รับทราบเรื่อง การจัดสร้างตราไปรษณียากรที่ระลึก 100 ปี พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
เสด็จประพาสยุโรป ซึ่งการสื่อสารแห่งประเทศไทย (กสท.) ได้จัดสร้างขึ้น  เพื่อเป็นที่ระลึกเนื่องในโอกาสการ 
จัดงานฉลอง 100 ปี   พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว   เสด็จประพาสยุโรป    ออกเผยแพร่ในวันที่ 
1 กรกฎาคม 2541       โดยได้อัญเชิญเหรียญที่ระลึกพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวเสด็จประพาส
ยุโรปครั้งแรก พ.ศ. 2440  มาเป็นแบบตราไปรษณียากร     ประกอบภาพแผนที่ยุโรปและธงชาติของประเทศ
ต่าง ๆ ที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เสด็จประพาสในครั้งนั้น จัดพิมพ์เป็นสองลักษณะ คือ  ประ 
เภทที่ระลึกปกติพิมพ์ธรรมดา ราคา 6 บาท   และประเภทที่ระลึกพิเศษพิมพ์ดุนนูนบริเวณเหรียญพระบรมรูป 
ราคา 20 บาท ตามที่กระทรวงคมนาคม เสนอ

          รับทราบเรื่อง การอนุมัติของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย  ให้ข้าราชการตำรวจซึ่งได้
รับอันตรายและเจ็บป่วยเพราะการปฏิบัติราชการ คงอยู่รับราชการในตำแหน่งที่เหมาะสม   ตามที่  
กระทรวงมหาดไทย เสนอ ดังนี้  
           1. นายดาบตำรวจ ปรีชา จำปาศรี ผู้บังคับหมู่ (ทำหน้าที่ช่างเครื่องยนต์) กองร้อยตำรวจ   
ตระเวนชายแดนที่ 246 กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 24   คงอยู่รับราชการในตำแหน่ง 
ตั้งแต่วันที่ 19 ตุลาคม 2521

          รับทราบเรื่อง การอนุมัติของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ข้าราชการตำรวจซึ่งได้  
รับอันตรายและเจ็บป่วยเพราะการปฏิบัติราชการ คงอยู่รับราชการในตำแหน่งที่เหมาะสม  ตามที่ 
กระทรวงมหาดไทย เสนอ ดังนี้  
          1. จ่าสิบตำรวจ ระหาน แมลงผึ้ง  ผู้บังคับหมู่  หน่วยปฏิบัติการพิเศษ  ตำรวจภูธร  จังหวัด 
สุรินทร์ คงอยู่รับราชการในตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่ 25 ตุลาคม 2537

          รับทราบเรื่อง การอนุมัติของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ข้าราาชการตำรวจซึ่งได้ 
รับอันตรายและเจ็บป่วยเพราะการปฏิบัติราชการ  คงอยู่รับราชการในตำแหน่งที่เหมาะสม   ตามที่
กระทรวงมหาดไทย เสนอ ดังนี้ 
          1. จ่าสิบตำรวจ ประภาส เวียงกมล ผู้บังคับหมู่ (ทำหน้าที่เจ้าหน้าที่การข่าว) แผนก 2 กอง    
กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 24 คงอยู่รับราชการในตำแหน่ง  ตั้งแต่วันที่ 1 มิถุนายน 2529

          รับทราบเรื่อง การอนุมัติของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ให้ข้าราชการตำรวจซึ่งได้  
รับอันตรายและเจ็บป่วยเพราะการปฏิบัติราชการ คงอยู่รับราชการในตำแหน่งที่เหมาะสม  ตามที่
กระทรวงมหาดไทย เสนอ ดังนี้
          1. นายดาบตำรวจ ประชุม ฉวีรักษ์ ผู้บังคับหมู่ กองกำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 22 
คงอยู่รับราชการในตำแหน่ง ตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน 2522

          รับทราบสรุปผลของการประชุมคณะกรรมาธิการบริหารองค์การพลังงานโลก  ประจำปี  2540   
ระหว่างวันที่ 10 - 14 พฤศจิกายน 2540 ณ โรงแรงเซ็นทรัลพลาซ่า กรุงเทพมหานคร ตามที่กระทรวง
วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม เสนอ ดังนี้
          1. ประเทศสมาชิกได้ส่งผู้แทนเข้าร่วมประชุมจาก 68 ประเทศ 
          2. วันที่ 10 - 11 พฤศจิกายน 2540   ประชุมย่อยเกี่ยวกับความร่วมมือด้านพลังงาน
          3. วันที่ 12 พฤศจิกายน 2540 เป็นการประชุมระดับกรรมาธิการบริหาร
          4. วันที่ 13 พฤศจิกายน 2540 เป็นการจัด Thai Energy Day    ประกอบด้วย  การบรรยายทาง  
วิชาการทางด้านการอนุรักษ์พลังงาน    การใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพและศิลปวัฒนธรรมไทยกับ 
การอนุรักษ์พลังงาน
          5. วันที่ 14 พฤศจิกายน 2540 บรรยายเกี่ยวกับด้านการเงินที่จะนำไปสนับสนุนการลงทุนเพื่อ 
พัฒนาพลังงาน

          เห็นชอบในหลักการในการเข้าร่วมโครงการความร่วมมือทางเศรษฐกิจระหว่างสหภาพยุโรปและ
ประเทศไทย  และเห็นชอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม ลงนามในบันทึกความเข้าใจในการ
เข้าร่วมโครงการความร่วมมือทางเศรษฐกิจทวิภาคีระหว่างสหภาพยุโรปและประเทศไทย      ตามที่กระ 
ทรวงอุตสาหกรรม เสนอ โดยให้กระทรวงอุตสาหกรรมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศเกี่ยว  
กับร่างบันทึกความเข้าใจไปพิจารณาดำเนินการด้วย สำหรับค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมโครงการ ให้สำนัก  
งานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เจียดจ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปี    ตามความ  
เห็นของสำนักงบประมาณ

          อนุมัติให้แต่งตั้ง นางผาณิต วรดิษฐ์ ผู้อำนวยการส่วนบริหารเงินนอกงบประมาณ สำนักการเงินการคลัง  
กรมบัญชีกลาง เป็นกรรมการผู้แทนกระทรวงการคลังในคณะกรรมการบริหารกองทุน ตามพระราชบัญญัติอ้อย 
และน้ำตาลทราย พ.ศ. 2527 แทน นางวีนัส เกตกะโกมล  ตามที่กระทรวงอุตสาหกรรม เสนอ  โดยให้แต่งตั้งตั้ง 
แต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเป็นต้นไป

          อนุมัติให้สำนักงานสถาบันราชภัฎทำสัญญาก่อสร้างลักษณะก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ  ในการ  
ก่อสร้างอาคารเรียนรวม และอำนวยการ สูง 9 ชั้น 1 หลัง  ของสถาบันราชภัฎสงขลา  โดยตัดทอนรายการ 
จากแบบรูปรายการที่ได้อนุมัติไว้เดิม จำนวน 5 รายการ (ลิฟต์โดยสาร จำนวน 1 เครื่อง,  FIRE ALARM  ทั้ง  
หมด, กระดานเขียนชอล์กทั้งหมด, เคาน์เตอร์อ่างล้างหน้าห้อง  PANTRY  และ สีภายใน-ภายนอกทั้งหมด)  
ในวงเงินงบประมาณ 60,800,000 บาท โดยจ่ายจากงบประมาณปี 2539 งบประมาณปี 2540 และผูกพัน 
งบประมาณปี 2542 ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ เสนอ

          รับทราบรายงานการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล งวดที่ 2 (เมษายน 2540 - กันยายน 2540)
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2540 ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ รายงาน สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
          1. ภาพรวมงาน/โครงการที่สำคัญ รวม 137 งาน/โครงการ
              1.1 นโยบายด้านเศรษฐกิจ (ด้านเกษตรกรรม)
              1.2 นโยบายด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
          2. งาน/โครงการที่สำคัญในการตอบสนองจากนโยบายของรัฐบาล
              2.1 โครงการขุดลอกหนองน้ำและคลองธรรมชาติ
              2.2 งานศูนย์บริการเกษตรกรเคลื่อนที่
              2.3 โครงการพัฒนาการส่งออกสินค้าประมง
              2.4 โครงการฟื้นฟูทะเลไทย
              2.5 งานป้องกันรักษา
              2.6 งานอนุรักษ์ดินและน้ำ
              2.7 งานพัฒนาแหล่งน้ำขนาดเล็ก
              2.8 โครงการเชื่อมโยงสินเชื่อเพื่อการผลิตและบริการตลาดข้าวของสหกรณ์

          อนุมัติให้โรงพยาบาลพิจิตรเบิกจ่ายเงินเกินกว่าที่กำหนดไว้ในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่าย  
ประจำปี   แผนงานป้องกันและควบคุมโรคเอดส์   งานบริการรักษาพยาบาลโรคเอดส์  จำนวน 362,587 
บาท ตามที่กระทรวงสาธารณสุข เสนอ

           คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราช
บัญญัติรถยนตร์พ.ศ. 2522 (ขยายกำหนดอายุการใช้งานของรถยนตร์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคน)  
เพื่อขยายอายุการใช้งานของรถดังกล่าว จากเดิม 7 ปี  เป็นไม่เกิน 9 ปี  ตามที่กระทรวงคมนาคม  เสนอ 
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วดำเนินการต่อไปได้ ทั้งนี้ ให้กระทรวง
คมนาคมรับข้อสังเกตของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีที่เห็นสมควรให้มีมาตรการในการตรวจสอบ
สภาพรถยนตร์รับจ้างที่มีอายุการใช้งานครบ 7 ปีแล้ว  อย่างเข้มงวด   เพื่อป้องกันอุบัติเหตุและเพื่อให้
เกิดความปลอดภัยแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ไปพิจารณาดำเนินการด้วย

คณะรัฐมนตรีมีมติ
           1. เห็นชอบในหลักการโครงการนำร่อง "ผู้ผลักดันสินค้า" และให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์   
กระทรวงพาณิชย์   และกระทรวงอุตสาหกรรม  เป็นหน่วยงานหลักรับผิดชอบเป็นรายสินค้าแบบครบ 
วงจร ตามที่สำนักงาน ก.พ. เสนอ        โดยให้แก้ไขตัวสินค้าที่กระทรวงอุตสาหกรรมขอเป็นผู้ผลักดัน  
จากสินค้าอ้อยและน้ำตาลทราย     และอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์    เป็น  
อุตสาหกรรมอ้อยและน้ำตาลทราย    และอุตสาหกรรมเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์        ตามที่  
กระทรวงอุตสาหกรรม เสนอเพิ่มเติม และให้ดำเนินการต่อไปได้     โดยให้รับความเห็นของสำนักงาน 
คณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการด้วย 
            2. ให้ส่วนราชการ หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องสนับสนุนการดำเนินการของกระทรวงเกษตร
และสหกรณ์ กระทรวงพาณิชย์ และกระทรวงอุตสาหกรรม ด้วย

          1. รับทราบผลการเจรจาบอกเลิกสัญญาโครงการปรับปรุงระบบงานกรรมวิธีภาษีสรรพากรด้วยระบบ
คอมพิวเตอร์ กับกลุ่มบริษัท ไอบีเอ็ม ประเทศไทย จำกัด ตามที่กระทรวงการคลัง เสนอ
          2. อนุมัติให้กรมสรรพากรดำเนินโครงการปรับปรุงระบบงานกรรมวิธีภาษีสรรพากรด้วยระบบคอมพิว    
เตอร์ตอ่ไปตามที่กระทรวงการคลังเสนอ โดยให้ใช้เงินที่มีเหลืออยู่จำนวน 425,771,929.47 บาท  เพื่อเป็นค่า   
ใช้จ่ายในการดำเนินโครงการ    หากปรากฎว่ามีความจำเป็นจะต้องเสียค่าใช้จ่ายสูงกว่าเงินที่มีเหลืออยู่จำนวน   
ดังกล่าว ก็ให้กรมสรรพากรเสนอขอตั้งงบประมาณปี 2542  สำหรับส่วนที่ขาดอยู่ตามความจำเป็น   ตามความ 
เห็นของสำนักงบประมาณต่อไป  

          เห็นชอบให้กระทรวงการคลังเป็นผู้รับผิดชอบงานปรับปรุงศูนย์การแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13  
ศูนย์รังสิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เพื่อเป็นสถานที่แข่งขันและที่พักนักกีฬา  สำหรับการจัดการแข่งขันกีฬา  
คนพิการเฟสปิกเกมส์ ครั้งที่ 7 ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ เสนอ และเพื่อให้งานสามารถดำเนินไป โดยไม่เป็น  
อุปสรรคต่อการก่อสร้างศูนย์การแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์  ครั้งที่ 13          จึงอนุมัติให้กระทรวงการคลังและ 
คณะกรรมการอำนวยการก่อสร้างศูนย์การแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 ศูนย์รังสิต  มหาวิทยาลัยธรรม   
ศาสตร์ ดำเนินการต่อไปได้ ตามที่กระทรวงการคลัง เสนอ    สำหรับค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงให้ดำนินการใน  
วงเงิน 74,271,000 บาท โดยใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2541  งบกลาง  ราย  
การค่าใช้จ่ายสนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬาเฟสปิกเกมส์ ครั้งที่ 7   โดยเบิกจ่ายในลักษณะหมวดค่าครุภัณฑ์ 
ที่ดินและสิ่งก่อสร้าง  เพื่อเป็นค่าก่อสร้างปรับปรุง  ค่าออกแบบ   และค่าควบคุมงานก่อสร้างปรับปรุงดังกล่าว 
และให้กระทรวงการคลังซึ่งรับผิดชอบการดำเนินงานตกลงกับสำนักงบประมาณในรายละเอียดค่าใช้จ่าย  และ  
แผนการใช้จ่ายงบประมาณให้สอดคล้องกับการดำเนินงานในปีงบประมาณ  พ.ศ.  2541    และปีงบประมาณ 
พ.ศ. 2542 อีกครั้งหนึ่งตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

          รับทราบรายงานผลการแก้ไขปัญหาสภาพคล่องทางการเงิน ตามที่ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศ 
ไทยรายงาน สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้ 
          1. สถานการณ์การเงินหลังประกาศยกเลิกมาตรการแบ่งแยกตลาดเงินตราต่างประเทศ  เมื่อวันที่   
30 มกราคม 2541 ในช่วง 2 วันทำการแรก ค่าเงินบาทปรับตัวแข็งขึ้นอย่างรวดเร็วประมาณร้อยละ  6 -   
7  ต่อวัน   จาก 54.92 บาทต่อดอลลาร์ สรอ.  ในวันที่ 30 มกราคม 2541  เป็น 48.78 บาทต่อดอลลาร์  
สรอ. ในวันที่ 3 กุมภาพันธ์ ทำให้สภาพคล่องเงินบาทในตลาดเงินมีความคล่องตัวขึ้นตามไปด้วย   
          2. ปัญหาภาคเอกชนขาดสภาพคล่องในการประกอบธุรกิจ ปี 2540 สินเชื่อสถาบันการเงินชะลอ  
ตัวลงนาม ภาคธุรกิจไม่สามารถหาแหล่งเงินทุนอื่นมาทดแทนได้  จึงได้ดำเนินการต่าง ๆ  เพื่อแก้ไข เช่น
ดำเนินนโยบายการเงินอย่างระมัดระวัง
          3. มาตรการการเงินเพื่อช่วยเหลือผู้ส่งออก ได้แก่  มาตรการที่ดำเนินการไปแล้ว   มาตรการที่อยู่  
ระหว่างดำเนินการ  และมาตรการอื่นเพื่อช่วยเสริมสภาพคล่องทางการเงินแก่ภาคการส่งออกและการค้า  
          4. สรุปความคืบหน้าในการแก้ไขปัญหาสภาพคล่อง 
              4.1 ทางการกำลังเร่งรัดการเพิ่มทุนของสถาบันการเงินให้เร็วที่สุด  ทั้งการเพิ่มทุนภายในประ  
เทศไทยและต่างประเทศ   
              4.2 ธนาคารแห่งประเทศไทยพยายามปรับลดอัตราดอกเบี่ย R/P ลงแบบค่อยเป็นค่อยไป  ซึ่ง 
ขณะนี้อยู่ในระหว่างการเจรจากับ IMF เรื่องการกำหนดนโยบายอัตราดอกเบี้ย
              4.3 ทางการได้ชี้แจงมิให้สถาบันการเงินแข่งขันระดมเงินฝากด้วยการเพิ่มอัตราดอกเบี้ยมากเกิน
ไป รวมทั้งพิจารณาความน่าเชื่อถือของลูกค้าจากความสามารถในการสร้างรายได้ของลูกค้าเป็นสำคัญ 
(cash flow)
          5. เมื่อวันที่ 14 - 15 กุมภาพันธ์ 2541   ได้ร่วมประชุมกับผู้ว่าการธนาคารชาติของกลุ่มประเทศ
สมาชิกอาเซียนที่อินโดนีเซีย ซึ่งมีประเด็นนโยบายที่จะใช้สกุลเงินท้องถิ่น    โดยจะมีการประชุมหารืออีก 
ครั้งหนึ่ง
          6. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังชี้แจงเพิ่มเติมเกี่ยวกับการที่มีข่าวว่าประเทศอินโดนีเซียได้ประ   
กาศว่าจะใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนแบบ  Currency  Board   ซึ่งอาจทำให้กองทุนการเงินระหว่างประเทศ  
ระงับการให้ความช่วยเหลือ และมีผลกระทบมาถึงประเทศไทย  การใช้ระบบอัตราแลกเปลี่ยนดังกล่าว ทาง
ประเทศอินโดนีเซียต้องการให้ค่าเงินรูเปียแข็งตัวขึ้น  แต่ประเทศอินโดนีเซียไม่มีคุณสมบัติที่จะใช้ระบบนี้
เนื่องจากมีระบบธนาคารพาณิชย์ที่ใหญ่มาก  แต่ไม่มีเงินทุนสำรองระหว่างประเทศมากนัก  ส่วนปัญหา
สภาพคล่องการฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยในขณะนี้จะต้องเร่งผลักดันจากธุรกิจภาคเอกชน สำหรับอัตราดอกเบี้ย  
กระทรวงการคลังจะได้หารือกับ IMF  ว่าจะใช้อัตราดอกเบี้ยเป็นกลไกตลาด   Re-purchase     เพื่อที่จะ 
รักษาเสถียรภาพในตลาดอัตราแลกเปลี่ยน     และเมื่อค่าเงินบาทมีอัตราแลกเปลี่ยนที่มีเสถียรภาพและ
เหมาะสม   ตลอดจนมีเงินตราต่างประเทศเข้ามาแล้ว ทางการจะเริ่มผ่อนคลายตลาด R/P ลงได้  ซึ่งจะทำ
ให้อัตราดอกเบี้ยลดลงตามไปด้วย
          7. มอบให้กระทรวงการคลังรับไปเร่งรัดธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทยปรับ
ปรุงกลไกการค้ำประกันสินเชื่อให้บังเกิดผลโดยเร็วที่สุด          
          ตามมติคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ

 

          อนุมัติการแก้ไขรายงานการประชุมคณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจ ครั้งที่ 4/2541
วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2541 ตามมติคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ ดังนี้
          1. เรื่อง การปรับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ฉบับที่ 8  (พ.ศ. 2541 - 2544 ) หน้า 9  ข้อ (3)
แก้ไขเพิ่มเติมเป็นดังนี้ "(30) แนวทางการปรับโครงสร้างทางเศรษฐกิจ  คือ  คณะกรรมการปรับโครงสร้าง 
ทางเศรษฐกิจ (รองนายกรัฐมนตรี นายศุภชัย พานิชภักดิ์ เป็นประธาน) และให้ประสานงานกับคณะกรรม   
การพัฒนาแรงงานและประสานงานการฝึกอาชีพแห่งชาติ (กพร.ปช.)  (รองนายกรัฐมนตรี นายพิชัย รัตต
กุล เป็นประธาน) โดยใกล้ชิดด้วย"
          2. เรื่อง งบประมาณประจำปี 2541 ของรัฐวิสาหกิจ  หน้า 5  ข้อ 2.2  แก้ไขเพิ่มเติมเป็นดังนี้  "2.2  
เห็นควรให้ความเห็นชอบให้รัฐวิสาหกิจทุกแห่งปรับลดค่าใช้จ่ายในงบทำการปี 2541   จากที่เสนอไม่น้อย  
กว่าร้อยละ 3 เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายลงทุนได้ในวงเงินตามข้อ 2.1  ยกเว้นการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศ   
ไทย (กฟผ.)  การประปานครหลวง (กปน.)  และการประปาส่วนภูมิภาค (กปภ.)  ให้ใช้มาตรการปรับลด 
ค่าใช้จ่ายในงบทำการไม่น้อยกว่าร้อยละ 5 เพื่อเพิ่มเงินสดที่ใช้ในการลงทุน  สำหรับการปรับเพิ่มอัตราค่า  
บริการของรัฐวิสาหกิจเห็นชอบให้กระทำได้เฉพาะกรณีการปรับอัตราค่าบริการ   เพื่อให้สอดคล้องกับต้น
ทุนที่เพิ่มขึ้นจริงเท่านั้น ทั้งนี้ ให้ กฟผ. พิจารณาวิธีการขายหุ้นเพิ่มด้วย"

          รับทราบรายงานสรุปผลการบริหารงบประมาณของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ   ตั้งแต่วันที่
1 ตุลาคม 2540 - 15 กุมภาพันธ์ 2541 ตามที่สำนักงบประมาณ รายงาน สรุปได้ดังนี้ 
          1. การอนุมัติเงินประจำงวดจนถึงวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2541  สำหรับปีงบประมาณ 2541  มี  
จำนวนทั้งสิ้น 278,118.1 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 34.8  ของวงเงินงบประมาณทั้งสิ้นเทียบกับระยะ  
เดียวกันของปีก่อนซึ่งได้มีการอนุมัติเป็นจำนวน 596,504.3 ล้านบาท หรือร้อยละ 64.5   ของวงเงิน   
งบประมาณปีก่อน โดยการอนุมัติเงินประจำงวดสำหรับรายจ่ายลงทุนมีจำนวน 60,980.4 ล้านบาท   
หรือประมาณร้อยละ 23.8 และรายจ่ายประจำ 217,137.6 ล้านบาท หรือประมาณร้อยละ 40.0
          2. การเบิกจ่ายจริงงบประมาณของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ  ปีงบประมาณ 2541   มีการ 
เบิกจ่ายจริงจนถึงวันที่ 31 มกราคม 2541 จำนวน 177,101.3 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 22.1   ของ 
วงเงินงบประมาณ เทียบกับจำนวน 210,947.6 ล้านบาท หรือร้อยละ 22.8   ของวงเงินงบประมาณ     
ในระยะเดียวกันของปีก่อน  และจากรายงานเบื้องต้นโดยกรมบัญชีกลางปรากฎว่าการเบิกจ่ายจนถึง    
วันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2541 มีการเบิกจ่ายจริงจำนวน 181,902.0 ล้านบาท คิดเป็นร้อยละ 22.7 ของ
วงเงินงบประมาณ

          อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติสัตว์พาหนะ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....   ตามที่กระทรวงมหาดไทย  
เสนอ  และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยรับข้อสังเกตของกระทรวงยุติธรรม 
ในร่างมาตรา 6  ในส่วนของมาตรา 13 วรรคสาม  และร่างมาตรา 8  ในส่วนของมาตรา 18 วรรคสาม 
ซึ่งควรมีบทบัญญัติกำหนดระยะเวลาที่แน่นอน  สำหรับการพิจารณาเพื่อมีคำสั่งอนุญาตของนายทะเบียน
ท้องที่ หรือสำหรับการพิจารณาเพื่อมีคำวินิจฉัยของผู้ว่าราชการจังหวัด  แล้วแต่กรณี   ทั้งนี้  กำหนดระยะ
เวลานั้นต้องไม่นานเกินสมควรจนอาจเป็นเหตุให้เกิดความเสียหายแก่เจ้าของสัตว์ได้ ไปพิจารณาด้วย 
แล้วนำเสนอคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร  ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป

          อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีการะเบียบข้าราชการองค์การบริหารส่วนจังหวัด  พ.ศ. .....   
ตามที่กระทรวงมหาดไทย  เสนอ       และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็น
เรื่องด่วน โดยให้แก้ไขเพิ่มเติมตามความเห็นของสำนักงาน ก.พ. แล้วดำเนินการต่อไปได้  ดังนี้
          1. องค์ประกอบของคณะกรรมการข้าราชการไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักร  
ไทย  มาตรา  288   เรื่อง  ความเป็นกลางและความเป็นอิสระในการพิจารณา   ขาดการเชื่อมโยงกับ
สภาวะการเงินการคลัง และมาตรฐานการบริหารงานบุคคลของข้าราชการฝ่ายพลเรือน
          2. องค์ประกอบ อ.ก.จ. จังหวัด และ อ.ก.จ. องค์การบริหารส่วนจังหวัด  ไม่มีองค์ประกอบของ 
ผู้ทรงคุณวุฒิไม่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และองค์การกลางบริหารงานบุคคล
ทั่วไป
          3. ร่างมาตรา 5 ควรแก้ไขให้ ก.จ. เป็นผู้กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการสรรหากรรมการผู้ทรง 
คุณวุฒิ และผู้แทนองค์กรปกครองท้องที่ 
          4. ร่างมาตรา 11 ควรให้อำนาจนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด   บรรจุ  และแต่งตั้งข้าราช  
การที่มิใช่ตำแหน่งบริหาร โดยอนุมัติ ก.จ.  หรือกำหนดกลไกและวิธีการแต่งตั้งอื่น เพื่อให้มีหลักประ 
กันความเป็นธรรม
          5. ร่างมาตรา 7 ไม่ควรกำหนดให้สำนักงาน ก.จ.   มีหน้าที่รับรองคุณวุฒิ   กำหนดเงินเดือน  
และระดับตำแหน่งเพื่อประโยชน์ในการบรรจุแต่งตั้ง        เพราะสำนักงาน ก.พ.  เป็นศูนย์กลางการ 
พิจารณาในเรื่องนี้ ทำให้มีมาตรฐานระหว่างข้าราชการประเภทต่าง ๆ