ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 411 จากทั้งหมด 6224 หน้า แสดงรายการที่ 8201 - 8220 จากข้อมูลทั้งหมด 124474 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 8201 | ร่างกฎกระทรวงคุ้มครองแรงงานในงานประมง พ.ศ. .... | รง. | 21/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงคุ้มครองแรงงานในงานประมง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงกฎกระทรวงคุ้มครองแรงงานในงานประมง
พ.ศ. ๒๕๕๗ และกฎกระทรวงคุ้มครองแรงงานในงานประมงทะเล (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.
๒๕๖๑
ซึ่งปัจจุบันกฎหมายทั้งสองฉบับมีบทบัญญัติบางประการที่ไม่สอดคล้องกับสภาพการจ้างแรงงานและสภาพการทำงานในเรือประมงทะเล
ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ
โดยร่างข้อ ๕ ควรระบุเพิ่มเติมว่า
“อันเป็นงานที่มีลักษณะหรือสภาพของงานที่ต้องทำติดต่อกันไปโดยได้รับความยินยอมจากลูกจ้าง”
เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรา ๒๗ วรรคห้า แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑
ร่างข้อ ๑๔ วรรคหนึ่ง ควรระบุว่าเป็นวันหยุดประเภทใด เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรา ๕
แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. ๒๕๔๑ และร่างข้อ ๑๔ วรรคสอง
ควรกำหนดการจ่ายค่าทำงานในวันหยุดตามประเภทของลูกจ้าง ได้แก่
ลูกจ้างที่มีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันหยุดและลูกจ้างที่ไม่มีสิทธิได้รับค่าจ้างในวันหยุด
เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรา ๖๒ (๑) และ (๒) แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.
๒๕๔๑ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 8202 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สำหรับการปฏิบัติของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระหว่างวันที่ 1 กุมภาพันธ์ ถึงวันที่ 31 พฤษภาคม 2564 รวม 120 วัน (ห้วงที่ 5-6) | ตช. | 21/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (โรคโควิด ๑๙) เป็นเงินทั้งสิ้น ๓๙๘.๓๒ ล้านบาท
สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง
เพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด ๑๙ ของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง
ระหว่างวันที่ ๑ กุมภาพันธ์-๓๑ พฤษภาคม ๒๕๖๔ รวม ๑๒๐ วัน (ห้วงที่ ๕-๖)
หรือจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด ๑๙ จะยุติลง
ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ ทั้งนี้
ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับความเห็นของกระทรวงสาธารณสุขและสำนักงบประมาณที่เห็นควรตรวจสอบและเบิกจ่ายค่าใช้จ่ายตามที่เกิดขึ้นจริงโดยไม่ซ้ำซ้อนและขอรับการสนับสนุนจากกระทรวงสาธารณสุขโดยตรง
ไปดำเนินการด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 8203 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดกรณีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุโดยวิธีเฉพาะเจาะจง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค. | 21/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดกรณีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุโดยวิธีเฉพาะเจาะจง
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงกฎกระทรวงกำหนดกรณีการจัดซื้อจัดจ้างพัสดุโดยวิธีเฉพาะเจาะจง
พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยเพิ่มความ
การจัดซื้อจัดจ้างพัสดุที่เกี่ยวกับการจัดประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค
และการประชุมที่เกี่ยวข้องทุกระดับ รวมทั้งการเตรียมการ
การประชาสัมพันธ์หรือการอื่นใดที่เกี่ยวข้อง
ในช่วงที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมเอเปคในปี พ.ศ. ๒๕๖๕ ให้สามารถใช้วิธีเฉพาะเจาะจง
เพื่อให้การจัดงานดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและเหมาะสมกับการเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมดังกล่าว
(ตั้งแต่ธันวาคม ๒๕๖๔ ถึงพฤศจิกายน ๒๕๖๕) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 8204 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 วงเงิน 197,983,630 บาท ของ บริษัท ขนส่ง จำกัด | คค. | 21/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติการขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๔ งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา
และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 วงเงิน ๑๙๗,๙๘๓,๖๓๐ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการจัดรถโดยสาร รับ-ส่ง
คนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศที่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ของ
บริษัท ขนส่ง จำกัด ๒. ให้กระทรวงคมนาคมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 8205 | การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีศึกษาเอเชีย-ยุโรป ครั้งที่ 8 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง | ศธ. | 21/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้กระทรวงศึกษาธิการ เป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีเอเชีย-ยุโรป
ครั้งที่ ๘ (8th Asia-Europe Meeting of
Ministers for Education : ASEMME 8) และการประชุมที่เกี่ยวข้อง
ที่ไทยเป็นเจ้าภาพ ผ่านระบบการประชุมทางไกล ระหว่างวันที่ ๑๓-๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๔ และเห็นชอบต่อ
(ร่าง) ยุทธศาสตร์ด้านการศึกษาภายใต้กรอบความร่วมมือเอเชีย-ยุโรป ปี พ.ศ. ๒๕๗๓ (ASEM Education 2030 Strategy Paper) โดยมีสาระสำคัญสรุปได้
ดังนี้ (๑)
พิจารณาแนวทางการดำเนินความร่วมมือด้านการศึกษาให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติ
(๒) รับรอง (ร่าง) ยุทธศาสตร์ด้านการศึกษาภายใต้กรอบความร่วมมือเอเชีย-ยุโรป ปี
พ.ศ. ๒๕๗๓ (๓) พิจารณากิจกรรมเพื่อดำเนินการตามยุทธศาสตร์ด้านการศึกษาของเอเซม และ
(๔)
รับทราบความก้าวหน้าและติดตามผลการดำเนินความร่วมมือด้านการศึกษาระหว่างประเทศสมาชิก
โดยอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการหรือผู้แทนร่วมให้การรับรอง (ร่าง)
ยุทธศาสตร์ด้านการศึกษาภายใต้กรอบความร่วมมือเอเชีย-ยุโรป ปี พ.ศ. ๒๕๗๓ (ASEM Education 2030 Strategy Paper) ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยน (ร่าง)
ยุทธศาสตร์ด้านการศึกษาภายใต้กรอบความร่วมมือเอเชีย-ยุโรป ปี พ.ศ. ๒๕๗๓
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงศึกษาธิการดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าว ทั้งนี้
.ให้กระทรวงศึกษาธิการรับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมและสำนักงบประมาณ ที่เห็นควรพิจารณาให้มีการนำไปจัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อให้การขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ด้านการศึกษาฉบับนี้มีทิศทางที่ชัดเจนและสามารถบรรลุเป้าหมายได้อย่างเป็นรูปธรรมต่อไป
สำหรับค่าใช้จ่ายเพื่อเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมดังกล่าว
ให้สำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการพิจารณาใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี
เมื่อพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ มีผลบังคับใช้
โดยพิจารณาดำเนินการตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ตามความจำเป็น
เหมาะสม และสอดคล้องกับสถานการณ์ในช่วงเวลาดังกล่าวต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 8206 | รายงานการตรวจสอบสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 | กค. | 21/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการตรวจสอบสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒
เพื่อประโยชน์ในการบริหารจัดการและเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจเชิงนโยบายด้านการคลัง
โดยแบ่งการตรวจสอบเป็น (๑) การตรวจสอบการเงินและบัญชี (๒)
การตรวจสอบการปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบ และข้อบังคับที่เกี่ยวข้อง และ (๓)
การตรวจสอบการดำเนินงาน ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 8207 | ขออนุมัติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับรายจ่ายแผนงานบุคลากรภาครัฐของหน่วยงานในสังกัดกระทรวงมหาดไทย | มท. | 21/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวน ๓๒๔,๓๐๕,๕๐๐ บาท
เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายบุคลากรภายใต้แผนงานบุคลากรภาครัฐของหน่วยงานในสังกัด จำนวน ๓
หน่วยงาน ได้แก่ กรมการปกครอง จำนวน ๒๘๗,๕๒๔,๕๐๐ บาท กรมการพัฒนาชุมชน จำนวน ๓๐,๒๑๓,๘๐๐ บาท และกรมที่ดิน จำนวน ๖,๕๖๗,๒๐๐ บาท สำหรับค่าใช้จ่ายงบบุคลากร
ขอให้กระทรวงมหาดไทยดำเนินการตามแนวทางการบริหารรายจ่ายบุคลากรภายใต้แผนงานบุคลากรภาครัฐ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ที่สำนักงบประมาณแจ้งตามหนังสือสำนักงบประมาณ
ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๓๐/ว ๑๒๘ ลงวันที่ ๑๗ สิงหาคม ๒๕๖๔ ต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
(หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๑๕/๑๘๗๗๒ ลงวันที่ ๑๔ กันยายน ๒๕๖๔)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 8208 | การขอความเห็นชอบต่อร่างแถลงการณ์การประชุมรัฐมนตรีเอเปคด้านสตรีและเศรษฐกิจ ประจำปี พ.ศ. 2564 (Ministerial WEF Statement 2021) | พม. | 21/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบต่อร่างแถลงการณ์การประชุมรัฐมนตรีเอเปคด้านสตรีและเศรษฐกิจ
ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๔ (Ministerial WEF
Statement 2021) และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
หรือผู้แทนพิจารณารับรองร่างแถลงการณ์ดังกล่าวในการกระชุมรัฐมนตรีเอเปคด้านสตรีและเศรษฐกิจ ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๔ (ค.ศ. ๒๐๒๑) (APEC Women and the Economy Forum : WEF) ในวันศุกร์ที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๔ โดยร่างแถลงการณ์ฯ มีสาระสำคัญ เช่น
แนวทางในการรับมือและฟื้นฟูจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ความมุ่งมั่นของผู้นำในการเป็นประชาคมเอเชีย-แปซิฟิกที่เปิดกว้าง
เน้นย้ำประเด็นการเสริมพลังสตรีผ่านการเข้าถึงแหล่งทุนและตลาดการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของภาคแรงงานของสตรี
การส่งเสริมความเสมอภาคระหว่างเพศและการเสริมพลังสตรีทางเศรษฐกิจ
การปฏิรูปเชิงโครงสร้าง ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์การประชุมรัฐมนตรีเอเปคด้านสตรีและเศรษฐกิจ
ประจำปี พ.ศ. ๒๕๖๔ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 8209 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุม ครั้งที่ 8/2564 | นร.11 สศช | 21/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม
จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ ในคราวประชุม
ครั้งที่ ๘/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๖๔ ซึ่งได้พิจารณาเห็นชอบกรอบแผนงานหรือโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ พร้อมทั้งมอบหมายให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐ
ปฏิบัติตามแนวทางที่กำหนดไว้ในกรอบแผนงานหรือโครงการภายใต้แผนฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ และพระราชกำหนดฯเพิ่มเติม
พ.ศ. ๒๕๖๔ ตามขั้นตอนต่อไป ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ และให้คณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
กระทรวงต้นสังกัดและหน่วยงานรับผิดชอบโครงการรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น
ควรเตรียมความพร้อม
ตลอดจนชักซ้อมความเข้าใจกับหน่วยงานเจ้าของโครงการเรื่องหลักเกณฑ์การพิจารณาโครงการ
ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
ให้ถูกต้องครบถ้วนอย่างเคร่งครัด ให้ความสำคัญกับการเร่งรัดการดำเนินโครงการภายใต้พระราชกำหนดฯ
และจัดทำรายงานติดตามและประเมินผลสัมฤทธิ์ของโครงการตามขั้นตอนข้อ ๑๙ และข้อ ๒๐
ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการดำเนินการตามแผนงานหรือโครงการภายใต้พระราชกำหนดฯ
พ.ศ. ๒๕๖๓ ซึ่งจะช่วยให้การใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔
เป็นไปอย่างคุ้มค่าและมีประสิทธิภาพ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๒.
ให้เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 8210 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สำหรับการปฏิบัติของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉิน ด้านความมั่นคง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระหว่างวันที่ 1 มิถุนายน ถึงวันที่ 30 กันยายน 2564 รวม 122 วัน (ห้วงที่ 7–8) | ตช. | 21/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง
รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา
และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ภายในวงเงิน
๖๓๓,๕๑๔,๖๐๐ บาท สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง เพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระหว่างวันที่ ๑ มิถุนายน ถึงวันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๔ (๑๒๒ วัน)
หรือจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ จะยุติลง ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 8211 | ร่างปฏิญญาและมาตรการเพื่อส่งเสริมการมีผลใช้บังคับของสนธิสัญญาว่าด้วยการห้ามทดลองนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์ (ปฏิญญาครบรอบ 25 ปี) | กต. | 21/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างปฏิญญาและมาตรการเพื่อส่งเสริมการมีผลใช้บังคับของสนธิสัญญาว่าด้วยการห้ามทดลองนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์
(ปฏิญญาครบรอบ ๒๕ ปี) ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ ๒๓ กันยายน ๒๕๖๔ ในรูปแบบออนไลน์
ในช่วงระหว่างการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยสามัญ ครั้งที่ ๗๖ มีสาระสำคัญเป็นการเน้นย้ำเจตนารมณ์และความมุ่งมั่นของรัฐผู้ให้สัตยาบันและรัฐผู้ลงนามในสนธิสัญญาฯ
ที่จะร่วมกันรักษาไว้ซึ่งพลวัตในการส่งเสริมและผลักดันการมีผลใช้บังคับของสนธิสัญญาฯ
และรับรองมาตรการต่าง ๆ เพื่อให้สนธิสัญญาฯ มีผลใช้บังคับในโอกาสแรกและมีความเป็นสากล ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างปฏิญญาและมาตรการเพื่อส่งเสริมการมีผลใช้บังคับของสนธิสัญญาว่าด้วยการห้ามทดลองนิวเคลียร์โดยสมบูรณ์
(ปฏิญญาครบรอบ ๒๕ ปี) ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 8212 | ร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร (การยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในการเฝ้าระวัง สอบสวน ป้องกัน ควบคุม และรักษาผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019) | กค. | 21/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....)
ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร
(การยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในการเฝ้าระวัง
สอบสวน ป้องกัน ควบคุม และรักษาผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙) มีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลาการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในการเฝ้าระวัง
สอบสวน ป้องกัน ควบคุม และรักษาผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙
ที่ได้รับจากกระทรวงสาธารณสุข ออกไปอีก ๑ ปีภาษี
(สำหรับเงินได้พึงประเมินประจำปีภาษี ๒๕๖๔) ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
ที่เห็นควรสร้างความรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการภาษีดังกล่าว
รวมทั้งจัดทำประมาณการรายได้เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน
และใช้เป็นกรอบในการวางแผนการดำเนินการทางการเงินการคลังและงบประมาณของประเทศ
ตลอดจนติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์และรายงานผลการดำเนินงานตามมาตรการภาษีดังกล่าว
ตามนัยแห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ เป็นต้นไป
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 8213 | แนวทางการดำเนินงานเกี่ยวกับสิ่งปลูกสร้างหรืออาคารถาวรที่ส่วนราชการเป็นเจ้าภาพจัดงานหรือเข้าร่วมเทศกาล/งานนิทรรศการนานาชาติในต่างประเทศในนามประเทศไทย [ขอความเห็นชอบมอบบ้านไทยในโครงการร่วมงาน The International Horticultural Exhibition 2019 (Beijing Expo 2019) ณ สาธารณรัฐประชาชนจีน ให้กับสาธารณรัฐประชาชนจีน] | กค. | 21/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบการมอบบ้านไทยที่กรมส่งเสริมการเกษตรจัดสร้างในโครงการร่วมงาน
The International Horticultural
Exhibition 2019 (Beijing Expo 2019) ณ
กรุงปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน ให้กับที่ว่าการเขตเหยียนชิ่ง เทศบาลนครปักกิ่ง สาธารณรัฐประชาชนจีน
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นว่าการมอบบ้านไทยดังกล่าว ขอให้ดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบที่เกี่ยวข้อง ไปดำเนินการต่อไปด้วย ๒. ในกรณีที่ส่วนราชการใดจะเป็นเจ้าภาพจัดงานหรือเข้าร่วมงานเทศกาล/
งานนิทรรศการนานาชาติในต่างประเทศในนามประเทศไทย และมีความประสงค์หรือจำเป็นจะต้องมีสิ่งปลูกสร้างหรืออาคารถาวรขึ้นในงาน
ให้ส่วนราชการดังกล่าวจัดทำรายละเอียดของแผนการดำเนินงาน
แผนงบประมาณและแผนการใช้ประโยชน์จากสิ่งปลูกสร้างหรืออาคารถาวรดังกล่าวภายหลังจากสิ้นสุดการจัดงานให้ชัดเจน
เพื่อเสนอประกอบการพิจารณาของคณะรัฐมนตรีตั้งแต่ต้น อย่างเคร่งครัด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 8214 | แนวทางการขับเคลื่อนการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจภายหลังธนาคารโลกแจ้งยกเลิกการจัดทำรายงานความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจ (Doing Business) | นร.12 | 21/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางการขับเคลื่อนการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจภายหลังธนาคารโลกแจ้งยกเลิกการจัดทำรายงานความยาก-ง่ายในการประกอบธุรกิจ
(Doing Business) โดยมีแนวทางการดำเนินการ
ดังนี้ (๑)
ผลักดันและส่งเสริมหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องในการดำเนินการตามข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูป
(Doing Business Reform) ที่ได้จากธนาคารโลก ซึ่งในแต่ละด้านมีแนวทางการดำเนินงานเพื่อขับเคลื่อนประเด็นการปฏิรูปอย่างต่อเนื่อง
โดยใช้กลไกการกำกับติดตามความคืบหน้าการดำเนินการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องผ่านการประชุมโดยมีรองนายกรัฐมนตรี
(นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์) เป็นประธาน
รวมถึงสรุปผลการดำเนินการเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบความก้าวหน้าเป็นประจำทุกปี (๒)
ดำเนินการหาตัวชี้วัดที่เป็นระดับสากลอื่น ๆ
มาใช้ในการประเมินผลการดำเนินการปรับปรุงสภาพแวดล้อมการอำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจเพื่อเทียบเคียงกับความสำเร็จของการดำเนินการ
และ (๓)
เตรียมความพร้อมเชิงรุกเพื่อรองรับแนวทางใหม่สำหรับการประเมินบรรยากาศของการดำเนินธุรกิจและการลงทุนของธนาคารโลก
โดยการหารือร่วมกับภาคเอกชนในประเด็นที่ต้องการให้ภาครัฐยกระดับการทำงานเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพงานบริการภาครัฐเพื่ออำนวยความสะดวกในการประกอบธุรกิจ
ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 8215 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อนำมาใช้ในการเยียวยาการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนตู้สินค้าของการท่าเรือแห่งประเทศไทย | คค. | 21/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น วงเงิน ๔๒๗,๑๗๒,๕๐๐ บาท เพื่อนำมาใช้ในการเยียวยาการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนตู้สินค้าของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ๒. ให้กระทรวงคมนาคมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 8216 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ 34/2564 | นร.11 สศช | 21/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. อนุมัติตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุมครั้งที่ ๓๔/๒๕๖๔
เมื่อวันที่ ๑๗ กันยายน ๒๕๖๔ ซึ่งได้พิจารณาอนุมัติโครงการพัฒนาและเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจฐานราก
ครั้งที่ ๖ รวม ๖ จังหวัด (จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดสกลนคร
จังหวัดชัยนาท จังหวัดราชบุรี และจังหวัดสุพรรณบุรี) จำนวน ๘๓๔ โครงการ กรอบวงเงิน
๑,๙๔๒,๓๐๒,๓๑๕ บาท โดยให้ใช้จ่ายจากเงินกู้ภายใต้แผนงานฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นและชุมชน
ให้หน่วยงานของรัฐที่อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดทำข้อเสนอโครงการเพื่อขอใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา
เยียวยา
และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓
และเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญโครงการที่ได้รับอนุมัติให้ใช้จ่ายจากคณะรัฐมนตรี
ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการที่ได้รับอนุมัติให้ใช้จ่ายจากคณะรัฐมนตรีอยู่ระหว่างจัดทำข้อเสนอเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญของโครงการ
อนุมัติให้การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทยปรับปรุงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการ
กรณีโครงการเราเที่ยวด้วยกัน และโครงการทัวร์เที่ยวไทย
อนุมัติให้กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ
เปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการขององค์กรภาคประชาชนที่อยู่ในความรับผิดชอบ
จำนวน ๒ โครงการ
อนุมัติให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลังเปลี่ยนแปลงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการยิ่งใช้ยิ่งได้
และโครงการคนละครึ่งระยะที่ ๓ ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ และให้กระทรวงต้นสังกัดหน่วยงานรับผิดชอบโครงการ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรให้กระทรวงต้นสังกัดกำกับดูแลให้หน่วยงานเจ้าของโครงการดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จตามแผนงานที่กำหนด
และติดตามการดำเนินโครงการอย่างใกล้ชิด
และให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการควรเร่งคืนกรอบวงเงินกู้ให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ
และเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์ ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ
ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนอย่างเคร่งครัด
รวมทั้งเร่งรัดการใช้จ่ายให้เป็นไปตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่าย
ตลอดจนให้ความสำคัญกับระบบการติดตามและประเมินผลให้ทันต่อสถานการณ์ รวมทั้งมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องปฏิบัติตามความเห็นและข้อเสนอแนะของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้โดยเคร่งครัด
และหน่วยงานรับผิดชอบโครงการที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีให้ใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา
เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ เร่งดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จตามเป้าหมายที่กำหนดไว้ ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒. ให้เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 8217 | ขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น | กค. | 21/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบในหลักการและการขยายระยะเวลามาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา
และอนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวนเงินรวมทั้งสิ้น ๒๗,๐๐๕,๖๕๕,๔๐๐ บาท ให้แก่กองทุนฯ
สำหรับเป็นค่าใช้จ่าย ได้แก่ (๑) มาตรการบรรเทาภาระค่าไฟฟ้าและค่าน้ำประปา (๒)
การจัดสรรสวัสดิการแบบไม่กำหนดระยะเวลาให้แก่ผู้มีบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ (๓) การดำเนินโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ
(รอบใหม่) และ (๔) การจัดสรรสวัสดิการแบบไม่กำหนดระยะเวลาสำหรับผู้มีรายได้น้อย
ภายใต้โครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ (รอบใหม่)
ตามที่คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมเสนอ ๒.
ให้คณะกรรมการประชารัฐสวัสดิการเพื่อเศรษฐกิจฐานรากและสังคมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 8218 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระยะที่ 8 | กห. | 21/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง
รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ วงเงิน ๑๓๐,๕๖๙,๗๐๐ บาท
ให้สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (COVID-19) ระยะที่ ๘
(ตั้งแต่วันที่ ๑ มิถุนายน ถึงวันที่ ๒๐ กรกฎาคม ๒๕๖๔) สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินการพื้นที่กักกันโรคแห่งรัฐ (State Quarantine) ในส่วนของสถานที่เอกชน ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 8219 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณเพิ่มเติมเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการพื้นที่กักกันโรคแห่งรัฐ (State Quarantine) ที่ค้างเบิก ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 | กห. | 21/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติให้สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม
ก่อหนี้ผูกพันเกินกว่าหรือนอกเหนือไปจากที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๓ งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ วงเงิน ๑,๓๕๗,๒๖๒ บาท เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการพื้นที่กักกันโรคแห่งรัฐ
(State Quarantine) ต่อไป ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ
ทั้งนี้
ให้กระทรวงกลาโหมเร่งตรวจสอบและจัดทำรายละเอียดเพื่อประกอบการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ สำหรับการดำเนินการพื้นที่กักกันโรคแห่งรัฐ
(State Quarantine) ให้ถูกต้อง ชัดเจน
และครบถ้วนด้วย ๒. ให้กระทรวงกลาโหมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 8220 | การแก้ไขกฏหมายว่าด้วยการควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา | นร. | 21/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) รายงานว่า
เนื่องจากได้รับแจ้งจากองค์กรต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (World Anti-Doping Agency : WADA) ว่า
ประเทศไทยอยู่ในภาวะวิกฤติด้านการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา
จึงมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา
พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยเร็ว เพื่อให้สอดคล้องกับประมวลกฎต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก (World
Anti-Doping Code)
ที่บังคับใช้ทั่วโลกทุกชนิดกีฬา เช่น
การกำหนดให้หน่วยงานที่ดำเนินการเกี่ยวกับการควบคุมตรวจสอบการใช้สารต้องห้ามของประเทศไทยเป็นหน่วยงานอิสระ
แก้ไขบทนิยามเกี่ยวกับสารต้องห้ามทางการกีฬา เป็นต้น
ซึ่งหากประเทศไทยดำเนินการแก้ไขกฎหมายล่าช้า จะส่งผลให้ประเทศไทยไม่สามารถส่งนักกีฬาเข้าร่วมแข่งขันกีฬานานาชาติหรือเป็นเจ้าภาพในการแข่งขันกีฬานานาชาติได้
อันจะทำให้กระทบต่อวงการกีฬาของประเทศและภาพลักษณ์ของประเทศไทยต่อนานาประเทศ
รวมทั้งอาจสูญเสียมูลค่าทรัพย์สินทางเศรษฐกิจเป็นจำนวนมาก
จึงควรแก้ไขกฎหมายในเรื่องนี้ให้มีผลใช้บังคับโดยเร็วภายใน ๓-๔ เดือน ซึ่งคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วลงมติ ๑. รับทราบตามที่รองนายกรัฐมนตรี
(นายวิษณุ เครืองาม) รายงาน ๒.
มอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
การกีฬาแห่งประเทศไทย และคณะกรรมการโอลิมปิกแห่งประเทศไทย
ร่วมกันพิจารณาปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติควบคุมการใช้สารต้องห้ามทางการกีฬา พ.ศ.
๒๕๕๕ ให้สอดคล้องกับประมวลกฎต่อต้านการใช้สารต้องห้ามโลก โดยให้พิจารณารูปแบบความเหมาะสมที่จะตราเป็นกฎหมายตามหมวด
๑๖ การปฏิรูปประเทศของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
หรือตราเป็นพระราชกำหนดตามมาตรา ๑๗๒ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
แล้วนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาต่อไปโดยเร็ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
