ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 812 จากทั้งหมด 6214 หน้า แสดงรายการที่ 16221 - 16240 จากข้อมูลทั้งหมด 124270 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
16221 | รายงานผลการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2561 | นร07 | 16/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานผลการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม-๓๐ ธันวาคม ๒๕๖๐ งบประมาณ จำนวน ๒,๙๐๐,๐๐๐ ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว จำวน ๘๙๗,๗๖๘ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๓๐.๙๖ สูงกว่าเป้าหมายร้อยละ ๐.๖๗ (เป้าหมายภาพรวมร้อยละ ๓๐.๒๙) จำแนกเป็นรายจ่ายประจำ จำนวน ๒,๒๔๐,๒๑๙ ล้านบาท เบิกจ่ายแล้ว จำนวน ๘๑๐,๕๘๖ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๓๖.๑๘ สูงกว่าเป้าหมายร้อยละ ๓.๑๘ (เป้าหมายรายจ่ายประจำร้อยละ ๓๓.๐๐) และรายจ่ายลงทุน จำนวน ๖๕๙,๗๘๑ ล้านบาท มีการก่อหนี้แล้ว จำนวน ๒๕๓,๑๖๘ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๓๘.๓๗ และเบิกจ่ายแล้ว จำนวน ๘๗,๑๘๒ ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๑๓.๒๑ ต่ำกว่าเป้าหมายร้อยละ ๗.๙๐ (เป้าหมายรายจ่ายลงทุนร้อยละ ๒๑.๑๑) ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ ทั้งนี้ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายลงทุนให้เป็นไปตามเป้าหมายอย่างเคร่งครัด ๒. ให้สำนักงบประมาณได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16222 | การกำหนดสินค้าและบริการควบคุมตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 | พณ | 16/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการกำหนดสินค้าและบริการควบคุมปี ๒๕๖๑ จำนวน ๕๓ รายการ จำแนกเป็น ๔๘ สินค้า และ ๕ บริการ ตามมติคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรประชาสัมพันธ์ให้ผู้ผลิตและจำหน่ายสินค้าและบริการ รวมทั้งประชาชนทั่วไปรับทราบอย่างทั่วถึง และให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องให้ความสำคัญกับการต่อยอดและใช้ประโยชน์ผลงานวิจัยและพัฒนาการแปรรูปยางพาราอย่างจริงจัง เพื่อเพิ่มปริมาณความต้องการ ตลอดจนเพิ่มมูลค่าและยกระดับราคายางพาราภายในประเทศได้อย่างยั่งยืน ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์ได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16223 | แนวทางการตรวจลงตราสำหรับผู้ประกอบการ นักลงทุน และผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศ (SMART Visa) | นร | 16/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบตามที่สำนักงานบริหารนโยบายของนายกรัฐมนตรี (สบ.นร.) เสนอ ๑.๑ เห็นชอบหลักเกณฑ์คุณสมบัติและสิทธิประโยชน์ภายใต้การตรวจลงตราประเภท SMART Visa และมอบหมายให้สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (สกท.) ออกประกาศกำหนดคุณสมบัติผู้มีสิทธิขอ SMART Visa ตามหลักเกณฑ์ดังกล่าว โดยให้สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองและกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้ตรวจสอบคุณสมบัติขั้นพื้นฐานตามกฎหมายเกี่ยวกับคนเข้าเมืองตามอำนาจหน้าที่ ทั้งนี้ ให้กระทรวงแรงงานเร่งรัดกำหนดช่องทางอำนวยความสะดวก (Fast Track) ในการยื่นขอใบอนุญาตทำงาน (Work Permit) ให้แก่บุตรของผู้ถือ SMART Visa ประเภทนักลงทุน ผู้บริหารระดับสูง และผู้ประกอบการวิสาหกิจเริ่มต้น (Startup) ต่อไปด้วย ๑.๒ มอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่รับรองผู้ประกอบการและกิจการต่าง ๆ ตามเงื่อนไขของ SMART Visa และในอนาคต หากมีหน่วยงานอื่น ๆ ที่จะต้องดำเนินการให้มีการรับรองผู้เชี่ยวชาญ ผู้ประกอบการ และกิจการต่าง ๆ เพิ่มเติม ให้ สกท. สามารถพิจารณามอบหมายได้ตามความเหมาะสม ๑.๓ เห็นชอบร่างกฎหมาย จำนวน ๓ ฉบับ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๓.๑ (ร่าง) ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการจัดตั้งศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงาน พ.ศ. ๒๕๔๐ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เพื่อให้ศูนย์บริการวีซ่าและใบอนุญาตทำงานมีอำนาจครอบคลุมการดำเนินการเกี่ยวกับ SMART Visa ๑.๓.๒ (ร่าง) ประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกเข้ามาในราชอาณาจักรชั่วคราวเป็นกรณีพิเศษ สำหรับผู้เชี่ยวชาญทักษะสูง นักลงทุน ผู้บริหารระดับสูง และผู้ประกอบการวิสาหกิจเริ่มต้นตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ... พ.ศ. ๒๕๖๑ ๑.๓.๓ (ร่าง) ประกาศกระทรวงแรงงาน เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวเข้ามาทำงานในราชอาณาจักรได้รับการยกเว้นไม่ต้องปฏิบัติตามพระราชกำหนดการบริหารจัดการการทำงานของคนต่างด้าว พ.ศ. ๒๕๖๐ สำหรับผู้เชี่ยวชาญทักษะสูง นักลงทุน ผู้บริหารระดับสูง และผู้ประกอบการวิสาหกิจเริ่มต้น (SMART Visa) ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ... พ.ศ. ๒๕๖๑ ๑.๔ เห็นชอบให้เริ่มกระบวนการยื่นคำขอ SMART Visa ในวันที่ ๑ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ ๑.๕ เห็นชอบกรอบงบประมาณสำหรับการดำเนินการ SMART Visa ของ สกท. ในปี ๒๕๖๑ ในวงเงิน ๓๘ ล้านบาท โดยให้ สกท. ทำความตกลงกับสำนักงบประมาณต่อไป ๑.๖ เห็นชอบในหลักการการเพิ่มอัตรากำลังคนของ สกท. เพื่อปฏิบัติงานในศูนย์วีซ่าและใบอนุญาตทำงาน ๑.๗ รับทราบขั้นตอนการดำเนินการรับรองคุณสมบัติและการตรวจลงตราประเภท SMART Visa และแผนปฏิบัติงานด้านการประชาสัมพันธ์การให้บริการของ SMART Visa ๒. ให้ สกท. เร่งรัดสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ของผู้ติดตามของผู้ถือ SMART Visa (คู่สมรสและบุตรที่ถูกต้องตามกฎหมาย) ให้ถูกต้องและชัดเจนว่า คู่สมรสของผู้ถือ SMART Visa ทุกประเภท และเฉพาะบุตรที่มีอายุ ๑๘ ปีบริบูรณ์ขึ้นไปของผู้ถือ SMART Visa ประเภทผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น ที่สามารถทำงานในประเทศไทยได้โดยไม่ต้องขอใบอนุญาตทำงาน แต่ต้องไม่เป็นการทำงานในอาชีพและวิชาชีพต้องห้ามตามบัญชีท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดงานในอาชีพและวิชาชีพที่ห้ามคนต่างด้าวทำ พ.ศ. ๒๕๒๒ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ๓. ให้ สกท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงาน ก.พ. ที่ควรมีการติดตามและประเมินผล และปรับปรุงการดำเนินการให้เหมาะสมกับสถานการณ์ รวมถึงรายงานผลการดำเนินงานและผลสัมฤทธิ์จากการดำเนินแนวทางดังกล่าวต่อคณะรัฐมนตรีในโอกาสแรกด้วย สำหรับการจัดหาบุคลากรเพื่อปฏิบัติงานในศูนย์วีซ่าและใบอนุญาตทำงาน ควรจ้างบุคลากรจากภาคเอกชนในระยะแรกไปพลางก่อน หากจำเป็นต้องใช้บุคลากรภาครัฐในระยะต่อไปให้ดำเนินการตามแนวทางที่คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐกำหนด ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๔. ให้ สบ.นร. ได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16224 | การจัดตั้งสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุคุโอะกะ และการปรับเขตกงสุลของสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา | กต | 16/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้ ๑.๑ การจัดตั้งสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุคุโอะกะ ประเทศญี่ปุ่น โดยให้มีเขตกงสุลครอบคลุมภูมิภาคคิวชูและโอะกินะวะ และภูมิภาคจูโกะกุ ๑.๒ การปรับเขตกงสุลของสถานกงสุลใหญ่ ณ นครโอซากา ประเทศญี่ปุ่น ให้ครอบคลุมภูมิภาคคันไซและภูมิภาคชิโกะกุ ๒. ในส่วนของการกำหนดกรอบอัตรากำลังของสถานกงสุลใหญ่ ณ เมืองฟุคุโอะกะ ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16225 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (กระทรวงพาณิชย์) (จำนวน 5 ราย 1. นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ ฯลฯ) | พณ | 16/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงพาณิชย์ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๕ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ดังนี้
๑. นายอดุลย์ โชตินิสากรณ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ ๒. นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ ๓. นายพิทักษ์ อุดมวิชัยวัฒน์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๔. นายสมศักดิ์ เกียรติชัยลักษณ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๕. นายสมเด็จ สุสมบูรณ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16226 | แต่งตั้งกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี (นายพงศธร สัจจชลพันธ์) | นร04 | 16/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายพงศธร สัจจชลพันธ์ เป็นกรรมการผู้ช่วยรัฐมนตรี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่นายกรัฐมนตรีลงนามในประกาศแต่งตั้งและมอบหมายให้เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16227 | แต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (จำนวน 5 คน 1. นายภูมิพัฒน์ สินาเจริญ ฯลฯ) | ทส | 16/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. เห็นชอบแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ จำนวน ๕ คน แทนกรรมการเดิมที่ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี เมื่อวันที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๖๐ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๖ มกราคม ๒๕๖๑) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ดังนี้ ๑.๑ นายภูมิพัฒน์ สินาเจริญ ๑.๒ นายอานนท์ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา ๑.๓ นายอภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล ๑.๔ นายอวยชัย คูหากาญจน์ ๑.๕ นายพีรพันธ์ คอทอง ๒. ให้องค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ดำเนินการแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ดังกล่าวในครั้งต่อไป ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่องตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๙ (เรื่อง การดำเนินการแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการต่าง ๆ ตามที่กฎหมายบัญญัติ ให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาตามกฎหมาย)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16228 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (จำนวน 5 คน 1. นายกำจร ตติยกวี ฯลฯ) | วท | 16/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการองค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ จำนวน ๕ คน แทนกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี เมื่อวันที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๖ มกราคม ๒๕๖๑) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. นายกำจร ตติยกวี ๒. นายธวัชชัย กิตรัตนะกุล ๓. นายชาติชาย โรจนรัตนางกูร ๔. นายอภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล ๕. นายพงศ์สุข หิรัญพฤกษ์
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16229 | การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม และ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี) | กก | 16/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามความในมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ จำนวน ๒ ราย ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ ตามลำดับ ดังนี้ ๑.๑ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ๑.๒ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ๒. ให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๖๐ (เรื่อง การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา) ทั้งนี้ ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๖ มกราคม ๒๕๖๑) เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16230 | การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม [รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (นายสุวิทย์ เมษินทรีย์) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์)] | อก | 16/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้ยกเลิกมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๖๐ เรื่อง การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม และอนุมัติเป็นหลักการมอบหมายให้รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ และกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. ๒๕๓๔ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๖ มกราคม ๒๕๖๑) เป็นต้นไป ตามลำดับ ดังนี้
๑. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (นายสุวิทย์ เมษินทรีย์) ๒. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16231 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์) (นายพลัฏฐ์ ศิริกุลพิสุทธิ์) | พณ | 16/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง นายพลัฏฐ์ ศิริกุลพิสุทธิ์ เป็นข้าราชการการเมือง ตำแหน่งเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๖ มกราคม ๒๕๖๑) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16232 | การมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาประเทศไทยสู่ความยั่งยืน | นร | 16/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการการมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาประเทศไทยสู่ความยั่งยืน ตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอ และมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย ส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องโดยด่วนต่อไป ดังนี้
๑. กำหนดกรอบหลักการในการดำเนินการเพื่อการมีส่วนร่วมในการพัฒนาประเทศไทยสู่ความยั่งยืน ๑.๑ คนไทยรักกัน ด้วยการสร้างความสามัคคีปรองดอง จัดให้มีการทำสัญญาประชาคม หรือเรียกอย่างอื่นให้เป็นที่ยอมรับของทุกฝ่ายเพื่อรับรู้และปฏิบัติตามร่วมกัน ๑.๒ คนไทยไม่ทิ้งกัน ด้วยการดูแลผู้มีรายได้น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่ลงทะเบียนโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ ๑.๓ เมืองไทยน่าอยู่ ด้านการพัฒนาความเป็นอยู่ อาชีพ และรายได้ให้แก่ประชาชน ๑.๔ วิถีไทยวิถีพอเพียง ด้วยการส่งเสริมให้นำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาใช้ในการดำเนินชีวิต รวมทั้งเสริมสร้างวินัยการออมในทุกช่วงอายุ ๑.๕ รู้สิทธิ รู้หน้าที่ ด้วยการให้ความรู้แก่ประชาชนในเรื่องสิทธิ หน้าที่ และการเป็นพลเมืองที่ดี ๑.๖ รู้กลไกการบริหารราชการ ด้วยการให้ความรู้แก่ประชาชน ทั้งเรื่องกลไกการบริหารราชการแผ่นดินแต่ละระดับ และการบริหารงบประมาณที่มุ่งประโยชน์แก่ประชาชน ๑.๗ รู้รักประชาธิปไตย ด้วยการให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับหลักธรรมาภิบาล ๑.๘ รู้เท่าทันเทคโนโลยี ด้วยการให้ความรู้แก่ประชาชนเกี่ยวกับเทคโนโลยี ให้ความสำคัญต่อการเข้าถึงข้อมูลที่ถูกต้องผ่านโครงการสำคัญ เช่น อินเทอร์เน็ตหมู่บ้าน ๑.๙ บูรณาการการดำเนินงานของทุกภาคส่วนในการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดอย่างครบวงจร ๒. ให้มีคณะกรรมการดำเนินการขับเคลื่อนทุกระดับ โดยแต่งตั้ง (๑) คณะอำนวยการขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาประเทศไทยสู่ความยั่งยืน มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน (๒) คณะกรรมการขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาประเทศไทยสู่ความยั่งยืนระดับจังหวัด มีผู้ว่าราชการจังหวัดเป็นประธาน และ (๓) คณะกรรมการขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาประเทศไทยสู่ความยั่งยืนระดับอำเภอ มีนายอำเภอเป็นประธาน ทั้งนี้ ให้มีทีมขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาประเทศไทยสู่ความยั่งยืนระดับตำบล ประกอบด้วยข้าราชการและหน่วยงานความมั่นคง ปราชญ์ชาวบ้าน และจิตอาสาในพื้นที่ เพื่อผนึกกำลังจากทุกภาคส่วนในพื้นที่ร่วมกันดำเนินการตามแนวทางประชารัฐ ๓. ให้กระทรวงมหาดไทยเตรียมการจัดประชุมผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อที่นายกรัฐมนตรีจะมอบนโยบายและวางกรอบการปฏิบัติร่วมกันให้แก่ส่วนราชการ หน่วยงาน เพื่อนำไปสู่การปฏิบัติที่เกิดผลสัมฤทธิ์ในพื้นที่ต่อไป ๔. ให้ทุกส่วนราชการ หน่วยงานที่มีหรือจะมีโครงการ/กิจกรรมที่จะดำเนินการในระดับตำบล หมู่บ้าน บูรณาการการดำเนินการร่วมกันตามแนวทางประชารัฐ โดยใช้ทีมขับเคลื่อนการมีส่วนร่วมเพื่อพัฒนาประเทศไทยไปสู่ความยั่งยืนระดับตำบลเป็นแกนหลัก รวมทั้งสนับสนุนกลไกการขับเคลื่อนในพื้นที่ทุกระดับด้วย ๕. ให้เริ่มขับเคลื่อนการดำเนินการตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ เป็นต้นไป โดยให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาปรับแผนการดำเนินงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณเพื่อการดำเนินการต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16233 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 16/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ๑.๑ ตามที่นายกรัฐมนตรีได้มีข้อสั่งการให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการทางกฎหมายกับผู้ประกอบการและผู้ควบคุมเรือที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุการสัญจรทางน้ำ รวมทั้งพิจารณาแก้ไข ปรับปรุง กฎระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการเดินเรือในน่านน้ำไทยให้มีความปลอดภัยตามหลักมาตรฐานสากล โดยเฉพาะการกำกับดูแลผู้ประกอบการและผู้ควบคุมเรืออย่างเคร่งครัด การปรับปรุงบทลงโทษให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และการพิจารณาการออกใบอนุญาตให้กับเจ้าของเรือและผู้ควบคุมเรืออย่างเข้มงวด ตลอดจนการปลูกจิตสำนึกทุกภาคส่วนทั้งผู้ประกอบการ ผู้ควบคุมเรือ และประชาชนผู้ใช้บริการในการปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด นั้น ให้กระทรวงคมนาคมเร่งรัดการดำเนินการตามข้อสั่งการดังกล่าวให้เกิดผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว ทั้งนี้ ให้พิจารณาดำเนินการให้ครอบคลุมถึงกรณีผู้ประกอบการและผู้ควบคุมเรือโดยสารและเรือที่ให้บริการนักท่องเที่ยว เช่น เรือสปีดโบ็ต เรือเฟอร์รี่ เป็นต้น และให้รายงานความคืบหน้าในการดำเนินการเรื่องนี้ให้นายกรัฐมนตรีทราบโดยด่วนด้วย ๑.๒ ให้กระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงคมนาคม กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ดำเนินการตรวจสอบและกำกับดูแลการกำหนดราคาจำหน่ายสินค้าและอาหารของร้านค้าต่าง ๆ ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่ท่าอากาศยานทุกแห่งให้เหมาะสมและเป็นธรรมแก่ผู้ซื้อ รวมถึงให้พิจารณาดำเนินการจัดให้มีร้านค้าที่เป็นทางเลือกสำหรับผู้มาใช้บริการท่าอากาศยาน ให้สามารถเลือกซื้อสินค้าและอาหารในราคาที่ย่อมเยากว่าได้ ๒. ด้านสังคม ให้กระทรวงการคลังเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงแรงงาน กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์พิจารณาความเหมาะสมและความเป็นไปได้ในการกำหนดมาตรการส่งเสริมและจูงใจให้ภาคเอกชนเข้ามาดำเนินกิจการต่าง ๆ ที่เป็นการเตรียมความพร้อมรองรับการเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุของไทย เช่น การให้สิทธิประโยชน์ทางภาษีแก่ภาคเอกชนที่ประกอบการเกี่ยวกับการจัดสถานที่ดูแลผู้สูงอายุ การส่งเสริมการประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้องกับการดูแลผู้สูงอายุ เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16234 | การจัดประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ 1/2561 | นร05 | 16/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีรายงานว่า ในการจัดประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ครั้งต่อไปในพื้นที่ภาคตะวันออก นายกรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบในหลักการให้จัดการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ ครั้งที่ ๑/๒๕๖๑ ระหว่างวันที่ ๕-๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ โดยให้จัดการตรวจราชการของนายกรัฐมนตรีในวันที่ ๕ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ ณ จังหวัดตราด และจัดการประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ ๖ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๑ ณ จังหวัดจันทบุรี ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16235 | ร่างพระราชบัญญัติธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ) (วันจันทร์ที่ 15 มกราคม 2561) | นร | 16/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ วันจันทร์ที่ ๑๕ มกราคม ๒๕๖๑ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ต่อสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16236 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน และร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะดำเนินการเพื่อกิจการขนส่งมวลชน เพื่อดำเนินโครงการรถไฟฟ้า สายสีม่วง ช่วงเตาปูน - ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) รวม 2 ฉบับ | คค | 09/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา รวม ๒ ฉบับ เพื่อกำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืนเพื่อดำเนินกิจการรถไฟฟ้า ในส่วนที่เกี่ยวกับการจัดสร้างโครงการขนส่งด้วยระบบรถไฟฟ้า สถานที่จอดรถสำหรับผู้โดยสาร และกิจการอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับกิจการรถไฟฟ้า และเพื่อประโยชน์ในการดำเนินกิจการขนส่งมวลชนตามโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ (วงแหวนกาญจนาภิเษก) ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะเวนคืน ในท้องที่เขตบางซื่อ เขตดุสิต เขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตสัมพันธวงศ์ เขตธนบุรี เขตคลองสาน เขตจอมทอง เขตราษฎร์บูรณะ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร และอำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินในบริเวณที่ที่จะดำเนินการเพื่อกิจการขนส่งมวลชน ในท้องที่เขตบางซื่อ เขตดุสิต เขตพระนคร เขตป้อมปราบศัตรูพ่าย เขตสัมพันธวงศ์ เขตธนบุรี เขตคลองสาน เขตจอมทอง เขตราษฎร์บูรณะ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร และอำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ พ.ศ. .... ๒. มอบหมายให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงวัฒนธรรม และสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กระทรวงคมนาคม โดยการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เร่งรัดจัดทำรายงานชี้แจงเพิ่มเติมและดำเนินการตามมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ในคราวประชุมครั้งที่ ๔/๒๕๕๙ รวมทั้งในการกำหนดบริเวณที่ที่จะเวนคืนและดำเนินการเพื่อกิจการขนส่งมวลชนตามร่างพระราชกฤษฎีกาทั้ง ๒ ฉบับ ควรคำนึงถึงผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับโบราณสถาน ทั้งโบราณสถานที่อยู่เหนือพื้นดิน และโบราณสถานที่อยู่ในบนแนวเส้นทางหรือใกล้เคียงกับแนวเส้นทางรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงเตาปูน-ราษฎร์บูรณะ และอาคารที่ก่อสร้างเกี่ยวเนื่องกับโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง นอกจากนี้ ควรเร่งรัดการดำเนินการตามขั้นตอนพระราชบัญญัติการให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ พ.ศ. ๒๕๕๖ เพื่อให้สามารถเปิดให้บริการโครงการได้ทันทีเมื่อการก่อสร้างงานโยธาแล้วเสร็จ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16237 | มาตรการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการประกันภัย | กค | 09/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณามาตรการป้องกันการทุจริตเกี่ยวกับการประกันภัยของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ซึ่งกระทรวงการคลังได้ประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว เมื่อวันที่ ๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๐ โดยที่ประชุมเห็นว่า ในปัจจุบันหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยและสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคมีกลไกการแก้ไขปัญหาเรื่องร้องเรียนและการให้ความคุ้มครองผู้บริโภคเกี่ยวกับการประกันภัยที่มีประสิทธิภาพอยู่แล้ว นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยยังได้ดำเนินมาตรการและนโยบายต่าง ๆ เกี่ยวกับการคุ้มครองสิทธิของผู้เอาประกันภัยและประชาชน ซึ่งเป็นมาตรการที่นอกเหนือจากมาตรการของคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ ได้แก่ การเพิ่มประสิทธิภาพการจ่ายค่าเสียหายเบื้องต้นแก่ผู้ประสบภัยจากรถ การจัดทำหลักเกณฑ์และเงื่อนไขการโฆษณาเสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตผ่านสื่อโฆษณา และการกำกับดูแลการเสนอขายผลิตภัณฑ์ประกันภัยผ่านตัวแทนประกันภัยและนายหน้าประกันภัย ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้แจ้งคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติทราบด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16238 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ แบบหนังสือสำคัญ และอัตราค่าธรรมเนียมในการออกหนังสือสำคัญประจำตัวคนประจำเรือ พ.ศ. .... | คค | 09/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์ วิธีการ แบบหนังสือสำคัญ และอัตราค่าธรรมเนียมในการออกหนังสือสำคัญประจำตัวคนประจำเรือ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ แบบหนังสือสำคัญ และอัตราค่าธรรมเนียมในการออกหนังสือสำคัญประจำตัวคนประจำเรือ ตามมาตรา ๒๘๕/๑ แห่งพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย พุทธศักราช ๒๔๕๖ ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติการเดินเรือในน่านน้ำไทย (ฉบับที่ ๑๗) พ.ศ. ๒๕๖๐ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กรมเจ้าท่าพิจารณาจัดทำฐานข้อมูลสำคัญประจำตัวคนประจำเรือให้เป็นระบบเพื่อใช้ประโยชน์ในการสนับสนุนมาตรการป้องกัน ยับยั้ง และขจัดการทำการประมงโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ขาดการรายงาน และไร้การควบคุม (Illegal, Unreported and Unregulated Fishing : IUU Fishing) และพิจารณาความเป็นไปได้ในการพัฒนาระบบอิเล็กทรอนิกส์สำหรับใช้เป็นช่องทางยื่นคำขอหนังสือสำคัญประจำตัวคนประจำเรือเพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ขอรับบริการและเพื่อให้ดำเนินการตามกฎกระทรวงฯ เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16239 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท รวม 4 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดนครสวรรค์ พ.ศ. ....) | มท | 09/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท รวม ๔ ฉบับ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท เพื่อประโยชน์ในด้านการป้องกันอัคคีภัย การรักษาคุณภาพสิ่งแวดล้อม การผังเมือง การสถาปัตยกรรมและการอำนวยความสะดวกแก่การจราจร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑.๑ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดนครสวรรค์ พ.ศ. .... ๑.๒ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดสกลนคร พ.ศ. .... ๑.๓ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดสุโขทัย พ.ศ. .... ๑.๔ ร่างกฎกระทรวงกำหนดบริเวณห้ามก่อสร้าง ดัดแปลง หรือเปลี่ยนการใช้อาคารบางชนิดหรือบางประเภท ในพื้นที่บางส่วนในท้องที่จังหวัดอำนาจเจริญ พ.ศ. .... ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรให้กรมโยธาธิการและผังเมืองกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นควบคุมการขออนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลงอาคารพาณิชยกรรมประเภทค้าปลีกค้าส่งให้เป็นไปตามกฎกระทรวงดังกล่าวอย่างเข้มงวด ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16240 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. .... | สว | 09/01/2561 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญในการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. .... และข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พ.ศ. .... โดยสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งได้เตรียมออกระเบียบหรือประกาศเพื่อดำเนินการตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้แล้ว และได้จัดทำระบบฐานข้อมูลเพื่อเป็นมาตรการหรือเครื่องมือในการจัดเก็บรักษาความปลอดภัยข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ร่วมกันจัดตั้งพรรคการเมืองและสมาชิกพรรคการเมืองตามพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ. ๒๕๔๐ แล้ว รวมทั้งได้พิจารณาจัดตั้งสถาบันวิทยาการพรรคการเมือง เพื่อส่งเสริม สนับสนุน และสร้างกระบวนการรับรู้เกี่ยวกับการปกครองในระบอบประชาธิปไตยให้ประชาชนหรือสมาชิกพรรคการเมือง ตลอดจนแต่งตั้งผู้ทรงคุณวุฒิเป็นคณะกรรมการกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองด้วยแล้ว สำหรับกรณีให้พรรคการเมืองจัดทำแผนงานโครงการที่จะดำเนินการแจ้งให้คณะกรรมการการเลือกตั้งทราบล่วงหน้าก่อนที่จะมีการจัดสรรเงินอุดหนุนให้แก่พรรคการเมือง ยังมีประเด็นว่าจะดำเนินการได้หรือไม่ เนื่องจากร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ได้บัญญัติให้อำนาจไว้ ส่วนแนวทางการพิจารณาว่าร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญฉบับนี้ตรงตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยหรือไม่ และกรณีที่คณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญเห็นควรให้คณะกรรมการการเลือกตั้งนำความเห็นของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ เช่น กระบวนการในการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง เป็นต้น ไปเป็นแนวทางในการออกกฎหมายลำดับรองและในการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการการเลือกตั้งนั้น จะได้นำมาพิจารณาดำเนินการต่อไป ตามมาตรา ๒๖๗ วรรคห้า ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอและแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป
|
.....