ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 583 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 11641 - 11660 จากข้อมูลทั้งหมด 123961 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
11641 | การลดหย่อนค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม | กษ | 19/11/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. เห็นชอบการขยายระยะเวลาการลดหย่อนค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ตามอัตราการเรียกเก็บค่าจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมให้เหลือในอัตราร้อยละ ๐.๐๑ ตามราคาประเมินทุนทรัพย์ ออกไปจนถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๔ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงบประมาณและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรสร้างการรับรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับการขยายระยะเวลาการลดหย่อนค่าธรรมเนียมในการจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง และจัดให้มีระบบการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานทั้งในอดีต ปัจจุบัน และอนาคต เพื่อวิเคราะห์ความคุ้มค่าของการสูญเสียรายได้ของรัฐกับประโยชน์ที่เกษตรกรและประเทศจะได้รับจากการลดหย่อนค่าธรรมเนียมดังกล่าว เพื่อใช้ประกอบการวางแผนการดำเนินงาน รวมทั้งเห็นควรให้เร่งดำเนินการแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องให้สอดคล้องกับการปฏิบัติงานในระยะยาว เพื่อให้สามารถใช้เป็นแนวทางปฏิบัติได้ก่อนที่จะครบกำหนดเวลาที่ระบุในประกาศกระทรวงมหาดไทยที่จะขยายออกไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๒. อนุมัติหลักการร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง หลักเกณฑ์การลดหย่อนค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมเป็นพิเศษตามประมวลกฎหมายที่ดิน สำหรับกรณีการโอนอสังหาริมทรัพย์ในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม มีสาระสำคัญเป็นการขยายกำหนดเวลาใช้บังคับออกไปอีกจนถึงวันที่ ๓๑ ธันวาคม ๒๕๖๔ เพื่อเป็นการลดภาระในการชำระค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมในการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ให้แก่เกษตรกรที่ยังมิได้โอนกรรมสิทธิ์และสนับสนุนการดำเนินงานของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรมให้บรรลุวัตถุประสงค์ตามเจตนารมณ์ของการปฏิรูปที่ดิน และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่เห็นควรให้ตัดการอ้างข้อ ๒ (๗) (ฎ) แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ ๔๗ (พ.ศ. ๒๕๔๑) ออกตามความในพระราชบัญญัติให้ใช้ประมวลกฎหมายที่ดิน พ.ศ. ๒๔๙๗ ออก ไปประกอบการตรวจพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11642 | การแต่งตั้งโฆษก รองโฆษก และผู้ช่วยโฆษกของกระทรวงมหาดไทย (1. นายสมคิด จันทมฤก ฯลฯ) | มท | 19/11/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแต่งตั้งโฆษก รองโฆษก และผู้ช่วยโฆษกกระทรวงมหาดไทย รวม ๗ ตำแหน่ง ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ ดังนี้
๑. กระทรวงมหาดไทย นายสมคิด จันทมฤก เป็นโฆษกกระทรวงมหาดไทย นายณัฐภัทร สุวรรณประทีป เป็นรองโฆษกกระทรวงมหาดไทย นายทรงกลด สว่างวงศ์ เป็นผู้ช่วยโฆษกกระทรวงมหาดไทย นายชานน วาสิกศิริ เป็นผู้ช่วยโฆษกกระทรวงมหาดไทย ๒. กระทรวงพลังงาน นายวัชระ กรรณิการ์ เป็นโฆษกกระทรวงพลังงาน ๓. กระทรวงยุติธรรม นายวัลลภ นาคบัว เป็นโฆษกกระทรวงยุติธรรม พันตำรวจโท พงษ์ธร ธัญญสิริ เป็นรองโฆษกกระทรวงยุติธรรม
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11643 | รายงานประจำปี 2561 ของกองทุนยุติธรรม | ยธ | 19/11/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบรายงานประจำปี ๒๕๖๑ ของกองทุนยุติธรรม ประกอบด้วย ข้อมูลสถิติด้านการเงิน : ค่าใช้จ่ายในกิจการสำนักงานกองทุนยุติธรรม ประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๑ ผลการดำเนินงานที่สำคัญของกองทุนยุติธรรม และรายงานการเงินของกองทุนยุติธรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ณ วันที่ ๓๐ กันยายน ๒๕๖๑ ซึ่งสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินได้ตรวจสอบแล้ว ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ ๒. ในคราวต่อไปให้กระทรวงยุติธรรม (กองทุนยุติธรรม) เร่งรัดการจัดทำรายงานประจำปีเสนอต่อคณะรัฐมนตรีภายในกรอบระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนดอย่างเคร่งครัดด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11644 | รายงานสรุปผลและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการดำเนินการต่อสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ ประจำปี 2561 | อว | 19/11/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการดำเนินการต่อสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ ประจำปี ๒๕๖๑ ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การดำเนินการตามพระราชบัญญัติสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๕๘ ได้ดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรองประกอบการบังคับใช้ การสรรหาและแต่งตั้งคณะกรรมการ การดำเนินการรับแจ้งและรับคำขอใบอนุญาตตามพระราชบัญญัติสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๕๘ การจัดทำระบบการให้บริการแบบออนไลน์ การเผยแพร่ประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจให้กับทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งในและต่างประเทศ และการประกาศนโยบายการกำกับดูแลและส่งเสริมการดำเนินการต่อสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ ๒. ข้อมูลการดำเนินการในปีงบประมาณ ๒๕๖๑ มีการจดแจ้งสถานที่ดำเนินการต่อสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ จำนวน ๒๙๗ แห่ง จาก ๕๖ องค์กร มีผู้ยื่นขอรับใบอนุญาตใช้สัตว์ จำนวน ๗,๗๙๙ คน และมีการใช้สัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์มากว่า ๑,๐๐๐,๐๐๐ ตัว ซึ่งมาจากแหล่งผลิตสัตว์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ๓. ปัญหาและอุปสรรคในปีงบประมาณ ๒๕๖๑ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังไม่สามารถบังคับใช้กฎหมายตามพระราชบัญญัติสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๕๘ ได้โดยสมบุรณ์ สถานที่ดำเนินการต่อสัตว์มีจำนวนมากแต่ส่วนใหญ่ยังไม่ได้มาตรฐาน มีสัตวแพทย์ไม่เพียงพอ และสัตว์ทดลองยังมีปัญหาในด้านคุณภาพ ชนิด และปริมาณไม่เพียงพอต่อความต้องการ งานวิจัยที่จะนำไปสู่นวัตกรรมยังมีน้อย อีกทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการกำกับดูแลยังขาดความเข้มแข็งและบุคลากรที่มีความรู้และประสบการณ์ ๔. การพัฒนาการดำเนินการในระยะต่อไป ได้แก่ การพัฒนาคุณภาพของสัตว์ทดลอง การส่งเสริมการผลิตสัตว์ทดลองเพื่อทดแทนการนำเข้า การสนับสนุนให้มีหน่วยงานกลางเพื่อตรวจประเมินและรับรองมาตรฐานพันธุกรรมและมาตรฐานสุขภาพ การพัฒนาสถานที่เลี้ยงและใช้สัตว์ให้ได้มาตรฐาน การพัฒนาบุคลากร การพัฒนาคณะกรรมการกำกับดูแลการดำเนินการต่อสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ของสถานที่ดำเนินการ และการสร้างความเข้มแข็งให้หน่วยงานกลางที่กำกับดูแลพระราชบัญญัติสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์ พ.ศ. ๒๕๕๘
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11645 | รายงานผลการดำเนินการโครงการจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริ | นร01 | 19/11/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการโครงการจิตอาสาพระราชทานตามแนวพระราชดำริ ประจำเดือนกรกฎาคม ๒๕๖๒ จำนวน ๕ กิจกรรม ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. โครงการ “๑ จังหวัด ๑ ถนนเฉลิมพระเกียรติ” ได้มีการจัดพิธีเปิดโครงการพร้อมกันทั่วประเทศ เมื่อวันที่ ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๒ โดยกระทรวงมหาดไทยได้ออกแบบป้ายโครงการฯ ซึ่งเป็นหนึ่งในโครงการจิตอาสาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและสิ่งแวดล้อมเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก เพื่อให้จังหวัดจัดทำและนำไปติดตั้งในพื้นที่เป้าหมายโครงการฯ ๒. กิจกรรม “จิตอาสาพัฒนาลำน้ำ ลำคลอง” เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษาพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ประจำปี ๒๕๖๒ ระหว่างวันที่ ๒๐-๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๒ โดยพื้นที่เป้าหมายของการดำเนินกิจกรรม จังหวัด/อำเภอได้พิจารณาวางแผน และคัดเลือกจากพื้นที่ลำน้ำ คูคลองตามโครงการฟื้นฟูและพัฒนาลำน้ำคูคลอง เพื่อสิ่งแวดล้อมและคุณภาพชีวิตเฉลิมพระเกียรติ เนื่องในโอกาสมหามงคลพระราชพิธีบรมราชาภิเษก ๓. โครงการนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และกิจกรรมจิตอาสาพัฒนา “เราทำความ ดี ด้วยหัวใจ” เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าหัวอยู่ เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๒๘ กรกฎาคม ๒๕๖๒ ดำเนินการระหว่างวันที่ ๒๕-๒๖ กรกฎาคม ๒๕๖๒ ณ บริเวณพื้นที่คลองคูเมืองเดิมและปากคลองตลาด ๔. การเปลี่ยนชื่อจิตอาสาพระราชทาน ๙๐๔ วปร. (จอส.๙๐๔ วปร.) พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานชื่อของจิตอาสาที่ได้พระราชทานไว้แต่เดิมชื่อ “จิตอาสาพระราชทาน (จอส.)” และทรงพระราชทานชื่อจิตอาสาใหม่ว่า “จิตอาสาพระราชทาน ๙๐๔ วปร.” (จอส.๙๐๔ วปร.)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11646 | รายงานผลการดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรองที่ออกตามพระราชบัญญัตินโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ พ.ศ. 2551 และที่แก้ไขเพิ่มเติม | กก | 19/11/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินการจัดทำกฎหมายลำดับรองที่ออกตามพระราชบัญญัตินโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๕๑ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยกฎหมายลำดับรองที่ต้องออกตามพระราชบัญญัติดังกล่าว รวม ๑๔ ฉบับ ได้ดำเนินการจัดทำร่างประกาศแล้ว รวม ๑๑ ฉบับ ขณะนี้อยู่ระหว่างเสนอคณะอนุกรรมการพิจารณาการประกาศเขตพัฒนาการท่องเที่ยวหรืออยู่ระหว่างเสนอคณะกรรมการนโยบายการท่องเที่ยวแห่งชาติเพื่อพิจารณา สำหรับกฎหมายลำดับรองอีก ๓ ฉบับ อยู่ระหว่างดำเนินการหรือศึกษาจัดทำแนวทางการจัดเก็บ และการบริหารจัดการค่าธรรมเนียมการท่องเที่ยวที่เรียกเก็บจากนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เนื่องจากเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องใช้ความละเอียดรอบคอบในการศึกษาวิจัยอย่างรอบด้าน ตามที่กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11647 | รายงานผลการดำเนินงานตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี เรื่อง แนวทางการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ (Big data) และความก้าวหน้าผลการดำเนินการคณะกรรมการบูรณาการฐานข้อมูล 4 คณะ (ประจำเดือนเมษายน - กันยายน 2562) | ดศ | 19/11/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการดำเนินงานตามข้อสั่งการของนายกรัฐมนตรี เรื่อง แนวทางการใช้ประโยชน์จากข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) และความก้าวหน้าผลการดำเนินการคณะกรรมการบูรณาการฐานข้อมูล ๔ คณะ ประจำเดือนเมษายน-กันยายน ๒๕๖๒ ตามที่กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การขับเคลื่อนการดำเนินนโยบายเพื่อใช้ประโยชน์ข้อมูลขนาดใหญ่ (Big Data) มีการดำเนินการที่สำคัญ เช่น จัดตั้งเครือข่ายความร่วมมือเรื่องการพัฒนาบุคลากรร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและสถาบันศึกษา รวม ๒๑ หน่วยงาน ประชุมคณะทำงานสนับสนุนการปฏิบัติงานของคณะอนุกรรมการด้านการพัฒนาบุคลากรเพื่อการใช้ประโยชน์ข้อมูลขนาดใหญ่ โดยทำการสำรวจ ๒๘๗ หน่วยงาน พบว่า ปัจจุบันหน่วยงานภาครัฐขาดแคลนบุคลากรภายในที่มีความเชี่ยวชาญโดยตรงด้าน Big Data และได้มีข้อเสนอระบบการบริหารจัดการกำลังคนเพื่อการใช้ประโยชน์ข้อมูลขนาดใหญ่ โดยแบ่งเป็นข้อเสนอระยะเร่งด่วน (๖ เดือน-๒ ปี) และข้อเสนอระยะยาว (๓-๕ ปี) เป็นต้น ๒. ความก้าวหน้าผลการดำเนินการคณะกรรมการบูรณาการฐานข้อมูล เช่น การขับเคลื่อนการบูรณาการฐานข้อมูลประชาชนและการบริการภาครัฐ โครงการบูรณาการจัดทำฐานข้อมูลกลางด้านความมั่นคงจังหวัดชายแดนภาคใต้ (จชต.) และโครงการพัฒนาระบบการเชื่อมโยงข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลเพื่อจัดตั้งฐานข้อมูลอัตลักษณ์บุคคลแห่งชาติ เป็นต้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11648 | การทำคำประกาศ (Declarations) จากการแก้ไขปรับปรุงระเบียบร่วม (Common Regulations) ภายใต้พิธีสารมาดริด (Madrid Protocol) | พณ | 19/11/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานการทำคำประกาศ (Declarations) จากการแก้ไขปรับปรุงระเบียบร่วม (Common Regulations) ภายใต้พิธีสารมาดริด (Madrid Protocol) ซึ่งกระทรวงพาณิชย์พิจารณาแล้วเห็นว่า เนื่องจากพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า พ.ศ. ๒๕๓๔ แก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๓ และพระราชบัญญัติเครื่องหมายการค้า (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๙ ไม่มีบทบัญญัติที่รองรับการปฏิบัติตามระเบียบร่วมที่แก้ไขใหม่ เมื่อวันที่ ๒๙ มกราคม ๒๕๖๒ กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญาจึงได้มีหนังสือจัดทำคำประกาศที่ลงนามโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ไปยังผู้อำนวยการใหญ่องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก เพื่อสงวนสิทธิมิให้ประเทศไทยต้องผูกพันตามพันธกรณีที่เกิดขึ้นใหม่จากการแก้ไขปรับปรุงระเบียบร่วมดังกล่าว และเมื่อวันที่ ๒๗ มีนาคม ๒๕๖๒ องค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลกได้จัดทำประกาศ (Information notice) ที่ ๓๖/๒๐๑๙ เพื่อยืนยันและแจ้งภาคีพิธีสารมาดริดว่า ประเทศไทยจัดทำประกาศตาม Rule 27bis (6) และ Rule 27ter (2)(b) แล้ว ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11649 | รายงานผลการเดินทางเข้าร่วมการประชุม The 8th LNG Producer - Consumer Conference และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น | พน | 19/11/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการเดินทางเข้าร่วมการประชุม The 8th LNG Producer-Consumer Conference และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ณ กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ในระหว่างวันที่ ๒๔-๒๗ กันยายน ๒๕๖๒ ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. การประชุมพลังงานไฮโดรเจนระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ ๒ ที่ประชุมมีการนำเสนอและหารือเกี่ยวกับกลยุทธ์ความร่วมมือเพื่อพัฒนาพลังงานไฮโดรเจน โดยที่ประชุมสนับสนุนให้มีการส่งเสริมการผลิตและใช้พลังงานไฮโดรเจนที่สามารถผลิตได้จากพลังงานทดแทน เช่น แสงอาทิตย์และลม ซึ่งเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เนื่องจากปัจจุบันพลังงานไฮโดรเจนส่วนใหญ่ที่ผลิตได้เป็นพลังงานไฮโดรเจนที่ผลิตจากก๊าซธรรมชาติ ๒. การประชุมการสัมมนานานาชาติเรื่อง การนำคาร์บอนไดออกไซด์มาใช้ใหม่ประจำปี ๒๕๖๒ โดยเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ รัฐบาลญี่ปุ่นได้ริเริ่มแนวคิดการนำคาร์บอนไดออกไซด์มาใช้ใหม่ ซี่งเป็นการกักเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อยออกมาจากกิจการต่าง ๆ และผ่านกระบวนการเพื่อนำกลับมาใช้ใหม่ในรูปแบบของพลังงาน และใช้ประโยชน์ในภาคอุตสาหกรรมการผลิต อันจะเป็นการช่วยลดผลกระทบที่เกิดขึ้นจากสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ อีกทั้งยังเป็นพลังงานทางเลือกอีกชนิดหนึ่งด้วย ทั้งนี้ รัฐบาลญี่ปุ่นได้ตั้งเป้าหมายระยะสั้นภายในปี พ.ศ. ๒๕๗๓ โดยการเสริมสร้างสภาพแวดล้อมที่เหมาะสมกับการพัฒนาเทคโนโลยีการนำคาร์บอนไดออกไซด์มาใช้ใหม่ เช่น การลดต้นทุนในการจัดเก็บก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ และเป้าหมายระยะกลางและระยะยาวคือ ให้สามารถดำเนินการในเชิงการค้าได้ภายในปี พ.ศ. ๒๕๙๓ ๓. การประชุม The 8th LNG Producer-Consumer Conference ที่ประชุมได้มีการหารือเกี่ยวกับสถานการณ์และทิศทางตลาด LNG เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็น ประสบการณ์ และการบริหารจัดการ LNG ในอนาคต รวมทั้งหารือความเป็นไปได้ในการสร้างความร่วมมือระหว่างผู้ซื้อและผู้ขาย LNG เพื่อพัฒนาศักยภาพสำหรับรองรับความต้องการ LNG ที่เพิ่มขึ้นในภูมิภาคเอเชียในอนาคต ๔. การหารือทวิภาคีกับนายฮิเดกิ มาคิฮาร่า ผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า และอุตสาหกรรม เกี่ยวกับด้านต่าง ๆ ได้แก่ การส่งเสริมความร่วมมือด้านก๊าซธรรมชาติเหลว การพัฒนาพลังงานไฮโดรเจน และการจัดตั้งคณะทำงานร่วมด้านพลังงานอัจฉริยะ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11650 | รายงานผลการเดินทางเยือนสาธารณรัฐอินเดียของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ | พณ | 19/11/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการเดินทางเยือนสาธารณรัฐอินเดีย (เมืองมุมไบ รัฐมหาราษฏระ และเมืองเจนไน รัฐทมิฬนาฑู) ของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ระหว่างวันที่ ๒๔-๒๘ กันยายน ๒๕๖๒ เพื่อกระชับความสัมพันธ์และตอกย้ำความเป็นหุ้นส่วนยุทธศาสตร์ (Strategic Partnership) ระหว่างไทยและอินเดียให้แน่นแฟ้น และเพื่อขยายโอกาสและลู่ทางการส่งออกสินค้าไทย โดยเฉพาะสินค้าเกษตร เช่น ยางพารา ไม้ยางพารา แป้งมันสำปะหลัง และสินค้าอื่น ๆ ของไทยสู่ตลาดอินเดียให้เพิ่มขึ้น ตลอดจนสร้างเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจและความร่วมมือด้านเศรษฐกิจการค้าในอนาคต โดยรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้เป็นประธานในพิธีเปิดงานสัมมนาศักยภาพของไม้ยางพาราไทยสำหรับอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์อินเดียและกิจกรรมสร้างเครือข่ายธุรกิจ ณ เมืองมุมไบ และงานสัมมนาโอกาสใหม่ทางธุรกิจของอุตสาหกรรมยางพาราไทยสำหรับอุตสาหกรรมเฟอร์นิเจอร์อินเดีย และกิจกรรมสร้างเครือข่ายธุรกิจ ณ เมืองเจนไน รวมทั้งเป็นสักขีพยานในการลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (Memorandum of Understanding : MOU) ระหว่างเอกชนไทยและอินเดีย และพบปะหารือกับสมาคมการค้าและนักธุรกิจอินเดียรายสำคัญ ทั้งนี้ ยอดรวมการซื้อขายจากกิจกรรมลงนาม MOU การเจรจาทวิภาคี และการจับคู่เจรจาธุรกิจ ณ เมืองมุมไบ มีมูลค่ารวม ๔,๔๕๐ ล้านบาท และ ณ เมืองเจนไน มีมูลค่า ๗,๖๒๓.๕ ล้านบาท สรุปมูลค่ารวมทั้งสิ้น ๑๒,๐๗๓.๕ ล้านบาท ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11651 | รายงานผลการประชุมคณะกรรมการระดับสูง (High Level Committee : HLC) ไทย - เมียนมา ครั้งที่ 7 | กห | 19/11/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมคณะกรรมการระดับสูง (High Level Committee : HLC) ไทย-เมียนมา ครั้งที่ ๗ ซึ่งจัดขึ้น ณ กรุงเทพมหานคร ระหว่างวันที่ ๒-๕ กันยายน ๒๕๖๒ โดยมี พลเอก พรพิพัฒน์ เบญญศรี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และ พลเอกอาวุโส มิน อ่อง ไหล่ ผู้บัญชาการทหารสูงสุดเมียนมา เป็นประธานร่วม ตามที่กระทรวงกลาโหมเสนอ สรุปได้ ดังนี้
๑. ที่ประชุมฯ รับทราบผลการดำเนินความสัมพันธ์ระหว่างสองกองทัพในรอบปีที่ผ่านมาในเรื่องต่าง ๆ ได้แก่ ผลการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-เมียนมา ครั้งที่ ๓๓ การดำเนินการเกี่ยวกับความร่วมมือระหว่างสองกองทัพ การแลกเปลี่ยนการเยือนของนายทหารระดับสูง และเรื่องอื่น ๆ ได้แก่ โครงการสัมมนาความรู้ด้านการเกษตรตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ๒. ที่ประชุมฯ พิจารณาเห็นชอบให้ส่งเสริมความร่วมมือในด้านต่าง ๆ เช่น ความร่วมมือด้านการต่อต้านการก่อการร้าย ความร่วมมือด้านการศึกษาและการฝึกการช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมและการบรรเทาภัยพิบัติ และการขยายความร่วมมือในโครงการความร่วมมือด้านการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด เป็นต้น ๓. ฝ่ายเมียนมารับเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมคณะกรรมการระดับสูงไทย-เมียนมา ครั้งที่ ๘
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11652 | ผลการประชุมระดับรัฐมนตรีกรอบความร่วมมือลุ่มแม่น้ำโขง - ญี่ปุ่น ด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรม ครั้งที่ 11 | นร11 | 19/11/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้
๑. รับทราบผลการประชุมระดับรัฐมนตรีกรอบความร่วมมือลุ่มแม่น้ำโขง-ญี่ปุ่น ด้านเศรษฐกิจอุตสาหกรรม ครั้งที่ ๑๑ (11th Mekong-Japan Economic Ministers’ Meeting) จัดขึ้นเมื่อวันที่ ๑๐ กันยายน ๒๕๖๒ ณ กรุงเทพมหานคร โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมและผู้ช่วยรัฐมนตรีด้านการต่างประเทศ กระทรวงเศรษฐกิจการค้าและอุตสาหกรรมของญี่ปุ่น (นายชิเงฮิโระ ทานะกะ) เป็นประธานในการประชุม โดยการประชุมดังกล่าวมีวัตถุประสงค์เพื่อรับทราบและแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินการภายใต้วิสัยทัศน์การพัฒนาอุตสาหกรรมในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง (Mekong Industrial Development Vision : MIDV) ปี ๒๕๕๙-๒๕๖๓ และความเห็นต่อร่างวิสัยทัศน์การพัฒนาอุตสาหกรรม MIDV2.0 ปี ๒๕๖๒-๒๕๖๖ ว่าควรมีแนวทางเพื่อให้ภาครัฐและภาคเอกชนมีความร่วมมือกันในการพัฒนาลุ่มแม่น้ำโขง เช่น การเพิ่มการอำนวยความสะดวกทางการค้าในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ โดยเฉพาะแรงงานในอุตสาหกรรมการเกษตรและการผลิต และการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลาง ขนาดย่อมและรายย่อย และมอบหมายให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อขับเคลื่อนแผนการดำเนินงานเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของกรอบความร่วมมือลุ่มแม่น้ำโขง-ญี่ปุ่น ด้านเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมต่อไป ตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออกที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงห่วงโซ่การผลิตของอุตสาหกรรมไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน และพัฒนาขีดความสามารถในการแข่งขันของอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11653 | การแต่งตั้งกงสุลใหญ่สหพันธรัฐรัสเซีย ณ จังหวัดภูเก็ต (นายวลาดีมีร์ วี. ซอสนอฟ) | กต | 19/11/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายวลาดิมีร์ วี. ซอสนอฟ (Mr. Vladimir V. Sosnov) ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลใหญ่สหพันธรัฐรัสเซีย ณ จังหวัดภูเก็ต โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมจังหวัดภูเก็ต ชุมพร กระบี่ นครศรีธรรมราช นราธิวาส ปัตตานี พังงา พัทลุง ระนอง สตูล สงขลา ตรัง และยะลา ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11654 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางวิกุล วิสาลเสสถ์ และนายสมพงษ์ ชัยโอภานนท์) (นางวิกุล วิสาลเสสถ์) | สธ | 19/11/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ สังกัดกระทรวงสาธารณสุข ให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ จำนวน ๒ ราย ตั้งแต่วันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายอนุทิน ชาญวีรกุล) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ ดังนี้
๑. นางวิกุล วิสาลเสสถ์ ดำรงตำแหน่งทันตแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านทัตสาธารณสุข) กรมอนามัย ตั้งแต่วันที่ ๒๖ เมษายน ๒๕๖๒ ๒. นายสมพงษ์ ชัยโอภานนท์ ดำรงตำแหน่งนักวิชาการสาธารณสุขทรงคุณวุฒิ (ด้านโภชนาการ) กรมอนามัย ตั้งแต่วันที่ ๒๗ มิถุนายน ๒๕๖๒
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11655 | ร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น เขตเลือกตั้งที่ 7 แทนตำแหน่งที่ว่าง พ.ศ. .... | ลต | 19/11/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น เขตเลือกตั้งที่ ๗ แทนตำแหน่งที่ว่าง พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น เขตเลือกตั้งที่ ๗ แทนตำแหน่งที่ว่าง โดยจะต้องจัดให้มีการเลือกตั้งภายใน ๔๕ วัน นับแต่วันที่ตำแหน่งดังกล่าวว่างลง (ครบกำหนดวันที่ ๒๗ ธันวาคม ๒๕๖๒) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งเสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11656 | รายงานสรุปผลการพิจารณาข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน รวมตลอดทั้งการแก้ไข ปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือคำสั่งใด ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน [กรณีกรมวิชาการเกษตรดำเนินการต่ออายุใบสำคัญการขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรายพาราควอต (paraquat) ซึ่งเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ 3 โดยไม่รอผลการพิจารณาของคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่อาจจะประกาศห้ามใช้] | สม | 19/11/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสรุปผลการพิจารณาข้อเสนอแนะมาตรการหรือแนวทางในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน รวมตลอดทั้งการแก้ไข ปรับปรุงกฎหมาย กฎ ระเบียบ หรือคำสั่งใด ๆ เพื่อให้สอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชน [กรณีกรมวิชาการเกษตรดำเนินการต่ออายุใบสำคัญการขึ้นทะเบียนวัตถุอันตรายพาราควอต (Paraquat) ซึ่งเป็นวัตถุอันตรายชนิดที่ ๓ โดยไม่รอผลการพิจารณาของคณะกรรมการวัตถุอันตรายที่อาจจะประกาศห้ามใช้] ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขได้จัดประชุมหารือร่วมกับกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงอุตสาหกรรม และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว เมื่อวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๒ และเห็นว่า การใช้วัตถุอันตรายทั้ง ๓ ชนิด ได้แก่ พาราควอต (paraquat) ไกลโฟเสต (Glyphosate) และคลอร์ไพรีฟอส (Chlorpyriphos) เป็นการก่อให้เกิดโรคจากสิ่งแวดล้อม ตามพระราชบัญญัติควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๖๒ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องป้องกัน และควบคุมโรคจากสิ่งแวดล้อมแก่ประชาชนที่ได้รับหรืออาจได้รับมลพิษ จึงเห็นควรยุติการใช้สารเคมีทางการเกษตรทั้ง ๓ ชนิด ทันที ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ และแจ้งให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติทราบต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11657 | การแต่งตั้งโฆษกกระทรวงพลังงาน (นายวัชระ กรรณิการ์) | พน | 19/11/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแต่งตั้ง นายวัชระ กรรณิการ์ ข้าราชการการเมือง ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นโฆษกกระทรวงพลังงาน ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11658 | การแต่งตั้งโฆษกและรองโฆษกกระทรวงยุติธรรม (1. นายวัลลภ นาคบัว ฯลฯ) | ยธ | 19/11/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการแต่งตั้ง นายวัลลภ นาคบัว เป็นโฆษกกระทรวงยุติธรรม และแต่งตั้ง พันตำรวจโท พงษ์ธร ธัญญสิริ เป็นรองโฆษกกระทรวงยุติธรรม เพื่อเผยแพร่ข่าวสาร ความรู้ ความเข้าใจ นโยบายภารกิจ รวมทั้งผลงานกระทรวงในภาพรวม ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11659 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (รองศาสตราจารย์จักรพันธ์ วิลาสินีกุล) | วธ | 19/11/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง รองศาสตราจารย์จักรพันธ์ วิลาสินีกุล ดำรงตำแหน่งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการบริหารศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร แทนผู้ที่ลาออก โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงวัฒนธรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
11660 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก | กค | 19/11/2562 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสถาบันคุ้มครองเงินฝาก รวม ๒ คณะ แทนประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมที่ดำรงตำแหน่งครบวาระสี่ปี เมื่อวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๖๒ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเสนอ โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑๙ พฤศจิกายน ๒๕๖๒) เป็นต้นไป ดังนี้
๑. นายลวรณ แสงสนิท ประธานกรรมการ ๒. นางณัฐนันทน์ อัศวเลิศศักดิ์ กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ (ด้านกฎหมาย)
|
.....