ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 1 จากทั้งหมด 1 หน้า แสดงรายการที่ 1 - 1 จากข้อมูลทั้งหมด 1 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
1 | ร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน) พ.ศ. .... | พณ. | 19/01/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย
(องค์การมหาชน) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ
(องค์การมหาชน) พ.ศ. ๒๕๔๖ และที่แก้ไขเพิ่มเติม โดยเปลี่ยนชื่อองค์กรจาก
“ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน)” เป็น
“สถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย (องค์การมหาชน”
ปรับปรุงวัตถุประสงค์หน้าที่และอำนาจของสถาบัน
องค์ประกอบของคณะกรรมการสถาบันส่งเสริมศิลปหัตถกรรมไทย ตลอดจนบทบัญญัติต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้อง ให้สอดคล้องกับการดำเนินงานของสถาบัน
และเพื่อให้สถาบันเป็นหน่วยงานหลักในการดูแลส่งเสริมและสนับสนุนศิลปหัตถกรรมไทยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ในฐานะกำกับดูแลศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ
(องค์การมหาชน) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง เช่น (๑)
การดำเนินงานของสถาบันควรได้รับการพิจารณาสนับสนุนด้านงบประมาณจากรัฐบาลผ่านกระบวนการจัดสรรงบประมาณรายจ่ายประจำปี
และไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มอำนาจให้สถาบันสามารถกู้ยืมเงินเองได้
จึงเห็นควรตัดความในร่างพระราชกฤษฎีกาฯ มาตรา ๑๐ (๕)
เรื่องอำนาจในการกู้ยืมเงินของสถาบันออก (๒) แก้ไขถ้อยคำตามร่างมาตรา ๑๒
ที่กำหนดให้บรรดารายได้ของสถาบันไม่เป็นรายได้ที่ต้องนำส่งกระทรวงการคลังตามกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลัง
และกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ เป็น “มาตรา ๑๒ บรรดารายได้ของสถาบันไม่เป็นรายได้ที่ต้องนำส่งกระทรวงการคลังตามกฎหมายว่าด้วยเงินคงคลังและกฎหมายว่าด้วยวินัยการเงินการคลังของรัฐ”
และ (๓) ตัดความในร่างพระราชกฤษฎีกาฯ มาตรา ๒๑ (๓) (จ)
ในส่วนที่เกี่ยวกับการพัสดุออก เป็นต้น ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒.
ให้ศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ (องค์การมหาชน)
รับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ และสำนักงาน ก.พ.
เกี่ยวกับค่าตอบแทนการเลิกจ้างแก่เจ้าหน้าที่ผู้ไม่ประสงค์จะทำงานต่อไป
หรือไม่ได้รับการคัดเลือกและบรรจุ เห็นควรให้ใช้จ่ายเงินสะสมของสถาบันที่ได้รับโอนตามนัยมาตรา
๔๖ ของร่างพระราชกฤษฎีกาฯ
โดยการเบิกจ่ายจากแหล่งเงินดังกล่าวจะต้องปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ
ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วน และไม่มีความซ้ำซ้อน
รวมทั้งการคัดเลือกเจ้าหน้าที่หรือลูกจ้างของศูนย์ส่งเสริมศิลปาชีพระหว่างประเทศ
(องค์การมหาชน) เพื่อบรรจุเป็นเจ้าหน้าที่หรือลูกจ้างของสถาบัน ตามร่างมาตรา ๔๙
ควรดำเนินการตามระบบคุณธรรมและคำนึงถึงพฤติกรรมทางจริยธรรม
เพื่อให้ได้ทรัพยากรที่มีศักยภาพสอดคล้องกับวัตถุประสงค์และภารกิจขององค์กร
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|