ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 77 จากทั้งหมด 109 หน้า แสดงรายการที่ 1521 - 1540 จากข้อมูลทั้งหมด 2165 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1521 | ขอขยายเวลาดำเนินการตามมาตรการปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 | ทส | 02/09/2551 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอขอขยายเวลา
ดำเนินการตามมาตรการปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 และให้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณก่อนดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||
1522 | การรายงานผลการดำเนินงานตามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกองทัพบก ครั้งที่ 4/2551 | ทส | 26/08/2551 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบข้อมูลของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับผลการดำเนิน
งานตามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม และกองทัพบ ครั้งที่ 4/2551 สรุปตามประเด็นความร่วมมือ 7 ด้าน ดังนี้ 1. ด้านการลาดตระเวน กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุพืช (เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยศา ลา จังหวัดศรีสะเกษ) ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ร่วมปฏิบัติงานกับเจ้าหน้าที่ทหารพรานกองร้อยทหารพรานจู่ โจม 959 และเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดน ร้อย ฉก.ตชด. 224 และได้ประสานงานแจ้งกองทัพภาคที่ 2 ขอ รับการสนับสนุนกำลังพล เพื่อเข้าร่วมปฏิบัติการความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้พะ ยูง ในท้องที่จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ ยโสธร อำนาจเจริญ และมุกดาหาร เป็นต้น 2. ด้านการพัฒนาองค์ความรู้ ได้พัฒนาองค์ความรู้และฝึกอบรมบุคลากรร่วมกันโดยเฉพาะด้านการ ข่าว การใช้อาวุธ จิตวิทยามวลชน การพัฒนาเทคโนโลยี การควบคุมไฟป่า การฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ การสร้าง เครือข่ายกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ทุกฉบับ และด้านอื่น ๆ ที่จำเป็น โดยเปิดหลักสูตรเป็นการเฉพาะตามการ ร้องของแต่ละฝ่าย 3. ด้านการแต่งตั้งให้เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ ได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ของกองทัพบกในบางตำแหน่งเป็น พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งแต่งตั้งนายทหารชั้นประทวน ระดับ ผบ.หมู่ เป็นพนักงานเจ้า หน้าที่ 4. การสนับสนุนเครื่องมือและอุปกรณ์ ได้หารือร่วมกันในการกำหนดแนวทางในการขอรับการสนับ สนุนเครื่องมือและอุปกรณ์กับกองทัพภาคที่ 3 และรับการสนับสนุนด้านกำลังพร้อมสรรพาวุธในการป้องกันและ ปราบปราม ฯ ตลอดจนข้อมูลและเบาะแสจาก ฉก.ทัพพญาเสือ, จทบ.พบ., กอ.รมน.จว.พบ., กองร้อยฝึกรบพิเศษ ที่ 1 (ค่ายฝึกรบพิเศษแก่งกระจาน) และ แก.จงอางศึก เป็นต้น 5. ด้านการประชาสัมพันธ์ ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์เผยแพร่เพื่อสร้างจิตสำนึกและตระหนักถึง การอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ผ่านสื่อต่าง ๆ เป็นต้น 6. ด้านการสนับสนุนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้ปฏิบัติงานออกลาดตระเวนตามแผน ร่วมปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติป่ารอยต่อ 5 จังหวัด (ภาคตะวัน ออก) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ท้องที่อำเภอท่าตะเกียบ อำเภอสนามชัย เขต จังหวัดฉะเชิงเทรา 7. ด้านความร่วมมืออื่น ๆ อาทิ การสนับสนุนกล้าไม้แก่กองทัพบกเพื่อใช้ในการส่งเสริมการเพิ่มพื้น ที่ป่าไม้ในพื้นที่รับผิดชอบของกองทัพบกภาค 1-4 เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||
1523 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญระดับ 10 | ทส | 26/08/2551 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอแต่งตั้งข้าราชการพล
เรือนสามัญ สังกัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ให้ดำรงตำแหน่งระดับ 10 จำนวน 9 ราย ตั้งแต่ วันที่ 1 ตุลาคม 2551 เพื่อทดแทนผู้เกษียณอายุราชการ ดังนี้ 1. นางอรพินท์ วงศ์ชุมพิศ ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม 2. นางมณทิพย์ ศรีรัตนา ทาบูกานอน ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัด กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 3. นายปรีชา จันทร์ศิริตานนท์ ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมทรัพยากรธรณี 4. นายเกษมสันต์ จิณณวาโส ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัด กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 5. นายอภิชัย ชวเจริญพันธ์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัด กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 6. นางนิศากร โฆษิตรัตน์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัด กระทรวงทรัพยากรทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 7. นายอุภัย วายุพัฒน์ ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และ พันธุ์พืช 8. นายสำราญ รักชาติ ดำรงตำแหน่งอธิบดี กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง 9. นายวิเชียร จุ่งรุ่งเรือง ดำรงตำแหน่งเลขาธิการ สำนักงานนโยบายและแผน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
|
||||||||||||||||||||||||
1524 | รายงานสถานการณ์ธรณีพิบัติภัย ประจำวันที่ 25 สิงหาคม 2551 | ทส | 26/08/2551 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบข้อมูลสถานการณ์ธรณีพิบัติภัย ประจำวันที่ 25 สิงหาคม 2551 ของกระทรวง
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สรุปได้ดังนี้ สภาพอากาศ ช่วงระหว่างวันที่ 25-29 สิงหาคม 2551 ทั่วทุก ภาคของประเทศไทยจะมีฝนลดลง สำหรับพื้นที่ที่อยู่ในสภาวะเสี่ยงต่อการเกิดภัยดินถล่มในระยะนี้คือ อำเภอ จุน อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา อำเภอนาหมื่น อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน และอำเภอเมืองแพร่ อำเภอเด่น ชัย จังหวัดแพร่
|
||||||||||||||||||||||||
1525 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดบริเวณที่ดินป่าคลองหัวเขียวและป่าคลองเกาะสุย ป่าเกาะช้าง ป่าคลองหินกองและป่าคลองม่วงกลาง และเกาะใกล้เคียง ในท้องที่ตำบลปากน้ำ ตำบลหงาว ตำบลเกาะพยาม และตำบลราชกรูด อำเภอเมืองระยอง จังหวัดระยอง ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ.... (อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะพยาม) | ทส | 26/08/2551 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอร่างพระราชกฤษฎีกา
กำหนดบริเวณที่ดินป่าคลองหัวเขียว และป่าคลองเกาะสุย ป่าเกาะช้าง ป่าคลองหินกอง และป่าคลองม่วงกลวง และ เกาะใกล้เคียง ในท้องที่ตำบลปากน้ำ ตำบลหงาว ตำบลเกาะพยาม และตำบลราชกรูด อำเภอเมืองระนอง จังหวัด ระนอง ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญคือ กำหนดบริเวณที่ดินป่าคลองหัวเขียว และป่าคลองเกาะสุย ป่าเกาะช้าง ป่าคลองหินกอง และป่าคลองม่วงกลวง และ เกาะใกล้เคียง ในท้องที่ตำบลปากน้ำ ตำบลหงาว ตำบลเกาะพยาม และตำบลราชกรูด อำเภอเมืองระนอง จังหวัด ระนอง ให้เป็นอุทยานแห่งชาติ (อุทยานแห่งชาติหมู่เกาะพยาม) และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||
1526 | รายงานผลการปลูกฟื้นฟูป่าของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 6/2551 | ทส | 26/08/2551 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบข้อมูลผลความก้าวหน้าการปลูกฟื้นฟูป่า ของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ
สิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 6/2551 ซึ่งมีผลการดำเนินงานสะสมถึงวันที่ 16 สิงหาคม 2551 สรุปได้ดังนี้ การปลูกและ ฟื้นฟูป่า จำนวนทั้งสิ้น 162,708.44 ไร่ การปลูกป่าตามโครงการ "ทส.สัญจร ปลูกป่า พลิกฟื้นผืนป่า ด้วยพระ บารมี" ใน 7 พื้นที่ 6 จังหวัด รวมทั้งสิ้น 133.5 ไร่/94,758 ต้น การส่งเสริมการปลูกป่า (แจกกล้าไม้) รวมทั้ง สิ้น 144.466 ล้านกล้า/459,926 ไร่ ในส่วนของการปลูกป่าร่วมกับภาคเอกชนและหน่วยงานอื่น ในปัจจุบันมี จำนวน 17 หน่วยงาน ที่ได้ร่วมปลูกป่า และร่วมลงนามข้อตกลงความร่วมมือโครงการปลูกฟื้นฟูป่ากับกระทรวง ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีพื้นที่ทั้งสิ้น 206,200.5 ไร่/41,286,459 ต้น
|
||||||||||||||||||||||||
1527 | ขออนุมัติดำเนินการโครงการผันน้ำ น้ำงึม - ห้วยหลวง - หนองหาน กุมภวาปี - ลำปาว - แม่น้ำชี | ทส | 26/08/2551 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติดังนี้
1. อนุมัติในหลักการตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอดังนี้ 1.1 ให้เริ่มดำเนินการโครงการผันน้ำ น้ำงึม-ห้วยหลวง-หนองหานกุมภวาปี-ลำปาว-แม่น้ำชี และแผนการดำเนินการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2552-พ.ศ. 2556 1.2 อนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณของโครงการผันน้ำ น้ำงึม-ห้วยหลวง-หนองหานกุมภวาปี- ลำปาว-แม่น้ำชี ทั้งสิ้น 76,760 ล้านบาท และให้กระทวงการคลังพิจารณาแหล่งเงินสำหรับโครงการตั้งแต่ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2552-พ.ศ. 2556 หรือจนกว่าจะเสร็จสิ้นโครงการ 2. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งได้แก่ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพลังงาน กระทรวงมหาดไทย กระทรวง วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สำนักงบประมาณ และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ ที่เห็นว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยและลาวควรหารือให้ได้ข้อสรุปเบื้องต้นเกี่ยวกับแนวทางการ ดำเนินโครงการร่วมกันก่อน อีกทั้งโครงการยังไม่ได้จัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม และ ประชาพิจารณ์เพื่อรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียก่อนดำเนินโครงการ รวมทั้งการศึกษาความคุ้ม ค่าในการลงทุนจำเป็นต้องดำเนินการทั้งในภาพรวมโครงการและแยกเฉพาะโครงการระยะที่ 1 และระยะที่ 2 เนื่องจากโครงการระยะที่ 2 เป็นการใช้น้ำจากสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวที่ต้องอาศัยความร่วม มือและมีเงื่อนไขภายใต้ข้อตกลงร่วมของกรรมาธิการแม่น้ำโข ง ซึ่งหากเกิดความล่าช้าหรือดำเนินการไม่ได้ก็ สามารถตัดสินใจดำเนินโครงการระยะที่ 1 ได้อย่างรอบคอบ รวมถึงควรมีการศึกษาในรายละเอียดเพิ่มเติม เปรียบเทียบกับการผันน้ำจากแนวทางอื่นเพื่อเลือกแนวที่ให้ประโยชน์สูงสุด ไปพิจารณา และดำเนินการให้ ถูกต้องตามขั้นตอนของระเบียบ หลักเกณฑ์ และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป |
||||||||||||||||||||||||
1528 | โครงการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเลโดยการมีส่วนร่วมของประชาชน | ทส | 26/08/2551 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้
1. รับทราบสถานการณ์การกัดเซาะฝั่งทะเลของประเทศมีแนวโน้มจะรุนแรงขึ้นทั้งจากการกระทำของต่อบริเวณใกล้เคียง ประกอบถานการณ์การเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลกที่มีผลต่อการเปลี่ยนแปลงของคลื่นลมทั้งขนาดและทิศทางที่โถมซัดเข้าสู่ฝั่ง ทิศทางของกระแสน้ำ และระดับน้ำทะเลในอนาคตที่อาจสูงขึ้นจากปรากฏการณ์ภาวะโลกร้อน 2. เห็นชอบโครงการป้องกันการกัดเซาะชายฝั่งทะเลโดยการมีส่วนร่วมของประชาชน 3. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมช่าติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นและข้อสังเกตของกระทรวงคมนาคม สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และกรุงเทพมหานคร เกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเลกายภาพของพ้นที่ชายฝั่งทะเล การใช้ประโยชน์ที่ดินลักษณะความรุนแรงของการกัดเซาะ ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ลดปัญหาความซ้ำซ้อนของแผนงานและความขัดแย้งของแนวทางปฏิบัติของหน่วยงานต่าง ๆ ควรมีผู้เชี่ยวชายเชิงสหสาขา (Interdisciplinary) มาร่วมกันดำเนินงาน รวมทั้งจัดเตรียมเครือข่ายภาคีการพัฒนาที่เหมาะสม เพื่อนำไปสู่การบริหารจัดการทรัพยากรชายฝั่งทะเลของประเทศอย่างยั่งยืนและมีประสิทธิภาพ ไปพิจารณาด้วย |
||||||||||||||||||||||||
1529 | รายงานสถานการณ์ธรณีพิบัติภัย ประจำวันที่ 11 สิงหาคม 2551 | ทส | 19/08/2551 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบข้อมูลสถานการณ์ธรณีพิบัติภัย ประจำวันที่ 11 สิงหาคม 2551 ของกระทรวง
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สรุปได้ดังนี้ สภาพอากาศ ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังคงมี ฝนตกหนักต่อเนื่อง โดยจะมีฝนตกหนักบางแห่งโดยเฉพาะบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงราย พะเยา เชียงใหม่ น่าน และตาก ส่วนพื้นที่ที่อยู่ในสภาวะเสี่ยงต่อการเกิดภัยดินถล่มในระยะนี้ คือ อำเภอแม่สะเรียง อำเภอสบเมย จังหวัดแม่ฮ่องสอน อำเภอเมือง อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย อำเภอท่าวังผา จังหวัดน่าน อำเภอลับแล อำเภอ เมือง จังหวัดอุตรดิตถ์ และอำเภอศรีสัชนาลัย จังหวัดสุโขทัย โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้ ติดตามสภาวะอากาศและสภาพการอุ้มน้ำของพื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัยเพื่อเตรียมรับมือสถานการณ์ ดินถล่มที่อาจจะเกิดขึ้นผ่านอาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเหตุธรณีพิบัติภัยที่ประจำอยู่ตามหมู่บ้านต่าง ๆ
|
||||||||||||||||||||||||
1530 | รายงานการเข้าร่วมจัดนิทรรศการงาน Expo Zaragoza 2008 ณ ราชอาณาจักรสเปน | ทส | 19/08/2551 | |||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||
1531 | รายงานสถานการณ์ธรณีพิบัติภัย ประจำวันที่ 18 สิงหาคม 2551 | ทส | 19/08/2551 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบข้อมูลสถานการณ์ธรณีพิบัติภัย ประจำวันที่ 18 สิงหาคม 2551 ของกระทรวง
ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สรุปไดัดังนี้ สภาพอากาศช่วงระหว่างวันที่ 17-18 สิงหาคม 2551 ประเทศ ไทยตอนบนจะมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางพื้นที่ และช่วงวันที่ 19-23 สิงหาคม 2551 จะมีฝนตกเพิ่มมาก ขึ้น และมีฝนตกหนักส่วนมากในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ส่วนพื้นที่ที่อยู่ในสภาวะเสี่ยงต่อการเกิด ภัยดินถล่มในระยะนี้คือ อำเภอเชียงของ อำเภอแม่จัน จังหวัดเชียงราย อำเภอจุน อำเภอเชียงคำ อำเภอปง จังหวัดพะเยา อำเภอนาหมื่น อำเภอนาน้อย จังหวัดน่าน อำเภอหล่มเก่า อำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ ซึ่ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกำลังติดตามสภาวะอากาศและสภาพการอุ้มน้ำของพื้นที่เสี่ยงภัยดิน ถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าว เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับสถานการณ์ดินถล่มที่อาจจะเกิดขึ้น ผ่านอาสาสมัครเครือ ข่ายเฝ้าระวังเหตุธรณีพิบัติภัยที่ประจำอยู่ตามหมู่บ้านต่าง ๆ
|
||||||||||||||||||||||||
1532 | รายงานผลการปลูกฟื้นฟูป่าของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 5/2551 | ทส | 19/08/2551 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบข้อมูลรายงานผลการปลูกฟื้นฟูป่า ครั้งที่ 5/2551 ของกระทรวงทรัพยากรธรรม
ชาติและสิ่งแวดล้อม สรุปได้ดังนี้ ผลการดำเนินการปลูกและฟื้นฟูป่า จนถึงวันที่ 16 สิงหาคม 2551 มีจำนวนรวม ทั้งสิ้น 152,981.44 ไร่ ประกอบด้วย การปลูกในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 95,851.44 ไร่ การปลูกในพื้นที่ ป่าอนุรักษ์ จำนวน 32,858 ไร่ การปลูกป่าในพื้นที่ป่าชายเลน จำนวน 24,23 6 ไร่ ส่วนผลการปลูกป่าตามโครง การ "ทส.สัญจร ปลูกป่า พลิกฟื้นผืนป่าด้วยพระบารมี" ใน 9 พื้นที่ 8 จังหวัด มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 1,352.5 ไร่/ 229,139 ต้น โดยการส่งเสริมการปลูกป่า (แจกกล้าไม้) จำนวน 138.316 ล้านกล้า/437,869 ไร่ ประกอบ ด้วย ผลงานของกรมป่าไม้ จำนวน 46.49 ล้านกล้า/238,831 ไร่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช จำนวน 44.856 ล้านกล้า/244,728 ไร่ และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จำนวน 4.25 ล้านกล้า/10,310 ไร่ สำหรับภาคเอกชนมี 7 หน่วยงานที่ร่วมปลูกป่า รวมทั้งได้ร่วมลงนามข้อตกลงความร่วมมือโครงการปลูกฟื้นฟูป่า กับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม มีจำนวนพื้นที่รวมทั้งสิ้น 206,074 ไร่/41,214,800 ต้น
|
||||||||||||||||||||||||
1533 | การรายงานผลการดำเนินงานตามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกองทัพบก ครั้งที่ 3/2551 | ทส | 19/08/2551 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบข้อมูลของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับผลการดำเนินงาน
ตามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ ระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง แวดล้อม และกองทัพบก ครั้งที่ 3/2551 สรุปตามประเด็นความร่วมมือ 7 ด้าน ดังนี้ 1. ด้านการลาดตระเวน มีการประสานงานขอรับการสนับสุนนกำลังพลจากกองทัพภาคที่ 2 ในการร่วม ปฏิบัติงานป้องกันและปราบรามการลักลอบตัดไม้พะยูง ในท้องที่จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ ยโสธร อำนาจเจริญ และมุกดาหาร และสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 อุบลราชธานี ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารพรานกอง ร้อยทหารพรานจู่โจม 959 และเจ้าหน้าที่ตำรวจตระเวนชายแดนร้อย ฉก.ตชด.224 เข้าตรวจสอบพื้นที่บริเวณพิกัด ตั้ง VA.11-VA.15 พิกัดราบจากแนวชายแดน-VA.92 พบร่องรอยการลักลอบตัดไม้พะยูง เป็นต้น 2. ด้านการพัฒนาองค์ความรู้ ได้พัฒนาองค์ความรู้และฝึกอบรมบุคลากรร่วมกัน โดยเฉพาะด้านการข่าว การใช้อาวุธ จิตวิทยามวลชน การพัฒนาเทคโนโลยี การควบคุมไฟป่า การฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ การสร้างเครือ ข่ายกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ทุกฉบับ และด้านอื่นที่จำเป็น โดยเปิดหลักสูตรเป็นการเฉพาะตามร้องของแต่ละฝ่าย เป็นต้น 3. ด้านการแต่งตั้งให้เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่มีการแต่งตั้งเจ้าหน้าที่ของกองทัพบก ในบางตำแหน่ง เป็น พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และแต่งตั้งนายทหารชั้นประทวน ระดับ ผบ.หมู่ เป็นพนักงานเจ้าหน้า ที่ 4. ด้านการสนับสนุนเครื่องมือและอุปกรณ์ มีการหารือเพื่อกำหนดแนวทางในการขอรับการสนับสนุน เครื่องมือและอุปกรณ์กับกองทัพภาคที่ 3 เป็นต้น 5. ด้านการประชาสัมพันธ์ ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ เพื่อสร้างจิตสำนึกและความตระหนักใน การอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ 6. ด้านการสนับสนุนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้ปฏิบัติงานออกลาดตระเวนอย่างต่อเนื่อง ตามแผนร่วมปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติป่ารอยต่อ 5 จังหวัด (ภาค ตะวันออก) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ท้องที่อำเภอท่าตะเกียบ อำเภอสนาม ชัยเขต จังหวัดฉะเชิงเทรา 7. ความร่วมมืออื่นๆ ได้แก่ การสนับสนุนกล้าไม้แก่กองทัพบกเพื่อใช้ในการส่งเสริมการเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ใน พื้นที่รับผิดชอบของกองทัพบกภาค 1-4 การจัดมหกรรมคอนเสิร์ตและกิจกรรมฝายต้นน้ำลำธาร และปลูกต้นไม้ ร่วมปลูกป่ากับจังหวัดทหารบกเพชรบูรณ์ ณ บ้านเขาโล่น ตำบลเขาเจ็ดลูก อำเภอทับคล้อ จังหวัดพิจิตร และจัดกิจ กรรมปลูกป่าชายเลนตามโครงการ "พลิกฟื้นผืนป่า ด้วยพระบารมี" จังหวัดสตูล ปี พ.ศ. 2551 เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||
1534 | โครงการจัดการผืนป่าอนุรักษ์ผาแต้ม เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพเขตติดต่อชายแดนระหว่างประเทศไทย กัมพูชา และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ระยะที่ 2 | ทส | 19/08/2551 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอโครงการจัดการผืน
ป่าอนุรักษ์ผาแต้ม เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพเขตติดต่อชายแดนระหว่าง ประเทศไทย กัมพูชา และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ระยะที่ 2 ซึ่งได้มีการลงนามในความตกลงโครง การ (Project Agreement) ระหว่างกรมป่าไม้ในฐานะภาคีสมาชิกขององค์การไม้เขตร้อนระหว่างประเทศ (Interna tional Tropical Timber Organization : ITTO) รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชา เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2548 โดยโครง การจัดการผืนป่าอนุรักษ์ผาแต้ม ฯ ระยะที่ 2 เป็นการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพในผืนป่าอนุรักษ์สาม เหลี่ยมมรกต ตั้งอยู่ระหว่างประเทศไทย กัมพูชา และลาว ผลการดำเนินงานจะเป็นต้นแบบความร่วมมือในการ อนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพเขตติดต่อชายแดนระหว่างประเทศต่าง ๆ และในภูมิภาคลุ่มน้ำโขงตอนล่าง ระยะเวลาดำเนินการ 24 เดือน กิจกรรมที่จะดำเนินการ 26 กิจกรรม งบประมาณดำเนินการทั้งสิ้น 1,551,943 ดอลลาร์สหรัฐ จำแนกเป็น งบประมาณสนับสนุนจาก ITTO จำนวน 688,208 ดอลลาร์สหรัฐ งบประมาณสมทบ จากประเทศไทย จำนวน 323,400 ดอลลาร์สหรัฐ และงบประมาณสมทบจากประเทศกัมพูชา จำนวน 540,335 ดอลลาร์สหรัฐ
|
||||||||||||||||||||||||
1535 | แนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรแร่ เพื่อกำหนดพื้นที่เขตศักยภาพแร่เพื่อการทำเหมืองแร่ (Mining Zone) | ทส | 05/08/2551 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับแนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรแร่ เพื่อกำหนดพื้นที่เขตศักยภาพแร่เพื่อ
การทำเหมืองแร่ (Mining Zone) โดยให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับเรื่องนี้ไปพิจารณาอีกครั้ง หนึ่ง โดยอาจว่าจ้างสถาบันการศึกษาที่มีศักยภาพและมิได้ร่วมดำเนินการศึกษาในครั้งที่ผ่านมาเป็นที่ปรึกษา แล้ว นำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป และให้รับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ที่เห็นว่า การกำหนดพื้นที่เขตศักย ภาพแร่เพื่อการทำเหมืองแร่ดังกล่าว ควรหลีกเลี่ยงพื้นที่รับน้ำของอ่างเก็บน้ำ เนื่องจากการดำเนินกิจการเหมืองแร่ จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพน้ำในอ่างเก็บน้ำ และไม่ควรนำสิ่งก่อสร้างทางการชลประทานไปเป็นปัจจัยสนับ สนุน เช่น เส้นทางลำเลียง ควรหลีกเลี่ยงถนนคันคลองชลประทาน เนื่องจากไม่ได้ออกแบบเพื่อรองรับรถบรรทุก ขนาดหนัก หากใช้เป็นเส้นทางลำเลียงจะทำให้เกิดความเสียหายต่อถนนและตัวคลองชลประทาน รวมทั้งแหล่งน้ำ สำหรับกิจกรรมเหมืองแร่ ควรหลีกเลี่ยงแหล่งน้ำเพื่อการชลประทานเนื่องจากแหล่งน้ำดังกล่าวมีแผนการใช้น้ำเต็ม ศักยภาพของแหล่งน้ำอยู่แล้ว และความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่ ให้ทบทวนแนวทางการบริหารจัดการทรัพยากรแร่รายประเภท (หินปูนเพื่ออุตสาหกรรมซีเมนต์) ในเรื่องของการ เปิดเสรีทางการค้าอุตสาหกรรมซีเมนต์ ควรมีการควบคุมการส่งออก และในเรื่องของการปรับปรุงระบบตอบแทน และชดเชยการใช้ประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรณีมีการสำรวจพบชนิดพันธุ์พืชและสัตว์ที่หายาก ควรยกเลิกการพิจารณาสัมปทานในพื้นที่นั้น แทนที่จะมีการประมูลค่าของชนิดพันธุ์ดังกล่าวเพื่อกำหนดเป็นค่าชด เชย และให้เพิ่มเติมหลักเกณฑ์โดยกำหนดให้เขตพื้นที่ที่จะนำมาสนับสนุนการทำเหมืองแร่นั้น ต้องยอมรับจากทุก ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องโดยผ่านกระบวนการทำประชาพิจารณ์ ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||
1536 | มติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2551 | ทส | 05/08/2551 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอมติคณะกรรมการสิ่ง
แวดล้อมแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2551 เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2551 ดังนี้ 1. แนวทางการดำเนินการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการบ้านเอื้ออาทร ที่ได้ดำเนินการก่อสร้างแล้ว ที่ประชุมคณะกรรมการ ฯ มีมติเห็นชอบคู่มือการจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบ สิ่งแวดล้อมของโครงการบ้านเอื้ออาทร และร่างคำสั่งคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เรื่อง แต่งตั้งคณะกรรมการ ผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการบ้านเอื้ออาทร รวมทั้งให้การเคหะแห่ง ชาติพิจารณาแนวทางการดำเนินงาน และแก้ไขปัญหาโครงการบ้านเอื้ออาทร ให้มีการก่อสร้างก่อนการจัดทำราย งานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม 2. การกำหนดประเภทและขนาดโครงการ ซึ่งต้องจัดทำรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม และ ระบบการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม ที่ประชุมคณะกรรมการ ฯ มีมติเห็นชอบให้นำ ประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เรื่อง กำหนดประเภทและขนาดโครงการหรือกิจการที่คณะ กรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติให้ความเห็นชอบแล้วประกาศในราชกิจจานุเบกษา 3. ร่างกรอบทิศทางการสนับสนุนเงินกองทุนสิ่งแวดล้อม ตามมาตรา 23 (4) แห่งพระราชบัญญัติส่ง เสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. 2535 ช่วงปีงบประมาณ 2552-2553 ที่ประชุมคณะกรรมการ ฯ มีมติเห็นชอบร่างกรอบทิศทาง ฯ และให้ปรับขยายข้อความในกรอบสนับสนุนเรื่องการจัดการทรัพยากรธรรมชาติ กายภาพและสิ่งแวดล้อมทั่วไปให้มีความชัดเจน โดยมีความหมายครอบคลุมถึงการจัดการด้านมลพิษ 4. รายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการก่อสร้างสะพานข้ามแม่น้ำประสาร์ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ที่ประชุมคณะกรรมการ ฯ มีมติเห็นชอบรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการก่อ สร้างสะพานข้ามแม่น้ำประแสร์ อำเภอแกลง จังหวัดระยอง ของกรมทางหลวงชนบท และให้กรมทางหลวงชนบท ปฏิบัติตามมาตรการป้องกันและลดผลกระทบสิ่งแวดล้อม และมาตรการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมตาม ความเห็นของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อม โครงการของส่วน ราชการ รัฐวิสาหกิจ และโครงการร่วมกับเอกชนด้านคมนาคมที่กำหนดมาตรการป้องกันและลดผลกระทบสิ่งแวด ล้อมมาตรการติดตามตรวจสอบคุณภาพสิ่งแวดล้อมและเงื่อนไขให้ดำเนินการ และให้กรมทางหลวงชนบทนำความ เห็นของคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีในการ ขออนุญาตใช้พื้นที่ป่าชายเลนต่อไป 5. การปรับปรุงองค์ประกอบของคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบ สิ่งแวดล้อม ที่ประชุมคณะกรรมการ ฯ มีมติเห็นชอบให้แต่งตั้งประธานคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณาราย งานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมโครงการรัฐหรือกิจการของรัฐ ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่ง แวดล้อมเสนอ และให้มีการปรับปรุงองค์ประกอบคณะกรรมการผู้ชำนาญการพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผล กระทบสิ่งแวดล้อม เพิ่มผู้ทรงคุณวุฒิด้านสาธารณสุข หรือผู้แทนจาก โดยกระทรวงสาธารณสุขในคณะกรรมการ ผู้ชำนาญการ ฯ ทุกชุด และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการ สิ่งแวดล้อมแห่งชาติจัดทำคำสั่งเสนอประธานกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเพื่อลงนามในคำสั่งต่อไป 6. การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกำกับการดำเนินกิจกรรมและการจัดทำแผนหลักป้องกันและแก้ไข ปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งทะเล ที่ประชุมคณะกรรมการ ฯ มีมติเห็นชอบร่างคำสั่งแต่งตั้งคณะอนุกรรมการกำกับ การดำเนินกิจกรรมและจัดทำแผนหลักป้องกันและแก้ไขปัญหาการกัดเซาะชายฝั่งตามที่กรมทรัพยากรทางทะเล และชายฝั่งเสนอให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการสิ่งแวด ล้อมแห่งชาติ จัดทำคำสั่งเสนอประธานกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเพื่อพิจารณาลงนามในคำสั่งต่อไป 7. การปรับปรุงองค์ประกอบคณะอนุกรรมการการจัดการพื้นที่ชุ่มน้ำ ที่ประชุมคณะกรรมการ ฯ มีมติ เห็นชอบให้ตัดเลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองสัตว์ป่าและพรรณพืชแห่งประเทศไทยในพระบรมราชินูปถัมป์ ออกจาก การเป็นองค์ประกอบ เนื่องจากมูลนิธิ ฯ ได้ยุติการดำเนินงานและให้ปรับปรุงองค์ประกอบ โดยเพิ่มเติมอธิบดี กรมการปกครองหรือผู้แทน อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ หรือผู้แทน และประธานคณะทำงานวิชาการพื้ชที่ชุ่มน้ำ เป็นอนุกรรมการ รวมทั้งเพิ่มเติมผู้ทรงคุณวุฒิ จำนวน 3 ท่าน ได้แก่ นายไมตรี ดวงสวัสดิ์ นายศรัณย์ เพ็ชร์พิรุณ และเลขาธิการมูลนิธิโลกสีเขียว เป็นอนุกรรมการรวมทั้งให้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในฐานะ ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ จัดทำคำสั่งเสนอประธานกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติเพื่อลง นามในคำสั่งต่อไป 8. รับทราบรายงานผลการดำเนินตามมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ 2548-2550 และ การปรับปรุงค่าภาคหลวงแร่ทองคำ และข้อเท็จจริงของการสำรวจและทำเหมืองแร่ทองคำของบริษัท อัคราไมนิ่ง จำกัด รวมทั้งกรอบการจัดทำรายงานสถานการณ์คุณภาพสิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2551 9. เรื่องการดำเนินงานตามแผนปฏิบัติการลดและขจัดมลพิษในพื้นที่จังหวัดระยอง พ.ศ. 2550-2554 ที่ประชุมคณะกรรมการ ฯ เห็นชอบการปรับปรุงแผนและกลไกการดำเนินงานในพื้นที่มาบตาพุดและกำหนดการ พัฒนาในพื้นที่จังหวัดระยอง และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดเตรียมข้อเสนองบประมาณประจำปี 2552 และมอบ ให้กระทรวงพลังงานประสานกรมโรงงานอุตสาหกรรม จังหวัดระยอง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและผู้ประกอบการหา รือในรายละเอียดต่อไป โดยกำหนดจัดงานเบื้องต้นในวันที่ 3 เมษายน 2551 10. เรื่องการเพิ่มประสิทธิภาพการปรับลดมลพิษในพื้นที่มาบตาพุด จังหวัดระยอง ที่ประชุมคณะกรรม การ ฯ เห็นชอบการเพิ่มเติมหลักเกณฑ์การพิจารณารายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมการกำหนดมาตร การในรายงานการวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมของโครงการ ฯ
|
||||||||||||||||||||||||
1537 | รายงานสถานการณ์ธรณีพิบัติภัย ประจำวันที่ 4 สิงหาคม 2551 | ทส | 05/08/2551 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กรมทรัพยากร
ธรณี) เพื่อทราบเกี่ยวกับสถานการณ์ธรณีพิบัติภัย ประจำวันที่ 4 สิงหาคม 2551 ดังนี้ สภาพอากาศ ช่วงระหว่าง วันที่ 4-7 สิงหาคม 2551 จะมีฝนตกชุกหนาแน่นและมีฝนตกหนักบริเวณจังหวัดเชียงราย พะเยา น่าน เพชรบูรณ์ สกลนคร มุกดาหาร อำนาจเจริญ และอุบลราชธานี ส่วนพื้นที่ที่อยู่ในสภาวะเสี่ยงต่อการเกิดภัยดินถล่มในระยะนี้ คือ จังหวัดเชียงราย อำเภอเชียงของ อำเภอแม่จัน จังหวัดพะเยา อำเภอจุน อำเภอเชียงคำ อำเภอปง จังหวัดน่าน อำเภอนาหมื่น อำเภอนาน้อย จังหวัดเพชรบูรณ์ อำเภอหล่มเก่า อำเภอหล่มสัก และจังหวัดเลย อำเภอด่านซ้าย ทั้งนี้ ได้มีการติดตามสภาวะอากาศและสภาพการอุ้มน้ำของพื้นที่เสี่ยงภัยดินถล่มในพื้นที่เสี่ยงภัยดังกล่าวเพื่อเตรียม พร้อมรับมือสถานการณ์ดินถล่มที่อาจเกิดขึ้นผ่านอาสาสมัครเครือข่ายเฝ้าระวังแจ้งเหตุธรณีพิบัติภัยที่ประจำอยู่ตาม หมู่บ้านต่าง ๆ
|
||||||||||||||||||||||||
1538 | รายงานผลการปลูกฟื้นฟูป่าของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ครั้งที่ 4/2551 | ทส | 05/08/2551 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อทราบความ
ก้าวหน้าของการปลูกฟื้นฟูป่า ครั้งที่ 4/2551 โดยผลการดำเนินการปลูกและฟื้นฟูป่าจนถึงวันที่ 1 สิงหาคม 2551 มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 105,993 ไร่ ประกอบด้วย การปลูกในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ จำนวน 71,547 ไร่ การปลูกใน พื้นที่ป่าอนุรักษ์ จำนวน 28,400 ไร่ และการปลูกป่าในพื้นที่ป่าชายเลน จำนวน 6,046 ไร่ ส่วนผลการปลูกป่าตาม โครงการ "ทส.สัญจร ปลูกป่า พลิกฟื้นผืนป่า ด้วยพระบารมี" ใน 6 พื้นที่ 5 จังหวัด มีจำนวนรวมทั้งสิ้น 959.5 ไร่/ 137.339 ต้น ผลการส่งเสริมการปลูกป่า (แจกกล้าไม้) รวมจำนวน 77.582 ล้านกล้า/386.519 ไร่ ประกอบด้วย กรมป่าไม้ จำนวน 29.38 ล้านกล้า/153,281 ไร่ กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช จำนวน 44.72 ล้าน กล้า/223,633 ไร่ และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง จำนวน 3.482 ล้านกล้า/9,605 ไร่ สำหรับภาคเอกชน มี 6 หน่วยงานที่ร่วมลงนามข้อตกลงความร่วมมือโครงการปลูกฟื้นฟูป่ากับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวด ล้อม มีจำนวนพื้นที่รวมทั้งสิ้น 206,070 ไร่/41,214,000 ต้น
|
||||||||||||||||||||||||
1539 | การรายงานผลคดีกระทำความผิดกฎหมายป่าไม้ ครั้งที่ 1/2551 | ทส | 05/08/2551 | |||||||||||||||||||||
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอข้อมูลของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเพื่อทราบ
ภาพรวมผลคดีกระทำความผิดกฎหมายป่าไม้ ครั้งที่ 1/2551 ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์-มิถุนายน 2551 ดังนี้ คดี รายใหญ่ จำนวนคดี 176 คดี พื้นที่ป่าถูกบุกรุก 10,323 ไร่ ไม้ของกลางที่ยึดได้ 1,454.63 ลบ.ม. มูลค่าความ เสียหาย 63,514,413 บาท ส่วนคดีรายย่อย จำนวนคดี 5,199 คดี พื้นที่ป่าถูกบุกรุก 40,335 ไร่ ไม้ของกลาง ที่ยึดได้ 8,877.26 ลบ.ม มูลค่าความเสียหาย 292,204,394 บาท
|
||||||||||||||||||||||||
1540 | การรายงานผลการดำเนินงานตามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกองทัพบก ครั้งที่ 2/2551 | ทส | 05/08/2551 | |||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีรับทราบข้อมูลของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเกี่ยวกับผลการดำเนินงาน
ตามบันทึกข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือในการอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดล้อม และกองทัพบก ครั้งที่ 2/2551 สรุปตามประเด็นความร่วมมือ 7 ด้าน ดังนี้ 1. ด้านการลาดตระเวน ได้ประสานขอรับการสนับสนุนกำลังพลเข้าร่วมปฏิบัติการ แจ้งกองทัพภาคที่ 2 เพื่อขอความร่วมมือในการร่วมปฏิบัติงานป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้พะยูง ในท้องที่จังหวัดอุบลราช ธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ ยโสธร อำนาจเจริญ และมุกดาหาร และสนธิกำลังดำเนินการใช้มาตรา 25 ตามพระราช บัญญัติป่าสงวนแห่งชาติ พุทธศักราช 2507 จำนวน 46 ครั้ง เป็นต้น 2. ด้านการพัฒนาองค์ความรู้ ได้พัฒนาองค์ความรู้และฝึกอบรมบุคลากรร่วมกัน โดยเฉพาะด้านการข่าว การใช้อาวุธ จิตวิทยามวลชน การพัฒนาเทคโนโลยี การควบคุมไฟป่า การฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ การสร้างเครือ ข่ายกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ทุกฉบับ และด้านอื่นที่จำเป็น และร่วมติดตามการดำรงความสัมพันธ์ขององค์กรเครือ ข่าย รสทป. ที่จัดตั้งขึ้นแล้ว เป็นต้น 3. ด้านการแต่งตั้งให้เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ ได้แต่งตั้งเจ้าหน้าที่ของกองทัพบกในบางตำแหน่งเป็นพนัก งานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง รวมทั้งแต่งตั้งนายทหารชั้นประทวน ระดับ ผบ.หมู่ เป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ 4. ด้านการสนับสนุนเครื่องมือและอุปกรณ์ ได้หารือร่วมกันเพื่อกำหนดแนวทางการขอรับการสนับสนุน เครื่องมือและอุปกรณ์กับกองทัพภาคที่ 3 เป็นต้น 5. ด้านการประชาสัมพันธ์ ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์เผยแพร่เพื่อสร้างจิตสำนึกและความตระหนักใน การอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ และจัดโครงการกิจกรรมปลูกจิตสำนึกและตระหนักถึงความสำคัญ รู้คุณค่าและมีส่วน ร่วมในการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่จังหวัดสกลนคร เป็นต้น 6. ด้านการสนับสนุนโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ได้ปฏิบัติงานออกลาดตระเวน ตามแผนร่วม ปฏิบัติการป้องกันและปราบปรามการบุกรุกทำลายทรัพยากรธรรมชาติป่ารอยต่อ 5 จังหวัด (ภาคตะวันออก) อัน เนื่องมาจากพระราชดำริ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2551 ท้องที่อำเภอท่าตะเกียบ อำเภอสนามชัยเขต จังหวัด ฉะเชิงเทรา 7. ด้านความร่วมมืออื่น ๆ ได้แก่ สนับสนุนกล้าไม้เพื่อใช้ในการส่งเสริมการเพิ่มพื้นที่ป่าไม้ในพื้นที่รับผิด ชอบของกองทัพบกภาค 1-4 จัดทำโครงการ "มหกรรมปลูกป่าเฉลิมพระเกียรติ" ณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่า เขา อ่างฤาใน จังหวัดฉะเชิงเทรา ในกิจกรรมปลูกป่า และปล่อยสัตว์ป่า รวมทั้งการจัดมหกรรมคอนเสิร์ตและกิจกรรม สร้างฝายต้นน้ำลำธาร และปลูกต้นไม้ เป็นต้น
|
.....