ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 674 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 13461 - 13480 จากข้อมูลทั้งหมด 124012 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
13461 | ขอผ่อนผันการใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ 1 บี เพื่อทำเหมืองแร่ของห้างหุ้นส่วนจำกัด วังศิลา ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช | อก | 29/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้ผ่อนผันการใช้ประโยชน์พื้นที่ลุ่มน้ำชั้นที่ ๑ บี เพื่อทำเหมืองแร่ของห้างหุ้นส่วนจำกัด วังศิลา ที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ตามคำขอประทานบัตรที่ ๗/๒๕๕๗ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๓๒ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เช่น การประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมทางยุทธศาสตร์ (Strategic Environmental Assessment : SEA) ของโครงการ การจัดการด้านความปลอดภัยตามเทคโนโลยีการทำเหมือง การจัดการด้านสิ่งแวดล้อม การฟื้นฟูสภาพพื้นที่ภายหลังการทำเหมืองแร่แล้ว และการเฝ้าระวังสุขภาพของประชาชนในพื้นที่ที่อาจได้รับผลกระทบจากฝุ่นละออง เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดต่อไป ๒. ให้กระทรวงอุตสาหกรรม โดยกรมอุตสาหกรรมพื้นฐานและการเหมืองแร่ กำกับให้ห้างหุ้นส่วนจำกัด วังศิลา ดำเนินการให้เป็นไปอย่างถูกต้อง ครบถ้วน ตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13462 | เลื่อนวันประชุมคณะรัฐมนตรี (วันจันทร์ที่ 18 กุมภาพันธ์ 2562) | นร05 | 29/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีรายงานว่า เนื่องจากในวันอังคารที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ เป็นวันมาฆบูชาและเป็นวันหยุดราชการ นายกรัฐมนตรีจึงมีบัญชาให้เลื่อนวันประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารที่ ๑๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ ไปเป็นวันจันทร์ที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13463 | มติคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ ครั้งที่ 2/2561 | ดศ | 29/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
รับทราบมติคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ ครั้งที่ ครั้งที่ ๒/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๑๗
พฤษภาคม ๒๕๖๑ ครั้งที่ ๓/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๖ กันยายน ๒๕๖๑ ครั้งที่ ๔/๒๕๖๑
เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๑ และครั้งที่ ๕/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๑ ซึ่งผ่านการรับรองจากคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติแล้ว
ประกอบด้วยเรื่องเพื่อทราบ จำนวน ๖ เรื่อง และเรื่องเพื่อพิจารณา จำนวน ๔ เรื่อง
ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่มีผลกระทบต่อการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
เช่น แนวทางการดำเนินโครงการวิจัยและพัฒนาดาวเทียม THEIA
การดำเนินการเพื่อจัดตั้งสำนักงานประสานงานภูมิภาค (Regional Liaison
Office : RLO) ของสำนักงานกิจการอวกาศส่วนนอกแห่งสหประชาชาติที่ประเทศไทย
และความคืบหน้าการดำเนินโครงการระบบดาวเทียมสำรวจเพื่อการพัฒนา (THEOS-2) เป็นต้น ซึ่งคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติได้มีมติรับทราบความก้าวหน้าในการดำเนินการ
และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพื่อขับเคลื่อนประเด็นต่าง ๆ
ตามขั้นตอนเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
ตามที่คณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติเสนอ ๒. ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมดำเนินการบริหารจัดการดาวเทียมหลังสิ้นสุดสัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศด้วยความรอบคอบ
เหมาะสม โดยคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชนเป็นสำคัญ
ตามแนวนโยบายของรัฐบาล ซึ่งเป็นไปตามบทบัญญัติมาตรา ๖๐
ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ทั้งนี้ ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง
กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติที่เห็นว่า (ร่าง)
แนวทางการบริหารจัดการดาวเทียมหลังสิ้นสุดสัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศจะต้องไม่มีลักษณะเป็นการให้สัมปทานหรือให้สิทธิในการประกอบกิจการโทรคมนาคมต่อไปอีกหลังสัญญาดังกล่าวสิ้นสุดลง
และกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมควรดำเนินการตามพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๕๖ มาตรา ๔๘ ด้วย ไปประกอบการพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
๓.
ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
ในฐานะคู่สัญญาตามสัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศรับไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการเชื่อมต่อระบบขับเคลื่อนเพื่อต่ออายุดาวเทียมไทยคม
๕ ซึ่งเป็นหนึ่งในดาวเทียมภายใต้สัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ
ให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ
และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13464 | การมอบหมายผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีและการดำรงตำแหน่งของข้าราชการการเมืองกรณีรัฐมนตรีลาออกจากตำแหน่ง | นร | 29/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. ให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๙ ธันวาคม ๒๕๖๐ เรื่อง แต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ๒. เห็นชอบการแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรี กรณีที่รัฐมนตรีช่วยว่าการ ไม่มี ไม่อยู่ หรืออยู่แต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามแต่กรณี ดังนี้ ๒.๑ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ และรองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) เป็นผู้รักษาราชการแทน (เพิ่มเติม) ๒.๒ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (นายพิเชษฐ ดุรงคเวโรจน์) และรองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) เป็นผู้แทนราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ตามลำดับ ๒.๓ รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) เป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ๓. มอบหมายให้รองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) สั่งและปฏิบัติราชการแทนนายกรัฐมนตรี ในส่วนของส่วนราชการ ได้แก่ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน และให้สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีรับไปปรับปรุงแก้ไขคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี ที่ ๓๒๓/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๔ ธันวาคม ๒๕๖๐ เรื่อง มอบหมายและมอบอำนาจให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีปฏิบัติราชกาแทนนายกรัฐมนตรี ให้ถูกต้องครบถ้วนต่อไป ทั้งนี้ กรณีการดำรงตำแหน่งประธานกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ของรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล) ให้รองประธานกรรมการในคณะกรรมการนั้น ๆ ปฏิบัติหน้าที่แทน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13465 | มติคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ ครั้งที่ 3/2561 ครั้งที่ 4/2561 | ดศ | 29/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่คณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติเสนอ ดังนี้
๑. มติคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ ครั้งที่ ๓/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๖ กันยายน ๒๕๖๑ ซึ่งที่ประชุมได้รับทราบและได้พิจารณาประเด็นต่าง ๆ ได้แก่ รายงานความคืบหน้าการดำเนินการตามมติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ ครั้งที่ ๒/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๑ รายงานความคืบหน้าการดำเนินโครงการระบบดาวเทียมสำรวจเพื่อการพัฒนา (THEOS-2) (ร่า) และพระราชบัญญัติกิจการอวกาศ พ.ศ. .... ๒. มติคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ ครั้งที่ ๔/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๑ ซึ่งที่ประชุมได้พิจารณา (ร่าง) พระราชบัญญัติกิจการอวกาศ พ.ศ. ....
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13466 | มติคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ ครั้งที่ 5/2561 | ดศ | 29/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมติคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติ
ครั้งที่ ๒/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๑๗ พฤษภาคม ๒๕๖๑ ครั้งที่ ๓/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๖
กันยายน ๒๕๖๑ ครั้งที่ ๔/๒๕๖๑ เมื่อวันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๑ และครั้งที่ ๕/๒๕๖๑
เมื่อวันที่ ๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๑
ซึ่งผ่านการรับรองจากคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติแล้ว ประกอบด้วยเรื่องเพื่อทราบ
จำนวน ๖ เรื่อง และเรื่องเพื่อพิจารณา จำนวน ๔ เรื่อง
ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่มีผลกระทบต่อการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ
เช่น แนวทางการดำเนินโครงการวิจัยและพัฒนาดาวเทียม THEIA
การดำเนินการเพื่อจัดตั้งสำนักงานประสานงานภูมิภาค (Regional Liaison
Office : RLO) ของสำนักงานกิจการอวกาศส่วนนอกแห่งสหประชาชาติที่ประเทศไทย
และความคืบหน้าการดำเนินโครงการระบบดาวเทียมสำรวจเพื่อการพัฒนา (THEOS-2) เป็นต้น ซึ่งคณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติได้มีมติรับทราบความก้าวหน้าในการดำเนินการ
และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการเพื่อขับเคลื่อนประเด็นต่าง ๆ
ตามขั้นตอนเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายที่กำหนดไว้
ตามที่คณะกรรมการนโยบายอวกาศแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13467 | ร่างพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. .... [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันจันทร์ที่ 28 มกราคม 2562)] | นร | 29/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๒๘ มกราคม ๒๕๖๒ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13468 | รายงานสถานการณ์ผู้สูงอายุไทย พ.ศ. 2560 | พม | 29/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานสถานการณ์ผู้สูงอายุไทย พ.ศ. ๒๕๖๐ ซึ่งมีเนื้อหาสาระที่ครอบคลุมข้อเสนอแนะเชิงนโยบายในด้านต่าง ๆ เช่น การสนับสนุนให้ผู้สูงอายุอยู่ในที่อยู่อาศัยที่ช่วยส่งเสริมให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี สนับสนุนให้ผู้สูงอายุดำรงชีวิตอยู่อย่างมั่งคงและมีศักดิ์ศรี ส่งเสริมให้ผู้สูงอายุมีหลักประกันรายได้ที่มั่นคงและยั่งยืน การจัดทำแผนช่วยเหลือผู้สูงอายุเมื่อเกิดภัยพิบัติ สุขอนามัยผู้สูงอายุ กรอบแนวคิดเรื่องการสูงวัยอย่างมีพลัง การรายงานสถานการณ์ทั่วไป สถานการณ์เด่นปี ๒๕๖๐ และงานวิจัยเพื่อสังคมสูงอายุ และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามข้อเสนอแนะ โดยบูรณาการให้สอดคล้องกับมาตรการขับเคลื่อนระเบียบวาระแห่งชาติเรื่องสังคมสูงอายุ ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ๒. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงาน ก.พ. และข้อสังเกตของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม เช่น ในข้อเสนอแนะเชิงนโยบายควรมีการดำเนินการเกี่ยวกับอัตราการเพิ่มของประชากรที่ลดลงด้วย เนื่องจากเป็นสาเหตุสำคัญที่ก่อให้เกิดปัญหาสังคมสูงอายุในประเทศไทย และควรจำแนกสถานการณ์ผู้สูงอายุไทยตามภาคส่วนทางเศรษฐกิจที่จะสะท้อนความสัมพันธ์ระหว่างคุณลักษณะของประชากรกับขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศได้ชัดเจนมากยิ่งขึ้น และควรมีบทวิเคราะห์เกี่ยวกับผลกระทบ โอกาส และสิ่งท้าทายที่เกิดจากสถานการณ์ผู้สูงอายุกับการขับเคลื่อนการดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศด้านต่าง ๆ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13469 | ร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การให้ตั้งโรงงานที่ใช้อ้อยเป็นวัตถุดิบในทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อก | 29/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงอุตสาหกรรม เรื่อง การให้ตั้งโรงงานที่ใช้อ้อยเป็นวัตถุดิบในทุกท้องที่ทั่วราชอาณาจักร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับระยะห่างในการตั้งโรงงานที่ใช้อ้อยเป็นวัตถุดิบกับโรงงานน้ำตาล ต้องได้รับหนังสือยินยอมจากโรงงานน้ำตาลในพื้นที่นั้น รวมทั้งกำหนดให้ผู้ที่จะขอตั้งโรงงานที่ใช้อ้อยเป็นวัตถุดิบที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทรายแล้ว ต้องดำเนินการให้ได้มาซึ่งใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานตามกฎหมายว่าด้วยโรงงานภายในห้าปีนับแต่วันที่ได้รับการรับรอง ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาในประเด็นการกำหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับระยะห่างในการตั้งโรงงานที่ใช้อ้อยเป็นวัตถุดิบกับเขตพื้นที่ของผู้ที่จะขอตั้งโรงงานน้ำตาลหรือเขตพื้นที่ของผู้ที่จะขอตั้งโรงงานที่ใช้อ้อยเป็นวัตถุดิบที่ได้รับการรับรองจากสำนักงานคณะกรรมการอ้อยและน้ำตาลทราย อาจมีผลกระทบและลิดรอนสิทธิและเสรีภาพในการประกอบกิจการหรือประกอบอาชีพของบุคคลเกินสมควรแก่เหตุ ซึ่งไม่สอดคล้องกับบทบัญญัติมาตรา ๒๖ ประกอบกับมาตรา ๔๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และการที่ร่างประกาศนี้กำหนดห้ามเฉพาะโรงงานที่ใช้อ้อยเป็นวัตถุดิบไม่ให้ตั้งใกล้กับโรงงานน้ำตาลที่ได้รับใบอนุญาตที่มีอยู่เดิม แต่ไม่ได้กำหนดห้ามโรงงานที่ใช้อ้อยเป็นวัตถุดิบที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการโรงงานไม่ให้ตั้งใกล้กัน สมควรพิจารณาว่าประเด็นนี้มีความครบถ้วนถูกต้อง และเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกระทรวงอุตสาหกรรมตามมาตรการพัฒนาอุตสาหกรรมชีวภาพของไทยปี พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๗๐ หรือไม่ อย่างไรก็ดี เห็นว่าประเด็นดังกล่าวสามารถแก้ไขได้ในชั้นการตรวจพิจารณาของคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรี ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13470 | ขออนุมัติทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 17 กรกฎาคม 2533 โดยให้รัฐบาลสาธารณรัฐกัวเตมาลาตั้งที่ทำการสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐกัวเตมาลาประจำประเทศไทย แทนการให้สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐกัวเตมาลาประจำญี่ปุ่นมีเขตอาณาครอบคลุมประเทศไทย | กต | 29/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๗ กรกฎาคม ๒๕๓๓ (เรื่อง รัฐบาลกัวเตมาลาขอความเห็นชอบในการให้สถานเอกอัครราชทูตกัวเตมาลาประจำประเทศญี่ปุ่น มีเขตอาณาครอบคลุมถึงประเทศไทย) เฉพาะในส่วนที่ให้สถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐกัวเตมาลาประจำญี่ปุ่นมีเขตอาณาครอบคลุมถึงประเทศไทย เป็น ให้รัฐบาลสาธารณรัฐกัวเตมาลาตั้งที่ทำการสถานเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐกัวเตมาลาประจำประเทศไทย ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13471 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาวรวิวรรณ จตุรพิธพร) | ยธ | 29/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวรวิวรรณ จตุรพิธพร ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านกฎหมาย (นิติกรทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่วันที่ ๒๑ กันยายน ๒๕๖๑ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13472 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (เกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติการพัฒนาการกำกับดูแลบริหารรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ....) [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันจันทร์ที่ 21 มกราคม 2562)] | นร | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๒๑ มกราคม ๒๕๖๒ เรื่อง ผลการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (เกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติการพัฒนาการกำกับดูแลและบริหารรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ....) และรับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติที่ให้กระทรวงการคลังสนับสนุนการจัดรับฟังความคิดเห็นตามมาตรา ๗๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในประเด็นที่มีการแก้ไขเพิ่มเติม
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13473 | คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร) | สผ | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ของ (๑) สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จำนวน ๒,๖๑๔,๑๐๓,๒๐๐ บาท (๒) สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำนวน ๑๐,๓๑๓,๔๔๔,๑๐๐ บาท (๓) สำนักงานศาลปกครอง จำนวน ๓,๔๑๙,๒๙๘,๓๐๐ บาท (๔) สำนักงานอัยการสูงสุด จำนวน ๑๓,๗๘๕,๔๗๘,๔๐๐ บาท (๕) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จำนวน ๕,๓๕๙,๓๒๑,๔๐๐ บาท (๖) สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จำนวน ๓๒๓,๓๙๔,๙๐๐ บาท (๗) สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จำนวน ๕๒๖,๐๒๒,๐๐๐ บาท และ (๘) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน จำนวน ๓,๔๐๙,๖๐๙,๓๐๐ บาท ทั้งนี้ ให้ถือว่าการเสนอคำของบประมาณรายจ่ายดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ตามนัยมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ พร้อมทั้งให้หน่วยงานดังกล่าวยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ดังกล่าว ให้สำนักงบประมาณพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13474 | คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 สำนักงานศาลปกครอง) | ศป | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ของ (๑) สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จำนวน ๒,๖๑๔,๑๐๓,๒๐๐ บาท (๒) สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำนวน ๑๐,๓๑๓,๔๔๔,๑๐๐ บาท (๓) สำนักงานศาลปกครอง จำนวน ๓,๔๑๙,๒๙๘,๓๐๐ บาท (๔) สำนักงานอัยการสูงสุด จำนวน ๑๓,๗๘๕,๔๗๘,๔๐๐ บาท (๕) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จำนวน ๕,๓๕๙,๓๒๑,๔๐๐ บาท (๖) สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จำนวน ๓๒๓,๓๙๔,๙๐๐ บาท (๗) สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จำนวน ๕๒๖,๐๒๒,๐๐๐ บาท และ (๘) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน จำนวน ๓,๔๐๙,๖๐๙,๓๐๐ บาท ทั้งนี้ ให้ถือว่าการเสนอคำของบประมาณรายจ่ายดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ตามนัยมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ พร้อมทั้งให้หน่วยงานดังกล่าวยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ดังกล่าว ให้สำนักงบประมาณพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13475 | คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563) (สำนักงานอัยการสูงสุด) | อส | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ของ (๑) สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จำนวน ๒,๖๑๔,๑๐๓,๒๐๐ บาท (๒) สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำนวน ๑๐,๓๑๓,๔๔๔,๑๐๐ บาท (๓) สำนักงานศาลปกครอง จำนวน ๓,๔๑๙,๒๙๘,๓๐๐ บาท (๔) สำนักงานอัยการสูงสุด จำนวน ๑๓,๗๘๕,๔๗๘,๔๐๐ บาท (๕) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จำนวน ๕,๓๕๙,๓๒๑,๔๐๐ บาท (๖) สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จำนวน ๓๒๓,๓๙๔,๙๐๐ บาท (๗) สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จำนวน ๕๒๖,๐๒๒,๐๐๐ บาท และ (๘) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน จำนวน ๓,๔๐๙,๖๐๙,๓๐๐ บาท ทั้งนี้ ให้ถือว่าการเสนอคำของบประมาณรายจ่ายดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ตามนัยมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ พร้อมทั้งให้หน่วยงานดังกล่าวยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ดังกล่าว ให้สำนักงบประมาณพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13476 | คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563) (สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง) | ลต | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ของ (๑) สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จำนวน ๒,๖๑๔,๑๐๓,๒๐๐ บาท (๒) สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำนวน ๑๐,๓๑๓,๔๔๔,๑๐๐ บาท (๓) สำนักงานศาลปกครอง จำนวน ๓,๔๑๙,๒๙๘,๓๐๐ บาท (๔) สำนักงานอัยการสูงสุด จำนวน ๑๓,๗๘๕,๔๗๘,๔๐๐ บาท (๕) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จำนวน ๕,๓๕๙,๓๒๑,๔๐๐ บาท (๖) สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จำนวน ๓๒๓,๓๙๔,๙๐๐ บาท (๗) สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จำนวน ๕๒๖,๐๒๒,๐๐๐ บาท และ (๘) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน จำนวน ๓,๔๐๙,๖๐๙,๓๐๐ บาท ทั้งนี้ ให้ถือว่าการเสนอคำของบประมาณรายจ่ายดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ตามนัยมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ พร้อมทั้งให้หน่วยงานดังกล่าวยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ดังกล่าว ให้สำนักงบประมาณพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13477 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ [เกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....] [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (วันจันทร์ที่ 21 มกราคม 2562)] | นร | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติเกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... โดยไม่ขัดข้องกับการเสนอขอแก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติป่าไม้ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และมอบหมายให้ประธานกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติไปประสานงานกับคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติแห่งชาติต่อไป ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณากำหนดมาตรการควบคุมดูแลมิให้เกิดการสวมสิทธิไม้ที่ปลูกขึ้นในที่ดินของรัฐประเภทต่าง ๆ เนื่องจากได้มีการเพิ่มประเภทที่ดินที่ได้รับอนุญาตให้ทำประโยชน์ตามประเภทหนังสือแสดงสิทธิที่รัฐมนตรีประกาศกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ซึ่งมีผลให้ไม้มีค่าที่ปลูกขึ้นในที่ดินดังกล่าวเป็นไม้ที่มิใช่ไม้หวงห้าม ทั้งนี้ ให้คำนึงถึงประโยชน์ของรัฐเป็นสำคัญ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13478 | คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563) (สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ) | สม | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ของ (๑) สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จำนวน ๒,๖๑๔,๑๐๓,๒๐๐ บาท (๒) สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำนวน ๑๐,๓๑๓,๔๔๔,๑๐๐ บาท (๓) สำนักงานศาลปกครอง จำนวน ๓,๔๑๙,๒๙๘,๓๐๐ บาท (๔) สำนักงานอัยการสูงสุด จำนวน ๑๓,๗๘๕,๔๗๘,๔๐๐ บาท (๕) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จำนวน ๕,๓๕๙,๓๒๑,๔๐๐ บาท (๖) สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จำนวน ๓๒๓,๓๙๔,๙๐๐ บาท (๗) สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จำนวน ๕๒๖,๐๒๒,๐๐๐ บาท และ (๘) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน จำนวน ๓,๔๐๙,๖๐๙,๓๐๐ บาท ทั้งนี้ ให้ถือว่าการเสนอคำของบประมาณรายจ่ายดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ตามนัยมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ พร้อมทั้งให้หน่วยงานดังกล่าวยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ดังกล่าว ให้สำนักงบประมาณพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13479 | คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563) (สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน) | ผผ | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ของ (๑) สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จำนวน ๒,๖๑๔,๑๐๓,๒๐๐ บาท (๒) สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำนวน ๑๐,๓๑๓,๔๔๔,๑๐๐ บาท (๓) สำนักงานศาลปกครอง จำนวน ๓,๔๑๙,๒๙๘,๓๐๐ บาท (๔) สำนักงานอัยการสูงสุด จำนวน ๑๓,๗๘๕,๔๗๘,๔๐๐ บาท (๕) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จำนวน ๕,๓๕๙,๓๒๑,๔๐๐ บาท (๖) สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จำนวน ๓๒๓,๓๙๔,๙๐๐ บาท (๗) สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จำนวน ๕๒๖,๐๒๒,๐๐๐ บาท และ (๘) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน จำนวน ๓,๔๐๙,๖๐๙,๓๐๐ บาท ทั้งนี้ ให้ถือว่าการเสนอคำของบประมาณรายจ่ายดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ตามนัยมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ พร้อมทั้งให้หน่วยงานดังกล่าวยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ดังกล่าว ให้สำนักงบประมาณพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13480 | คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 ของสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (คำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2563) (สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน) | ตผ | 22/01/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจัดทำคำของบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ของ (๑) สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ จำนวน ๒,๖๑๔,๑๐๓,๒๐๐ บาท (๒) สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จำนวน ๑๐,๓๑๓,๔๔๔,๑๐๐ บาท (๓) สำนักงานศาลปกครอง จำนวน ๓,๔๑๙,๒๙๘,๓๐๐ บาท (๔) สำนักงานอัยการสูงสุด จำนวน ๑๓,๗๘๕,๔๗๘,๔๐๐ บาท (๕) สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง จำนวน ๕,๓๕๙,๓๒๑,๔๐๐ บาท (๖) สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ จำนวน ๓๒๓,๓๙๔,๙๐๐ บาท (๗) สำนักงานผู้ตรวจการแผ่นดิน จำนวน ๕๒๖,๐๒๒,๐๐๐ บาท และ (๘) สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน จำนวน ๓,๔๐๙,๖๐๙,๓๐๐ บาท ทั้งนี้ ให้ถือว่าการเสนอคำของบประมาณรายจ่ายดังกล่าวเป็นการยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายต่อคณะรัฐมนตรีภายในระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีกำหนด ตามนัยมาตรา ๒๘ แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ พร้อมทั้งให้หน่วยงานดังกล่าวยื่นคำขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ ดังกล่าว ให้สำนักงบประมาณพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|