รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการการสาธารณสุขพิจารณาร่างพระราชบัญญัติสถาน
พยาบาล พ.ศ. .... ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา เสนอ สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้ 
          1.กระทรวงสาธารณสุขควรพิจารณากำหนดมาตรฐานการบริการของสถานพยาบาล  เพื่อ 
ให้ผู้ป่วยได้รับบริการในการรักษาพยาบาลที่มีประสิทธิภาพและเสียค่าใช้จ่ายในอัตราที่เป็นธรรม 
          2. ให้กระทรวงสาธารณสุขดำเนินการออกกฎกระทรวงตามร่างพระราชบัญญัติ  ฯ    อย่าง 
รวดเร็วและจริงจัง
          3. โดยที่การควบคุมดูแลให้สถานพยาบาลมีมาตรฐานตามที่กฎหมายกำหนด เป็นเรื่องที่มี  
ความสำคัญอย่างยิ่ง     จึงจำเป็นต้องมีการตรวจสอบและการประเมินผลโดยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง   
อย่างสม่ำเสมอ     แต่เนื่องจากในปัจจุบันสถานพยาบาลได้เพิ่มจำนวนขึ้นอย่างรวดเร็ว  ทำให้เจ้า  
หน้าที่ซึ่งมีอัตรากำลังที่ค่อนข้างจำกัดไม่สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ   จึงสมควรจะ  
ได้มีการพิจารณาแก้ไขในเรื่องนี้
          ทั้งนี้ มอบให้กระทรวงสาธารณสุขรับไปพิจารณาดำเนินการ   แล้วแจ้งให้สำนักเลขาธิการ
คณะรัฐมนตรีทราบเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป

          อนุมัติเลื่อนเงินเดือน แต่งตั้งยศ  และขอพระราชทานยศ  ให้กับข้าราชการที่เสียชีวิตเนื่องจากการ  
ปฏิบัติราชการ จำนวน 3 ราย ตามความเห็นของคณะกรรมการพิจารณาบำเหน็จความชอบในการประชุม  
ครั้งที่ 1/2541  เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2541  ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี  (คณะกรรมการ  
พิจารณาบำเหน็จความชอบ) เสนอ ดังนี้   
          1. เลื่อนเงินเดือน  นายดาบตำรวจ  ศิริพงษ์  หินเธาว์   จำนวน  5  ขั้น      กับขอพระราชทานยศ   
พันตำรวจตรี 
          2. เลื่อนเงินเดือน  นายดาบตำรวจ  พันเทพ  สุขสำราญ  จำนวน  3  ขั้น    กับขอพระราชทานยศ  
ร้อยตำรวจเอก
          3. เลื่อนเงินเดือน  พลตำรวจสมัคร  เอกพล  จักรสมศักดิ์  จำนวน  3  ขั้น   กับขอแต่งตั้งยศ จ่าสิบ 
ตำรวจ

          รับทราบรายงานเกี่ยวกับเรื่อง การค้าต่างตอบแทนด้านปิโตรเลียมและการปรับปรุงคุณภาพ
น้ำมันเชื้อเพลิงเพื่อลดค่าใข้จ่ายในการเติมสารเติมแต่งที่ไม่จำเป็น     ตามที่สำนักงานคณะกรรมการ 
นโยบายพลังงานแห่งชาติ (สพช.) รายงาน สรุปได้ดังนี้
          1. การดำเนินการในลักษณะของการค้าต่างตอบแทน   รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี   
(นายสาวิตต์ โพธิวิหค) ได้มีคำสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการเสนอนโยบายการค้าต่างตอบแทนด้านปิโตร 
เลียม  เพื่อเสนอนโยบาย แนวทาง และมาตรการในการส่งเสริมการดำเนินการค้าต่างตอบแทนด้าน 
ปิโตรเลียม   เพื่อสนับสนุนการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจของประเทศ  โดยมีเลขาธิการคณะกรรมการ
นโยบายพลังงานแห่งชาติ  เป็นประธาน   คณะกรรมการ  ฯ ได้มีการประชุมสรุปได้ว่ามีความเป็นไป
ได้ที่จะดำเนินการค้าต่างตอบแทน   โดยขณะนี้ สพช.  อยู่ระหว่างการศึกษาในรายละเอียดเกี่ยวกับ
ปริมาณน้ำมันดิบที่จะทำการค้าต่างตอบแทน  และการชดเชยต้นทุนส่วนเพิ่มจากการจ้างพ่อค้าคน
กลางหรือ  Trading  Firm ในการหาตลาดในการแลกเปลี่ยนสินค้า เพื่อจัดทำแนวทางที่ชัดเจนต่อไป
          2. การปรับปรุงคุณภาพน้ำมันเชื้อเพลิง  สพช.  และกรมทะเบียนการค้า  ได้ร่วมกันหารือกับ   
โรงกลั่นน้ำมัน ผู้ค้าน้ำมัน  และสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย  สาขายานยนต์แล้ว    เห็นควร   
ปรับปรุงคุณภาพน้ำมันเบนซิน โดยยกเลิกเบนซินประเภท 95 ที่มีสารเคลือบบ่าวาล์ว  และเพิ่ม 
นำมันเบนซินประเภทออกเทน 91  ที่มีคุณภาพปานกลางแทน   โดยให้มีผลบังคับใช้เร็วที่สุดตาม
กฎหมายของกระทรวงพาณิชย์ตั้งแต่วันที่ 1 พฤษภาคม 2541 เป็นต้นไป ซึ่งขณะนี้กำลังอยู่ระหว่าง
การพิจารณาลงนามของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
          3. การยกเลิกสารเติมแต่งที่ไม่จำเป็นจากต่างประเทศ  รวมทั้งการที่โรงกลั่นให้ความร่วมมือ
ในการลดค่าออกเทนจะทำให้ต้นทุนการผลิตน้ำมันเบนซินในประเทศลดลงได้ปีละประมาณ 1,777 
ล้านบาท  นอกจากนี้จะทำให้ผู้ใช้น้ำมันสามารถลดค่าใช้จ่ายในการใช้น้ำมันได้ในระดับ 20 - 40 
สตางค์/ลิตร     สำหรับรถยนต์และรถจักรยานยนต์ 4 จังหวะ    และ 20 - 80 สตางค์/ลิตร สำหรับ
รถจักรยานยนต์ 2 จังหวะ
          ทั้งนี้  ให้ สพช.  เร่งรัดการจัดทำแนวทางดำเนินการเกี่ยวกับการค้าต่างตอบแทนด้าน
ปิโตรเลียมให้แล้วเสร็จโดยเร็ว

          อนุมติในหลักการสร้างอาคารที่ทำการถาวรด่านตรวจคนเข้าเมือง ด่านศุลกากร ด่านควบคุมโรค
ด่านกักกันพืชและสัตว์ที่บริเวณเชิงสะพานมิตรภาพไทย - พม่า ข้ามแม่น้ำเมย (ฝั่งไทย) ได้ตามที่กระทรวง
มหาดไทย  เสนอ  สำหรับรายละเอียดแนวทางในการกำหนดสถานที่ตั้ง  และพื้นที่ใช้สอยของแต่ละหน่วย
งาน  รวมทั้งงบประมาณในการดำนเนินการให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ

          เห็นชอบให้กำหนดอัตราเงินเดือนของ นายธงชัย ชิวปรีชา ผู้อำนวยการสถาบันส่งเสริมการสอน  
วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (สสวท.)  ให้ได้รับเงินเดือนอัตรา 62,080 บาท    ซึ่งสูงกว่าอัตราเงินเดือน     
รองผู้อำนวยการ สสวท. 1 ขั้น    และเท่ากับอัตราเงินเดือนของผู้อำนวยการคนก่อน   ทั้งนี้   ตั้งแต่วันที่  
7 พฤษภาคม 2540 เป็นต้นไป ตามความเห็นของกระทรวงการคลัง

          อนุมัติให้แต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในหลักราชการหรือการบริหารงานบุคคลในคณะกรรมการ
ข้าราชการครู จำนวน 2 คน ตามที่กระทรวงศึกษาธิการ เสนอ  โดยให้แต่งตั้งตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ 
เป็นต้นไป ดังนี้
          1. นายจำรัส  นองมาก            รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการ
          2. นายสุธรรม  ปั้นประเสริฐ     ที่ปรึกษาด้านนโยบายและแผนการศึกษา     
                                                     สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาแห่งชาติ
          แทน พลเอก นฤนาท  กัมปนาทแสนยากร และ นายสงบ  ปานดอกไม้

          คณะรัฐมนตรีมีมติให้กระทรวงมหาดไทยประสานงานกับสำนักงบประมาณเพื่อร่วมกันพิจารณารายการและ
รายละเอียดค่าใช้จ่ายในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้งตามลำดับความสำคัญและความจำเป็นเร่งด่วนให้ถูกต้องตาม
ข้อเท็จจริงในแต่ละพื้นที่ เพื่อให้การช่วยเหลือเป็นระบบไม่เกิดความซ้ำซ้อน  และสามารถพิจารณาวงเงินค่าใช้จ่ายได้  
อย่างถูกต้อง   เกิดประสิทธิภาพสูงสุด   ทันต่อเหตุการณ์และสอดคล้องกับภาวะข้อจำกัดทางการเงินของประ  
เทศที่ต้องประหยัด  ทั้งนี้  ให้รับความเห็นของคณะรัฐมนตรีที่เห็นว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการขุดเจาะ ซ่อม   
แซมและบำรุงรักษาบ่อบาดาล  ควรสำรวจบ่อที่อยู่ในความรับผิดชอบเพื่อทำการเป่าบ่อ  ล้างบ่อ  ทำนุบำรุง  
หรือซ่อมแซมให้อยู่ในสภาพที่ใช้การได้      ซึ่งเมื่อดำเนินการดังกล่าวแล้วอาจจะไม่มีความจำเป็นต้องเจาะบ่อ 
บาดาลใหม่ ไปพิจารณาดำเนินการด้วย

          อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาการทำสำมะโนประชากรและเคหะ พ.ศ. ....  ตามที่สำนักนายก    
รัฐมนตรี เสนอ   และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา  แล้วดำเนินการต่อไปได้   โดย  
ให้สำนักงานสถิติแห่งชาติรับข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี เกี่ยวกับจำนวนและลักษณะของประชากรทุกคนใน  
ทุกครัวเรือน  รวมถึงจำนวนและลักษณะที่อยู่อาศัยของประชากร เพื่อนำข้อมูลดังกล่าวมาใช้ในการวางแผน 
และกำหนดนโยบายในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ  และใช้ประกอบการวางแผนบริหารของ 
หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งภาครัฐบาลและเอกชน       และโดยที่ปัจจุบันสภาพเศรษฐกิจและสังคมของประเทศได้ 
เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมมาก     จึงสมควรปรับปรุงรูปแบบและเนื้อหาการจัดทำสำมะโนประชากรและเคหะ  
เพื่อให้ได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์ตอบสนองต่อสภาพเศรษฐกิจและสังคม   ตลอดจนการใช้งานของหน่วยงาน 
ต่าง ๆ ไปพิจารณาด้วย

          คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ถอนเรื่อง การออกสลากบำรุงการกุศลของสำนักงานสลากกินแบ่งรัฐบาล เพื่อเป็นการ
แก้ปัญหาฐานะการคลังของประเทศ คืนไปได้ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เสนอ

          เห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฏากรว่าด้วยการกำหนดกิจการที่ได้รับ 
ยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....  (ยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะให้แก่กองทุนสิ่งแวดล้อม)    ตามที่ 
กระทรวงการคลัง เสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาแล้ว และให้ดำเนินการต่อ 
ไปได้ 

          อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดค่าป่วยการ ค่าพาหนะเดินทาง ค่าเช่าที่พัก และค่าตอบ 
แทนอย่างอื่นของผู้พิพากษาสมทบศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ  พ.ศ. .....  (ค่าป่วย
การวันละ 1,000 บาท ค่าพาหนะเดินทาง  ค่าเช่าที่พัก  และค่าเบี้ยงเลี้ยงเดินทาง  อัตราเท่ากับผู้พิพากษา 
ศาลที่ผู้พิพากษาสมทบนั้นประจำอยู่) ตามที่กระทรวงยุติธรรม เสนอ     และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการ
กฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ 

          ให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง (นายพิสิฐ ลี้อาธรรม) รับเรื่องการกำหนดอัตราเงิน  
สมทบเพื่อการจ่ายประโยชน์ทดแทนกรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย คลอดบุตร  ทุพพลภาพ  และ  
ตาย  ในร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดระยะเวลาเริ่มดำเนินการจัดเก็บเงินสมทบเพื่อการให้ประโยชน์  
ทดแทนกรณีสงเคราะห์บุตรและกรณีชราภาพ พ.ศ. ....    ตามที่กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม 
เสนอ รับไปพิจารณา แล้วเสนอคณะรัฐมนตรีอีกครั้งหนึ่ง

          1. รับทราบมติคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.)  เมื่อวันที่   
16 มกราคม 2541 เรื่อง การปรับปรุงแนวทางการกำหนดอัตราเงินเดือน/ค่าจ้างประจำเพิ่มใหม่   ปี  
งบประมาณ พ.ศ. 2542 - 2544   และแนวทางดำเนินการเกี่ยวกับอัตราข้าราชการ/ลูกจ้างประจำ ที่  
ต้องยุบเลิกจากผลการเกษียณอายุ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 - 2544    ตามมาตรการกำหนดขนาด 
กำลังคนภาครัฐ  และเรื่องอนุมัติให้ยกเว้นการยุบเลิกอัตราจากผลการเกษียณอายุปีงบประมาณ พ.ศ.  
2537 - 2540 สำหรับตำแหน่งลูกจ้างประจำในส่วนราชการต่าง ๆ   และการอนุมัติอัตราค่าจ้างประ  
จำเพิ่มใหม่ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2541  ในส่วนราชการต่าง ๆ     ตามที่รองนายกรัฐมนตรี  (นายพิชัย
รัตตกุล) ประธานคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ เสนอ
          2. คณะรัฐมนตรีมีข้อสังเกตว่า    แม้คณะรัฐมนตรีจะได้มีมติเกี่ยวกับเรื่องการกำหนดเป้าหมาย   
และนโยบายกำลังคนภาครัฐหลายครั้งต่อเนื่องกันมา  โดยมีแนวความคิดว่าจะไม่มีการเพิ่มอัตรากำลัง   
คนในภาครัฐอีก     แต่ปรากฎว่ายังมีการเพิ่มกำลังคนในภาครัฐในช่วงตั้งแต่ปี พ.ศ. 2537  เป็นต้นมา
ประมาณ 53,000 กว่าตำแหน่ง โดยอาศัยข้อยกเว้นของมติคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว   นอก   
จากนี้มติคณะรัฐมนตรีที่กำหนดให้มีการยุบเลิกอัตราจากผลการเกษียณอายุราชการก็มีส่วนราชการ   
ขอยกเว้นอยู่เสมอ ทำให้การควบคุมกำลังคนภาครัฐไม่เป็นไปตามกรอบนโยบาย      และขณะนี้คณะ   
กรรมการปฏิรูประบบราชการ (ปรร.)  กำลังพิจารณากำหนดมาตรการในเรื่องนี้อยู่ตามแผนแม่บท  
การปฏิรูประบบราชการ        จึงสมควรให้มีการนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาทบทวนมติคณะ 
รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องต่อไป

          1. เห็นชอบกรอบนโยบายการแก้ไขปัญหาแรงงานต่างชาติผิดกฎหมาย ตามมติสภาความมั่นคง  
แห่งชาติ เมื่อวันที่ 14 มกราคม 2541 และให้ดำเนินการต่อไปได้  ตามที่สำนักงานสภาความมั่นคงแห่ง  
ชาติ เสนอ  
          2. โดยที่ปัญหาเรื่องแรงงานต่างชาติ  เป็นปัญหาที่มีความอ่อนไหวต่อความสัมพันธ์ระหว่างประ  
เทศ   ประกอบกับการเสนอข่าวเกี่ยวกับเรื่องนี้ของสื่อมวลชนต่างประเทศเป็นไปในทางไม่สอดคล้องกับ
ข้อเท็จจริง   ซึ่งกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศ   โดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน    จึงให้ 
กระทรวงการต่างประเทศประสานกับกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม   เพื่อดำเนินการในเชิงป้อง 
กันหรือแก้ไขเพื่อให้เกิดความเข้าใจที่ดีกับประเทศไทยในสายตาของสังคมโลก   โดยผ่านสื่อมวลชนของ
ต่างประเทศ รวมทั้งสื่อมวลชนในประเทศเองด้วยว่า ประเทศไทยจะดำเนินการโดยยึดหลักความถูกต้อง
ตามกฎหมายและหลักสิทธิมนุษยชนเป็นสำคัญเช่นเดียวกับที่นานาประเทศปฏิบัติ

          รับทราบรายงานผลการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาล งวดที่ 2 ปีงบประมาณ 2540
(เมษายน - กันยายน 2540) ตามที่สำนักนายกรัฐมนตรี รายงาน สรุปสาระสำคัญได้ดังนี้
          1. ภาพรวมงานที่สำคัญของสำนักนายกรัฐมนตรี รวมทั้งสิ้น 353 โครงการ
          2. โครงการ/แผนงานที่สำคัญ ได้แก่
              2.1 โครงการ/งาน ส่งเสริมประสิทธิภาพในส่วนราชการ ระยะเวลาดำเนินการ 3 ปี (ปี 2539 - 2541)
                    งบประมาณ 87,180,000 บาท
              2.2 โครงการ/งาน แผนงานสืบสวนสอบสวน เรื่อง กล่าวหาร้องเรียนเจ้าหน้าที่ของรัฐทุจริตหรือ
                    ประพฤติมิชอบในวงราชการแล้วเสร็จ 557 เรื่อง
              2.3 โครงการ/งาน พัฒนาความร่วมมือทางเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง 6 ประเทศ (กัมพูชา จีน
                    (มลฑลยูนาน) ลาว พม่า ไทย เวียดนาม)
              2.4 โครงการ/งาน ปีท่องเที่ยวไทย 2541 - 2542 หรือ Amazing Thailand 1998 - 1999
              2.5 โครงการ/งาน การให้ความร่วมมือทางเศรษฐกิจและวิชาการกับต่างประเทศ
              2.6 โครงการ/งาน พัฒนาที่สูงไทย - เยอรมัน
              2.7 โครงการ/งาน การแก้ไขปัญหาการจราจรตามแนวพระราชดำริ

          รับทราบคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง  แต่งตั้งคณะกรรมการประสานและติดตามการปฏิบัติ  
ตามโครงการเงินกู้จากธนาคารพัฒนาเอเซียเพื่อปรับโครงสร้างทางสังคม     โดยมีรองนายกรัฐมนตรี 
(นายพิชัย รัตตกุล) เป็นประธานกรรมการ รองนายกรัฐมนตรี (นายปัญจะ เกสรทอง และ นายสุวิทย์
คุณกิตติ)  เป็นรองประธาน   มีรองเลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่
เลขาธิการคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติมอบหมาย  เป็นกรรมการและเลขานุ
การ  มีผู้แทนสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง กระทรวงการคลัง เป็นกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ  และ
มีกรรมการอื่นอีก 18 คน  โดยมีองค์ประกอบและอำนาจหน้าที่รวม 6 ประการ ตามที่สำนักเลขาธิการ
คณะรัฐมนตรี เสนอ

          รับทราบรายงานและข้อเสนอแนะเกี่ยวกับการพิจารณาศึกษาบทบาทของกองทัพในการพัฒนา  
ความสัมพันธ์กับกองทัพและรัฐบาลมิตรประเทศเพื่อสนับสนุนมาตรการรักษาความมั่นคงของชาติ ตาม 
ที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา รายงาน สรุปสาระสำคัญ ดังนี้ 
          1. กำหนดนโยบายให้กระทรวงกลาโหมและกองทัพไทยสนับสนุนการดำเนินนโยบายของรัฐบาล
ต่อประเทศเพื่อนบ้าน หรือมิตรประเทศในแนวทางที่ประสานงานกับกระทรวงการต่างประเทศโดยใกล้ชิด  
โดยกำหนดไว้ในนโยบายของรัฐบาล  พระราชบัญญัติจัดระเบียบราชการกระทรวงกลาโหม พ.ศ. 2503  
นโยบายของสภาความมั่นคงแห่งชาติ  วัตถุประสงค์ของกระทรวงกลาโหม  แผนยุทธศาสตร์    แผนโครง
สร้างกองทัพไทย  แผนป้องกันประเทศและกระทรวงการต่างประเทศ
          2. กำหนดบทบาทของกองทัพในการพัฒนาความสัมพันธ์กับมิตรประเทศ
          3. การปฏิบัติงานช่วยเหลือมิตรประเทศ ประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดกับประเทศ
ไทย เช่น การช่วยสร้างเส้นทาง  สนามบิน  สิ่งสาธารณูปโภคอันเป็นโครงสร้างพื้นฐานจำเป็น
ของประเทศ
          4. การดำเนินความสัมพันธ์ทางทหารระหว่างกองทัพไทยกับกองทัพมิตรประเทศ การ 
กำหนดแนวทางการปฏิบัติในระดับรัฐบาล   โดยอาจมีการนำมาตรการเสริมความเชื่อมั่น  ซึ่ง 
เป็นมาตรการทางการทูตในเชิงป้องกันมาใช้เป็นแนวนโยบายในขั้นต้น 
          5. จัดตั้งหรือปรับปรุงหน่วยงานของกองทัพที่มีอยู่เป็นองค์กรรับผิดชอบในการปฏิบัติ
งานโดยตรงและต่อเนื่อง
          ทั้งนี้   มอบให้กระทรวงกลาโหม  กระทรวงการต่างประเทศ  และสภาความมั่นคงแห่ง
ชาติ รับไปพิจารณาดำเนินการ  แล้วแจ้งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบ เพื่อนำเสนอ 
คณะรัฐมนตรีต่อไป

          รับทราบรายงานการพิจารณาศึกษา เรื่อง การเตรียมนักกีฬาทีมชาติไทยเพื่อเข้าแข่งขันในระดับ
นานาชาติ ตามที่สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา รายงาน สรุปสาระสำคัญ ดังนี้
          1. การดำเนินการโดยเร่งด่วน
              1.1 ให้มีคณะทำงานคณะหนึ่งติตามและประเมินผลการทำงานของการกีฬาแห่งประเทศไทย  
เกี่ยวกับการเตรียมนักกีฬา   และการเตรียมตัวเป็นเจ้าภาพกีฬา
เอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13  
              1.2 ตั้งคณะทำงานขึ้นกำกับการดำเนินงานของกรมพลศึกษาในส่วนที่จะต้องสนับสนุนการ  
เตรียมนักกีฬา ฯ ทั้งในระยะสั้นและระยะยาว โดยให้กระทรวงศึกษาธิการเป็นผู้แต่งตั้ง
              1.3 ปรับงบประมาณของปี 2541 เพื่อการเตรียมนักกีฬาฯ   ตามที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง 
ร้องขอและได้รับการตรวจสอบความถูกต้องและความจำเป็นแล้ว
              1.4 ประชาสัมพันธ์ให้ตรงเป้าหมายมากกว่าปัจจุบันและให้โอกาสภาคเอกชนเข้ามามีส่วน
ร่วมมากกว่านี้ 
              1.5 ต้องคำนึงถึงความต่อเนื่องของการดำเนินงานหลังจากการแข่งขันกีฬาฯ แล้ว  
ทั้งในด้านการใช้ประโยชน์จากอาคารสถานที่ และการรักษาสิ่งแวดล้อม 
              1.6 ให้รองนายกรัฐมนตรีคนหนึ่งเป็นผู้รับผิดชอบ   มีอำนาจสั่งการเพื่อแก้ปัญหา หรือเร่ง   
รัดให้งานเป็นไปตามเป้าหมาย    และต้องรายงานความก้าวหน้าต่อคณะรัฐมนตรีทุกๆ   เดือน 
แล้วประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนได้รับทราบทุกสองเดือนจนกว่าการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์จะผ่านพ้นไป
          2. การดำเนินการในระยะยาว
              2.1 กำหนดให้กระทรวงศึกษาธิการร่วมมือกับหน่วยงานกีฬาอย่างจริงจัง    ในการพัฒนา  
การการกีฬาระดับโรงเรียน
              2.2 ให้การสนับสนุนการพัฒนานักกีฬาแก่สมาคมกีฬา     และกำกับดูแลหน่วยงานที่เกี่ยว  
ข้องให้ดำเนินการที่เกี่ยวกับการเตรียมทีมนักกีฬาทีมชาติไทย  ในด้านงบประมาณ  การฝึกซ้อม รวม
ทั้งเรื่องที่พัก และด้านสวัสดิการ     
              2.3 ปรับปรุงแก้ไขพระราชบัญญัติ เช่น พระราชบัญญัติกีฬาปี 2528   กฎกระทรวง    และ
ระเบียบต่าง ๆ ที่ไม่เอื้อต่อการบริหารกิจการกีฬาแห่งชาติ
              2.4 การจัดตั้งศูนย์ฝึกซ้อมนักกีฬาไทยที่มีความพร้อมและได้มาตรฐานสากล
              2.5 ส่งเสริมให้กองทุนสวัสดิการกีฬา มีเงินทุนเพียงพอที่จะดำเนินการให้บรรลุวัตถุประสงค์  
             2.6 ส่งเสริมให้มีการจัดตั้งองค์กรกีฬาอาชีพ
             2.7 เพิ่มเงินสนับสนุนกองทุนพัฒนากีฬา  
          ทั้งนี้  มอบให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี  และกระทรวงศึกษาธิการรับไปพิจารณา 
ดำเนินการ แล้วแจ้งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีทราบ เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป

          รับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการบริหารโครงการพัฒนาลุ่มแม่น้ำป่าสัก ฯ  ครั้งที่ 1/2541 
วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2541   ตามที่ศูนย์ประสานการปฏิบัติการโครงการพัฒนาลุ่มน้ำป่าสัก  อันเนื่องมาจาก  
พระราชดำริ เสนอ สรุปได้ดังนี้
          1. ที่ประชุมมีมติรับทราบ
              1.1 สรุปผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการด้านต่าง ๆ ทั้ง 7 คณะ
              1.2 การจัดทำและติดตั้งบานประตูควบคุมการระบายน้ำของโครงการเขื่อนเก็บกักน้ำแม่น้ำป่าสัก 
ของกรมชลประทาน 
          2. ที่ประชุมมีมติในเรื่องเพื่อพิจารณา ดังนี้
              2.1 เห็นชอบแผนปฏิบัติการจัดหาที่ดินโดยวิธีเวนคืนที่ดินและแนวทางการแก้ไขปัญหาด้านการจัด
หาที่ดิน  ตามที่คณะอนุกรรมการจัดหาที่ดิน ฯ  เสนอ 
              2.2 ให้กรมชลประทานดำเนินการตามแผนปฏิบัติการเดิมที่ตั้งไว้ คือ ให้เริ่มเก็บกักน้ำในวันที่ 15  
มิถุนายน 2541
              2.3 เห็นชอบการปรับแผนงาน และงบประมาณเงินชดเชยพิเศษแทนการจัดสรรที่ดินแปลงอพยพ 
ที่ดินแปลงอพยพ
              2.4 ให้จังหวัดลพบุรี และ การรถไฟแห่งประเทศไทย  ร่วมกันหาแนวทางแก้ไขปัญหาเรื่องที่ดินใน 
จุดที่ยังไม่สามารถเข้าดำเนินการได้ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
              2.5 ให้กระทรวงคมนาคมพิจารณาหาแนวทางแก้ไขให้การรถไฟแห่งประเทศไทย  ในเรื่องงบประ 
มาณที่จะต้องนำมาใช้ในการปรับปรุงระบบสุขาให้ถูกหลักสุขาภิบาลในขบวนรถโดยสาร     ในเส้นทางแก่ง
คอย - บัวใหญ่ ซึ่งในหลักการให้การรถไฟ ฯ ลงทุนด้วยตนเอง 
              2.6 เห็นชอบให้กรมชลประทานเจียดจ่ายเงินงบประมาณประจำปี 2541    จำนวน 2,674,156  
บาท เพื่อสนับสนุนการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์และทำความเข้าใจกับมวลชน โครง    
การพัฒนาลุ่มน้ำป่าสัก ฯ ตามแผนงานที่ได้เสนอไว้
              2.7 เห็นชอบตามที่จังหวัดลพบุรี  เสนอขออนุมัติเบิกจ่ายเงินที่คลังจังหวัดเพิ่มขึ้นเป็นกรณีพิเศษ  
เพื่อใช้ในโครงการป่าสัก ฯ นอกเหนือจากที่ได้รับอนุมัติให้เบิกจ่ายตามปกติ โดยให้กระทรวงการคลังรับไป
ดำเนินการต่อไป
              2.8  เห็นชอบให้ขยายระยะเวลาการเบิกจ่ายเงินงบประมาณปี 2540     ที่กรมชลประทาน  และ 
สำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม ขอกันไว้เบิกจ่ายเหลื่อมปี กรณีไม่มีหนี้ผูกพัน สำหรับโครงการ
พัฒนาลุ่มน้ำป่าสัก ฯ ให้ขยายระยะเวลาเบิกจ่ายไปจนถึงสิ้นปีงบประมาณ 2541 โดยให้ทั้งสองหน่วยงาน
ประสานในรายละเอียดกับกระทรวงการคลังต่อไป

          อนุมัติให้กรมทางหลวงขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ เพื่อจ้างเหมาทำการก่อสร้าง  
ทางหลวงหมายเลข  117  สายนครสวรรค์ - พิษณุโลก   ตอนแยกไปกำแพงเพชร - มหาวิทยาลัยนเรศวร  
จากปีงบประมาณ พ.ศ. 2540 - 2542 เป็นปี พ.ศ. 2541 - 2543 ในวงเงิน 777,492,105 บาท   ตามที่ 
กระทรวงคมนาคม เสนอ