ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ |
---|---|---|---|
1 | การเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการบังคับให้หายสาบสูญ และร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย พ.ศ. .... | ยธ | 24/05/2559 |
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการเข้าเป็นภาคีอนุสัญญาระหว่างประเทศว่าด้วยการคุ้มครองบุคคลทุกคนจากการบังคับให้หายสาบสูญ (International Convention for the Protection of all Persons from Enforced disappearance : CED) และเสนออนุสัญญาฯ ให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบตามมาตรา ๒๓ วรรคสองของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ ๒. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเพื่อให้มีกฎหมายเกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหาย อันเป็นกฎหมายที่คุ้มครองสิทธิมนุษยชนตามพันธกรณีที่กำหนดไว้ในสนธิสัญญาระหว่างประเทศที่ประเทศไทยเป็นภาคีหรือร่วมลงนาม ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และฝ่ายกฎหมายและกระบวนการยุติธรรม คณะรักษาความสงบแห่งชาติ เกี่ยวกับร่างพระราชบัญญัติฯ ตามหมวด ๑ มาตรา ๕,๖,๗ ซึ่งระบุการลงโทษผู้กระทำความผิดยังไม่ครอบคลุมทั้งหมด รวมทั้งการดำเนินการตามมาตรการเกี่ยวกับการปราบปรามการทรมานและการบังคับบุคคลให้สูญหายควรได้รับการพิจารณาผลกระทบและความพร้อมที่จะบังคับการให้เป็นไปตามกฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภานิติบัญญัติแห่งชาติพิจารณาก่อนเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติทราบต่อไป ทั้งนี้ ให้กระทรวงยุติธรรมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติที่เห็นว่า ประเทศไทยมีกฎหมายความมั่นคงสำคัญที่จำเป็นต้องพิจารณาถึงผลกระทบเพิ่มเติมจากอนุสัญญาฯ คือ พระราชบัญญัติกฎอัยการศึก พ.ศ. ๒๔๕๗ และพระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑ ควรขอรับความเห็นจากหน่วยงานที่รับผิดชอบกฎหมายทั้งสองฉบับเพื่อเพิ่มความรอบคอบรัดกุมในการพิจารณาภาพรวมของข้อเสนอนี้ด้วย รวมทั้งประเด็นการรับรองหลักการไม่ผลักดันกลับ (Non-refoulement) ตามมาตรา ๑๔ หากคณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นชอบข้อเสนอนี้ ก็อาจมอบให้กระทรวงยุติธรรมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในรายละเอียดของประเด็นดังกล่าว เพื่อให้การปฏิบัติในภาพรวมมีความสอดคล้องไม่ขัดกันก่อนนำเสนอสภานิติบัญญัติแห่งชาติ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๓. รับทราบแผนการจัดทำกฎหมายลำดับรองและกรอบระยะเวลาของร่างพระราชบัญญัติ ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ โดยได้จัดทำแผนการจัดทำกฎหมายฯ เรียบร้อยแล้ว คือ (๑) ระเบียบกระทรวงยุติธรรมว่าด้วยการบันทึกข้อมูลเกี่ยวกับผู้ถูกจำกัดเสรีภาพ (ร่างมาตรา ๑๙) (๒) ระเบียบกระทรวงยุติธรรมว่าด้วยหลักเกณฑ์การจัดให้มีนักนิติวิทยาศาสตร์ แพทย์ หรือจิตแพทย์ และวิธีการสืบสวนสอบสวน (ร่างมาตรา ๓๘) (๓) ระเบียบกระทรวงยุติธรรมว่าด้วยค่าตอบแทนของพนักงานสอบสวน พนักงานสอบสวน ผู้รับผิดชอบ เจ้าหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายให้ดำเนินคดี และที่ปรึกษาคดีทรมานหรือคดีบังคับบุคคลให้สูญหาย (ร่างมาตรา ๔๓) ทั้งนี้ ให้แล้วเสร็จภายใน ๙๐ วัน นับตั้งแต่วันถัดจากประกาศพระราชบัญญัติในราชกิจจานุเบกษา |
.....