ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 13 จากทั้งหมด 176 หน้า แสดงรายการที่ 241 - 260 จากข้อมูลทั้งหมด 3515 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 241 | การลงนามร่างพิธีสารเพื่อแก้ไขข้อตกลงว่าด้วยการยอมรับร่วมรายสาขาของอาเซียนสำหรับการตรวจประเมินตามมาตรฐานวิธีการในการผลิตยา (Protocol to Amend the ASEAN Sectoral Mutual Recognition Arrangement for Good Manufacturing Practice (GMP) Inspection of Manufacturers of Medicinal Products) | สธ. | 27/12/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างพิธีสารเพื่อแก้ไขข้อตกลงว่าด้วยการยอมรับร่วมรายสาขาของอาเซียนสำหรับการตรวจประเมินตามมาตรฐานวิธีการในการผลิตยา
[Protocol to Amend the ASEAN Sectoral Mutual
Recognition Arrangement for Good Manufacturing Practice (GMP) Inspection of
Manufacturers of Medicinal Products] มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขข้อตกลงว่าด้วยการยอมรับร่วมรายสาขาของอาเซียนสำหรับการตรวจประเมินตามมาตรฐานวิธีการในการผลิตยา
โดยขยายขอบเขตของผลิตภัณฑ์ยาที่นำมาบังคับใช้ เช่น ผลิตภัณฑ์ยาชีววัตถุในรูปแบบยาสำเร็จรูปแต่ไม่รวมผลิตภัณฑ์ที่ได้จากเลือด
หรือจากพลาสมา และผลิตภัณฑ์บำบัดด้วยยีน
และสารออกฤทธิ์ทางเภสัชกรรมที่ใช้ในการผลิตยาและยาชีววัตถุ
แก้ไขเพิ่มเติมหน้าที่ของคณะกรรมการร่วมว่าด้วยความร่วมมือรายสาขา
และกำหนดให้ประเทศสมาชิกอาเซียนจะต้องนำข้อกำหนดไปดำเนินการภายใน๕
ปีหลังจากพิธีสารฯ
มีผลใช้บังคับโดยประเทศสมาชิกอาเซียนอาจขยายระยะเวลาในการดำเนินการออกไปได้ไม่เกิน
๒ ปี ซึ่งร่างพิธีสารฯ
จะเป็นการลดอุปสรรคทางเทคนิคต่อการค้าระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน
และเพิ่มโอกาสของการสงสินค้าจากไทยไปจำหน่ายในประเทศสมาชิกอาเซียนโดยไม่ต้องตรวจประเมินซ้ำ
เป็นการลดค่าใช้จ่ายในการส่งออกสำหรับผู้ผลิตในไทยได้อีกทางหนึ่ง ซึ่งจะไม่ส่งผลกระทบในเชิงลบทางด้านธุรกิจ
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
ก่อนเสนอรัฐสภาให้ความเห็นชอบตามมาตรา ๑๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยต่อไป
ทั้งนี้ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ (เรื่อง
แนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการเสนอหนังสือสัญญาตามบทบัญญัติมาตรา ๑๗๘
ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย) ๒.
อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ลงนามในร่างพิธีสารเพื่อแก้ไขข้อตกลงว่าด้วยการยอมรับร่วมรายสาขาของอาเซียนสำหรับการตรวจประเมินตามมาตรฐานวิธีการในการผลิตยา
เมื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบร่างพิธีสารฯ แล้ว ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขถ้อยคำที่มิใช่สาระสำคัญในร่างพิธีสารฯ
ที่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย ๓.
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ลงนามในร่างพิธีสารเพื่อแก้ไขข้อตกลงว่าด้วยการยอมรับร่วมรายสาขาของอาเซียนสำหรับการตรวจประเมินตามมาตรฐานวิธีการในการผลิตยา
เมื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบร่างพิธีสารฯ แล้ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 242 | การรับรองกรอบการกำกับดูแลด้านยาของอาเซียน (ASEAN Pharmaceutical Regulatory Framework: APRF) | สธ. | 27/12/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบกรอบการกำกับดูแลด้านยาของอาเซียน
(ASEAN Pharmaceutical Regulatory Framework :
APRF) และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมาย
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขหรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมาย
ร่วมให้การรับรองกรอบการกำกับดูแลด้านยาของอาเซียนแบบไม่มีการลงนาม โดยกรอบการกำกับดูแลด้านยาของอาเซียน
มีสาระสำคัญเป็นการระบุหลักการ วัตถุประสงค์
และแนวทางดำเนินการกำกับดูแลผลิตภัณฑ์ยา ตลอดจนวงจรชีวิตที่จะนำไปเป็นพื้นฐานของการจัดทำความตกลงของอาเซียนว่าด้วยกรอบการกำกับดูแลด้านยาที่จะมีผลผูกพันทางกฎหมายต่อไป
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และหากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนกรอบการกำกับดูแลด้านยาของอาเซียนในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว
ทั้งนี้
ให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่เห็นว่า
กรอบการกำกับดูแลด้านยาของอาเซียน ไม่เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา ๑๗๘
ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 243 | ขอความเห็นชอบการปรับขยายเพดานอัตราเงินเดือนขั้นสูงขององค์การเภสัชกรรม | สธ. | 27/12/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
เห็นชอบการขยายเพดานอัตราค่าจ้างขั้นสูงของพนักงานองค์การเภสัชกรรม
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑.๑ ระดับ ๙ จากอัตรา ๙๕,๘๑๐ บาท เป็นอัตรา ๑๑๘,๐๒๐ บาท ๑.๒ ระดับ ๑๐ จากอัตรา ๑๐๔,๓๑๐ บาท เป็นอัตรา
๑๒๗,๐๒๐ บาท ๑.๓ ระดับ ๑๑ จากอัตรา ๑๑๓,๕๒๐ บาท เป็นอัตรา
๑๓๘,๒๗๐ บาท ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุข
(องค์การเภสัชกรรม) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงบประมาณที่เห็นควรคำนึงถึงประเด็นความคุ้มค่า
ต้นทุน และผลประโยชน์ เสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจและสังคม
ตลอดจนความยั่งยืนทางการคลังของรัฐประกอบด้วย
และควรพิจารณาค่าใช้จ่ายบุคลากรให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุลและการพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ
โดยคำนึงถึงสถานะทางการเงินและผลการดำเนินงานของหน่วยงานอย่างรอบคอบ
จัดทำแผนเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานหรือการเพิ่มรายได้
รวมทั้งแผนบริหารความเสี่ยงเพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นและประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ
เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภาระงบประมาณและเงินนำส่งรายได้แผ่นดิน
รวมถึงฐานะทางการเงินในอนาคต
โดยคำนึงถึงหลักความคุ้มค่าและประหยัดในการใช้จ่ายงบประมาณอย่างเคร่งครัด
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 244 | โครงการของขวัญปีใหม่ ประจำปี พ.ศ. 2566 กระทรวงสาธารณสุข | สธ. | 20/12/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบโครงการของขวัญปีใหม่
พ.ศ. ๒๕๖๖ เพื่อมอบเป็นของขวัญให้แก่ประชาชน ของกระทรวงสาธารณสุข ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
ดังนี้ ๑.
โครงการออกแบบคัดกรองและประเมินสุขภาพผู้สูงอายุทั้งร่างกายและจิตใจ ๒.
โครงการคัดกรองผู้สูงอายุโดย อสม. ๓.
โครงการพัฒนาระบบบริการสุขภาพผู้สูงอายุในสถานบริการสุขภาพ
แต่ละระดับเพื่อผู้สูงอายุได้รับการดูแลรักษาส่งต่ออย่างความเหมาะสม ๔.
โครงการสนับสนุนการตรวจคัดกรองสายตาและปัญหาด้านการมองเห็นสำหรับผู้สูงอายุ ๕.
โครงการสนับสนุนผ้าอ้อมผู้ใหญ่สำหรับผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงหรือบุคคลมีภาวะปัญหากลั้นปัสสาวะอุจาระไม่อยู่ให้ได้รับสิทธิประโยชน์อย่างทั่วถึง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 245 | ขอความเห็นชอบแผนการดำเนินงาน กรอบงบประมาณ การจัดงาน Expo 2025 Osaka Kansai ณ นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น | สธ. | 20/12/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแผนการดำเนินงานเข้าร่วมการจัดงาน
Expo 2025 Osaka Kansai ณ นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น
และกรอบงบประมาณจำนวนเงินทั้งสิ้น ๙๗๓,๔๘๒,๐๑๑ บาท ระยะเวลาปีงบประมาณ ๒๕๖๖-๒๕๖๙ เพื่อใช้จัดงานนิทรรศการ Expo
2025 Osaka Kansai ณ นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น
และมอบหมายสำนักงบประมาณพิจารณาแหล่งเงินที่เหมาะสมในการดำเนินงาน โดยให้อธิบดีกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ
โดยตำแหน่งเป็น Commissioner General of Section (CG)
ของประเทศไทย เป็นผู้ลงนามในสัญญาต่าง ๆ สำหรับการเข้าร่วมงาน Expo
2025 Osaka Kansai ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ทั้งนี้
ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการจัดงาน Expo 2025 Osaka Kansai ให้กระทรวงสาธารณสุข
(กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ) ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุม และกำกับดูแลการดำเนินโครงการให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
สำหรับการจัดสรรงบประมาณและแหล่งเงินในการดำเนินงานให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
การสนับสนุนบริการสุขภาพต้องดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ระเบียบ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ก่อนลงนามในสัญญาใด ๆ อย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 246 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล (1. ศาสตราจารย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา ฯลฯ จำนวน 8 คน) | สธ. | 29/11/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันรับรองคุณภาพสถานพยาบาล
จำนวน ๘ คน เนื่องจากประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๕)
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑. ศาสตราจารย์ประสิทธิ์
วัฒนาภา ประธานกรรมการ ๒. ศาสตราจารย์จิรประภา
อัครบวร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๓. รองศาสตราจารย์จิรุตม์
ศรีรัตนบัลล์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๔. รองศาสตราจารย์อภิชาต จิระวุฒิพงศ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๕. นางกฤษดา แสวงดี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๖. นายก้องเกียรติ เกษเพ็ชร กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ๗. นายธีรพล โตพันธานนท์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 247 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขในการฟื้นฟูสภาพทางสังคม พ.ศ. .... | สธ. | 29/11/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขในการฟื้นฟูสภาพทางสังคม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขในการฟื้นฟูสภาพทางสังคม
เพื่อให้การสนับสนุนช่วยเหลือและสงเคราะห์ผู้ติดยาเสพติดหรือผู้เข้ารับการบำบัด
รวมทั้งการติดตาม ดูแล
เพื่อให้ผู้เข้ารับการบำบัดรักษาได้รับการฟื้นฟูสภาพทางสังคม
โดยได้รับบริการด้านสวัสดิการสังคม การสังคมสงเคราะห์ที่จำเป็นและเหมาะสม
รวมทั้งช่วยเหลือสนับสนุนให้มีที่อยู่อาศัยเป็นการชั่วคราว
เพื่อบุคคลดังกล่าวสามารถดำรงชีวิตอยู่ในสังคมได้
โดยไม่กลับมากระทำความผิดเกี่ยวกับยาเสพติดอีก ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงแรงงานและกระทรวงศึกษาธิการ ที่เห็นควรปรับปรุงถ้อยคำ
เป็น “ผู้ติดยาเสพติดที่ผ่านการฟื้นฟูสภาพทางสังคมหรือผ่านการบำบัดรักษา”
เพื่อแสดงให้เห็นว่ามีกระบวนการรับรองได้ว่าบุคคลดังกล่าวสามารถกลับเข้าสู่สังคมการทำงาน
โดยไม่มีพฤติกรรมหรือโรคทางจิตและประสาทหรืออาการที่เกิดจากฤทธิ์ของยาเสพติดที่อาจก่อให้เกิดอันตรายแก่ผู้อื่นหรือสังคม
และขอให้แก้ไขชื่อส่วนราชการจากกรรมการกากรศึกษานอกโรงเรียนเป็นสำนนักงานส่งเสริมการศึกษานอกระบบและการตามอัธยาศัย
และจากสำนักงานการอาชีวศึกษาเป็นสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาตามร่างข้อ ๓
(๕)(ข)(ค) ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 248 | ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข ประเทศไทย และกระทรวงสาธารณสุขและการดูแลทางสังคม แห่งสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์เเลนด์เหนือ ว่าด้วยความร่วมมือด้านจีโนมิกส์ | สธ. | 29/11/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข
ประเทศไทย และกระทรวงสาธารณสุขและการดูแลทางสังคม
แห่งสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์เเลนด์เหนือ ว่าด้วยความร่วมมือด้านจีโนมิกส์ และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขในฐานะประธานกรรมการสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข
หรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย เป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจดังกล่าว
โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีสาระสำคัญเป็นการส่งเสริมความร่วมมือทางจีโนมิกส์ระหว่างฝ่ายไทยกับฝ่ายสหราชอาณาจักร อาทิ
การแลกเปลี่ยนข้อมูล การแลกเปลี่ยนบุคลากรผู้เชี่ยวชาญ การจัดฝึกอบรม สัมมนา
และการดำเนินโครงการ รวมทั้งการตั้งคณะทำงานร่วมว่าด้วยความร่วมมือทางจีโนมิกส์
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และให้กระทรวงสาธารณสุขรับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงการต่างประเทศ
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุข
ประเทศไทย และกระทรวงสาธารณสุขและการดูแลทางสังคม แห่งสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์เเลนด์เหนือ
ว่าด้วยความร่วมมือด้านจีโนมิกส์
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ) ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 249 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายสุรโชค ต่างวิวัฒน์ และนายภูวเดช สุระโคตร) | สธ. | 29/11/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน
๒ ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑. นายสุรโชค ต่างวิวัฒน์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 250 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาวมิรา โครานา และนายธนิศ เสริมแก้ว) | สธ. | 22/11/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ
จำนวน
๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑. นางสาวมินา โครานา ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม
สาขากุมารเวชกรรม) สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
ตั้งแต่วันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๖๕ ๒. นายธนิศ เสริมแก้ว ดำรงตำแหน่งสาธารณสุขนิเทศก์ (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ)
สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๖๕
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 251 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาวมิรา โครานา และนายธนิศ เสริมแก้ว) | สธ. | 22/11/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ
จำนวน
๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑. นางสาวมินา โครานา ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรม
สาขากุมารเวชกรรม) สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข
ตั้งแต่วันที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๖๕ ๒. นายธนิศ เสริมแก้ว ดำรงตำแหน่งสาธารณสุขนิเทศก์ (นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ)
สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๖๕
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 252 | ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรีในการกำหนดค่าธรรมเนียมในการตรวจลงตราเพื่อการรักษาพยาบาลระยะเวลา 1 ปี (Medical Treatment Visa) รหัส Non-MT | สธ. | 15/11/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการทบทวนมติคณะรัฐมนตรีในการกำหนดค่าธรรมเนียมในการตรวจลงตราเพื่อการรักษาพยาบาล
ระยะเวลา ๑ ปี (Medical Treatment Visa) รหัส Non-MT ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ข้อ ๘.๘
ค่าธรรมเนียมการเข้าออกหลายครั้ง (Multiple Entry) รายละ ๖,๐๐๐ บาท เป็นรายละ ๕,๐๐๐ บาท
เพื่อให้เป็นไปตามกฎกระทรวง (พ.ศ. ๒๕๒๓) ออกตามความในพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง
พ.ศ. ๒๕๒๒ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติม โดยกฎกระทรวง ฉบับที่ ๒๗ (พ.ศ. ๒๕๔๖)
ออกตามความในพระราชบัญญัติคนเข้าเมือง พ.ศ. ๒๕๒๒
พร้อมทั้งมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยและกระทรวงสาธารณสุขดำเนินการตามแนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้องและประชาสัมพันธ์ให้ชาวต่างชาติทราบอย่างทั่วถึงต่อไป
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 253 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางศิริมา ลีละวงศ์) | สธ. | 08/11/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางศิริมา ลีละวงศ์
ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้อำนวยการกอง [ผู้อำนวยการเฉพาะด้าน (วิชาการพยาบาล) ระดับสูง] กองการพยาบาล สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพทรงคุณวุฒิ
(ด้านการพยาบาล) กลุ่มที่ปรึกษาระดับกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข
ตั้งแต่วันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๖๕ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 254 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สธ. | 01/11/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรม
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาตสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพทันตกรรม
ตามที่กระทรวงสาธารสุขเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 255 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายณรงค์ อภิกุลวณิช) | สธ. | 25/10/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายณรงค์ อภิกุลวณิช
ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
ให้ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข
ซึ่งเป็นตำแหน่งที่กำหนดขึ้นใหม่ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ ๑๘ ตุลาคม ๒๕๖๕
(เรื่อง การกำหนดตำแหน่งรองปลัดกระทรวงสาธารณสุขเพิ่มขึ้น จำนวน ๑ ตำแหน่ง)
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 256 | การแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม แทนกรรมการอื่นเดิมที่พ้นจากตำแหน่งและแต่งตั้งเพิ่มเติม (1. นายปิยกร อภิบาลศรี ฯลฯ จำนวน 4 ราย) | สธ. | 25/10/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การเภสัชกรรม จำนวน ๔ คน แทนกรรมการอื่นเดิมที่พ้นจากตำแหน่งและแต่งตั้งเพิ่มเติม
ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๕ ตุลาคม ๒๕๖๕) เป็นต้นไป
โดยผู้ที่ได้รับแต่งตั้งแทนลำดับที่ ๑-๓
อยู่ในตำแหน่งได้เพียงเท่ากำหนดเวลาของผู้ซึ่งตนแทน ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
ดังนี้ ๑. นายปิยกร อภิบาลศรี (ผู้แทนกระทรวงการคลัง) ๒. นายวินัย วนานุกูล ๓. นางสาวจรสพร เฉลิมเตียรณ ๔. นางพรอนงค์ บุษราตระกูล
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 257 | ร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการแห่งสาธารณรัฐเกาหลีว่าด้วย ความร่วมมือด้านสาธารณสุข | สธ. | 25/10/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างกระทรวงสาธารณสุขแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงสาธารณสุขและสวัสดิการแห่งสาธารณรัฐเกาหลีว่าด้วยความร่วมมือด้านสาธารณสุข
และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขหรือผู้ที่ได้รับมอบหมาย
เป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ
มีสาระสำคัญในการส่งเสริมความร่วมมือด้านสาธารณสุขในประเด็นความมั่นคงทางสุขภาพ
การเสริมสร้างระบบสุขภาพ รวมถึงหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า การดูแลสุขภาพด้วยดิจิทัล
และการส่งเสริมสุขภาพ ผ่านการแลกเปลี่ยนผู้เชี่ยวชาญ ผู้แทน และข้อมูล การประชุม
การประชุมทางวิทยาศาสตร์ และการประชุมเชิงปฏิบัติการ/การสัมมนา
และการสนับสนุนการวิจัยและโครงการ ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 258 | การประเมินการปฏิบัติตามกฎอนามัยระหว่างประเทศโดยผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลกของประเทศไทย ครั้งที่สอง ระหว่างวันที่ 31 ตุลาคม-4 พฤศจิกายน 2565 | สธ. | 25/10/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการประเมินการปฏิบัติตามกฎอนามัยระหว่างประเทศโดยผู้เชี่ยวชาญขององค์การอนามัยโลกของประเทศไทย
ครั้งที่สอง ระหว่างวันที่ ๓๑ ตุลาคม-๔ พฤศจิกายน ๒๕๖๕
มีสาระสำคัญที่ครอบคลุมที่อยู่ในอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบของกรมต่าง ๆ
เป็นจำนวนมาก ในการปฏิบัติงาน และการรายงานประจำปีตามมาตรา ๕๔ (๑)
ของกฎอนามัยระหว่างประเทศฯ รวมทั้งการขอรับการประเมินจากองค์การอนามัยโลกในทุก ๕
ปี โดยการประเมินครั้งที่ ๒ นี้ ประเทศไทยจะได้รับการประเมิน โดยใช้คู่มือการประเมินขององค์การอนามัยโลกฉบับปรับปรุงใหม่
ครั้งที่สาม ประกอบด้วยตัวชี้วัดต่าง ๆ ตามประเด็นทางเทคนิค ๑๙ ด้าน ซึ่งจัดเป็น ๔
กลุ่ม ประกอบด้วย กลุ่มป้องกัน (P) ๘
ด้าน กลุ่มตรวจจับ (D) กลุ่มตอบโต้ (R) ๕ ด้าน และกลุ่มเฉพาะภาวะอันตราย ๓ ด้าน โดยข้อเสนอแนะจากการประเมินจะเป็นแนวทางในการพัฒนาสมรรถนะตามข้อกำหนดของกฎอนามัยระหว่างประเทศของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในด้านต่าง
ๆ ให้มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลยิ่ง ๆ ขึ้นไป ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 259 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายดนัย เจียรกูล และนายมนู ศุกลสกุล) | สธ. | 18/10/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ
จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้ ๑. นายดนัย
เจียรกูล ผู้อำนวยการสำนักงาน [ผู้อำนวยการเฉพาะด้าน (แพทย์) ระดับสูง] สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ ๑๐ จังหวัดอุบลราชธานี กรมควบคุมโรค
ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน) กรมควบคุมโรค ตั้งแต่วันที่
๒๘ เมษายน ๒๕๖๕ ๒. นายมนู
ศุกลสกุล สาธารณสุขนิเทศก์
(นายแพทย์เชี่ยวชาญ) สำนักงานปลัดกระทรวง ดำรงตำแหน่งสาธารณสุขนิเทศก์
(นายแพทย์ทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง ตั้งแต่วันที่ ๖ มิถุนายน ๒๕๖๕
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 260 | ขออนุมัติก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณเพื่อเช่ารถยนต์มาใช้ในราชการ | สธ. | 11/10/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงสาธารณสุข
โดยสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ ตามนัยมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๑ เพื่อเป็นค่าเช่ารถระจำตำแหน่งระดับปลัดกระทรวงหรือเทียบเท่าขนาดปริมาตรกระบอกสูบไม่เกิน
๒,๐๐๐-๒,๔๐๐ ซีซี จำนวน ๑ คัน อัตราค่าเช่า ๕๓,๖๔๐ บาทต่อคันต่อเดือน ระยะเวลา ๖๐ เดือน (ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน ๒๕๖๕
ถึงเดือนตุลาคม ๒๕๗๐) ภายในวงเงิน ๓,๒๑๘,๔๐๐ บาท สำหรับค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ จำนวน ๕๙๐,๐๔๐ บาท ให้กระทรวงสาธารณสุข
โดยสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖ ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒
ส่วนที่เหลือ จำนวน ๒๖๒๘,๓๖๐ บาท ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๗-พ.ศ. ๒๕๗๑ ให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีให้สอดคล้องกับวงเงินในสัญญาตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
