คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้ง นางสาวณหทัย ทิวไผ่งาม เป็นข้าราช
การการเมืองตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (นางสิริกร มณีรินทร์) ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่
16 มีนาคม 2547 เป็นต้นไป

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอให้กระทรวงสาธารณสุขถอน
เรื่อง ขออนุมัติแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการควบคุมการบริโภคยาสูบแห่งชาติเพิ่มเติม คืนไปได้

             คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอให้กระทรวงสาธารณสุขถอน
เรื่อง ขออนุมัติแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการควบคุมการบริโภคยาสูบแห่งชาติเพิ่มเติม คืนไปได้

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้งให้ นางสาวรัตโนทัย พลับรู้การ ดำรง
ตำแหน่งนายแพทย์ 10 วช. ด้านเวชกรรม สาขากุมารเวชกรรม กลุ่มบริการเฉพาะทาง สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติ
มหาราชินี กรมการแพทย์ ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ 17 พฤศจิกายน 2546 เป็นต้นไป

           คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 6 (คกก.6)
ที่มีมติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการอบรมหรือถ่ายทอดความรู้
จากผู้ประกอบโรคศิลปะในการขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผน
ไทย พ.ศ. ....  ซึ่งมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์  วิธีการ  และเงื่อนไขในการขอขึ้นทะเบียนและออก
ใบอนุญาตให้แก่ผู้ขอเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะสาขาการแพทย์แผนไทย    โดยให้รับข้อสังเกตของ  คกก.6  ไป
ดำเนินการ  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา  แล้วดำเนินการต่อไปได้   สำหรับข้อ
สังเกตของ คกก.6 มีดังนี้  การกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขเกี่ยวกับการอบรมหรือการถ่ายทอดความรู้
ในวิชาชีพควรกำหนดให้รัดกุมและเหมาะสม ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นการรับรองหมอเถื่อนให้เป็นหมอจริง และ
ส่งออกนอกประเทศ ในส่วนของการนวดไทยซึ่งเป็นประเภทหนึ่งของการแพทย์แผนไทย   เมื่อมีกฎกระทรวง
ออกมาใช้บังคับ วิชาชีพประเภทต่าง ๆ รวมไปถึงการนวดไทยต้องมีใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบโรคศิลปะผู้ประ
กอบอาชีพด้วยการนวด เช่น หมอนวดตามบ้าน  สถานบริการ  ซึ่งเป็นการนวดเพื่อผ่อนคลาย  ไม่ใช่เป็นการ
นวดเพื่อบำบัดหรือรักษาโรค  จะไม่มีใบอนุญาตดังกล่าว  จึงควรจะต้องมีการปรับการบริหารกฎหมาย กลุ่ม
ภูมิปัญญาชาวบ้านต้องไม่ถือว่าต้องมีใบอนุญาต ฯ ควรแยกให้เห็นชัดเจน และไม่ควรเอาผิดกับคนประเภทนี้  
และในปัจจุบันกระทรวงแรงงานมีการส่งเสริมอาชีพเกี่ยวกับการนวด โดยผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมจะได้ใบรับรอง 
หลักสูตรของกระทรวงสาธารณสุขกับกระทรวงแรงงานคล้ายกันมาก เห็นควรมีการบูรณาการร่วมกัน นำหลัก
สูตรของกระทรวงแรงงานให้กระทรวงสาธารณสุขรับรอง และมีการทดสอบความรู้  นอกจากนี้  ตามร่างกฎ
กระทรวง  ฯ  ประเภทการนวดไทย  ยังไม่สามารถแยกให้ชัดเจนได้ว่า  เป็นการนวดเพื่อบำบัดหรือรักษาโรค
อะไรบ้าง   จะเป็นการกระทบกับการรักษาของแพทย์แผนปัจจุบันหรือไม่   กระทรวงสาธารณสุขจะสามารถ
แยกประเภทได้อย่างไร เช่น นวดแผนไทยกับนวดเพื่อสุขภาพ  ควรกำหนดนิยามคำว่า "หมอนวด" ให้ชัดเจน
แยกแยะจากหมอที่ใช้ความสามารถพิเศษ เพราะหมอนวดทั่วไปเป็นการนวดเพื่อบรรเทาอาการเมื่อยล้าบาง
อย่าง ซึ่งกฎกระทรวงนี้ไม่น่าจะคลุมถึง

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี  คณะที่ 6  (คกก.6)
ที่มีมติอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ การสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมให้แพทยสภาในการแก้ไขปัญหา
เรื่องร้องเรียนด้านจริยธรรม ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2547  และปีงบประมาณ พ.ศ. 2548  ปีละ 5 ล้านบาท  และ
ตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. 2549 ปีละ 3 ล้านบาท ทั้งนี้ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 แพทยสภาได้รับงบประมาณ
สนับสนุนจากรัฐบาลแล้ว 1 ล้านบาท  จึงขอรับการสนับสนุนงบประมาณอีก  4  ล้านบาท  จากงบประมาณราย
จ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น  โดยให้รับข้อสังเกตของ
คกก.6 ไปพิจารณาดำเนินการด้วย ดังนี้ การจัดทำงบดุลของแพทยสภาในปัจจุบันสิ้นสุดในปี พ.ศ. 2542 เท่านั้น
แพทยสภาควรหารายได้เพิ่มเติม โดยการแก้ไขข้อบังคับต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง  และควรมีมาตรการในการดำเนินการ
แก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนด้านจริยธรรมทั้งในเชิงรุกและเชิงรับ รวมทั้งควรจัดทำแผนประชาสัมพันธ์ให้ผู้ที่ประสบ
ปัญหาสามารถร้องเรียนได้มากขึ้น เช่น ศูนย์ HOTLINE เพื่อป้องกันการรักษากับหมอเถื่อน

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการตาม
แผนยุทธศาสตร์ความปลอดภัยด้านอาหาร (Food Safety) ในวงเงิน 271,862,770 บาท โดยปรับแผนการใช้
จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ  พ.ศ. 2547   งบกลาง  รายการค่าใช้จ่ายเพื่อการเสริมสร้าง
ศักยภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ ในส่วนที่สำนักงบประมาณได้อนุมัติจัดสรร  (งวด)  ให้
สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (วงเงิน 2,000 ล้านบาท) โดยอนุมัติเป็นค่าใช้จ่ายในการ
เข้าร่วมกิจการร่วมทุนหรือลงทุน  เพื่อยกระดับความสามารถการแข่งขันธุรกิจไทย  (สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจ
ขนาดกลางและขนาดย่อม)  ในวงเงิน  1,728,137,230  บาท  และแผนยุทธศาสตร์ความปลอดภัยด้านอาหาร
(Food  Safety)  (กระทรวงสาธารณสุข)  ในวงเงิน  271,862,770  บาท   ซึ่งสำนักงบประมาณจะพิจารณาจัด
สรรงบประมาณให้สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม  เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมกิจการ
ร่วมทุนหรือลงทุนเพื่อยกระดับขีดความสามารถการแข่งขันธุรกิจไทย ในวงเงิน 271,862,770 บาท  โดยใช้จ่าย
จากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 งบกลาง รายการเงินค่าใช้จ่ายเพื่อการเสริมสร้างศักย
ภาพการแข่งขันและการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศ เมื่อร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายเพิ่มเติมประจำปี
งบประมาณ พ.ศ. 2547 มีผลบังคับใช้เป็นกฎหมายแล้ว

            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้ง นางประภาศรี จงสุขสันติกุล ให้ดำรง
ตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุข 10 ชช.  ด้านวิจัย  กรมควบคุมโรค  กระทรวงสาธารณสุข  ทั้งนี้  ตั้งแต่วันที่ 30
กันยายน 2546 เป็นต้นไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้ง นางวิไลวรรณ กุลกลการ ให้ดำรง
ตำแหน่งนายแพทย์ 10 วช. ด้านเวชกรรม สาขากุมารเวชกรรม  กลุ่มงานกุมารเวชกรรม  โรงพยาบาลลำปาง
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดลำปาง   สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข   ทั้งนี้   ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณา
โปรดเกล้า ฯ แต่งตั้งเป็นต้นไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานผลงานและอุปสรรคในการดำเนินงาน
การสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 (1 ตุลาคม 2545-30 กันยายน 2546) โดย
ผลการดำเนินงานสร้างหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้าปีงบประมาณ พ.ศ. 2546 ด้านความครอบคลุม มีจำนวนผู้
ลงทะเบียนในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ (ณ 30 กันยายน 2546) ทั้งสิ้น  45.97  ล้านคน  เพิ่มขึ้นจาก
ต้นปีร้อยละ 1.28 และคิดเป็นร้อยละ 73.58 ของประชากรทั้งประเทศ  (62.48 ล้านคน)  ด้านการใช้บริการของ
ผู้มีสิทธิ พบว่า มีการใช้บริการผู้ป่วยนอกทั้งสิ้น 115 ล้านครั้ง ผู้ป่วยใน 3.98 ล้านครั้ง  เปรียบเทียบกับประชา
กรกลางปี พบว่า ผู้ป่วยนอกมีอัตราการใช้บริการเท่ากับ 2.52 ครั้งต่อคนต่อปี  เพิ่มขึ้นร้อยละ 11 เมื่อเทียบกับ
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 (2.27 ครั้งต่อคนต่อปี) ส่วนอัตราการรับไว้นอนโรงพยาบาล เท่ากับ 0.087 ครั้งต่อ
คนต่อปี เพิ่มขึ้นร้อยละ 3  เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ พ.ศ. 2545  (0.085 ครั้งต่อคนต่อปี)  อัตราผู้ป่วยส่งต่อ
เพื่อรับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาลในทุกระดับลดลงร้อยละ 1.31 เมื่อเทียบกับปีงบประมาณ พ.ศ. 2545
ด้านการให้บริการกรณีอุบัติเหตุ เจ็บป่วยฉุกเฉิน และผู้ป่วยที่มีค่าใช้จ่ายสูง ในภาพรวมพบว่า มีอัตราเพิ่มร้อยละ
9.47 และร้อยละ 4.25 ตามลำดับ ด้านคุณภาพการรักษาพยาบาล  จากการสำรวจความคิดเห็นของประชาชน
ส่วนใหญ่มีความพึงพอใจต่อบริการ และในส่วนของความเท่าเทียมกันของการให้บริการทางด้านการแพทย์และ
สาธารณสุขพบว่า  ยังมีปัญหาทั้งการกระจายของทรัพยากรและความเท่าเทียมในการให้บริการ ด้านคุณภาพ
ของสถานพยาบาลคู่สัญญา มีสถานพยาบาลที่ผ่านการรับรองคุณภาพในโรงพยาบาลตามมาตรฐาน HA แล้ว
ร้อยละ 3.9 โดยร้อยละ 68.4  อยู่ระหว่างการพัฒนาตามบันไดขั้นที่  1  และ  2  ด้านการรับเรื่องราวร้องทุกข์
และการคุ้มครองสิทธิประโยชน์ มีประชาชนมาติดต่อสอบถามและร้องทุกข์มายังสำนักงานหลักประกันสุขภาพ
แห่งชาติ ผ่านช่องทางต่าง ๆ  จำนวน 62,425 ราย  และด้านการบริหารจัดการงบประมาณ  ในปีงบประมาณ
พ.ศ. 2546 งบประมาณที่ได้รับ 31,338,296,993.25 บาท  สำหรับปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินงานใน
ปี พ.ศ. 2546  พบว่า  การพัฒนาประสิทธิภาพการขึ้นทะเบียนประชาชนผู้มีสิทธิ  การคุ้มครองสิทธิประชาชน
ทั้งในด้านการเข้าถึงบริการและคุณภาพบริการ   การปรับปรุงชุดสิทธิประโยชน์ให้มีความเหมาะสม และครอบ
คลุมมากยิ่งขึ้น ยังคงเป็นประเด็นที่จำเป็นต้องได้รับการพัฒนาต่อไป ควบคู่กับการพัฒนาระบบบริหารจัดการ
/การโอนงบประมาณต่าง ๆ ให้มีความรวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทั้งหมดนี้หากได้สนับสนุนให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม
ในการแก้ไขปัญหาต่าง ๆ มากขึ้น  จะทำให้ระบบสามารถตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนมากขึ้นใน
ระยะยาวต่อไป

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานผลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถ
ภาพผู้ป่วยยาเสพติด ประจำเดือนมกราคม 2547 โดยยอดสะสม ระหว่างวันที่ 1 ตุลาคม 2545-15 มกราคม
2547  จากรายงานทั้งสิ้น  76  จังหวัด  สถานบำบัดรักษายาเสพติดของกระทรวงสาธารณสุข  จำนวนทั้งสิ้น
6,733 แห่ง โดยเป็นสถานบำบัดสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ประกอบด้วย โรงพยาบาลศูนย์/
โรงพยาบาลทั่วไป  จำนวน 93 แห่ง  โรงพยาบาลชุมชน 721 แห่ง  PCU/สถานีอนามัย  5,892  แห่ง  สถาน
บำบัดสังกัดกรมการแพทย์ 10  สถานบำบัดสังกัดกรมสุขภาพจิต 17 แห่ง ได้ให้การบำบัดรักษาผู้ป่วยทั้งสิ้น 
จำนวน  494,095  ราย  สถานบำบัดที่ให้การรักษามากที่สุดในระดับโรงพยาบาลชุมชน จำนวน  176,321 
ราย ระดับPCU/สถานีอนามัย 170,700 ราย โรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป 58,003 ราย สังกัดกรม
สุขภาพจิต 50,248 ราย  สังกัดกรมการแพทย์  38,823  ราย  ส่วนรายสัปดาห์ ระหว่างวันที่  26  ธันวาคม
2546-15 มกราคม 2547  มีผู้ป่วยเข้ารับการบำบัดรักษาทั้งสิ้น  7,056  ราย  สถานบำบัดที่ให้การบำบัด
มากที่สุดคือ สังกัดกรมสุขภาพจิต 2,541 ราย สังกัดกรมการแพทย์  1,277  ราย  ระดับโรงพยาบาลศูนย์/
โรงพยาบาลทั่วไป 1,212ราย ระดับ PCU/สถานีอนามัย 1,054 ราย และระดับโรงพยาบาลชุมชน 972 ราย
ทั้งนี้   ให้กระทรวงมหาดไทยรับไปตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณียังมีผู้ค้ายาเสพติดรายย่อยในท้องที่จังหวัดปทุม
ธานี และเร่งดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไปด้วย

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี  คณะที่ 6  ที่มีมติเกี่ยว
กับการดำเนินการก่อสร้างโรงงานผลิตยาต้านไวรัสเอดส์ขององค์การเภสัชกรรมตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
โดยให้กระทรวงสาธารณสุข (องค์การเภสัชกรรม) ดำเนินการก่อสร้างโรงงานดังกล่าว  ตามระเบียบขององค์การ
เภสัชกรรม   ตามที่คณะกรรมการองค์การเภสัชกรรมได้พิจารณารายละเอียดของแผนการดำเนินการดังกล่าวแล้ว
เห็นว่า การก่อสร้างโรงงานผลิตยาต้านไวรัสเอดส์ไม่เข้าข่ายการจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จ  (Turnkey)  ตามคำนิยาม
ในคู่มือการพิจารณาโครงการจ้างเหมาแบบเบ็ดเสร็จของกระทรวงการคลังที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี
แล้ว เมื่อวันที่  11  พฤศจิกายน  2546  เนื่องจากการดำเนินโครงการก่อสร้างไม่ได้เป็นการจ้างบริษัทดำเนินการ
ออกแบบสำรวจตั้งแต่ต้นจนกระทั่งการก่อสร้างจนแล้วเสร็จเพียงบริษัทเดียว  รวมทั้งเงินทุนที่ใช้ในการดำเนินการ
ก่อสร้างเป็นเงินขององค์การเภสัชกรรมเอง ไม่ใช่เงินทุนที่จัดหาโดยบริษัทผู้รับเหมา ดังนั้น องค์การเภสัชกรรมจึง
สามารถที่จะดำเนินโครงการดังกล่าวโดยระเบียบขององค์การเภสัชกรรมเอง

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี
เมื่อวันที่ 9 กันยายน 2546  และวันที่  23  กันยายน  2546  เรื่อง ปัญหาการใช้สารเคมีของสวนส้ม ที่อำเภอแม่
อายจังหวัดเชียงใหม่ จากผลการพิจารณาศึกษาปัญหาดังกล่าว เห็นว่า อันตรายที่เกิดขึ้นจากการประกอบกิจการ
สวนส้ม มีสาเหตุมาจากการใช้สารเคมี  จึงเห็นสมควรกำกับให้มีการใช้กฎหมายที่มีต่อผลการควบคุมที่สาเหตุของ
ปัญหาโดยตรง และในส่วนของคณะกรรมการสาธารณสุข ซึ่งเป็นคณะกรรมการตามพระราชบัญญัติการสาธารณ
สุข พ.ศ. 2535  ยังได้ประสานกับคณะกรรมการวัตถุอันตรายให้มีการกำกับดูแลการใช้สารเคมีในสวนส้มด้วยแล้ว
นอกจากนี้ กระทรวงสาธารณสุขได้ร่วมดำเนินการกับคณะทำงานที่แต่งตั้งโดยผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ศึกษา
ผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการประกอบกิจการสวนส้ม   และหากมีข้อมูลที่พบว่า  การประกอบกิจการสวนส้มเป็นกิจ
การที่อันตรายต่อสุขภาพ และสามารถควบคุมได้โดยการใช้พระราชบัญญัติการสาธารณสุข พ.ศ. 2535  ตรงตาม
เจตนารมณ์ของกฎหมาย   ก็อาจมีการดำเนินการประกาศให้กิจการดังกล่าวเป็นกิจการที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพ
ต่อไปได้

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 6 (คกก.6) ที่มี
มติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....)  ออกตามความในพระราช
กำหนดป้องกันการใช้สารระเหย พ.ศ. 2533 และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนิน
การต่อไปได้   โดยสาระสำคัญของร่างกฎกระทรวงฉบับนี้เป็นการปรับปรุงการกำหนดแบบบัตรประจำตัวพนักงาน
เจ้าหน้าที่ตามพระราชกำหนดป้องกันการใช้สารระเหย  พ.ศ. 2533   โดยให้หัวหน้าส่วนราชการหรือผู้ที่ได้รับมอบ
หมายจากหัวหน้าส่วนราชการเป็นผู้ออกบัตรประจำตัวให้แก่พนักงานเจ้าหน้าที่ในสังกัด  ทั้งนี้  ให้รับข้อสังเกตของ
ที่ประชุม  คกก.6  ที่เห็นควรให้มีการจัดตั้งศูนย์ควบคุมเพื่อป้องกันปัญหาการปลอมแปลงบัตร  และควรมีการตรวจ
สอบคุณสมบัติของผู้ที่จะแต่งตั้งให้เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยควรจัดให้มีการอบรมเพื่อให้มีความรู้เกี่ยวกับขอบเขต
อำนาจหน้าที่ของตน และความรู้ในเรื่องของสารระเหยก่อนที่จะออกบัตร  ฯ  ให้   และควรมีการปรับปรุงแบบบัตร
ประจำพนักงานเจ้าหน้าที่ โดยเพิ่มเลขที่บัตรประจำตัวประชาชน 13 หลัก เข้าไปด้วย  และหลังจากออกบัตร ฯ แล้ว
ควรส่งทะเบียนการออกบัตร  ฯ   ให้กระทรวงสาธารณสุข   โดยสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา เป็นหน่วย
งานควบคุม รวมทั้งควรหามาตรการควบคุมและจำกัดจำนวนพนักงานเจ้าหน้าที่ให้น้อยลงและควรมีผู้ที่เข้าไปตรวจ
สอบการทำงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ในแต่ละพื้นที่ เพื่อป้องกันปัญหาการรีดไถ  การแสวงหาผลประโยชน์  กรร
โชกทรัพย์   และการกลั่นแกล้งในแง่ธุรกิจจากร้านขายของชำขนาดเล็ก   และควรประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทั่วไป
ทราบ   นอกจากนี้   กระทรวงสาธารณสุขควรวางกลไกการบริหารกฎหมายหลักให้รัดกุมในด้านของการบังคับใช้
โดยให้ผู้ที่เกี่ยวข้องไปดำเนินการให้มีประสิทธิภาพ มีคุณธรรมและจริยธรรม  และควรจะมีข้อมูลในส่วนของการจับ
กุมและปราบปราม เพื่อติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานของพนักงานเจ้าหน้าที่ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย

             คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี  คณะที่ 6  (คกก.6)  ที่มี
มติอนุมัติหลักการตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต การ
ออกใบอนุญาต การขอรับใบแทนใบอนุญาต และการออกใบแทนใบอนุญาตในการประกอบโรคศิลปะ พ.ศ. ....  ซึ่งมี
สาระสำคัญเกี่ยวกับการกำหนดหลักเกณฑ์  วิธีการ  และเงื่อนไขในการขอขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต  การออกใบ
อนุญาต   การขอรับใบแทนใบอนุญาต   และการออกใบแทนใบอนุญาตในการประกอบโรคศิลปะ   โดยให้กระทรวง
สาธาณรณสุขรับข้อสังเกตของ  คกก.6  ไปดำเนินการ  ดังนี้   การประกอบวิชาชีพทางการแพทย์และสาธารณสุขอื่น
ที่มีกฎหมายเฉพาะ 4 สภา ซึ่งได้แก่ แพทยสภา สภาการพยาบาล ทันตแพทยสภา และสภาเภสัชกรรม นั้น สภาการ
พยาบาลต่อไปมีแนวโน้มที่จะกำหนดให้มีการต่ออายุใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ  5  ปี  เห็นควรให้กระทรวงสาธารณ
สุขรับไปประสานในรายละเอียดเกี่ยวกับการทดลอง องค์ความรู้ การสะสมคะแนน และเกณฑ์ในการวัดองค์ความรู้กับ
สภาการพยาบาลต่อไป และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ นอกจาก
นี้  ให้กระทรวงสาธารณสุขรับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรีไปพิจารณาด้วยว่า  ในอนาคต  หากจะพัฒนาระบบการขอ
ขึ้นทะเบียน การขอใบอนุญาต การออกใบอนุญาต การขอรับใบแทนใบอนุญาต และการออกใบแทนใบอนุญาต  ให้
สามารถดำเนินการในระบบ E-Service ได้ด้วยก็จะเหมาะสมยิ่งขึ้น

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอการปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการ
วัคซีนแห่งชาติ โดยมีอำนาจหน้าที่คงเดิม

             คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอผลงานการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดเกี่ยว
กับผลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยยาเสพติด กระทรวงสาธารณสุข ระหว่างวันที่ 12-18 ธันวาคม
2546  ซึ่งมีผู้ป่วยเข้ารับการบำบัดรักษาทั้งสิ้น 1,607 ราย  สถานบำบัดที่ให้การบำบัดมากที่สุดคือ ระดับ PCU/
สถานีอนามัย 412 ราย สังกัดกรมสุขภาพจิต  400  ราย  ระดับโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป  395  ราย
 สังกัดกรมการแพทย์ 360 ราย และระดับโรงพยาบาลชุมชน 40 ราย  ส่วนการแยกวิธีการบำบัดรักษา ประกอบ
ด้วย การบำบัดรักษาโดยบำบัดในชุมชน 631 ราย วิธีผู้ป่วยนอก 719 ราย วิธีผู้ป่วยใน 257 ราย สถานบำบัดที่
ให้การบำบัดโดยวิธีบำบัดในชุมชนสูงสุดคือ  PCU/สถานีอนามัย  โดยวิธีผู้ป่วยนอกสูงสุดคือ  สถานบริการสังกัด
กรมสุขภาพจิต   และวิธีผู้ป่วยในบริการสูงสุดคือ  สถานบริการสังกัดกรมการแพทย์   สำหรับลักษณะการบำบัด
ของผู้มารับการบริการ เป็นการมารับการบำบัดโดยสมัครใจ 1,357 ราย โดยการบังคับบำบัด 250 ราย  สถาน
บำบัดที่ให้การบำบัดโดยสมัครใจสูงสุดคือ กรมสุขภาพจิต และบังคับให้บริการสูงสุดคือ ระดับโรงพยาบาลศูนย์/
โรงพยาบาลทั่วไป  ทั้งนี้ ให้กระทรวงสาธารณสุขติดตามและรายงานผลงานการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดอย่าง
ต่อเนื่องต่อไป โดยให้รายงานคณะรัฐมนตรีทราบเดือนละครั้ง

            คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานผลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ
ผู้ป่วยยาเสพติด ระหว่างวันที่ 5 - 11 ธันวาคม 2546  โดยผลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยยาเสพ
ติด จากรายงานทั้งสิ้น 76 จังหวัด  มีผู้ป่วยเข้ารับการบำบัดรักษาทั้งสิ้น 1,586 ราย  สถานบำบัดที่ให้การบำบัด
มากที่สุดคือ สังกัดกรมสุขภาพจิต 475 ราย  รองลงมาคือ ระดับโรงพยาบาลศูนย์/โรงพยาบาลทั่วไป ระดับ PCU
/สถานีอนามัย สังกัดกรมการแพทย์ และระดับโรงพยาบาลชุมชน ตามลำดับ ส่วนวิธีการบำบัดรักษา แยกเป็นวิธี
การบำบัดโดยบำบัดในชุมชน 653 ราย วิธีผู้ป่วยนอก  712  ราย  วิธีผู้ป่วยใน  221  ราย  สถานบำบัดที่ให้การ
บำบัดโดยวิธีบำบัดในชุมชนสูงสุดคือ PCU/สถานีอนามัย  วิธีผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยในสูงสุดคือ สถานบริการสังกัด
กรมสุขภาพจิต  สำหรับลักษณะการบำบัดของผู้มารับการบริการ  เป็นการมารับการบำบัดโดยสมัครใจ  1,499 
ราย โดยการบังคับบำบัด 87 ราย สถานบำบัดที่ให้การบำบัดโดยสมัครใจและบังคับบำบัดสูงสุดคือ กรมสุขภาพ
จิต

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอแต่งตั้งให้ นางศิริวรรณ สิริกวิน ดำรง
ตำแหน่งนายแพทย์ 10 วช. ด้านเวชกรรม สาขากุมารเวชกรรม กลุ่มงานการรักษา กลุ่มบริการเฉพาะทาง
สถาบันบำราศนราดูร กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่ 6 มิถุนายน 2546

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานผลการปฏิบัติงานต่อสู้เพื่อเอาชนะ
ยาเสพติดเกี่ยวกับแผนยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดของกระทรวงสาธารณสุข ปี
งบประมาณ พ.ศ. 2547  รวมทั้งรายงานผลการบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ป่วยยาเสพติด  กระทรวง
สาธารณสุข  ระหว่างวันที่  28  พฤศจิกายน - 4  ธันวาคม  2546  โดยในส่วนของแผนยุทธศาสตร์และแผน
ปฏิบัติการต่อสู้เพื่อเอาชนะยาเสพติดของกระทรวงสาธารณสุข ปีงบประมาณ พ.ศ. 2547 กระทรวงสาธารณ
สุข มีบทบาทหลักและร่วมรับผิดชอบใน  4  แนวทาง  คือ  การลดความต้องการในกลุ่มผู้เสพ/ผู้ติดยาเสพติด
(Demand) การป้องกันกลุ่มผู้มีโอกาสเข้าไปใช้ยาเสพติด (Potential  Demand) การควบคุมตัวยาและผู้ค้ายา
เสพติด (Supply) และสนับสนุนการปฏิบัติใน 1 แนวทาง คือ การสร้างพลังแผ่นดินและชุมชนเข้มแข็งเพื่อเอา
ชนะยาเสพติด  โดยได้กำหนดเป็นยุทธศาสตร์หลัก  4  ยุทธศาสตร์  ได้แก่  ยุทธศาสตร์การบำบัดรักษาและ
ฟื้นฟูสมรรถภาพ   ยุทธศาสตร์การปลุกพลังแผ่นดินและการป้องกัน   ยุทธศาสตร์การควบคุมตัวยาและสาร
เคมีและยุทธศาสตร์การบริหารจัดการเชิงบูรณาการ  สำหรับผลการปฏิบัติงานด้านการบำบัดรักษาและฟื้น
ฟูสมรรถภาพผู้ป่วยยาเสพติด  ระหว่างวันที่ 28 พฤศจิกายน - 4 ธันวาคม 2546   มีผู้ป่วยเข้ารับการบำบัด
รักษาทั้งสิ้นจำนวน 1,667 ราย  สถานบำบัดที่ให้การบำบัดมากที่สุดคือ  สังกัดกรมสุขภาพจิต  ส่วนวิธีการ
บำบัดรักษา แยกเป็นการบำบัดรักษาโดยบำบัดในชุมชน  621  ราย  วิธีผู้ป่วยนอก  795  ราย  วิธีผู้ป่วยใน
 251 ราย สถานบำบัดที่ให้การบำบัดโดยวิธีบำบัดในชุมชนสูงสุด คือ PCU/สถานีอนามัย โดยวิธีผู้ป่วยนอก
และผู้ป่วยในสูงสุด คือ สถานบริการสังกัดกรมสุขภาพจิต และลักษณะการบำบัดของผู้มารับบริการ เป็นการ
มารับการบำบัดโดยสมัครใจ 1,551 ราย  โดยการบังคับบำบัด  116  ราย  สถานบำบัดที่ให้การบำบัดโดย
สมัครใจและบังคับบำบัดสูงสุด คือ กรมสุขภาพจิต