ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 426 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 8501 - 8520 จากข้อมูลทั้งหมด 123994 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
8501 | แจ้งผลคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ระหว่าง นางจุฑารัตน์ จันทร ผู้ฟ้องคดี คณะรัฐมนตรี ที่ 1 กับพวกรวม 6 คน ผู้ถูกฟ้องคดี (คณะรัฐมนตรี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ 1) เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดหรือความรับผิดอย่างอื่นของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย | อส. | 18/05/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด
ในคดีหมายเลขดำที่ อ.๗/๒๕๖๔ ระหว่าง นางจุฑารัตน์ จันทร ผู้ฟ้องคดี คณะรัฐมนตรี ที่ ๑ กับพวกรวม
๖ คน ผู้ถูกฟ้องคดี (คณะรัฐมนตรี ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๑) เรื่อง
คดีพิพาทเกี่ยวกับการกระทำละเมิดหรือความรับผิดอย่างอื่นของหน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย
ซึ่งศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๔ [บริษัท
ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน)] ซื้อที่ดินโฉนดเลขที่ ๕๖๕๑๕
และโฉนดเลขที่ ๕๖๕๑๖ ตำบลคลองสาม (คลองประเวศบุรีรมย์ ฝั่งเหนือ) อำเภอลาดกระบัง
(แสนแสบ) กรุงเทพมหานคร พร้อมบ้านเลขที่ ๑๗๓/๑๐๑ หมู่ที่ ๓ หมู่บ้านร่มฤดี
ถนนร่มเกล้า เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร จากผู้ถูกฟ้องคดีในราคา ๗,๗๙๐,๘๑๒.๐๗ บาท และชำระดอกเบี้ยร้อยละ ๗.๕ ต่อปี
ของต้นเงิน ๗,๗๙๐,๘๑๒.๐๗ บาท
นับตั้งแต่วันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๔๙ เป็นต้นไปจนกว่าจะชำระเสร็จ โดยมีเงื่อนไขว่าหากผู้ฟ้องคดีตกลงขายที่ดินพร้อมบ้านให้ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๔ ในราคาต้นเงินจำนวนดังกล่าว และให้คืนค่าธรรมเนียมศาลในชั้นอุทธรณ์แก่ผู้ถูกฟ้องคดีที่
๔ ตามส่วนของการชนะคดี ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8502 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 2/2564 | นร.04 | 18/05/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. รับทราบและเห็นชอบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
(กตน.) ครั้งที่ ๒/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๖๔ และให้ส่วนราชการรับประเด็นและมติของที่ประชุม
กตน. ตามที่ กตน.เสนอ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ การแต่งตั้งคณะอนุกรรมการใน กตน.
จำนวน ๔ คณะ ได้แก่ (๑) คณะอนุกรรมการการขับเคลื่อนการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
(๒) คณะอนุกรรมการการจัดทำรายงานผลการดำเนินงานของรัฐบาลประจำปี (๓)
คณะอนุกรรมการบูรณาการและประสานการเชื่อมโยงฐานข้อมูลสารสนเทศด้านการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
(๔) คณะอนุกรรมการด้านการสร้างการรับรู้และสร้างการมีส่วนร่วมกับประชาชน ๑.๒
สวัสดิการภาครัฐที่เกษตรกรแต่ละรายได้รับ ได้แก่ (๑) การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรด้านต้นทุนการผลิตและกระบวนการผลิต
เกี่ยวกับโครงการสินเชื่อธุรกิจชุมชนสร้างไทย การดำเนินมาตรการควบคุมค่าเช่าที่นา
ฤดูกาลการผลิตห้วงปี ๒๕๖๓/๖๔ และการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับความเสียหายจากภัยธรรมชาติ
ปีการผลิต ๒๕๖๔ (๒) การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรด้านราคา รายได้ และการตลาด เกี่ยวกับโครงการประกันรายได้เกษตรกรชาวสวนยาง
ระยะที่ ๑ และระยะที่ ๒ (๓) การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรด้านอื่น ๆ
เกี่ยวกับโครงการช่วยเหลือเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (โควิด-๑๙) โครงการสินเชื่อเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายฉุกเฉินให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของเชื้อโควิด-๑๙ (๓)
การลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐเพิ่มเติมในกลุ่มผู้พิการ (๔)
โครงการสร้างหลักประกันด้านรายได้แก่ผู้สูงอายุ (๕)
โครงการสนับสนุนการจัดสวัสดิการทางสังคมแก่ผู้ด้อยโอกาสทางสังคม และ (๖)
การให้ความช่วยเหลือเกษตรกรด้านอื่น ๆ
ในภาพรวมของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เช่น
การให้เงินอุดหนุนเพื่อเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด เป็นต้น โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาจัดทำรายละเอียด ข้อมูล สวัสดิการภาครัฐของบุคคลหรือกลุ่มอาชีพ เช่น
เกษตรกร กลุ่มคนเปราะบาง กลุ่มอาชีพอิสระ และอาชีพรับจ้างทั่วไป
เพื่อให้ทราบภาพรวมการช่วยเหลือของรัฐบาลอย่างเป็นรูปธรรม
และติดตามการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคด้านการบริหารจัดการ การประชาสัมพันธ์
สร้างการรับรู้ ความเข้าใจในส่วนราชการทุกระดับ เกี่ยวกับการดำเนินงานต่าง ๆ
เพื่อให้ส่วนราชการและหน่วยงานได้รับทราบงานที่มีความเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ชาติและแผนปฏิรูปประเทศ ๑.๓ การแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการน้ำแล้ง
ได้แก่ ประกาศพื้นที่ประสบภัยแล้งในช่วงปี ๒๕๕๔-๒๕๖๔ มาตรการรองรับสถานการณ์ขาดแคลนน้ำฤดูแล้ง
ปี ๒๕๖๓-๒๕๖๔ จัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
โดยให้เพิ่มกลไกการเชื่อมโยงผ่านคณะอนุกรรมการทรัพยากรน้ำในระดับจังหวัด
และเร่งรัดจัดทำแผนป้องกันและแก้ไขน้ำแล้งร่วมกับคณะกรรมการลุ่มน้ำ
เพื่อเป็นเครื่องมือในการแก้ไขปัญหา ตามพระราชบัญญัติทรัพยากรน้ำ พ.ศ. ๒๕๖๑
และให้มีการพัฒนาระบบการสนับสนุนการตัดสินใจในการบริหารจัดการน้ำ
เพื่อเป็นเครื่องมือในการกำหนดนโยบายที่ชัดเจนในการบริหารจัดการน้ำ ๒. ให้ กตน. รับความเห็นของกระทรวงการคลัง ที่เห็นว่า
คณะอนุกรรมการบูรณาการและประสานการเชื่อมโยงฐานข้อมูลสารสนเทศด้านการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีใน กตน.
สามารถพิจารณากำหนดแนวทางในการบูรณาการข้อมูลสวัสดิการภาครัฐที่เกษตรกรแต่ละรายได้รับ
รวมถึงการบูรณาการข้อมูลสวัสดิการภาครัฐของบุคคล และกลุ่มอาชีพต่าง ๆ ได้
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8503 | ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (การขยายระยะเวลามาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการนำเข้ายา เวชภัณฑ์ และเครื่องมือแพทย์ต้าน COVID-19 สำหรับบริจาคเป็นสาธารณกุศล) | กค. | 18/05/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากร
ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
(การขยายระยะเวลามาตรการภาษีเพื่อสนับสนุนการนำเข้ายา เวชภัณฑ์
และเครื่องมือแพทย์ต้าน COVID-19
สำหรับบริจาคเป็นสาธารณกุศล) โดยมีหลักการ (๑)
ยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับการนำเข้าสินค้าที่ใช้รักษา วินิจฉัย หรือป้องกัน COVID-19 เพื่อบริจาคให้แก่
สถานพยาบาล หน่วยงานของรัฐ
องค์กรหรือสถานสาธารณกุศลหรือสถานพยาบาลที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังประกาศกำหนด
(๒)
ยกเว้นภาษีเงินได้นิติบุคคลและภาษีมูลค่าเพิ่มให้แก่บริษัทหรือห้างหุ้นส่วนนิติบุคคลสำหรับการบริจาค
โดยต้องไม่นำต้นทุนของสินค้ามาหักเป็นรายจ่ายในการคำนวณภาษีเงินได้นิติบุคคล
ทั้งนี้ สำหรับการบริจาคตั้งแต่วันที่ ๑ มีนาคม ๒๕๖๔ ถึงวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๔ และที่เป็นไปตามหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขที่อธิบดีกรมสรรพากรประกาศกำหนด ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าว
รวมถึงสถานการณ์ ความจำเป็นและประโยชน์ที่จะได้รับให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก
รวมทั้งจัดทำประมาณการรายได้เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วนและใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินการทางการเงินการคลังและงบประมาณของประเทศ
ตลอดจนติดตามและประเมินผลสัมฤทธิ์และรายงานผลการดำเนินการตามมาตรการภาษีดังกล่าว
และให้ดำเนินการตามนัยของมาตรา ๒๗ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ ใหครบถ้วนต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8504 | ผลการประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี - เจ้าพระยา - แม่โขง ครั้งที่ 9 | กต. | 18/05/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบผลการประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (Ayeyawady-Chao Phraya-Mekong
Economic Cooperation Strategy : ACMECS) ครั้งที่ ๙ เมื่อวันที่ ๙ ธันวาคม ๒๕๖๓ มีสาระสำคัญประกอบด้วย (๑) การรับรองปฏิญญาพนมเปญของการประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี--เจ้าพระยา-แม่โขง ครั้งที่ ๙ ซึ่งมีการเพิ่มเติมประเด็น
เช่น ข้อเสนอของประเทศไทยในการผลักดันหลักการใหม่เรื่อง
“อนุภูมิภาคที่มีความปลอดภัยและเชื่อถือได้” รับทราบข้อเสนอของญี่ปุ่นในการจัดการประชุม
ACMECS สมัยพิเศษ
ที่กรุงโตเกียว ในช่วงฤดูใบไม้ร่วง (ประมาณเดือนกันยายน-พฤศจิกายน) ปี ๒๕๖๔ (๒)
ที่ประชุมได้หารือในประเด็นต่าง ๆ เช่น ยินดีต่อพัฒนาการอย่างต่อเนื่องของ ACMECS สนับสนุนการจัดตั้งกองทุนเพื่อการพัฒนา ACMECS
ย้ำความสำคัญของการยกระดับความร่วมมือของประเทศสมาชิก ACMECS
(๓) ถ้อยแถลงของนายกรัฐมนตรี โดยย้ำความสำคัญของการร่วมกันขับเคลื่อนความร่วมมือ ACMECS อย่างรอบคอบ มุ่งพัฒนาศักยภาพให้ ACMECS
มีความเข็มแข็งจากภายใน ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ทั้งนี้
ให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงพาณิชย์และสำนักงบประมาณ
ที่เห็นว่าประเทศสมาชิก ACMECS
ต้องเร่งขับเคลื่อนการพัฒนาความเชื่อมโยงในทุกมิติให้เป็นไปตามแผนแม่บท ACMECS ระยะ ๕ ปี (ค.ศ. ๒๐๑๙-๒๐๒๓) และยกระดับความร่วมมือระหว่างหุ้นส่วนเพื่อการพัฒนาของ
ACMECS กับองค์กรระหว่างประเทศต่าง ๆ โดยมุ่งเน้นการสนับสนุนการฟื้นฟูเสถียรภาพทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขงหลังการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙
ให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันและเกิดผลอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
กรณีค่าใช้จ่ายจากการดำเนินการตามผลการประชุมผู้นำยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง ครั้งที่ ๙ ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔
ให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้จ่ายจากงบประมาณที่ได้รับจัดสรรไว้แล้ว
สำหรับค่าใช้จ่ายในปีต่อ ๆ ไป
เห็นควรให้จัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีเท่าที่จำเป็นตามความเหมาะสมต่อไป และการดำเนินการตามแผนแม่บท
ACMECS
ระยะ ๕ ปี (ค.ศ. ๒๐๑๙-๒๐๒๓) ให้คำนึงถึงความจำเป็นและภารกิจของหน่วยงาน
ตลอดจนปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ให้ถูกต้องครบถ้วนต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8505 | ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ ยกเลิกประกาศกระทรวงพาณิชย์ ว่าด้วยการกำหนดมาตรการจัดระเบียบในการส่งน้ำมันดีเซลหมุนเร็ว ออกไปนอกราชอาณาจักร (ฉบับที่ 85) พ.ศ. 2541 พ.ศ. .... | พณ. | 18/05/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์
ยกเลิกประกาศกระทรวงพาณิชย์ ว่าด้วยการกำหนดมาตรการจัดระเบียบในการส่งน้ำมันดีเซลหมุนเร็วออกไปนอกราชอาณาจักร
(ฉบับที่ ๘๕) พ.ศ. ๒๕๔๑ พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกประกาศกระทรวงพาณิชย์
ว่าด้วยการกำหนดมาตรการจัดระเบียบในการส่งน้ำมันดีเซลหมุนเร็วออกไปนอกราชอาณาจักร
(ฉบับที่ ๘๕) พ.ศ. ๒๕๔๑
เนื่องจากการกำกับดูแลการส่งออกน้ำมันดีเซลมีการกำหนดไว้เป็นการเฉพาะตามพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต
พ.ศ. ๒๕๖๐ แล้ว ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8506 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายชุติเดช ตาบองครักษ์) | สธ. | 11/05/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายชุติเดช ตาบองครักษ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้อำนวยการโรงพยาบาล
[ผู้อำนวยการเฉพาะด้าน (แพทย์) ระดับสูง] โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
สำนักงานปลัดกระทรวง ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ
(ด้านเวชกรรม) โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา
สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดนครราชสีมา สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๒๕ กันยายน ๒๕๖๓
ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8507 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายอภิรัตน์ สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง นายมังกร ประทุมแก้ว) | กต. | 11/05/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย
เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑. นายอภิรัตน์
สุคนธาภิรมย์ ณ พัทลุง ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต
ณ กรุงอังการา สาธารณรัฐตุรกี ๒. นายมังกร
ประทุมแก้ว ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต
สถานเอกอัครราชทูต
ณ กรุงพริทอเรีย สาธารณรัฐแอฟริกาใต้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8508 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองระบายน้ำมูโนะ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... | กษ. | 11/05/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองระบายน้ำมูโนะ
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานในท้องที่ตำบลมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก
และตำบลพร่อน อำเภอตากใบ จังหวัดนราธิวาส เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทานจากผู้ใช้น้ำที่นำน้ำไปใช้เพื่อกิจการโรงงาน
การประปา หรือกิจการอื่นนอกจากภาคเกษตรกรรม เพื่อประโยชน์ในการควบคุมดูแลปริมาณน้ำ
และให้การใช้น้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8509 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง ปัญหาฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน 2.5 ไมครอน (PM 2.5) ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล ของคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา | สว. | 11/05/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง ปัญหาฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน ๒.๕ ไมครอน (PM 2.5) ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ของคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยรวบรวมผลการพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
สรุปได้ว่า การดำเนินการแก้ไขปัญหาในระยะเร่งด่วนและในช่วงวิกฤตของทุกปี
(ธันวาคม-กุมภาพันธ์) การนำน้ำมันยูโร ๕
ไปจำหน่ายในพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑลในช่วงวิกฤต
ควรดำเนินการโดยขอความร่วมมือจากผู้ค้าน้ำมัน เนื่องจากการนำน้ำมันยูโร ๕
ไปจำหน่ายในสถานีน้ำมันจำเป็นต้องมีระบบการจัดเก็บและการขนส่งน้ำมันที่แยกออกมาโดยเฉพาะจากระบบการขนส่งน้ำมันตามปกติ
จึงมีผู้ค้าน้ำมันเพียงบางรายเท่านั้นที่มีศักยภาพในการดำเนินการดังกล่าว
สำหรับมาตรการระยะยาว ได้แก่ (๑) มาตรการลดการเกิดและปล่อยฝุ่นละอองขนาดไม่เกิน
๒.๕ ไมครอน (PM 2.5) จากแหล่งกำเนิดต่าง ๆ เช่น การคมนาคมขนส่งทางถนน
กระทรวงพลังงานได้ประกาศปรับลดปริมาณกำมะถันในน้ำมันดีเซลหมุนเร็วและน้ำมันกลุ่มเบนซินและแก๊สโซฮอล์จากไม่เกิน
๕๐ ส่วนในล้านส่วน เป็นไม่เกิน ๑๐ ส่วนในล้านส่วน (๒) การเผาชีวมวลในที่โล่ง
ได้มีการดำเนินการตามมาตรการต่าง ๆ
ที่กำหนดไว้ในแผนปฏิบัติการขับเคลื่อนวาระแห่งชาติ
“การแก้ไขปัญหามลพิษด้านฝุ่นละออง” พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๗
และข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการอย่างจริงจัง และ (๓) ภาคอุตสาหกรรม
ได้มีการดำเนินการให้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี ๑๐
เป็นน้ำมันชนิดพื้นฐานของประเทศไทยแล้ว และให้น้ำมันดีเซลหมุนเร็วบี ๒๐
เป็นน้ำมันชนิดทางเลือก เป็นต้น ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8510 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม หลอดแอลอีดีขั้วคู่ที่ออกแบบเพื่อเปลี่ยนทดแทนหลอดฟลูออเรสเซนซ์ชนิดตรง-คุณลักษณะที่ต้องการด้านความปลอดภัย ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... | อก. | 11/05/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม
หลอดแอลอีดีขั้วคู่ที่ออกแบบเพื่อเปลี่ยนทดแทนหลอดฟลูออเรสเซนซ์ชนิดตรง-คุณลักษณะที่ต้องการด้านความปลอดภัย
ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมหลอดแอลอีดีขั้วคู่ที่ออกแบบเพื่อเปลี่ยนทดแทนหลอดฟลูออเรสเซนซ์ชนิดตรงซึ่งเป็นมาตรฐานที่กำหนดขึ้นใหม่
เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้หลอดแอลอีดีคุณภาพต่ำหรือไม่ได้มาตรฐานและสอดคล้องกับสภาพอุตสาหกรรมในปัจจุบัน
ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8511 | ร่างแผนปฏิบัติการภูมิภาคอาเซียนว่าด้วยการต่อต้านขยะทะเล พ.ศ. 2564 – 2568 (ASEAN Regional Action Plan for Combating Marine Debris 2021 - 2025) | ทส. | 11/05/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างแผนปฏิบัติการภูมิภาคอาเซียนว่าด้วยการต่อต้านขยะทะเล
พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๘ (ASEAN Regional Action Plan for Combating Marine Debris 2021-2025)
และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายรับรองร่างแผนปฏิบัติการฯ โดยร่างแผนปฏิบัติการฯ เป็นเอกสารที่จะมีการรับรองโดยรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อมภายในวันที่
๑๕ พฤษภาคม ๒๕๖๔
มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการประสานงานทั้งในระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศให้มีการจัดการสิ่งแวดล้อมทางทะเลและชายฝั่งอย่างยั่งยืน
โดยมุ่งเน้นการแก้ไขปัญหาขยะพลาสติกในทะเล เนื่องจากขยะประเภทนี้มีปริมาณและใช้เวลาในการย่อยสลายนาน
โดยเริ่มต้นตั้งแต่ต้นทางของการออกแบบบรรจุภัณฑ์ไปจนถึงปลายทางในเรื่องการจัดการขยะอย่างมีประสิทธิภาพ
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแผนปฏิบัติการฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8512 | การสืบสานพระราชปณิธานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และอนุรักษ์ผ้าไทยให้คงอยู่คู่แผ่นดิน และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้และสวมใส่ผ้าไทย ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 9 มิถุนายน 2563 | มท. | 11/05/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการสืบสานพระราชปณิธานสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์
พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง และอนุรักษ์ผ้าไทยให้คงอยู่คู่แผ่นดิน
และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้และสวมใส่ผ้าไทย
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๖๓ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ สรุปได้
ดังนี้ ๑.
ผลการดำเนินงานตามมาตรการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้และสวมใส่ผ้าไทย เช่น
การส่งเสริมและสนับสนุนการสวมใส่ผ้าไทยและผ้าพื้นเมือง
การสร้างการรับรู้มาตรการส่งเสริมและสนับสนุนการใช้และสวมใส่ผ้าไทย
การจัดทำแผนงาน/โครงการรณรงค์การใช้และสวมใส่ผ้าไทยและผ้าพื้นเมือง
และการสร้างความร่วมมือกับภาคเครือข่ายในการรณรงค์ระหว่างภาครัฐ เอกชน และประชาชน
เป็นต้น ๒. ปัญหา อุปสรรค
แนวทางการแก้ไขและข้อเสนอแนะ เช่น ต้นทุนการผลิตสูง เนื่องจากต้องซื้อวัตถุดิบจากนอกพื้นที่
และไม่ได้สั่งซื้อวัตถุดิบอื่น ๆ เช่น ด้าย เข็ม จากโรงงานโดยตรง
รวมถึงกลุ่มทอผ้าขาดทักษะ
เทคนิคการทอไม่มีผู้เชี่ยวชาญในการออกแบบลวดลายที่เป็นอัตลักษณ์
และการให้เฉดสีที่ตรงกลุ่มลูกค้า ตลอดจนผู้ทอผ้าส่วนใหญ่เป็นผู้สูงอายุ ซึ่งแนวทางแก้ไข
เช่น ส่งเสริมการผลิตวัตถุดิบการผลิตในพื้นที่เพื่อลดต้นทุน
ส่งเสริมการเรียนรู้ด้านการออกแบบ ทักษะการตัดเย็บ และความรู้ในด้านต่าง ๆ เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8513 | สรุปมติที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก ครั้งที่ 1/2564 | คค. | 11/05/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปมติที่ประชุมคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก
ครั้งที่ ๑/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔
ซี่งที่ประชุมได้รับทราบและพิจารณาประเด็นต่าง ๆ เช่น (๑) รายงานความคืบหน้าการดำเนินงานตามแผนแม่บทระบบขนส่งมวลชนทางรางในเขตกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
(๒) การดำเนินโครงการระบบทางด่วนขั้นที่ ๓ สายเหนือ และโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำตาล
ช่วงแคราย-ลำสาลี (บึงกุ่ม) และ (๓) แนวทางการปฏิรูปเส้นทางระบบรถโดยสารประจำทางในเขตกรุงเทพมหานครและจังหวัดที่มีเส้นทางต่อเนื่อง
เป็นต้น ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8514 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน รวม 2 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยสีโท เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....) | กษ. | 11/05/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยสามเขา
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....
และร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยสีโท
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยสามเขา
ในท้องที่ตำบลเขากระปุก อำเภอท่ายาง จังหวัดเพชรบุรี
และทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยสีโท ในท้องที่ตำบลหนองมะแซว ตำบลสร้างนกทา
และตำบลคึมใหญ่ อำเภอเมืองอำนาจเจริญ จังหวัดอำนาจเจริญ
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทานจากผู้ใช้น้ำที่นำน้ำไปใช้เพื่อกิจการโรงงาน
การประปา หรือกิจการอื่นนอกจากภาคเกษตรกรรม เพื่อประโยชน์ในการควบคุมดูแลปริมาณน้ำ
และให้การใช้น้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวม ๒ ฉบับ
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
โดยเห็นควรให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตรวจสอบและแก้ไขชื่อผู้มีอำนาจลงนามในแผนที่ท้ายของร่างกฎกระทรวงทั้ง
๒ ฉบับ ให้เป็นปัจจุบันด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8515 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน รวม 2 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยสามเขา เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....) | กษ. | 11/05/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8516 | ขอขยายเวลาในการยื่นคำขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2563 | ทส. | 11/05/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
รับทราบการดำเนินการและผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๓ มิถุนายน
๒๕๖๓ และเห็นชอบขยายเวลาในการยื่นคำขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้
โดยให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐ ยื่นคำขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้
ภายใน ๑๒๐ วัน นับตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติให้ขยายเวลาในการยื่นคำขออนุญาตฯ
ซึ่งผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๓
มีส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐได้มายื่นคำขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้
จำนวน ๕๘,๙๒๓ แห่ง มีจำนวนคำขออนุญาตฯ ที่ยื่นเกินจากบัญชีที่สำรวจไว้เดิมตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๓ จำนวน ๓๘,๑๑๐ แห่ง
เนื่องจากการตรวจสอบพบว่ามีการตกสำรวจและมีจำนวนคำขอที่ยังไม่ได้ยื่นตามบัญชีที่สำรวจไว้เดิม
จำนวน ๑,๐๙๕ แห่ง ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ทั้งนี้ เมื่อครบกำหนดระยะเวลา
๑๒๐ วัน นับแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ขยายเวลาในการยื่นคำขออนุญาตเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ในครั้งนี้แล้ว
ห้ามมิให้ส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐใดเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ก่อนได้รับอนุญาตอีกอย่างเด็ดขาด
และหากปรากฏว่ายังมีส่วนราชการหรือหน่วยงานของรัฐใดฝ่าฝืน
ให้พิจารณาดำเนินการตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด ๒.
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ สำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานศาลปกครอง เช่น
ควรกำหนดหลักเกณฑ์การเข้าทำประโยชน์ในพื้นที่ป่าไม้ให้สอดคล้องกับหลักการจัดการสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
หากส่วนราชการยื่นคำขออนุญาตฯ ไม่ทันภายในกำหนดระยะเวลาที่คณะรัฐมนตรีให้ขยายในคราวนี้อีก
ให้ดำเนินการตามกฎหมายและระเบียบอย่างเคร่งครัดต่อไป เป็นต้น
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8517 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ 15/2564 | นร.11 | 11/05/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติและรับทราบตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ในคราวประชุมครั้งที่ ๑๕/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๔ ซึ่งได้พิจารณาอนุมัติให้นำวงเงินกู้เพื่อการตามมาตรา
๕ (๓) มาใช้เพื่อการตามมาตรา ๕ (๒) เพิ่มเติม (ครั้งที่ ๓) จำนวน ๘๕,๐๐๐ ล้านบาท
เพื่อรองรับการให้ความช่วยเหลือ เยียวยา
ประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙
ในระลอกเดือนเมษายน ๒๕๖๔ อนุมัติโครงการพัฒนาแหล่งน้ำ
บริหารจัดการน้ำและเพิ่มพื้นที่ชลประทาน ของกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
โครงการพัฒนาการตลาดสินค้ากลุ่มผู้ทำการผลิตที่บ้านหลังการแพร่ระบาดของโควิค-๑๙
ของมูลนิธิเพื่อการพัฒนาแรงงานและอาชีพ
และโครงการขององค์กรภาคประชาชนภายใต้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
จำนวน ๒ โครงการ อนุมัติการปรับปรุงรายละเอียดโครงการเราชนะ โครงการ ม๓๓ เรารักกัน
โครงการทัวร์เที่ยวไทย โครงการเราเที่ยวด้วยกัน
โครงการยกระดับเศรษฐกิจในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคภาคตะวันตกด้วย BCG โมเดล
และโครงการศูนย์นวัตกรรมการผลิตหัวเชื้อจุลินทรีย์เพื่ออุตสาหกรรมอาหาร
อนุมัติการยกเลิกการดำเนินโครงการย่อยของจังหวัดศรีสะเกษ
และเห็นชอบการปรับกลไกและกระบวนการในการขับเคลื่อนภายใต้การพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก
รวมทั้งรับทราบการปรับลดกรอบวงเงินของโครงการกำลังใจ ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ
และให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมอบหมายให้หน่วยงานรับผิดชอบแผนงานและโครงการที่มีวัตถุประสงค์ทางการแพทย์และสาธารณสุข
รวมถึงการให้ความช่วยเหลือ เยียวยา
และชดเชยให้กับประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรดติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ เร่งจัดทำข้อเสนอโครงการเพื่อขอใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา
เยียวยา
และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ เพื่อให้สามารถรองรับการบริหารสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ ระลอกในเดือนเมษายน ๒๕๖๔ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
และให้กระทรวงสาธารณสุขและกระทรวงการคลังจัดลำดับความสำคัญก่อนเสนอคณะกรรมการฯ
พิจารณากลั่นกรองก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณา ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒.
รับทราบการปรับกลไกและกระบวนการในการขับเคลื่อนภายใต้โครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานรากให้สอดคล้องกับคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่
๙๙/๒๕๖๔
และการปรับคู่มือการเสนอโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก
ภายใต้กลุ่มแผนงาน/โครงการฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชนบนพื้นฐานของโอกาสและศักยภาพของท้องถิ่น
: ระดับพื้นที่ และมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทยและส่วนราชการที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติตามแนวทางที่กำหนดไว้ในคู่มือดังกล่าว
(ฉบับปรับปรุง) รวมถึงกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องของทางราชการอย่างเคร่งครัด ๓.
ให้เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8518 | การเร่งรัดการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID -19) | นร. | 11/05/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นว่า
ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ ๗ เมษายน ๒๕๖๓
กำหนดให้การบริหารจัดการสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ (COVID-19) เป็นวาระแห่งชาติ
เพื่อให้การบริหารจัดการในเรื่องดังกล่าวเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล
ไปแล้ว นั้น
เพื่อให้การดำเนินการตามนัยมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวเกิดผลเป็นรูปธรรมและสอดคล้องกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙
ในปัจจุบัน
คณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้กระทรวงสาธารณสุขเป็นหน่วยงานหลักเร่งบูรณาการการดำเนินการร่วมกับหน่วยงานต่าง
ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน
กระทรวงศึกษาธิการ กรุงเทพมหานคร และหน่วยงานด้านความมั่นคง เพื่อให้การจัดหา
การกระจาย และการฉีดวัคซีน เป็นไปอย่างรวดเร็ว เหมาะสม ทั่วถึง
ตามลำดับความจำเป็นเร่งด่วน โดยให้ร่วมกันรณรงค์สร้างการรับรู้
ความเข้าใจที่ถูกต้อง
และความเชื่อมั่นแก่ประชาชนให้เข้ารับการฉีดวัคซีนให้มากที่สุด
เพื่อลดจำนวนผู้ป่วยและผู้เสียชีวิต รวมทั้งให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่ในประเทศ
ซึ่งจะช่วยให้สามารถแก้ไขปัญหาและยุติการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙
ได้โดยเร็วอันจะเป็นผลให้สามารถดำเนินการฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมของประเทศให้เข้าสู่ภาวะปกติได้ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8519 | ผลการสำรวจการมีส่วนร่วมของประชาชนตามแผนปฏิรูปประเทศ พ.ศ. 2564 | ดศ. | 11/05/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. รับทราบสรุปผลการสำรวจการมีส่วนร่วมของประชาชนตามแผนปฏิรูปประเทศ
พ.ศ. ๒๕๖๔ ซึ่งสำนักงานสถิติแห่งชาติได้สอบถามประชาชนที่มีอายุตั้งแต่ ๑๘
ปีขึ้นไปทั่วประเทศ จำนวน ๖,๙๗๐ คน ระหว่างวันที่ ๖ มกราคม-๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ โดยผลการสำรวจความคิดเห็นของประชาชนเกี่ยวกับแหล่งข้อมูลที่รับข้อมูลข่าวสารจากหน่วยงานภาครัฐ
ประชาชนส่วนใหญ่รับรู้ข่าวสารจากโทรทัศน์ (ร้อยละ ๘๙.๘) การไปใช้สิทธิเลือกตั้ง
ประชาชนส่วนใหญ่มีส่วนร่วมในการใช้สิทธิเลือกตั้งทุกครั้ง (ร้อยละ ๖๖.๗) การมีส่วนร่วมทางการเมือง
ประชาชนส่วนใหญ่ให้ความร่วมมือกับทางราชการในการพัฒนาประเทศ เช่น เสียภาษี
ปฏิบัติตามกฎหมาย และเป็นพลเมืองที่ดี (ร้อยละ ๘๒.๒) ความเชื่อมั่นต่อระบบธรรมาภิบาล
มีคะแนนเฉลี่ย ๓.๒๐ คะแนน (คะแนนเต็ม ๕ คะแนน)
โดยประชาชนส่วนใหญ่มีความเชื่อมั่นอยู่ในระดับกลาง ๆ/ไม่แน่ใจ (ร้อยละ ๔๔.๗) การมีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น
ประชาชนส่วนใหญ่มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นอยู่ในระดับปานกลาง (ร้อยละ ๓๙.๓)
และการมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศ ประชาชนส่วนใหญ่มีความพึงพอใจอยู่ในระดับปานกลาง
(ร้อยละ ๕๑.๔) และมีข้อเสนอแนะ เช่น รับฟังความคิดเห็นของประชาชนทุกระดับมากขึ้น
และให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตรวจสอบการทำงานของภาครัฐ เป็นต้น ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ ๒.
ให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐรับข้อเสนอแนะเชิงนโยบายของสำนักงานสถิติแห่งชาติ
เช่น ควรประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารผ่านช่องทางที่สะดวก รวดเร็ว และเข้าถึงได้ง่าย
ควรให้ข้อมูล/ข้อเท็จจริงต่อประชาชนเกี่ยวกับการดำเนินงาน
ควรส่งเสริมและสร้างความเข้าใจในทุกระดับ และควรมีการลงพื้นที่เพื่อสอบถามความต้องการ
ความคิดเห็น และรับฟังปัญหาของประชาชน เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓.
ให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐดำเนินการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ผลการดำเนินงานในเรื่องต่าง
ๆ ของหน่วยงานตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๐ ตุลาคม ๒๕๖๓ (เรื่อง
การประชาสัมพันธ์เผยแพร่ผลงานของหน่วยงานและของรัฐบาล)
อย่างต่อเนื่องและจริงจังเพื่อให้ประชาชนได้รับทราบข้อมูลข่าวสารในเรื่องสำคัญต่าง
ๆ ที่อยู่ในความสนใจหรือมีผลกระทบต่อสาธารณชนอย่างถูกต้อง รวดเร็ว และทั่วถึง
รวมทั้งเป็นการป้องกันและแก้ไขปัญหาการรับรู้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและเกิดความเข้าใจที่คลาดเคลื่อนจากการเผยแพร่ข่าวหรือข้อมูลปลอม
(Fake New) ด้วย โดยในการประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารในเรื่องสำคัญ
ๆ ข้างต้น
ให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐประสานส่งข้อมูลดังกล่าวในรูปแบบที่เป็นประเด็นข่าวที่ถูกต้อง
กระชับ ชัดเจน และเข้าใจง่าย
ไปยังสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเพื่อเผยแพร่ผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจ “ไทยคู่ฟ้า” อีกช่องทางหนึ่งด้วย
ทั้งนี้
ให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐกำหนดหน่วยงานหรือผู้รับผิดชอบเพื่อทำหน้าที่ติดตาม
ตรวจสอบ และประเมินผลการเผยแพร่ข้อมูลเรื่องต่าง ๆ ในความรับผิดชอบใน Social
Media ต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง ในกรณีที่พบว่า เรื่องใดมีข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ไม่เป็นจริง
หรือไม่เป็นปัจจุบัน ก็ให้เร่งรัดชี้แจง ทำความเข้าใจ
และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารที่ถูกต้องในทุกช่องทางการสื่อสารที่สามารถดำเนินการได้โดยเร็วที่สุด ๔. ให้ส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐจัดทำสรุปผลการดำเนินงานตามข้อ
๓ เสนอไปยังนายกรัฐมนตรีทุก ๓ เดือน
๕. ให้กระทรวงศึกษาธิการ
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำแนวทางของประเทศฟินแลนด์
(Finland Model) ในการสร้างห้องเรียนให้พลเมืองทุกกลุ่มอาชีพและทุกวัยได้เข้ามาเรียนรู้
เสริมทักษะ และเกิดภูมิคุ้มกันให้รู้เท่าทันสื่อในโลกดิจิทัลและข่าวปลอม ไปศึกษาในรายละเอียดและประยุกต์ใช้ในการจัดการเรียนการสอนในความรับผิดชอบให้เหมาะสมต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8520 | ขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น งบเงินอุดหนุน เพื่อเป็นทุนประเดิมเบื้องต้นให้แก่สภาองค์กรของผู้บริโภค | นร.01 | 11/05/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน
๓๕๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท เพื่อเป็นทุนประเดิมเบื้องต้นให้แก่สภาองค์กรของผู้บริโภค ตามนัยมาตรา
๑๙ แห่งพระราชบัญญัติการจัดตั้งสภาองค์กรของผู้บริโภค พ.ศ. ๒๕๖๒ กำหนด เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายตามแผนการดำเนินงานต่าง
ๆ ที่กำหนดไว้ในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ สำหรับค่าใช้จ่ายส่วนที่เหลือในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ จำนวน ๓๗๘,๒๔๐,๐๐๐ บาท เห็นควรให้สภาองค์กรของผู้บริโภคพิจารณาใช้จ่ายเงินทุนประเดิมที่มีเหลือจ่าย
รวมทั้งรายได้อันเกิดจากค่าลงทะเบียน ค่าบำรุงและค่าบริการที่จะพึงเรียกเก็บจากสมาชิกหรือบุคคลภายนอก
หรือเสนอขอแปรญัตติเพิ่ม ตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
และให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรับความเห็นของกระทรวงการคลังที่เห็นควรให้ความสำคัญในการควบคุม
กำกับ ดูแล การใช้จ่ายเงินงบประมาณของสภาองค์กรผู้บริโภค ให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|