ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 416 จากทั้งหมด 6224 หน้า แสดงรายการที่ 8301 - 8320 จากข้อมูลทั้งหมด 124475 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 8301 | ร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. .... [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 30 สิงหาคม 2564 และวันจันทร์ที่ 6 กันยายน 2564)] | ปสส. | 07/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๔ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.
.... และร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 8302 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยแล้ง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... | กษ. | 07/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยแล้ง
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานในท้องที่ตำบลเมืองหงส์
อำเภอจตุรพักตรพิมาน จังหวัดร้อยเอ็ด และตำบลหนองไฮ อำเภอวาปีปทุม
จังหวัดมหาสารคาม เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทานจากผู้ใช้น้ำที่นำน้ำไปใช้เพื่อกิจการโรงงาน
การประปา หรือกิจการอื่นนอกจากภาคเกษตรกรรม เพื่อประโยชน์ในการควบคุมดูแลปริมาณน้ำ
และเพื่อให้การใช้น้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตรวจสอบความถูกต้องของชื่อท้องที่การปกครองและแนวเขตการปกครองท้องที่
ตลอดจนตรวจสอบพื้นที่และจุดยึดโยงต่าง ๆ
ให้ถูกต้องรวมทั้งแก้ไขชื่อผู้มีอำนาจลงนามให้เป็นปัจจุบันก่อนประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 8303 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองแยกซอย 3 ขวา ของคลองซอย 5 ซ้าย ของคลองส่งน้ำสายใหญ่ 2 ซ้าย เป็นทางน้ำชลประทาน ที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... | กษ. | 07/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองแยกซอย
๓ ขวา ของคลองซอย ๕ ซ้าย ของคลองส่งน้ำสายใหญ่ ๒ ซ้าย เป็นทางน้ำชลประทาน
ที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานคลองแยกซอย
๓ ขวา ของคลองซอย ๕ ซ้าย ของคลองส่งน้ำสายใหญ่ ๒ ซ้าย ในท้องที่ตำบลสระยายโสม
อำเภออู่ทอง และตำบลเนินพระปรางค์ อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทานจากผู้ใช้น้ำที่นำน้ำไปใช้เพื่อกิจการโรงงาน
การประปา หรือกิจการอื่นนอกจากภาคเกษตรกรรม เพื่อประโยชน์ในการควบคุมดูแลปริมาณน้ำ
และเพื่อให้การใช้น้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ตรวจสอบความถูกต้องของชื่อท้องที่การปกครองและแนวเขตการปกครองท้องที่
ตลอดจนตรวจสอบพื้นที่และจุดยึดโยงต่าง ๆ ให้ถูกต้องรวมทั้งแก้ไขชื่อผู้มีอำนาจลงนามให้เป็นปัจจุบันก่อนประกาศใช้บังคับเป็นกฎหมายต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 8304 | การเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น | มท. | 07/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นและผู้บริหารท้องถิ่นขององค์การบริหารส่วนตำบล
กรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา ซึ่งคาดว่าจะให้มีการเลือกตั้งภายในวันที่ ๒๘
พฤศจิกายน ๒๕๖๔ ถึงวันที่ ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๔
รวมทั้งได้กำหนดแนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นในสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ ไว้แล้ว ตลอดจนองค์การบริหารส่วนตำบล
กรุงเทพมหานคร และเมืองพัทยา ได้กำหนดรายการค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นไว้ในข้อบัญญัติ
รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่นเพิ่มเติม
สำหรับกรณีการจัดการเลือกตั้งภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ ไว้พร้อมแล้ว ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีแจ้งคณะกรรมการการเลือกตั้งทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 8305 | สรุปมติการประชุมคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาสับปะรดแห่งชาติ ครั้งที่ 1/2564 | กษ. | 07/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปมติการประชุมคณะกรรมการนโยบายและพัฒนาสับปะรดแห่งชาติ
ครั้งที่ ๑/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๔
และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามข้อสั่งการรองนายกรัฐมนตรี
(นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) ประธานกรรมการนโยบายและพัฒนาสับปะรดแห่งชาติต่อไป
ซึ่งที่ประชุมมีมติในเรื่องสำคัญต่าง ๆ เช่น (๑) เห็นชอบ (ร่าง)
แผนปฏิบัติการด้านสับปะรด พ.ศ. ๒๕๖๔-๒๕๖๕ โดยประธานกรรมการนโยบายและพัฒนาสับปะรดแห่งชาติมีข้อสั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำหลักการเศรษฐกิจชีวภาพ
เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว มาเป็นแนวทางในการดำเนินการ และ (๒)
เห็นชอบแนวทางการบริหารจัดการผลผลิตสับปะรดช่วงเดือน กรกฎาคม-ธันวาคม ๒๕๖๔
ให้ฝ่ายเลขานุการฯ
ประสานผู้ว่าราชการจังหวัดในแหล่งผลิตสับปะรดให้เร่งแก้ไขปัญหาผลผลิต
โดยกำหนดเป็นมาตรการเชิงรุกให้เห็นผลสัมฤทธิ์และเป็นรูปธรรม และเชิญผู้แทนโรงงานแปรรูปสับปะรดและผู้แทนชาวไร่สับปะรดหารือเกี่ยวกับแนวทางการจัดทำบันทึกข้อตกลงซื้อขายสับปะรดโรงงาน
ตามที่คณะกรรมการนโยบายและพัฒนาสับปะรดแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 8306 | ร่างถ้อยแถลงของประธานร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขง - สาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ 11 | กต. | 07/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างถ้อยแถลงของประธานร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขง-สาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ ๑๑ มีสาระสำคัญเป็นการทบทวนการดำเนินความร่วมมือที่ผ่านมา ตลอดจนแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองของประเทศไทยในกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขง-สาธารณรัฐเกาหลี เพื่อส่งเสริมความร่วมมือด้านสาธารณสุข การพัฒนาที่ยั่งยืน และการมีส่วนร่วมของภาคเอกชน โดยไม่มีถ้อยคำหรือบริบทใดที่มุ่งจะก่อให้เกิดพันธกรณีภายใต้บังคับของกฎหมายระหว่างประเทศ จึงไม่เป็นสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศและไม่เป็นหนังสือสัญญาตามาตรา ๑๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างถ้อยแถลงของประธานร่วมการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขง-สาธารณรัฐเกาหลี ครั้งที่ ๑๑ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้ ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒. ให้กระทรวงการต่างประเทศได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 8307 | สรุปรายงานการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 4 (ระหว่างวันที่ 1 มกราคม-31 พฤษภาคม 2564) | นร.04 | 07/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปรายงานการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
ครั้งที่ ๔ (ระหว่างวันที่ ๑ มกราคม-๓๑ พฤษภาคม
๒๕๖๔) สรุปได้ ดังนี้ (๑)
ผลการดำเนินงานตามนโยบายหลัก ๑๒ ด้าน เช่น การปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์
การสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยของประเทศและความสงบสุขของประเทศ
การสร้างบทบาทของไทยในเวทีโลก การปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของคนไทยทุกช่วงวัย
การปฏิรูปการบริหารจัดการภาครัฐ การป้องกัน ปราบปรามทุจริตและประพฤติมิชอบและกระบวนการยุติธรรม
และ (๒) นโยบายเร่งด่วน ๑๒ เรื่อง เช่น การแก้ไขปัญหาในการดำรงชีวิตของประชาชน
การปรับปรุงระบบสวัสดิการและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน การยกระดับศักยภาพแรงงาน
การวางรากฐานระบบเศรษฐกิจของประเทศสู่อนาคต
การแก้ไขปัญหายาเสพติดและสร้างความสงบสุขในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ เป็นต้น
ตามที่คณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 8308 | ให้ตรวจสอบการจำหน่ายสินค้าผ่านทางโทรศัพท์ในระบบดาวเทียม | นร.04 | 07/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นว่า ปัจจุบันรายการโทรทัศน์ในระบบดาวเทียมมีการโฆษณาขายสินค้าและผลิตภัณฑ์ต่าง
ๆ อย่างหลากหลายและต่อเนื่อง เพื่อจูงใจให้ประชาชนซื้อสินค้าผ่านช่องทางดังกล่าว
อย่างไรก็ตามสินค้าหรือผลิตภัณฑ์ดังกล่าวส่วนใหญ่ยังไม่ได้รับการรับรองคุณภาพและมาตรฐานความปลอดภัย
ซึ่งอาจส่งผลกระทบเสียหายและเป็นอันตรายต่อผู้บริโภคได้ ดังนั้น
คณะรัฐมนตรีจึงมีมติให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข
(สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา) กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงอุตสาหกรรม
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เร่งรัดดำเนินการตรวจสอบการนำเสนอข้อมูลสินค้าและผลิตภัณฑ์ในสื่อดังกล่าว
การกำหนดราคา รวมทั้งคุณภาพมาตรฐานของสินค้าและผลิตภัณฑ์ดังกล่าวข้างต้นให้ถูกต้อง
เหมาะสม เป็นธรรม และให้ดำเนินการทางกฎหมายแก่ผู้กระทำผิดอย่างเคร่งครัด ทั้งนี้
ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมรายงานผลการดำเนินการดังกล่าวให้นายกรัฐมนตรีทราบด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 8309 | การร่วมรับรองและให้ความเห็นชอบเอกสารและท่าทีไทยในการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (AEM) ครั้งที่ 53 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง | พณ. | 07/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบต่อร่างเอกสาร จำนวน ๑๔ ฉบับ ที่จะมีการรับรอง
จำนวน ๓ ฉบับ เช่น ร่างกรอบเศรษฐกิจหมุนเวียน สำหรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
ร่างแผนงานบันดาร์เสรีเบกาวัน เป็นต้น และให้ความเห็นชอบ จำนวน ๑๑ ฉบับ เช่น
ร่างการพัฒนาแผนการดำเนินการในการปฏิบัติตามความตกลงว่าด้วยพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของอาเซียน
ร่างบัญชีรายการสินค้าจำเป็นในกลุ่มสินค้าอาหารและสินค้าเกษตร
ร่างแผนงานด้านการค้าและการลงทุนอาเซียน-สหภาพยุโรป (ปี ๒๕๖๓-๒๕๖๔) เป็นต้น
ในช่วงการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (AEM) ครั้งที่
๕๓ และการประชุมที่เกี่ยวข้อง และหากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขร่างเอกสารดังกล่าว
ที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย
ขอให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการได้โดยไม่ต้องขอความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีอีก
ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมรับรองเอกสารและให้ความเห็นชอบร่างเอกสารในฐานะรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน
(AEM)
ให้รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในฐานะคณะมนตรีประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน
(AEC Council) หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายให้การรับรองร่างกรอบเศรษฐกิจหมุนเวียนสำหรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนต่อไป
และให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายร่วมแสดงความยินดีต่อเจตจำนงการขอเข้าร่วมสมาชิกความตกลง
AANZFTA ของชิลี และไม่ขัดข้องหากภาคีสมาชิกเห็นชอบให้เพิ่มข้อบทในการเปิดรับสมัครสมาชิกใหม่เป็นการทั่วไป
(open accession clause) ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างเอกสารในการประชุมรัฐมนตรีเศรษฐกิจอาเซียน (AEM) ครั้งที่ ๕๓ และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||
| 8310 | ร่างกฎกระทรวงจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. .... | นร.09 | 07/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการจัดตั้งส่วนราชการในมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ซึ่งคณะกรรมการการอุดมศึกษา
ได้พิจารณากลั่นกรองและเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม พิจารณาเห็นชอบแล้ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 8311 | ผลการประชุมรัฐมนตรีกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขง-คงคา ครั้งที่ 11 | กต. | 07/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบผลการประชุมรัฐมนตรีกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขง-คงคา
ครั้งที่ ๑๑ เมื่อวันที่ ๒๑ กรกฎาคม ๒๕๖๔ ผ่านระบบการประชุมทางไกล
และพิจารณามอบหมายให้ส่วนราชการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องตามตารางติดตามผลการประชุมฯ
ต่อไป โดยที่ประชุมฯ ได้หารือเกี่ยวกับแนวทางการดำเนินความร่วมมือร่วมกันในอนาคต
เช่น การแลกเปลี่ยนประสบการณ์และแนวปฏิบัติที่เป็นเลิศในการรับมือกับโควิด-๑๙
การเร่งรัดการพัฒนาโครงการเชื่อมโยงเส้นทางคมนาคมอินเดีย-เมียนมา-ไทย
(โครงการถนนสามฝ่าย) และการจัดเวทีหารือภาคธุรกิจของกรอบความร่วมมือฯ
รวมทั้งได้รับรองถ้อยแถลงร่วมการประชุมรัฐมนตรีกรอบความร่วมมือลุ่มน้ำโขง-คงคา
ครั้งที่ ๑๑ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 8312 | ร่างกฎกระทรวงจัดตั้งส่วนราชการในสถาบันพระบรมราชชนก กระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. .... | นร.09 | 07/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบร่างกฎกระทรวงจัดตั้งส่วนราชการในสถาบันพระบรมราชชนก
กระทรวงสาธารณสุข พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการจัดตั้งส่วนราชการในสถาบันพระบรมราชชนก
กระทรวงสาธารณสุข โดยคณะกรรมการการอุดมศึกษา
ได้พิจารณากลั่นกรองและเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม พิจารณาเห็นชอบแล้ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 8313 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 30 สิงหาคม 2564 และวันจันทร์ที่ 6 กันยายน 2564) | ปสส. | 07/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๓๐ สิงหาคม ๒๕๖๔
ซี่งพิจารณาเรื่องที่คณะรัฐมนตรีส่งมาให้วิปรัฐบาลพิจารณา ได้แก่ ร่างพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ
พ.ศ. .... ร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการเรียนรู้ พ.ศ. .... และพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๓ ครั้งที่ ๑๘ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วันพุธที่ ๘ กันยายน
๒๕๖๔ พิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๓ ครั้งที่ ๑๙
(สมัยสามัญประจำปีครั้งที่หนึ่ง) วันพฤหัสบดีที่ ๙ กันยายน ๒๕๖๔ รวมทั้งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมร่วมของรัฐสภา
ครั้งที่๖ วันศุกร์ที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๖๔ ตามที่ฝ่ายเลขานุการวิปรัฐบาล
สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 8314 | รายงานกิจการประจำปี งบดุล และบัญชีกำไรขาดทุนของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม 2563 | กค. | 07/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานกิจการประจำปี งบดุล บัญชีกำไรและขาดทุนของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
สำหรับปีสิ้นสุดวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๓ ประกอบด้วย รายงานผลการดำเนินงานปีบัญชี
๒๕๖๓ เปรียบเทียบกับปีบัญชี ๒๕๖๒ ผลการดำเนินงานที่สำคัญในปีบัญชี ๒๕๖๓ ด้านสินเชื่อ
ด้านบริหารจัดการ NPLs ด้านพัฒนาผู้ปนะกอบการ
และทิศทางการดำเนินงานปี ๒๕๖๔ และแผนยุทธศาสตร์ในระยะ ๕ ปี (ปี ๒๕๖๔-๒๕๖๘) ของธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย
ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบและรับรองแล้ว และได้รับอนุมัติจากที่ประชุมผู้ถือหุ้นแล้ว
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้เสนอรัฐสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 8315 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง แนวทางการให้ความช่วยเหลือคนไร้ที่พึ่ง (กลุ่มคนไร้บ้าน) เพื่อการส่งเสริมศักยภาพด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่ ของคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา | สว. | 07/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง
แนวทางการให้ความช่วยเหลือคนไร้ที่พึ่ง (กลุ่มคนไร้บ้าน) เพื่อการส่งเสริมศักยภาพด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่
ของคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ
และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา
ซึ่งกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พิจารณารายงานและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการพัฒนาสังคม
และกิจการเด็ก เยาวชน สตรี ผู้สูงอายุ คนพิการ และผู้ด้อยโอกาส วุฒิสภา เรื่อง
แนวทางการให้ความช่วยเหลือคนไร้ที่พึ่ง (กลุ่มคนไร้บ้าน)
เพื่อการส่งเสริมศักยภาพด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตและความเป็นอยู่
โดยสรุปผลการพิจารณาได้ว่ากระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
ได้มีการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ แล้ว โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้มีระบบการจัดเก็บข้อมูลคนไร้ที่พึ่งทั่วประเทศ มีการดำเนินการร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชนในการให้ความคุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง
มีการจัดศูนย์บริการในรูปแบบต่าง ๆ
และมีการสนับสนุนการทำงานของอาสาพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ซึ่งเป็นกลไกในการขับเคลื่อนงานและเชื่อมประสานการช่วยเหลือคนไร้ที่พึ่งในพื้นที่
นอกจากนี้
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังเห็นควรให้มีการพัฒนาการทำงานเกี่ยวกับการคุ้มครองคนไร้ที่พึ่งให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นและจะได้ปรับปรุงกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 8316 | ผลการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจและการค้าและกลไกสนับสนุนอื่น ๆ เพื่ออำนวยความร่วมมือหลังจากเสร็จสิ้นการทบทวนนโยบายการค้าระหว่างกระทรวงพาณิชย์แห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงการค้าระหว่างประเทศแห่งสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ | พณ. | 07/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการลงนามบันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งคณะกรรมการร่วมด้านเศรษฐกิจและการค้าและกลไกสนับสนุนอื่น
ๆ
เพื่ออำนวยความร่วมมือหลังจากเสร็จสิ้นการทบทวนนโยบายการค้าระหว่างกระทรวงพาณิชย์แห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงการค้าระหว่างประเทศแห่งสหราชอาณาจักรบริเตนใหญ่และไอร์แลนด์เหนือ
ซึ่งคณะรัฐมนตรีได้เห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ ๒๓ มีนาคม ๒๕๖๔ และให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยวกับการปรับแก้ไขถ้อยคำในร่างความตกลงฯ
นั้น กระทรวงพาณิชย์ได้ดำเนินการปรับแก้ไขถ้อยคำแล้วและทั้งสองฝ่ายเห็นชอบในหลักการของร่างบันทึกความเข้าใจฯ
ซึ่งไม่ได้เปลี่ยนแปลงสาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบไว้
โดยทั้งสองฝ่ายได้ลงนามในบันทึกความเข้าใจฯ
ในรูปแบบออนไลน์และส่งเอกสารให้อีกฝ่ายลงนาม ผ่านช่องทางการทูตแล้ว เมื่อวันที่ ๑๙
กรกฎาคม ๒๕๖๔ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 8317 | ผลการพิจารณาญัตติด่วน เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาการป้องกันและแก้ไขปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระลอกใหม่ | สผ. | 07/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณาญัตติด่วน
เรื่อง ขอให้สภาผู้แทนราษฎรพิจารณาการป้องกันและแก้ไขปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (COVID-19)
ระลอกใหม่ ของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยสรุปผลการพิจารณาได้ว่า
กรมควบคุมโรคได้กำหนดขั้นตอนการขออนุญาตดำเนินการการจัดตั้งสถานกักกันในรูปแบบองค์กร
(Organizational
Quarantine : OQ) วัตถุประสงค์เพื่อเป็นการกักกันผู้เดินทางมาจากต่างประเทศ
ทั้งที่มีสัญชาติไทย หรือไม่มีสัญชาติ ซึ่งเป็นบุคคล
หรือกลุ่มบุคคลเฉพาะที่เป็นสมาชิกขององค์กรที่เดินทางมาปฏิบัติภารกิจขององค์กร
เช่น ทำงานตามสัญญาว่าจ้างและมีเอกสารจ้างงาน กลุ่มนักเรียน/นักศึกษา
การฝึกทางการทหาร หากมีความจำเป็นที่จะต้องมีการ Lockdown ควรกำหนดหลักเกณฑ์และเหตุผลในการ
Lockdown โดยคำนึงถึงความสมดุลในการกักกันโรคกับเศรษฐกิจ ถ้า
Lockdown เป็นเวลานานเกินไปจะส่งผลให้เกิดความล้มเหลวทางเศรษฐกิจ
ถ้า Lockdown เป็นเวลาน้อยเกินไป ทำให้ไม่สามารถกักกันโรคได้
แรงงานต่างชาติจะมีส่วนเข้ามาฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยหลังจากโควิด ๑๙ อย่างไรก็ตาม
การพึ่งพิงแรงงานข้ามชาติมากเกินไปอาจจะส่งผลเสียในระยะยาวได้ ทำให้ผู้ประกอบการธุรกิจชะลอการใช้เครื่องจักรและเทคโนโลยีซึ่งอาจทำให้ประเทศไทยติดกับดักรายได้ปานกลางต่อไป
เป็นต้น ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 8318 | ผลการประชุมคณะกรรมการการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ ครั้งที่ 2/2564 | กค. | 07/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ
ครั้งที่ ๒/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๓ สิงหาคม ๒๕๖๔ ซึ่งที่ประชุมมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการฯ
ครั้งที่ ๑/๒๕๖๔ และการดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการฯ ครั้งที่ ๑/๒๕๖๔
ดังนี้ การเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่าย ประจำปีงบงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ การเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ
การเบิกจ่ายโครงการภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา
เยียวยา และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ และรายงานการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ เช่น
ภาพรวมการเบิกจ่ายเงิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔
ผลการเบิกจ่ายเงินงบประมาณรายจ่ายลงทุน การเบิกจ่ายงบลงทุนรัฐวิสาหกิจ
การลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ที่มีมูลค่า ๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป เป็นต้น ตามที่คณะกรรมการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
| 8319 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 7/2564 | นร.11 สศช | 07/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม
จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ ในคราวประชุม
ครั้งที่ ๗/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๓ กันยายน ๒๕๖๔ ซึ่งได้พิจารณาอนุมัติโครงการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (COVID-๑๙)
สำหรับบริการประชากรในประเทศไทย เพิ่มเติม จำนวน ๑๒ ล้านโดส (Sinovac) ของกรมควบคุมโรค มอบหมายให้กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข
เป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการ ดำเนินการจัดทำความต้องการใช้จ่ายเป็นรายเดือน อนุมัติโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา
๓๓ ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ๑๓
จังหวัด เพิ่มเติม ๑ เดือน ของสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน มอบหมายให้สำนักงานประกันสังคม
กระทรวงแรงงาน เป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการ
ดำเนินการจัดทำความต้องการใช้จ่ายเป็นรายวัน และมอบหมายให้กระทรวงคมนาคม เร่งพิจารณาความเหมาะสมในการจัดทำข้อเสนอโครงการเพื่อให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ขับขี่รถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคนและรถจักรยานยนต์สาธารณะที่ไม่สามารถสมัครเป็นผู้ประกันตนมาตรา
๔๐ เนื่องจากอายุเกินคุณสมบัติที่สำนักงานประกันสังคมกำหนดไว้ ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ และให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการและกระทรวงต้นสังกัดรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เช่น ให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการควรเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์ ตลอดจนเร่งรัดประชาสัมพันธ์
เพื่อสร้างความรับรู้และความเข้าใจในมาตรการที่ถูกต้องให้กับประชาชน เร่งรัดการใช้จ่ายให้เป็นไปตามแผนการดำเนินงาน
และให้ความสำคัญกับระบบการติดตามและประเมินผลให้ทันต่อสถานการณ์ และให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการดำเนินโครงการต่าง
ๆ โดยใช้วงเงินกู้ตามพระราชกำหนดนี้ให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด รวมทั้งให้ดำเนินการตามข้อสังเกตและความเห็นเพิ่มเติมของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
โดยเคร่งครัดตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๒. ให้เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้ |
||||||||||||||||||||||||||||||
| 8320 | รายงานภาวะและแนวโน้มเศรษฐกิจไทยประจำไตรมาสที่ 2 ปี 2564 | กค. | 07/09/2564 | |||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานภาวะและแนวโน้มเศรษฐกิจไทยประจำไตรมาสที่ ๒ ปี
๒๕๖๔ ประกอบด้วย (๑) การดำเนินนโยบายการเงินในช่วงไตรมาสที่
๒ ปี ๒๕๖๔ ในการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน เมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๔
และ ๒๓ มิถุนายน ๒๕๖๔ ที่ประชุมมีมติเป็นเอกฉันท์ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ ๐.๕ ต่อปี และคาดว่าในปี
๒๕๖๔ และ ๒๕๖๕ เศรษฐกิจไทยจะขยายตัวที่ร้อยละ ๑.๘ และ ๓.๙ ตามลำดับ (๒) การประเมินแนวโน้มเศรษฐกิจการเงินเพื่อประกอบการดำเนินคณะกรรมการนโยบายการเงิน
ประเมินว่าเศรษฐกิจประเทศคู่ค้าในปี ๒๕๖๔ และ ๒๕๖๕ จะขยายตัวที่ร้อยละ ๖.๐ และ ๔.๑ ตามลำดับ
ส่งสัญญาณการปรับเปลี่ยนทิศทางนโยบายการเงิน ซึ่งภาวะการเงินโลกอาจเริ่มตึงตัวในระยะต่อไป
และ (๓) แนวโน้มเศรษฐกิจและเงินเฟ้อของไทย คาดว่าในปี ๒๕๖๔ เศรษฐกิจจะขยายตัวร้อยละ
๑.๘ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรควิด-๑๙
โดยคาดว่าประมาณการเศรษฐกิจในปี ๒๕๖๕ จะขยายตัวเร่งขึ้นร้อยละ ๓.๙ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||
