ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 401 จากทั้งหมด 6201 หน้า แสดงรายการที่ 8001 - 8020 จากข้อมูลทั้งหมด 124006 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
8001 | สรุปรายงานการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 3 (ระหว่างวันที่ 1 มกราคม - 30 เมษายน 2564) | นร.04 | 10/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปรายงานการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
ครั้งที่ ๓ (ระหว่างวันที่ ๑ มกราคม-๓๐ เมษายน
๒๕๖๔) สรุปได้ ดังนี้ (๑)
ผลการดำเนินงานตามนโยบายหลัก ๑๒ ด้าน เช่น การปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์
การสร้างความมั่นคงและความปลอดภัยของประเทศและความสงบสุขของประเทศ
การสร้างบทบาทของไทยในเวทีโลก การปฏิรูปกระบวนการเรียนรู้และพัฒนาศักยภาพของคนไทยทุกช่วงวัย
การพัฒนาระบบสาธารณสุขและหลักประกันทางสังคม การปฏิรูปการบริหารจัดการภาครัฐ และ
(๒) นโยบายเร่งด่วน ๑๒ เรื่อง เช่น การแก้ไขปัญหาในการดำรงชีวิตของประชาชน
การปรับปรุงระบบสวัสดิการและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน การยกระดับศักยภาพแรงงาน
การวางรากฐานระบบเศรษฐกิจของประเทศสู่อนาคต
การแก้ไขปัญหายาเสพติดและสร้างความสงบสุขในพื้นที่ชายแดนภาคใต้ เป็นต้น
ตามที่คณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
8002 | ผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงานกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจการค้า และอุตสาหกรรมแห่งประเทศญี่ปุ่น สมัยพิเศษ | พน. | 10/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงานกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ
การค้า และอุตสาหกรรมแห่งประเทศญี่ปุ่น สมัยพิเศษ ผ่านระบบการประชุมทางไกล เมื่อวันที่ ๒๑ มิถุนายน
๒๕๖๔ โดยมีรองนายกรัฐมนตรี (นายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์) และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน
เข้าร่วมประชุม มีสาระสำคัญ ประกอบด้วย (๑) ผลการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงานกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า
และอุตสาหกรรมแห่งประเทศญี่ปุ่น สมัยพิเศษ โดยไทยได้กล่าวถึงแนวทางการดำเนินการที่สำคัญ เช่น
การเพิ่มการผลิตไฟฟ้าแบบคาร์บอนต่ำและการพัฒนายานยนต์ไฟฟ้า (๒)
ที่ประชุมได้รับรองถ้อยแถลงร่วมของการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงานกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเศรษฐกิจ การค้า
และอุตสาหกรรมแห่งประเทศญี่ปุ่น สมัยพิเศษ โดยมีการเปลี่ยนแปลงถ้อยคำแต่ไม่กระทบสาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบไว้
(๑๕ มิถุนายน ๒๕๖๔) ทั้งนี้ เพื่อประโยชน์ต่อการพัฒนาภาคพลังงานและกลุ่มประเทศอาเซียน
ตามที่กระทรวงพลังงานเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
8003 | ข้อตกลงยอมรับร่วมรายสาขาสำหรับวัสดุอาคารและสิ่งก่อสร้างของอาเซียน (ASEAN Sectoral Mutual Recognition Arrangement for Building and Construction Materials) | อก. | 10/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างข้อตกลงยอมรับร่วมรายสาขาสำหรับวัสดุอาคารและสิ่งก่อสร้างของอาเซียน (ASEAN Sectoral Mutual Recognition Arrangement for
Building and Construction Materials) ซึ่งมีวัตถุประสงค์เพื่อให้เกิดการยอมรับผลการทดสอบหรือการรับรองผลิตภัณฑ์วัสดุอาคารและสิ่งก่อสร้างที่ออกโดยหน่วยตรวจสอบรับรองที่ได้รับการขึ้นบัญชีในประเทศสมาชิกอาเซียน
ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ ๒. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายอื่นลงนามในร่างข้อตกลงฯ
ดังกล่าว และเมื่อลงนามแล้วให้กระทรวงอุตสาหกรรมส่งข้อตกลงฯ ดังกล่าว ให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา
แล้วเสนอรัฐสภาพิจารณาให้ความเห็นชอบตามมาตรา ๑๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
ก่อนแสดงเจตนาให้มีผลผูกพันต่อไป ทั้งนี้ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๕
กุมภาพันธ์ ๒๕๖๒ (เรื่อง แนวทางการปฏิบัติเกี่ยวกับการเสนอหนังสือสัญญาตามบทบัญญัติมาตรา
๑๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย) ๓.
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการออกหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในร่างข้อตกลงฯ
ดังกล่าว ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขถ้อยคำที่มิใช่สาระสำคัญและไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทยให้กระทรวงอุตสาหกรรมดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ๔.
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการแจ้งต่อสำนักเลขาธิการอาเซียนว่า
ประเทศไทยพร้อมที่จะให้ข้อตกลงดังกล่าวมีผลผูกพัน
เมื่อรัฐสภาให้ความเห็นชอบข้อตกลงดังกล่าวแล้ว
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
8004 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องทำความสะอาดใช้ความดันสูงและเครื่องทำความสะอาดใช้ไอน้ำต้องเป็นไปตามมาตรฐาน พ.ศ. .... | อก. | 10/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องทำความสะอาดใช้ความดันสูงและเครื่องทำความสะอาดใช้ไอน้ำต้องเป็นไปตามมาตรฐาน
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมเครื่องทำความสะอาดใช้ความดันสูงและเครื่องทำความสะอาดใช้ไอน้ำต้องเป็นไปตามมาตรฐานอุตสาหกรรม
ความปลอดภัยของเครื่องใช้ไฟฟ้าสำหรับใช้ในที่อยู่อาศัยและเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นที่คล้ายกัน
เล่ม ๒ (๗๙)
ข้อกำหนดเฉพาะกาลสำหรับเครื่องทำความสะอาดใช้ความดันสูงและเครื่องทำความสะอาดใช้ไอน้ำ
มาตรฐานเลขที่ มอก.๖๐๓๓๕ เล่ม ๒ (๗๙)-๒๕๖๓ เพื่อให้เป็นผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพ
มีความปลอดภัย และสอดคล้องกับสภาพอุตสาหกรรมปัจจุบัน ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
8005 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ภายใต้พระราชกำหนดฯ เพิ่มเติม พ.ศ. 2564 ในคราวประชุมครั้งที่ 4/2564 | นร.11 สศช | 10/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ภายใต้พระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ ๒๕๖๔
เมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๖๔ โครงการเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา ๓๙ และมาตรา ๔๐
ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐ ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ของสำนักงานประกันสังคม
กระทรวงแรงงาน กรอบวงเงินจำนวน ๓๓,๔๗๑.๐๐๕๐ ล้านบาท โดยใช้จ่ายจากเงินกู้ภายใต้แผนงาน/โครงการกลุ่มที่
๒ เพื่อช่วยเหลือเยียวยา บรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประกันตนมาตรา ๓๙ และมาตรา ๔๐
ที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐตามข้อกำหนดออกตามความในมาตรา ๙
แห่งพระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. ๒๕๔๘ (ฉบับที่ ๒๕ ฉบับที่
๒๘ และฉบับที่ ๓๐) ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด รวม ๒๙ จังหวัด ทั้งนี้
เห็นควรให้สำนักงานประกันสังคม รับความเห็นและข้อสังเกตของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ โดยให้เร่งดำเนินการตรวจสอบยืนยันตัวตนของผู้ได้รับความช่วยเหลือตามเป้าหมาย
พิจารณาดำเนินการต่าง ๆ ให้สามารถโอนเงินให้ความช่วยเหลือเยียวยาผู้ประกันตนมาตรา
๓๙ และมาตรา ๔๐ ที่อยู่ในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดใน ๑๐ จังหวัดก่อน กำหนดเงื่อนไขของกลุ่มเป้าหมายตามโครงการฯ
โดยเฉพาะในส่วนของผู้ลงทะเบียนเป็นผู้ประกันตนมาตรา ๔๐ เพิ่มเติม
จัดทำข้อเสนอขยายระยะเวลาให้ความช่วยเหลือแก่กลุ่มเป้าหมายที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดโควิด-๑๙
ในพื้นที่ ๑๓ จังหวัด การดำเนินโครงการนี้ทำให้มีประชาชนเข้าร่วมเป็นผู้ประกันตนตามมาตรา
๔๐ จำนวนเพิ่มขึ้น จึงควรต้องประมาณการภาระงบประมาณที่จะเกิดขึ้นให้ชัดเจน
พร้อมทั้งติดตามและประเมินผลการดำเนินการตามมาตรการบรรเทาผลกระทบต่อประชาชน
กลุ่มแรงงานและผู้ประกอบการดังกล่าวอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง ไปดำเนินการโดยเคร่งครัด
ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ และให้กระทรวงแรงงาน (สำนักงานประกันสังคม)
รับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณ ที่เห็นว่าให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินโครงการต่าง
ๆ โดยใช้วงเงินกู้ตามพระราชกำหนดนี้ให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด สร้างความรับรู้และความเข้าใจในมาตรการที่ถูกต้องให้กับประชาชน
รวมทั้งดำเนินการติดตามและประเมินผลการดำเนินโครงการภายใต้มาตรการดังกล่าวอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง
พร้อมทั้งเผยแพร่ผลการดำเนินงานให้ความช่วยเหลือแก่สาธารณชนได้รับทราบข้อมูลอย่างถูกต้องและทั่วถึงเป็นระยะ
ๆ ต่อไป ตลอดจนประชาสัมพันธ์เรื่องสิทธิประโยชน์ของผู้ประกันตนประเภทต่าง ๆ
เพื่อจูงใจให้ผู้ประกันตนอยู่ในระบบประกันสังคมอย่างต่อเนื่อง ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป ๒. ให้เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘
(เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
8006 | ร่างแถลงข่าวร่วมสำหรับการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมระดับสูงไทย – ญี่ปุ่น ครั้งที่ 5 | กต. | 10/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างแถลงข่าวร่วมสำหรับการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมระดับสูงไทย–ญี่ปุ่น
ครั้งที่ ๕ เมื่อวันที่ ๑๑ สิงหาคม
๒๕๖๔ ผ่านระบบการประชุมทางไกล
มีสาระสำคัญเป็นการสอดประสานความร่วมมือระหว่างโมเดลเศรษฐกิจชีวภาพ-เศรษฐกิจหมุนเวียน-เศรษฐกิจสีเขียว
(BCG Economy) ของไทยกับยุทธศาสตร์การเติบโตสีเขียวของญี่ปุ่น ความร่วมมือด้านการค้า การลงทุน
การพัฒนาอุตสาหกรรม และการส่งเสริมสภาพแวดล้อมทางธุรกิจ
ความร่วมมือเพื่อส่งเสริมความเชื่อมโยง การพัฒนาอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง และสาธารณสุข
เพื่อพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานที่มีคุณภาพซึ่งรวมถึงระบบขนส่งในไทยผ่านโครงการพัฒนาเส้นทางรางสำคัญและโครงการด้านคมนาคมอื่น
ๆ ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างแถลงข่าวร่วมสำหรับการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมระดับสูงไทย-ญี่ปุ่น
ครั้งที่ ๕ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
8007 | ขอความเห็นชอบการกู้เงินในประเทศเพื่อเป็นเงินลงทุนสำหรับการลงทุนในแผนงานระยะยาวใหม่ ปี 2564 ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค | มท. | 10/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค
(กฟภ.) กู้เงินในประเทศเพื่อเป็นเงินลงทุนสำหรับการลงทุนในแผนงานระยะยาวใหม่
ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ จำนวน ๗ แผนงานภายในกรอบวงเงินรวม ๑๓,๓๙๕ ล้านบาท ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และให้กระทรวงมหาดไทย (การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค) รับความเห็นของกระทรวงการคลัง
กระทรวงคมนาคม สำนักงบประมาณ (หนังสือสำนักงบประมาณ ที่ นร ๐๗๒๗/๙๕๙๗ ลงวันที่ ๑๖
เมษายน ๒๕๖๔) และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (หนังสือสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ที่ นร ๑๑๒๔/๑๔๔๑ ลงวันที่ ๙ มีนาคม ๒๕๖๔) โดยให้กระทรวงการคลังเป็นผู้พิจารณารูปแบบการจัดหาเงินกู้ในประเทศ
และให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค กระทรวงมหาดไทย ดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายระเบียบและหลักเกณฑ์อื่น
ๆ ที่เกี่ยวข้อง และกำหนดมาตรการการบริหารจัดการให้มีความเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ
คำนึงถึงความคุ้มค่า ประโยชน์ที่จะได้รับ ความสามารถในการชำระหนี้
และการกระจายการชำระหนี้ที่เหมาะสม รวมทั้งดำเนินการให้สอดคล้องกับมาตรา ๔๙
แห่งพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ อย่างเคร่งครัด ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
8008 | การแก้ไขปัญหาผู้ได้รับผลกระทบจากโครงการอ่างเก็บน้ำแม่มอก อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดลำปาง | กษ. | 10/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมชลประทาน) จ่ายเงินชดเชยให้แก่ราษฎรผู้ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานโครงการอ่างเก็บน้ำแม่หมอก
อันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดลำปาง
จากการเข้าทำประโยชน์ในแปลงจัดสรรที่ดินไม่ได้ จำนวน ๑๐๓ ราย ในอัตรา ๒๐,๐๐๐ บาทต่อราย
ตามความเห็นของคณะกรรมการร่วมระหว่างภาคราชการและผู้แทนเกษตรกรที่ได้รับผลกระทบจากการดำเนินงานโครงการของรัฐ
ในการประชุมครั้งที่ ๑/๒๕๖๓ เมื่อวันที่ ๑๖ มกราคม ๒๕๖๓ แนวทางที่ ๒
ที่ให้มีการเยียวยาตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด ที่ อ.๕๖๔/๒๕๖๐ ในส่วนของการกำหนดอัตราดอกเบี้ยให้กรมชลประทานพิจารณาให้สอดคล้องกับอัตราดอกเบี้ยที่กำหนดในประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
พ.ศ. ๒๕๖๔ ตามข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
โดยให้เริ่มนับระยะเวลาการคิดดอกเบี้ยตั้งแต่วันถัดจากวันที่ราษฎรยื่นคำร้องเรียนไปจนกว่าจะชำระเงินค่าชดเชยเสร็จสิ้น ๒. เห็นชอบการแต่งตั้งคณะกรรมการการตรวจสอบและกำกับดูแลการจ่ายเงิน
รวม ๑๔ราย โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดลำปาง เป็นประธานกรรมการ
ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ๓. ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ที่เห็นว่าควรคำนึงถึงขั้นตอน
ระเบียบ และกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
และควรเตรียมมาตรการเพื่อรองรับผลกระทบด้านลบที่อาจเกิดขึ้นจากการดำเนินการด้วย
ให้กรมชลประทานดำเนินการตามมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติดังกล่าวอย่างเคร่งครัด
ควรมีการประชาสัมพันธ์และสร้างความเข้าใจให้แก่ผู้ได้รับผลกระทบอย่างจริงจังและต่อเนื่อง
รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (เกี่ยวกับการจ่ายเงินชดเชยคราวต่อไปหากมี)
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๔.
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เร่งดำเนินการตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๘ พฤษภาคม
๒๕๖๔ (เรื่อง
ขออนุมัติจ่ายเงินค่าทดแทนให้แก่ราษฎรที่ได้รับผลกระทบจากโครงการฝายหัวนา)
ที่กำหนดให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ร่วมกับกระทรวงมหาดไทย
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดหลักเกณฑ์กลางในการให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากโครงการชลประทานของรัฐในกรณีต่าง
ๆ รวมทั้งกำหนดประเภทและวิธีการคำนวณอัตราค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องให้ชัดเจน
และให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยเร็วต่อไป
โดยให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รับความเห็นของสำนักงบประมาณ ที่เห็นว่าควรเร่งจัดทำหลักเกณฑ์
เงื่อนไข
และวิธีการเยียวยาความเดือดร้อนหรือเสียหายให้แก่ประชาชนที่เกิดจากการดำเนินโครงการของรัฐ
ตามขั้นตอนของกฎหมายระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง
และจะต้องคำนึงถึงความเป็นธรรม การไม่เลือกปฏิบัติ มีความโปร่งใส และตรวจสอบได้
ไปพิจารณาประกอบการดำเนินการด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
8009 | สรุปผลการประชุมคณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ครั้งที่ 3/2564 | นร.04 | 10/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี
ครั้งที่ ๓/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๗ มิถุนายน
๒๕๖๔ และให้ส่วนราชการรับประเด็นและมติที่ประชุมคณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรี ประกอบด้วย ๔ ประเด็น
ดังนี้ (๑) การแก้ไขปัญหาฝุ่นละอองขนาดเล็ก (PM2.5)
ควรให้ความสำคัญกับการควบคุมและลดมลพิษจากยานพาหนะต่าง ๆ
การศึกษาการนำเครื่องมือที่ใช้เทคโนโลยีทันสมัยมาใช้จัดการมลพิษทางอากาศ
และเร่งสร้างความเข้าใจและประชาสัมพันธ์ให้ความรู้แก่ประชาชน (๒) การสนับสนุนการใช้ยานยนต์ไฟฟ้า
ควรนำเสนอความก้าวหน้าการดำเนินการส่งเสริมเรื่องเรือไฟฟ้า
ประเด็นหัวจ่ายประจุไฟฟ้าที่ไม่สามารถเพิ่มขึ้นได้อย่างรวดเร็ว (๓)
การเพิ่มประสิทธิภาพการกระจายข้อมูลข่าวสาร ได้แก่
การขยายโครงการอินเทอร์เน็ตและโทรคมนาคมในพื้นที่ และ (๔)
แผนงานและผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการ รวม ๔ คณะ เพื่อพิจารณาแนวทางการดำเนินงานที่เหมาะสมเป็นไปตามกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องต่อไป
ตามที่คณะกรรมการติดตามการดำเนินงานตามนโยบายรัฐบาลและข้อสั่งการนายกรัฐมนตรีเสนอ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
8010 | ผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ ในคราวประชุม ครั้งที่ 28/2564 | นร.11 สศช | 10/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติตามผลการพิจารณาของคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้
ในคราวประชุมครั้งที่ ๒๘/๒๕๖๔ เมื่อวันที่ ๖ สิงหาคม ๒๕๖๔ ซึ่งได้พิจารณาอนุมัติให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลังปรับลดกรอบวงเงินโครงการเราชนะ
เพื่อให้สอดคล้องกับผลการดำเนินโครงการ อนุมัติให้สำนักงานประกันสังคม
ปรับปรุงรายละเอียดที่เป็นสาระสำคัญของโครงการเยียวยานายจ้างและผู้ประกันตนมาตรา
๓๓ ในกิจการที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐในพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข็มงวด
และพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ อนุมัติให้จังหวัดลำพูน
ปรับลดกิจกรรมสร้างแปลงเรียนรู้เพื่อเพิ่มความมั่นคงด้านอาหารในชุมชน
(แปลงเรียนรู้ด้านปศุสัตว์) ภายใต้โครงการขยายผลการดำเนินงานเกษตรกรรม อนุมัติให้จังหวัดยุติหรือยกเลิกโครงการของจังหวัดที่ได้รับอนุมัติให้ใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา
เยียวยา
และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ รวมจำนวน ๘ โครงการ
และมอบหมายให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการที่ได้รับอนุมัติให้ใช้จ่ายเงินกู้ตามพระราชกำหนดให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงินเพื่อแก้ไขปัญหา
เยียวยา
และฟื้นฟูเศรษฐกิจและสังคมที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ พ.ศ. ๒๕๖๓ เร่งดำเนินโครงการให้แล้วเสร็จตามกรอบระยะเวลาที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรี
ตามที่เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้เสนอ
และให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการรับความเห็นชอบของกระทรวงการคลัง
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงบประมาณ
เช่น ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการปรับปรุงแผนการดำเนินงานและแผนการใช้จ่ายเงินกู้รายเดือน/รายสัปดาห์ให้เป็นปัจจุบัน
ให้หน่วยงานรับผิดชอบโครงการดำเนินโครงการต่าง ๆ
โดยใช้วงเงินตามพระราชกำหนดนี้ให้เป็นไปตามกฎหมาย กฎ ระเบียบ
และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด และเร่งคืนกรอบวงเงินกู้ให้สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะ
และเตรียมความพร้อมให้ทันต่อสถานการณ์ ปฏิบัติตามขั้นตอนของกฎหมาย ระเบียบ
ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้องครบถ้วนอย่างเคร่งครัด
ตลอดจนเร่งรัดการใช้จ่ายให้เป็นไปตามแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่าย
และให้ความสำคัญกับระบบการติดตามและประเมินผลให้ทันต่อสถานการณ์ ทั้งนี้
เพื่อประโยชน์สูงสุดของทางราชการและประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับอย่างยั่งยืน
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒. ให้เลขาธิการสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ประธานกรรมการกลั่นกรองการใช้จ่ายเงินกู้ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
8011 | ขออนุมัติกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ | คค. | 10/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติกู้เงินเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) วงเงิน ๗,๘๐๓.๗๑๘ ล้านบาท เพื่อนำไปชำระค่าเชื้อเพลิง
ค่าเหมาซ่อม และเป็นเงินสดหมุนเวียนเพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน
โดยให้กระทรวงการคลัง เป็นผู้ค้ำประกันเงินกู้และกำหนดรายละเอียดต่าง
ๆในการกู้เงิน ซึ่งการกู้เงินของ ขสมก.
ในครั้งนี้จะสามารถทำให้ประหยัดดอกเบี้ยค้างชำระได้ปีละ ๒๓๒.๕๙๔ ล้านบาท
หรือร้อยละ ๘๕.๒๙ ต่อปี ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้กระทรวงคมนาคม
(องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เช่น ให้ ขสมก.
เร่งทบทวนแนวทางการปฏิรูปและจัดทำร่างแผนการฟื้นฟูกิจการ ขสมก. (ฉบับปรับปรุงใหม่)
ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ให้รัฐบาลชดเชยผลขาดทุนรายปีให้แก่ ขสมก. ตามพระราชกฤษีกาจัดตั้งองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ
พ.ศ. ๒๕๑๙ มาตรา ๑๑ ตามจำนวนเท่าที่จำเป็น
รวมถึงดอกเบี้ยที่เกิดจากการกู้เพื่อชดเชยผลขาดทุนดังกล่าว
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
8012 | การจัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยโดยกรมความร่วมมือระหว่างประเทศกับมูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์ | กต. | 10/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงการต่างประเทศถอนเรื่อง การจัดทำบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลไทยโดยกรมความร่วมมือระหว่างประเทศกับมูลนิธิร็อกกี้เฟลเลอร์
คืนไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
8013 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 กรณีให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) นอกสถานพยาบาล กระทรวงสาธารณสุข | สธ. | 10/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบโครงการแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่ : กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔
กรณีให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) นอกสถานพยาบาล กระทรวงสาธารณสุข และอนุมัติรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ กรณีให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) นอกสถานพยาบาล กระทรวงสาธารณสุข จำนวนเงินทั้งสิ้น
๑,๘๗๗,๔๕๕,๐๐๐
บาท ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ทั้งนี้ ให้กระทรวงสาธารณสุขเร่งประเมินผลและพิจารณาปรับเป้าหมายของโครงการแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่
: กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๔ กรณีให้บริการฉีดวัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) นอกสถานพยาบาล กระทรวงสาธารณสุข
ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับข้อเท็จจริงในปัจจุบัน
เพื่อให้การดำเนินโครงการดังกล่าวเป็นระบบและมีประสิทธิภาพประสิทธิผลมากยิ่งขึ้นต่อไป ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
8014 | ขอรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2564 งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ระยะการระบาดระลอกเมษายน 2564 | สธ. | 10/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. รับทราบโครงการแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่ : กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19) ระยะการระบาดระลอกเมษายน ๒๕๖๔ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ และอนุมัติรับการสนับสนุนงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา
และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙
ระยะการระบาดระลอกเมษายน ๒๕๖๔ จำนวนเงินทั้งสิ้น ๑๒,๖๖๙,๒๑๘,๓๑๘ บาท และขยายระยะเวลาการปฏิบัติงานและการเบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๔ งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายในการบรรเทา แก้ไขปัญหา
และเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา ๒๐๑๙
ในโครงการเตรียมความพร้อมรับมือและแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่ : กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 (COVID-19) ระยะการระบาดระลอกเมษายน
๒๕๖๔ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๔ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๕ พฤษภาคม ๒๕๖๔
ออกไปเป็นระยะเวลา ๖ เดือน (เดือนเมษายน ถึง กันยายน ๒๕๖๔) ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ ๒. ให้กระทรวงสาธารณสุขและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งดำเนินการเพิ่มเติม
ดังนี้ ๒.๑
ควบคุมการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโครานา 2019 ให้อยู่ในวงจำกัดโดยเร็วที่สุด
โดยให้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องและภาคเอกชนทุกภาคส่วนอย่างใกล้ชิดและต่อเนื่อง
รวมทั้งให้พิจารณาปรับปรุงระบบการตรวจคัดกรองระดับ/ประเภทผู้ป่วยให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นเพื่อให้สามารถให้การช่วยเหลือและนำผู้ป่วยเข้าสู่ระบบการรักษาพยาบาลและเข้าถึงอย่างรวดเร็วทั่วถึง
และทันเวลา ๒.๒
ให้ปรับปรุงระบบการบริหารจัดการและการกระจายยาที่ใช้ในการรักษาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
2019 อาทิ ยาฟาวิพิราเวียร์ ไปยังผู้ป่วยที่รักษาตัวในโรงพยาบาล
รวมถึงผู้ป่วยในระบบการแยกกักตัวที่บ้าน (Home isolation) และการกักตัวในชุมชน (Community
isolation) ให้รวดเร็วและทั่วถึงมากยิ่งขึ้น ๒.๓
ให้ประเมินสถานการณ์ ตรวจสอบ และแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในขั้นตอนต่าง ๆ เช่น
การเฝ้าระวังโรค การเข้าตรวจโรค และการรักษาพยาบาล เป็นต้น อย่างใกล้ชิด
เพื่อให้สามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ที่อาจเกิดขึ้นได้อย่างถูกต้องและรวดเร็ว ๒.๔ ให้กระทรวงสาธารณสุขได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
8015 | ร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน ในท้องที่ตำบลในเมือง อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด พ.ศ. .... | มท. | 10/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติตามหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลในเมือง อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการถอนสภาพที่ดินอันเป็นสาธารณสมบัติของแผ่นดินสำหรับพลเมืองใช้ร่วมกัน
ในท้องที่ตำบลในเมือง อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ด บางส่วน
เพื่อมอบหมายให้เทศบาลเมืองร้อยเอ็ดใช้เป็นที่ตั้งศูนย์บริการและส่งเสริมสุขภาพประชาชนสระสิม
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เนื่องจากเทศบาลเมืองร้อยเอ็ดซึ่งเป็นหน่วยงานใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อใช้เป็นที่ตั้งศูนย์บริการและส่งเสริมสุขภาพประชาชนสระสิม
จะต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามกฎกระทรวงให้ใช้บังคับผังเมืองรวมเมืองร้อยเอ็ด พ.ศ.
๒๕๖๒ และกฎหมายอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัดต่อไป ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
8016 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดคุณสมบัติของผู้ซึ่งจะได้รับการแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ พ.ศ. .... | พม. | 10/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดคุณสมบัติของผู้ซึ่งจะได้รับการแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่
พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกกฎกระทรวงกำหนดคุณสมบัติของผู้ซึ่งจะได้รับการแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่ พ.ศ. ๒๕๕๒ โดยขอแก้ไขปรับปรุงคุณสมบัติของผู้ซึ่งจะได้รับการแต่งตั้งเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อให้เกิดความเหมาะสมยิ่งขึ้น
และดำเนินการให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาที่กำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานต้องดำเนินการร่วมกัน ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
8017 | ร่างกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการยื่นอุทธรณ์และวิธีพิจารณาในการวินิจฉัยอุทธรณ์เกี่ยวกับผังเมืองรวม และผังเมืองเฉพาะ พ.ศ. .... | มท. | 10/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติร่างกฎกระทรวงว่าด้วยหลักเกณฑ์และวิธีการในการยื่นอุทธรณ์และวิธีพิจารณาในการวินิจฉัยอุทธรณ์เกี่ยวกับผังเมืองรวม
และผังเมืองเฉพาะ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการยื่นอุทธรณ์และวิธีพิจารณาในการวินิจฉัยอุทธรณ์ของคณะกรรมการอุทธรณ์
คณะกรรมการผังเมืองจังหวัด และคณะกรรมการบริหารการผังเมืองส่วนท้องถิ่น
เพื่อใช้เป็นแนวทางในการดำเนินการเกี่ยวกับการอุทธรณ์ในกรณีผังเมืองรวมและผังเมืองเฉพาะ
ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
โดยให้พิจารณาตามประเด็นข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และให้รับความเห็นของกรุงเทพมหานคร ที่เห็นว่าควรแก้ไขข้อความ ร่างข้อ ๒ (๑)
และวรรคสอง เพื่อไม่ให้เป็นการเพิ่มภาระให้กับผู้ยื่นอุทธรณ์ และแก้ไขร่างข้อ ๓
เพื่อให้สอดคล้องกับการปรับแก้ไขในข้อ ๒ (๑) และแก้ไขร่างข้อ ๔ และร่างข้อ ๕ เพื่อระบุคณะกรรมการให้ครบถ้วนตามมาตรา
๙๕ แห่งพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. ๒๕๖๒ ไปประกอบการพิจารณาด้วย
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
8018 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล) | ยธ. | 10/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง พันตำรวจตรี สุริยา สิงหกมล ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองเลขาธิการ ป.ป.ส. (นักบริหารระดับต้น) สำนักงาน
ป.ป.ส ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด
(นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงาน ป.ป.ส กระทรวงยุติธรรม ตั้งแต่วันที่
๙ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๔ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
8019 | ผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การมีส่วนร่วมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชุมชน ในการบริหารจัดการทุนทางวัฒนธรรมชุมชนด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น ของคณะกรรมาธิการการปกครองท้องถิ่น วุฒิสภา | สว. | 10/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการพิจารณารายงานการพิจารณาศึกษา
เรื่อง การมีส่วนร่วมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและชุมชน
ในการบริหารจัดการทุนทางวัฒนธรรมชุมชนด้วยภูมิปัญญาท้องถิ่น
ของคณะกรรมาธิการการปกครองท้องถิ่น วุฒิสภา ซึ่งกระทรวงมหาดไทย
เป็นหน่วยงานหลักรับรายงานพร้อมข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการฯ
ไปพิจารณาร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเห็นชอบข้อเสนอแนะของคณะกรรมาธิการดังกล่าว
และข้อเสนอแนะด้านนโยบาย
ซึ่งอยู่ระหว่างดำเนินการศึกษาและวิเคราะห์มาตรฐานการส่งเสริมศาสนา ศิลปะ วัฒนธรรม
และจารีตประเพณีท้องถิ่น เพื่อปรับปรุงให้สอดคล้องกับนโยบายและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
และได้เร่งรัดปรับปรุงพระราชบัญญัติโบราณสถาน โบราณวัตถุ ศิลปวัตถุ
และพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๐๔
เพื่อกระจายอำนาจและกำหนดให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ด้านการบริหารจัดการเกี่ยวกับการจัดทำฐานข้อมูล (Big
data) ทางด้านวัฒนธรรมควรประกอบด้วย
เว็บไซต์ศูนย์ข้อมูลด้านวัฒนธรรม ระบบเปิดเผยข้อมูลภาครัฐ ระบบตรวจสอบและรับฟังเสียงสื่อสังคมออนไลน์และแอปพลิเคชัน
การบริหารจัดการทุนทางวัฒนธรรม ควรกำหนดกลไกให้ภาครัฐเข้ามามีส่วนร่วมกับประชาชนในท้องที่
ด้านการเสริมสร้างสมรรถภาพของผู้มีส่วนได้เสียและด้านแหล่งรายได้และกองทุนทางด้านวัฒนธรรม
การปลูกฝังจิตสำนึกในการมีส่วนร่วมอนุรักษ์ บริหารจัดการ
และสืบสานวัฒนธรรมและภูมิปัญญาท้องถิ่น
และด้านการออกแบบการเสริมสร้างการมีส่วนร่วมขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และชุมชน
ในการบริหารจัดการทางวัฒนธรรม
ได้มีระเบียบกระทรวงมหาดไทยว่าด้วยคณะกรรมการชุมชนของเทศบาล พ.ศ. ๒๕๖๔
เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการพัฒนาชุมชนท้องถิ่นของตนเองและมีบทบาทในการแก้ไขปัญหาโครงสร้างพื้นฐาน
เศรษฐกิจ สังคม เป็นต้น ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาทราบต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
8020 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นายธีรวัฒน์ วลัยเสถียร) | สธ. | 10/08/2564 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายธีรวัฒน์ วลัยเสถียร ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงาน [ผู้อำนวยการเฉพาะด้าน (แพทย์) ระดับสูง] สำนักงานป้องกันควบคุมโรคที่ ๗ จังหวัดขอนแก่น กรมควบคุมโรค
ให้ดำรงตำแหน่งนายแพทย์ทรงคุณวุฒิ (ด้านเวชกรรมป้องกัน)
กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข ตั้งแต่วันที่ ๑๒ มีนาคม ๒๕๖๔
ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเสนอ
|