ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1223 จากทั้งหมด 6218 หน้า แสดงรายการที่ 24441 - 24460 จากข้อมูลทั้งหมด 124347 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
24441 | การรับรองร่างปฏิญญาว่าด้วยการสร้างประชาคม และประชาชนอาเซียนที่มีความเข้มแข็ง รู้รับ ปรับตัวฟื้นกลับจากภัยพิบัติ และการเปลี่ยนแปลง สภาพภูมิอากาศอย่างเป็นทางการ | มท | 20/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างปฏิญญาว่าด้วยการสร้างประชาคม และประชาชนอาเซียนที่มีความเข้มแข็ง รู้รับ ปรับตัวฟื้นกลับจากภัยพิบัติ และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างเป็นทางการ ซึ่งมีสาระสำคัญสอดคล้องกับความตกลงอาเซียนว่าด้วยการจัดการภัยพิบัติและการตอบโต้สถานการณ์ฉุกเฉิน (ASEAN Agreement on Disaster Management and Emergency Response : AADMER) กรอบกฎหมายและนโยบายที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. เป็นการแสดงเจตนาร่วมกันของอาเซียน ๑๐ ประเทศที่จะลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติต่าง ๆ โดยเฉพาะที่เกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของอากาศที่ทำให้เกิดผลกระทบต่อเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมของภูมิภาค ๒. ให้ความสำคัญต่อการร่วมมือกันเพื่อจัดทำมาตรการต่าง ๆ ให้รองรับการลดความเสี่ยงดังกล่าว ๓. เชิญชวนให้ผู้มีส่วนร่วมทุกภาคส่วนเข้ามามีบทบาทในการป้องกันและบริหารจัดการความเสี่ยงในระดับท้องถิ่น ชาติ และภูมิภาค พร้อมกับส่งเสริมการลงทุนในโครงการต่าง ๆ ที่จะช่วยลดความเสี่ยงเหล่านี้ ๔. ร่วมกันจัดทำฐานข้อมูลที่จะสามารถแบ่งปันกันได้ในภูมิภาค รวมทั้งเสริมสร้างศักยภาพของสถาบันระดับชาติและภูมิภาคเพื่อเฝ้าระวังและลดความเสี่ยงดังกล่าว ๕. มอบหมายให้ ASEAN Committee on Disaster Management เป็นศูนย์กลางสำหรับความร่วมมือข้ามเสาเพื่อสร้างความแข็งแกร่งในภูมิภาคต่อความเสี่ยงเหล่านี้
|
|||||||||||||||||||||||||||
24442 | ขออนุมัติงบประมาณสำหรับงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2559 | สช | 20/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
๑. อนุมัติตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในคราวประชุมครั้งที่ ๕/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๕๘ ดังนี้ ๑.๑ อนุมัติในหลักการงบประมาณสำหรับงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๙ วงเงิน ๑๖๓,๑๕๒,๑๘๓,๕๐๐ บาท สำหรับงบบริหารจัดการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ วงเงิน ๑,๙๔๓,๒๙๔,๐๐๐ บาท ให้สำนักงบประมาณพิจารณาสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีให้ตามความจำเป็นและเหมาะสมต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๑.๒ ในการใช้จ่ายงบกองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ห้ามมิให้นำไปใช้จ่ายนอกเหนือจากวัตถุประสงค์ที่ให้ใช้จ่าย เช่น การก่อสร้าง ซ่อมแซมอาคาร ค่าตอบแทนบุคลากรเพิ่มเติม และการนำไปสนับสนุนมูลนิธิต่าง ๆ เป็นต้น โดยให้ใช้จากงบบริหารจัดการสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติหรือจากงบประมาณปกติของส่วนราชการ ตามความเห็นของคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ ๑.๓ ให้สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการคลัง กระทรวงมหาดไทย กระทรวงแรงงาน สำนักงบประมาณ สำนักงาน ก.พ. สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจที่เห็นควรร่วมกันพิจารณาปรับปรุงให้ระบบการให้บริการสุขภาพทั้ง ๓ ระบบ ได้แก่กองทุนหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ กองทุนประกันสังคม และการเบิกค่ารักษาพยาบาลของข้าราชการ ให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน ลดความเหลื่อมล้ำของการใช้สิทธิผ่านทาง ๓ ระบบดังกล่าว โดยคำนึงถึงขีดความสามารถของภาระงบประมาณประเทศในอนาคต ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๒. ให้กระทรวงการคลังร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ สำนักงบประมาณ สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ พิจารณาหาแนวทางในการจัดตั้งกองทุนเพื่อช่วยเหลือคนยากจน รวมทั้งการดูแลผู้สูงอายุ โดยหาแนวทางสนับสนุนการดำเนินการโดยใช้เงินจากแหล่งอื่นนอกเหนือจากงบประมาณจากภาครัฐ โดยอาจให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วม เช่น การบริจาคเงินเพื่อรองรับภาวะที่จะมีผู้สูงอายุเพิ่มสูงขึ้นในอนาคต รวมทั้งหามาตรการให้ประชาชนผู้มีรายได้น้อยสามารถดูแลสุขภาพของตนเองเพื่อมิให้เป็นภาระงบประมาณแก่ภาครัฐ |
|||||||||||||||||||||||||||
24443 | การให้สิทธิ (คืนสิทธิ) ขั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุขกับบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิ เพิ่มเติม และการจัดการสถานะและสิทธิในบริการสาธารณสุขของบุคคลไร้รัฐไร้สัญชาติทั้งระบบ | สธ | 20/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีด้านเศรษฐกิจ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธาน ในคราวประชุมครั้งที่ ๕/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๕๘ ที่เห็นชอบในหลักการให้สิทธิ (คืนสิทธิ) ขั้นพื้นฐานด้านสาธารณสุขกับบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิเพิ่มเติม ประกอบด้วยบุคคลที่มีปัญหาสถานะและสิทธิรวมถึงบุตรที่กระทรวงมหาดไทยได้ขึ้นทะเบียน โดยมีเลขประจำตัว ๑๓ หลัก เรียบร้อยแล้ว จำนวน ๒๐๘,๖๓๑ คน สำหรับบุคคลกลุ่มอื่น ๆ ที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้เพราะขาดหลักฐานซึ่งยังไม่มีความชัดเจนถึงจำนวนที่แท้จริงและอาจมีความซ้ำซ้อนของข้อมูล ให้กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย และสภาความมั่นคงแห่งชาติ ตรวจสอบข้อมูลเพื่อยืนยันความถูกต้องและรับรองการขึ้นทะเบียนของกลุ่มบุคคลดังกล่าวก่อน แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||
24444 | การรายงานรายการรายจ่ายลงทุนที่มีงบประมาณตั้งแต่ 50 ล้านบาทขึ้นไป ของปีงบประมาณ 2558 | สลธ.คสช. | 20/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบการรายงานรายการรายจ่ายลงทุนที่มีงบประมาณตั้งแต่ ๕๐ ล้านบาทขึ้นไป เป็นรายกระทรวง สรุปข้อมูล ณ วันที่ ๘ เมษายน ๒๕๕๘ ตามที่คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐเสนอ ๒. ให้คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐร่วมกับกระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) และสำนักงบประมาณรายงานความก้าวหน้าผลการดำเนินการของรายการรายจ่ายลงทุนที่ยังไม่ได้เริ่มดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง สำหรับรายการรายจ่ายลงทุนที่มีงบประมาณตั้งแต่ ๕๐ ล้านบาทขึ้นไป ให้นายกรัฐมนตรีทราบทุก ๑๕ วัน
|
|||||||||||||||||||||||||||
24445 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์ แห่งประเทศไทย (จำนวน 4 คน 1. นายฟารุค วงษ์บริสุทธิ์ ฯลฯ) | วธ | 20/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการส่งเสริมกิจการฮัจย์แห่งประเทศไทย จำนวน ๔ คน โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๘ เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้
๑. นายฟารุค วงษ์บริสุทธิ์ ๒. นายอรุณ บุญชม ๓. นายวุฒิวัย หวังบู่ ๔. นายอิบรอเหม อาดำ
|
|||||||||||||||||||||||||||
24446 | การประชุมร่วมคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคณะรัฐมนตรี ครั้งที่ 3/2558 | นร05 | 20/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีชี้แจงว่า ในวันอังคารที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๘ เวลา ๐๙.๐๐ น. นายกรัฐมนตรีกำหนดให้มีการจัดการประชุมร่วมคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคณะรัฐมนตรี ครั้งที่ ๓/๒๕๕๘ ณ ตึกสันติไมตรี (หลังใน) ทำเนียบรัฐบาล เพื่อพิจารณาเสนอความเห็นและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับร่างรัฐธรรมนูญ ๒. ให้ทุกส่วนราชการพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับภารกิจของแต่ละส่วนราชการ และภาพรวมของร่างรัฐธรรมนูญ แล้วส่งผลการพิจารณาให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ในฐานะคณะทำงานเพื่อศึกษาร่างรัฐธรรมนูญ ภายในวันที่ ๑๔ พฤษภาคม ๒๕๕๘ เพื่อรวบรวมและนำเสนอในการประชุมร่วมระหว่างคณะรักษาความสงบแห่งชาติและคณะรัฐมนตรีในวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๕๕๘
|
|||||||||||||||||||||||||||
24447 | ข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี | นร | 20/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||
ในคราวประชุมคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีมีข้อสั่งการ ดังนี้
๑. ด้านเศรษฐกิจ ๑.๑ ให้รองนายกรัฐมนตรี (หม่อมราชวงศ์ปรีดิยาธร เทวกุล) ร่วมกับกระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย และสถาบันการเงินประเภทต่าง ๆ พิจารณาแนวทางบรรเทาความเดือดร้อนของผู้ประกอบการรายย่อยที่ประสบปัญหาขาดเงินทุนและข้อจำกัดในการเข้าถึงแหล่งทุน โดยเฉพาะผู้ค้าปลีกรายย่อยที่อยู่ในตลาด หาบเร่ แผงลอย เช่น แผงค้าขายในตลาดจตุจักร ว่าจะมีแนวทางช่วยเหลือในด้านสินเชื่ออย่างไร เช่น การชะลอหนี้ การค้ำประกันโดยใช้สัญญาเช่าระยะยาวหรือสินค้าเป็นหลักทรัพย์ เป็นต้น รวมทั้งพิจารณาวิธีการอำนวยความสะดวกในการให้บริการ เช่น การจัดรถบริการเคลื่อนที่ไปยังสถานที่ต่าง ๆ ที่ผู้ประกอบการสามารถใช้บริการได้สะดวก พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้ผู้ประกอบการรับทราบแนวทางดังกล่าวอย่างทั่วถึง ๑.๒ ให้ส่วนราชการรายงนผลความคืบหน้าในการดำเนินการเรื่องต่าง ๆ ๑.๒.๑ ให้กระทรวงการคลังรายงานความคืบหน้าการดำเนินมาตรการสินเชื่อเพื่อสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของประชาชนรายย่อย (สินเชื่อ Nano-Finance) ให้คณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๒ สัปดาห์ ๑.๒.๒ ให้ส่วนราชการที่รับผิดชอบในการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๐ มกราคม ๒๕๕๘ วันที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๕๘ และวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ เกี่ยวกับการให้ความช่วยเหลือผู้ประกอบการที่มีรายได้น้อย คนจนเมือง และผู้ได้รับผลกระทบจากการจัดระเบียบสังคม รวมถึงการดำเนินมาตรการกรณีการบุกรุกพื้นที่ป่าเพื่อใช้ประโยชน์ รายงานผลความคืบหน้าในการดำเนินการ เช่น สามารถดำเนินการแล้วเสร็จจำนวนเท่าใด อยู่ระหว่างการดำเนินการเท่าใด ยังไม่ได้ดำเนินการเท่าใด ปัญหาอุปสรรคในการดำเนินการ เป็นต้น ให้นายกรัฐมนตรีทราบภายในเดือนเมษายน ๒๕๕๘ ๑.๓ ให้กระทรวงมหาดไทยในฐานะผู้รับผิดชอบหลักร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำฐานข้อมูลของประชาชนแต่ละกลุ่ม โดยเฉพาะเกษตรกรและผู้มีรายได้น้อย เพื่อนำมากำหนดแนวทางการดูแลความเป็นอยู่และแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนโดยเชื่อมโยงกับข้อมูลทะเบียนราษฎร์ให้แล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายน ๒๕๕๘ ๒. ด้านการบริหารราชการแผ่นดินและอื่น ๆ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติให้ทุกกระทรวง กรมประชาสัมพันธ์ สำนักโฆษก สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีดำเนินการสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนในเรื่องต่าง ๆ ที่รัฐบาลและหน่วยงานดำเนินการในเรื่องต่าง ๆ มาอย่างต่อเนื่อง นั้น ให้ทุกกระทรวงกำหนดกลุ่มเป้าหมายและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของหน่วยงานของตนและสร้างการรับรู้ให้แก่ประชาชนโดยมุ่งเน้นกลุ่มเป้าหมายและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียของหน่วยงานเป็นสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการดำเนินการในลักษณะเป็นการช่วยเหลือประชาชนเพื่อให้ประชาชนได้รับรู้และเข้าถึงบริการ เช่น การติดตั้งโทรศัพท์สำหรับบริการผู้พิการทางสายตาและทางการได้ยินเพื่อใช้ในการติดต่อหมายเลขฉุกเฉิน ได้แก่ โรงพยาบาล สถานีตำรวจ ซึ่งเป็นการจัดให้มีการบริการโทรคมนาคมพื้นฐานโดยทั่วถึงและบริการเพื่อสังคม (Universal Services Obligation : USO)
|
|||||||||||||||||||||||||||
24448 | การรายงานโครงการที่มีการจัดจ้างให้เอกชนผู้รับจัดงาน (Organizer) งานโฆษณาและงานประชาสัมพันธ์ที่มีวงเงินการจัดจ้างตั้งแต่ 5 ล้านบาทขึ้นไป | นร | 20/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า ให้ทุกส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐที่จะดำเนินโครงการที่มีการจัดจ้างให้เอกชนผู้รับจัดงาน (Organizer) งานโฆษณา และงานประชาสัมพันธ์ที่มีวงเงินการจัดจ้างตั้งแต่ ๕ ล้านบาทขึ้นไป รายงานให้คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐทราบก่อนดำเนินการจัดจ้าง และให้คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐรวบรวมเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
24449 | แนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ | นร | 20/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ซึ่งพิจารณาระเบียบวาระการประชุมสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ครั้งที่ ๒๑/๒๕๕๘ เป็นพิเศษ วันพฤหัสบดีที่ ๒๓ เมษายน ๒๕๕๘ ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
24450 | การดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์การบูรณาการการขับเคลื่อนการพัฒนาตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ระยะที่ 2 พ.ศ. 2559 - 2563 | นร | 20/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายสุวพันธุ์ ตันยุวรรธนะ) เป็นผู้รับผิดชอบการดำเนินงานตามแผนยุทธศาสตร์การบูรณาการการขับเคลื่อนการพัฒนาตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ระยะที่ ๒ พ.ศ. ๒๕๕๙-๒๕๖๓ ของมูลนิธิปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริ และสถาบันส่งเสริมและพัฒนากิจกรรมปิดทองหลังพระสืบสานแนวพระราชดำริ
|
|||||||||||||||||||||||||||
24451 | วีดิทัศน์ผลการเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนเพื่อเฝ้าฯ รับเสด็จ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ผลการเยือนสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ อย่างเป็นทางการ ผลการหารือกับบุคคลต่างประเทศที่สำคัญของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และผลการเข้า ร่วมประชุม Global Conference on Cyberspace | กต | 20/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการต่างประเทศรายงานผลการเดินทางไปราชการต่างประเทศของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ สรุปได้ ดังนี้
๑. ผลการเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน เมื่อวันที่ ๔ เมษายน ๒๕๕๘ เพื่อเฝ้าฯ รับเสด็จ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จฯ ทรงเปิดงานนิทรรศการภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ ณ พิพิธภัณฑ์กรุงปักกิ่ง เพื่อเผยแพร่พระอัจฉริยภาพและเฉลิมฉลองพระชนมายุ ๕ รอบ และในวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๕๘ กระทรวงวัฒนธรรมจีนได้จัดแสดงนาฏศิลป์เฉลิมพระเกียรติฯ โดยมีรองนายกรัฐมนตรีจีนเข้าเฝ้าฯ รับเสด็จด้วย ในโอกาสนี้ฝ่ายจีนได้ยืนยันความสัมพันธ์และความร่วมมือที่ใกล้ชิดระหว่างกัน รวมทั้งให้ความสำคัญอย่างมากต่อการเสด็จฯ เยือนครั้งนี้และถือเป็นการเริ่มต้นการเฉลิมฉลองความสัมพันธ์ทางการทูตไทย-จีน ครบรอบ ๔๐ ปี ด้วย ๒. ผลการเยือนสาธารณรัฐฟิลิปปินส์ เมื่อวันที่ ๖-๗ เมษายน ๒๕๕๘ ตามคำเชิญของนายอัลเบิร์ต เดล โรซาริโอ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศฟิลิปปินส์ โดยได้แสดงความยินดีที่ไทยยกเลิกกฎอัยการศึก ในการนี้ ฟิลิปปินส์ได้ยกเลิกคำเตือนการเดินทางไปไทย รวมทั้งแสดงความซาบซึ้งในพระมหากรุณาธิคุณของสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารีที่ทรงรับโรงเรียนในฟิลิปปินส์ ๓ แห่ง ให้อยู่ภายใต้โครงการพัฒนาเด็กและเยาวชนในพระบรมราชูปถัมภ์ และขอบคุณรัฐบาลไทยที่มอบเงิน ๑๐๐,๐๐๐ ดอลลาร์สหรัฐ และข้าว ๕๐๐ ตัน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยจากพายุไต้ฝุ่น Hagupit ๓. ผลการหารือกับบุคคลต่างประเทศที่สำคัญ เมื่อวันที่ ๑๐ เมษายน ๒๕๕๘ ได้แก่ (๑) การหารือกับนายยัวเกน คลิมเคอ และนายฟรังค์ ไฮน์ริช สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเยอรมนี ทำให้ได้ทราบข้อมูลที่ถูกต้องและชัดเจนในแนวทางปฏิรูปสู่ประชาธิปไตย roadmap และการใช้บังคับมาตรา ๔๔ โดยแสดงความเข้าใจเป็นอย่างดีต่อสถานการณ์ของไทยที่ดีขึ้น และจะนำกลับไปแจ้งชาวเยอรมันทราบ และยินดีที่จะมาดูงาน และให้ข้อเสนอแนะเรื่องมาตรการทำประมงของไทย ซึ่งปัจจุบันได้ออกกฎหมายและมาตรการแก้ไขปัญหาซึ่งได้รับการยอมรับจาก IUU แล้ว และ (๒) การหารือกับนาย Alexander Feldman ประธานสภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน หรือ USABC ได้ขอบคุณเกี่ยวกับการประสานงานให้คณะนักธุรกิจกลุ่มอาหารและเกษตรกรรมฯ ได้พบกับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และมีแผนจะนำคณะนักธุรกิจ USABC เดินทางมาไทยในสัปดาห์แรกของเดือนสิงหาคมด้วย ๔. การเข้าร่วมประชุม Global Conference on Cyberspace ครั้งที่ ๔ ณ ศูนย์การประชุม World Forum กรุงเฮก เมื่อวันที่ ๑๖ เมษายน ๒๕๕๘ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศได้กล่าวถ้อยแถลงเน้นย้ำว่าประเทศไทยตระหนักถึงอิทธิพลและความสำคัญของเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตในการขับเคลื่อนการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจและการพัฒนาโดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่อาเซียนจะรวมตัวกันเป็นประชาคม จึงควรรักษาสมดุลระหว่างการส่งเสริมสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลและความมั่นคงทางไซเบอร์ รวมทั้งได้สร้างความเชื่อมั่นต่อที่ประชุมถึงความพยายามของไทยในการสร้างความปลอดภัยในการซื้อขายและทำธุรกรรมออนไลน์โดยสนับสนุนให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการพัฒนายุทธศาสตร์และกฎหมายด้านไซเบอร์เพื่อให้เทคโนโลยีไซเบอร์เป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาความเป็นอยู่ของประชาชนอย่างเท่าเทียมและยั่งยืนพร้อมไปกับการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจ
|
|||||||||||||||||||||||||||
24452 | ค่าตอบแทนของข้าราชการและบุคลากรภาครัฐประเภทต่าง ๆ | นร | 20/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเกี่ยวกับค่าตอบแทนของข้าราชการและบุคลากรภาครัฐประเภทต่าง ๆ ดังนี้
๑. ให้สำนักงาน ก.พ. กระทรวงกลาโหม และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พิจารณาดำเนินการเยียวยาให้ข้าราชการในหน่วยงานตนได้รับเงินเดือนหรือเงินประจำตำแหน่งที่เหมาะสมและเป็นธรรม โดยพิจารณาดำเนินการตามบทบัญญัติที่ให้อำนาจไว้ในร่างพระราชบัญญัติฯ ที่ผ่านความเห็นของสภานิติบัญญัติแห่งชาติได้ ตามที่เลขาธิการ ก.พ. รายงาน ๒. ให้สำนักงาน ก.พ. รับประเด็นเกี่ยวกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๔๐ และ ๒๕๕๐ ได้บัญญัติรองรับให้การกำหนดค่าตอบแทนของผู้พิพากษาและตุลาการ องค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ หรือองค์กรรัฐสภา เป็นไปตามที่กฎหมายบัญญัติ อีกทั้งยังได้ปรากฏในร่างมาตรา ๒๑๙ ของร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย จึงทำให้ค่าตอบแทนของบุคคลในองค์กรดังกล่าวสูงกว่าของข้าราชการ ไปดำเนินการเสนอความเห็นต่อคณะทำงานเพื่อศึกษาร่างรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เป็นประธาน ๓. ให้รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) ร่วมกับสำนักงาน ก.พ. พิจารณาปรับปรุงโครงสร้างองค์กร อัตราเงินเดือน และระบบค่าตอบแทนบุคลากรภาครัฐทั้งระบบครอบคลุมเจ้าหน้าที่ของรัฐทุกประเภท รวมไปถึงองค์กรอิสระตามรัฐธรรมนูญ องค์การมหาชน และข้าราชการการเมือง ให้มีอัตราที่เหมาะสม สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันและอนาคต ซึ่งต้องสัมพันธ์กับรายได้ของภาครัฐ ตลอดจนพิจารณาความเหมาะสมของสวัสดิการและประโยชน์ค่าตอบแทนอื่น เช่น ค่าล่วงเวลา เบี้ยเลี้ยงให้สอดคล้องกับอำนาจหน้าที่และภารกิจด้วย และให้นำเสนอคณะกรรมการพิจารณาเงินเดือนแห่งชาติพิจารณาในระหว่างที่ยังไม่มีคณะกรรมการอิสระว่าด้วยค่าตอบแทนบุคลากรภาครัฐ
|
|||||||||||||||||||||||||||
24453 | รายงานสถานภาพ ภาพรวมด้านงบประมาณ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2558 | นร07 | 20/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานสถานภาพ ภาพรวมด้านงบประมาณ ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๕๗-๓๑ มีนาคม ๒๕๕๘ มีการเบิกจ่ายเงินเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจแล้วทั้งสิ้น ๑,๗๐๖,๙๓๙ ล้านบาท (รวมเงินลงทุนของรัฐวิสาหกิจและเงินทุนหมุนเวียนที่ไม่ได้เบิกจ่ายจากเงินงบประมาณ) เพิ่มขึ้นจากวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๘ จำนวน ๑๖๗,๒๗๓ ล้านบาท ทั้งนี้ จากเป้าหมายการเบิกจ่ายภาพรวม และเป้าหมายการเบิกจ่ายรายจ่ายลงทุนตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติ สะสมถึงไตรมาสที่ ๒ (วันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๘) กำหนดไว้ร้อยละ ๕๕ ซึ่งผลการเบิกจ่ายในภาพรวมเบิกจ่ายได้ร้อยละ ๕๑.๔ ต่ำกว่าเป้าหมายตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ร้อยละ ๓.๖ และผลการเบิกจ่ายรายจ่ายลงทุน เบิกจ่ายได้ร้อยละ ๓๑.๑ ต่ำกว่าเป้าหมายตามมติคณะรักษาความสงบแห่งชาติ ร้อยละ ๒๓.๙ และพบว่า ยังมีรายจ่ายลงทุนที่ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นยังไม่สามารถก่อหนี้ได้ทันภายในไตรมาสที่ ๒ ตามที่สำนักงบประมาณและกระทรวงการคลังเสนอ ๒. ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นดำเนินการตามมาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ เพิ่มเติม ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๘ (เรื่อง มาตรการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๘ เพิ่มเติม และเรื่อง การเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณภาครัฐ) ทั้งนี้ หากยังคงมีความจำเป็นต้องดำเนินการตามโครงการ/รายการเดิม ซึ่งไม่สามารถก่อหนี้ผูกพันได้ทันภายในไตรมาสที่ ๒ ให้ส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นเสนอรัฐมนตรีที่รับผิดชอบและกำกับดูแลการปฏิบัติราชการพิจารณาให้ความเห็นชอบภายในวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๕๘ โดยเมื่อได้รับความเห็นชอบแล้วให้ดำเนินการก่อหนี้ให้แล้วเสร็จภายในเดือนพฤษภาคม ๒๕๕๘ พร้อมทั้งแจ้งผลการพิจารณาให้คณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐรวบรวมเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีรับทราบต่อไป ตามที่สำนักงบประมาณและกระทรวงการคลังเสนอ ๓. ให้กระทรวงการคลัง (กรมบัญชีกลาง) และสำนักงบประมาณรับไปตรวจสอบข้อเท็จจริงและประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรีที่ว่า ให้หาข้อเท็จจริงมาว่าช้าเพราะอะไร และให้ทุกหน่วยงานชี้แจงสาเหตุทุกงบประมาณ
|
|||||||||||||||||||||||||||
24454 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สว | 20/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งได้ตั้งข้อสังเกตว่า ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวได้เพิ่มบทบัญญัติในการกำหนดมาตรการเพิ่มอำนาจทางปกครองให้แก่เจ้าหน้าที่ โดยให้นายกรัฐมนตรีออกประกาศกำหนดโดยความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี นั้น จำเป็นอย่างยิ่งที่ผู้ปฏิบัติต้องมีความเข้าใจในเจตนารมณ์ของกฎหมาย และมีขั้นตอน และวิธีการปฏิบัติที่รัดกุมและรอบคอบ ทั้งนี้ เมื่อกฎหมายมีผลใช้บังคับแล้ว หน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องตามพระราชบัญญัตินี้ควรดำเนินการประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ลักษณะการกระทำความผิดฐานค้ามนุษย์ โดยจัดทำคู่มือ เอกสารเผยแพร่ รวมถึงขั้นตอนในการปฏิบัติของการบังคับใช้กฎหมายทั้งทางอาญาและทางปกครองที่กำหนดไว้ในกฎหมาย ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ปฏิบัติหน้าที่สำนักงานเลขาธิการสภานิติบัญญัติแห่งชาติ เสนอ ๒. ให้กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์รับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ดังกล่าวไปพิจารณาว่าสมควรจะดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ได้หรือไม่ประการใดก่อน แล้วแจ้งผลการดำเนินการดังกล่าวให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่งเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||
24455 | ร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองป่าโมก จังหวัดอ่างทอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองป่าโมก จังหวัดอ่างทอง พ.ศ. 2555) | มท | 20/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองป่าโมก จังหวัดอ่างทอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองป่าโมก จังหวัดอ่างทอง พ.ศ. ๒๕๕๕ โดยเพิ่มเติมข้อกำหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินในข้อ ๑๖/๑) ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||
24456 | รายงานการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ 15 (การประชุม ครั้งที่ 61/2558 ถึง ครั้งที่ 65/2558) | นร04 | 20/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการดำเนินงานของคณะกรรมาธิการยกร่างรัฐธรรมนูญ ครั้งที่ ๑๕ (การประชุมครั้งที่ ๖๑/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๕๘ ถึงครั้งที่ ๖๕/๒๕๕๘ เมื่อวันที่ ๑๓ มีนาคม ๒๕๕๘) ซึ่งได้มีการพิจารณาทบทวนร่างบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
24457 | การพิจารณาความเหมาะสมของอัตราการเรียกเก็บเงินนำส่งจากสถาบันการเงิน | กค | 20/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการพิจารณาความเหมาะสมของอัตราการเรียกเก็บเงินนำส่งจากสถาบันการเงิน โดยอัตราการเรียกเก็บเงินนำส่งจากสถาบันการเงินจะยังคงเรียกเก็บในอัตราเดิมที่ร้อยละ ๐.๔๖ ต่อปี เนื่องจากในปีงบประมาณ ๒๕๕๘ คาดว่าจะมีเงินนำส่งจากสถาบันการเงิน จำนวน ๕๒,๓๘๘ ล้านบาท สูงกว่าภาระดอกเบี้ยจ่ายซึ่งอยู่ที่ ๔๖,๑๔๗ ล้านบาท ถึง ๖,๒๔๑ ล้านบาท ดังนั้น การกำหนดอัตราเงินนำส่งที่ร้อยละ ๐.๔๖ ต่อปี จึงเป็นอัตราที่เพียงพอต่อการชำระดอกเบี้ยหนี้เงินกู้ FIDF1 และ FIDF3 ในปีงบประมาณ ๒๕๕๘ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
24458 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงการคลัง) (นายเกียรติณรงค์ วงศ์น้อย) | กค | 20/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายเกียรติณรงค์ วงศ์น้อย ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (นักวิชาการคอมพิวเตอร์ทรงคุณวุฒิ) สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการคลัง ตั้งแต่วันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||
24459 | การยุติการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง | อส | 20/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมพิจารณาตัดสินชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีระหว่างส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ กับเอกชน และข้อพิพาทระหว่างส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐและรัฐวิสาหกิจด้วยกันเอง ของคณะกรรมการพิจารณาชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง (กยพ.) ในการประชุมครั้งที่ ๗/๒๕๕๖ เมื่อวันที่ ๒๑ ตุลาคม ๒๕๕๖ และ ครั้งที่ ๑/๒๕๕๗ เมื่อวันที่ ๘ สิงหาคม ๒๕๕๗ รวม ๑๔ เรื่อง ประกอบด้วย การดำเนินคดีระหว่างส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจกับเอกชน ได้พิจารณาคดีเสร็จสิ้น รวม ๒ เรื่อง และข้อพิพาทระหว่างส่วนราชการ หน่วยงานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจด้วยกันเอง ได้พิจารณาคดีเสร็จสิ้น รวม ๑๒ เรื่อง ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดเสนอ และแจ้งให้สำนักงานอัยการสูงสุดส่งคำตัดสินชี้ขาดและมติคณะรัฐมนตรีในเรื่องนี้ให้คู่กรณีทราบและถือปฏิบัติต่อไป ๒. สำหรับผลการประชุมพิจารณาตัดสินชี้ขาดของคณะกรรมการพิจารณาชี้ขาดการยุติในการดำเนินคดีแพ่งของส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เรื่อง ข้อพิพาทระหว่างกระทรวงมหาดไทยกับสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล กรณีเรียกร้องค่าภาษีการพนันสลากกินรวบค้างชำระ (หวยบนดิน) จำนวน ๑๒,๕๖๐,๔๗๔,๖๐๖.๕๐ บาท ที่ประชุมมีมติยืนตามมติที่ประชุม กยพ. ครั้งที่ ๔/๒๕๕๕ เมื่อวันที่ ๑๘ กรกฎาคม ๒๕๕๕ ซึ่งมีมติตัดสินชี้ขาดให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลชำระค่าภาษีการพนันสำหรับการออกสลากกินรวบที่ได้จำหน่ายไปทั้ง ๘๐ งวด ให้แก่กระทรวงมหาดไทย โดยไม่ต้องชำระดอกเบี้ย เนื่องจากเป็นหน่วยงานของรัฐด้วยกัน นั้น ให้สำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาลร่วมกับกระทรวงการคลังดำเนินการตามผลการประชุมหารือระหว่างส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๕๘ ซึ่งมีรองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เป็นประธาน แล้วแจ้งผลให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบ ก่อนเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง
|
|||||||||||||||||||||||||||
24460 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (กระทรวงคมนาคม) (นายไพฑูรย์ คุ้มวงศ์ดี) | คค | 20/04/2558 | ||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งนายไพฑูรย์ คุ้มวงศ์ดี ข้าราชการพลเรือนสามัญ ให้ดำรงตำแหน่งวิศวกรใหญ่ที่ปรึกษาวิชาชีพเฉพาะด้าน วิศวกรรมโยธา (ด้านบำรุงรักษา) (วิศวกรโยธาทรงคุณวุฒิ) กรมทางหลวง กระทรวงคมนาคม ตั้งแต่วันที่ ๓ กันยายน ๒๕๕๗ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ
|
.....