ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 310 จากทั้งหมด 6200 หน้า แสดงรายการที่ 6181 - 6200 จากข้อมูลทั้งหมด 123983 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
6181 | การรับรองร่างปฏิญญาเสียมราฐว่าด้วยการส่งเสริมประชาคมอาเซียนที่สร้างสรรค์และมีการปรับตัวเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจเชิงวัฒนธรรมและเชิงสร้างสรรค์ | วธ. | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบต่อร่างปฏิญญาเสียมราฐว่าด้วยการส่งเสริมประชาคมอาเซียนที่สร้างสรรค์และมีการปรับตัวเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจเชิงวัฒนธรรมและเชิงสร้างสรรค์
(Siem Reap Declaration on Promoting a Creative and
Adaptive ASEAN Community to Support the Cultural and Creative Economy) และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมในฐานะรัฐมนตรีอาเซียนที่กำกับดูแลงานด้านวัฒนธรรมและศิลปะแห่งราชอาณาจักรไทย
รับรองร่างปฏิญญาเสียมราฐว่าด้วยการส่งเสริมประชาคมอาเซียนที่สร้างสรรค์และมีการปรับตัวเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจเชิงวัฒนธรรมและเชิงสร้างสรรค์
(Siem Reap Declaration on Promoting a Creative and Adaptive ASEAN
Community to Support the Cultural and Creative Economy)
โดยร่างปฏิญญาฯ มีสาระสำคัญในการแสดงถึงความตระหนักบทบาทสำคัญของอุตสาหกรรมวัฒนธรรมและอุตสาหกรรมสร้างสรรค์
รวมถึงการแสวงหาการเพิ่มพูนความร่วมมือในภูมิภาคเพื่อส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจสร้างสรรค์ของอาเซียน
ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างปฏิญญาเสียมราฐว่าด้วยการส่งเสริมประชาคมอาเซียนที่สร้างสรรค์และมีการปรับตัวเพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจเชิงวัฒนธรรมและเชิงสร้างสรรค์
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ให้กระทรวงวัฒนธรรมดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงวัฒนธรรมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6182 | การเสนอความเห็นการขอจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือเพื่อการปรับตัวของภาคการผลิตและภาคบริการที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้าของคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน | กค. | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบผลการพิจารณาขอจัดตั้งกองทุนช่วยเหลือเพื่อการปรับตัวของภาคการผลิตและภาคบริการที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้าตามร่างพระราชบัญญัติกองทุนช่วยเหลือเพื่อการปรับตัวของภาคการผลิตและภาคบริการที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า
พ.ศ. .... โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแหล่งเงินทุนสำหรับช่วยเหลือ เยียวยา
และบรรเทาผู้ที่ได้รับหรือคาดว่าจะได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้าในภาคการผลิตทั้งเกษตร
อุตสาหกรรม และภาคบริการ
ตลอดจนพัฒนาศักยภาพการแข่งขันให้สามารถปรับตัวและใช้ประโยชน์จากการเปิดเสรีทางการค้าได้
ซึ่งคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน ในคราวประชุมครั้งที่ ๓/๒๕๖๔
เมื่อวันที่ ๒๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๔ และครั้งที่ ๔/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๓ ธันวาคม ๒๕๖๔
มีมติเห็นชอบในหลักการการขอจัดตั้งกองทุนฯ
และให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศรับข้อสังเกตของที่ประชุมไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
ได้แก่ การดำเนินการในระยะแรกของกองทุนฯ
รัฐบาลควรสนับสนุนงบประมาณเป็นทุนประเดิมครั้งแรก จำนวน ๑,๐๐๐ ล้านบาท และกองทุนฯ
ต้องจัดทำหลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินตามวัตถุประสงค์ที่กำหนดให้ชัดเจน ตามที่คณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียนเสนอ ๒.
ให้กระทรวงพาณิชย์ (กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ)
รับความเห็นของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม สำนักงบประมาณ
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
และคณะกรรมการนโยบายการบริหารทุนหมุนเวียน เช่น (๑)
ควรให้ความช่วยเหลือในการปรับโครงสร้างเพื่อเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขันอย่างยั่งยืนสำหรับประกอบการต่อไป
(๒)
ควรพิจารณาให้ความช่วยเหลือที่มิให้เกิดความซ้ำซ้อนกับกองทุนปรับโครงสร้างการผลิตภาคเกษตรเพื่อเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศ
ของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รวมถึงกองทุนอื่นที่มีอยู่ในปัจจุบันของหน่วยงานต่าง ๆ
(๓) ควรทบทวนสัดส่วนของวงเงินทุนประเดิม
เนื่องจากเป็นวงเงินที่สูงและเป็นการกำหนดที่ไม่สอดคล้องกับหลักการและวิธีการจัดทำงบประมาณประจำปีและวินัยการเงินการคลังของประเทศ
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6183 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (นางเจิมมาศ จึงเลิศศิริ) | ศธ. | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง
นางเจิมมาศ จึงเลิศศิริ เป็นข้าราชการการเมือง
ตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ [ปฏิบัติหน้าที่เลขานุการรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
(คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช)] โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๒๘ มิถุนายน ๒๕๖๕) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6184 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้พื้นที่ตำบลตาสิทธิ์ ตำบลหนองไร่ ตำบลมาบยางพร ตำบลปลวกแดง ตำบลละหาร ตำบลแม่น้ำคู้ อำเภอปลวกแดง ตำบลหนองบัว ตำบลหนองละลอก อำเภอบ้านค่าย และตำบลพนานิคม ตำบลมะขามคู่ ตำบลนิคมพัฒนา ตำบลมาบข่า อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง เป็นเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม พ.ศ. .... | ทส. | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้พื้นที่ตำบลตาสิทธิ์
ตำบลหนองไร่ ตำบลมาบยางพร ตำบลปลวกแดง ตำบลละหาร ตำบลแม่น้ำคู้ อำเภอปลวกแดง
ตำบลหนองบัว ตำบลหนองละลอก อำเภอบ้านค่าย และตำบลพนานิคม ตำบลมะขามคู่
ตำบลนิคมพัฒนา ตำบลมาบข่า อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง
เป็นเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้พื้นที่ตำบลตาสิทธิ์ ตำบลหนองไร่ ตำบลมาบยางพร
ตำบลปลวกแดง ตำบลละหาร ตำบลแม่น้ำคู้ อำเภอปลวกแดง ตำบลหนองบัว ตำบลหนองละลอก
อำเภอบ้านค่าย และตำบลพนานิคม ตำบลมะขามคู่ ตำบลนิคมพัฒนา ตำบลมาบข่า
อำเภอนิคมพัฒนา จังหวัดระยอง เป็นเขตพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม
เพื่อกำหนดมาตรการในการห้ามกระทำหรือประกอบกิจการที่มีผลต่อทรัพยากรธรรมชาติ
และสิ่งแวดล้อมในประเด็นดังกล่าว ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6185 | ขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามมาตรา 151 ของรัฐธรรมนูญ | สผ. | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีเห็นว่า
ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรแจ้งว่า สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคเพื่อไทย
กับคณะ รวม ๑๘๖ คน
ได้เข้าชื่อกันเพื่อเสนอญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปเพื่อลงมติไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล
ตามมาตรา ๑๕๑ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย นั้น
คณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วมีความพร้อมจะไปชี้แจงตามญัตติดังกล่าวต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ตั้งแต่วันอังคารที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๖๕ เป็นต้นไป จึงได้ลงมติ ๑. มอบหมายให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายอนุชา นาคาศัย)
รับไปประสานประธานสภาสภาผู้แทนราษฎรเกี่ยวกับกำหนดวันที่คณะรัฐมนตรีจะไปชี้แจงตามญัตติดังกล่าวต่อที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6186 | ผลการสรรหากรรมการในคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า (นายสมศักดิ์ เกียรติชัยลักษณ์) | สขค | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบรายชื่อผู้ที่ได้รับคัดเลือกเป็นกรรมการในคณะกรรมการการแข่งขันทางการค้า
จำนวน ๑ คน ได้แก่ นายสมศักดิ์ เกียรติชัยลักษณ์
ตามที่คณะกรรมการการสรรหาได้คัดเลือกไว้แล้ว
แทนรองประธานกรรมการเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบเจ็ดสิบปีบริบูรณ์
โดยผู้ได้รับแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6187 | รายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (วันที่ 15 มิถุนายน 2564 กรณีกระทรวงพลังงานกำหนดนโยบายและแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าตามมาตรา 56 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560) | พน. | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี (วันที่ ๑๕ มิถุนายน
๒๕๖๔ กรณีกระทรวงพลังงานกำหนดนโยบายและแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าตามมาตรา ๕๖ วรรคสอง
ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐)
และเห็นชอบให้กระทรวงพลังงานดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติกระทรวงพลังงานและแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศ
พ.ศ. ๒๕๕๘-๒๕๗๙ (PDP 2015)
ซึ่งปรับแผนใหม่เป็นแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๘๐ (PDP
2018) และฉบับปรับปรุง ครั้งที่ ๑ ต่อไป ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
และให้กระทรวงพลังงานรับความเห็นของกระทรวงการคลังและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่เห็นควรดำเนินการตามยุทธศาสตร์ชาติกระทรวงพลังงานและแผน
PDP 2015 ซึ่งปรับแผนใหม่เป็น PDP 2018
และฉบับปรับปรุง ครั้งที่ ๑ เพื่อให้การดำเนินการตามแผนดังกล่าวมีความต่อเนื่อง
และให้ดำเนินการตามยุทธศาสตร์กระทรวงพลังงาน และแผน PDP ดังกล่าวต่อไปตามที่เห็นสมควร
และมอบหมายให้กระทรวงพลังงานแจ้งข้อสั่งการของคณะรัฐมนตรีดังกล่าวให้ผู้ร้องเรียนทราบเพื่อประโยชน์สำหรับการใช้สิทธิของผู้ร้องเรียนตามบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ
พ.ศ. ๒๕๖๑ มาตรา ๔๕ (๓) ไปดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6188 | ร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ครั้งที่ 7 | กต. | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง
ครั้งที่ ๗ จำนวน ๕ ฉบับ ซึ่งเป็นเอกสารที่จะมีการรับรองในการประชุมฯ
ที่จะจัดขึ้นในวันที่ ๔ กรกฎาคม ๒๕๖๕ ที่เมืองพุกาม สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายร่วมให้การรับรองเอกสารผลลัพธ์ฯ
ตามที่ประเทศสมาชิกมีฉันทามติ โดยร่างเอกสารผลลัพธ์ฯ ทั้ง ๕ ฉบับ ประกอบด้วย (๑) แถลงข่าวร่วมของการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง
ครั้งที่ ๗ (๒) แถลงการณ์ณ์ร่วมเพื่อการส่งเสริมความร่วมมือด้านการบริหารจัดการภัยพิบัติ
ภายใต้กรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (๓) แถลงการณ์ร่วมเพื่อการส่งเสริมความร่วมมือด้านการเกษตรและความมั่นคงทางอาหาร
ภายใต้กรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง (๔) แถลงการณ์ร่วมเพื่อการส่งเสริมความร่วมมือด้านศุลกากรเพื่อการส่งเสริมการค้าและการอำนวยความสะดวกด้านพิธีการศุลกากร
ภายใต้กรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง และ (๕)
แถลงการณ์ร่วมเพื่อการส่งเสริมการแลกเปลี่ยนและการเรียนรู้ซึ่งกันและกันระหว่างอารยธรรม
ภายใต้กรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันในระดับรัฐมนตรีระหว่างประเทศสมาชิก
เพื่อส่งเสริมความร่วมมือในด้านต่าง ๆ อาทิ การบริหารจัดการภัยพิบัติ
การเกษตรและความมั่นคงทางอาหาร การพัฒนาระบบศุลกากร
และการร่วมมือทางด้านวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารผลลัพธ์ฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒.
ให้กระทรวงการต่างประเทศได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6189 | ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ครั้งที่ 1/2565 เรื่อง (ร่าง) แผนปฏิบัติการโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก พ.ศ. 2566 - 2570 | สกพอ. | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
รับทราบมติคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ครั้งที่ ๑/๒๕๖๕ เมื่อวันที่
๗ มกราคม ๒๕๖๕ ที่ได้เห็นชอบ (ร่าง)
แผนปฏิบัติการโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภคในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐ มีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาโครงข่ายการคมนาคมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
(EEC) ยกระดับระบบการขนส่งให้เชื่อมโยงกันอย่างไร้รอยต่อทั้งทางถนน
ทางราง ทางน้ำ และทางอากาศ เพื่อพัฒนาระบบการขนส่งและโลจิสติกส์
และสนับสนุนการเดินทางโดยระบบขนส่งสาธารณะของประชาชนในพื้นที่ EEC รวมถึงพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านไฟฟ้าและประปา
เพื่อรองรับการยกระดับขีดความสามารถของพื้นที่ EEC ให้สามารถรองรับกิจกรรมทางเศรษฐกิจ
โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมสมัยใหม่ เมืองใหม่ และกิจกรรมการท่องเที่ยว
ประกอบด้วยโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานและสาธารณูปโภค จำนวน ๗๗ โครงการ
กรอบวงเงินรวม ๓๓๗,๗๙๗.๐๗ ล้านบาท แบ่งเป็นการลงทุนโดยภาครัฐประมาณร้อยละ ๕๓
และการลงทุนโดยภาคเอกชน/การร่วมลงทุนระหว่างภาครัฐและเอกชน (PPP) ประมาณร้อยละ ๔๗ โดยหน่วยงานรับผิดชอบโครงการนั้น ๆ
จะดำเนินการเพื่อให้ได้มาซึ่งงบประมาณจากแหล่งเงินตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
ในฐานะหน่วยงานเลขานุการคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเสนอ ๒.
ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก หน่วยงานรับผิดชอบโครงการ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงมหาดไทย และสำนักงบประมาณ เช่น (๑) ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานภายใต้
แผนปฏิบัติการฯ เห็นควรให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี
และ (๒) การพัฒนาโครงการต่าง ๆ ตามแผนปฏิบัติการฯ
เห็นควรดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
ตามประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ออกตามพระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๓๕
และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๖๑ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6190 | รายงานผลการดำเนินงานของระบบประกันภัยและพัฒนาการที่สำคัญ รอบ 12 เดือน ปี 2564 | กค. | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานของระบบประกันภัยและพัฒนาการที่สำคัญ
รอบ ๑๒ เดือน ปี ๒๕๖๔ ของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย
(สำนักงาน คปภ.) สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ (๑) ภาพรวมธุรกิจประกันภัยของไทย รอบ ๑๒ เดือน
ปี ๒๕๖๔ ขยายตัวร้อยละ ๓.๒๙ เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนและคาดการณ์ว่า
ในปี ๒๕๖๕ ธุรกิจประกันภัยจะมีอัตราการเติบโตร้อยละ ๐.๘๔ ถึง ๒.๘๔ (๒) การดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์สำนักงาน
คปภ. ระยะ ๓ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๖) และตามนโยบายของรัฐบาล เช่น
พัฒนาเครื่องมือและเพิ่มมิติการกำกับดูแลธุรกิจประกันภัย
ยกระดับมาตรฐานการให้บริการด้านการประกันภัย (๓) มาตรการการให้ความช่วยเหลือและบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-๑๙
ต่อผู้เอาประกันภัย ประชาชน ภาคธุรกิจประกันภัย และผู้ประกอบการที่เกี่ยวข้อง เช่น
มาตรการให้บริษัทสามารถให้ส่วนลดอัตราเบี้ยประกันภัยที่ให้ความคุ้มครองโควิด-๑๙
และขยายสิทธิให้ผู้เอาประกันภัยเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลสนามและหอผู้ป่วยเฉพาะกิจ
(๔) การประเมินผลการดำเนินงานปี ๒๕๖๔ มีค่าคะแนนถ่วงน้ำหนักรวมอยู่ที่ ๔.๗๐
จากคะแนนเต็ม ๕ คะแนน และ (๕) ผลสำรวจความพึงพอใจของผู้รับบริการปี ๒๕๖๔
มีระดับความพึงพอใจมากที่สุดที่ร้อยละ ๙๓.๒๐ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6191 | ร่างข้อบังคับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการกำหนดอัตราค่าโดยสารฯ สายเฉลิมรัชมงคล สายฉลองรัชธรรม และอัตราค่าโดยสารร่วม รวม 3 ฉบับ | คค. | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมรายงานว่า
เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระประชาชนจากผลกระทบทางเศรษฐกิจในปัจจุบันตามนโยบายรัฐบาลกระทรวงคมนาคมจะไปเจรจากับ
บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) (BEM) เพื่อชะลอการใช้อัตราค่าโดยสารใหม่สายฉลองรัชธรรม
(สายสีน้ำเงิน) ออกไปก่อน โดยให้คงอัตราค่าโดยสารไว้ราคาเดิมจนถึงวันที่ ๓๑
ธันวาคม ๒๕๖๕ และจะใช้อัตราค่าโดยสารใหม่ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๖๖ เป็นต้นไป ๒. เห็นชอบในหลักการ ๒.๑ ร่างข้อบังคับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
ว่าด้วยการกำหนดอัตราค่าโดยสาร วิธีการจัดเก็บอัตราค่าโดยสาร
และการกำหนดประเภทบุคคลที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องชำระค่าโดยสารการรถไฟฟ้ามหานคร
สายเฉลิมรัชมงคล พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดอัตราค่าโดยสารตามวิธีการในสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน
โดยอัตราค่าโดยสารใหม่จะมีอัตราเริ่มต้นที่ ๑๗ บาท สูงสุด ๔๓ บาท โดยสถานีที่ ๖ , ๙,
๑๑ และ ๑๒ ขึ้นไป จะมีอัตราค่าโดยสารเพิ่มขึ้นจากปัจจุบัน ๑ บาท
อีกทั้งยังกำหนดให้คณะกรรมการการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย อาจประกาศกำหนดผลิตภัณฑ์ของตั๋วโดยสาร
เพื่อส่งเสริมการใช้บริการรถไฟฟ้า เพื่ออำนวยความสะดวกแก่ผู้โดยสารเพื่อสนับสนุนกิจกรรมตามนโยบายของรัฐบาล
หรือเพื่อประโยชน์อื่นใด ๒.๒
ร่างข้อบังคับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย ว่าด้วยการกำหนดอัตราค่าโดยสาร
วิธีการจัดเก็บอัตราค่าโดยสาร
และการกำหนดประเภทบุคคลที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องชำระค่าโดยสารการรถไฟฟ้ามหานคร
สายฉลองรัชธรรม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับให้สอดคล้องกับรถไฟฟ้ามหานคร
สายฉลองรัชมงคล โดยไม่มีการปรับอัตราค่าโดยสาร ๒.๓
ร่างข้อบังคับการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย
ว่าด้วยการกำหนดอัตราค่าโดยสารร่วม พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดอัตราค่าโดยสารใหม่ตามวิธีการในสัญญาสัมปทานโครงการรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน
และกำหนดอัตราค่าโดยสารร่วมให้ครอบคลุมรถไฟฟ้าสายอื่น รวม ๓ ฉบับ
ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ โดยให้กระทรวงคมนาคมแก้ไขร่างข้อบังคับตามข้อ ๒.๓
ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๓. ให้กระทรวงคมนาคม (การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย) รับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรให้การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทยหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ตลอดจนปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้ครบถ้วน
เพื่อให้การดำเนินการตามร่างข้อบังคับดังกล่าวเป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
ควรมีมาตรการส่งเสริมการใช้บริการ เช่น การจัดโปรโมชั่น ตั๋วรายเดือน ตั๋วเป็นชุด
พิจารณากำหนดในรูปแบบการให้ส่วนลดค่าโดยสารและยกเลิกการจัดสวัสดิการรถรับ-ส่งพนักงานควบคู่กันไปด้วย
พร้อมทั้งเร่งพิจารณาจัดทำแผนเพิ่มรายได้เชิงพาณิชย์ของโครงการรถไฟฟ้ามหานคร
สายฉลองรัชธรรม ภายใต้ขอบเขตและอำนาจหน้าที่ของการรถไฟฟ้าขนส่งมวลแห่งประเทศไทย เป็นต้น
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6192 | ผลการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน ครั้งที่ 16 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง | กห. | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีกลาโหมอาเซียน ครั้งที่ ๑๖ (16th ASEAN Defence Ministers’
Meeting : 16th ADMM) และการประชุมที่เกี่ยวข้อง
ระหว่างวันที่ ๒๑-๒๒ มิถุนายน ๒๕๖๕ ณ กรุงพนมเปญ ราชอาณาจักรกัมพูชา โดยมีกระทรวงกลาโหมราชอาณาจักรกัมพูชาเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม
และฝ่ายไทย พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี
เป็นหัวหน้าคณะและผู้รับรองร่างเอกสารผลลัพธ์จำนวน ๘ ฉบับ ซึ่งผลการประชุมฯ
มีความคืบหน้าของความร่วมมือในกรอบการประชุม ADMM
ที่เป็นประเด็นคาบเกี่ยวระหว่างเสาและสาขาความร่วมมือของประชาคมอาเซียน
รวมทั้งความร่วมมือด้านความมั่นคงกับประเทศคู่เจรจา
ที่ส่วนราชการสมควรรับทราบเพื่อเป็นข้อมูลประกอบการดำเนินการความร่วมมือภายใต้กรอบความร่วมมือของอาเซียนในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6193 | ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยนเรศวร พ.ศ. .... [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 27 มิถุนายน 2565)] | นร. | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๕ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยนเรศวร พ.ศ. ....
ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6194 | การโอนข้าราชการเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายภูมินทร ปลั่งสมบัติ) | นร.04 | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติรับโอน นายภูมินทร ปลั่งสมบัติ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษประจำสำนักนายกรัฐมนตรี
(นักบริหารระดับสูง) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี
ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่รองนายกรัฐมนตรี
(นายวิษณุ เครืองาม) เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6195 | การโอนข้าราชการเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรม (นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์) | ยธ. | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้โอน นางพงษ์สวาท
กายอรุณสุทธิ์ รองเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สำนักนายกรัฐมนตรี ไปแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
กระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงยุติธรรมดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป
เพื่อให้นางพงษ์สวาท กายอรุณสุทธิ์
รักษาราชการแทนหรือปฏิบัติหน้าที่ในตำแหน่งปลัดกระทรวงยุติธรรมอีกตำแหน่งได้ตั้งแต่วันที่
๑ กรกฎาคม ๒๕๖๕ เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6196 | การโอนข้าราชการเพื่อแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปรองดอง (นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ) | นร.04 | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้โอน นายวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงยุติธรรม ไปแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ
ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปองดอง สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอ ทั้งนี้ ให้สำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ
ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปองดอง
ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป เพื่อให้นายวิศิษฏ์
วิศิษฏ์สรอรรถ
รักษาราชการแทนหรือปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการสำนักงานขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ
ยุทธศาสตร์ชาติ และการสร้างความสามัคคีปองดอง สำนักนายกรัฐมนตรี ได้ตั้งแต่วันที่
๑ กรกฎาคม ๒๕๖๕ เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6197 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางวารุณี พรรณพานิช วานเดอพิทท์) | สธ. | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางวารุณี พรรณพานิช วานเดอพิทท์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งนายแพทย์เชี่ยวชาญ (ด้านเวชกรรม สาขากุมารเวชกรรม) กลุ่มงานเวชศาสตร์
ภารกิจด้านวิชาการและการแพทย์ สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์ ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ
(ด้านเวชกรรม สาขากุมารเวชกรรม) สถาบันสุขภาพเด็กแห่งชาติมหาราชินี กรมการแพทย์
กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๕ ตุลาคม ๒๕๖๔
ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6198 | แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านอาหารศึกษาในคณะกรรมการอาหารแห่งชาติ | สธ. | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติแต่งตั้ง
รองศาสตราจารย์สิรี ชัยเสรี เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ
(ด้านอาหารศึกษา) ในคณะกรรมการอาหารแห่งชาติ
แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่พ้นจากตำแหน่งก่อนวาระเนื่องจากถึงแก่กรรม ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๘ มิถุนายน
๒๕๖๕) เป็นต้นไป โดยผู้ได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ซึ่งตนแทน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6199 | การแต่งตั้งประธานกรรมการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้ (นายปรเมธี วิมลศิริ) | สบร. | 28/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายปรเมธี
วิมลศิริ เป็นประธานกรรมการสำนักงานบริหารและพัฒนาองค์ความรู้
แทนประธานกรรมการเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบเจ็ดสิบปีบริบูรณ์ ทั้งนี้
ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๘ มิถุนายน ๒๕๖๕) เป็นต้นไป
โดยผู้ได้รับแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของผู้ซึ่งตนแทน
ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์) เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6200 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การบริหารจัดการทรัพยากรดินและข้อเสนอแนะเพื่อขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประเด็นการปฏิรูปที่ 1 ทรัพยากรทางบก ในประเด็นทรัพยากรดิน ของคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา | สว. | 21/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง การบริหารจัดการทรัพยากรดินและข้อเสนอแนะเพื่อขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ประเด็นการปฏิรูปที่ ๑ ทรัพยากรทางบก ในประเด็นทรัพยากรดิน
ของคณะกรรมาธิการการเกษตรและสหกรณ์ วุฒิสภา ซึ่งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นชอบด้วยและมีความเห็นเพิ่มเติม
สรุปได้ว่า ประเด็นการจัดที่ดินเพื่อเกษตรกรรม
ควรมีการทบทวนกำหนดเป้าหมายพื้นที่ป่าไม้ให้สอดคล้องกับการกำหนดพื้นที่สีเขียวทุกประเภทตามเป้าหมายของแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ
(พ.ศ. ๒๕๖๑-พ.ศ. ๒๕๘๐) ประเด็นที่ ๑๘ การเติบโตอย่างยั่งยืน
และในการจัดที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ควรคำนึงถึงความสอดคล้องกับนโยบายป่าไม้แห่งชาติด้วย
ประเด็นการปรับปรุงคุณภาพดิน
ควรจัดทำแผนบูรณาการการปรับปรุงคุณภาพดินและการปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ที่ดินเพื่อลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต
ตลอดจนพัฒนาศักยภาพเกษตรกรผู้ใช้ประโยชน์ที่ดิน และรัฐบาลควรพิจารณาทบทวนการจัดสรรงบประมาณให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อใช้สำหรับการดำเนินงานตามแผนงานโครงการ
ตลอดจนส่งเสริมการมีส่วนร่วมและการบูรณาการของหน่วยงานท้องถิ่นและเกษตรกรในการดำเนินงาน
ประเด็นการปรับเปลี่ยนการใช้ประโยชน์ที่ดิน
ควรจัดทำแผนการเพาะปลูกโดยการกำหนดโซนนิ่งการเพาะปลูก เพื่อให้ผลผลิตสอดคล้องกับความต้องการของตลาด
ซึ่งจะเป็นการลดภาระรัฐบาลในการประกันราคาผลผลิต
ตลอดจนการส่งเสริมด้านการตลาดโดยวิธีสร้างแรงจูงใจเกษตรกรให้เข้าร่วมโครงการด้วยความสมัครใจ
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|