คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการปิดสถานกงสุลใหญ่สาธารณรัฐนาอูรูประจำประเทศไทย เป็นการถาวร ตั้งแต่วันที่ ๘ เมษายน ๒๕๖๘ เนื่องจากสาธารณรัฐนาอูรู มีเจตนารมณ์ที่จะเปิดสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐนาอูรูประจำประเทศไทยในอนาคต ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ

คณะรัฐมนตรีมีมติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการปิโตรเลียม จำนวน ๕ คน เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระเนื่องจากขอลาออก และดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๙ สิงหาคม ๒๕๖๘) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ ดังนี้

๑. ศาสตราจารย์พิเศษพล ธีรคุปต์

๒. นางเปรมฤทัย วินัยแพทย์

๓. นายพิพัฒน์ เหล่าวัฒนบัณฑิต

๔. นายปราโมช รังสรรค์วิจิตร

๕. นายณฏฐพล วุฒิพันธุ์

คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำปี ๒๕๖๗ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.) ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอ สรุปได้ ดังนี้

๑. ผลการดำเนินการของ สสวท. ปี ๒๕๖๗ เช่น (๑) พัฒนาหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ และกลุ่มสาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑ - ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๖ (๒) ปรับปรุงระบบต่าง ๆ ของแพลตฟอร์มดิจิทัลเพื่อการเรียนรู้และพัฒนาตนเองด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี และ (๓) มอบทุนพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อผลิตนักวิทยาศาสตร์/นักวิจัยที่เป็นกำลังคนที่มีศักยภาพสูง

๒. แผนการดำเนินงานของ สสวท. ปี ๒๕๖๘ เช่น (๑) พัฒนาหลักสูตร สื่อ ต้นแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้และเครื่องมือวัดและประเมินผลการเรียนรู้ที่สอดคล้องและเหมาะสมกับนักเรียนในแต่ละช่วงวัย (๒) พัฒนาผู้บริหาร ศึกษานิเทศก์ ครูวิทยากรแกนนำ และครูเครือข่าย ให้สามารถขับเคลื่อนการจัดการเรียนการสอนฐานสมรรถนะได้อย่างมีประสิทธิภาพ และ (๓) ให้ทุนสนับสนุนการศึกษาแก่นักเรียน นักศึกษา และครู และการจัดส่งผู้แทนไทยเข้าร่วมการแข่งขันระหว่างประเทศ

๓. รายงานผู้สอบบัญชีและรายงานการเงิน สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๗ ของ สสวท. ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน และงบแสดงผลการดำเนินงานทางการเงิน ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินตรวจสอบแล้ว เห็นว่าถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานการบัญชีภาครัฐและนโยบายการบัญชีภาครัฐที่กระทรวงการคลังกำหนด

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามความในมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ จำนวน ๒ ราย ตามลำดับ ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ ดังนี้

๑. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (นายสรวงศ์ เทียนทอง)

๒. รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นางสาวจิราพร สินธุไพร)

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายภูมิธรรม เวชยชัย) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรีเสนอว่า ในช่วงที่ผ่านมาการเผยแพร่ข่าวปลอม (Fake News) มีปริมาณเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะอย่างยิ่งข่าวปลอมที่เสนอผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ (Social Media) ในช่วงสถานการณ์การปะทะกันตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นการบิดเบือนข้อมูลข่าวสารที่ส่งผลกระทบรุนแรงและสร้างความแตกแยกให้เกิดขึ้นในสังคมไทยเป็นอย่างมาก จึงขอมอบหมายการดำเนินการ ดังนี้

๑. ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานของรัฐทุกแห่งเร่งรณรงค์และประชาสัมพันธ์ให้เจ้าหน้าที่ของรัฐและประชาชนทุกภาคส่วนรับฟังและเข้าถึงข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ด้วยความระมัดระวังและละเอียดรอบคอบ รวมทั้งขอให้ไตร่ตรองและตรวจสอบความถูกต้องและน่าเชื่อถือของข้อมูลข่าวสารดังกล่าวให้ชัดเจนก่อนที่จะส่งต่อด้วย

๒. ให้หน่วยงานความมั่นคงทุกแห่งพิจารณามอบหมายผู้รับผิดชอบติดตามและตรวจสอบข้อมูลข่าวสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่และอำนาจของหน่วยงานที่เผยแพร่ในสื่อต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้สามารถแก้ไข/ชี้แจง และตอบโต้ ในกรณีที่พบว่าเป็นข่าวปลอม ได้อย่างรวดเร็วทันท่วงที

๓. ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเร่งประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อแต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบและวิเคราะห์ข่าวในสื่อสังคมออนไลน์ขึ้นโดยด่วน เพื่อดำเนินการตรวจสอบ และติดตามข่าวปลอมที่ถูกเผยแพร่ในสื่อต่าง ๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศ แล้วให้ดำเนินการแก้ไข/ชี้แจงความเข้าใจผิดโดยเร็ว รวมทั้งให้ประสานงานกับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อผู้กระทำผิดในแต่ละกรณีตามความจำเป็นและเหมาะสมด้วย