ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 21 จากทั้งหมด 28 หน้า แสดงรายการที่ 401 - 420 จากข้อมูลทั้งหมด 552 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 401 | โครงการผลิตแพทย์เพิ่มแห่งประเทศไทย ปี พ.ศ. 2561 - 2570 (ดำเนินการต่อเนื่องในระยะที่ 2 พ.ศ. 2565 - 2570) | อว. | 05/04/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 402 | ขออนุมัติดำเนินโครงการอ่างเก็บน้ำคลองโพล้ จังหวัดระยอง | กษ. | 05/04/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑. อนุมัติตามความเห็นของสำนักงบประมาณที่เห็นชอบให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
(กรมชลประทาน) ดำเนินโครงการอ่างเก็บน้ำคลองโพล้ จังหวัดระยอง ภายในกรอบวงเงิน
๓,๕๖๑,๖๒๐,๐๐๐ บาท ระยะเวลาดำเนินโครงการ ๔ ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕-พ.ศ. ๒๕๖๘)
สำหรับค่าใช้จ่ายในการจัดหาที่ดินและการแก้ไขผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๕ ให้ใช้จ่ายจากรายการค่าซื้อที่ดิน ค่าทดแทน ค่ารื้อย้ายในการจัดหาที่ดิน
จำนวน ๑๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท และรายการค่าใช้จ่ายตามแผนการป้องกัน แก้ไข
และพัฒนาสิ่งแวดล้อม จำนวน ๘,๐๐๐,๐๐๐ บาท ที่ได้จัดสรรงบประมาณรองรับไว้แล้ว
ส่วนที่เหลือขอให้กรมชลประทานจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณตามความสามารถในการใช้จ่ายและการก่อหนี้ผูกพันภายในปีงบประมาณที่สอดคล้องกับแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติอย่างเคร่งครัด
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความพร้อม ความจำเป็นและเหมาะสม
ตามขั้นตอนต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน)
รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ
และสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เช่น (๑)
กรมชลประทานควรวางแผนการเชื่อมโยงโครงข่ายระบบน้ำที่มีอยู่เดิมในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก
(EEC) กับโครงการอ่างเก็บน้ำคลองโพล้ จังหวัดระยอง (๒)
กรมชลประทานควรดำเนินการตามมติคณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ในการประชุมครั้งที่
๓/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๒๘ กันยายน ๒๕๖๓ เช่น เร่งรัดออกแบบระบบส่งน้ำให้ครอบคลุมพื้นที่ชลประทานเต็มศักยภาพ
ศึกษาความเป็นไปได้การเชื่อมโยงกับโครงข่ายน้ำกับพื้นที่ EEC เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒.
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) เร่งรัดการดำเนินการ ดังนี้ ๒.๑
ให้ดำเนินการจ่ายเงินช่วยเหลือให้แก่ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินโครงการอ่างก็บน้ำคลองโพล้
จังหวัดระยอง ให้ถูกต้อง ครบถ้วน เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 403 | การแต่งตั้งคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า (1. นายวิชัย โภชนกิจ ฯลฯ จำนวน 7 ตน) | พณ. | 05/04/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งประธานกรรมการ
รองประธานกรรมการ และกรรมการอื่นในคณะกรรมการองค์การคลังสินค้า รวม ๗ คน
เนื่องจากประธานกรรมการ รองประธานกรรมการ และกรรมการอื่นเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๕ เมษายน ๒๕๖๕) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
ดังนี้ ๑.
นายวิชัย โภชนกิจ ประธานกรรมการ ๒.
นายศรายุทธ ยิ้มยวน รองประธานกรรมการ ๓.
นายมงคล เหล่าวรพงศ์ กรรมการ ๔.
รองศาสตราจารย์อัศม์เดช วานิชชินชัย กรรมการ ๕.
นายสกล กิตติ์นิธิ กรรมการ ๖.
นายคมฤทธิ์ กวินอัครฐิติ กรรมการ
๗.
นายอภิชาต ศักดิเศรษฐ์ กรรมการ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 404 | การกำหนดขอบเขตสภาพการจ้างที่เกี่ยวกับการเงินสำหรับรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งที่รัฐวิสาหกิจนั้นอาจดำเนินการเองได้ ตามมาตรา 13 (2) แห่งพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. 2543 เกี่ยวกับการปรับปรุงค่าห้องและค่าอาหาร กรณีเข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาล | รง. | 05/04/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการกำหนดขอบเขตสภาพการจ้างที่เกี่ยวกับการเงินสำหรับรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งที่รัฐวิสาหกิจนั้นอาจดำเนินการเองได้ตามมาตรา
๑๓ (๒) แห่งพระราชบัญญัติแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ พ.ศ. ๒๕๔๓
เกี่ยวกับการปรับปรุงค่าห้องและค่าอาหาร กรณีเข้ารับการรักษาพยาบาลในสถานพยาบาล
สำหรับลูกจ้างเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็น แต่ไม่เกินวันละ ๑,๕๐๐ บาท
และสำหรับบุคคลในครอบครัวเท่าที่จ่ายจริงตามความจำเป็นแต่ไม่เกินวันละ ๑,๑๐๐ บาท ซึ่งสิทธิสำหรับบุคคลในครอบครัวจะต้องเป็นสิทธิที่อยู่เดิม
ตามมติคณะกรรมการแรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ครั้งที่ ๕/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๓๐
สิงหาคม ๒๕๖๔ ตามที่กระทรวงแรงงานเสนอ
ทั้งนี้
ให้กระทรวงแรงงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย
สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นว่าในการดำเนินการดังกล่าวแต่ละรัฐวิสาหกิจจะต้องคำนึงถึงสถานะทางการเงิน
ผลการดำเนินงานของกิจการ ขีดความสามารถในการหารายได้
และสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายให้ครอบคลุมรายจ่ายที่จะเกิดขึ้น
เพื่อมิให้กระทบต่อการใช้จ่ายเงินทุนสำหรับการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่ง ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 405 | ร่างยุทธศาสตร์ด้านมาตรฐานทางจริยธรรมและการส่งเสริมจริยธรรมภาครัฐ พ.ศ. 2565 - 2570 | นร.10 | 05/04/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
เห็นชอบร่างยุทธศาสตร์ด้านมาตรฐานทางจริยธรรมและการส่งเสริมจริยธรรมภาครัฐ พ.ศ.
๒๕๖๕-๒๕๗๐ ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อเป็นกรอบและกลไกในการขับเคลื่อนการดำเนินการรักษาจริยธรรมและส่งเสริมพัฒนาจริยธรรมให้เจ้าหน้าที่ของรัฐ
และให้หน่วยงานของรัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการให้มีการจัดทำแผนงาน
มาตรการ เพื่อส่งเสริมให้เจ้าหน้าที่ของรัฐรักษาจริยธรรมตามมาตรฐานทางจริยธรรม
ประมวลจริยธรรม และข้อกำหนดจริยธรรม ซึ่งร่างยุทธศาสตร์ฯ
ได้ผ่านความเห็นชอบจากสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติและคณะกรรมการมาตรฐานทางจริยธรรมแล้ว
ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 406 | ร่างพระราชบัญญัติการไฟฟ้านครหลวง (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | มท. | 05/04/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 407 | ขออนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินโครงการกิ่วคอหมา จังหวัดลำปาง | กษ. | 29/03/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติขยายระยะเวลาดำเนินโครงการกิ่วคอหมา จังหวัดลำปาง จากเดิม
๑๗ ปี (ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๘-พ.ศ. ๒๕๖๔) เป็น ๑๙ ปี ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๔๘-พ.ศ.
๒๕๖๖) ภายใต้กรอบวงเงินโครงการที่ได้รับอนุมัติไว้เดิม ๓,๖๗๐,๕๐๐,๐๐๐ บาท ตามที่กระทรวงวเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เช่น การขอขยายระยะเวลาดำเนินโครงการโดยไม่เพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันต้องเสนอขออนุมัติต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
และรายงานให้สำนักงบประมาณทราบภายในกำหนดเวลาตามระเบียบว่าด้วยการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๒ ข้อ ๗ (๒)
ควรเร่งรัดการดำเนินโครงการให้เป็นไปตามแผนที่กำหนดไว้ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
คำนึงถึงประโยชน์ ความคุ้มค่าที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 408 | โครงการบริการระบบคลาวด์กลางภาครัฐ (Government Data Center and Cloud Services : GDCC) | ดศ. | 29/03/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบผลการดำเนินงานการให้บริการระบบคลาวด์กลางภาครัฐ (Government Data Center
and Cloud Services : GDCC) และเห็นชอบให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมจัดให้มีคลาวด์กลางภาครัฐ
และให้บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินการคลาวด์กลางภาครัฐ อันเนื่องมาจากการควบรวมกิจการ
และได้รับไปทั้งทรัพย์สิน หนี้ สิทธิ หน้าที่ และความรับผิดชอบของบริษัท กสท
โทรคมนาคม จำกัด (มหาชน) ทั้งหมด ตามพระราชบัญญัติบริษัทมหาชนจำกัด พ.ศ. ๒๕๓๕
ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ
และให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณ
รวมทั้งข้อเสนอแนะและข้อสังเกตของกระทรวงการอุดมศึกษ วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
เช่น การดำเนินงานต้องเป็นไปอย่างโปร่งใส คุ้มค่า และประหยัด
ควรกำหนดให้มีผู้ดูแลระบบคลาวด์แต่ละหน่วยงาน กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมอาจปรับลดระยะเวลาในการพิจารณาคำขอใช้บริการจากรอบรายไตรมาสเป็นรายเดือนหรือน้อยกว่า
เป็นต้น ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๒. ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
(สำนักงานคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ)
ดำเนินการประเมินความจำเป็นของการใช้งานระบบคลาวด์กลางภาครัฐเป็นระยะ ๆ
รวมทั้งกำหนดตัวชี้วัดด้านเทคนิคของระบบที่ชัดเจน เช่น
เสถียรภาพของระบบคลาวด์กลางภาครัฐ ประสิทธิภาพในการรับรองความต้องการใช้งานในแต่ละช่วงเวลา
เพื่อใช้เป็นข้อมูลประกอบการบริหารจัดการ ติดตาม กำกับดูแล
และประเมินผลการดำเนินโครงการบริการระบบคลาวด์ภาครัฐให้เหมาะสม มีประสิทธิภาพ
และตอบสนองต่อความต้องการของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมากยิ่งขึ้น ทั้งนี้
ให้พิจารณากำหนดกลไกการติดตามและประเมินผลสัมฤทธิ์ของบุคลากรที่ได้รับการอบรมระบบคลาวด์ในหลักสูตรที่เกี่ยวข้อง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 409 | ผลการประชุมคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ ครั้งที่ 1/2565 | กค. | 29/03/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ
ครั้งที่ ๑/๒๕๖๕ เมื่อวันที่ ๒๖ มกราคม ๒๕๖๕
สรุปได้ ดังนี้ (๑) มาตรการเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ
ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๕ ในเรื่องเป้าหมายการเบิกจ่ายงบลงทุนของรัฐวิสาหกิจ (๒)
รายงานการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐ ภาพรวมการเบิกจ่าย ประจำปีงบประมาณ
๒๕๖๕ ตั้งแต่ต้นปีงบประมาณจนถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๔ มีการเบิกจ่ายแล้ว จำนวน ๑,๓๐๖,๑๒๓ ล้านบาท ผลการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายลงทุน กระทรวงที่มีการเบิกจ่ายสูงสุด
เช่น กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงการคลัง
สำนักนายกรัฐมนตรี และกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (๓)
รัฐวิสาหกิจมีกรอบลงทุนปี ๒๕๖๕ จำนวน ๓๑๘,๑๐๓ ล้านบาท
มีผลการเบิกจ่ายสะสม ๑๔,๒๖๓ ล้านบาท หรือคิดเป็นร้อยละ ๙๕
ของแผนเบิกจ่ายสะสม (๔) โครงการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่ มีจำนวน ๑๐๒ โครงการ
มูลค่ารวม ๒.๕๑ ล้านล้านบาท และมีมูลค่าการลงทุนในปี ๒๕๖๕ จำนวน ๑๙๒,๗๗๖ ล้านบาท และ (๕)
การเบิกจ่ายเงินกู้ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินฯ พ.ศ. ๒๕๖๓
จำนวน ๑,๑๒๖ โครงการ วงเงิน ๙๘๖,๙๖๔
ล้านบาท หน่วยงานมีการเบิกจ่ายแล้วทั้งสิ้น ๙๔๓,๕๕๔ ล้านบาท
คิดเป็นร้อยละ ๙๖ ของวงเงินอนุมัติ
และการเบิกจ่ายเงินกู้โครงการภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินฯ
เพิ่มเติม พ.ศ. ๒๕๖๔ จำนวน ๔๓ โครงการ วงเงิน ๓๔๒,๓๑๗
ล้านบาท หน่วยงานมีการเบิกจ่ายแล้วทั้งสิ้น วงเงิน ๒๒๙,๖๕๓
ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ ๖๗ ของวงเงินอนุมัติ
ตามที่คณะกรรมการติดตามเร่งรัดการเบิกจ่ายงบประมาณและการใช้จ่ายภาครัฐเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 410 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง รูปแบบการแก้ปัญหาความยากจนแบบมุ่งเป้า กรณีศึกษาประเทศจีนและอินเดีย ของคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา | สว. | 29/03/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง
รูปแบบการแก้ปัญหาความยากจนแบบมุ่งเป้า กรณีศึกษาประเทศจีนและอินเดีย
ของคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา
ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
โดยสรุปผลการพิจารณาได้ว่า
ปัจจุบันได้มีคณะกรรมการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
และคณะกรรมการบูรณาการเพื่อพัฒนาความเสมอภาคและความเท่าเทียมทางสังคม
โดยมีศูนย์อำนวยการขจัดความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัยอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ในการแก้ไขปัญหาความยากจน ลดความเหลื่อมล้ำ
โดยมีการบูรณาการการทำงานร่วมกันอยู่แล้ว ดังนั้น การจัดตั้ง
“สำนักงานบูรณาการการแก้ปัญหาความยากจน”
เพื่อดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายแก้ปัญหาความยากจนขึ้นใหม่ อาจไม่สอดคล้องกับแนวทางการปฏิรูประบบราชการและยุทธศาสตร์ด้านการปรับสมดุลและพัฒนาระบบการบริหารจัดการภาครัฐที่ต้องการลดขนาดและกำลังคนในภาครัฐ
ซึ่งจะต้องพิจารณาถึงความคุ้มค่าและมิให้เกิดความซ้ำซ้อนกับหน่วยงานที่มีอยู่แล้ว
สำหรับการจัดให้มี “กองทุนเพื่อการลงทุนทางสังคม” (Social Investment
Fund-SIF) ที่ครอบคลุมไปถึงภารกิจในการแก้ปัญหาความยากจนและผู้ได้รับผลกระทบอื่น
ๆ นั้น จะต้องพิจารณาไม่ซ้ำซ้อนกับกองทุนหมุนเวียนที่จัดตั้งไว้แล้ว
โดยต้องดำเนินการตามมาตรา ๑๔ แห่งพระราชบัญญัติการบริหารทุนหมุนเวียน พ.ศ. ๒๕๕๘
และมาตรา ๖๓ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑
ส่วนการกำหนดนโยบาย แผนงาน โครงการ
สร้างคนให้เก่งในเรื่องอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสารสนเทศและภาษาอังกฤษ เพื่อรองรับยุค IT
ให้มากขึ้น นั้น
ควรผลักดันการใช้ข้อมูลระบบบริหารจัดการข้อมูลการพัฒนาคนแบบชี้เป้า (Thai
People Map and Analytics Platform : TPMAP) และให้ระบบดังกล่าวเป็นศูนย์กลางข้อมูลเพื่อการแก้ปัญหาความยากจนและพัฒนาคน
นำนวัตกรรมการพัฒนาและการลงทุนด้านเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้เพื่อให้คนในชนบทมีโอกาสเข้าถึงทรัพยากร
และโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็น ซึ่งปัจจุบันกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ได้ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย
โดยกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ทำหน้าที่ให้การสนับสนุนผ่านสำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดทุกจังหวัดที่เป็นกลไกการดำเนินงานในระดับพื้นที่ร่วมกับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 411 | มาตรการเร่งด่วนเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนจากสถานการณ์ราคาพลังงานอันเนื่องจากปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาคยุโรป | นร.11 สศช | 29/03/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบในหลักการของข้อเสนอมาตรการเร่งด่วนเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนจากสถานการณ์ราคาพลังงานอันเนื่องจากปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาคยุโรป
โดยมอบหมายให้กระทรวงการคลัง กระทรวงคมนาคม กระทรวงพลังงาน กระทรวงแรงงาน
กำกับและติดตามให้หน่วยงานในสังกัดที่มีอำนาจและหน้าที่ในส่วนที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามมาตรการเร่งด่วนเพื่อบรรเทาผลกระทบต่อประชาชนจากสถานการณ์ราคาพลังงานอันเนื่องจากปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาคยุโรปตามข้อ
๓.๑ ตามขั้นตอนของระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และมอบหมายให้กระทรวงการคลัง
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ สำนักงบประมาณ
และธนาคารแห่งประเทศไทย
ร่วมกันพิจารณาติดตามและปรับปรุงมาตรการการให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่เหมาะสมตามสถานการณ์ของราคาพลังงานในตลาดโลก
โดยคำนึงถึงภาวะเศรษฐกิจ
ความพร้อมและความสามารถทางการเงินของภาครัฐภายใต้พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ รวมทั้งมอบหมายให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
รวบรวมข้อเสนอแนวทางหรือมาตรการผลกระทบของประชาชนและผู้ประกอบการจากสถานการณ์ราคาพลังงานอันเนื่องจากปัญหาความขัดแย้งในภูมิภาคยุโรปที่มีลักษณะมุ่งเป้าของกระทรวงต่าง
ๆ เพื่อเสนอนายกรัฐมนตรีพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องก่อนดำเนินการเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาตามขั้นตอนต่อไป
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงพลังงาน
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
ที่ควรให้ความสำคัญในการเตรียมความพร้อมของโครงการ
วิธีการดำเนินการเพื่อให้ได้ผลสัมฤทธิ์
เพื่อลดความเสี่ยงและความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นจากการดำเนินการ
รวมถึงปฏิบัติให้เป็นไปตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนทุกขั้นตอน
เร่งสร้างความรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒.
ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 412 | ผลการประชุมรัฐมนตรีกีฬาอาเซียน ครั้งที่ 6 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง ร่างถ้อยแถลงร่วมของการประชุมรัฐมนตรีกีฬาอาเซียน ครั้งที่ 6 และร่างถ้อยแถลงร่วมของการประชุมรัฐมนตรีกีฬาอาเซียน-ญี่ปุ่น ครั้งที่ 3 | กก. | 29/03/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีกีฬาอาเซียน
ครั้งที่ ๖ และการประชุมที่เกี่ยวข้อง เห็นชอบต่อร่างถ้อยแถลงร่วมของการประชุมรัฐมนตรีกีฬาอาเซียน
ครั้งที่ ๖ และร่างถ้อยแถลงร่วมของการประชุมรัฐมนตรีกีฬาอาเซียน-ญี่ปุ่น ครั้งที่
๓ ผ่านระบบการประชุมทางไกล เมื่อวันที่ ๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๔
ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความร่วมมือด้านกีฬาระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน
รวมทั้งทบทวนและประเมินผลโครงการและกิจกรรมของการประชุมรัฐมนตรีกีฬาอาเซียนและองค์กรย่อยตามแผนการดำเนินการด้านกีฬาให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์แผนงานประชาสังคมและวัฒนธรรมอาเซียน
และสายงานอื่นที่เกี่ยวข้องกับการพัฒนากีฬาอาเซียน และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาให้การรับรองเอกสารต่อร่างถ้อยแถลงร่วมของการประชุมรัฐมนตรีกีฬาอาเซียน
ครั้งที่ ๖ และร่างถ้อยแถลงร่วมของการประชุมรัฐมนตรีกีฬาอาเซียน-ญี่ปุ่น ครั้งที่
๓ ร่วมกับประเทศสมาชิกอาเซียนอื่น ๆ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนถ้อยคำในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
และให้กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารับความเห็นของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นว่าคณะรัฐมนตรีสามารถพิจารณารับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียน ครั้งที่ ๖
และการประชุมที่เกี่ยวข้องได้ตามที่เห็นสมควร
และควรให้ความสำคัญกับมาตรการรักษาความปลอดภัยด้านสุขอนามัย และควรมีกรอบแผนการดำเนินงานในการพัฒนาการกีฬาให้ครอบคลุม
โดยคำนึงถึงบริบทการดำเนินชีวิตตามแนววิถีใหม่ (New Normal)
เพื่อให้เกิดการพัฒนาด้านกีฬาที่ยั่งยืนต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 413 | รัฐบาลราชอาณาจักรนอร์เวย์เสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชอาณาจักรนอร์เวย์ประจำประเทศไทย (นางอัสตริด เอมีเลีย เฮลเล) | กต. | 29/03/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติกรณีรัฐบาลราชอาณาจักรนอร์เวย์เสนอขอแต่งตั้ง
นางอัสตริด เอมีเลีย เฮลเล (Mrs. Astrid
Emilie Helle) ให้ดำรงตำแหน่ง เอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งราชอาณาจักรนอร์เวย์ประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นางแชสตี เริดส์มูน (Ms. Kjersti Rodsmoen) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 414 | ขออนุมัติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 สำหรับเป็นค่าตอบแทนเสี่ยงภัยเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด่านหน้าในสถานการณ์โควิด 19 | มท. | 22/03/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙ สำหรับเป็นค่าตอบแทนเสี่ยงภัยเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด่านหน้าในสถานการณ์โควิด 19 ของกรมการปกครอง จำนวน ๒๗๐,๕๙๐ คน ได้แก่ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน แพทย์ประจำตำบล สารวัตรกำนัน ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน และสมาชิกกองอาสารักษาดินแดน ในอัตรา ๕๐๐ ต่อคนต่อเดือน จำนวน ๖ เดือน ตั้งแต่เดือนตุลาคม ๒๕๖๔ ถึงเดือนมีนาคม ๒๕๖๕ รวมงบประมาณทั้งสิ้น ๘๑๑,๗๗๐,๐๐๐ บาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรให้มีการสรุปผลการปฏิบัติงานและผลการใช้จ่ายงบประมาณตามนัยข้อ ๑๑ แห่งระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณรายจ่ายงบกลางฯ ต่อไปด้วย โดยคำนึงถึงความสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ต่าง ๆ ที่กำหนดตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ และให้กระทรวงมหาดไทยใช้จ่ายเงินอย่างโปร่งใส คุ้มค่า ประหยัด รวมทั้งดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมาย และระเบียบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 415 | ภาวะสังคมไทยไตรมาสสี่และภาพรวม ปี 2564 | นร.11 สศช | 22/03/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะ คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบภาวะสังคมไทยไตรมาสสี่และภาพรวม
ปี ๒๕๖๔ สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ (๑) ความเคลื่อนไหวทางสังคมไตรมาสสี่และภาพรวม ปี
๒๕๖๔ เช่น ภาพรวมการจ้างงาน ลดลงร้อยละ ๑.๐ จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
อัตราการมีงานทำ อยู่ที่ร้อยละ ๙๘.๑ หนี้สินครัวเรือนในไตรมาส ๓ ปี ๒๕๖๔ มีมูลค่า
๑๔.๓๕ ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ ๔.๒ แต่ชะลอลงจากไตรมาสก่อน คิดเป็นร้อยละ ๘๙.๓
ของ GDP การเจ็บป่วยในไตรมาสสี่และภาพรวม
ปี ๒๕๖๔ ลดลง แต่ยังคงเฝ้าระวังการติดเชื้อโควิด-๑๙ ในเด็ก ผู้สูงอายุ
กลุ่มเปราะบาง (๒) สถานการณ์ทางสังคมที่สำคัญ จำนวน ๓ เรื่อง ได้แก่ ๑) โรคเสมือน
(Metaverse) กับโอกาสใหม่ของประเทศไทย ๒) คนไร้บ้าน : ต่อแนวทางการยกระดับความเป็นอยู่ให้พึ่งพาตนเองได้ในสังคม
และ ๓) ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรไทยจากมุมมองของบัญชีกระแสเงินโอนประชาชาติ
และ (๓) บทความเรื่อง “เสียง SMEs ภาคการท่องเที่ยว :
การปรับตัวและความเห็นต่อการช่วยเหลือของรัฐ” พบผลการสำรวจที่สำคัญ เช่น
รายได้ผู้ประกอบการลดลงในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙
ส่งผลกระทบต่อสภาพคล่องทางการเงิน
และเทคโนโลยีมีความจำเป็นต่อความอยู่รอดในการประกอบธุรกิจ
ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 416 | มาตรการลดการใช้พลังงานในหน่วยงานภาครัฐ | พน. | 22/03/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบแนวทางการประหยัดพลังงานในหน่วยงานภาครัฐ
เพื่อให้หน่วยงานราชการนำไปปฏิบัติ และได้ผลประหยัดพลังงานตามเป้าหมายที่กำหนด ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
ทั้งนี้ ให้กระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่เห็นควรให้กระทรวงพลังงานและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะกำหนดระเบียบหรือหลักเกณฑ์อย่างชัดเจนเพื่อเป็นมาตรฐานในการให้หน่วยงานสามารถนำไปใช้ได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพและคุ้มค่าในการใช้งบประมาณ
ซึ่งจะมีส่วนช่วยลดการใช้พลังงานและลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ของประเทศอย่างยั่งยืน
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๒. ให้หน่วยงานของรัฐทุกแห่งดำเนินการตามแนวทางประหยัดพลังงานในหน่วยงานภาครัฐ
ในข้อ ๑ และให้รายงานผลการดำเนินการดังกล่าวในเว็บไซต์ของกระทรวงพลังงาน www.e-report.energy.go.th เป็นประจำทุกเดือน แล้วให้กระทรวงพลังงาน
(สำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน)
รวบรวมข้อมูลทั้งหมดในภาพรวมเสนอต่อนายกรัฐมนตรีเป็นรายไตรมาสต่อไป ๓. ให้กระทรวงพลังงานได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 417 | ผลการประชุมรัฐมนตรีศึกษาเอเชีย - ยุโรป ครั้งที่ 8 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง | ศธ. | 22/03/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 418 | ร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทางนิวเคลียร์และรังสี พ.ศ. .... | อว. | 22/03/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทางนิวเคลียร์และรังสี
พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสี
เครื่องกำเนิดรังสี วัสดุนิวเคลียร์
รวมทั้งใบอนุญาตและที่เกี่ยวกับใบอนุญาตเจ้าหน้าที่ความปลอดภัยทางรังสี
ตามกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมและยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทางนิวเคลียร์และรังสี
พ.ศ. ๒๕๖๔ ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นว่าสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติควรเร่งดำเนินการจัดทำร่างกฎกระทรวงดังกล่าวให้มีผลบังคับใช้โดยเร็ว
เพื่อให้ประชาชนและผู้ประกอบการได้รับความช่วยเหลือได้อย่างเหมาะสมในสถานการณ์ปัจจุบัน
รวมถึงการประชาสัมพันธ์การยกเว้นค่าธรรมเนียมใบอนุญาตทางนิวเคลียร์และรังสีให้ผู้ประกอบการและประชาชนที่เกี่ยวข้องได้รับทราบข้อมูลอย่างทั่วถึงโดยเร็วต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 419 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) แทนตำแหน่งที่ว่าง (นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์) | อว. | 22/03/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ
แทนตำแหน่งที่ว่าง โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๒ มีนาคม ๒๕๖๕)
เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
และให้ผู้ได้รับแต่งตั้งอยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 420 | รายงานผลการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 และรายงานผลการประเมินตนเองของคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาคราชการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 | นร.12 | 22/03/2565 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
