คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) กู้เงินใหม่ทดแทนเป็นการ 
หมุนเวียน (Roll - over) พันธบัตร กฟผ. ที่จะครบกำหนดไถ่ถอนในปี 2543 - 2549 จำนวน 9 รุ่น และ  
เงินกู้ธนาคารออมสินที่จะครบกำหนดชำระคืนในปี 2543 - 2546 จำนวน 3 สัญญา  รวมเป็นเงินทั้งสิ้น  
29,322.327 ล้านบาท    โดยให้กู้เงินใหม่ทดแทน (Roll - over) ไปจนครบอายุ 25 ปี  หรือต่ำกว่าหาก  
ภาวะเงินทุนหมุนเวียนของ กฟผ.  ดีขึ้นจนไม่จำเป็นต้องกู้เงินใหม่มาชำระหนี้อีก     ตามที่สำนักงานปลัด  
สำนักนายกรัฐมนตรี (กฟผ.) เสนอ โดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณาวิธีการกู้เงิน เงื่อนไขและราย    
ละเอียดต่าง ๆ ของการกู้เงิน  ตลอดจนการค้ำประกันเงินกู้  พร้อมดอกเบี้ยจากการกู้เงินดังกล่าวได้ตาม 
ความเหมาะสมและจำเป็น

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการขอเพิ่มคุณสมบัติผู้ขอรับทุนตามโครงการช่วยเหลือนักเรียนที่ได้รับผลกระทบ  
จากภาวะวิกฤต ตามที่คณะกรรมการประสานและติดตามการปฏิบัติตามโครงการเงินกู้จากธนาคารพัฒนาเอเชีย  
เพื่อปรับโครงสร้างทางสังคมเสนอ ดังนี้
         1. เห็นชอบการกำหนดคุณสมบัตินักเรียนที่ควรได้รับความช่วยเหลือเพิ่มเติมอีก 4 กลุ่ม  ได้แก่  นักเรียนที่   
กำลังศึกษาอยู่  แต่ผู้ปกครองได้รับความเดือดร้อนจากภาวะวิกฤตภายหลัง,   นักเรียนที่ออกจากโรงเรียนก่อนปี   
การศึกษา 2541,  นักเรียนที่ผู้ปกครองมีฐานะยากจนและขาดแคลน     และนักเรียนโรงเรียนปริยัติธรรมแผนก 
สามัญศึกษา ซึ่งบวชเป็นพระภิกษุสามเณร
         2. ให้กระทรวงศึกษาธิการจัดลำดับความสำคัญของกลุ่มเป้าหมาย  โดยค่าใช้จ่ายสำหรับกลุ่มเป้าหมายที่    
4  ให้ทำความตกลงกับสำนักงบประมาณ   และให้ปรับปรุงรายละเอียดของพื้นที่เป้าหมาย   การเข้าถึงกลุ่มเป้า     
หมายและวิธีการให้บริการการศึกษาที่ชัดเจน    ตลอดจนบทบาทของชุมชนในการกำหนดกลุ่มเป้าหมาย   การ 
ตรวจสอบและติดตามผลของการดำเนินงานอย่างเป็นระบบ และแจ้งให้กระทรวงการคลังเพื่อดำเนินการต่อไป

           คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงการคลังรายงานเกี่ยวกับโครงการสร้างโรงงานกษาปณ์ใหม่    
ซึ่งกระทรวงการคลังได้พิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อความเหมาะสมตามภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน และสอดคล้องกับ
นโยบายของรัฐบาล   โดยพิจารณาปรับลดค่าใช้จ่ายรายการก่อสร้างส่วนที่สามารถจะชลอการก่อสร้างไว้ก่อน
ได้ ให้เหลือภายในวงเงินเดิมจำนวน 1,792,988,700 บาท  สำหรับรายการที่ได้รับลดหรือชะลอไว้ กระทรวง 
การคลังจะพิจารณาดำเนินการในระยะเวลาที่เหมาะสมหลังจากภาวะเศรษฐกิจดีขึ้นต่อไป 

          คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่  125  ร.  เรื่อง  บทบาทของกระทรวงการต่างประเทศ  
กับนโยบายการส่งออกของภาคเอกชน ของนายเปรมศักดิ์ เพียยุระ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น  
โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการจัดตั้ง "หน่วยพัฒนาธุรกิจของภาคเอกชน" (Business  Development  Unit)  มี   
หน้าที่ติดตามประมวลและวิเคราะห์เกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยและของประเทศต่างๆ ทั่วโลกเพื่อ 
เสนอแนะกำหนดนโยบายและการดำเนินงานด้านเศรษฐกิจของประเทศ พิจารณาและประสานงานกับหน่วย  
งานที่เกี่ยวข้องเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาของผู้ประกอบธุรกิจโดยเฉพาะผู้ส่งออก   และการเชิญชวนให้นักธุรกิจ 
เอกชนเข้ามาใชบริการ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

          คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ คือ รับทราบรายงาน
การเบิกจ่ายเงินกู้ของสถาบันการเงินเฉพาะกิจเพื่อปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ (SAL) และเสริมสภาพคล่อง ครั้ง  
ที่ 5 ตามที่กระทรวงการคลังรายงาน  และที่ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง  (นายสมหมาย  ภาษี)    
รายงานเพิ่มเติม    โดยให้ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย  (ธสน.)  รับความเห็นของคณะ 
กรรมการรัฐมนตรี ฯ เกี่ยวกับการเร่งรัดจัดทำแผนการใช้เงินกู้ ADB Co-finance และการปรับแผนการใช้จ่าย 
เงินเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะเศรษฐกิจที่เปลี่ยนแปลง ไปพิจารณาดำเนินการด้วย

          คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 110 ร. เรื่อง เกษตรกรผู้เลี้ยงไก่ไข่รายย่อยประสบ  
ภาวะเดือดร้อนอันเนื่องมาจากการผูกขาดของบริษัทใหญ่ ของนายเปรมศักดิ์  เพียยุระ สมาชิกสภาผู้แทน 
ราษฎรจังหวัดขอนแก่น โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับมาตรการในการส่งเสริม สนับสนุนขยายการเลี้ยงไก่ไข่        
เพื่อผลิตไข่ไก่  การรวมกลุ่มหรือจัดตั้งสหกรณ์ของเกษตรกรรายย่อย   และการเพิ่มปริมาณการส่งออกไข่       
ไก่ของภาคเอกชนให้มากขึ้น ด้วยการลดต้นทุนการผลิต ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ  และให้ 
ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ คือ รับทราบรายงาน
ภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยในระยะ 6 เดือนแรกของปี 2541 ในส่วนของภาวะการส่งออกไปยังตลาด
สำคัญ  ภาวะการส่งออกสินค้าสำคัญ  ภาวะการนำเข้าสินค้าสำคัญ  การส่งออกและนำเข้าของประเทศต่าง ๆ  
เปรียบเทียบกับไทย ตามที่อธิบดีกรมเศรษฐกิจการพาณิชย์รายงาน  โดยให้กระทรวงพาณิชย์รับข้อสังเกตของ 
คณะกรรมการรัฐมนตรี ฯ เกี่ยวกับการจัดทำข้อมูลตัวเลขภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยระยะต่อไป  ควร   
จำแนกและเปรียบเทียบสินค้านำเข้าและส่งออกเป็นรายหมวดและรายสินค้าเพื่อให้ทราบถึงการได้เปรียบเสีย 
เปรียบ รวมทั้งแนวทางการแก้ไขปัญหาในแต่ละรายการ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป 

          คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 082 ร. เรื่อง โครงการรถไฟความเร็วสูง ของนายเอี่ยม  
ทองใจสด สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดเพชรบูรณ์ โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการระงับโครงการก่อสร้างรถ 
ไฟความเร็วสูง เนื่องจากสภาวะเศรษฐกิจปัจจุบันไม่เอื้ออำนวย  โดยให้การรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เร่ง 
พัฒนาโครงการก่อสร้างทางคู่ขนาน และขยายทางรถไฟให้ครบทั่วประเทศ   นอกจากนี้ รฟท. กำลังพิจารณา  
ด้านเทคนิคของรถไฟโดยสาระบบ  Push - Pull Train  ที่มีความคล่องตัวและสะดวกใช้งาน   และการพิจารณา  
นำระบบรถไฟฟ้ามาใช้และจัดทำเป็นโครงการในแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 8 แล้ว ตามที่ 
กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

          คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบคำตอบกระทู้ถามที่ 083 ร.  เรื่อง  ราษฎรได้รับความเดือดร้อนอันเนื่อง
มาจากบริษัทขนส่ง จำกัด ได้ประกาศขึ้นอัตราค่าโดยสาร  ของนายเปรมศักดิ์  เพียยุระ  สมาชิกสภาผู้แทน 
ราษฎรจังหวัดขอนแก่น  โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับเหตุผลในการประกาศขึ้นอัตราค่าโดยสารใหม่   เพื่อให้  
การจัดเก็บอัตราค่าโดยสารสอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน      และเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมกับผู้
ประกอบการขนส่ง โดยให้ประชาชนเดือดร้อนน้อยที่สุด   นอกจากนี้   กระทรวงคมนาคมได้กวดขันการให้ 
บริการของบริษัทขนส่ง ฯ  และกำชับขนส่งจังหวัดกวดขันดูแลไม่ให้ผู้ประกอบการขนส่งเก็บค่าโดยสารเกิน
กว่ากฎหมายกำหนด ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป

           คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้มีการแก้ไขปรับปรุงร่างพระราชบัญญัติที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวง
การคลัง ประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่ประสบภาวะวิกฤตเสนอทั้ง 3 ฉบับ
ดังนี้
          1. ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายที่ดิน  (ฉบับที่ ..)  พ.ศ. ....  (กำหนดให้คน   
ต่างด้าวที่เข้ามาลงทุนไม่ต่ำกว่า 25 ล้านบาท อาจได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยได้ไม่เกิน 1 ไร่ และ
แก้ไขให้ผู้มีสัญชาติไทยที่ได้สมรสกับคนต่างด้าวได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัย    โดยไม่ต้องกำหนด 
จำนวนที่ดินซึ่งผู้มีสัญาชาติไทยที่ได้สมรสกับคนต่างด้าวอาจได้มา)
          2. ร่างพระราชบัญญัติอาคารชุด  (ฉบับที่ ..)  พ.ศ. ....  (กำหนดให้คนต่างด้าวสามารถถือกรรม 
สิทธิ์ในห้องชุดได้ 100%   โดยให้กำหนดประเภทกิจการให้ชัดเจนว่าถือกรรมสิทธิ์เพื่อกิจการใด   หาก  
เป็นการประกอบธุรกิจต้องไม่ขัดต่อประกาศของคณะปฏิวัติ ฉบับที่ 281)
          3. ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....  (แก้  
ไขและปรับปรุงกฎหมายเกี่ยวกับการเช่าอสังหาริมทรัพย์ เพื่อโน้มน้าวหรือจูงใจให้คนต่างด้าวเข้ามาลง 
ทุนในประเทศ  โดยยกร่างกฎหมายพิเศษเพื่อกำหนดให้การเช่าลักษณะนี้เป็นทรัพยสิทธิ   รวมทั้งการ 
กำหนดประเภทกิจการที่คนต่างด้าวจะได้รับสิทธิในการเช่าไว้ในชัดเจน)
         สำหรับร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .....  
ซึ่งกระทรวงยุติธรรมกำลังดำเนินการยกร่างกฎหมายดังกล่าวอยู่   ให้กระทรวงยุติธรรมเร่งรัดดำเนิน  
การเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยด่วน     ส่วนการแก้ไขเพิ่มเติมร่างพระราชบัญญัติ ฯ เกี่ยวกับการ  
กำหนดจำนวนที่ดินซึ่งผู้มีสัญชาติไทยที่ได้สมรสกับคนต่างด้าวอาจได้มา    และการกำหนดให้คนต่าง  
ด้าวสามารถถือกรรมสิทธิ์ในห้องชุดได้ 100%  นั้น   มอบให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีการับไป
ยกร่าง แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยด่วน

           คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบผลการพิจารณาของคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ   
(สศช.)  เกี่ยวกับโครงการเงินกู้ญี่ปุ่นสาขาการวางแผนและจัดระบบการจราจร  (พ.ศ. 2541 - 2543)   ของ  
สำนักงานคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก (สจร.) ตามที่ สศช. เสนอ โดยให้ สจร. รับข้อสังเกตของ 
รองนายกรัฐมนตรี (นายสุวิทย์ คุณกิตติ) และข้อสังเกตเพิ่มเติมของ สศช. เกี่ยวกับการแบ่งงานระหว่างหน่วย 
งานวางแผนด้านการจราจรและขนส่งกับหน่วยงานปฏิบัติ    การให้ สจร. นำผลการศึกษาโครงการ ฯ  มาใช้ 
ประโยชน์ให้มากที่สุดในสภาวะที่ประเทศประสบวิกฤตทางเศรษฐกิจ     และการพิจารณาความเหมาะสมและ  
ความจำเป็นของขนาดและวงเงินลงทุนในแผนงานการก่อสร้างโครงข่ายถนน ไปพิจารณาด้วย      สำหรับข้อ  
เสนอของรองนายกรัฐมนตรี  (นายพิชัย รัตตกุล)  เกี่ยวกับการเสนอของบประมาณเพื่อดำเนินงานตามโครง 
การ ฯ  เห็นควรให้ สจร. นำกลับไปพิจารณาทบทวน  หากไม่สามารถดำเนินการในวงเงินที่คณะกรรมการ ฯ   
เห็นชอบ ให้เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยด่วนต่อไป

          คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบเรื่อง การเร่งรัดการเสนอร่างกฎหมายของส่วนราชการต่าง ๆ  ที่ต้อง 
นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาในปัจจุบัน โดยแบ่งได้เป็น 3 ประเภท ตามความสำคัญหรือความเร่งด่วน  
ดังนี้ เรื่องที่ต้องดำเนินการตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ, เรื่องที่จำเป็นต่อการบริหารราชการแผ่นดิน  
ตามนโยบายของรัฐบาลที่คณะรัฐมนตรีแถลงต่อรัฐสภา  และเรื่องที่ต้องดำเนินการโดยเร่งด่วนเพื่อแก้ไข 
ปัญหาสภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจ ตามที่เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ

          คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแต่งตั้งคณะกรรมการศึกษาข้อมูลการเลี้ยงกุ้งกุลาดำในพื้นที่น้ำจืด โดยมี   
ปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์  เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม   เป็นประธานกรรมการ   มีหน้าที่ตรวจสอบสภาพพื้นที่  
รวบรวมข้อมูลข้อเท็จจริง  ปัญหาและผลกระทบจากการเลี้ยงกุ้ง  ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่ง  
แวดล้อมเสนอ   โดยมีข้อสังเกตว่า  การที่คณะรัฐมนตรีมีมติผ่อนปรนให้ผู้เลี้ยงกุ้งกุลาดำในพื้นที่น้ำจืดที่ได้มีการ  
ติดประกาศไปแล้ว  สามารถติดประกาศต่อไปได้อีก 120 วัน  ก็เพื่อผ่อนคลายความเดือดร้อน   ดังนั้น  เมื่อครบ  
กำหนดแล้วจะต้องหยุดโดยสิ้นเชิง และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงวิทยาศาสตร์ ฯ เข้าไปตรวจ 
สอบว่าจะมีการดูแลสิ่งที่ตกค้างแลบำบัดมลภาวะได้อย่างไรต่อไป

           คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอคำตอบกระทู้ถามที่ 036 เรื่อง
มาตรการรองรับปัญหาการว่างงานในภาวะวิกฤติเศรษฐกิจ  ของนายเปรมศักดิ์  เพียยุระ   สมาชิกสภาผู้แทน
ราษฎรจังหวัดขอนแก่น    และมอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม    รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงศึกษาธิการ   และรัฐมนตรีว่าการทบวงมหาวิทยาลัย  ตอบในที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร  โดยสาระ
สำคัญคำตอบสรุปได้ว่า  การกำหนดแนวทางและมาตรการในการแก้ไขปัญหาคนว่างงาน   กระทรวงแรงงาน
และสวัสดิการสังคม  ได้กำหนด  "แผนปฏิบัติการบรรเทาปัญหาการว่างงาน"  เป็นแผนปฏิบัติการในลักษณะ
องค์รวม มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันรับผิดชอบดำเนินการ  และตามแผนปฏิบัติการบรรเทาการว่างงานดัง
กล่าวกำหนดให้มีมาตรการบรรเทาปัญหาการว่างงานซึ่งเริ่มดำเนินการนับตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2541 โดย
ใช้งบประมาณปกติปี พ.ศ. 2541 มีเป้าหมายลดการว่างงานที่ผิดปกติ 1 ล้านคน แยกออกเป็นมาตรการระยะ
สั้น ระยะกลาง และระยะยาว รวม 6 มาตรการ  สำหรับในส่วนของกระทรวงศึกษาธิการ ได้มีการเตรียมมาตร
การรองรับปัญหาเฉพาะหน้าการว่างงานในภาวะวิกฤติทางเศรษฐกิจที่เป็นรูปธรรม   ได้แก่   การส่งเสริมและ
เร่งรัดให้สถานศึกาประสานกับหน่วยงาจัดหางาน และสถานประกอบการจัดกิจกรรมการจัดหางานช่วยเหลือ
ผู้สำเร็จการศึกษา ให้สถานศึกษาจัดการแนะแนวการเข้าสู่อาชีพในสภาวะวิกฤติ และปรับแผนดำเนินการด้าน
หลักสูตรการกิจกรรมจัดการเรียนการสอน   เตรียมอาชีพสำหรับเยาวชนและประชาชนที่กำลังแสวงหาอาชีพ
ใหม่  ขยายจำนวนการรับนักเรียน  นักศึกษา  การบรรจุแต่งตั้งข้าราชการในตำแหน่งที่ว่าง  และให้กรมอาชีว
ศึกษากำหนดเป็นแนวนโยบายเน้นให้สถานศึกษาดำเนินการรับงานการค้า  เพื่อให้นักเรียน นักศึกษา มีราย
ได้ระหว่างเรียน รวมทั้งเร่งรัดให้สถานศึกษาดำเนินการประชาสัมพันธ์ในรูปแบบต่างๆ เพื่อให้สถานประกอบ
การ แหล่งงาน ทราบว่า ผู้สำเร็จการศึกษาระดับใด สาขาใดและมีคุณภาพที่จะสามารถทำงานได้  ทั้งนี้ ได้จัด
สรรงบประมาณแผ่นดินประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2541   เพื่อรองรับบุคลากรที่สำเร็จการศึกษาจากสถาบัน
การศึกษาทั่วประเทศไว้เฉพาะบางหน่วยงาน    รวมทั้งได้มีการศึกษาโครงสร้างระบบการพัฒนาและการผลิต
บุคลากรเพื่อให้สอดคล้องกับความต้องการของแรงงานในภาคการผลิตบุคลากรสาขาต่าง ๆ ในอนาคต

           คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ คือ  รับทราบรายงาน
สถานการณ์อัตราแลกเปลี่ยน สภาพคล่อง อัตราดอกเบี้ย เงินเฟ้อ และการขยายตัวของฐานเงิน ตามที่ธนาคาร  
แห่งประเทศไทย (ธ.ป.ท.) เสนอ      กับมอบหมายให้ ธ.ป.ท. จัดทำนโยบายการเงินระดับมหภาคในครึ่งปีหลัง 
ของปี 2541 ที่เกี่ยวข้องกับอัตราแลกเปลี่ยน สภาพคล่อง อัตราดอกเบี้ย เงินเฟ้อ  และการขยายตัวของฐานเงิน  
ที่มีความชัดเจนรวมเป็นส่วนหนึ่งของแผนกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ           ซึ่งคณะกรรมการรัฐมนตรี ฯ มีมติ
มอบหมายเรื่อง สรุปภาวะเศรษฐกิจไทยครึ่งปีแรก 2541  ซึ่งเป็นวาระที่ 2.5 ของระเบียบวาระการประชุมคณะ
กรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ ครั้งที่ 19/2541 ตามหนังสือสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการ 
เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่ นร (รศก.) 1015/399 ลงวันที่ 2 กรกฎาคม 2541

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ คือ รับทราบ 
รายงานภาวะเศรษฐกิจไทยครึ่งปีแรก 2541  ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและ  
สังคมแห่งชาติ (สศช.) และธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) รายงาน  โดยมีสาระสำคัญ  คือ  ค่าเงิน  
บาทอ่อนตัวลง เงินเฟ้อเพิ่มขึ้น ดัชนีตลาดหุ้นลดลงอย่างต่อเนื่อง  และระบบขาดสภาพคล่องทางการ  
เงิน  ทั้งนี้  ให้ สศช. ธปท. และกระทรวงการคลังรับไปจัดทำแผนกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศที่ชัดเจน 
และเป็นรูปธรรม   โดยให้รับประเด็นอภิปรายเกี่ยวกับการปรับนโยบายเศรษฐกิจมหภาค  แผนกระตุ้น 
เศรษฐกิจ   การแก้ไขกลไกการเงิน   การดำเนินนโยบายการเงินในช่วงที่ผ่านมา   มาตรการเพิ่มราย 
จ่ายรัฐบาลเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ การกำหนดมาตรฐานที่เข้มงวดสำหรับสถาบันการเงิน ระบบ Good  
Bank/Bad Bank   การใช้เงินกู้เพื่อสร้าง Social Safety Net  การเจรจาขอความร่วมมือกับ IMF   และ 
การดูแลให้มีปริมาณสินเชื่อเพื่อซื้อขายสินค้าเกษตรอย่างเพียงพอ ไปพิจารณาประกอบด้วย     ทั้งนี้ 
ให้รายงานต่อคณะกรรมการรัฐมนตรี ฯ ภายใน 2 สัปดาห์ 

          คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการเตรียมความพร้อมสภาวะแห้งแล้ง ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี 
และสิ่งแวดล้อมเสนอ   โดยมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการประเมินสถานการณ์การรุกล้ำของน้ำทะเลในแม่น้ำสายหลัก 
ผลกระทบจากปัญหาภัยแล้ง และการเตรียมตัวป้องกันปัญหาน้ำเสียที่จะเกิดจากภาวะภัยแล้ง

          คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบตามที่กระทรวงสาธารณสุขรายงานผลการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรี 
เรื่อง แผนปฏิบัติการตามกรอบนโยบายการปรับโครงสร้างทางสังคมด้านสาธารณสุข  โดยสรุปคือ การจัดให้ 
บริการทางการแพทย์และสาธาณสุขและขยายการดำเนินงานบัตรประกันสุขภาพ  สำหรับผู้มีรายได้น้อย  ผู้ที่  
สังคมช่วยเหลือเกื้อกูล และผู้ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะวิกฤตทางเศรษฐกิจ  การปรับเปลี่ยนและสนับสนุนงบ   
ประมาณสำหรับเด็กและสตรี  การกระจายบุคลากรสาธารณสุขไปในส่วนภูมิภาค   และการศึกษารูปแบบโรง 
พยาบาลที่จะบริหารแบบอิสระ (Corporatization)

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ คือ
          1. รับทราบภาวะการค้าระหว่างประเทศของไทยในระยะ 4 เดือนแรกของปี 2541  มาตรการเร่งรัดการ
ส่งออกในตลาดและสินค้าที่มีการส่งออกลดลง และความคืบหน้าการดำเนินการแก้ไขปัญหาอุปสรรคในการส่ง 
ออก ตามที่คณะกรรมการพัฒนาการส่งออก (พกอ.) เสนอ และให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรับข้อสังเกตของคณะ 
กรรมการรัฐมนตรี ฯ  เกี่ยวกับการแข่งขันการนำเข้า  การเพิ่มกำลังการผลิต  การแก้ปัญหาการส่งออกในด้าน 
ราคา ต้นทุนการผลิต และมาตรฐานสินค้า ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
          2. เห็นชอบมาตรการแก้ไขปัญหาการส่งออก เรื่อง  การประกาศลดภาษีตามโครงการ  AICO  (ASENA 
Industrial Cooperation) และเรื่อง การให้บริษัทการค้าระหว่างประเทศ (Trading Firms) สนับสนุนการส่งออก 
ของอุตสาหกรรมขนาดเล็กและกลาง  (SMEs : Small and Medium Enterprises)  ตามที่ พกอ. เสนอ   และให้ 
ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องรับไปดำเนินการต่อไป