ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 26 จากทั้งหมด 28 หน้า แสดงรายการที่ 501 - 520 จากข้อมูลทั้งหมด 552 รายการ
| ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
| 501 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง แนวทางส่งเสริมการบริหารจัดการน้ำและเศรษฐกิจชุมชนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในพื้นที่นอกเขตชลประทาน ของคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา | สว. | 24/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง
แนวทางส่งเสริมการบริหารจัดการน้ำและเศรษฐกิจชุมชนเพื่อลดความเหลื่อมล้ำในพื้นที่นอกเขตชลประทาน
ของคณะกรรมาธิการการแก้ปัญหาความยากจนและลดความเหลื่อมล้ำ วุฒิสภา ซึ่งกระทรวงกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้พิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณารายงานและข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ
แล้ว
สรุปว่ากระทรวงเกษตรและสหกรณ์ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาจัดสรรงบประมาณสำหรับการเข้าร่วมประสานงานและข้อมูลประกอบการดำเนินงานของชุมชน
รวมทั้งขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาเพิ่มสัดส่วนงบประมาณสำหรับการบริหารจัดการน้ำเพื่อกระจายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานทางด้านแหล่งน้ำให้กับชุมน
โดยมีการนำเสนอแผนงานผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการลุ่มน้ำเพื่อให้มีความสอดคล้องกับการพัฒนาแหล่งน้ำและการบริหารจัดการน้ำในภาพรวม
และได้ดำเนินการจัดทำคู่มือด้านการบริหารทรัพยากรน้ำ
การพัฒนาแหล่งน้ำที่เหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ที่สภาพภูมิประเทศต่าง ๆ
สำหรับใช้เป็นแนวทางในการถ่ายทอด/ขยายผลองค์ความรู้สู่ชุมชนที่อยู่นอกเขตพื้นที่ชลประทาน
รวมทั้งกรมพัฒนาที่ดินได้ดำเนินโครงการแหล่งน้ำในไร่นานอกเขตชลประทานดำเนินการตั้งแต่ปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๔๘ –ปัจจุบัน โดยเป็นการขุดสระน้ำขนาด ๑,๒๖๐ ลูกบาศก์เมตรในพื้นที่เกษตรกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้น้ำในช่วงฝนทิ้งช่วง
โดยได้ดำเนินการมากกว่า ๖๑๓,๒๒๐ ครัวเรือน
ตลอดจนกรมชลประทานได้มีแผนการพัฒนาแหล่งน้ำและเพิ่มพื้นที่ชลประทาน
ตามยุทธศาสตร์กรมชลประทาน ๒๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๑-๒๕๘๐) ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 502 | การปรับปรุงชื่อสำนักงานที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในต่างประเทศ | อว. | 24/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบการปรับปรุงชื่อหน่วยงาน จากเดิม สำนักงานที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
เป็น สำนักงานที่ปรึกษาด้านการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ ๒.
ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ สำนักงาน ก.พ.
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
โดยให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เสนอเรื่องการปรับภารกิจของสำนักงานที่ปรึกษาฯ
รวมถึงในประเด็นเกี่ยวกับคุณลักษณะและสมรรถนะของบุคลากรประจำสำนักงานดังกล่าว ให้คณะอนุกรรมการและคณะทำงานโครงสร้างบุคลากรของไทยที่ประจำการในต่างประเทศพิจารณาด้วย
และควรพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการวางแผนและกำหนดแนวทางปฏิบัติให้ชัดเจน
ไม่ให้เกิดความซ้ำซ้อนกับหน่วยงานอื่น ๆ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 503 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายวรรณรัตน์ ศรีสุขใส และนางบุปผา พันธุ์เพ็ง) | รง. | 24/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงแรงงาน ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๒ ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานเสนอ ดังนี้ ๑. นายวรรณรัตน์ ศรีสุขใส ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 504 | ร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมเพิ่มตามกฎหมายว่าด้วยเครื่องหมายการค้า พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมเพิ่มตามกฎหมายว่าด้วยสิทธิบัตร พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ | พณ. | 24/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมเพิ่มตามกฎหมายว่าด้วยเครื่องหมายการค้า
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นค่าธรรมเนียมเพิ่ม
(ค่าปรับ) ร้อยละยี่สิบของค่าธรรมเนียมการต่ออายุการจดทะเบียนเครื่องหมายการค้า
เครื่องหมายบริการ เครื่องหมายรับรอง และเครื่องหมายร่วม
ซึ่งเจ้าของเครื่องหมายดังกล่าวต้องชำระเพิ่มในกรณีที่ไม่ได้ต่ออายุการจดทะเบียนภายในระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด
และร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมเพิ่มตามกฎหมายว่าด้วยสิทธิบัตร
พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการยกเว้นค่าธรรมเนียมเพิ่ม (ค่าปรับ) ร้อยละสามสิบของค่าธรรมนียมรายปี
ซึ่งรียกเก็บจากผู้ทรงสิทธิบัตรหรืออนุสิทธิบัตรซึ่งไม่ได้ชำระค่าธรรมเนียมรายปีภายในระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด
รวม ๒ ฉบับ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักงบประมาณ
ที่ควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องในโอกาสแรก
รวมทั้งแจ้งกระทรวงการคลังจัดทำประมาณการรายได้
เพื่อกำหนดไว้ในแผนการคลังระยะปานกลางให้ถูกต้องครบถ้วน ตลอดจนรายงานและติดตามประเมินผลสัมฤทธิ์ของการดำเนินงานเป็นระยะ
ๆ และเมื่อสิ้นสุดระยะเวลาดำเนินการตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปได้ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 505 | ผลการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 38 และ 39 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง | กต. | 24/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบผลการประชุมสุดยอดอาเซียน
ครั้งที่ ๓๘ และ ๓๙ และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง
รวม ๑๐ รายการ เมื่อวันที่ ๒๖-๒๘ ตุลาคม ๒๕๖๔ ผ่านระบบการประชุมทางไกล โดยสมเด็จพระราชาธิบดีแห่งเนการาบรูไนดารุสซาลาม
(บรูไน) ทรงเป็นประธานการประชุม โดยมีผู้นำประเทศสมาชิกอาเซียนและผู้นำของคู่เจรจา
๘ ประเทศ ได้แก่ จีน เกาหลีใต้ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย อินเดีย รัสเซีย
และนิวซีแลนด์ ได้เข้าร่วมการประชุมดังกล่าว
ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เข้าร่วมรับรองเอกสารผลลัพธ์การประชุม จำนวน ๒๕ ฉบับ
และแสดงวิสัยทัศน์ของไทยโดยเน้นเรื่องการรับมือการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (โควิด ๑๙) การฟื้นฟูและสร้างอนาคตที่ยั่งยืน และการรักษาสันติภาพและความมั่นคงในภูมิภาค
โดยที่ประชุมฯ ได้หารือในประเด็นต่าง ๆ ที่สำคัญ เช่น การสร้างประชาคมอาเซียน การรับมือกับโรคโควิด-๑๙
การฟื้นฟูเศรษฐกิจและการสร้างอนาคตที่ยั่งยืน
ความสัมพันธ์กับคู่เจรจาและภาคีภายนอก สถานการณ์ระหว่างประเทศและในภูมิภาค และการส่งมอบตำแหน่งประธานอาเซียนให้แก่กัมพูชา
และมอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำผลการประชุมฯ
ไปปฏิบัติและติดตามความคืบหน้าต่อไป ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ทั้งนี้
ให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงคมนาคมและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ที่ควรดำเนินการตามระเบียบ กฎหมาย และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด
และควรเพิ่มประเด็นความหลากหลายทางชีวภาพ ในตารางติดตามผลการประชุมฯ หัวข้อ ๓
การประชุมสุดยอดอาเซียน-จีน ครั้งที่ ๒๔ ข้อ ๖ การพัฒนาที่ยั่งยืน ข้อย่อย ๖.๒
เรื่องการส่งเสริมความร่วมมือ
เพื่อให้สอดคล้องกับอำนาจหน้าที่ของศูนย์อาเซียนว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป |
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 506 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายโกวิท ผกามาส ฯลฯ จำนวน 3 ราย) | วธ. | 24/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงวัฒนธรรม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๓ ราย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง และสับเปลี่ยนหมุนเวียน ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรมเสนอ ดังนี้ ๑. นายโกวิท ผกามาศ ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ๒. นายกฤษฎา คงคะจันทร์ ดำรงตำแหน่งรองปลัดกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง ๓. นายประสพ เรียงเงิน ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง
สำนักงานปลัดกระทรวง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 507 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง ข้อเสนอเชิงนโยบายในการแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค ของคณะกรรมาธิการการศึกษา วุฒิสภา | สว. | 24/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง ข้อเสนอเชิงนโยบายในการแก้ไขปัญหาการบริหารจัดการโครงสร้างกระทรวงศึกษาธิการในภูมิภาค
ของคณะกรรมาธิการการศึกษา วุฒิสภา ซึ่งกระทรวงศึกษาธิการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พิจารณารายงานพร้อมทั้งข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการการศึกษา วุฒิสภา โดยเห็นด้วยกับข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการดังกล่าว
และรายงานว่าได้มีการเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมคำสั่ง คสช. ๑๙/๒๕๖๐
เรื่องการปฏิรูปการศึกษาในภูมิภาคของกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ ๓ เมษายน ๒๕๖๐
เพื่อกำหนดให้อำนาจในการบริหารงานบุคคลของข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาตามกฎหมาย
ว่าด้วยระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา
ให้เป็นอำนาจหน้าที่ของคณะอนุกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาจังหวัด
รวมถึงการจัดกรอบอัตรากำลังที่เหมาะสม
และมีการบูรณาการฐานข้อมูลเพื่อการบริหารจัดการการศึกษา
โดยรวบรวมข้อมูลพื้นฐานด้านการศึกษา เข้าสู่ระบบฐานข้อมูลกลางของกระทรวงศึกษาธิการ
และมีข้อสังเกตเกี่ยวกับแนวทางและความเหมาะสมพร้อมให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ในเรื่องของการจัดการโครงสร้างองค์กรทางการศึกษาโดยมุ่งเน้นการจัดโครงสร้างที่มีบทบาท
ภารกิจ หน้าที่และอำนาจที่มีความเหมาะสมขับเคลื่อนการบริหารและการจัดการศึกษาทุกระดับ
และรัฐบาลควรมีมาตรการส่งเสริมความร่วมมือในการบูรณาการฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
และควรกำหนดนโยบายในการสร้างความร่วมมือในการบริหารจัดการศึกษาที่สอดรับกับทักษะอาชีพที่เป็นไปตามความต้องการของตลาดงาน
รวมทั้งควรพิจารณาให้มีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาร่วมเป็นคณะกรรมการด้วย
เพื่อความเป็นธรรมและเป็นมาตรฐานแห่งวิชาชีพ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 508 | การแต่งตั้งกรรมการผู้แทนพิเศษของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้เพิ่มเติม (ผู้ช่วยศาสตราจารย์รัชดา ธนาดิเรก) | นร.08 | 24/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง ผู้ช่วยศาสตราจารย์รัชดา ธนาดิเรก เป็นกรรมการพิเศษของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้
(ด้านประสานการมีส่วนร่วม) เพิ่มเติม ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 509 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อว. | 24/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา
อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ
และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏพระนคร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาในสาขาวิชาการแพทย์แผนไทยเพิ่มขึ้น
รวมทั้งกำหนดปริญญาเพิ่มระดับชั้นปริญญาโทในสาขาวิชาเทคโนโลยี
และกำหนดเพิ่มเติมชื่อปริญญาในสาขาวิชาวิจิตรศิลป์และประยุกต์ศิลป์
รวมทั้งกำหนดอักษรย่อและสีประจำสาขาวิชาดังกล่าว ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 510 | ร่างถ้อยแถลงข่าวร่วมสำหรับการเยือนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรี | กต. | 24/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างถ้อยแถลงข่าวร่วมสำหรับการเยือนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีระหว่างวันที่
๒๕-๒๖ มกราคม ๒๕๖๕ มีเนื้อหาสำคัญ คือ การปรับประกาศความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างไทยกับซาอุดีอาระเบียให้เป็นปกติ
โดยมุ่งเน้นส่งเสริมความร่วมมือทั้งในกรอบทวิภาคีและพหุภาคีเพื่อประโยชน์ร่วมกันทั้งสองฝ่าย
ตลอดจนเห็นชอบสิ่งที่ทั้งสองฝ่ายจะดำเนินการหลังฟื้นฟูความสัมพันธ์ อาทิ
การแต่งตั้งเอกอัครราชทูต และการจัดตั้งกลไกการหารือทวิภาคี ตามที่กระทรวงการต่างประทศเสนอ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างถ้อยแถลงข่าวร่วมสำหรับการเยือนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียของนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทย ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 511 | รัฐบาลสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาประจำประเทศไทย (อูชิซเว) | กต. | 24/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติกรณีรัฐบาลสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาเสนอขอแต่งตั้ง
อูชิซเว (U Chit Swe) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน อู-มโย-มยินตาน (U Myo Myint Than) ซี่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 512 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง ระบบการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม ของคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา | สว. | 24/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง ระบบการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
ของคณะกรรมาธิการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม วุฒิสภา ซึ่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้พิจารณารายงานผลการพิจารณาศึกษาดังกล่าว
โดยสรุปผลการพิจารณาว่าการสำรวจและการศึกษาวิจัยในเขตป่าเพื่อจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมในพื้นที่ป่าอนุรักษ์ได้มีการดำเนินการที่ชัดเจน
และเป็นไปตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติได้จัดทำร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์
พ.ศ. .... เพื่อแบ่งประเภทของแผนที่ต้องจัดทำรายงานการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์
รวมทั้งกำหนดให้หน่วยงานของรัฐที่มีอำนาจหน้าที่ในการจัดทำแผนเป็นผู้จัดทำการประเมินสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 513 | แจ้งคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุด ในคดีหมายเลขดำที่ อ. 626/2559 คดีหมายเลขแดงที่ อ. 1006/2564 ระหว่าง นางสุรีย์ลักษณ์ คงเจริญโชค ผู้ฟ้องคดี บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ที่ 1 กับพวกรวม 6 คน ผู้ถูกฟ้องคดี เรื่อง คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควรและความรับผิดอย่างอื่นอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย | อส. | 24/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดในคดีหมายเลขดำที่ อ. ๖๒๖/๒๕๕๙
คดีหมายเลขแดงที่ อ. ๑๐๐๖/๒๕๖๔ ระหว่าง นางสุรีย์ลักษณ์ คงเจริญโชค ผู้ฟ้องคดี
บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) ที่ ๑ กับพวกรวม ๖ คน ผู้ถูกฟ้องคดี (คณะรัฐมนตรี
ผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๖) (เรื่อง
คดีพิพาทเกี่ยวกับการที่หน่วยงานทางปกครองหรือเจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการโดยไม่ชอบด้วยกฎหมาย
ละเลยต่อหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนดให้ต้องปฏิบัติหรือปฏิบัติหน้าที่ดังกล่าวล่าช้าเกินสมควร
และความรับผิดอย่างอื่นอันเกิดจากการใช้อำนาจตามกฎหมาย) ซึ่งศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาแก้คำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้นในส่วนของค่าเสียหายทางจิตใจและอัตราดอกเบี้ยที่ต้องชำระแก่คู่ฟ้องคดี
โดยยกฟ้องผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๒ ถึงผู้ถูกฟ้องคดีที่ ๖ (คณะรัฐมนตรี)
ตามคำพิพากษาของศาลปกครองชั้นต้น ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุด
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 514 | แต่งตั้งคณะกรรมการประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา (1. นายสมชัย ฤชุพันธ์ุ ฯลฯ รวม 5 คน) | กค. | 24/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งกรรมการประเมินผลการดำเนินงานของกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา รวม ๕ คน ตามาตรา ๔๔
แห่งพระราชบัญญัติกองทุนเพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๔ มกราคม ๒๕๖๕) เป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้ ๑. นายสมชัย ฤชุพันธุ ประธานกรรมการ ๒. นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการเงิน ๓. รองศาสตราจารย์ชโยดม สรรพศรี กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการศึกษา ๔. นางชุตินาฏ วงศ์สุบรรณ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิด้านการประเมินผล ๕. นายนิกร เภรีกุล กรรมการและเลขานุการ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 515 | ข้อกำหนดและคำสั่งที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 รวม 2 ฉบับ | นร.05 | 24/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙
แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ รวม ๒ ฉบับ
ตามที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเสนอ ดังนี้ ๑.
ข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙ แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน
พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๔๒) ลงวันที่ ๒๑ มกราคม พ.ศ. ๒๕๖๕
มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงเขตพื้นที่จังหวัดตามพื้นที่สถานการณ์และการกำหนดพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวเพิ่มเติม
โดยขยายเวลาการบังคับใช้มาตรการควบคุมและป้องกันโรคภายใต้มาตรการข้อกำหนดฯ
(ฉบับที่ ๓๗) ลงวันที่ ๓๐ ตุลาคม ๒๕๖๔ ยังคงมีผลใช้บังคับต่อไป รวมทั้งดำเนินการปรับปรุงมาตรการควบคุมแบบบูรณาการในพื้นที่นำร่องด้านการท่องเที่ยวและพื้นที่เฝ้าระวังสูงสำหรับการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
โดยเปิดให้บริกการได้เฉพาะร้านจำหน่ายอาหารหรือเครื่องดื่มที่ผ่านการตรวจประเมินตามมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย
และให้บริการบริโภคสุราหรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ได้ไม่เกินเวลา ๒๓.๐๐ นาฬิกา
และการเตรียมความพร้อมของสถานบริการหรือสถานที่เสี่ยงต่อการแพร่โรคทั่วราชอาณาจักรยังคงมีความจำเป็นต้องให้ปิดบริการไว้ก่อน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 516 | แนวทางการประชุมสภาผู้แทนราษฎร | ปสส. | 24/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแนวทางการประชุมสภาผู้แทนราษฎรเกี่ยวกับระเบียบวาระการประชุมสภาผู้แทนราษฎร
ชุดที่ ๒๕ ปีที่ ๓ ครั้งที่ ๒๕ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพุธที่ ๒๖ มกราคม
๒๕๖๕ และครั้งที่ ๒๖ (สมัยสามัญประจำปีครั้งที่สอง) วันพฤหัสบดีที่ ๒๗ มกราคม ๒๕๖๕
ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 517 | รัฐบาลสาธารณรัฐอาเซอร์ไบจานเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐอาเซอร์ไบจานประจำประเทศไทย (นายอีร์ฟัน ชากีร์ โอกลู ดาวูดอฟ) | กต. | 24/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นายอีร์ฟัน ชากีร์ โอกลู
ดาวูดอฟ (Mr. Irfan Shakir oglu Davudov) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจแห่งสาธารณรัฐอาเซอร์ไบจานประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงกัวลาลัมเปอร์ มาเลเซีย สืบแทน นายกาเลย์ อะลีเยวิช
อัลลาห์เวียร์ดีเยฟ (Mr. Galey Aliyevich
Allahverdiyev) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 518 | ขออนุมัติเงินงบประมาณรายจ่ายงบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นเพื่อดำเนินโครงการพาณิชย์...ลดราคา! ช่วยประชาชน ปี 2565 | พณ. | 18/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบให้แก้ไขข้อความในหนังสือกระทรวงพาณิชย์
ด่วนที่สุด ที่ พณ ๐๔๑๔/๒๑๑ ลงวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖๕
และในสิ่งที่ส่งมาด้วยให้เหมาะสม จากเดิม “ในราคาต่ำกว่าท้องตลาด” หรือ
“ในราคาถูกกว่าท้องตลาด” เป็น “ในราคาประหยัด” ตามที่เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ ๒. อนุมัติในหลักการการจัดทำโครงการพาณิชย์...ลดราคา!
ช่วยประชาชน ปี ๒๕๖๕ เพื่อจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพให้แก่ประชาชนในราคาต่ำกว่าท้องตลาด
ระยะเวลาดำเนินการ ๙๐ วัน เช่น กิจกรรมบริหารจัดการจำหน่ายสินค้าผ่านช่องทางจำหน่าย
กิจกรรมส่งเสริมการจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นต่อการครองชีพ และกิจกรรมประชาสัมพันธ์ เพื่อเป็นการลดภาระค่าครองชีพและบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนในช่วงที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ (COVID-๑๙) และจากภาวะการปรับราคาสินค้าขึ้นอย่างต่อเนื่องจากโรคระบาดจากสัตว์ที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน
ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
และให้กระทรวงพาณิชย์ขอทำความตกลงรายละเอียดค่าใช้จ่ายกับสำนักงบประมาณอีกครั้งหนึ่งก่อนดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการให้ถูกต้อง เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ หลักเกณฑ์
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
เช่น กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์รับข้อสังเกตของสำนักงบประมาณ
(หนังสือสำนักงบประมาณ ด่วนที่สุด ที่ นร ๐๗๑๗/๓๐๕๑ ลงวันที่ ๑๘ มกราคม ๒๕๖๕) ไปร่วมหารือและวางแผนการบริหารจัดการห่วงโซ่อุปทานของสินค้าเพื่อการบริโภค
ตั้งแต่ในระดับต้นน้ำ (การผลิต) กลางน้ำ (การแปรรูป) จนกระทั่งปลายน้ำ
(การจำหน่วย) ให้มีระดับราคาที่พอเหมาะ และสามารถสะท้อนต้นทุนการผลิตได้อย่างเหมาะสม
ควรให้มีการกระจายสินค้าให้ครอบคลุมทุกพื้นที่ เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนได้อย่างทั่วถึง
และให้กระทรวงพาณิชย์รวบรวมประมวลผล และประเมินความสำเร็จของโครงการลักษณะเดียวกัน
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย ๓.
ให้กระทรวงพาณิชย์ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 519 | ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย | มท. | 18/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติในหลักการร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การอนุญาตให้คนต่างด้าวบางจำพวกเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษ
ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย
มีสาระสำคัญเป็นการอนุญาตให้คนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรเป็นกรณีพิเศษเพื่อการพำนักระยะยาว
(Long-term resident visa : LTR Visa)
เพื่อให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามนโยบายรัฐบาลและมาตรการในการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดคนต่างชาติที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
โดยให้รับข้อสังเกตของรองนายกรัฐมนตรี (นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์)
และสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ที่เห็นว่าเมื่อได้ประกาศใช้ไประยะหนึ่งแล้ว
สมควรที่จะต้องมีการประเมินผลว่า บรรลุวัตถุประสงค์ในการดึงดูดชาวต่างชาติที่มีศักยภาพสูงเข้ามาทำงานในประเทศหรือไม่
เพื่อที่จะได้ปรับปรุงประกาศดังกล่าวต่อไป
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการปรับอัตราค่าธรรมเนียมการตรวจลงตราให้ยึดหยุ่นมากขึ้น และให้หน่วยงานพิจารณาและเสนอการกำหนดคุณสมบัติให้ชัดเจนในประกาศเพื่อที่คณะรัฐมนตรีจะได้พิจารณาไปในคราวเดียวกัน
ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการคลัง (กรมสรรพากร) กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงแรงงาน
สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง) และสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน
ดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
| 520 | ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดสาขาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อว. | 18/01/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดสาขาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุม (ฉบับที่
..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้สาขานิติวิทยาศาสตร์และสาขาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
เป็นสาขาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุม เพิ่มขึ้น
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมรับความคิดเห็นของกระทรวงแรงงาน กระทรวงสาธารณสุข
และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่ควรจัดให้มีการประชุมหารือร่วมกันระหว่างหน่วยงานและผู้ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้การออกกฎหมายเป็นไปอย่างรอบคอบ
และเห็นว่านักนิติวิทยาศาสตร์
ยังไม่มีอัตราข้าราชการในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข ข้อมูลเอกสารอ้างอิงมีเพียงแผนกำกับควบคุมการปฏิบัติงานนักนิติวิทยาศาสตร์
แต่ยังขาดแผนพัฒนาวิชาชีพและแผนพัฒนาการปฏิบัติงาน
และงานนิติเวชในสังกัดสำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุขมีแนวทางการปฏิบัติงานนิติเวชแตกต่างกันตามบริบทของแต่ละโรงพยาบาล
หากมีการกำหนดให้สาขานิติวิทยาศาสตร์เป็นสาขาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุม ตามพระราชบัญญัติส่งเสริมวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พ.ศ. ๒๕๕๑
ควรให้มีบุคลากรด้านนิติวิทยาศาสตร์ร่วมเป็นกรรมการในคณะกรรมการสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีตามกฎหมายดังกล่าวด้วย
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
