ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 469 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 9361 - 9380 จากข้อมูลทั้งหมด 124006 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
9361 | มาตรการเพื่อป้องกันมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการทุจริตเกี่ยวกับการลักลอบซื้อขายยาเสพติดในเรือนจำและทัณฑสถาน | ปช. | 15/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
รับทราบมาตรการเพื่อป้องกันมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการทุจริตเกี่ยวกับการลักลอบซื้อขายยาเสพติดในเรือนจำและทัณฑสถาน
เพื่อให้มีการปรับปรุงการปฏิบัติราชการเพื่อป้องกันหรือปราบปรามการทุจริตต่อหน้าที่
หรือการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการตามมาตรา ๓๒
แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.
๒๕๖๑ โดยสาระสำคัญของมาตรการฯ ครอบคลุมการดำเนินการเพื่อป้องกันการกระทำการทุจริตของเจ้าหน้าที่
๔ กรณี ได้แก่ (๑)
กรณีผู้ต้องขังภายในเรือนจำที่เป็นผู้มีอิทธิพลทางการเงินสามารถติดต่อสั่งการค้ายาเสพติดได้อย่างอิสระกับเครือข่ายภายนอกเรือนจำ
(๒) กรณีการตรวจสอบพบยาเสพติดในเรือนจำและทัณฑสถาน (๓)
กรณีผู้ต้องขังให้สินบนกับเจ้าหน้าที่เพื่อใช้อำนาจในตำแหน่งโดยทุจริต
ทำให้เกิดการซื้อขายยาเสพติดในเรือนจำและทัณฑสถาน และ (๔)
กรณีผู้ต้องขังในเรือนจำที่เป็นผู้มีอิทธิพลทางการเงินสามารถสั่งการให้เครือข่ายค้ายาเสพติดข่มขู่หรือทำร้ายเจ้าหน้าที่
ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติเสนอ ๒. มอบหมายให้กระทรวงยุติธรรม
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำมาตรการเพื่อป้องกันมิให้เจ้าหน้าที่ของรัฐกระทำการทุจริตเกี่ยวกับการลักลอบซื้อขายยาเสพติดในเรือนจำและทัณฑสถานไปถือปฏิบัติหรือดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด
ทั้งนี้
ให้กระทรวงยุติธรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
กระทรวงมหาดไทย สำนักงบประมาณ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด)
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง
กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ
รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเกี่ยวกับหน่วยงานที่มีหน้าที่ต้องดำเนินการตามมาตรการฯ
ควรพิจารณาถึงความเหมาะสมและความได้สัดส่วนในการจำกัดสิทธิและเสรีภาพที่ได้รับการรับรองตามรัฐธรรมนูญ
เช่น สิทธิในความเป็นอยู่ส่วนตัวตามมาตรา ๓๒ เสรีภาพในการติดต่อสื่อสารตามมาตรา ๓๖
และเสรีภาพในการประกอบอาชีพตามมาตรา ๔๐
รวมถึงการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายเพื่อดำเนินการตามมาตรการดังกล่าวต้องคำนึงถึงมาตรา
๗๗ ของรัฐธรรมนูญ และพระราชบัญญัติหลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย
พ.ศ. ๒๕๖๒ ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9362 | แผนปฏิบัติการด้านการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ ระยะที่ 1 (พ.ศ. 2563-2565) | ปช. | 15/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบแผนปฏิบัติการด้านการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ
ระยะที่ ๑ (พ.ศ. ๒๕๖๓-๒๕๖๕) ซึ่งจัดทำขึ้นเพื่อเป็นเครื่องมือสำหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการแปลงแนวทางการพัฒนาของแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ
ประเด็นการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบ
ผลักดันไปสู่การปฏิบัติและบรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายของแผนแม่บทฯ
ภายในกรอบระยะเวลาที่กำหนด ประกอบด้วย ๒ แผนย่อย คือ แผนย่อยการป้องกันการทุจริตและประพฤติมิชอบ
และแผนย่อยการปราบปรามการทุจริต มีโครงการภายใต้แนวทางการพัฒนา จำนวนทั้งสิ้น ๙๗๑
โครงการ วงเงินรวม ๑๐,๒๔๘,๓๑๓,๕๐๐ บาท และให้หน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ
องค์การมหาชน และภาคเอกชน แปลงแนวทางตามแผนปฏิบัติการฯ สู่การปฏิบัติ
โดยกำหนดไว้ในแผนปฏิบัติราชการประจำปี และรายงานผลการดำเนินงานตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติกำหนด
ตามที่คณะกรรมการ ป.ช.ป. เสนอ ๒. ให้สำนักงาน
ป.ช.ป. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับข้อเสนอแนะของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ในการประชุมครั้งที่ ๑๐/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๗ ตุลาคม ๒๕๖๓ ที่เห็นว่า (๑)
ควรประเมินผลสำเร็จของการดำเนินการด้านการต่อต้านการทุจริตและประพฤติมิชอบของประเทศไทยที่ผ่านมา
โดยการเปรียบเทียบผลการดำเนินการและงบประมาณที่ใช้ในการต่อต้านการทุจริตในอดีตกับคะแนนดัชนีการรับรู้การทุจริตของประเทศไทย
เพื่อใช้ประเมินผลความสำเร็จในการดำเนินงานและสามารถใช้เป็นข้อมูลเพื่อนำมาปรับปรุงในการจัดทำแผนและกำหนดแนวทางที่เหมาะสมให้เกิดประสิทธิภาพ
สามารถบรรลุผลสำเร็จตามเป้าหมายได้ต่อไป (๒)
ตัวชี้วัดด้านข้อร้องเรียนเจ้าหน้าที่ภาครัฐที่ถูกชี้มูลความผิด ควรพิจารณาเพิ่มเติมจากแหล่งข้อมูลที่มาจากการร้องเรียนของประชาชน
เช่น
ข้อมูลการร้องเรียนหรือร้องทุกข์ของประชาชนที่ศูนย์บริการข้อมูลภาครัฐเพื่อประชาชน
(สายด่วน ๑๑๑๑)
ซึ่งสามารถจำแนกตำแหน่งที่ตั้งของผู้ร้องเรียนเพื่อทำฐานข้อมูลการร้องเรียนด้วยระบบดิจิทัลที่มีประสิทธิภาพและเปิดเผยได้
รวมทั้งกำหนดระดับความสำเร็จในการดำเนินการแก้ไขตามข้อร้องเรียนของประชาชนไว้ในตัวชี้วัดด้วย
เพื่อให้เห็นประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหาที่ชัดเจน และ (๓) ควรนำเทคโนโลยีการเชื่อมโยงข้อมูลดิจิทัลจากหน่วยงานต่าง
ๆ ที่ทำหน้าที่เก็บทะเบียนสินทรัพย์ต่าง ๆ (เช่น ที่ดิน บ้าน หุ้น รถยนต์
บัญชีเงินฝาก) รวมเข้ากับระบบของ ป.ช.ป.
เพื่อให้การยื่นบัญชีทรัพย์สินเหลือเพียงการตรวจสอบทะเบียนที่รวบรวมได้กับการยื่นในส่วนที่ไม่มีหน่วยงานใดเป็นผู้เก็บทะเบียนของสินทรัพย์
เช่น เงินสด หรือทรัพย์สินที่เป็นของรูปพรรณต่าง ๆ ในขณะที่บัญชีทรัพย์สินในส่วนที่สามารถเข้าถึงได้ด้วยระบบเทคโนโลยีนั้น
ควรกำหนดให้สำนักงาน ป.ช.ป. สามารถขอรับข้อมูลผ่านระบบดิจิทัลจากสถาบันการเงินหรือองค์กรที่เกี่ยวข้องได้
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9363 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดชนิดหรือประเภทของอาคาร หลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และจำนวนเงินเอาประกันภัยที่เจ้าของอาคาร ผู้ครอบครองอาคาร หรือผู้ดำเนินการต้องจัดให้มีการประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอกตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร พ.ศ. .... | มท. | 15/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดชนิดหรือประเภทของอาคาร หลักเกณฑ์ วิธีการ
เงื่อนไข และจำนวนเงินเอาประกันภัยที่เจ้าของอาคาร ผู้ครอบครองอาคาร
หรือผู้ดำเนินการต้องจัดให้มีการประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายต่อชีวิต ร่างกาย
และทรัพย์สินของบุคคลภายนอกตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคาร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกกฎกระทรวงกำหนดชนิดหรือประเภทของอาคารที่เจ้าของอาคารหรือผู้ครอบครองอาคารหรือผู้ดำเนินการต้องทำการประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายต่อชีวิต
ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก พ.ศ. ๒๕๔๘ และกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
เงื่อนไขและจำนวนเงินเอาประกันภัยที่เจ้าของอาคาร ผู้ครอบครองอาคาร
หรือผู้ดำเนินการ ต้องทำการประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายต่อชีวิต ร่างกาย
และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
เพื่อคุ้มครองบุคคลภายนอกที่ได้รับความเสียหายหรือสูญเสียต่อชีวิต ร่างกาย
และทรัพย์สิน อันเนื่องมาจากการก่อสร้างอาคาร สภาพอาคาร การบำรุงรักษาอาคาร
หรือการใช้อาคาร ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
และให้รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัยที่เห็นควรแก้ไขถ้อยคำร่างกฎกระทรวงฯ
เช่น ร่างข้อ ๓ ควรแก้ไขจาก “...
ผู้ดำเนินการต้องจัดให้มีการประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายต่อชีวิต ร่างกาย
และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก ...” เป็น “...
ผู้ดำเนินการต้องให้มีการประกันภัยความรับผิดตามกฎหมายต่อชีวิต ร่างกาย
และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก อันเนื่องมาจากการก่อสร้างอาคาร ดัดแปลง
เคลื่อนย้ายหรือรื้อถอนอาคาร ...” ไปประกอบการตรวจพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรกำกับดูแลให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นกำกับการดำเนินงานให้เป็นไปตามข้อกำหนดของกฎกระทรวงฯ
อย่างเข้มงวด เพื่อให้มีผลในทางปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9364 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานลำพรม เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... | กษ. | 15/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานลำพรม
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานลำพรม ในท้องที่ตำบลโนนทอง
อำเภอเกษตรสมบูรณ์ และตำบลสามสวน อำเภอบ้านแท่น จังหวัดชัยภูมิ
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทานจากผู้ใช้น้ำที่นำน้ำไปใช้เพื่อกิจการโรงงาน
การประปา หรือกิจการอื่นนอกจากภาคเกษตรกรรม เพื่อประโยชน์ในการควบคุมดูแลปริมาณน้ำ
และให้การใช้น้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9365 | การต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของเลขาธิการคณะรัฐมนตรี (นายธีระพงษ์ วงศ์ศิวะวิลาส) | นร.04 | 15/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9366 | การปิดสถานกงสุลสาธารณรัฐเช็กประจำจังหวัดเชียงใหม่เป็นการชั่วคราว และการพ้นจากตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐเช็กประจำจังหวัดเชียงใหม่ (พลตำรวจเอก ประสาน วงศ์ใหญ่) | กต. | 15/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการปิดสถานกงสุลสาธารณรัฐเช็กประจำจังหวัดเชียงใหม่เป็นการชั่วคราว
และการพ้นจากตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐเช็กประจำจังหวัดเชียงใหม่ ของ
พลตำรวจเอก ประสาน วงศ์ใหญ่ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9367 | การแต่งตั้งข้าราชการการเมือง (พลตำรวจตรี นันทชาติ ศุภมงคล) | นร.04 | 15/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง
พลตำรวจตรี นันทชาติ ศุภมงคล เป็นข้าราชการการเมือง
ตำแหน่งประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ
(๑๕ ธันวาคม ๒๕๖๓) เป็นต้นไปตามที่สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9368 | ผลการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง ครั้งที่ 3 | กต. | 15/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง
ครั้งที่ ๓ ผ่านระบบการประชุมทางไกล เมื่อวันที่ ๒๔ สิงหาคม ๒๕๖๓
ซึ่งนายกรัฐมนตรีได้เข้าร่วมการประชุมดังกล่าวและได้ร่วมรับรองปฏิญญาเวียงจันทน์ของการประชุมผู้นำกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้าง
ครั้งที่ ๓ ซี่งมีสาระสำคัญไม่แตกต่างจากร่างปฏิญญาฯ
ที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบเมื่อวันที่ ๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๓ โดยมีการเพิ่มเติมประเด็น
เช่น การยกระดับความร่วมมือด้านทรัพยากรน้ำ และการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ เป็นต้น
และรับทราบถ้อยแถลงของประธานร่วมว่าด้วยความร่วมมือด้านการทำงานร่วมกันและสอดคล้องกันระหว่างกรอบความร่วมมือแม่โขง-ล้านช้างกับระเบียงทางการค้าเชื่อมทางบก-ทางทะเลระหว่างประเทศแห่งใหม่
ซี่งเป็นเอกสารที่ปรับมาจากร่างถ้อยแถลงร่วมฯ ที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการแล้วเมื่อวันที่
๑๘ สิงหาคม ๒๕๖๓ แต่เนื่องจากสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนามไม่พร้อมให้การรับรอง
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาวและสาธารณรัฐประชาชนจีนจึงได้ปรับรูปแบบเอกสารเป็นถ้อยแถลงของประธานร่วมแทน
และมีการเพิ่มข้อเสนอของประเทศไทยในการมอบหมายให้ศูนย์ระดับโลกเพื่อการศึกษาแม่น้ำโขงศึกษาผลกระทบและประโยชน์ต่อประเทศสมาชิก
และเสนอผลการศึกษาต่อที่ประชุมระดับเจ้าหน้าที่อาวุโสและระดับรัฐมนตรีต่อไป
และมอบหมายให้ส่วนราชการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9369 | รัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศประจำประเทศไทย (นายมุฮัมมัด อับดุล ฮัย) | กต. | 15/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นายมุฮัมมัด อับดุล ฮัย (Mr. Mohammed Abdul
Hye) ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นายมุฮัมมัด นัซมุล เคาไนน์ (Mr. Md.
Nazmul Quaunine) ซึ่งเกษียณอายุราชการ
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9370 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นายกริชเพชร ชัยช่วย) | คค. | 15/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญ
สังกัดกระทรวงคมนาคม ให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง จำนวน ๕ ราย
เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมเสนอ
ดังนี้ ๑. นายกริชเพชร
ชัยช่วย ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๒. นางจันทิรา บุรุษพัฒน์ ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง ๓.
นายอภิรัฐ ไชยวงศ์น้อย ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมท่าอากาศยาน ๔. นายปัญญา ชูพานิช ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงาน นโยบายและแผนการขนส่ง และจราจร ๕. นายกิตติพันธ์ ปานจันทร์ ดำรงตำแหน่งอธิบดีกรมการขนส่งทางราง
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9371 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน รวม 4 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยหินแก้ว เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....) | กษ. | 15/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทานจากผู้ใช้น้ำที่นำน้ำไปใช้
เพื่อกิจการโรงงาน การประปา หรือกิจการอื่นนอกจากภาคเกษตรกรรม
เพื่อประโยชน์ในการควบคุมดูแลปริมาณน้ำและเพื่อให้การใช้น้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
รวม ๔ ฉบับ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยหินแก้ว
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยหินแก้ว ในท้องที่ตำบลด่านศรีสุข
อำเภอโพธิ์ตาก จังหวัดหนองคาย เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทา ๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำแก่งเลิงจาน
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำแก่งเลิงจาน ในท้องที่ตำบลแก่งเลิงจาน
และตำบลแวงน่าน อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน ๓. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานในเขตโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานในเขตโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง
ประกอบด้วยทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้ายของเขื่อนระบายน้ำกุดหิน
จากกิโลเมตรที่ ๐.๐๐๐ ในท้องที่ตำบลโคราช อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา
ถึงกิโลเมตรที่ ๑๕.๒๖๒ ในท้องที่ตำบลโป่งแดง อำเภอขามทะเลสอ จังหวัดนครราชสีมา
และทางน้ำชลประทานคลองซอย ๑ ขวา ของคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย
ของเขื่อนระบายน้ำกุดหิน จากกิโลเมตรที่ ๐.๐๐๐ ในท้องที่ตำบลบุ่งขี้เหล็ก
อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา ถึงกิโลเมตรที่ ๓.๕๐๐ ในท้องที่ตำบลโนนค่า
อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน ๔.
ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำคลองบางเหนียวดำ
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำคลองบางเหนียวดำ
ในท้องที่ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9372 | การแก้ไขปรับปรุงบทบัญญัติแห่งประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 301 ตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ [ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ความผิดฐานทำให้แท้งลูก)] [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 14 ธันวาคม 2563)] | นร. | 15/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร วันจันทร์ที่ ๑๔ ธันวาคม ๒๕๖๓ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายอาญา (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (ความผิดฐานทำให้แท้งลูก) ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9373 | รายงานสัดส่วนหนี้สาธารณะ และรายงานสถานะหนี้สาธารณะ หนี้ภาครัฐ และความเสี่ยงทางการคลัง ตามมาตรา 50 และมาตรา 76 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ณ วันสิ้นปีงบประมาณ 2563 (รายงานสัดส่วนหนี้สาธารณะ ตามมาตรา 50 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ณ วันที่ 30 กันยายน 2563) | กค. | 15/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสัดส่วนหนี้สาธารณะ
และรายงานสถานะหนี้สาธารณะ หนี้ภาครัฐ และความเสี่ยงทางการคลัง ตามมาตรา ๕๐
และมาตรา ๗๖ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ณ
วันสิ้นปีงบประมาณ ๒๕๖๓
ซึ่งเมื่อวิเคราะห์ภาระหนี้ประกอบกับแผนการกู้เงินและการชำระหนี้ในอนาคตพบว่า
อยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ และยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังของรัฐที่กำหนดไว้
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9374 | รายงานสัดส่วนหนี้สาธารณะ และรายงานสถานะหนี้สาธารณะ หนี้ภาครัฐ และความเสี่ยงทางการคลัง ตามมาตรา 50 และมาตรา 76 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ณ วันสิ้นปีงบประมาณ 2563 (รายงานสถานะหนี้สาธารณะ หนี้ภาครัฐ และความเสี่ยงทางการคลัง มาตรา 76 แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ณ วันสิ้นปีงบประมาณ 2563) | กค. | 15/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานสัดส่วนหนี้สาธารณะ
และรายงานสถานะหนี้สาธารณะ หนี้ภาครัฐ และความเสี่ยงทางการคลัง ตามมาตรา ๕๐
และมาตรา ๗๖ แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ ณ
วันสิ้นปีงบประมาณ ๒๕๖๓
ซึ่งเมื่อวิเคราะห์ภาระหนี้ประกอบกับแผนการกู้เงินและการชำระหนี้ในอนาคตพบว่า
อยู่ในระดับที่บริหารจัดการได้ และยังอยู่ภายใต้กรอบวินัยการเงินการคลังของรัฐที่กำหนดไว้
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9375 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานในเขตโครงการชลประทานสุรินทร์ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน จำนวน 5 ฉบับ | กษ. | 15/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานในเขตโครงการชลประทานสุรินทร์
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทานจากผู้ใช้น้ำที่นำน้ำไปใช้เพื่อกิจการโรงงาน
การประปา หรือกิจการอื่นนอกจากภาคเกษตรกรรมเพื่อประโยชน์ในการควบคุมดูแลปริมาณน้ำ
และให้การใช้น้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวม ๕ ฉบับ
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยเสนง ในท้องที่ตำบลนอกเมือง
ตำบลเฉนียง และตำบลเทนมีย์ อำเภอเมืองสุรินทร์ จังหวัดสุรินทร์
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน ๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำบ้านทำนบ
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำบ้านทำนบ ในท้องที่ตำบลจรัส
อำเภอบัวเชด จังหวัดสุรินทร์ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน ๓.
ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยด่าน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยด่าน
ในท้องที่ตำบลด่าน อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน ๔. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยตาเกาว์
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยตาเกาว์ ในท้องที่ตำบลกาบเชิง
อำเภอกาบเชิง จังหวัดสุรินทร์ เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน ๕. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยขนาดมอญ
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยขนาดมอญ ในท้องที่ตำบลตาตุม
อำเภอสังขะ จังหวัดสุรินทร์ เป็นทาน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9376 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน รวม 4 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำแก่งเลิงจาน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....) | กษ. | 15/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทานจากผู้ใช้น้ำที่นำน้ำไปใช้
เพื่อกิจการโรงงาน การประปา หรือกิจการอื่นนอกจากภาคเกษตรกรรม
เพื่อประโยชน์ในการควบคุมดูแลปริมาณน้ำและเพื่อให้การใช้น้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
รวม ๔ ฉบับ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยหินแก้ว
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยหินแก้ว ในท้องที่ตำบลด่านศรีสุข
อำเภอโพธิ์ตาก จังหวัดหนองคาย เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทา ๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำแก่งเลิงจาน
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำแก่งเลิงจาน ในท้องที่ตำบลแก่งเลิงจาน
และตำบลแวงน่าน อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน ๓. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานในเขตโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานในเขตโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง
ประกอบด้วยทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้ายของเขื่อนระบายน้ำกุดหิน
จากกิโลเมตรที่ ๐.๐๐๐ ในท้องที่ตำบลโคราช อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา
ถึงกิโลเมตรที่ ๑๕.๒๖๒ ในท้องที่ตำบลโป่งแดง อำเภอขามทะเลสอ จังหวัดนครราชสีมา
และทางน้ำชลประทานคลองซอย ๑ ขวา ของคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย
ของเขื่อนระบายน้ำกุดหิน จากกิโลเมตรที่ ๐.๐๐๐ ในท้องที่ตำบลบุ่งขี้เหล็ก
อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา ถึงกิโลเมตรที่ ๓.๕๐๐ ในท้องที่ตำบลโนนค่า
อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน ๔.
ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำคลองบางเหนียวดำ
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำคลองบางเหนียวดำ
ในท้องที่ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9377 | การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ตั้งแต่วันที่ 20 ธันวาคม 2563 ถึงวันที่ 19 มีนาคม 2564) | นร.08 | 15/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ๑.
เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่ทุกอำเภอในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนภาคใต้
ยกเว้นอำเภอแม่ลาน อำเภอไม้แก่น จังหวัดปัตตานี อำเภอเบตง จังหวัดยะลา
และอำเภอสุไหงโก-ลก อำเภอสุคิริน อำเภอศรีสาคร จังหวัดนราธิวาส ออกไปอีก ๓ เดือน
ตั้งแต่วันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๓ ถึงวันที่ ๑๙ มีนาคม ๒๕๖๔ ๒. เห็นชอบและรับทราบร่างประกาศรวม
๓ ฉบับ ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอ
ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๒.๑ เห็นชอบร่างประกาศ เรื่อง
การขยายระยะเวลาการประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงในเขตท้องที่จังหวัดนราธิวาส
ยกเว้นอำเภอศรีสาคร อำเภอสุไหงโก-ลก และอำเภอสุคิริน จังหวัดยะลา ยกเว้นอำเภอเบตง
และจังหวัดปัตตานี ยกเว้นอำเภอไม้แก่น และอำเภอแม่ลาน และร่างประกาศ เรื่อง
การให้ประกาศที่คณะรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงยังคงมีผลใช้บังคับ ๒.๒ รับทราบร่างประกาศ เรื่อง
การให้ประกาศและคำสั่งที่นายกรัฐมนตรีกำหนดตามประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีความร้ายแรงยังคงมีผลใช้บังคับ ๓.
ให้สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9378 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน รวม 4 ฉบับ (ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานในเขตโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. .... จำนวน 1 ฉบับ 2 ทางน้ำ) | กษ. | 15/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทาน
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทานจากผู้ใช้น้ำที่นำน้ำไปใช้
เพื่อกิจการโรงงาน การประปา หรือกิจการอื่นนอกจากภาคเกษตรกรรม
เพื่อประโยชน์ในการควบคุมดูแลปริมาณน้ำและเพื่อให้การใช้น้ำเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ
รวม ๔ ฉบับ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ดังนี้ ๑. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยหินแก้ว
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำห้วยหินแก้ว ในท้องที่ตำบลด่านศรีสุข
อำเภอโพธิ์ตาก จังหวัดหนองคาย เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทา ๒. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำแก่งเลิงจาน
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำแก่งเลิงจาน ในท้องที่ตำบลแก่งเลิงจาน
และตำบลแวงน่าน อำเภอเมืองมหาสารคาม จังหวัดมหาสารคาม
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน ๓. ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานในเขตโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานในเขตโครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาลำตะคอง
ประกอบด้วยทางน้ำชลประทานคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้ายของเขื่อนระบายน้ำกุดหิน
จากกิโลเมตรที่ ๐.๐๐๐ ในท้องที่ตำบลโคราช อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา
ถึงกิโลเมตรที่ ๑๕.๒๖๒ ในท้องที่ตำบลโป่งแดง อำเภอขามทะเลสอ จังหวัดนครราชสีมา
และทางน้ำชลประทานคลองซอย ๑ ขวา ของคลองส่งน้ำสายใหญ่ฝั่งซ้าย
ของเขื่อนระบายน้ำกุดหิน จากกิโลเมตรที่ ๐.๐๐๐ ในท้องที่ตำบลบุ่งขี้เหล็ก
อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา ถึงกิโลเมตรที่ ๓.๕๐๐ ในท้องที่ตำบลโนนค่า
อำเภอสูงเนิน จังหวัดนครราชสีมา เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน ๔.
ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำคลองบางเหนียวดำ
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ทางน้ำชลประทานอ่างเก็บน้ำคลองบางเหนียวดำ
ในท้องที่ตำบลศรีสุนทร อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต
เป็นทางน้ำชลประทานที่จะเรียกเก็บค่าชลประทาน
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9379 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (1. นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ) | พณ. | 15/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
9380 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายศรายุธ ทองกูล) | นร.06 | 15/12/2563 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
นายศรายุธ ทองกูล ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งที่ปรึกษาด้านข่าวกรองความมั่นคงและสถาบันหลัก
(นักการข่าวทรงคุณวุฒิ) กลุ่มงานที่ปรึกษา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ให้ดำรงตำแหน่งรองผู้อำนวยการสำนักข่าวกรองแห่งชาติ
สำนักข่าวกรองแห่งชาติ สำนักนายกรัฐมนตรี เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่สำนักข่าวกรองแห่งชาติเสนอ
|