ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 638 จากทั้งหมด 6212 หน้า แสดงรายการที่ 12741 - 12760 จากข้อมูลทั้งหมด 124231 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
12741 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายสราวุธ ชีวะประเสริฐ) | นร | 02/07/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายสราวุธ ชีวะประเสริฐ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านยุทธศาสตร์น้ำ (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๑๑ เมษายน ๒๕๖๒ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12742 | ขออนุมัติการจ่ายเงินทดแทนการประกันชีวิตย้อนหลังแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เสียชีวิตหรือบาดเจ็บทุพพลภาพถึงขั้นปลดออกจากราชการ เพิ่มเติม | นร01 | 02/07/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติการจ่ายเงินทดแทนการประกันชีวิตย้อนหลังให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เสียชีวิตหรือบาดเจ็บทุพพลภาพถึงขั้นปลดออกจากราชการ ตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๔๗ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๒ เพิ่มเติม จำนวน ๗๙ ราย รายละ ๕๐๐,๐๐๐ บาท เป็นจำนวนเงิน ๓๙,๕๐๐,๐๐๐ บาท โดยให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีดำเนินการประสานงานกับสำนักงบประมาณในการจ่ายเงินทดแทนการประกันชีวิตดังกล่าวต่อไป ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ ๒. ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติและสำนักงบประมาณที่เห็นควรให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้และสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี รวมทั้งผู้ว่าราชการจังหวัด ซึ่งเป็นผู้รับผิดชอบพื้นที่ร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง ครบถ้วนของเอกสาร หลักฐานต่าง ๆ ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด เพื่อป้องกันความซ้ำซ้อนและสร้างความโปร่งใสในการใช้จ่ายงบประมาณของภาครัฐอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ รวมถึงตรวจสอบผู้มีสิทธิได้รับเงินทดแทนการประกันชีวิตเพิ่มเติม จำนวน ๗๙ ราย กับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ที่เสียชีวิตหรือบาดเจ็บทุพพลภาพถึงขั้นปลดออกจากราชการตั้งแต่วันที่ ๑ มกราคม ๒๕๔๗ ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๕๒ จำนวน ๑,๒๒๘ ราย ที่ได้เงินทดแทนการประกันชีวิตย้อนหลังไปก่อนหน้านี้เพื่อไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนโดยคำนึงถึงผลประโยชน์สูงสุดของทางราชการ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12743 | สรุปผลการประชุมสมัชชาสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ 4 | ทส | 02/07/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบสรุปผลการเข้าร่วมการประชุมสมัชชาสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ สมัยที่ ๔ (The fourth session of the United Nations Environment Assembly : UNEA 4) ระหว่างวันที่ ๑๑-๑๕ มีนาคม ๒๕๖๒ โดยมีนายเชิดเกียรติ อัตถากร เอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงไนโรบี และผู้แทนถาวรแห่งประเทศไทยประจำโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ ทำหน้าที่หัวหน้าคณะผู้แทนไทย ซึ่งในที่ประชุมฯ ประเทศสมาชิกได้ร่วมกันรับรองข้อมติ (Resolutions) และข้อตัดสินใจ (Decisions) เพื่อเป็นแนวทางปฏิบัติสำหรับประเทศสมาชิก รวมถึงได้ร่วมกันรับรองปฏิญญาระดับรัฐมนตรี (Ministerial Declaration) ซึ่งเป็นแนวทางการจัดการสิ่งแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน โดยใช้นวัตกรรมการเปลี่ยนรูปแบบการผลิตและการบริโภคให้ยั่งยืน รวมทั้งการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพและการลดมลพิษ และมอบหมายส่วนราชการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ ๒. ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและข้อสังเกตของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมที่เห็นควร (๑) มีการจัดการประชุมชี้แจงเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจแก่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการตามข้อมติของการประชุมฯ และมีระบบติดตามผลการดำเนินงาน รวมทั้งปัญหาอุปสรรคที่เกิดขึ้น เพื่อให้การดำเนินงานมีความสอดประสานและบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และ (๒) ในข้อมติ L.3 Promoting sustainable practices and innovative solutions for Curbing Food Loss and Waste เกี่ยวกับการวางแนวทางหรือมาตรการแก้ไขปัญหาและการพัฒนานวัตกรรมเพื่อรองรับข้อมตินี้ ควรพิจารณาการกำหนดให้การรวบรวมข้อมูลเชิงวิชาการในประเทศที่เกี่ยวข้อง สิ่งที่ส่งผลต่อการสูญเสียอาหารและขยะที่เกิดจากอาหาร ตลอดจนการส่งเสริมให้มีการวิจัยเพื่อให้ได้ข้อมูลครบถ้วนขึ้นเป็นประเด็นสำคัญอีกประเด็นหนึ่ง เพื่อให้การวางแนวทางต่าง ๆ เหมาะสมกับบริบทของประเทศ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12744 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานแม่น้ำน้อย เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานแม่น้ำน้อย เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... ) | กษ | 02/07/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน รวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานแม่น้ำน้อย เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานแม่น้ำน้อย จากกิโลเมตรที่ ๑๒๗.๒๐๐ ประตูระบายน้ำผักไห่ ในท้องที่ตำบลบ้านใหญ่ อำเภอผักไห่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ถึงกิโลเมตรที่ ๑๔๔.๑๘๐ ในท้องที่ตำบลเสนา อำเภอเสนา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน ๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานแม่น้ำเจ้าพระยา จากกิโลเมตรที่ ๗๙.๐๐๐ ในท้องที่ตำบลโกรกพระ และตำบลยางตาล อำเภอโกรกพระ จังหวัดนครสวรรค์ ถึงกิโลเมตรที่ ๙๘.๐๐๐ ในท้องที่ตำบลปากน้ำโพ อำเภอเมืองนครสวรรค์ จังหวัดนครสวรรค์ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12745 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน รวม 4 ฉบับ | กษ | 02/07/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน รวม ๔ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้
๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำวังปลาหมอ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำวังปลาหมอ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน เพื่อให้เกิดประโยชน์จากการใช้น้ำอย่างเต็มที่ ๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยแร้ง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มี่สาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยแรง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน เพื่อให้เกิดประโยชน์จากการใช้น้ำอย่างเต็มที่ ๓. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งขวาของอ่างเก็บน้ำกิ่วลม เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งขวาของอ่างเก็บน้ำกิ่วลม เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน เพื่อให้เกิดประโยชน์จากการใช้น้ำอย่างเต็มที่ ๔. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำกิ่วคอหมา เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำกิ่วคอหมา เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน เพื่อให้เกิดประโยชน์จากการใช้น้ำอย่างเต็มที่
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12746 | การขายที่ดินและอาคารที่ทำการสถานเอกอัครราชทูต (หลังเดิม) ณ กรุงเวลลิงตัน ประเทศนิวซีแลนด์ | กค | 02/07/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการขายที่ดินและอาคารที่ทำการสถานเอกอัครราชทูต (หลังเดิม) ณ กรุงเวลลิงตัน ประเทศนิวซีแลนด์ ขนาดพื้นที่ใช้สอย ๒๖๐ ตารางเมตร พร้อมที่ดิน ๒ แปลง ขนาด ๑,๓๖๕ ตารางเมตร โดยกำหนดราคาขายขั้นต่ำ ๑,๔๕๐,๐๐๐ ดอลลาร์นิวซีแลนด์ ในกรณีที่ไม่สามารถหาผู้ซื้อได้ในราคาที่กำหนดไว้ ก็ให้อยู่ในดุลยพินิจของกระทรวงการต่างประเทศในการดำเนินการขายที่ดินและอาคารในราคาที่ต่ำกว่าที่กำหนดได้ไม่เกินร้อยละ ๑๐ และนำเงินที่ได้รับจัดส่งเป็นรายได้แผ่นดิน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นควรคำนึงถึงการบริหารจัดการทรัพย์สินตามนัยมาตรา ๔๔ ของพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12747 | การกำหนดสินค้าและบริการควบคุมตามพระราชบัญญัติว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542 | พณ | 02/07/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการกำหนดสินค้าและบริการควบคุม ปี ๒๕๖๒ จำนวน ๕๒ รายการ จำแนกเป็น ๔๖ สินค้า และ ๖ บริการ ตามมติคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ ในการประชุมครั้งที่ ๓/๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๒๘ มิถุนายน ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ และให้กระทรวงพาณิชย์ โดยคณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการรับความเห็นของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับกรณีหากมีการกำหนดราคาซื้อหรือราคาจำหน่ายสินค้าควบคุม จำนวน ๕ รายการ ได้แก่ ก๊าซปิโตรเลียมเหลว น้ำมันเชื้อเพลิง รถจักรยานยนต์ รถยนต์นั่ง รถยนต์บรรทุก ขอให้คำนึงถึงผลกระทบจากการที่กรมสรรพสามิตมีปรับเปลี่ยนโครงสร้างและอัตราภาษีอยู่เป็นระยะ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12748 | ขออนุมัติในหลักการให้ดำเนินการจัดซื้อที่ดินพร้อมอาคารที่ทำการคณะผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการค้าโลกและองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก | พณ | 02/07/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่ให้กระทรวงพาณิชย์ โดยคณะผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการค้าโลกและองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลกเปลี่ยนแปลงสถานที่ในการจัดซื้อที่ทำการ จากเดิม อาคารเลขที่ 3 chemin des Colombieres, Versoix เป็น อาคารเลขที่ ๗๙-๘๑ Route De Valavran, 1293 Bellevue สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินการดังกล่าวให้จัดทำประมาณการรายละเอียดของรายการค่าใช้จ่ายให้ถูกต้องครบถ้วน พร้อมจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ ไม่เกินกว่ากรอบวงเงินที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปี โดยพิจารณาถึงความประหยัด คุ้มค่า ต้นทุนที่เหมาะสม ผลสัมฤทธิ์ ประโยชน์ที่รัฐหรือประชาชนจะได้รับ ความเสี่ยงและความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นอย่างรอบคอบ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงสถานที่ที่จะจัดซื้อใหม่ให้กระทรวงพาณิชย์เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการขอยกเว้นการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีในกรณีที่มีความจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงสถานที่จัดซื้อใหม่และเปลี่ยนแปลงรายละเอียดค่าใช้จ่ายตามความจำเป็นและเหมาะสมภายใต้กรอบวงเงินงบประมาณเดิมตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแล้วนั้น การดำเนินการดังกล่าวต้องคำนึงถึงมูลค่าที่ดินและสิ่งปลูกสร้างที่สอดคล้องกับงบประมาณเป็นกรณี ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12749 | ขออนุมัติการจัดทำและลงนามร่างความตกลงด้านการค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานที่ประสบภัยระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว | คค | 02/07/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติการจัดทำและลงนามร่างความตกลงด้านการค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานที่ประสบภัยระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย โดยร่างความตกลงฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นแนวทางในการปฏิบัติการค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานที่ประสบภัยระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ตลอดจนการบริการด้านการค้นหาและช่วยเหลือทางการบินและการอำนวยความสะดวกในการค้นหาและช่วยเหลือผู้รอดชีวิตจากอุบัติเหตุอากาศยานโดยรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยทั้งสองฝ่ายจะต้องช่วยเหลือซี่งกันและกันตามข้อกำหนดในการบริหารด้านการค้นหาและช่วยชีวิตในเขตการค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานที่ประสบภัย (SRRs) โดยความตกลงฯ จะมีผลบังคับใช้ ณ วันที่มีการลงนามของรัฐทั้งสองฝ่าย ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างความตกลงฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย และให้กระทรวงคมนาคม โดยสำนักงานคณะกรรมการค้นหาและช่วยเหลืออากาศยานและเรือที่ประสบภัยรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเตรียมความพร้อมและประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเป็นการล่วงหน้าโดยเฉพาะการกำหนดค่าใช้จ่ายด้านการค้นหาและช่วยชีวิตซึ่งจะต้องได้รับการยกเว้นค่าธรรมเนียมลงจอดค่าบริการภาคพื้น และค่าบริการจราจรทางอากาศ เพื่อให้สามารถปฏิบัติภารกิจเมื่อเกิดเหตุการณ์ได้อย่างทันท่วงทีและมีประสิทธิภาพ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่ผู้ลงนามตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๕๖ (เรื่อง หลักเกณฑ์และแนวทางปฏิบัติเกี่ยวกับการออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม) ตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12750 | ขออนุมัติการจัดทำและลงนามร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาว่าด้วยการบริหาร การบำรุงรักษา และการใช้สะพานมิตรภาพไทย - เมียนมา ข้ามแม่น้ำเมย/ตองยิน แห่งที่ 2 | คค | 02/07/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. อนุมัติการจัดทำและลงนามร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาว่าด้วยการบริหาร การบำรุงรักษา และการใช้สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำเมย/ตองยิน แห่งที่ ๒ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดพื้นฐานทางกฎหมายที่จำเป็นเกี่ยวกับกรรมสิทธิ์ ความร่วมมือทางกฎหมาย การใช้ การบริหาร และการบำรุงรักษาสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำเมย/ตองยิน แห่งที่ ๒ บนพื้นฐานความร่วมมือและความเคารพในเอกราชอธิปไตย และความเสมอภาคระหว่างกัน โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมหรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทย และมีอำนาจแต่งตั้งคณะกรรมาธิการบริหารและบำรุงรักษาสะพาน (ฝ่ายไทย) ตามนัยข้อ ๔ ของร่างความตกลงฯ และให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้แก่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมหรือผู้แทนสำหรับการลงนามดังกล่าว ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างความตกลงฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ประเทศไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ด้วย ๒. ให้กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรเร่งพิจารณาเปิดจุดผ่านแดนถาวรบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา ข้ามแม่น้ำเมย/ตองยิน แห่งที่ ๒ และแนวทางการใช้ประโยชน์สะพานมิตรภาพไทย-เมียนมา แห่งที่ ๑ ให้เกิดความชัดเจนโดยเร็ว เพื่อให้สามารถรองรับปริมาณการขนส่งสินค้าที่เพิ่มมากขึ้นอย่างรวดเร็วและบรรเทาปัญหาจราจรติดขัดในพื้นที่ดังกล่าวได้อย่างเป็นรูปธรรม ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๓. ให้กระทรวงคมนาคมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12751 | การรับโอนข้าราชการทหารมาบรรจุเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ (พลเอก ชัยวัฒน์ โฆสิตาภา) | นร | 02/07/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติรับโอน พลเอก ชัยวัฒน์ โฆสิตาภา ข้าราชการทหาร ตำแหน่งผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษสำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กระทรวงกลาโหม มาบรรจุเป็นข้าราชการพลเรือนสามัญ และแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการสำนักนายกรัฐมนตรี (ผู้ตรวจราชการกระทรวง) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12752 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาววรวรรณ พลิคามิน) | นร11 | 02/07/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาววรวรรณ พลิคามิน ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนงาน (นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี ตั้งแต่วันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๖๒ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12753 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ (นายดำรง ใคร่ครวญ และคณะ) | กต | 02/07/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงการต่างประเทศ ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๔ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๒ เป็นต้นไป เพื่อทดแทนผู้ที่จะเกษียณอายุราชการและสับเปลี่ยนหมุนเวียน ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเสนอ ดังนี้
๑. นายดำรง ใคร่ครวญ ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ๒. นายเจษฎา กตเวทิน ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายดุสิต เมนะพันธุ์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมเอเชียใต้ ตะวันออกกลางและแอฟริกา ๔. นายภควัต ตันสกุล ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูต สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงบูดาเปสต์ ประเทศฮังการี
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12754 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญประเภทบริหารระดับสูง (1. นายณัฐ จับใจ ... 3. นายกมล หมั่นทำ) | คค | 02/07/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงคมนาคม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๓ ราย ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเสนอ ดังนี้
๑. นายณัฐ จับใจ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นายกมล บูรณพงศ์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายกมล หมั่นทำ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12755 | การสรรหาบุคคลเพื่อเข้ารับการคัดเลือกเป็นกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (นายพีรพล พิชยวัฒน์) | ปปท. | 02/07/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายพีรพล พิชยวัฒน์ เป็นบุคคลที่คณะรัฐมนตรีสรรหาเพื่อเสนอต่อคณะกรรมการคัดเลือก พิจารณาคัดเลือกเป็นกรรมการในคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒ กรกฎาคม ๒๕๖๒) เป็นต้นไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12756 | แต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ (การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิและขออนุมัติยกเว้นการดำเนินการตามข้อ 6 ของกฎ ก.พ. ว่าด้วยการให้ข้าราชการพลเรือนสามัญซึ่งมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์รับราชการต่อไป พ.ศ. 2552) | พณ | 02/07/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวอุรวี เงารุ่งเรือง ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษากฎหมาย (นิติกรทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงพาณิชย์ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ซึ่งเป็นไปตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๕๗ (๗) ประกอบกับข้าราชการที่ได้รับการเสนอแต่งตั้งเป็นผู้มีคุณสมบัติและดำเนินการตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ ก.พ. กำหนด ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12757 | ผลการประชุม CLMVT Forum 2019 : CLMVT as the New Value Chain Hub of Asia | พณ | 02/07/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานผลการประชุม CLMVT Forum 2019 : CLMVT as the New Value Chain Hub of Asia ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ ๒๓-๒๔ มิถุนายน ๒๕๖๒ ณ กรุงเทพมหานคร โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกำหนดทิศทางการปฏิสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจการค้าและการลงทุนระหว่างไทยกับกลุ่มประเทศ CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) และแนวทางการจัดทำความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่กลุ่มประเทศ CLMVT (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา เวียดนาม และไทย) มีศักยภาพร่วมกัน ซึ่งผลการประชุม CLMVT Forum 2019 สรุปได้ ดังนี้
๑. การเป็นภูมิภาคแห่งโอกาสและศักยภาพไม่สิ้นสุด : ด้วยข้อได้เปรียบทางภูมิศาสตร์ที่มีที่ตั้งอยู่ใจกลางอาเซียน และใกล้กับจีนและอินเดีย รวมทั้งมีจุดแข็งของแต่ละประเภทที่สอดรับกันอย่างลงตัว ขนาดประชากรและกำลังแรงงานจำนวนมาก ความก้าวหน้าของเทคโนโลยี และดิจิทัลที่ช่วยลดต้นทุนและเพิ่มการมีส่วนร่วมในห่วงโซ่คุณค่า ความเชื่อมโยงของเส้นทางคมนาคมทั้งทางบกและทางรางผ่านกรอบความร่วมมืออนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Greater Mekong Subregion : GMS) ที่สามารถเชื่อมโยงกับโครงข่ายคมนาคมภายใต้ยุทธศาสตร์หนึ่งแถบหนึ่งเส้นทาง (Belt and Road Initiative หรือ BRI) ของจีนและเขตเศรษฐกิจพิเศษที่จัดตั้งขึ้นมากมาย ซึ่งจะช่วยให้ประเทศต่าง ๆ ใน CLMVT ประสานจุดแข็งร่วมกันอย่างลงตัวในการดึงดูดการค้าการลงทุนและผลักดันให้ CLMVT กลายเป็นห่วงโซ่คุณค่าของโลกที่เข้มแข็ง และใช้ประโยชน์จากโอกาสที่เกิดขึ้นท่ามกลางความตึงเครียดทางเศรษฐกิจการค้าและภูมิรัฐศาสตร์โลก ๒. การเตรียมความพร้อมรับมือต่อความท้าทายที่สำคัญ : ประเด็นความท้าทายสำคัญต่อการเป็นศูนย์กลางห่วงโซ่คุณค่ายุคใหม่ของภูมิภาค CLMVT คือ ความไม่แน่นอนของความตึงเครียดทางการค้าที่มีแนวโน้มยืดเยื้อและเกี่ยวพันในหลายมิติทั้งด้านเศรษฐกิจ การเมือง การทหาร วัฒนธรรม และเทคโนโลยี ซึ่งอาจจะกดดันให้ประเทศต่าง ๆ ในอาเซียนเลือกข้าง ความไม่สอดคล้องและเชื่อมโยงทางกฎระเบียบ และอุปสรรคทางการค้าจากมาตรการที่มิใช่ภาษี (Non-Tariff Measures : NTMs) ตลอดจนความจำเป็นในการพัฒนาทุนมนุษย์และธุรกิจให้สอดรับกับเทคโนโลยียุคใหม่ที่เข้ามาเปลี่ยนโลก ๓. แนวทางการส่งเสริมการเป็นศูนย์กลางห่วงโซ่คุณค่ายุคใหม่ของ CLMVT : ภูมิภาค CLMVT ควรรักษาสมดุลในการสร้างความสัมพันธ์กับประเทศมหาอำนาจ สนับสนุนระบบการค้าเสรีที่เป็นไปตามกฎเกณฑ์และกติกา และควรร่วมมือกันในการประสานและใช้ประโยชน์จากจุดแข็งของแต่ละประเทศที่สอดรับกันอย่างลงตัว เพื่อการเป็นฐานการผลิตร่วมตามวัตถุประสงค์ของ AEC Blueprint 2025 โดยการสร้างความเชื่อมโยงทั้งทางกายภาพ และทางด้านกฎระเบียบ การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านดิจิทัล เศรษฐกิจ แพลตฟอร์มและพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ข้ามพรมแดน การส่งเสริมและพัฒนาภาคบริการ ซึ่งถือเป็นกาวที่เชื่อมต่อข้อต่อต่าง ๆ ในห่วงโซ่คุณค่าของภูมิภาคได้ นอกจากนี้ แต่ละประเทศควรเน้นการพัฒนาทักษะและการเสริมทักษะใหม่ให้แก่โรงงาน รวมทั้งการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้ทันกับแนวโน้มเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลงไป และการส่งเสริมการคุ้มครองทรัพย์สินทางปัญญา ทั้งนี้ เพื่อให้ภูมิภาค CLMVT กลายเป็นศูนย์กลางห่วงโซ่คุณค่ายุคใหม่ได้ในที่สุด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12758 | ผลการรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศตามมาตรา 270 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เดือนมกราคม - มีนาคม 2562) | นร | 02/07/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติมอบหมายให้เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเป็นผู้ชี้แจงรายงานความคืบหน้าในการดำเนินการตามแผนการปฏิรูปประเทศตามมาตรา ๒๗๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (เดือนมกราคม-มีนาคม ๒๕๖๒) ต่อที่ประชุมวุฒิสภา
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12759 | การแก้ไขปัญหาผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยฝั่งแดง จังหวัดอุบลราชธานี | กษ | 02/07/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการจ่ายเงินชดเชยแก่ราษฎรผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยฝั่งแดง จังหวัดอุบลราชธานี จำนวน ๙ ราย รวมทั้งสิ้น ๑๓,๙๓๓,๑๒๒.๕๐ บาท โดยในส่วนของงบประมาณ ให้กรมชลประทานปรับแผนปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ มาดำเนินการเรื่องดังกล่าว เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะกรรมการแก้ไขปัญหาของขบวนการประชาชนเพื่อสังคมที่เป็นธรรม ครั้งที่ ๒/๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๒ (เฉพาะโครงการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำห้วยฝั่งแดง จังหวัดอุบลราชธานี) ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12760 | ทบทวนภารกิจของสภาเกษตรกรแห่งชาติ | นร | 02/07/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) รายงานว่า ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้มีมติเมื่อวันที่ ๒๙ กรกฎาคม ๒๕๕๗ ให้โอนย้ายสภาเกษตรกรแห่งชาติไปที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์พิจารณาว่าควรดำเนินการต่อหรือยุบรวมกับภารกิจของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ นั้น บัดนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีหนังสือเสนอขอทบทวนภารกิจของสภาเกษตรกรแห่งชาติต่อคณะรักษาความสงบแห่งชาติ โดยเห็นควรให้สภาเกษตรกรแห่งชาติขึ้นตรงกับนายกรัฐมนตรีเช่นเดิม เพื่อให้สามารถกำหนดเป้าหมายและทิศทางการดำเนินงานของสภาเกษตรกรแห่งชาติได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความคล่องตัวในการดำเนินงานตามภารกิจที่กฎหมายว่าด้วยสภาเกษตรกรแห่งชาติกำหนด โดยไม่ต้องดำเนินการเรื่องควบรวมกับหน่วยงานอื่นใด ซึ่งคณะรักษาความสงบแห่งชาติได้มีมติเมื่อวันที่ ๒ กรกฎาคม ๒๕๖๒ เห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
|
.....