงโทษปรับให้เหมาะสมกับสภาพปัจจุบัน  (3)  ปรับปรุงโทษ และให้ผู้ที่ใช้
สารระเหยบำบัดความต้องการของร่างกายหรือจิตใจที่สมัครใจเข้ารับการบำบัดรักษา และได้ปฏิบัติตาม
หลักเกณฑ์ และเงื่อนไขที่กฎหมายกำหนด  ได้พ้นจากความผิดตามที่กฎหมายบัญญัติไว้  และ  (4)  ให้ผู้
ต้องหาว่ากระทำความผิด  ตามมาตรา  17  ต้องเข้าสู่กระบวนการบังคับบำบัดตามพระราชบัญญัติฟื้นฟู
สมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด พ.ศ. 2545  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา  แล้ว
ส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา   ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อ
ไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 5 (คกก.5)
ที่มีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอการให้สัตยาบันกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุมยาสูบ โดย
ให้รับข้อสังเกตของ คกก.5 ไปพิจารณาดำเนินการด้วย รวมทั้งให้รับข้อสังเกตของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวง
การคลัง  (นายวราเทพ รัตนากร)  ที่ได้รับการร้องเรียนจากเกษตรกรและสมาคมผู้เพาะปลูกและผู้ค้าใบยาสูบ
ไทย (ส.ย.ท.) ถึงความเดือดร้อนและข้อเสนอแนะของโรงงานยาสูบเกี่ยวกับกรอบอนุสัญญาว่าด้วยการควบคุม
ยาสูบ โดยขอให้กระทรวงสาธารณสุขจัดทำแผนเพื่อแก้ไขปัญหาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบรรลุตามข้อ
สังเกตทั้ง  7  ประการ ที่รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง  (นายวราเทพ รัตนากร)  ได้เคยตั้งไว้เมื่อคราว
ประชุมคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2546  ดังนี้ 1.) การห้ามขายในร้านค้าปลอดภาษี ทำให้สูญเสีย
โอกาสทางการค้า  2.) การห้ามแบ่งขายปลีกเป็นมวน  กระทบต่อการขายปลีกในกลุ่มผู้บริโภคระดับล่าง  3.)
การพิมพ์คำเตือนบนกระดาษห่อ 10 ซอง ซึ่งเป็นส่วนที่ถูกทำลายทิ้ง เพิ่มภาระค่าใช้จ่ายด้านต้นทุน  4.) การ
จ่ายเงินเข้ากองทุนที่จะจัดตั้งขึ้นตามกรอบอนุสัญญาฯ ซ้ำซ้อนกับกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพของ
ประเทศไทยที่ได้ดำเนินการแล้วตั้งแต่ปี พ.ศ. 2544  5.) การลดพื้นที่เพาะปลูกใบยา กระทบต่อรายได้ในภาค
เกษตรกร  6.) การห้ามใช้คำว่า MILD, LOW อาจมีปัญหาในเรื่องเครื่องหมายการค้าหรือทรัพย์สินทางปัญญา
และ  7.) การแจ้งแหล่งที่จะนำไปขายไว้ข้างหีบห่อ  เพื่อป้องกันการหลบเลี่ยงภาษี  ควรใช้กับบุหรี่ส่งออกหรือ
นำเข้าจากต่างประเทศ ทั้งนี้ หากจะมีการดำเนินการแก้ไขกฎหมายหรือออกกฎหมายใดๆ เพื่อให้เป็นไปตาม
กรอบอนุสัญญา ฯ จะต้องได้รับการแก้ไขปัญหาตามข้อสังเกตทั้ง 7 ประการ ให้หมดสิ้นไปเสียก่อน โดยหารือ
กับกระทรวงการคลัง และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง  สำหรับข้อสังเกตของ คกก.5 มีดังนี้  จากรายงานสรุป
ผลการประชุมปรึกษาหารือการดำเนินการตามกรอบอนุสัญญา ฯ ผู้แทนหน่วยงานที่เข้าประชุมค่อนข้างเป็น
ข้าราชการระดับ  6-8    กระทรวงสาธารณสุขควรเสนอผลการประชุมนี้ให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการ
คลัง (นายวราเทพ รัตนากร) ให้ความเห็นชอบอย่างเป็นทางการก่อน   และเมื่อมีการลงนามในอนุสัญญา ฯ
แล้ว จะต้องปฏิบัติให้ได้ผลจริง  เพราะอาจเป็นเงื่อนไขให้เจ้าหน้าที่ของรัฐไปมีส่วนได้เสียกับร้านค้าหรือไม่จะ
สามารถควบคุมดูแลอย่างไร และให้กระทรวงสาธารณสุขจัดทำรายละเอียดของเอกสารเพิ่มเติม ชี้แจงผลการ
ดำเนินการตามข้อสังเกตของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง  (นายวราเทพ  รัตนากร)  ให้ชัดเจนก่อน
เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้ง นางสุภาพร
โฆวินทะ ให้ดำรงตำแหน่ง นายแพทย์ 10 วช  ด้านเวชกรรม  สาขาพยาธิวิทยา  กลุ่มบริการเฉพาะทาง
สถาบันพยาธิวิทยา กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข  ตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2546  ซึ่งเป็นวันที่
มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอให้ นายจรัล  ตฤณวุฒิพงษ์  พ้นจาก
ตำแหน่งกรรมการในคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม  และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งประธานกรรมการ
ในคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม  แทนนายวัลลภ  ไทยเหนือ  ที่ลาออก  โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะ
รัฐมนตรีมีมติ (24 สิงหาคม 2547) เป็นต้นไป

           คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุข โดยสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
รายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า  ปีงบประมาณ พ.ศ. 2547  ตั้งแต่
วันที่ 1 ตุลาคม 2546-30 มิถุนายน 2547   ซึ่งมีผลการดำเนินงานสรุปได้ดังนี้  จำนวนผู้ขึ้นทะเบียนสิทธิ
ประกันสุขภาพถ้วนหน้า ณ เดือนมิถุนายน 2547  มีจำนวน  59.57 ล้านคน   โดยมีจำนวนประชากรผู้ขึ้น
ทะเบียนสิทธิประกันสุขภาพถ้วนหน้า จำนวน 47.02  ล้านคน  และประชาชนที่ยังไม่มีหลักประกันสุขภาพ
ใด ๆ จำนวน  3.3  ล้านคน จำนวนหน่วยบริการและเครือข่ายการให้บริการทางการแพทย์ทั้งของรัฐและเอกชน
มีทั้งสิ้น 1,132 แห่ง จำนวนการรับเรื่องร้องเรียน มีทั้งสิ้น  7,116  เรื่อง  ส่วนใหญ่เป็นเรื่องร้องเรียนเกี่ยว
กับการมีสิทธิไม่ตรงตามจริง  เรื่องร้องเรียนเกี่ยวกับการลงทะเบียนและออกบัตร  เป็นต้น   จำนวนการให้
บริการตอบคำถามเกี่ยวกับงานสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า มีทั้งสิ้น  336,831  เรื่อง ส่วนใหญ่เป็น
คำถามเกี่ยวกับการทำบัตรประกันสุขภาพ และวิธีการใช้บริการตามสิทธิบัตรทอง เป็นต้น ในด้านความพึง
พอใจของประชาชนต่องานสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ปี พ.ศ. 2547  ประกอบด้วย  ความพอพึงใจ
ต่อการบริการของแพทย์ ร้อยละ 92.9  การบริการของพยาบาล  ร้อยละ 91.2  การบริการของเจ้าหน้าที่
อื่น ๆ ร้อยละ 91.9  คุณภาพยา ร้อยละ 86.6  และคุณภาพของเครื่องมือ/อุปกรณ์ทางการแพทย์  ร้อยละ
90.4 สำหรับผลการดำเนินงานในด้านการให้ความช่วยเหลือเบื้องต้นผู้รับบริการกรณีได้รับความเสียหาย
จากการรักษาพยาบาล มาตรา 41 ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงมิถุนายน 2547 ได้ให้การช่วยเหลือเบื้องต้นแก่
ผู้รับบริการไปแล้วทั้งสิ้น 40 ราย เป็นจำนวนเงิน 2,333,000 บาท จากผู้ยื่นขอรับเงินช่วยเหลือ ฯ ทั้งสิ้น
56 ราย  ด้านการให้ความช่วยเหลือผู้ให้บริการที่ได้รับความเสียหายจากการให้บริการสาธารณสุข ตั้งแต่
ตุลาคม 2546 ถึง มิถุนายน 2547 ได้จ่ายเงินช่วยเหลือเบื้องต้น 4 ราย รวมเป็นเงิน 115,000 บาท นอก
จากนี้ ยังมีผลการดำเนินงานสร้างการมีส่วนร่วมของภาคประชาชน  โดยได้ดำเนินการสร้างเครือข่ายองค์
กรภาคประชาชนในภูมิภาคต่าง ๆ  กลุ่มอาชีพต่าง  ๆ  กลุ่มผู้บริการที่มีค่าใช้จ่ายสูง  และกลุ่มที่สังคมควร
ช่วยเหลือเกื้อกูล การพัฒนาระบบการลงทะเบียนผู้มีสิทธิโดยการเลือกหน่วยบริการโดยสมัครใจ ได้ขยาย
หน่วยบริการปฐมภูมิให้ครอบคลุมพื้นที่ในกรุงเทพ ฯ  เพื่อเพิ่มทางเลือกหน่วยบริการสุขภาพให้แก่ประชา
ชนผู้มีสิทธิ   การส่งเสริมการให้บริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพและมาตรฐาน  ได้ดำเนินโครงการต่าง  ๆ
อาทิ การพัฒนาหน่วยบริการตติยภูมิเฉพาะด้าน โครงการส่งเสริมคุณภาพบริการปฐมภูมิสู่ความเป็นเลิศ
(PCU  ในฝัน)  และการพัฒนาแนวปฏิบัติการให้บริการสาธารณสุข  (Health Service Practice Guideline
:  HSPG)  การพัฒนางานสร้างหลักประกันสุขภาพที่สำคัญ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2547   อาทิ   การจัดตั้ง
สำนักงานสาขาภูมิภาค การพัฒนาสำนักงานสาขาต้นแบบ ฯลฯ  และการบริการส่งเสริมสุขภาพและป้อง
กันโรคนอกหน่วยบริการในพื้นที่กรุงเทพ     โดยเปิดโอกาสให้หน่วยบริการหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า
ทั้งรัฐและเอกชนร่วมให้บริการส่งเสริมสุขภาพและป้องกันโรคแก่ประชาชนในเขตกรุงเทพ  ฯ    บริการแก่
ประชาชนทุกคน  ทุกสิทธิ   โดยการสำรวจภาวะสุขภาพประชาชนที่บ้าน   การค้นหาและให้บริการผู้ป่วย
อัมพาตพิการเรื้อรัง  การให้คำปรึกษาและส่งเสริมสุขภาพในสตรีตั้งครรภ์  เด็ก  ผู้สูงอายุ  และประชาชน
ทั่ว ๆ ไป

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้ง นางเครือวัลย์
พลจันทร ให้ดำรงตำแหน่ง นักวิทยาศาสตร์การแพทย์ 10 ชช ด้านวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์การแพทย์
(เทคโนโลยีชีวภาพ) กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข  ตั้งแต่วันที่ 25 พฤษภาคม 2547
ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์

           คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 5 ที่มีมติ
เห็นชอบในหลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอเรื่อง การบริจาคเงินจำนวน 25,000 ดอลลาร์สหรัฐ
ต่อปี เป็นระยะเวลา 3 ปี ให้แก่ Intergovernmental Forum on Chemical Safety (IFCS) หรือ "ความร่วมมือ
ระหว่างประเทศเรื่องความปลอดภัยของสารเคมี" อันเป็นการดำเนินการในฐานะที่ประเทศไทยเป็นสมาชิก
ความร่วมมือระหว่างประเทศเรื่องความปลอดภัยของสารเคมี  โดยมีเงื่อนไขดังนี้ (1) จัดตั้งเป็นกองทุนต่าง
หาก  แยกจากกองทุนรวม IFCS เพื่อให้ใช้ตามวัตถุประสงค์เท่านั้น (2) กองทุนจะใช้จ่ายเพื่อสนับสนุนการ
ดำเนินงานในประเทศกำลังพัฒนาโดยเฉพาะในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกในเรื่องการรณรงค์ลดการใช้สารเคมี
ทางการเกษตร ระบบการจัดแบ่งสารเคมีระดับโลก (GHS) เด็กและความปลอดภัยสารเคมี ตามมติ Forum
IV  และ (3) การใช้จ่ายเงินดังกล่าวให้ IFCS มีการระดมทรัพยากรจากแหล่งทุนอื่นเพื่อเสริมการดำเนินกิจ
กรรมตามวัตถุประสงค์ด้วย  ทั้งนี้ ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงอุตสาหกรรมที่เห็นว่า
IFCS  เป็นองค์กรที่ทำหน้าที่เป็นสื่อกลางเพื่อให้เกิดการพัฒนากลยุทธและความร่วมมือในการดำเนินงาน
ซึ่งผลประโยชน์ในการช่วยเหลือทางด้านวิชาการเรื่องความปลอดภัยด้านเคมี  นั้น   ปัจจุบันจะมุ่งเน้นด้าน
สาธารณสุข  เห็นควรขยายผลให้ครอบคลุมถึงความปลอดภัยในด้านอุตสาหกรรมที่มีบทบาทภารกิจเกี่ยว
กับการควบคุมสารเคมีด้วย ขณะนี้กระทรวงอุตสาหกรรมยังไม่ได้รับประโยชน์ด้านวิชาการจาก IFCS  ส่วน
การนำระบบแบ่งกลุ่มสารเคมีและการติดฉลาก  (GHS)   และร่างระเบียบว่าด้วยการควบคุมเคมีภัณฑ์ของ
สหภาพยุโรป (REACH)  เป็นกรณีที่เกี่ยวข้องกับผลประโยชน์ทางการค้า  กระทรวงอุตสาหกรรมเป็นศูนย์
ประสานงานกับ APEC และกระทรวงการต่างประเทศซึ่งมีข้อตกลงผูกพันให้ต้องปฏิบัติอยู่แล้ว  ดังนั้น หาก
จะนำข้อผูกพันของ  IFCS  มาใช้ปฏิบัติในเรื่องดังกล่าวต้องพิจารณาให้เป็นไปในแนวทางเดียวกัน  และควร
ให้การช่วยเหลือด้านวิชาการแก่ภาคอุตสาหกรรมด้วย  ไปพิจารณาดำเนินการด้วย  สำหรับเงินบริจาคดัง
กล่าวให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานความก้าวหน้าการดำเนินงานการ
ป้องกันและควบคุมโรคไข้หวัดนก ซึ่งมีการระบาดของโรคไข้หวัดนกครั้งที่ 2 ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2547 ถึง 8
สิงหาคม 2547 มีผู้ป่วยโรคไข้หวัดใหญ่ที่อยู่ในข่ายเฝ้าระวังไข้หวัดนก 30 ราย  จาก 15 จังหวัด  ผลการเฝ้า
ระวังเบื้องต้นไม่พบว่ามีผู้ป่วยยืนยันไข้หวัดนก  และผู้ป่วยเข้าข่ายสงสัยไข้หวัดนก  และกระทรวงสาธารณสุข
ได้เพิ่มมาตรการป้องกันและควบคุม โดยการเฝ้าระวังและป้องกันโรค  เสริมสร้างความปลอดภัยด้านอาหาร
ดำเนินความร่วมมือระหว่างประเทศทั้งด้านวิชาการ  ศึกษาวิจัยและพัฒนา  ควบคุมการใช้วัคซีนในสัตว์  โดย
ศึกษาผลกระทบการใช้วัคซีนป้องกันโรคไข้หวักนกในไก่ ออกประกาศให้มีความผิดหากนำเข้า  ขาย  และใช้
วัคซีน รวมถึงจัดตั้งการเฝ้าระวังไข้หวักนกทางห้องปฏิบัติการกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานผลการดำเนินงานอาหารปลอดภัย
ประจำเดือนมิถุนายน 2547 สรุปดังนี้
             (1) ตรวจการนำเข้าเภสัชเคมีภัณฑ์ 1,041 รายการ มูลค่า  735.44  ล้านบาท  ตรวจสอบอาหาร
                   นำเข้า 8,166 รายการ มูลค่า 4,749.6 ล้านบาท 
             (2) ตรวจสอบ GMP โรงงานอาหารแปรรูป 54 ประเภท 
             (3) การสุ่มตรวจเคลื่อนที่ 157 ตลาด ทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานคร
             (4) จัดเตรียมการประกวดด้านความปลอดภัยด้านอาหารในโรงเรียน
             (5) แก้ไขปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับอาหารและยา
             (6) จัดดำเนินงานด้านอาหารสะอาด รสชาติอร่อย และตลาดสดน่าซื้อ
             (7) จัดกิจกรรมรวมพลังงานอาหารปลอดภัย และกิจกรรมแผงอาหารปลอดภัย
             (8) ปรับปรุง พัฒนาห้องปฏิบัติการตรวจวิเคราะห์อาหาร และให้การสนับสนุน  Test kit  หรือใช้
                   ทดสอบอาหาร
             (9) รณรงค์ให้ความรู้ด้านอาหารปลอดภัยและประสานให้ท้องถิ่นร่วมรับผิดชอบ
           (10) รณรงค์ล้างตลาดสดทั่วประเทศ

           คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอมาตรการรณรงค์และควบคุมการบริโภค
เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยกำหนดให้ทุกวันอาทิตย์เป็นวันครอบครัวแข็งแรง (Healthy Family Day) ของสังคม
ไทย   โดยให้หน่วยราชการที่เกี่ยวข้องหามาตรการควบคุมและรณรงค์ให้มีการงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์, บุหรี่
รวมทั้งอบายมุขสิ่งเสพติดอื่น  ๆ  ที่ทำลายสุขภาพคนไทย  ตลอดจนส่งเสริมให้ประชาชนแต่ละครอบครัวได้มี
กิจกรรมร่วมกัน เพื่อสร้างความอบอุ่นในครอบครัวทุกวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นวันหยุดราชการ  และให้กองทุนสนับ
สนุนการสร้างเสริมสุขภาพ  (สสส.)  พิจารณาจัดสรรงบประมาณสนับสนุนการดำเนินการตามมาตรการ  ฯ
ต่อไป

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการต่างประเทศรายงานการเข้าร่วมประชุม 7th World
Conference on Injury Prevention and Safety Promotion ณ ประเทศสาธารณรัฐออสเตรีย ของรัฐมนตรีว่า
การกระทรวงสาธารณสุข  และคณะ  ระหว่างวันที่ 4-11 มิถุนายน 2547  ซึ่งการประชุม ฯ  ในครั้งนี้มีวัตถุ
ประสงค์เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการป้องกันอุบัติภัยให้เป็นนโยบายด้านสาธารณสุขในระดับชาติและระดับ
นานาชาติ  เพื่อให้มีการแลกเปลี่ยนผลการค้นคว้าและการฝึกปฏิบัติเกี่ยวกับการป้องกันอุบัติภัยและการส่ง
เสริมความปลอดภัย   และเพื่อสนับสนุนผู้ที่ปฏิบัติงานด้านการส่งเสริมความปลอดภัยและการป้องกันอุบัติ
ภัย ตลอดจนก่อให้เกิดการทำงานร่วมกันมากขึ้น  โดยมีประเด็นการหารือที่สำคัญ  ได้แก่  การควบคุมป้อง
กันการบาดเจ็บและการสร้างเสริมความปลอดภัยซึ่งมีความครอบคลุมและเกี่ยวโยงกับวิถีชีวิตและความเสี่ยง
ของบุคคลตามกลุ่มอายุ ตั้งแต่เด็กจนถึงผู้สูงอายุ การลดความสูญเสียจากอุบัติเหตุจราจรภายใน 10 ปี โดย
การลดอัตราการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุของประชาชนให้ได้ 25% และพยายามดำเนินการเพื่อลดการเสียชีวิต
จากอุบัติเหตุของประชาชนและเด็กให้ต่ำอยู่ใน  3  อันดับแรกของยุโรป  การกำหนดข้อตกลง (Resolution)
ที่ทุกประเทศควรนำมาใช้ในการดำเนินงานเพื่อป้องกันอุบัติเหตุจราจร  การจัด  World Health Day : Road
Safe Day ที่เน้นในเรื่องของการสวมหมวกกันน็อก และไม่ดื่มแอลกอฮอล์ระหว่างขับขี่ยานพาหนะ  และการ
ใส่เข็มขัดนิรภัย เป็นต้น นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และคณะ ได้ศึกษาดูงาน  ณ  กรุง
บูดาเปส ประเทศฮังการี  และกรุงปราก สาธารณรัฐเชก  ดังนี้  ได้เยี่ยมชมสถานที่พักผ่อนและฟื้นฟูสุขภาพ
ณ Public Spa ที่ GELLERT SOROZO BRASSERIE ซึ่งเป็นสถานที่สำหรับการพักฟื้นและการดูแลส่งเสริมสุข
ภาพในเชิงของการบำบัดด้วยวิธีการของชาวโปรตุเกส  การศึกษาดูงานเรื่องของสถานประกอบการ  สุขาภิ
บาลอาหารในสถานประกอบการ ในเรื่องของมาตรฐานความสะอาดและสุขภาพอนามัยตั้งแต่การแต่งกาย
ของบริกร  พ่อครัว/แม่ครัว  คนทำความสะอาดภาชนะ  กระบวนการประกอบอาหาร  รวมไปถึงสุขาภิบาล
โรงครัวและสุขาภิบาลห้องน้ำที่สะอาด  และเยี่ยมชมกิจการ Medical Spa ที่ KARLOVY VARY  ซึ่งได้กำหนด
มาตรฐานด้าน SPA  เพื่อประโยชน์แก่ผู้มารับบริการและดูงานสุขาภิบาลอาหารที่  Lion Court Restaurant
ที่มีระบบการจัดการด้านโรงครัว  และการบริการที่เน้นในเรื่องความสะอาดของบุคลากร  ภาชนะ  สถานที่
และวิธีการให้บริการที่ถูกสุขอนามัย

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้ง นางสาวยุพดี พยัคฆ
พันธ์ ให้ดำรงตำแหน่ง นักวิทยาศาสตร์การแพทย์  10  ชช  ด้านวิจัยและพัฒนาวิทยาศาสตร์การแพทย์  (เคมี)
กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่  9  เมษายน  2547  ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบ
ถ้วนสมบูรณ์