ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 19 จากทั้งหมด 176 หน้า แสดงรายการที่ 361 - 380 จากข้อมูลทั้งหมด 3515 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง | วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 361 | รายงานการสร้างระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ 2563 และรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน 2562 ของกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ | สธ. | 05/05/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|           คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการสร้างระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๓
และรายงานของผู้สอบบัญชีและรายงานการเงินสำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๒
ของกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
ประกอบด้วยงบแสดงฐานะทางการเงินของกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน
ซึ่งผ่านการรับรองจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินแล้ว
โดยงบการเงินดังกล่าวถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ทั้งนี้ ในส่วนของรายงานการเงินของกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๓
อยู่ระหว่างเสนอสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินเพื่อตรวจสอบรับรอง
ตามที่คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติเสนอ 
 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 362 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง ค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระยะการระบาดระลอกเมษายน 2564 | สธ. | 05/05/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|           คณะรัฐมนตรีมีมติ           ๑.
รับทราบและอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้               ๑.๑
รับทราบโครงการเตรียมความพร้อมรับมือและแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่ :
กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระยะการระบาดระลอกเมษายน ๒๕๖๔ ประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔
โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อลดการติดเชื้อใหม่ให้ไม่เกินศักยภาพที่ระบบสาธารณสุขรองรับได้
(Low Level transmission) และเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับประชากรในประเทศไทยไม่น้อยกว่าร้อยละ
๗๐ ของประชากรทั้งหมด โดยเฉพาะกลุ่มประชากรผู้สูงอายุ ผู้มีโรคร่วม
และกลุ่มเปราะบาง/ด้อยโอกาส ระยะเวลาดำเนินการเดือนเมษายน ๒๕๖๔ ถึงเดือนกันยายน
๒๕๖๔ งบดำเนินงานทั้งสิ้น ๑๒,๕๗๖,๖๒๙,๓๒๒ บาท               ๑.๒ อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง ค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา
และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙
ระยะการระบาดระลอกเมษายน ๒๕๖๔ จำนวนเงินทั้งสิ้น ๑๒,๕๗๖,๖๒๙,๓๒๒ บาท            ๒.
ให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งดำเนินการ ดังนี้               ๒.๑
บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชนเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19) ให้อยู่ในวงจำกัดโดยเร็วที่สุด
และเพิ่มประสิทธิภาพในการคัดกรองระดับ/แยกประเภทผู้ป่วย
รวมทั้งการนำผู้ป่วยเข้าสู่ระบบการรักษาพยาบาลให้ทั่วถึงและรวดเร็วยิ่งขึ้น               ๒.๒ ประเมินสถานการณ์ ตรวจสอบ และแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในขั้นตอนต่าง
ๆ เช่น การเฝ้าระวังโรค การเข้าตรวจโรค และการรักษาพยาบาล เป็นต้น
รวมทั้งให้จัดเตรียมแผนรองรับความเสี่ยงต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
เพื่อให้การบริหารจัดการวิกฤติในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
(COVID-19) เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน               ๒.๓ เร่งรัดการดำเนินการกระจายวัคซีนไปยังกลุ่มเป้าหมายอย่างเป็นระบบ
รวดเร็ว ทั่วถึง และเป็นธรรม รวมทั้งให้สร้างความเข้าใจแก่ประชาชนให้มีความพร้อมในการเข้ารับการฉีดวัคซีนและการป้องกันโรคในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19) ที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้
ให้เผยแพร่ข้อมูลผลการดำเนินงานดังกล่าวสู่สาธารณชนเพื่อให้เกิดความโปร่งใสด้วย 
           ๓.
ให้กระทรวงสาธารณสุขได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้ 
 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 363 | หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 [Coronavirus Disease 2019 (COVID - 19)] (ฉบับที่ 3) | สธ. | 27/04/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|           คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้           ๑. เห็นชอบหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ
กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19
[Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)] (ฉบับที่ ๓) เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ
กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 [Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)] (ฉบับที่ ๒)
ให้ครอบคลุมถึงค่าใช้จ่ายที่เกิดจากอาการแพ้วัคซีนหรืออาคารไม่พึงประสงค์ที่เกิดจากการฉีดวัคซีน
ซึ่งมีความจำเป็นต้องใช้กับผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 [Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)] ของบุคคลกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 หรือโรคโควิด 19 [Coronavirus
Disease 2019 (COVID-19)]
และเกิดอาการแพ้วัคซีนหรืออาการไม่พึงประสงค์
และเพิ่มเติมค่าพาหนะรับส่งต่อผู้ป่วย ค่าอุปกรณ์ป้องกันส่วนบุคคล (Personal
Protective Equipment : PPE)
รวมถึงค่าทำความสะอาดฆ่าเชื้อพาหนะส่งต่อผู้ป่วย ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ           ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขรับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
รวมทั้งความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับการกำหนดค่าใช้จ่ายตามกรณีที่กำหนดในมาตรา
๓๖ วรรคห้า แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาล พ.ศ. ๒๕๔๑
ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติสถานพยาบาล (ฉบับที่ ๔) พ.ศ. ๒๕๕๙
เป็นไปเพื่อการช่วยเหลือเยียวยาแก่ผู้ป่วยซึ่งจำเป็นต้องได้รับการรักษาพยาบาลโดยฉุกเฉินจากสถานพยาบาลตามที่รัฐมนตรีโดยคำแนะนำของคณะกรรมการประกาศกำหนดตามมาตรา
๓๓/๑ แต่โดยที่ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง
กำหนดผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ
กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19
[Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)] ซี่งออกโดยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา ๖
วรรคหนึ่ง และมาตรา ๓๓/๑ แห่งพระราชบัญญัติสถานพยาบาลฯ
ยังมิได้มีการกำหนดให้ผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อ
กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือโรคโควิด 19 [Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)]
ครอบคลุมถึงบุคคลกลุ่มเป้าหมายที่ได้รับการป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙
หรือโรคโควิด ๑๙ [Coronavirus Disease 2019 (COVID-19)] และเกิดอาการแพ้วัคซีนหรืออาการไม่พึงประสงค์ด้วย
จึงเห็นควรแก้ไขประกาศกระทรวงสาธารณสุขดังกล่าวให้สอดคล้องกัน
เพื่อให้การบังคับใช้กฎหมายเป็นไปอย่างถูกต้องและเหมาะสม
และเห็นควรให้กระทรวงสาธารณสุขกำกับ ติดตาม
และตรวจสอบค่าใช้จ่ายงบประมาณดังกล่าวให้มีประสิทธิภาพ ตามหลักเกณฑ์ วิธีการ
เงื่อนไข อัตราที่กำหนด และสามารถตรวจสอบได้ในทุกขั้นตอนพร้อมกับดำเนินการให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ค่าใช้จ่ายของกระทรวงการคลังด้วย
ไปพิจารณาดำเนินการให้ถูกต้องและเหมาะสมต่อไป           ๓.
ให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งสร้างการรับรู้เกี่ยวกับหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการกำหนดค่าใช้จ่ายในการดำเนินการผู้ป่วยฉุกเฉินโรคติดต่ออันตรายตามกฎหมายว่าด้วยโรคติดต่อกรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 ที่แก้ไขเพิ่มเติมในครั้งนี้
ให้แก่สถานพยาบาลต่าง ๆ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องและทั่วถึง
เพื่อให้การดำเนินการป้องกันและการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
รวมถึงการดำเนินการต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้องเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเกิดประสิทธิภาพสูงสุด ทั้งนี้
ให้กระทรวงสาธารณสุขร่วมมือกับศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมแผนการดำเนินงานที่เกี่ยวข้อง
ภายใต้กรณีศึกษาต่าง ๆ ตามระดับความรุนแรงและเร่งด่วนของสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
2019 เพื่อให้การดำเนินการป้องกันและการรักษาพยาบาลผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 มีความเหมาะสม และสามารถรองรับสภาพปัญหาที่อาจเปลี่ยนแปลงไปได้อย่างทันการณ์           ๔.
ให้กระทรวงสาธารณสุขได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 364 | ขออนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สำหรับโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับบริการประชากรในประเทศไทย เพิ่มเติม จำนวน 5 แสนโดส | สธ. | 27/04/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|           คณะรัฐมนตรีมีมติ           ๑. รับทราบรายละเอียดโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19) สำหรับบริการประชากรในประเทศไทย เพิ่มเติม จำนวน ๕ แสนโคส
กรอบวงเงินจำนวน ๓๒๑,๖๐๔,๐๐๐ บาท และอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๔ งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา
และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กรอบวงเงินจำนวน ๓๒๑,๖๐๔,๐๐๐ บาท
สำหรับโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับบริการประชากรในประเทศไทย
เพิ่มเติม จำนวน ๕ แสนโดส ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ           ๒.
ให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการ ดังนี้               ๒.๑ บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชนเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19) ให้อยู่ในวงจำกัดโดยเร็วที่สุดและเพิ่มประสิทธิภาพในการคัดกรองระดับ/แยกประเภทผู้ป่วย
รวมทั้งการนำผู้ป่วยเข้าสู่ระบบการรักษาพยาบาลให้ทั่วถึงและรวดเร็วยิ่งขึ้น               ๒.๒ ประเมินสถานการณ์ ตรวจสอบ
และแก้ไขปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในขั้นตอนต่าง ๆ เช่น การเฝ้าระวังโรค การเข้าตรวจโรค
และการรักษาพยาบาล เป็นต้น รวมทั้งให้จัดเตรียมแผนรองรับความเสี่ยงต่าง ๆ
ที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
เพื่อให้การบริหารจัดการวิกฤติในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
(COVID-19)
เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประชาชน               ๒.๓
เร่งรัดการดำเนินการกระจายวัคซีนไปยังกลุ่มเป้าหมายอย่างเป็นระบบ ทั่วถึง
และเป็นธรรม
รวมทั้งให้สร้างความเข้าใจแก่ประชาชนให้มีความพร้อมในการเข้ารับการฉีดวัคซีนและการป้องกันโรคในสถานการณ์การแพร่ระบาดที่ยังคงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ ให้เผยแพร่ข้อมูลผลการดำเนินงานดังกล่าวสู่สาธารณชนเพื่อให้เกิดความโปร่งใสด้วย           ๓.
ให้กระทรวงสาธารณสุขได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 365 | แผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทางการแพทย์และการสาธารณสุข พ.ศ. 2563-2565 | สธ. | 20/04/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|           คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้           ๑.
เห็นชอบแผนปฏิบัติการด้านการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยทางการแพทย์และการสาธารณสุข
พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๖๕ โดยแผนปฏิบัติการด้านป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฯ เป็นไปตามวิสัยทัศน์
“ประชาชนในพื้นที่ประสบภัยได้รับบริการทางการแพทย์และการสาธารณสุขที่มีคุณภาพ
ปลอดภัย และมีความมั่นใจในระบบบริการสาธารณสุขทุกระยะของการเกิดภัยอย่างทันท่วงทีในทุกสถานการณ์ที่เกิดขึ้น”
โดยมีเป้าหมาย พันธกิจ และกรอบยุทธศาสตร์ เป็นแนวทางการปฏิบัติสำหรับการดำเนินงาน
รวมทั้งได้กำหนดตัวชี้วัดและกลไกการประเมินผลและติดตามเพื่อเป็นช่องทางการติดตาม
รายงานความคืบหน้า
ตลอดจนวัดประสิทธิภาพและระดับความสำเร็จของผลการดำเนินการตามแผนปฏิบัติการดังกล่าวด้วย
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ข้อสังเกตของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
และข้อเสนอแนะเพิ่มเติมของกระทรวงศึกษาธิการ เช่น (๑) หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรคำนึงถึงความคุ้มค่า
ต้นทุน และผลประโยชน์ ตลอดจนความยั่งยืนทางการคลังของรัฐ ประกอบการดำเนินการภายใต้แผนปฏิบัติการด้านป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฯ
เพื่อให้เป็นไปตามเจตนารมณ์ของบทบัญญัติมาตรา ๗ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ (๒) กำหนดความเชื่อมโยงของแผนปฏิบัติการด้านป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฯ ที่ครอบคลุมถึงแผนการปฏิรูปประเทศด้านสาธารณสุข
(ฉบับปรับปรุง) และ (๓)
ให้ความสำคัญกับการจัดการภาวะฉุกเฉินทางการแพทย์และการสาธารณสุขที่มีประสิทธิภาพ
ทั้งการเตรียมความพร้อมในทุกพื้นที่
การคำนึงถึงผลกระทบต่อพื้นที่และประชาชนบริเวณอื่นโดยรอบพื้นที่
และการจัดทำแผนรองรับการบริการทางการแพทย์ฯ เป็นต้น
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย           ๒.
ให้กระทรวงสาธารณสุขจัดลำดับความสำคัญของการดำเนินงานแผนปฏิบัติการด้านป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยฯ
ให้มีความชัดเจน เหมาะสม เพื่อลดความซ้ำซ้อนด้านภารกิจและงบประมาณของหน่วยงานต่าง
ๆ และกำหนดกลไกลำดับขั้นตอนในการรายงานและสื่อสารข้อมูลสถานการณ์ที่ชัดเจน
ตลอดจนมีการซักซ้อมและทดสอบประสิทธิภาพของระบบที่เกี่ยวข้องอย่างเป็นระบบ
เพื่อให้มีความพร้อมในการรับมือกับสถานการณ์จริงอย่างเป็นเอกภาพ
รวมทั้งกำหนดกลไกการเชื่อมโยงฐานข้อมูลร่วมกันของหน่วยงานในแต่ละระดับ
เพื่อให้หน่วยงานที่ได้รับมอบหมายในแต่ละพื้นที่สามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพและสามารถปรับปรุงแผนการดำเนินงานที่เกี่ยวข้องให้เหมาะสมกับสถานการณ์ภัยพิบัติที่อาจเกิดขึ้นต่อไป | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 366 | ร่างพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สธ. | 07/04/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|           คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้           ๑.
เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ. ๒๕๕๘ โดยแก้ไขเกี่ยวกับกระบวนการพิจารณาเครื่องสำอางเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการพิจารณาอนุญาตเครื่องสำอางให้เหมาะสมและรวดเร็ว
ซึ่งกำหนดให้ผู้เชี่ยวชาญ องค์กรผู้เชี่ยวชาญ หน่วยงานของรัฐหรือองค์กรเอกชน
ทั้งในประเทศและต่างประเทศทำหน้าที่ในการประเมิน การตรวจวิเคราะห์ และตรวจสอบทางวิชาการ
เพื่อให้สอดคล้องกับความรู้และเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว
โดยผู้ยื่นคำขอเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการดังกล่าว
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป           ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง
กรอบระยะเวลา
และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ 
 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 367 | การให้สิทธิขั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุขกับบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิเด็กและบุคคลที่เรียนอยู่ในสถานศึกษา ครั้งที่ 2 | สธ. | 30/03/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|           คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้           ๑.
เห็นชอบในหลักการการให้สิทธิขั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุขกับบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิเด็กและบุคคลที่เรียนอยู่ในสถานศึกษา
ครั้งที่ ๒ ที่กระทรวงมหาดไทยได้ตรวจสอบความซ้ำซ้อนและกำหนดเลขประจำตัว ๑๓
หลักเรียบร้อยแล้ว และกระทรวงสาธารณสุขได้ตรวจสอบคัดกรองข้อมูล จำนวน ๕,๒๐๓ คน
ซึ่งครอบคลุมบริการด้านสาธารณสุข ได้แก่ การสร้างเสริมสุขภาพ การป้องกันโรค
การรักษาพยาบาล และการฟื้นฟูสมรรถภาพ นับตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งประชาสัมพันธ์
สร้างการรับรู้แก่ผู้ให้บริการและผู้ได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุขให้ถูกต้องและทั่วถึงต่อไป
ทั้งนี้ ให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และข้อสังเกตของสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ เช่น
อัตรางบประมาณเหมาจ่ายรายหัว จำนวน ๒,๔๕๓.๙๕ บาท/คน ที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอมาในครั้งนี้
ยังไม่สอดคล้องกับอัตรางบประมาณเหมาจ่ายรายหัวตามสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ปี
๒๕๖๔ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย           ๒.
ให้กระทรวงสาธารณสุขร่วมกับกระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๐ เมษายน ๒๕๕๘ [เรื่อง การให้สิทธิ (คืนสิทธิ) ขั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุขกับบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ
เพิ่มเติม
และการจัดการสถานะและสิทธิในการบริการสาธารณสุขของบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติทั้งระบบ] และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๒ กันยายน ๒๕๖๓ [เรื่อง การให้สิทธิ (คืนสิทธิ)
ขั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุขกับบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิเด็กและบุคคลที่เรียนอยู่ในสถานศึกษา]
ในการตรวจสอบข้อมูลเพื่อยืนยันความถูกต้องและรับรองการขึ้นทะเบียนของกลุ่มเด็กและบุคคลที่เรียนอยู่ในสถานศึกษา
รวมถึงบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิกลุ่มอื่น ๆ
ที่ยังไม่ได้รับสิทธิขั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุขให้แล้วเสร็จโดยเร็ว | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 368 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายกิตติพงศ์ แซ่เจ็ง) | สธ. | 23/03/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|           คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นายกิตติพงศ์ แซ่เจ็ง ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนัก [ผู้อำนวยการเฉพาะด้าน
(แพทย์) ระดับสูง] สำนักอนามัยการเจริญพันธุ์
กรมอนามัยให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ ด้านส่งเสริมสุขภาพ กรมอนามัย
กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่๑๖ กันยายน ๒๕๖๓ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ 
 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 369 | การโอนข้าราชการพลเรือนสามัญตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางปฐมพร ศิรประภาศิริ) | สธ. | 09/03/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|           คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการโอน นางปฐมพร ศิรประภาศิริ ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม สาขารังสีวิทยา) สถาบันมะเร็งแห่งชาติ
กรมการแพทย์
และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิด้านบำบัดรักษาและฟื้นฟูสมรรถภาพ
(นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ) (ด้านเวชกรรม) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ 
 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 370 | การแต่งตั้งประธานกรรมการในคณะกรรมการโรงพยาบาลบ้านแพ้ว | สธ. | 09/03/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|           คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง
นายวิศิษฎ์ ตั้งนภากร เป็นประธานกรรมการในคณะกรรมการโรงพยาบาลบ้านแพร้ว
แทนประธานกรรมการเดิมที่มีอายุครบเจ็ดสิบปีบริบูรณ์
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๙ มีนาคม ๒๕๖๔) เป็นต้นไป
และให้ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งแทนตำแหน่งที่ว่างนั้นอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ 
 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 371 | ร่างกฎกระทรวงการประกาศกำหนดตำรับยาแผนไทยทั่วไปหรือตำราการแพทย์แผนไทยทั่วไป พ.ศ. .... | สธ. | 02/03/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|           คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงการประกาศกำหนดตำรับยาแผนไทยทั่วไปหรือตำราการแพทย์แผนไทยทั่วไป
พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงกฎกระทรวงการประกาศกำหนดตำรับยาแผนไทยทั่วไปหรือตำราการแพทย์แผนไทยทั่วไป
พ.ศ. ๒๕๕๘
โดยแก้ไขหลักเกณฑ์การพิจารณาประกาศกำหนดตำรับยาแผนไทยทั่วไปไม่ให้ผูกโยงกับตำรับยาแผนไทยซึ่งเป็นยาสามัญประจำบ้านในส่วนของยาแผนโบราณตามกฎหมายว่าด้วยยา
หรือเป็นตำรับยาแผนไทยที่ใช้ในงานสาธารณสุขมูลฐาน ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ 
 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 372 | ขออนุมัติเปลี่ยนแปลงสถานที่ก่อสร้างรายการที่ได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 รายการก่อสร้างอาคารเภสัชกรรม ทันตกรรม อำนวยการ เป็นอาคาร คสล. 3 ชั้น พื้นที่ใช้สอยประมาณ 2,250 ตารางเมตร (โครงสร้างต้านแผ่นดินไหว) โรงพยาบาลลำพูน ตำบลต้นธง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน 1 หลัง | สธ. | 02/03/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|           คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้           ๑. อนุมัติเปลี่ยนแปลงสถานที่ก่อสร้างรายการที่ได้รับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ จากการก่อสร้างอาคารเภสัชกรรม ทันตกรรม อำนวยการ
เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก (คสล.) ๓ ชั้น พื้นที่ใช้สอยประมาณ ๒,๒๕๐ ตารางเมตร
(โครงสร้างต้านแผ่นดินไหว) โรงพยาบาลลำพูน ตำบลต้นธง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน
(รพ.ลำพูน ต.ต้นธง) ๑ หลัง เป็นการก่อสร้างอาคารเภสัชกรรม ทันตกรรม อำนวยการ
เป็นอาคาร คสล. ๓ ชั้น พื้นที่ใช้สอยประมาณ ๒,๒๕๐ ตารางเมตร
(โครงสร้างต้านแผ่นดินไหว) โรงพยาบาลลำพูน ตำบลเวียงยอง อำเภอเมืองลำพูน
จังหวัดลำพูน (รพ.ลำพูน ต.เวียงยอง) ๑ หลัง ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งดำเนินการให้เป็นไปตามแผนงานก่อสร้างอาคารเภสัชกรรม
ทันตกรรม อำนวยการ เป็นอาคาร คสล. ๓ ชั้น พื้นที่ใช้สอยประมาณ ๒,๒๕๐ ตารางเมตร (โครงสร้างต้านแผ่นดินไหว) โรงพยาบาลลำพูน
ตำบลเวียงยอง อำเภอเมืองลำพูน จังหวัดลำพูน ๑ หลัง
โดยให้ความสำคัญกับขั้นตอนและกระบวนการคัดเลือกผู้รับจ้างตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้ประชาชนในพื้นที่สามารถเข้าถึงบริการสุขภาพระดับปฐมภูมิได้อย่างสะดวก
รวดเร็ว และได้มาตรฐาน ทั้งนี้ ให้รับความเห็นของกระทรวงการคลังที่เห็นควรให้ความสำคัญในการควบคุม
กำกับ ดูแล และดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบและข้อบังคับที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย 
           ๒. ในการริเริ่มแผนงาน/โครงการต่าง ๆ
ในระยะต่อไป
ให้กระทรวงสาธารณสุขตรวจสอบความเหมาะสมและความพร้อมของพื้นที่ดำเนินโครงการ
ตลอดจนความสอดคล้องกับแผนแม่บทหรือแผนพัฒนาพื้นที่ของโรงพยาบาลแต่ละแห่งอย่างละเอียดรอบคอบ
เพื่อให้การดำเนินโครงการเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ถูกต้อง
และสอดคล้องกับทิศทางการพัฒนาพื้นที่การให้บริการของโรงพยาบาลแต่ละแห่งในภาพรวมตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๑ มีนาคม ๒๕๖๐ (เรื่อง
การพิจารณาและตรวจสอบความพร้อมในการดำเนินการตามแผนงาน/โครงการของส่วนราชการและการตรวจสอบข้อมูลผู้ละทิ้งงานราชการ) 
 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 373 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สำหรับโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับบริการประชากรในประเทศไทย เพิ่มเติม จำนวน 35 ล้านโดส | สธ. | 02/03/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|           คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้           ๑. รับทราบรายละเอียดโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19)
สำหรับบริการประชากรในประเทศไทย เพิ่มเติม จำนวน ๓๕ ล้านโดส
กรอบวงเงินจำนวน ๖,๓๘๗,๒๘๕,๙๐๐ บาท
และอนุมัติรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง
รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา
และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ กรอบวงเงิน
๖,๓๘๗,๒๘๕,๙๐๐ บาท สำหรับโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)
สำหรับบริการประชากรในประเทศไทย เพิ่มเติม จำนวน ๓๕ ล้านโดส
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ทั้งนี้
ให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งดำเนินการตามแผนกลยุทธ์การบริหารจัดการการให้วัคซีนโควิด
19 ในประเทศไทย รวมทั้งกำกับติดตามการดำเนินการที่เกี่ยวข้องให้เป็นไปอย่างโปร่งใส
และตรวจสอบได้ เพื่อให้คนไทยทุกคนได้รับวัคซีนอย่างทั่วถึงมีประสิทธิภาพสูงสุด           ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 374 | (ร่าง) นโยบายแห่งชาติด้านยาและแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบยาแห่งชาติ พ.ศ. 2563 - 2565 | สธ. | 23/02/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|           คณะรัฐมนตรีมีมติ           ๑. เห็นชอบ (ร่าง) นโยบายแห่งชาติด้านยาและแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบยาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๖๕
ที่คณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติได้ดำเนินการจัดทำขึ้น เป็นไปตามวิสัยทัศน์ “ประชาชนเข้าถึงยาจำเป็นที่มีคุณภาพอย่างทั่วถึง
ใช้ยาสมเหตุผล ประเทศมีความมั่นคงด้านยา อย่างยั่งยืนภายใน ๒๐ ปี”
โดยมีเป้าประสงค์เพื่อส่งเสริมให้ระบบควบคุมยามีประสิทธิภาพและมีธรรมาภิบาล
มุ่งเน้นให้ประเทศมีความมั่นคงด้านยา
รวมทั้งเพิ่มความสามารถของอุตสาหกรรมผลิตยาในประเทศในการแข่งขันสู่ระดับสากล
ซึ่งได้มีการวางกรอบการดำเนินการผ่านยุทธศาสตร์ พันธกิจ
และเป้าหมายตัวชี้วัดที่ครอบคลุมการส่งเสริมและพัฒนาทุกภาคส่วนอย่างรอบด้าน พร้อมทั้งได้กำหนดกลไกการติดตามความก้าวหน้าผ่านการประชุมคณะกรรมการพัฒนาระบบยาแห่งชาติ
๓-๔ ครั้ง/ปี ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และข้อเสนอแนะเพิ่มเติมของกระทรวงศึกษาธิการ
เช่น (๑) หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรคำนึงถึงประเด็นความคุ้มค่า ต้นทุนและผลประโยชน์
เสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม ตลอดจนความยั่งยืนทางการคลังของรัฐ (๒)
ควรพิจารณาเพิ่มแผนงานการส่งเสริมการผลิตยาสามัญ (Generic drug) รวมถึงยาที่หมดการครอบครองทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อลดการนำเข้ายาจากต่างประเทศและสร้างฐานการผลิตยาสามัญในประเทศ
(๓) ควรพิจารณาแนวทางการบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องภายใต้แผนการเสริมสร้างความสามารถด้านการผลิตวัตถุดิบทางยา
(๔) ให้ตระหนักถึงความสำคัญของการใช้ยาอย่างสมเหตุผลในสัตว์ที่ป่วย
รวมถึงการพัฒนาระบบการควบคุมการกระจายยาให้ครอบคลุมทั้งในคนและสัตว์ (๕) ควรพัฒนาการศึกษาและการให้ความรู้ต่อเนื่องแก่ผู้ที่เกี่ยวข้องกับการใช้ยาและประชาชนผ่านการให้ความรู้ในช่องทางที่หลากหลาย
และไม่ควรผ่านหลักสูตรขั้นพื้นฐานเพียงอย่างเดียว และ (๖) ควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบูรณาการการดำเนินงานและนำ
(ร่าง) นโยบายแห่งชาติด้านยาฯ พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๖๕
ไปใช้เป็นกรอบในการจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินการ
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย           ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุข
(สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) ดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้              
๒.๑ เร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อบูรณาการกรอบแนวทางการดำเนินงานและการจัดลำดับความสำคัญของแผนงานและโครงการต่าง
ๆ ภายใต้ (ร่าง) นโยบายแห่งชาติด้านยาฯ  พ.ศ.
๒๕๖๓-๒๕๖๕ กับ (ร่าง) ยุทธศาสตร์การขับเคลื่อนประเทศไทยด้วยโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ
เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (Bio-Circular-Green Economy : BCG
Model) พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๙ ให้มีความสอดคล้อง เชื่อมโยง
และไม่ซ้ำซ้อนกัน ทั้งในระดับนโยบายและการปฏิบัติการ
รวมทั้งกำหนดตัวชี้วัดที่มีเป้าหมายร่วมกันระหว่างหน่วยงานต่าง ๆ
เพื่อให้สามารถบรรลุเป้าหมายของยุทธศาสตร์ที่เกี่ยวข้องได้อย่างมีประสิทธิภาพและเกิดผลเป็นรูปธรรมได้โดยเร็ว              
๒.๒ ประสานงานกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อกำหนดแนวทางการส่งเสริมการเพาะปลูกและใช้ประโยชน์จากพืชสมุนไพรที่มีศักยภาพในการผลิตยาอย่างเป็นระบบ
โดยให้ความสำคัญกับการขยายพื้นที่ปลูกพืชสมุนไพร พัฒนาทักษะของเกษตรกร
เพิ่มช่องทางการตลาด และส่งเสริมการลงทุนเพื่อเพิ่มมูลค่าพืชสมุนไพร
รวมทั้งเป็นทางเลือกที่สามารถสร้างรายได้ให้กับเกษตรกรด้วย 
              
๒.๓ ศึกษาพฤติกรรมการจ่ายยาของสถานพยาบาลและการใช้ยาของประชาชนแต่ละกลุ่มในระบบบริการปฐมภูมิเพื่อนำข้อมูลไปประกอบการกำหนดแนวทางการพัฒนาระบบและกลไกการดำเนินการที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิดการใช้ยาอย่างสมเหตุผล
การเข้าถึงยาจำเป็นของประชาชน และการควบคุมการกระจายยาภายใต้ (ร่าง)
นโยบายแห่งชาติด้านยาและแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบยาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๖๕
ที่ชัดเจนและสอดคล้องกับความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียโดยตรงอย่างรอบด้าน | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 375 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาวสุภัทรา บุญเสริม) | สธ. | 15/02/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|            คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวสุภัทรา บุญเสริม
ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองเลขาธิการ (นักบริหารระดับต้น) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ให้ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิด้านมาตรฐานผลิตภัณฑ์ด้านสาธารณสุข
(นักวิชาการอาหารและยาทรงคุณวุฒิ) สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๑๖ กันยายน ๒๕๖๓ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ 
 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 376 | ร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สธ. | 15/02/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|           คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้           ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย
พ.ศ. ๒๕๔๒ เกี่ยวกับการกำหนดคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามทั่วไป
และคุณสมบัติและลักษณะต้องห้ามเฉพาะของกรรมการผู้ทรงคณวุฒิ
กำหนดให้มีคณะกรรมการสรรหากรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ แก้ไขเพิ่มเติมหน้าที่และอำนาจของคณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้แก้ไขเพิ่มเติมร่างมาตรา ๔ (ตัดความในวรรคสองของร่างมาตรา ๕/๑ ออก)
และให้นำไปรวมพิจารณากับร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (๔ เมษายน ๒๕๖๐)
อนุมัติหลักการและอยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาในคราวเดียวกัน
โดยให้รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรพิจารณาทบทวนการกำหนดบทบัญญัติเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยที่หากพ้นจากตำแหน่งก่อนวาระให้กรรมการเท่าที่เหลืออยู่สามารถปฏิบัติงานต่อไปได้
ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อประสิทธิภาพการดำเนินงานที่รอบด้าน
รวมถึงทบทวนการเพิ่มเติมอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการดังกล่าวในการวางระเบียบเกี่ยวกับการคัดค้านการจดทะเบียนสิทธิในภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย
ซี่งถือเป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการขั้นตอนการขอยื่นจดทะเบียนสิทธิในภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยที่สามารถดำเนินการภายใต้กฎกระทรวงในการขอจดทะเบียนสิทธิได้
ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป 
           ๒. รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง
กรอบระยะเวลา
และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองที่ออกตามร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ 
 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 377 | รายงานประจำปี 2562 ของสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) | สธ. | 09/02/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|           คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี
๒๕๖๒ ชองสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข (สวรส.) ประกอบด้วย ผลการดำเนินงานที่เด่น
และงบแสดงฐานะการเงินและงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๒
ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบรับรองแล้วเห็นว่า ถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ 
 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 378 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นางสุพัชรี ธรรมเพชร) | สธ. | 09/02/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|           คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นางสุพัชรี ธรรมเพชร เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔) เป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ 
 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 379 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ภายใต้โครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) สำหรับประชาชนไทย โดยการจองล่วงหน้า (AstraZeneca) | สธ. | 02/02/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|           คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้           ๑.
รับทราบและอนุมัติตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้               ๑.๑ รับทราบรายละเอียดการดำเนินงานจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19) สำหรับประชาชนไทย โดยการจองซื้อล่วงหน้า (AstraZeneca) ในส่วนของกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข               ๑.๒ อนุมัติการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา
และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ วงเงิน
๒,๗๔๑,๓๓๖,๐๐๐ บาท ภายใต้โครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019
(COVID-19) สำหรับประชาชนไทยโดยการจองล่วงหน้า
(AstraZeneca) ในส่วนที่กรมควบคุมโรคติดต่อ กระทรวงสาธารณสุข
เกี่ยวข้อง           ๒.
ให้กระทรวงสาธารณสุขได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้ 
 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 380 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางกาญจนา คูณรังษีสมบูรณ์) | สธ. | 02/02/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
| คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางกาญจนา คูณรังษีสมบูรณ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งนายแพทย์เชี่ยวชาญ
(ด้านเวชกรรม สาขาเวชศาสตร์ป้องกัน แขนงสุขภาพจิตชุมชน) กลุ่มงานการแพทย์ กลุ่มบริการทางการแพทย์
สถาบันพัฒนาการเด็กราชนครินทร์ กรมสุขภาพจิต ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ
(ด้านเวชกรรม สาขาเวชศาสตร์ป้องกัน แขนงสุขภาพจิตชุมชน) กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๒๕
กันยายน ๒๕๖๓ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ 
 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
