คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการปรับปรุงองค์ประกอบคณะกรรมการพิจารณามาตรการทางกฎหมายเพื่อ 
การแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจของชาติ  ตามมติคณะกรรมการพิจารณามาตรการทางกฎหมาย  ฯ  ครั้งที่  1/2542
(ครั้งที่ 12) วันที่ 26 กุมภาพันธ์ 2542 โดยให้  นายธีรวัฒน์ ไตรวารี  นายชาญณรงค์ ปราณีจิตต์  และนายสัญชัย 
ผลฉาย  พ้นจากการเป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ  กับเพิ่มนายบัณฑิต รชตะนันทน์  เป็นกรรมการ   และเพิ่ม 
นายธรรมนูญ พิทยาภรณ์  นายสราวุธ เบญจกุล  นายพรชัย อัศววัฒนาพร  และนายมนตรี ศิลป์มหาบัณฑิต  เป็น  
กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ   รวมทั้งแก้ไขชื่อกรรมการจาก  "อธิบดีกรมตำรวจ หรือผู้แทน"  เป็น  "ผู้บัญชาการ 
ตำรวจแห่งชาติ หรือผู้แทน" ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการก่อหนี้ผูกพันงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2542 - 2544 
ในรายการค่าจ้างที่ปรึกษาควบคุมงานก่อสร้างอาคารชุดพักอาศัยข้าราชการตุลาการในกรุงเทพมหานคร ที่จังหวัด 
นนทบุรี  จำนวน  6,257,905  บาท  โดยให้เบิกจ่ายจากงบประมาณ  พ.ศ. 2542  จำนวน  782,300  บาท  ปีงบ  
ประมาณ พ.ศ. 2543 ให้กระทรวงยุติธรรมพิจารณาเจียดจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2543  จำนวน 
3,129,000 บาท ส่วนที่ขาดอยู่อีกจนวน 2,346,605 บาท ให้เสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี พ.ศ. 2544 
ต่อไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมรายงานผลการดำเนินงานตามการตรวจติดตามงาน 
/โครงการของผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี งวดที่ 1 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2542 (เกี่ยวกับการกำหนด 
หลักเกณฑ์การขอออกหมายค้นเพื่อให้เกิดความรวดเร็วสามารถขอหมายค้นได้ตลอด  24  ชั่วโมง  การปรับปรุงขั้น 
ตอนการดำเนินคดีเพื่อให้เกิดความคล่องตัวและรวดเร็วสามารถนำตัวผู้กระทำผิดมาลงโทษได้ทันเหตุการณ์ รวมทั้ง 
ศึกษาความเป็นไปได้ในการแยกการดำเนินคดียาเสพติดออกจากคดีอาชญากรรม)

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ  เกี่ยวกับการรายงาน
ความคืบหน้าการฟื้นฟูกิจการในคดีล้มละลาย ภายหลังจากที่พระราชบัญญัติล้มละลาย (ฉบับที่ 5)  พ.ศ.  2542  
มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่  22  เมษายน  2542   ในส่วนของการร้องขอฟื้นฟูกิจการในคดีล้มละลายเพื่อปรับโครงสร้าง  
หนี้และทุนของกิจการ การวิเคราะห์คุณสมบัติของบุคคลที่ศาลแต่งตั้งให้เป็นผู้ทำแผนและผู้บริหารแผนการปรับโครง   
สร้างหนี้   และการยกร่างกฎกระทรวงเพื่อกำหนดคุณสมบัติของผู้ทำแผนและผู้บริหารแผน  ตามที่กระทรวงยุติธรรม  
รายงาน และตามที่ผู้อำนวยการสำนักฟื้นฟูกิจการของลูกหนี้ กรมบังคับคดี (นายวิศิษฐ์ วิศิษฐ์สรอรรถ) และอธิบดีผู้   
พิพากษาศาลล้มละลาย (นายสุนทร สิทธิเวชวิจิตร)  ชี้แจง  (เกี่ยวกับภายหลังที่พระราชบัญญัติดังกล่าวใช้บังคับ 
ในระยะประมาณ 3 เดือน มีการร้องขอฟื้นฟูกิจการมีอัตราสูงขึ้นโดยมีการร้องขอฟื้นฟูกิจการ 11 คดี จำนวนทุนทรัพย์  
ประมาณ 44,000 ล้านบาท ศาลอนุญาตให้ฟื้นฟูกิจการ 7 คดี  อยู่ระหว่างการพิจารณา  4  คดี  ส่วนการฟ้องคดีต่อ 
ศาลล้มละลายกลางมีอัตราลดลง  มีคดีล้มละลายเกิดขึ้นเพียง 219 คดี  เนื่องจากกฎหมายดังกล่าวกำหนดทุนทรัพย์
สูงขึ้น และคู่ความประนีประนอมกันเองได้มากขึ้น

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติให้ใช้พระธรรมนูญศาลยุติธรรม พ.ศ. .... และร่าง 
พระธรรมนูญศาลยุติธรรม ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว ทั้ง  2  ฉบับ  ตามที่ 
กระทรวงยุติธรรมเสนอ  โดยให้แก้ไขเพิ่มเติมตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ  แล้วส่งให้คณะ
กรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป      

               คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติเปลี่ยนแปลงเขตอำนาจศาลจังหวัดปากพนัง พ.ศ. .... 
(การเปลี่ยนแปลงเขตอำนาจศาลจังหวัดปากพนัง    โดยให้ศาลจังหวัดปากพนังมีเขตอำนาจตลอดท้องที่อำเภอปากพนัง  
อำเภอเฉลิมพระเกียรติ อำเภอเชียรใหญ่ และอำเภอหัวไทร จังหวัดนครศรีธรรมราช) ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
 แล้วส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วเสนอคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
พิจารณา  ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป  และร่างพระราชกฤษฎีกาให้ใช้บทบัญญัติมาตรา 3 แห่งพระราช
บัญญัติให้นำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัด  พ.ศ.  2520  บังคับสำหรับคดีที่เกิดขึ้นใน
บางท้องที่  (ฉบับที่  ..)  พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกา (ฉบับที่ 7) พ.ศ. 2532 และพระราชกฤษฎีกา
 (ฉบับที่ 12) พ.ศ. 2540  เพื่อนำวิธีพิจารณาความอาญาในศาลแขวงมาใช้บังคับในศาลจังหวัดสำหรับคดีอาญาที่อยู่
ในอำนาจศาลแขวงซึ่งเกิดขึ้นในท้องที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ  และกิ่งอำเภอช้างกลาง  อำเภอฉวาง  จังหวัดนครศรีธรรมราช) 
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอแล้วส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ 

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการปฏิบัติงานตามแผนปฏิบัติการของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและ 
สังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 ระยะที่ 1 ปีงบประมาณ 2542 (ตุลาคม 2541 - มีนาคม 2542) ประกอบด้วย โครงการ  
ต่าง ๆ  จำนวน  118  โครงการ  ภายใต้ยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศ  ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ     และให้
กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ  (เกี่ยวกับการ 
เร่งรัดหรือให้ความสำคัญลำดับสูงในการดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ ในระยะต่อไป  คือ  การเร่งรัดและสนับสนุนให้  
หน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นใหม่เพื่อฟื้นฟูภาวะเศรษฐกิจและให้ความมั่นใจแก่ต่างชาติในการลงทุน   การปรับปรุง/ขยาย  
ข่ายงานคุมประพฤติให้ครอบคลุมฟื้นที่และกลุ่มเป้าหมายต่าง ๆ    การจัดตั้งศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพผู้ติดยาเสพติด
และการพัฒนาระบบข้อมูลของกระบวนการยุติธรรม) ไปพิจารณาดำเนินการ

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถิติเกี่ยวกับความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปราม 
การค้าประเวณี พ.ศ. 2539 ระหว่างเดือนมกราคม - เมษายน 2542 เกี่ยวกับจำนวนผู้กระทำผิด อายุของผู้ต้อง
โทษ อาชีพและภูมิลำเนาของผู้ต้องโทษ และคำพิพากษาของศาล ตามที่กระทรวงยุติธรรมรายงาน

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการให้กำหนดกรอบอัตรากำลังข้าราชการตุลาการเพิ่มใหม่ สำหรับ 
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2542  จำนวน  280  อัตรา  ตามความเห็นของคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบาย 
กำลังคนภาครัฐ (คปร.) ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้กระทรวงยุติธรรมประสานในรายละเอียดกับ คปร.  
เพื่อดำเนินการต่อไป  ทั้งนี้  ให้ยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2541  เรื่อง  มาตร  
การควบคุมค่าใช้จ่ายด้านบุคคลภาครัฐ และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 29 ธันวาคม 2541 เรื่อง มาตรการควบคุม
ค่าใช้จ่ายด้านบุคคลภาครัฐ : การขยายเวลาให้มีผลใช้บังคับต่อเนื่อง เป็นกรณีพิเศษ

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงยุติธรรมรายงานผลการเดินทางไปราชการตามคำเชิญ  เพื่อ  
ศึกษาดูงานสำนักงานศาลยุติธรรมและศาลล้มละลายแห่งประเทศสหรัฐอเมริกา  ระหว่างวันที่  21 - 28  เมษายน
2542 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการด้านการบริหารงานธุรการศาลยุติธรรมที่เป็นอิสระ 
จากฝ่ายบริหารเพื่เป็นข้อมูลในการแยกศาลยุติธรรมออกจากกระทรวงยุติธรรม และข้อมูลเกี่ยวกับการจัดการด้าน
ศาลล้มละลายในประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการจัดตั้งศาลล้มละลายกลางที่จะต้องจัดตั้งขึ้นตาม
พระราชบัญญัติจัดตั้งศาลล้มละลายและวิธีพิจารณาคดีล้มละลาย พ.ศ. 2542

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการใช้กระแสไฟฟ้าและน้ำประปา ตามมาตรการจูงใจในการ
ประหยัดในภาครัฐ ของส่วนราชการในสังกัดกระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่เดือนตุลาคม - เดือนธันวาคม 2541 
เปรียบเทียบกับเดือนสิงหาคม 2540 มีการใช้ไฟฟ้าลดลง ส่วนการใช้น้ำประปาเพิ่มขึ้น ตามที่สำนักเลขาธิ
การคณะรัฐมนตรีรายงาน

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการรายงานผลการดำเนินการตามนโยบายรัฐบาลของกระทรวงยุติธรรม  
ระยะที่ 1 (ตุลาคม 2541  -  มีนาคม 2542) ปีงบประมาณ พ.ศ. 2542 (ประกอบด้วย  ภาพรวมผลการดำเนิน  
งานที่สำคัญของกระทรวงยุติธรรม รวม  38  โครงการ/งาน  สนองนโยบายรัฐบาลด้านต่าง ๆ  ได้แก่  ส่วนที่ 1  
นโยบายการเมือง การปกครอง การบริหารราชการ ความมั่นคง  และการต่างประเทศ  ส่วนที่  2  นโยบายการ
พัฒนาเศรษฐกิจและสังคม และโครงการ/งานที่สำคัญ รวม 6 โครงการ) ตามที่กระทรวงยุติธรรมรายงาน

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบรายงานผลการทบทวนสถานภาพการเป็นสมาชิกองค์การ 
หรือสถาบันระหว่างประเทศ  ตามนัยมติคณะรัฐมนตรี  (9  กุมภาพันธ์  2542)  ของกระทรวงยุติธรรม  โดย  
กระทรวงยุติธรรมแจ้งว่า เป็นสมาชิกสถาบันระหว่างประเทศ 2 องค์กร  ได้แก่  สมาคมผู้ดำเนินงานล้มละลาย 
ระหว่างประเทศ [The International Association of Insolvency Regulators  (IAIR)] มีวัตถุประสงค์สำคัญ  คือ  
มุ่งพัฒนากฎหมายและแก้ไขปัญหาทางปฏิบัติที่เกิดขึ้นจากกระบวนการล้มละลาย    ทั้งที่เกิดในประเทศเดียว   
หรือกรณีที่มีลักษณะการล้มละลายข้ามชาติ (Cross - Border Insolvency)  และสหพันธ์สถาบันอนุญาโตตุลา 
การทางการค้าระหว่างประเทศ [Interantional Federation of Commercial  Arbitration  Institutions  (IFCA)] 
ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการปรับปรุงองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการพิจารณา 
โครงสร้างกระทรวงยุติธรรม   โดยให้ยกเลิกคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการดังกล่าว   และแต่งตั้งคณะกรรมการ
พิจารณาจัดระเบียบราชการกระทรวงยุติธรรมขึ้นใหม่ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบโครงการเปิดทำการศาลล้มละลายกลาง และอนุมัติหลักการร่างพระราช
กฤษฎีกากำหนดวันเปิดทำการศาลล้มละลายกลาง พ.ศ. .... (กำหนดวันเปิดทำการศาลล้มละลายกลาง)  และ 
ร่างกฎกระทรวง  (ฉบับที่ ..)  พ.ศ. ....  ออกตามความในพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการ  พ.ศ.
2541 (เทียบตำแหน่ง) ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ทั้ง 2 ฉบับ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา 
ตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้

              คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสถิติคดีเกี่ยวกับความผิดตามพระราชบัญญัติป้องกันและ 
ปราบปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2539  (ระหว่างเดือนกันยายน - ธันวาคม  2541)  ตามที่กระทรวง   
ยุติธรรมเสนอ (เกี่ยวกับจำนวนคดีและผู้กระทำผิด อายุของผู้ต้องโทษ  อาชีพของผู้ต้องโทษ  ภูมิลำเนา 
ของผู้ต้องโทษ คำพิพากษาของศาล และตารางเปรียบเทียบรายงานสถิติคดีทุก 4 เดือน)

               คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมเชิงวิชาการเกี่ยวกับร่างอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านองค์กร
อาชญากรรมข้ามชาติ ขององค์การสหประชาชาติ ระหว่างวันที่ 26 - 27 กุมภาพันธ์ 2542 ณ กรุงโรม  ประเทศ
อิตาลี  เกี่ยวกับการจัดเตรียมยกร่างอนุสัญญาว่าด้วยการต่อต้านองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติในการป้องกันและ 
แก้ไขปัญหาเกี่ยวกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งมีลักษณะซับซ้อนและเป็นองค์กรระดับประเทศ ทั้งมีลักษณะ
เกี่ยวเนื่องกับความผิดทางอาญาลักษณะอื่นอีกหลายประเภท ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ

              คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการฝ่ายตุลาการ พ.ศ. .... ที่สำนักงาน 
คณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว   โดยให้แก้ไขชื่อร่างพระราชบัญญัติ  จาก  "ร่างพระราชบัญญัติระเบียบ 
บริหารราชการฝ่ายตุลาการ พ.ศ. ...." เป็น "ร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการศาลยุติธรรม พ.ศ. ...." และ   
แก้ไขบทมาตรารักษาการในร่างมาตรา 46 จากเดิม "ให้นายกรัฐมนตรีรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้"  เป็น  "ให้
ประธานศาลฎีการักษาการตามพระราชบัญญัตินี้" และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาเป็นเรื่องด่วนให้ทันสมัย
ประชุมนี้
 

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งให้ข้าราชการธุรการสังกัดกระทรวงยุติธรรม ดำรงตำแหน่งต่าง ๆ 
จำนวน 2 ราย ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2542 เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ดังนี้
              1. นายบุญรอด ตันประเสริฐ ดำรงตำแหน่งเลขาธิการส่งเสริมงานตุลาการ (นักบริหาร 10)
              2. นายบัณฑิต รชตะนันท์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวงยุติธรรม (นักบริหาร 10)

              คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาเปลี่ยนแปลงเขตอำนาจศาลแขวงขอนแก่น พ.ศ. .... 
(เปลี่ยนแปลงเขตศาลแขวงขอนแก่น ให้มีเขตศาลครอบคลุมถึงอำเภอสีชมพู  เพื่ออำนวยความยุติธรรมให้เสมอภาค  
เท่าเทียมกัน และการปรับเปลี่ยนชื่อกิ่งอำเภอที่ได้รับการยกฐานะเป็นอำเภอในเขตอำนาจศาลแขวงขอนแก่นให้สอด  
คล้องกับการยกฐานะของเขตการปกครองท้องที่) ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการ 
กฤษฎีกาตรวจพิจารณา   โดยรับข้อสังเกตของสำนักงานอัยการสูงสุด (เกี่ยวกับการเพิ่มเติมหลักการในร่างพระราช  
กฤษฎีกาฉบับนี้  โดยให้บรรดาคดีของเขตอำเภอสีชมพูที่ค้างการพิจารณาอยู่ในศาลจังหวัดขอนแก่นในวันที่พระราช  
กฤษฎีกานี้ใช้บังคับให้คงพิจารณาพิพากษาในศาลจังหวัดขอนแก่น   และการแก้ไขให้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้มีผลใช้ 
บังคับเมื่อพ้นกำหนดสามสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป) ไปพิจารณา    แล้วดำเนินการต่อ 
ไปได้