ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 55 จากทั้งหมด 102 หน้า แสดงรายการที่ 1081 - 1100 จากข้อมูลทั้งหมด 2031 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1081 | รัฐบาลสาธารณรัฐอาร์เจนตินาเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐอาร์เจนตินาประจำประเทศไทย (นายกุสตาโบ อัลแบร์โต มาร์ติโน) | กต. | 21/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายกุสตาโบ อัลแบร์โต มาร์ติโน (Mr. Gustavo Alberto Martino) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐอาร์เจนตินาประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นางมารีอา อาลีเซีย กุซโซนี เด โซนเซน (Mrs.Maria
Alicia Cuzzoni de Sonschein) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1082 | ร่างพระราชบัญญัติยกเลิกพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. 2534 พ.ศ. .... | ยธ. | 21/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติยกเลิกพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ.
๒๕๓๔ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๕๓๔ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักการจัดให้มีกฎหมายเพียงเท่าที่จำเป็น
และยกเลิกหรือปรับปรุงกฎหมายที่หมดความจำเป็นหรือไม่สอดคล้องกับสภาพการณ์หรือที่เป็นอุปสรรคต่อการดำรงชีวิตหรือการประกอบอาชีพโดยไม่ชักช้าเพื่อไม่ให้เป็นภาระแก่ประชาชนและพึงกำหนดโทษอาญาเฉพาะความผิดร้ายแรง
ตามบทบัญญัติมาตรา ๗๗ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐
และเพื่อให้สอดคล้องกับข้อ ๑๑
ของกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองที่กำหนดให้บุคคลจะถูกจำคุกเพียงเพราะเหตุว่าไม่สามารถปฏิบัติการชำระหนี้ตามสัญญามิได้
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นและข้อสังเกตของสำนักงานอัยการสูงสุด ที่เห็นว่าการออกเช็คที่จะเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค
พ.ศ. ๒๕๓๔ ต้องเข้าองค์ประกอบตามมาตรา ๔
ซึ่งต้องพิจารณาองค์ประกอบในส่วนของผู้กระทำด้วย และคำนึงถึงมาตรการที่จะทำให้เกิดความน่าเชื่อถือในการใช้เช็ค
เพื่อมิให้กระทบต่อความน่าเชื่อถือในการประกอบธุรกิจด้วย ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ๒.
ให้กระทรวงยุติธรรมร่วมกับหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานอัยการสูงสุด และสมาคมธนาคารไทย เช่น
สมควรที่ภาครัฐจะมีมาตรการหรือกฎหมายที่จะสามารถสร้างความเชื่อถือในการใช้เช็ค
อันเป็นตราสารที่มีความสำคัญในระบบเศรษฐกิจการค้าของประเทศ
ควรมีการพิจารณาศึกษาการกำหนดมาตรการอื่นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นในการรับชำระหนี้โดยเช็คด้วย
ควรที่จะมีกฎหมายกำหนดโทษทางอาญาสำหรับผู้มีเจตนาออกเช็คโดยไม่สุจริต เป็นต้น
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1083 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ครั้งที่ 1/2565 และครั้งที่ 2/2565 | นร.52 | 21/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์ด้านการพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้
(กพต.) ครั้งที่ ๑/๒๕๖๕ เมื่อวันที่ ๑๓ มกราคม ๒๕๖๕ และครั้งที่ ๒/๒๕๖๕
เมื่อวันที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๖๕ ผ่านสื่ออิเล็กทรอนิกส์
ตามที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้เสนอ โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้ ๑.
เรื่องเพื่อทราบ เช่น (๑) รายงานการตรวจติดตามงานด้านความมั่นคงและด้านการพัฒนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ของ
พลเอก ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี/ประธาน กพต. (๒)
รายงานความก้าวหน้าการแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน (อำเภอเทพา จังหวัดสงขลา)
ผ่านโครงการก่อสร้างกำแพงป้องกันการกัดเซาะบริเวณปากน้ำเทพา ตำบลปากบาง อำเภอเทพา
จังหวัดสงขลา และ (๓) การขับเคลื่อนการพัฒนาในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
รองรับการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างไทย-ซาอุดีอาระเบีย ๒.
เรื่องที่ประชุมรับทราบรายงานการติดตามข้อสั่งการประธาน กพต. เช่น (๑)
การขับเคลื่อนโครงการตำบลมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน
เพื่อขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
ผ่านโครงการนำร่อง “๑ ข้าราชการ ๑ ครัวเรือนยากจน” และ (๒)
ความคืบหน้าการช่วยเหลือและพัฒนาแรงงานไทยในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้กลุ่มที่เดินทางกลับจากต่างประเทศภายใต้สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙ ๓.
เรื่องเพื่อพิจารณา เช่น (๑)
โครงการจัดตั้งห้องเรียนวิทยาศาสตร์หลักสูตรเข้มข้นและเตรียมการจัดตั้งโรงเรียนเทคโนโลยีและนวัตกรรมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
และ (๒) ขออนุมัติหลักการโครงการเสริมสร้างคนดีตามหลักการทางศาสนาเพื่อสืบสานและรักษาสังคมพหุวัฒนธรรมที่ดีงามของจังหวัดชายแดนภาคใต้
พ.ศ. ๒๕๖๕-๒๕๗๐
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1084 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | กค. | 21/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.เห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิต
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการลดอัตราภาษีสรรพสามิตน้ำมันเชื้อเพลิงสำหรับเครื่องบินไอพ่นที่นำไปใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับอากาศยานภายในประเทศ
จากเดิมลิตรละ ๔.๗๒๖ เป็นลิตรละ
๐.๒๐ บาท เป็นการชั่วคราว โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑ กรกฎาคม ๒๕๖๕
ถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๕ ซึ่งเป็นไปตามมาตรา ๕ วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติภาษีสรรพสามิต พ.ศ.
๒๕๖๐
ที่ให้อำนาจรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังออกกฎกระทรวงกำหนดพิกัดอัตราภาษีสรรพสามิตได้
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลังได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1085 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) (ศบค.) ครั้งที่ 9/2565 | นร. | 21/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1086 | ผลการดำเนินการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ มาตราส่วน 1 : 4000 (One Map) ของพื้นที่กลุ่มที่ 2 จำนวน 11 จังหวัด | นร16 | 21/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
รับทราบผลการดำเนินการปรับปรุงแก้ไขหลักเกณฑ์การปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ
มาตราส่วน ๑ : ๔๐๐๐ (One Map) ของคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติ เพื่อให้สอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๕ ธันวาคม ๒๕๖๑ และเมื่อวันที่ ๒๔ เมษายน ๒๕๖๒
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติเสนอ ๒.
ให้คณะกรรมการนโยบายที่ดินแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อสังเกตของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยและรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง
(นายสันติ พร้อมพัฒน์) รวมทั้งความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
กระทรวงคมนาคม กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กระทรวงยุติธรรม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น (๑) ขอให้พิจารณาแนวทางการแก้ไขปัญหา
กรณีการตรวจสอบพบแนวเขตที่ดินในความรับผิดชอบมีความคลาดเคลื่อนจากข้อเท็จจริง
ภายหลังจากมติคณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการฯ
แล้ว รวมทั้งให้กรมป่าไม้และสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมร่วมกันตรวจสอบพื้นที่ที่ไม่เหมาะสมนำไปปฏิรูปที่ดิน
เพื่อกันคืนพื้นที่ให้กรมป่าไม้ และ (๒) ให้หน่วยงานในสังกัด ประกอบด้วย
กรมสอบสวนคดีพิเศษ กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ และสำนักงานยุติธรรมจังหวัด
เข้าร่วมเป็นคณะอนุกรรมการปรับปรุงแผนที่แนวเขตที่ดินของรัฐแบบบูรณาการ
มาตรการส่วน ๑ : ๔๐๐๐ (One Map) และแก้ไขปัญหา
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องเป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ หลักเกณฑ์ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1087 | รายงานผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน กรณีรัฐบาลสหรัฐอเมริการะบุให้สินค้าจากอุตสาหกรรมประมงไทยอยู่ในรายการสินค้าที่ผลิตโดยแรงงานเด็กและแรงงานบังคับ | สนง. กสม. | 21/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาต่อข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
กรณีรัฐบาลสหรัฐอเมริการะบุให้สินค้าจากอุตสาหกรรมประมงไทยอยู่ในรายการสินค้าที่ผลิตโดยแรงงานเด็กและแรงงานบังคับของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ซึ่งกระทรวงแรงงานได้ประชุมหารือร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการตามข้อเสนอแนะของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติแล้ว
โดยหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายได้ทบทวนการใช้กฎหมายอย่างต่อเนื่อง
จัดทำคู่มือปฏิบัติงาน
มีการบูรณาการเกี่ยวกับการป้องกันการใช้แรงงานเด็กและแรงงานบังคับระหว่างหน่วยงานของรัฐแล้ว
และกระทรวงแรงงานมีแผนงานสร้างความรู้ความเข้าใจมิให้กระทำความผิด
รวมทั้งคณะกรรมการระดับชาติเพื่อขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายได้เปิดโอกาสให้หน่วยงานต่าง
ๆ ได้ตรวจสอบปัญหาการใช้แรงงานเด็กและแรงงานบังคับในอุตสาหกรรมบางประเภทอย่างรอบด้าน
ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1088 | ร่างพระราชกฤษฎีกาค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายอันเกี่ยวกับการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ต่างท้องที่ของประธานกรรมการและกรรมการกิจการ กระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พ.ศ. .... | กสทช. | 21/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายอันเกี่ยวกับการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ต่างท้องที่ของประธานกรรมการและกรรมการกิจการกระจายเสียง
กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงพระราชกฤษฎีกาค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายอันเกี่ยวกับการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ต่างท้องที่ของประธานกรรมการ
รองประธานกรรมการ และกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์
และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ พ.ศ. ๒๔๕๖ โดยปรับค่าตอบแทนเหมาจ่ายเป็นรายเดือน
กำหนดเพิ่มเติมค่าเสียโอกาส และกำหนดค่าใช้จ่ายอันเกี่ยวกับการเดินทางไปปฏิบัติหน้าที่ต่างท้องที่ของประธานกรรมการและกรรมการ
เพื่อให้สอดคล้องกับอำนาจหน้าที่และความรับผิดชอบที่เพิ่มขึ้นตามกฎหมายบัญญัติ
รวมทั้งสอดคล้องกับสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ตามที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง
กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยไม่กำหนดค่าเสียโอกาสไว้ในร่างพระราชกฤษฎีกา ตามความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และสำนักงบประมาณ แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
มอบหมายให้กรมบัญชีกลางรับไปพิจารณากำหนดแนวทางการปรับอัตราค่าตอบแทนและค่าใช้จ่ายอื่น
ๆ ของคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการในสาขาต่าง ๆ เพื่อให้การกำหนดอัตราค่าตอบแทนเหมาจ่ายรายเดือนและสิทธิประโยชน์
สะท้อนถึงประสิทธิภาพในการดำเนินการและเป็นมาตรฐานเดียวกันต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1089 | ร่างแถลงการณ์ร่วมของการหารือเชิงยุทธศาสตร์ไทย - สหราชอาณาจักร ครั้งที่ 4 | กต. | 21/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.เห็นชอบในหลักการต่อร่างแถลงการณ์ร่วมของการหารือเชิงยุทธศาสตร์ไทย-สหราชอาณาจักร
ครั้งที่ ๔
และให้ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงการต่างประเทศร่วมรับรองร่างแถลงการณ์ร่วมฯ
ในการหารือเชิงยุทธศาสตร์ไทย-สหราชอาณาจักร โดยร่างแถลงการณ์ร่วมฯ มีสาระสำคัญคือการแสดงเจตนารมณ์ทางการเมือง
เพื่อส่งเสริมและขับเคลื่อนความร่วมมือระหว่างสองประเทศในสาขาต่าง ๆ ที่เป็นผลประโยชน์ร่วมกัน
อาทิ ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การเมืองและความมั่นคง สิ่งแวดล้อม ไซเบอร์ ดิจิทัล
วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม วัฒนธรรม และการศึกษา ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
และให้กระทรวงการต่างประเทศพิจารณาปรับปรุงร่างแถลงการณ์ร่วมของการหารือเชิงยุทธศาสตร์ไทย-สหราชอาณาจักร
ครั้งที่ ๔ ให้เหมาะสมและครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
โดยพิจารณาเพิ่มประเด็นความร่วมมือทวิภาคี (Bilateral co-operation)
ในเรื่องที่สหราชอาณาจักรมีองค์ความรู้และความเชี่ยวชาญ เช่น
การทำการเกษตรอินทรีย์ (Organic Farming) การเพิ่มผลผลิตต่อพื้นที่
(Yield) ความมั่นคงทางอาหาร (Food Security) เป็นต้น รวมทั้งให้พิจารณาทบทวนความจำเป็นในการกล่าวถึงปัญหาทางการเมืองระหว่างประเทศเพื่อมิให้เกิดความขัดแย้งระหว่างประเทศและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อประเทศก่อนดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงการณ์ร่วมของการหารือเชิงยุทธศาสตร์ไทย-สหราชอาณาจักร
ครั้งที่ ๔
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1090 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์) | นร.13 | 21/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน ให้ดำรงตำแหน่งเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ ตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๕ เป็นต้นไป
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุนเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1091 | ผลการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint Trade Committee: JTC) ไทย-เวียดนาม ครั้งที่ 4 และกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง | พณ. | 21/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
รับทราบผลการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้า (Joint
Trade Committee : JTC) ไทย-เวียดนาม ครั้งที่ ๔ เมื่อวันที่ ๒๐
เมษายน ๒๕๖๕ ณ กรุงเทพมหานคร และกิจกรรมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมีรองนายกรัฐมนตรี
(นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรมและการค้าเวียดนาม เป็นประธานร่วม
โดยที่ประชุมฯ ได้หารือในประเด็นต่าง ๆ ที่สำคัญ ได้แก่ (๑) เป้าหมายการค้า (๒)
ความร่วมมือเพื่อส่งเสริมการค้าทวิภาคี เช่น ด้านการอำนวยความสะดวกทางการค้า
ด้านการเกษตร และด้านการขนส่ง และ (๓)
ความร่วมมือด้านการลงทุนและความร่วมมือทางเศรษฐกิจอื่น ๆ เช่น การลงทุน การธนาคาร
และพลังงาน ๒.
มอบหมายให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามผลการประชุม JTC ไทย-เวียดนาม ครั้งที่ ๔ เพื่อให้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างไทย-เวียดนาม
เกิดผลลัพธ์อย่างเป็นรูปธรรม ตามตารางติดตามการดำเนินการ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1092 | การเสนอขอเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายในการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 | นร.07 | 21/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบการขอเพิ่มและเปลี่ยนแปลงงบประมาณรายจ่ายในการพิจารณาของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๖ ตามที่สำนักงบประมาณเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1093 | ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง มาตรการเร่งด่วนในการป้องกันวิกฤตการณ์จากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (มาตรการห้ามข้าราชการ พนักงานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจเดินทางไปต่างประเทศ ยกเว้นมีเหตุจำเป็นสำคัญ และเตือนประชาชนให้งดการเดินทางไปในประเทศซึ่งเป็นพื้นที่ระบาดต่อเนื่อง) | สธ. | 21/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบให้ทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๗ มีนาคม ๒๕๖๓ [เรื่อง สรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โรคโควิด-19) ครั้งที่ ๑/๒๕๖๓ และมาตรการเร่งด่วนในการป้องกันวิกฤตการณ์จากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (โรคโควิด-19) ของกระทรวงสาธารณสุข] โดยให้ยกเลิกมาตรการการป้องกันและสกัดกั้นการนำเชื้อเข้าสู่ประเทศ
เฉพาะในส่วนของข้อ ๑.๔ ที่ห้ามข้าราชการ พนักงานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจเดินทางไปต่างประเทศยกเว้นมีเหตุจำเป็นสำคัญ
และเตือนประชาชนให้งดการเดินทางไปในประเทศซึ่งเป็นพื้นที่ระบาดต่อเนื่อง
ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ๒.
ให้กระทรวงสาธารณสุขได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1094 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการปฏิบัติงานนอกที่ตั้งของส่วนราชการ พ.ศ. .... | นร.01 | 21/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการปฏิบัติงานนอกที่ตั้งของส่วนราชการ
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดแนวทางปฏิบัติงานนอกสถานที่ตั้งของส่วนราชการทั้งในกรณีจำเป็น
ฉุกเฉิน และในกรณีปกติ
เพื่อให้การดำเนินการของส่วนราชการเป็นไปในทิศทางเดียวกันและเกิดความยืดหยุ่นในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ส่วนราชการ
เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการทำงานของส่วนราชการและการให้บริการประชาชนเป็นไปอย่างต่อเนื่อง
ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของสำนักงาน ก.พ. ที่เห็นควรกำหนดรูปแบบหนังสือสั่งการตามข้อ ๗
ของระเบียบดังกล่าว เพื่อให้ส่วนราชการดำเนินการได้อย่างถูกต้อง อาทิ
เป็นหนังสือภายใน คำสั่ง ระเบียบ ประกาศ ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของคณะรัฐมนตรีและสำนักงาน
ก.พ.ร. ที่ควรคำนึงถึงประสิทธิภาพและประสิทธิผลของงานเป็นสำคัญ
ควรให้มีการติดตามและประเมินผลภายหลังร่างระเบียบนี้มีผลใช้บังคับเป็นระยะ
โดยครั้งแรกควรดำเนินการเมื่อครบ ๑ ปี นับแต่ระเบียบดังกล่าวมีผลใช้บังคับ
และครั้งต่อไปควรดำเนินการทุก ๆ ๕ ปี ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1095 | ผลการประชุมระดับผู้นำด้านน้ำแห่งภูมิภาคเอเชีย - แปซิฟิก ครั้งที่ 4 | นร.14 | 21/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมระดับผู้นำด้านน้ำแห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
ครั้งที่ ๔ ระหว่างวันที่ ๒๓-๒๔ เมษายน ๒๕๖๕ ณ เมืองคุมาโมโตะ ประเทศญี่ปุ่น
ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ ๑.
นายกรัฐมนตรีได้ร่วมกล่าวถ้อยแถลงในช่วงพิธีเปิดการประชุมฯ ผ่านระบบวีดิทัศน์แบบถ่ายทอดสด
โดยชื่นชมข้อริเริ่มและความมุ่งมั่นด้านน้ำของญี่ปุ่นในการสร้างสังคมคุณภาพที่มีภูมิคุ้มกัน
ยั่งยืน ครอบคลุม
และเน้นย้ำถึงความสำคัญของการบริหารจัดการน้ำอย่างมีประสิทธิภาพและบูรณาการในทุกมิติ
และสนับสนุนความร่วมมือจากทุกภาคส่วนเพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อนการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำ
ทั้งในระดับพื้นที่จนถึงระดับนโยบายเพื่อการบริหารจัดการที่มั่งคง ยั่งยืน
และสามารถบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนด้านน้ำภายในปี ค.ศ. ๒๐๓๐ ๒.
ที่ประชุมได้รับรองปฏิญญาคุมาโมโตะ ซึ่งเป็นร่างเอกสารผลลัพธ์การประชุมฯ ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพสำหรับการบริหารจัดการน้ำในบริบทการฟื้นฟูจากวิกฤตการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙
โดยมีการปรับแก้ถ้อยคำที่ไม่ใช่สาระสำคัญ
เพื่อให้มีความครอบคลุมและเฉพาะเจาะจงมากขึ้น
ซึ่งไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติ (๑๙ เมษายน ๒๕๖๕)
ให้ความเห็นชอบและยังคงประเด็นสำคัญของร่างปฏิญญาฯ จำนวน ๔ ประการ คือ (๑)
ความท้าทายด้านน้ำท่ามกลางการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙
และการฟื้นฟูจากการแพร่ระบาดของโควิด-๑๙ (๒)
การเปลี่ยนแปลงสู่สังคมที่มุ่งเน้นคุณภาพ (๓) การเร่งรัดการปฏิบัติ และ (๔)
ผลลัพธ์การประชุมฯ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1096 | ขอรับจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น | พน. | 21/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น จำนวนเงินรวมทั้งสิ้น
๒๒๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท ให้กรมธุรกิจพลังงาน
โดยให้กรมบัญชีกลางเป็นผู้อนุมัติและดำเนินการแทนกรมธุรกิจพลังงาน
ผ่านวิธีการเบิกจ่ายเงินงบประมาณแทนกัน
และให้กระทรวงพลังงานดำเนินมาตรการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1097 | ท่าทีไทยในการประชุม 2022 United Nations Ocean Conference | ทส. | 21/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1098 | ขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ครั้งที่ 2 วงเงิน 2,039.21 ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยและภัยพิบัติ (จำนวน 23 จังหวัด) ของกรมทางหลวงและกรมทางหลวงชนบท | คค. | 21/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ครั้งที่ ๒ วงเงิน
๒,๐๓๙.๒๑ ล้านบาท
ประกอบด้วย กรมทางหลวง จำนวน ๑,๕๓๖.๓๐ ล้านบาท และกรมทางหลวงชนบท
จำนวน ๕๐๒.๙๑ ล้านบาท เพื่อฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานที่ได้รับความเสียหายจากอุทกภัยและภัยพิบัติ
(จำนวน ๒๓ จังหวัด) ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้กระทรวงคมนาคมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
รวมทั้งความเห็นของสำนักงบประมาณเกี่ยวกับรายการในส่วนที่เหลือ
(หนังสือสำนักงบประมาณ ที่ นร ๐๗๒๐/๖๖๔๘ ลงวันที่ ๒๑ เมษายน ๒๕๖๕)
ที่ควรให้ความสำคัญในการควบคุม กำกับ ดูแล และดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ
ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
และตรวจสอบรายละเอียดพื้นที่ดำเนินการให้สอดคล้องกับพื้นที่ประกาศภัยพิบัติ
และพื้นที่อยู่นอกเขตพื้นที่ประกาศภัยพิบัติที่เกี่ยวข้อง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1099 | การขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง | นร.11 สศช | 21/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบการมอบหมายศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
(ศจพ.) ทุกระดับ ทีมปฏิบัติการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
หน่วยงานเจ้าภาพหลักตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี
และภาคีการพัฒนาที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามแนวทางการขับเคลื่อนการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยบนฐานของข้อมูลเชิงประจักษ์
ตามมติคณะกรรมการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
(คจพ.) และแนวทางการดำเนินการในระยะต่อไปอย่างเคร่งครัด
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในฐานะสำนักงานเลขานุการของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติเสนอ และให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นเพิ่มเติมของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย
รวมถึงความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และสำนักงาน ก.พ.ร. เช่น (๑) ควรเน้นการสร้างงานและสร้างรายได้
โดยสนับสนุนให้เกิดอุตสาหกรรม ตามศักยภาพของแต่ละพื้นที่ (๒)
ควรมีแนวทางหรือมาตรการการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับภาวะวิกฤตที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
(๓) การดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลจากระบบบริหารจัดการพัฒนาคนแบบชี้เป้า (TPMAP) ต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับกฎหมายว่าด้วยข้อมูลข่าวสารของราชการและกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล
(๔) ควรให้ฝ่ายเลขานุการ คจพ.
พิจารณาจำแนกแบบสอบถามเพื่อการพัฒนาคนทุกช่วงวัยในระดับครัวเรือนและบุคคลตามหมวดหมู่/ภารกิจหน้าที่ของแต่ละกระทรวงเพื่อมอบหมายให้กระทรวงที่มีภารกิจอำนาจหน้าที่สอดคล้องตามแบบสอบถามดำเนินการจัดเก็บข้อมูลต่อไป
และควรพิจารณาจ้างจัดเก็บข้อมูลตามแบบสอบถามเพื่อการพัฒนาคนทุกช่วงวัยในระดับครัวเรือนและบุคคล
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒.
ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติร่วมกับ ศจพ.
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งบูรณาการข้อมูลต่าง ๆ
รวมทั้งข้อมูลของโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG ของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๔ มิถุนายน ๒๕๖๕ (เรื่อง
การขอรับการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ งบกลาง
รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
เพื่อดำเนินงานโครงการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมฐานรากหลังโควิดด้วยเศรษฐกิจ BCG)
เพื่อให้ฐานข้อมูลระบบ TPMAP มีความถูกต้องและครบถ้วนมากยิ่งขึ้น |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1100 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 15/2565 และครั้งที่ 16/2565 | นร.11 สศช | 21/06/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||