ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 17 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 20 จากข้อมูลทั้งหมด 327 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | การแต่งตั้งผู้ว่าการการประปานครหลวง (นางสาวสุวรา ทวิชศรี) | มท. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง นางสาวสุวรา ทวิชศรี
เป็นผู้ว่าการการประปานครหลวง โดยให้ได้รับค่าตอบแทนคงที่ในปีแรกอัตราเดือนละ ๓๘๐,๐๐๐ บาท
และสิทธิประโยชน์อื่นตามที่กระทรวงการคลัง ให้ความเห็นชอบ ทั้งนี้
ตามมติคณะกรรมการการประปานครหลวง ในการประชุมครั้งที่ ๙/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๒๗
สิงหาคม ๒๕๖๗ และครั้งที่ ๑๐/๒๕๖๗ เมื่อวันที่ ๒๔ กันยายน ๒๕๖๗
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ลงนามในสัญญาจ้างเป็นต้นไป แต่ไม่ก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
2 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปานครหลวง (1. นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ฯลฯ รวม 14 คน) | มท. | 09/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้คณะกรรมการการประปานครหลวงมีจำนวนกรรมการเกินกว่าสิบเอ็ดคนแต่ไม่เกินสิบห้าคน
(นับรวมประธานกรรมการและกรรมการอื่นซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง
และผู้ว่าการการประปานครหลวงซึ่งเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง) ตามมาตรา ๖ วรรคสอง
แห่งพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ๒๕๑๘
และที่แก้ไขเพิ่มเติม
และแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปานครหลวง รวม ๑๔ คน
เพื่อทดแทนประธานกรรมการและกรรมการอื่นเดิมที่พ้นจากตำแหน่งก่อนครบวาระเนื่องจากลาออก
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๙ มกราคม ๒๕๖๗) เป็นต้น ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอ
ดังนี้ ๑. นายชัยวัฒน์ ชื่นโกสุม ประธานกรรมการ ๒. นายโชตินรินทร์ เกิดสม กรรมการ ๓. พลโท สุเมธ พรหมตรุษ กรรมการ ๔. นายชูชาติ รักจิตร กรรมการ ๕. นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ กรรมการ ๖. นายสนิท ขาวสอาด กรรมการ ๗. ร้อยตำรวจเอก ปิยะ รักสกุล กรรมการ ๘. นางสาวเพียงออ เลาหะวิไลย กรรมการ ๙. นายนิทัศน์ มณีศิลาสันต์ กรรมการ ๑๐. พลตำรวจโท กฤษฎา กาญจนอลงกรณ์ กรรมการ ๑๑. รองศาสตราจารย์ชัยวัฒน์ อุตตมากร กรรมการ ๑๒. นางสาวไตรทิพย์ ศิวะกฤษณ์กุล กรรมการ ๑๓. นายชัยทัต แซ่ตั้ง กรรมการ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
3 | การเร่งรัดการดำเนินการพิสูจน์สิทธิการครอบครองที่ดินของบุคคลในเขตที่ดินของรัฐ | นร. | 09/01/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่นายกรัฐมนตรีเสนอว่า
ที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทย โดยการไฟฟ้านครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปานครหลวง
และการประปาส่วนภูมิภาค ได้ผ่อนปรนให้ประชาชนผู้ได้รับทะเบียนบ้านชั่วคราวซึ่งออกให้กับที่อยู่อาศัยที่ปลูกสร้างขึ้นในที่ดินของรัฐโดยไม่ได้รับอนุญาต
รวมถึงผู้ที่อยู่ระหว่างการพิสูจน์สิทธิการครอบครองที่ดินของบุคคลในเขตที่ดินของรัฐสามารถขอใช้ไฟฟ้าและน้ำประปาได้ในอัตราค่าบริการที่เหมาะสม
อย่างไรก็ตาม เพื่อเป็นการแก้ไขปัญหาให้แก่ประชาชนกลุ่มดังกล่าวในระยะยาว
ซึ่งบางส่วนไม่มีสาธารณูปโภคทั้งไฟฟ้าและน้ำประปาใช้มาเป็นเวลานานมากแล้ว จึงขอให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ
(สคทช.) ดำเนินการ ดังนี้ ๑.
เร่งรัดการดำเนินการขอผ่อนผันการดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๘ เมษายน
๒๕๔๖ (เรื่อง
การออกเลขที่บ้านชั่วคราวให้กับผู้บุกรุกในเขตที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย)
รวมทั้งเร่งประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในที่ดินที่อยู่ระหว่างการพิสูจน์สิทธิการครอบครองที่ดินของบุคคลในเขตที่ดินของรัฐมาก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติในวันนี้สามารถเข้าถึงสาธารณูปโภคทั้งไฟฟ้าและน้ำประปาได้เป็นการชั่วคราวตามหลักสิทธิมนุษยชน
โดยให้ดำเนินการเรื่องนี้เป็นการนำร่องก่อนเฉพาะในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีและแม่ฮ่องสอน
และให้ สคทช. รายงานผลการดำเนินการให้คณะรัฐมนตรีทราบภายใน ๑ เดือน ทั้งนี้
ให้กระทรวงมหาดไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ความร่วมมือกับ สคทช. ในการดำเนินการดังกล่าวข้างต้นตามหน้าที่และอำนาจด้วย ๒.
เร่งรัดการดำเนินการพิสูจน์สิทธิการครอบครองที่ดินของบุคคลในเขตที่ดินของรัฐที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
ภายใน ๑ ปี ทั้งนี้ ให้ สคทช.
รายงานความคืบหน้าการดำเนินการให้คณะรัฐมนตรีทราบเป็นระยะ ๆ ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
4 | การบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชน (ค่าน้ำประปา) | นร. | 13/06/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยรายงานว่า
ปัจจุบันการประปานครหลวง (กปน.)
ได้รับผลกระทบจากต้นทุนการผลิตน้ำประปาที่เพิ่มสูงขึ้นมาก และคาดการณืว่า กปน.
อาจประสบกับภาวการณ์ขาดทุนตั้งแต่เดือนมีนาคม ๒๕๖๗ เป็นต้นไป
หากไม่มีการปรับอัตราค่าน้ำประปาให้เหมาะสม ทั้งนี้
ต้นทุนการผลิตน้ำประปามาจากปัจจัยหลายประการ เช่น ค่าน้ำดิบ ค่าไฟฟ้า
และค่าธรรมเนียมการวางท่อประปา เป็นต้น คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นว่า
เพื่อเป็นการบรรเทาภาระค่าครองชีพของประชาชนที่อาจจะเกิดขึ้นจากความจำเป็นที่ต้องเพิ่มค่าน้ำประปาของ
กปน. คณะรัฐมนตรีจึงมีมติมอบหมายให้กระทรวงมหาดไทย (กปน.)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น กระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงคมนาคม และกระทรวงพลังงาน เร่งพิจารณากำหนดมาตรการและแนวทางตามอำนาจหน้าที่ที่เกี่ยวข้องของแต่ละหน่วยงานเพื่อให้สามารถลดต้นทุนค่าใช้จ่ายในการผลิตน้ำประปา
รวมทั้งค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องของ กปน. ด้วย ทั้งนี้
โดยต้องไม่กระทบหรือเป็นภาระกับงบประมาณของรัฐ เช่น
การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตและลดปริมาณน้ำในระบบ
การลดค่าธรรมเนียมน้ำดิบของกรมชลประทาน การปรับลดค่าไฟฟ้า
การปรับลดหรือยกเว้นค่าธรรมเนียมการวางท่อประปาของกระทรวงคมนาคม
การลดหรือชะลอการนำเงินส่งคลังเป็นรายได้แผ่นดิน เป็นต้น
และให้กระทรวงมหาดไทยรวบรวมผลการผลิตพิจารณาดังกล่าวแล้วรายงานให้นายกรัฐมนตรีทราบโดยเร็วต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
5 | การแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการการประปานครหลวง (นายโชตินรินทร์ เกิดสม) | มท. | 28/02/2566 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
6 | แต่งตั้งผู้ว่าการการประปานครหลวง (นายมานิต ปานเอม) | มท. | 26/04/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง
นายมานิต ปานเอม ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการประปานครหลวง และให้ได้รับค่าตอบแทนคงที่ในอัตราเดือนละ
๓๘๐,๐๐๐ บาท
และสิทธิประโยชน์อื่นตามที่กระทรวงการคลังได้ให้ความเห็นชอบแล้ว
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ลงนามในสัญญาจ้างเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้นายมานิต ปานเอม
ลาออกจากการเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจก่อนลงนามในสัญญาจ้างด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
7 | ขอความเห็นชอบการจัดสวัสดิการรถจักรยานยนต์เพื่อใช้ในการปฏิบัติงานนอกสถานที่ให้แก่พนักงาน โดยให้พนักงานกู้เงินจากการประปานครหลวงแบบไม่คิดอัตราดอกเบี้ย ในวงเงินการจัดสวัสดิการ จำนวน 30 ล้านบาท | มท. | 05/04/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการจัดสวัสดิการรถจักรยานยนต์เพื่อใช้ในการปฏิบัติงานนอกสถานที่ให้แก่พนักงานของการประปานครหลวง
(กปน.) โดยให้พนักงานกู้เงินจาก กปน. แบบไม่คิดอัตราดอกเบี้ย ในวงเงินจัดสวัสดิการ
จำนวน ๓๐ ล้านบาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้กระทรวงมหาดไทย โดย กปน.
รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงาน สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า
ในการจัดสวัสดิการดังกล่าวควรพิจารณาค่าใช้จ่ายในภาพรวม
โดยคำนึงถึงสถานะทางการเงิน ผลการดำเนินงานของกิจการ มีการจัดทำแผนเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานหรือเพิ่มรายได้อย่างต่อเนื่อง
รวมทั้งแผนบริหารความเสี่ยงเพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นและไม่ก่อให้เกิดภาระแก่ประชาชน
และเห็นควรพิจารณาการกำหนดคุณสมบัติของพนักงานที่จะได้รับสวัสดิการให้สอดคล้องกับลักษณะการดำเนินงานขององค์กรในปัจจุบันที่บางส่วนได้ปรับปรุงรูปแบบเป็นการจ้างบุคคลภายนอกดำเนินงานแล้ว
ตลอดจนให้ความสำคัญสำหรับการใช้จ่ายเงินขององค์กรอย่างระมัดระวังด้วยความรอบคอบ
โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดในภาพรวมขององค์กรประกอบด้วย
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
8 | การแต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปานครหลวง (นายบุญชัย จรัสแสงสมบูรณ์) | มท. | 08/03/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายบุญชัย จรัสแสงสมบูรณ์ (ผู้แทนกระทรวงการคลัง) เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปานครหลวง แทนนายจำเริญ โพธิยอด (ผู้แทนกระทรวงการคลัง) กรรมการอื่นเดิมที่ขอลาออก
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๘ มีนาคม ๒๕๖๕) ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
9 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 13/2564 | นร.11 สศช | 09/11/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจและสังคม
จากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ ในคราวประชุมครั้งที่
๑๓/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๔
ซึ่งได้พิจารณาการใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ ดังนี้ (๑) อนุมัติโครงการภายใต้มาตรการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐานจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (โควิด ๑๙) (ด้านไฟฟ้าและด้านน้ำประปา) จำนวน ๔ โครงการ ของการไฟฟ้านครหลวง
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค กรอบวงเงินรวม ๑๒,๗๗๑.๑๕ ล้านบาท โดยใช้จ่ายจากเงินกู้ภายใต้แผนงานหรือโครงการกลุ่มที่
๒ ตามบัญชีท้ายพระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ (๒) มอบหมายให้การไฟฟ้านครหลวง
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค
เป็นหน่วยงานรับผิดชอบโครงการ และดำเนินการจัดทำความต้องการใช้จ่ายเป็นรายเดือน
เพื่อให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะสามารถจัดหาเงินกู้ พร้อมทั้งปฏิบัติตามข้อ ๑๕
ของระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการดำเนินการตามแผนงานหรือโครงการภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา
เศรษฐกิจและสังคมจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔
พ.ศ. ๒๕๖๔ โดยเคร่งครัดตามขั้นตอนต่อไป
ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ
และให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรให้หน่วยงานเจ้าของโครงการที่ดำเนินโครงการจัดทำข้อเสนอโครงการ
เสนอให้คณะกรรมการพิจารณาเป็นการล่วงหน้า เพื่อให้หน่วยงานเจ้าของโครงการใช้จ่ายเงินกู้ได้ตามแผนงานและวัตถุประสงค์
ควรเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์ และปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ
ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนอย่างเคร่งครัด
รวมทั้งเร่งรัดการใช้จ่ายให้เป็นไปตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่าย
ตลอดจนให้ความสำคัญกับการติดตามประเมินผลโครงการทั้งในช่วงระหว่างการดำเนินโครงการและภายหลังสิ้นสุดโครงการ
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
10 | มาตรการบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนและผู้ประกอบการธุรกิจจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ในระลอกเดือนเมษายน 2564 | นร.11 | 05/05/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
รับทราบตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอขอแก้ไขข้อความในหนังสือสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ด่วนที่สุด ที่ นร ๑๑๐๖/๒๗๑๓ ลงวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๔ หน้า ๘ ข้อ ๒.๒) จาก
ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน ๒๕๖๔ และสามารถนำ e-Voucher ไปใช้จ่ายในเดือนสิงหาคมถึงธันวาคม ๒๕๖๔ ทั้งนี้
คาดว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมโครงการฯ ประมาณ ๓๑ ล้านคน” เป็น
“...ในช่วงเดือนกรกฎาคมถึงธันวาคม ๒๕๖๔ ทั้งนี้ คาดว่าจะมีประชาชนเข้าร่วมโครงการฯ
ประมาณ ๔ ล้านคน” ๒.
รับทราบและเห็นชอบตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๒.๑
รับทราบการดำเนินมาตรการบรรเทาผลกระทบการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙
ที่ดำเนินการอยู่
โดยเห็นควรมอบหมายให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาพิจารณาดำเนินการเลื่อนกรอบระยะเวลาการดำเนินโครงการเราเที่ยวด้วยกัน
ระยะที่ ๓ และโครงการทัวร์เที่ยวไทย
ออกไปจนกว่าสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ ในระลอกเดือนเมษายน
๒๕๖๔ จะคลี่คลายลงตามขั้นตอนของระเบียบและข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒.๒
เห็นชอบในหลักการของข้อเสนอมาตรการบรรเทาผลกระทบของประชาชนและผู้ประกอบการธุรกิจจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ ในระลอกเดือนเมษายน ๒๕๖๔ และเห็นควรมอบหมายให้หน่วยงานรับผิดชอบเร่งดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒.๓ เห็นควรให้การไฟฟ้านครหลวง
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปานครหลวง และการประปาส่วนภูมิภาค
ดำเนินการตามมาตรการบรรเทาภาระค่าใช้จ่ายด้านสาธารณูปโภคขั้นพื้นฐาน
(ไฟฟ้าและน้ำประปา)
โดยขอรับสนับสนุนแหล่งเงินเพื่อดำเนินตามมาตรการดังกล่าวภายใต้กรอบวงเงินรวมไม่เกิน
๑๐,๐๐๐ ล้านบาท ตามขั้นตอนของพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา
เยียวยา
และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ ต่อไป ๓.
ให้เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหน่วยงานของรัฐที่สามารถขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับทางปกครอง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | มท. | 23/03/2564 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหน่วยงานของรัฐที่สามารถขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการบังคับทางปกครองแทน
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้การไฟฟ้านครหลวง
การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค การประปานครหลวง การประปาส่วนภูมิภาค องค์การตลาด และองค์การจัดการน้ำเสีย
เป็นหน่วยงานของรัฐที่สามารถขอให้เจ้าพนักงานบังคับคดีดำเนินการทางปกครองแทนได้
ตามกฎหมายว่าด้วยวิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รวมพิจารณาร่างกฎกระทรวงในเรื่องนี้กับร่างกฎกระทรวงฯ
ที่เป็นเรื่องทำนองเดียวกันซึ่งอยู่ระหว่างสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาให้เป็นฉบับเดียว
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
12 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปานครหลวง | มท. | 23/11/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้คณะกรรมการการประปานครหลวง มีจำนวนทั้งสิ้น ๑๕ คน (ประกอบด้วย ประธานกรรมการและกรรมการอื่นซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง รวม ๑๔ คน และผู้ว่าการการประปานครหลวงซึ่งเป็นกรรมการโดยตำแหน่ง) ตามมาตรา ๖ วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติคุณสมบัติมาตรฐานสำหรับกรรมการและพนักงานรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. ๒๕๑๘ และที่แก้ไขเพิ่มเติม และแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการประปานครหลวง รวาม ๑๔ คน แทนกรรมการอื่นเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบหกสิบห้าปีบริบูรณ์ และแทนประธานกรรมการและกรรมการอื่นเดิมที่ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๓ พฤศจิกายน ๒๕๖๓) เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้ ๑ นายนิสิต จันทร์สมวงศ์ เป็นประธานกรรมการ ๒ พลเอก
สิงห์ทอง หมีทอง เป็นกรรมการ ๓ นายอนุชิต
ตระกูลมุทุตา เป็นกรรมการ ๔
นายกฤษดา กวีญาณ เป็นกรรมการ
(ผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคธุรกิจ) ๕ นายชัยทัต
แซ่ตั้ง เป็นกรรมการ (ผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคธุรกิจ) ๖ นายวรายุทธ
เย็นบำรุง เป็นกรรมการ (ผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคธุรกิจ) ๗
นายประสิทธิ์ สืบชนะ เป็นกรรมการ
(บุคคลในบัญชีรายชื่อ) ๘.
นายณัฐกิตติ์ ตั้งพูลสินธนา เป็นกรรมการ (บุคคลในบัญชีรายชื่อและ ผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคธุรกิจ) ๙.
หม่อมราชวงศ์ศศิพฤนท์ จันทรทัต เป็นกรรมการ
(บุคคลในบัญชีรายชื่อและ ผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคธุรกิจ) ๑๐.
นายหร่อหยา จันทรัตนา เป็นกรรมการ
(บุคคลในบัญชีรายชื่อ) ๑๑.
นายสัญญา แสงพุ่มพงษ์ เป็นกรรมการ ๑๒.
นายนิทัศน์ มณีศิลาสันต์ เป็นกรรมการ
(ผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคธุรกิจ) ๑๓.
นายวีรวัฒน์ ยมจินดา เป็นกรรมการ
(ผู้ทรงคุณวุฒิจากภาคธุรกิจ) ๑๔.
นายจำเริญ โพธิยอด เป็นกรรมการ
(บุคคลในบัญชีรายชื่อและ ผู้แทนกระทรวงการคลัง) ๑๕.
นายปริญญา ยมะสมิต เป็นกรรมการ/ผู้ว่าการการประปานครหลวง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
13 | ขอความเห็นชอบการปรับขยายเพดานอัตราเงินเดือนขั้นสูงสุดของการประปานครหลวง | มท. | 06/10/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้การประปานครหลวงปรับขยายเพดานอัตราเงินเดือนขั้นสูงสุดจาก
๑๑๓,๕๒๐ บาท เป็น ๑๔๒,๘๓๐ บาท โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๖ ตุลาคม
๒๕๖๓) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้กระทรวงมหาดไทย (การประปานครหลวง)
รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น
การปรับขยายเพดานอัตราเงินเดือนขั้นสูงสุดของการประปานครหลวงควรพิจารณาค่าใช้จ่ายด้านบุคลากรให้มีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐ
โดยคำนึงถึงสถานะทางการเงิน ผลการดำเนินงานของกิจการ
มีการจัดทำแผนการเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานหรือเพิ่มรายได้
เพื่อชดเชยค่าใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้นและประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ
เพื่อไม่ให้ส่งผลผลกระทบภาระงบประมาณ
โดยคำนึงถึงหลักความคุ้มค่าและประหยัดในการใช้จ่ายงบประมาณ เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
14 | แต่งตั้งผู้ว่าการการประปานครหลวง | มท. | 08/09/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้ง
นายกวี อารีกุล ให้ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการการประปานครหลวง โดยให้ได้รับค่าตอบแทนคงที่ในอัตราเดือนละ
๓๕๐,๐๐๐ บาท ซึ่งกระทรวงการคลังได้ให้ความเห็นชอบแล้ว ตามมติคณะกรรมการการประปานครหลวง
ในการประชุมครั้งที่ ๗/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๖๓ และครั้งที่ ๘/๒๕๖๓
เมื่อวันที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๓ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอ
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ลงนามในสัญญาจ้างเป็นต้นไปแต่ไม่ก่อนวันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
และให้ นายกวี อารีกุล ลาออกจากการเป็นพนักงานรัฐวิสาหกิจก่อนลงนามในสัญญาจ้างด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
15 | ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ครั้งที่ 1/2563 | สกพอ | 12/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ครั้งที่ ๑/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๖ มีนาคม ๒๕๖๓ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุม โดยที่ประชุมได้มีมติเห็นชอบแผนงานรื้อย้ายสาธารณูปโภคและก่อสร้างทดแทนในพื้นที่โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ท่าอากาศยานดอนเมือง-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-ท่าอากาศยานอู่ตะเภา) และกรอบวงเงินงบประมาณเพื่อดำเนินการดังกล่าว จำนวน ๔,๑๐๓.๖๐๘ ล้านบาท เฉพาะส่วนที่หน่วยงานของรัฐเจ้าของสาธารณูปโภคต้องดำเนินการขอรับการจัดสรรงบประมาณ ประกอบด้วย หน่วยงานภายใต้กระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร การไฟฟ้านครหลวง การประปานครหลวง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการประปาส่วนภูมิภาค) จำนวน ๔,๐๖๙.๔๐๘ ล้านบาท หน่วยงานภายใต้กระทรวงกลาโหม (กิจการไฟฟ้าสวัสดิการสัมปทานกองทัพเรือ) จำนวน ๓๑.๒ ล้านบาท และหน่วยงานภายใต้กระทรวงศึกษาธิการ (ค่ายลูกเสือวชิราวุธ) จำนวน ๓ ล้านบาท ในส่วนของแผนงานรื้อย้ายสาธารณูปโภคและก่อสร้างทดแทนสาธารณูปโภคที่กีดขวางการก่อสร้างโครงการดังกล่าว ของหน่วยงานภายใต้กระทรวงพลังงาน [บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) และการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย] และของเอกชนอื่น ๆ นั้น หน่วยงานเจ้าของสาธารณูปโภคและเอกชนเจ้าของสาธารณูปโภคจะดำเนินการรื้อย้ายและรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นเอง และเมื่อดำเนินการรื้อย้ายและ/หรือก่อสร้างทดแทนสาธารณูปโภคในพื้นที่เรียบร้อยแล้ว การรถไฟแห่งประเทศไทยซึ่งเป็นเจ้าของพื้นที่จะทยอยส่งมอบพื้นที่ให้เอกชนคู่สัญญาเพื่อเข้าดำเนินการก่อสร้างในพื้นที่ดังกล่าวต่อไป ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเสนอ ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก กระทรวงกลาโหม กระทรวงคมนาคม กระทรวงพลังงาน กระทรวงมหาดไทย กระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นว่า หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรมีมาตรการบริหารความเสี่ยงในขั้นตอนการดำเนินงาน เพื่อไม่ให้ส่งผลกระทบต่อภาพรวมของการดำเนินโครงการ และควรกำกับและติดตามการดำเนินงานและการใช้จ่ายงบประมาณให้เป็นไปตามแผน นอกจากนี้ ในระหว่างขั้นตอนการรื้อย้ายและก่อสร้างสาธารณูปโภคทดแทนกลับ จะต้องคำนึงถึงผลกระทบต่อประชาชนทั้งในด้านความเป็นอยู่และความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินจากการดำเนินงานในบริเวณพื้นที่ดังกล่าวด้วย เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
16 | มาตรการช่วยเหลือผู้ใช้น้ำประปาที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพิ่มเติม | มท | 05/05/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบมาตรการช่วยเหลือประชาชนผู้ใช้น้ำประปาที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) เพิ่มเติม เพื่อการประปานครหลวงและการประปาส่วนภูมิภาคจะได้ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้
๑. มาตรการของการประปานครหลวง ๑.๑ มาตรการเดิม (ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๓) มาตรการที่ ๑ ขยายระยะเวลาการชำระค่าน้ำประปา สำหรับผู้ใช้น้ำที่จดทะเบียนประกอบธุรกิจโรงแรมและกิจการให้เช่าที่พักอาศัย โดยไม่คิดดอกเบี้ย สามารถผ่อนชำระได้ไม่เกิน ๖ เดือน ของแต่ละรอบใบแจ้งค่าน้ำประปาสำหรับรอบการใช้น้ำเดือนเมษายน-พฤษภาคม ๒๕๖๓ ๑.๒ มาตรการเพิ่มเติม ๑.๒.๑ มาตรการที่ ๒ ลดค่าน้ำประปาให้กับผู้ใช้น้ำทุกประเภท เริ่มตั้งแต่รอบการใช้น้ำเดือนเมษายน-มิถุนายน ๒๕๖๓ (ใบแจ้งค่าน้ำประปาเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม ๒๕๖๓) ได้แก่ (๑) กรณีผู้ใช้น้ำที่ใช้น้ำน้อยกว่าหรือเท่ากับ ๑๐ ลูกบาศก์เมตร ยกเว้นการจัดเก็บค่าน้ำประปา ค่าบริการรายเดือน และค่าน้ำดิบ และ (๒) กรณีผู้ใช้น้ำที่ใช้น้ำมากกว่า ๑๐ ลูกบาศก์เมตร ยกเว้นค่าน้ำประปาสำหรับน้ำ ๑๐ ลูกบาศก์เมตรแรก และส่วนที่ใช้เกิน ๑๐ ลูกบาศก์เมตร ลดค่าน้ำในอัตราร้อยละ ๒๐ ๑.๒.๒ มาตรการที่ ๓ คืนเงินประกันการใช้น้ำให้กับผู้ใช้น้ำประเภทที่ ๑ ที่พักอาศัย และประเภทที่ ๒ ธุรกิจ ราชการ รัฐวิสาหกิจ อุตสาหกรรม และอื่น ๆ ๑.๒.๓ มาตรการที่ ๔ ยกเว้นค่าธรรมเนียมในการชำระค่าน้ำประปา เมื่อชำระผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส, 7-11, เทสโก้ โลตัส, บิ๊กซี และ CenPay เป็นระยะเวลา ๓ เดือน ตั้งแต่วันที่ ๑๗ เมษายน-๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๓ ๑.๒.๔ มาตรการที่ ๕ ยกเว้นการตัดน้ำประปาทั้งชั่วคราวและถาวร (งดผูกลวดและถอดมาตรวัดน้ำ) เป็นระยะเวลา ๖ เดือน ตั้งแต่วันที่ ๒๓ มีนาคม-๓๐ กันยายน ๒๕๖๓ ๒. มาตรการของการประปาส่วนภูมิภาค ๒.๑ มาตรการเดิม (ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๗ มีนาคม ๒๕๖๓) ๒.๑.๑ มาตรการที่ ๑ ขยายระยะเวลาการชำระค่าน้ำประปา สำหรับผู้ใช้น้ำที่จดทะเบียนประกอบธุรกิจโรงแรมและกิจการให้เช่าพักอาศัย โดยไม่คิดดอกเบี้ย สามารถผ่อนชำระได้ไม่เกิน ๖ เดือน ของแต่ละรอบใบแจ้งค่าน้ำประปา รอบการใช้น้ำเดือนเมษายน-พฤษภาคม ๒๕๖๓ (สำหรับใบแจ้งค่าน้ำประจำเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน ๒๕๖๓) ๒.๑.๒ มาตรการที่ ๒ คืนเงินประกันการใช้น้ำให้กับผู้ใช้น้ำประเภทที่ ๑ ที่อยู่อาศัย ๒.๒ มาตรการเพิ่มเติม ๒.๒.๑ มาตรการที่ ๓ ลดค่าน้ำประปาให้กับผู้ใช้น้ำทุกประเภท ในอัตราร้อยละ ๒๐ ยกเว้นผู้ใช้น้ำส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ลดค่าน้ำประปาในอัตราร้อยละ ๓ (ไม่รวมค่าบริการรายเดือน) เริ่มตั้งแต่รอบการใช้น้ำเดือนเมษายน-มิถุนายน ๒๕๖๓ (ใบแจ้งค่าน้ำประปาเดือนพฤษภาคม-กรกฎาคม ๒๕๖๓) ๒.๒.๒ มาตรการที่ ๔ ยกเว้นค่าธรรมเนียมในการชำระค่าน้ำประปา เป็นระยะเวลา ๓ เดือน เมื่อชำระผ่านเคาน์เตอร์เซอร์วิส และ 7-11 ตั้งแต่วันที่ ๑๗ เมษายน-๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๓ และที่เทสโก้ โลตัส และบิ๊กซี ตั้งแต่วันที่ ๑ พฤษภาคม-วันที่ ๓๐ มิถุนายน ๒๕๖๓ ๒.๒.๓ มาตรการที่ ๕ ขยายเวลารับชำระผ่านตัวแทนรับชำระค่าน้ำประปาจากภายใน ๑๐ วัน เป็น ภายใน ๒๐ วัน เป็นระยะเวลา ๓ เดือน (ใบแจ้งค่าน้ำประจำเดือนเมษายน-มิถุนายน ๒๕๖๓)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
17 | แต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการในคณะกรรมการการประปานครหลวง (รวม 5 คน) | มท | 21/04/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
18 | โครงการเพื่อการพัฒนาปี 2563 ของการประปาส่วนภูมิภาค | มท | 15/04/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบในหลักการโครงการเพื่อการพัฒนาปี ๒๕๖๓ ของการประปาส่วนภูมิภาค จำนวน ๙ โครงการ ประกอบด้วย แผนงานโครงการก่อสร้างปรับปรุงขยายการประปาส่วนภูมิภาค สาขาพัทยา-แหลมฉบัง-ศรีราชา [รองรับโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)] สาขาชลบุรี-พนัสนิคม-(พานทอง)-(ท่าบุญมี) ระยะที่ ๒ [รองรับโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC)] สาขาเชียงใหม่-แม่ริม-สันกำแพง สาขายโสธร สาขานาทวี สาขาภูเขียว-(บ้านเป้า) สาขาจัตุรัส และสาขาปราจีนบุรี (ประจันตคาม)-(ศรีมหาโพธิ์) และแผนงานโครงการก่อสร้างปรับปรุงกิจการประปาภายหลังการรับโอนการประปาส่วนภูมิภาค สาขาตราด (องค์การบริหารส่วนตำบลเกาะกูด) โดยจะดำเนินการปรับปรุงระบบประปาทั้งระบบ (ระบบน้ำดิบ ระบบผลิต ระบบจ่ายน้ำ และระบบอื่น ๆ) เพื่อตอบสนองความต้องการใช้น้ำเพิ่มขึ้น ปรับปรุงการให้บริการ และแก้ไขปัญหาอื่น ๆ ไปพร้อมกัน และมีแผนบริหารจัดการลดน้ำสูญเสีย ประกอบด้วยกิจกรรมหลักคือ การบริหารจัดการแรงดัน การซ่อมท่อที่รวดเร็ว การสำรวจหาน้ำสูญเสียเชิงรุก การบริหารจัดการมาตรวัดน้ำ และให้ความสำคัญกับการปรับปรุงเส้นท่อซึ่งเป็นสาเหตุหลักของน้ำสูญเสียทั้งหมด วงเงินลงทุนรวมทั้งสิ้น ๙,๖๒๙.๙๙๑ ล้านบาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ สำหรับงบประมาณในการดำเนินการให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ โดยให้การประปาส่วนภูมิภาคพิจารณาใช้จ่ายเงินลงทุนจากเงินรายได้เป็นลำดับแรก และหากมีความจำเป็นต้องใช้เงินกู้ ให้กระทรวงมหาดไทย (การประปาส่วนภูมิภาค) ดำเนินตามความเห็นของกระทรวงการคลัง ๒. ให้กระทรวงมหาดไทย (การประปาส่วนภูมิภาค) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ เช่น ให้กระทรวงมหาดไทยประสานงานและบูรณาการแผนงานการให้บริการน้ำประปาร่วมกับหน่วยงานผู้ให้บริการน้ำประปาอื่น อาทิ การประปานครหลวง การประปาส่วนภูมิภาค และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และประสานความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในพื้นที่เพื่อเตรียมความพร้อมในการดำเนินงานและให้เป็นไปตามแผนงานที่กำหนด และหากโครงการตั้งอยู่ในพื้นที่ป่าอนุรักษ์เพิ่มเติมจะต้องจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นด้วย เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๓. ให้กระทรวงมหาดไทยกำกับดูแลให้การประปาส่วนภูมิภาคเร่งรัดการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดหาที่ดินเพื่อใช้ดำเนินโครงการโดยเฉพาะอย่างยิ่งโครงการที่ยังไม่มีความพร้อมด้านที่ดินอยู่ระหว่างการจัดหาที่ดินหรือการขอใช้ที่ดิน ทั้งนี้ เพื่อให้การดำเนินโครงการดังกล่าวเป็นไปตามแผนงานที่กำหนดไว้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
19 | แต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการการประปานครหลวง (จำนวน 4 ราย 1. นายจำเริญ โพธิยอด ฯลฯ) | มท | 15/04/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการในคณะกรรมการการประปานครหลวง จำนวน ๔ คน แทนกรรมการเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบหกสิบห้าปีบริบูรณ์และลาออก ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๕ เมษายน ๒๕๖๓) เป็นต้นไป และให้ผู้ที่ได้รับแต่งตั้งแทนอยู่ในตำแหน่งได้เพียงเท่ากำหนดเวลาของผู้ซึ่งตนแทน ดังนี้
๑. นายจำเริญ โพธิยอด กรรมการ (ผู้แทนกระทรวงการคลัง) ๒. พลเอก สิงห์ทอง หมีทอง กรรมการ ๓. นายวรายุทธ เย็นบำรุง กรรมการ ๔. นายชัยทัต แซ่ตั้ง กรรมการ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
20 | ผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ครั้งที่ 11/2562 | สกพอ | 28/01/2563 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ครั้งที่ ๑๑/๒๕๖๒ เมื่อวันที่ ๖ ธันวาคม ๒๕๖๒ ซึ่งมีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานการประชุม ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกเสนอ โดยที่ประชุมฯ มีมติในเรื่องสำคัญ สรุปได้ ดังนี้ ๑.๑ เห็นชอบแผนการส่งมอบพื้นที่และรื้อย้ายสาธารณูปโภค โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน (ท่าอากาศยานดอนเมือง-ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ-ท่าอากาศยานอู่ตะเภา) และกรอบวงเงิน ๔๗๙.๐๕๕ ล้านบาท สำหรับการดำเนินงานรื้อย้ายเพื่อเปิดพื้นที่ก่อสร้างโครงการฯ ช่วงดอนเมือง-พญาไท และช่วงสุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา รวมทั้งสิ้น ๖๕๒ จุด ดำเนินการแล้วเสร็จภายใน ๒๔ เดือน ทั้งนี้ หน่วยงานเจ้าของโครงการภายใต้กำกับของกระทรวงมหาดไทย (กรุงเทพมหานคร การประปานครหลวง การประปาส่วนภูมิภาค การไฟฟ้านครหลวง และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) จะดำเนินการขอรับการจัดสรรงบประมาณจากงบกลาง รายการสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นต่อไป ๑.๒ เห็นชอบการปรับปรุงประกาศคณะกรรมการนโยบายการพัฒนาระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก เรื่อง หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และกระบวนการในการร่วมลงทุนกับเอกชนหรือให้เอกชนเป็นผู้ลงทุน พ.ศ. ๒๕๖๐ และที่แก้ไขเพิ่มเติม รวมทั้งเห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการกำกับดูแล และคณะกรรมการบริหารสัญญาและโครงสร้างการบริหารจัดการโครงการรถไฟความเร็วสูงฯ โดยให้มีผลเมื่อมีการประกาศใช้ประกาศคณะกรรมการนโยบายฯ ฉบับที่ได้มีการปรับปรุงข้างต้นแล้ว ๑.๓ เห็นชอบการจัดตั้งเขตส่งเสริมเศรษฐกิจพิเศษเพื่อกิจการพิเศษ : การแพทย์จีโนมิกส์ มหาวิทยาลัยบูรพา (บางแสน) เพื่อพัฒนาและเตรียมพื้นที่รองรับการลงทุนจากภาคเอกชนในด้านการแพทย์จีโนมิกส์ (คาดการณ์ว่าจะมีการลงทุนไม่ต่ำกว่า ๑,๒๕๐ ล้านบาท) ซึ่งจะเป็นการสร้างความรู้ทางการแพทย์จีโนมิกส์ที่จำเป็นให้แก่ประเทศ โดยการใช้ฐานข้อมูลทางพันธุกรรมเพื่อนำไปสู่การรักษาพยาบาลที่มีประสิทธิภาพ และจะนำไปใช้ในระบบหลักประกันสุขภาพเพื่อให้ประชาชนทั่วไปเข้าถึงการรักษาได้อย่างทั่วถึง ๑.๔ เห็นชอบในหลักการโครงการพัฒนาศูนย์บริการทดสอบทางการแพทย์จีโนมิกส์ ในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Thailand Genome Sequencing Center) โดยให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกร่วมกับสถาบันวิจัยระบบสาธารณสุขเป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินโครงการฯ และจะมีการว่าจ้างผู้ประกอบการให้บริการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนม (Whole Genome Sequencing : WGS) ของประชากรไทย จำนวน ๕๐,๐๐๐ ราย รวมถึงการเห็นชอบกรอบวงเงิน ๗๕๐ ล้านบาท จากกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัย และนวัตกรรม เพื่อซื้อบริการถอดรหัสพันธุกรรมทั้งจีโนม ๒. ให้สำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ในการส่งมอบพื้นที่และรื้อย้ายสาธารณูปโภคเพื่อดำเนินโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบินควรเร่งรัดให้แล้วเสร็จตามแผน และคำนึงถึงผลกระทบที่อาจจะมีต่อประชาชนในพื้นที่ รวมทั้งควรประชาสัมพันธ์เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในการพัฒนาโครงการฯ ให้แก่ประชาชนอย่างต่อเนื่อง เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|