ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 60 จากทั้งหมด 102 หน้า แสดงรายการที่ 1181 - 1200 จากข้อมูลทั้งหมด 2031 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1181 | ความก้าวหน้าของยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ ณ เดือนเมษายน 2565 | นร.11 สศช | 07/06/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบความก้าวหน้าของยุทธศาสตร์ชาติและแผนการปฏิรูปประเทศ
ณ เดือนเมษายน ๒๕๖๕ ซึ่งมีผลการดำเนินงานที่สำคัญ เช่น ความก้าวหน้าของยุทธศาสตร์ชาติและการขับเคลื่อนแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ
การดำเนินการตามแผนปฏิรูปประเทศตามมาตรา ๒๗๐ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
รอบตุลาคม-ธันวาคม ๒๕๖๔ มีกิจกรรม Big Rock ดำเนินการล่าช้า ๗ กิจกรรม ในปีงบประมาณ ๒๕๖๕ มีการกำหนดให้มีการติดตาม การตรวจสอบ
และประเมินผลเพื่อขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติไปสู่การปฏิบัติและการกำหนดประเด็นการตรวจสอบและประเมินผลตามห่วงโซ่คุณค่าของประเทศไทย
จึงต้องมีการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐอย่างต่อเนื่อง
โดยใช้ระบบ eMENSCR เป็นเครื่องมือในการดำเนินการ
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในฐานะฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการยุทธศาสตร์ชาติและคณะกรรมการปฏิรูปประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1182 | ร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีให้แก่ผู้ประกอบกิจการโรงงาน พ.ศ. .... | อก. | 07/06/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีให้แก่ผู้ประกอบกิจการโรงงาน
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการขยายระยะเวลาการยกเว้นค่าธรรมเนียมรายปีให้แก่ผู้ประกอบกิจการโรงงาน
พ.ศ. ๒๕๓๕ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ให้แก่ผู้ประกอบกิจการโรงงานจำพวกที่ ๒ และผู้ประกอบกิจการโรงงานจำพวกที่ ๓
ทุกขนาด เป็นเวลา ๑ ปี โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ ๑๐ มิถุนายน พ.ศ.
๒๕๖๕ จนถึงวันที่ ๙ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๖๖ ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของสำนักงบประมาณ ที่ควรเร่งสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรการยกเว้นค่าธรรมเนียมดังกล่าว
ให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก ตลอดจนรายงาน ติดตาม
ประเมินผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินมาตรการเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการ
ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ด้วย
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1183 | การพิจารณาเพิ่มราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียในรายชื่อประเทศที่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยวได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราและอยู่ในราชอาณาจักรไม่เกิน 30 วัน (ผ.30) | กต. | 07/06/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการการเพิ่มราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียในรายชื่อประเทศที่ผู้ถือหนังสือเดินทางหรือเอกสารใช้แทนหนังสือเดินทางซึ่งเข้ามาในราชอาณาจักรเป็นการชั่วคราวเพื่อการท่องเที่ยวได้รับการยกเว้นการตรวจลงตราและอยู่ในราชอาณาจักรไม่เกิน
๓๐ วัน (ผ.๓๐)
โดยมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง และกระทรวงมหาดไทย
ดำเนินการปรับปรุงแก้ไขประกาศหรือกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ และให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นว่าหน่วยงานความมั่นคงที่เกี่ยวข้องควรมีการตรวจสอบข้อมูลและติดตามอย่างใกล้ชิดต่อนักท่องเที่ยวชาวซาอุดีอาระเบียที่มีพฤติกรรมต่อความมั่นคงที่จะเดินทางเข้ามาในประเทศด้วย
ควรดึงดูดนักท่องเที่ยวชาวซาอุดีอาระเบียเข้ามาในประเทศมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการกระจายรายได้ไปยังภูมิภาคต่าง
ๆ ควรให้ความสำคัญกับการเตรียมความพร้อมของประเทศไทย
ทั้งในมิติของความร่วมมือระหว่างประเทศด้านการตลาดและมติการพัฒนารูปแบบการท่องเที่ยวให้สอดรับกับพฤติกรรมการท่องเที่ยว
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1184 | (ร่าง) นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. 2566 - 2570) | นร.08 | 07/06/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบ (ร่าง)
นโยบายและแผนระดับชาติว่าด้วยความมั่นคงแห่งชาติ (พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐) เพื่อเป็นกรอบทิศทางในการดำเนินการป้องกัน แจ้งเตือน แก้ไข
หรือระงับยับยั้งภัยคุกคามเพื่อธำรงไว้ซึ่งความมั่นคงแห่งชาติ
โดยให้หน่วยงานของรัฐนำไปถ่ายทอดและจัดทำแผนระดับที่ ๓
ที่จะเริ่มดำเนินการพร้อมกันในห้วงที่ ๒ ของการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติ ระหว่าง
พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๖๗๐ ได้อย่างสอดคล้อง และเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ซึ่งในการจัดทำ
(ร่าง) นโยบายและแผนระดับชาติฯ (พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐)
ได้ผ่านการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การประชุม
การสัมภาษณ์เชิงลึก และการเปิดรับฟังความคิดเห็นผ่านช่องทางออนไลน์ทางเว็บไซต์ของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ
และให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและกระทรวงสาธารณสุข
เช่น
ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาที่แต่ละหน่วยงานยังคงจัดทำแผนงานตามภารกิจและบริหารงบประมาณและทรัพยากรของแต่ละหน่วยงานเอง
ควรมีการปรับถ้อยคำตัวชี้ววัดในบางรายการให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน รวมถึงการปรับปรุงในส่วนของนโยบายและแผนความมั่นคงที่
๖ การบริหารจัดการผู้หลบหนีเข้าเมือง และนโยบายและแผนความมั่นคงที่ ๑๓
การบริหารจัดการความเสี่ยงโรคติดต่ออุบัติใหม่ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1185 | การปรับปรุงโครงสร้างส่วนราชการของหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อม กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวม 4 ฉบับ | นร.09 | 07/06/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการปรับปรุงโครงสร้างส่วนราชการของหน่วยงานด้านสิ่งแวดล้อม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รวม ๔ ฉบับ ที่ตรวจพิจารณาแล้ว ได้แก่ (๑)
ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการสำนักงานปลัดกระทรวง
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (๒) ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมควบคุมมลพิษ
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. .... (๓) ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พ.ศ. .... (๔) ร่างกฎกระทรวงแบ่งส่วนราชการกรมส่งเสริมคุณภาพและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงแก้ไขเพิ่มเติมการแบ่งส่วนราชการหน้าที่และอำนาจของสำนักงานปลัดกระทรวง
กรมควบคุมมลพิษ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมส่งเสริมคุณภาพและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เพื่อให้สอดคล้องและเหมาะสมกับภารกิจที่เพิ่มขึ้นและเหมาะสมกับสภาพงานที่เปลี่ยนแปลงไป
ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1186 | รายงานความคืบหน้าแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2562-2570) | อก. | 07/06/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานความคืบหน้าแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร ระยะที่
๑ (พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๗๐) ในการขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร
ระยะที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๗๐)
ที่ดำเนินการแล้วเสร็จ
และแนวทางการขับเคลื่อนการพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารในระยะต่อไป สรุปได้ ดังนี้
(๑) ความคืบหน้าการดำเนินงานที่สำคัญในปีงบประมาณ ๒๕๖๔ ได้แก่ มาตรการที่ ๑ :
สร้างนักรบอุตสาหกรรมอาหารพันธุ์ใหม่ มาตรการที่ ๒ : สร้างมาตรการอาหารอนาคต มาตรการที่ ๓ : สร้างโอกาสทางธุรกิจ
มาตรการที่ ๔ :
สร้างปัจจัยพื้นฐานเพื่อเร่งการพัฒนาอุตสาหกรรม (๒)
ปัญหาและอุปสรรคในการพัฒนาอุตสาหกรรมแปรรูปอาหาร เช่น
รูปแบบการพัฒนาผลิตภัณฑ์อาหารอนาคตยังเป็นสินค้าแปรรูปขั้นต้นซึ่งมีมูลค่าเพิ่มต่ำและมีสินค้าออกสู่ตลาดไม่มาก
รวมทั้งผู้ประกอบการยังขาดความเข้าใจถึงความสำคัญของการได้รับการรับรองมาตรฐานสากลต่าง
ๆ และ (๓) การขับเคลื่อนแผนปฏิบัติการด้านการพัฒนาอุตาสาหกรรมแปรรูปอาหารในระยะต่อไป
จะใช้กลไกความร่วมมือระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน ซึ่งมีแนวทางการพัฒนา เช่น
พัฒนาผู้ประกอบการโดยมุ่งเน้นเรื่องระบบการตรวจสอบย้อนถึงแหล่งที่มาเพื่อสร้างความมั่นใจว่าผลิตภัณฑ์มีคุณภาพและปลอดภัยสำหรับบริโภค
และส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีในอุตสาหกรรมอาหาร ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1187 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง แนวทางการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเลื่อมล้ำ: กรณีศึกษาการแก้ปัญหาระดับจุลภาคในประเทศไทย ของคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเลื่อมล้ำ วุฒิสภา | สว. | 07/06/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง
แนวทางการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเลื่อมล้ำ :
กรณีศึกษาการแก้ปัญหาระดับจุลภาคในประเทศไทย
ของคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเลื่อมล้ำ วุฒิสภา
ซึ่งได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว โดยสรุปผลการพิจารณาได้ว่า
เห็นด้วยกับคณะกรรมาธิการฯ และได้ดำเนินการ ดังนี้ (๑)
กลไกที่สนับสนุนส่งเสริมการแก้ไขปัญหาความยากจนในระดับจุลภาค
โดยให้ชุมชนเป็นศูนย์กลางในการวางแผนการแก้ไขปัญหาและกำหนดเป้าหมายความสำเร็จ (๒)
การสร้างพันธมิตร การพัฒนาที่ยั่งยืนมีจุดแข็งในการทำงานในภาพรวม
โดยการสร้างระบบการทำงานระหว่างภาครัฐและภาคประชาสังคมมีการทำงานร่วมกับอาสาพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และมูลนิธิต่าง
ๆ เช่น มูลนิธิกระจกเงา และมูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็ก เป็นต้น รวมทั้ง
มีการดำเนินงานกับภาคีเครือข่ายภาคเอกชนในการช่วยเหลือประชาชนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของ
COVID-19 (๓)
การแก้ไขปัญหาความยากจนในระดับจุลภาค
โดยกำหนดแนวทางพัฒนาการเข้าถึงบริการภาครัฐทั้งในระบบออนไลน์และในสำนักงานที่สามารถเข้าถึงในทุกพื้นที่ได้
(๔) การแก้ไขปัญหาความยากจน โดยกระบวนการชุมชนเข้มแข็ง
โดยมุ่งเน้นการดำเนินการแบบบูรณาการกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน
และประชาชนที่เกี่ยวข้องในทุกระดับ
ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1188 | ผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน ครั้งที่ 26 การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน ครั้งที่ 8 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง | กค. | 07/06/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังอาเซียน (ASEAN Finance Ministers’ Meeting : AFMM)
ครั้งที่ ๒๖
การประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังและผู้ว่าการธนาคารกลางอาเซียน (ASEAN
Finance Ministers’ and Central Bank Governots’ Meeting : AFMGM)
ครั้งที่ ๘ และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เมื่อวันที่ ๗-๘
เมษายน ๒๕๖๕ ผ่านระบบการประชุมทางไกล
ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นหัวหน้าคณะผู้แทน
และแถลงการณ์ร่วมการประชุม AFMGM ครั้งที่ ๘
โดยมีรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจและการคลัง
ราชอาณาจักรกัมพูชา เป็นประธานการประชุม โดยมีประเด็นที่สำคัญ เช่น
ความร่วมมือทางด้านการเงินอาเซียน การยกระดับด้านการเงินที่ยั่งยืน
แผนงานการบูรณาการทางการเงินของอาเซียน การส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล
และการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยุคหลังการแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙ เป็นต้น
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1189 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น สำหรับการปฏิบัติงานของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ระหว่างวันที่ 1 ธันวาคม 2564 ถึงวันที่ 31 มกราคม 2565 รวม 62 วัน (ห้วงที่ 3-4) | ตช. | 07/06/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น ภายในวงเงิน ๑๖๘,๒๗๗,๘๐๐ บาท สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง
เพื่อบรรเทาผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙
ของศูนย์ปฏิบัติการแก้ไขสถานการณ์ฉุกเฉินด้านความมั่นคง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ระหว่างวันที่ ๑ ธันวาคม ๒๕๖๔ ถึงวันที่ ๓๑ มกราคม ๒๕๖๕ รวม ๖๒ วัน
หรือจนกว่าสถานการณ์การแพร่ระบาดของติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ จะยุติลง ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ
และให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับความเห็นของกระทรวงการคลังและกระทรวงสาธารณสุข
ที่ควรให้ความสำคัญในการควบคุม กำกับ ดูแล การดำเนินการดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด
และให้มีการรายงานผลการดำเนินงานตามที่ได้ปฏิบัติในห้วงเวลาข้างต้นและการใช้จ่ายงบประมาณต่อสำนักงบประมาณ
ตามนัยข้อ ๑๒ แห่งระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น
พ.ศ. ๒๕๖๒ ซึ่งจะได้นำผลการดำเนินงานไปใช้ประโยชน์กับการพัฒนางานในโอกาสต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1190 | ร่างพระราชบัญญัติคู่ชีวิต พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | ยธ. | 07/06/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างพระราชบัญญัติคู่ชีวิต พ.ศ. ....
และร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
มีสาระสำคัญเป็นการรับรองสิทธิตามกฎหมายในการสร้างครอบครัวระหว่างบุคคลเพศเดียวกัน
ซึ่งมีความสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ชาติในด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม
ตลอดจนแผนสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ฉบับที่ ๔ (พ.ศ. ๒๕๖๒-๒๕๖๕)
และเป็นการสร้างหลักประกันด้านสิทธิมนุษยชนแก่กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศอย่างยั่งยืน
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ซึ่งได้ดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว
และให้เสนอสภาผู้แทนราษฎรเป็นเรื่องด่วนต่อไป ๒.
รับทราบแผนในการจัดทำกฎหมายลำดับรอง กรอบระยะเวลา
และกรอบสาระสำคัญของกฎหมายลำดับรองตามร่างพระราชบัญญัติคู่ชีวิต พ.ศ. ....
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ๓.
รับทราบรายงานสรุปผลการทบทวนหลักการ เหตุผล
และความจำเป็นในการมีร่างพระราชบัญญัติคู่ชีวิต พ.ศ. ....
และร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ.
....
รวม ๒ ฉบับ รวมทั้งการรับฟังความคิดเห็นและหารือกับกลุ่มผู้มีความหลากหลายทางเพศ และกลุ่มศาสนา
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1191 | ขอความเห็นชอบท่าทีไทยเพิ่มเติมสำหรับการประชุมรัฐมนตรีขององค์การการค้าโลกสมัยสามัญครั้งที่ 12 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง | พณ. | 07/06/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1192 | การขอความเห็นชอบต่อร่างปฏิญญา (Final Declaration) สำหรับการประชุมระดับสูงว่าด้วยทศวรรษระหว่างประเทศแห่งการดำเนินการ “น้ำสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืน”ค.ศ. 2018-2028 ครั้งที่ 2 (The Second High- Level International Conference on the International Decade for Action “Water for Sustainable Development”, 2018-2028 หรือ Second Dushanbe Water Action Decade Conference) | นร.14 | 07/06/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบต่อร่างปฏิญญา (Final Declaration) สำหรับการประชุมระดับสูงว่าด้วยทศวรรษระหว่างประเทศแห่งการดำเนินการ
“น้ำสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืน”ค.ศ. ๒๐๑๘-๒๐๒๘ ครั้งที่ ๒ (The Second High-Level International Conference on the International Decade for
Action “Water for Sustainable Development”,
2018-2028 หรือ Second Dushanbe Water Action Decade
Conference) มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๖-๙ มิถุนายน ๒๕๖๕
ณ กรุงดูซานเบ สาธารณรัฐทาจิกิสถาน ผ่านระบบออนไลน์ โดยร่างปฏิญญาฯ มีสาระสำคัญเป็นการแสดงเจตนารมณ์ทางการเมืองร่วมระดับผู้นำในการพัฒนาการบริหารจัดการและการดำเนินการด้านทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืนและครอบคลุมทุกภาคส่วน
โดยร่างปฏิญญาฯ ประกอบด้วยประเด็นสำคัญ ได้แก่
สร้างหลักประกันว่าทุกคนจะสามารถเข้าถึงน้ำที่ปลอดภัยและราคาเหมาะสม สุขาภิบาลและสุขอนามัยที่เพียงพอและเท่าเทียม
ตระหนักถึงความสำคัญของน้ำเพื่อการดำรงชีวิตและการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างทั่วถึง
ส่งเสริมการดำเนินการจัดการทรัพยากรน้ำบูรณาการ สร้างความเชื่อมโยงระหว่างน้ำ
สิ่งแวดล้อม และการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และส่งเสริมความร่วมมือและหุ้นส่วนระหว่างผู้มีส่วนได้เสียต่าง
ๆ ในทุกระดับ รวมถึงหน่วยงานท้องถิ่น องค์กรภาคประชาสังคม นักลงทุน และผู้บริจาค ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ
และหากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างปฏิญญาซึ่งเป็นเอกสารผลลัพธ์ของการประชุมระดับสูงว่าด้วยทศวรรษระหว่างประเทศแห่งการดำเนินการ
“น้ำสำหรับการพัฒนาที่ยั่งยืน”ค.ศ. ๒๐๑๘-๒๐๒๘ ครั้งที่ ๒
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับปเปลี่ยนดังกล่าวด้วย ๒.
ให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติได้รับการยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมือวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1193 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน ในท้องที่ตำบลห้วยแย้ ตำบลวังตะเฆ่ ตำบลโคกสะอาด อำเภอหนองบัวระเหว และตำบลชีบน อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ พ.ศ. .... | กษ. | 07/06/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืน
ในท้องที่ตำบลห้วยแย้ ตำบลวังตะเฆ่ ตำบลโคกสะอาด อำเภอหนองบัวระเหว และตำบลชีบน
อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนในท้องที่ตำบลห้วยแย้ ตำบลวังตะเฆ่ ตำบลโคกสะอาด อำเภอหนองบัวระเหว
และตำบลชีบน อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เพื่อก่อสร้างอ่างเก็บน้ำ อาคารประกอบ
และสิ่งจำเป็นในการชลประทานอื่นตามโครงการอ่างเก็บน้ำลำชีวันเนื่องมาจากพระราชดำริ
จังหวัดชัยภูมิ
เพื่อประโยชน์แก่การชลประทานสำหรับพื้นที่การเกษตร การอุปโภคและบริโภค
ตลอดจนการป้องกันและบรรเทาอุทกภัย ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
โดยให้แก้ไขระยะเวลาการใช้บังคับร่างพระราชกฤษฎีกา จาก “พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับได้มีกำหนด
๔ ปี” เป็น “พระราชกฤษฎีกานี้ให้ใช้บังคับได้มีกำหนด ๓ ปี”
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1194 | มาตรการกำกับดูแลและคุ้มครองสุขภาพของประชาชนจากการบริโภคกัญชาและกัญชง | นร. | 07/06/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่รองนายกรัฐมนตรี
(นายวิษณุ เครืองาม) เสนอว่า โดยที่ประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง
ระบุชื่อยาเสพติดให้โทษประเภท ๕ พ.ศ. ๒๕๖๕ ลงวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๕
ได้กำหนดให้สารสกัดจากทุกส่วนของพืชกัญชาหรือกัญชง ซึ่งเป็นพืชในสกุล Cannabis เป็นยาเสพติดให้โทษประเภท ๕
ยกเว้นสารสกัดที่มีปริมาณสารเตตราไฮโดรแคนนาบินอล (tetrahydrocannabinol,
THC) ไม่เกินร้อยละ ๐.๒ โดยน้ำหนัก
เฉพาะที่ได้รับอนุญาตให้สกัดจากกัญชาหรือกัญชงที่ปลูกภายในประเทศ
หรือสารสกัดจากเมล็ดพันธุ์พืชกัญชาหรือกัญชง ที่ได้รับการปลูกภายในประเทศ
จะมีผลใช้บังคับในวันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๖๕ ดังนั้น ตั้งแต่วันที่ ๙ มิถุนายน ๒๕๖๕
เป็นต้นไป จะทำให้สารสกัดจากทุกส่วนของพืชกัญชาหรือกัญชง
หากมีสารสกัดที่มีปริมาณสาร THC ไม่เกินร้อยละ ๐.๒
โดยน้ำหนัก ไม่เป็นยาเสพติดให้โทษประเภท ๕ อีกต่อไปและสามารถดำเนินการใด ๆ
ได้อย่างถูกกฎหมายซึ่งจะส่งผลต่อการดำเนินคดีที่เกี่ยวข้องกับกัญชาในขั้นตอนต่าง ๆ
จึงมีความจำเป็นต้องมีกฎหมายเพื่อกำหนดมาตรการกำกับดูแลและคุ้มครองสุขภาพของประชาชนจากการบริโภคกัญชาและกัญชง
โดยขณะนี้ร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ. .... ซึ่งมีหลักการดังกล่าวเสนอโดยสมาชิกพรรคภูมิใจไทยและพรรคพลังประชารัฐ
อยู่ระหว่างการพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎร ดังนั้น
ในระหว่างที่กฎหมายดังกล่าวยังไม่มีผลใช้บังคับ
จึงมีความจำเป็นต้องสร้างความรับรู้ความเข้าใจให้แก่ประชาชนในการนำกัญชาและกัญชงไปใช้ประโยชน์อย่างถูกต้องและตระหนักถึงภัยของกัญชาและกัญชงที่ยังมีอยู่
ตลอดจนพฤติกรรมที่รัฐยังจำเป็นต้องควบคุมเพื่อไม่ให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ
เห็นควรให้มีการบูรณาการนโยบายพืชกัญชาและกัญชงขึ้นคณะหนึ่ง ประกอบด้วย รองนายกรัฐมนตรี
เป็นประธานกรรมการ และกรรมการที่มาจากผู้แทนของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงสาธารณสุข
กระทรวงยุติธรรม กระทรวงการต่างประเทศ
สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
ตลอดจนนักวิชาการ และภาคประชาชน
เพื่อทำหน้าที่ชั่วคราวในการกำหนดมาตรการกำกับดูแลและคุ้มครองในเรื่องต่าง ๆ
รวมทั้งสร้างความเข้าใจกับประชาชนและคณะกรรมการควบคุมยาเสพติดระหว่างประเทศ (international
Narcotics Control Board : INCB) จนกว่ากฎหมายจะมีผลใช้บังคับ
ซึ่งคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วลงมติเห็นชอบตามที่ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ
เครืองาม) เสนอ และให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1195 | รายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร | สผ. | 30/05/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายตุลาการศาลยุติธรรม
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งสำนักงานศาลยุติธรรมได้มีการประกาศและเผยแพร่ในส่วนของหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินผลงาน
ความรู้ ความสามารถ และสมรรถภาพในการปฏิบัติหน้าที่ของผู้พิพากษาและผู้พิพากษาสมทบในศาลชำนัญพิเศษต่าง ๆ ในราชกิจจานุเบกษา
รวมทั้งยังได้เผยแพร่ในเว็บไซต์สำนักงานคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม
สำนักงานศาลยุติธรรม ด้วยแล้ว และได้ดำเนินการรวบรวมข้อมูลการลงโทษกรณีถูกสั่งลงโทษไล่ออก
ปลดออก ให้ออก หรือกรณีอื่น ๆ ตามมติคณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม
และมีการรวบรวมประมวลลักษณะการกระทำความผิดและแนวทางการลงโทษให้คณะกรรมการตุลาการศาลยุติธรรม
คณะอนุกรรมการตุลาการศาลยุติธรรมเป็นแนวทางในการดำเนินงานหากมีกรณีบุคคลภายนอกขอข้อมูลคัดถ่ายเกี่ยวกับแนวทางดังกล่าวสามารถดำเนินการคัดถ่ายได้ที่สำนักงานศาลยุติธรรม
ตามที่สำนักงานศาลยุติธรรมเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1196 | รายงานผลการสอบบัญชีของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สำหรับปีบัญชี 2564 | อก. | 30/05/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการสอบบัญชีของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย
สำหรับปีบัญชี ๒๕๖๔ ประกอบด้วย งบแสดงฐานะการเงิน งบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จ
ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้วเห็นว่ารายงานการเงินดังกล่าวถูกต้องตามที่ควรในสาระสำคัญตามมาตรฐานรายงานทางการเงิน
ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1197 | การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมรัฐมนตรีด้านการศึกษาแห่งภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกว่าด้วยเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน เป้าหมายที่ 4 (การศึกษา 2030) ครั้งที่ 2 | ศธ. | 30/05/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1198 | ร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้น้ำมันปาล์มและแฟรกชันของน้ำมันปาล์ม และน้ำมันเนื้อในเมล็ดปาล์มเป็นสินค้าที่ต้องปฏิบัติ ตามมาตรการจัดระเบียบในการนำเข้าและนำผ่าน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | พณ. | 30/05/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง
กำหนดให้น้ำมันปาล์มและแฟรกชันของน้ำมันปาล์ม
และน้ำมันเนื้อในเมล็ดปาล์มเป็นสินค้าที่ต้องปฏิบัติ
ตามมาตรการจัดระเบียบในการนำเข้าและนำผ่าน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้น้ำมันปาล์มและแฟรกชันของน้ำมันปาล์มและน้ำมันเนื้อในเมล็ดปาล์มเป็นสินค้าที่ต้องปฏิบัติตามมาตรการจัดระเบียบในการนำเข้าและนำผ่าน
พ.ศ. ๒๕๖๓ โดยเพิ่มบทนิยามคำว่า “หนังสือรับรอง”
เพื่อใช้รับรองการนำผ่านสินค้าน้ำมันปาล์ม (น้ำมันปาล์มเพื่อใช้บริโภค)
และแฟรกชันของน้ำมันปาล์ม (การแยกส่วนโดยใช้วิธีให้ความร้อนแก่น้ำมันปาล์ม สามารถนำไปใช้ประกอบการทำอาหาร
หรือสบู่) และกำหนดค่าน้ำมันผ่านน้ำมันปาล์มและแฟรกชันของน้ำมันปาล์มโดยเริ่มต้นที่ด่านศุลกากรสะเดาและสิ้นสุดที่ด่านศุลกากรหนองคาย
เพื่อนำผ่านไปยังสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว)
ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1199 | วันผ้าไทยแห่งชาติ | วธ. | 30/05/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ “วันที่ ๑๒ สิงหาคม ของทุกปีเป็นวันผ้าไทยแห่งชาติ”
ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ และให้กระทรวงวัฒนธรรมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรจัดกิจกรรมในการรณรงค์
ประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนตระหนักถึงคุณค่าของผ้าไทยและการสร้างการรับรู้ถึงคำนิยามของผ้าไทยที่ชัดเจนอย่างต่อเนื่อง
รวมทั้งให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและพัฒนารูปแบบให้ดูทันสมัย
เหมาะกับประชาชนทุกเพศทุกวัย และไม่เป็นภาระค่าใช้จ่าย
เพื่อให้สามารถสวมใส่ในชีวิตประจำวันได้โดยยังคงสะท้อนเอกลักษณ์ความเป็นไทยของแต่ละท้องถิ่น
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
1200 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (1. จ่าเอก ยศสิงห์ เหลี่ยมเลิศ ฯลฯ จำนวน 5 ราย) | นร.04 | 30/05/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการแต่งตั้งข้าราชการการเมือง
ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี จำนวน ๕ ราย โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๓๐ พฤษภาคม ๒๕๖๕) เป็นต้นไป ตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
ดังนี้ ๑. จ่าเอก ยศสิงห์
เหลี่ยมเลิศ ๒. สิบเอก คิมหันต์
ตลับนาค ๓. นายพิศณุพงศ์ สิทธิโชคแก้วมูล ๔. นายอริย์ธัช ชาติอาริยะพงศ์ ๕. นายอานนท์ แสนน่าน
|