ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 271 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 5401 - 5420 จากข้อมูลทั้งหมด 123961 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
5401 | ร่างพระราชบัญญัติประกันชีวิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ (กลุ่มที่ 2 บทบัญญัติเกี่ยวกับการเสริมสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงของบริษัท [สรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน 2565)] | ปสส. | 08/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
วันจันทร์ที่ ๗ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ ซึ่งให้เสนอร่างพระราชบัญญัติประกันชีวิต (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และร่างพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... รวม ๒ ฉบับ ต่อสภาผู้แทนราษฎรเพื่อบรรจุระเบียบวาระเป็นเรื่องด่วน
ตามที่ฝ่ายเลขานุการคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
5402 | ร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมวาระการดำรงตำแหน่งของคณะกรรมการอัยการ) | อส. | 08/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการฝ่ายอัยการ
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขเพิ่มเติมวาระการดำรงตำแหน่งของคณะกรรมการอัยการ)
มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมวาระการดำรงตำแหน่งของประธานคณะกรรมการอัยการ
และกรรมการอัยการผู้ทรงคุณวุฒิ ให้ดำรงตำแหน่งจากเดิมมีวาระดำรงตำแหน่งสองปีเพียงวาระเดียวเป็นได้คราวละหนึ่งวาระและอาจได้รับเลือกใหม่ได้อีกเพียงหนึ่งวาระ
ตามที่สำนักงานอัยการสูงสุดเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน
แล้วให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
5403 | ร่างแถลงการณ์ร่วมการประชุมระดับผู้นำ ครั้งที่ 14 แผนงานการพัฒนาเขตเศรษฐกิจสามฝ่าย อินโดนีเซีย-มาเลเซีย - ไทย (IMT - GT) และผลการประชุมระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 28 แผนงาน IMT-GT | นร.11 สศช | 08/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
5404 | การเข้าร่วมกลุ่ม High Ambition Coalition (HAC) for Nature and People | ทส. | 08/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบให้ประเทศไทยเข้าร่วมกลุ่ม High
Ambition Coalition (HAC) for Nature and People โดยได้เสนอให้มีการลงนามแบบฟอร์มหนังสือการเข้าร่วมกลุ่มฯ
เพื่อนำส่งให้สาธารณรัฐฝรั่งเศสและสาธารณรัฐคอสตาริกาตามขั้นตอนต่อไป
ซึ่งแบบฟอร์มหนังสือการเข้าร่วมกลุ่มฯ เป็นเพียงการแสดงความประสงค์ของประเทศไทยที่จะเข้าร่วมกลุ่มฯ
โดยยังไม่มีการทำความตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรระหว่างกัน และมอบหมายให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเป็นผู้ลงนามในเอกสารเข้าร่วมกลุ่มฯ
เพื่อนำส่งให้สาธารณรัฐฝรั่งเศสและสาธารณรัฐคอสตาริกาต่อไป ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องแก้ไขปรับปรุงเนื้อหาสาระของเอกสารเข้าร่วมกลุ่มฯ
ที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของประเทศไทย
ขอให้อยู่ในดุลยพินิจของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมพิจารณา
โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีใหม่อีกครั้ง ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศเฉพาะประเด็นการจัดทำคำอธิบายในหนังสือนำส่งแบบฟอร์มการเข้าร่วมกลุ่มฯ
ว่าในบริบทของประเทศไทยไม่มีชนพื้นเมืองดั้งเดิม ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒.
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
5405 | สรุปผลการประชุมรัฐมนตรีเอเปคด้านป่าไม้ ครั้งที่ 5 (The Fifth APEC Meeting of Ministers Responsible for Forestry : MMRF5) และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง | ทส. | 08/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบสรุปผลการประชุมรัฐมนตรีเอเปค
ด้านป่าไม้ ครั้งที่ ๕ (The Fifth APEC Meeting of Ministers Responsible
for Forestry : MMRF5) และการประชุมอื่นที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่
๒๓-๒๕ สิงหาคม ๒๕๖๕ ณ จังหวัดเชียงใหม่ มีสาระสำคัญ เช่น
รูปแบบการประชุมเป็นแบบผสมผสาน การประชุมเตรียมการสำหรับการประชุมรัฐมนตรีเอเปค
ด้านป่าไม้ ครั้งที่ ๕ (The Fifth APEC Meeting of Ministers Responsible
for Forestry : MMRF5)
โดยมีการพิจารณาร่างถ้อยแถลงร่วมรัฐมนตรีเอเปค ด้านป่าไม้ ครั้งที่ ๕ “ถ้อยแถลงเชียงใหม่)”
เพื่อเป็นเอกสารผลลัพธ์การประชุมรัฐมนตรีเอเปค
การประชุมกลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านการต่อต้านการค้าไม้ที่ผิดกฎหมายและการค้าอื่นที่เกี่ยวข้อง
เป็นต้น ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
5406 | ขอความเห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งออสเตรเลียว่าด้วยยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ | พณ. | 08/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งออสเตรเลียว่าด้วยยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ
และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์
ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ
มีเป้าหมายเพื่อพัฒนาและทำให้ความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจของไทยและออสเตรเลียมีความหลากหลายยิ่งขึ้น
โดยกำหนดสาขาความร่วมมืออย่างน้อย ๘ สาขา เช่น (๑) เกษตร เทคโนโลยี
และระบบอาหารที่ยั่งยืน (๒) การท่องเที่ยว (๓) บริการสุขภาพ (๔) การศึกษา (๕) การค้าดิจิทัลและเศรษฐกิจดิจิทัล
(๖) เศรษฐกิจสร้างสรรค์ (๗) การลงทุนระหว่างกัน และ (๘) พลังงาน เศรษฐกิจสีเขียว
และการลดการปล่อยคาร์บอน เป็นต้น
และกำหนดให้มีการประชุมระดับรัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่อาวุโสประจำปีเพื่อติดตามผลการดำเนินงาน
โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีผลใช้บังคับเป็นเวลา ๓ ปี ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
โดยกระทรวงการต่างประเทศไม่ต้องจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม (Full Powers) ตามความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และหากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ) ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์รับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติที่เห็นควรมีการติดตามและประเมินผลเป็นระยะ
เพื่อขยายไปสู่ความร่วมมือในมิติอื่น ๆ ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
5407 | การขอความเห็นชอบต่อร่างหนังสือแลกเปลี่ยนระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลญี่ปุ่นเกี่ยวกับการให้เอกสิทธิ์ การยกเว้น และสิทธิประโยชน์แก่ผู้เชี่ยวชาญจากองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่นที่ดำเนินโครงการภายใต้ความตกลงว่าด้วยความร่วมมือทางวิชาการระหว่างสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้กับรัฐบาลญี่ปุ่น | กต. | 08/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
5408 | การจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านอาชีวศึกษาในการฝึกอบรมโดยใช้การทำงานเป็นฐานระหว่างกระทรวงศึกษาธิการแห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงแรงงานเศรษฐกิจแห่งสาธารณรัฐออสเตรีย | ศธ. | 08/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
5409 | ขอความเห็นชอบต่อการรับรองเอกสารร่างแถลงการณ์ร่วมอาเซียน-จีน ว่าด้วยความร่วมมือด้านความมั่นคงทางอาหาร ในการประชุมสุดยอดอาเซียน ครั้งที่ 40 และครั้งที่ 41 และการประชุมสุดยอดที่เกี่ยวข้อง | กษ. | 08/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
5410 | ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนท่าแซะ-เนินสันติ จังหวัดชุมพร พ.ศ. .... | มท. | 08/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การให้ใช้บังคับผังเมืองรวมชุมชนท่าแซะ-เนินสันติ
จังหวัดชุมพร พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดให้ใช้บังคับผังเมืองรวม
ในท้องที่ตำบลทรัพย์อนันต์ ตำบลคุริง และตำบลท่าแซะ อำเภอท่าแซะ จังหวัดชุมพร
เพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนา โดยกำหนดให้เป็นชุมชนศูนย์กลางที่มีบทบาทในด้านการค้า
การบริการ
และพาณิชยกรรมและศูนย์กลางบริการด้านอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องกับเกษตรกรรม
และเพื่อใช้เป็นแนวทางในการพัฒนาและการดำรงรักษาเมืองและบริเวณที่เกี่ยวข้องหรือขนส่งการสาธารณูปโภค
บริการสาธารณสามารถรองรับการขยายตัวของชุมชนในอนาคต รวมทั้งส่งเสริมและพัฒนาเศรษฐกิจและสิ่งแวดล้อมโดยมีนโยบายการอนุรักษ์รักษาทรัพยากรธรรมชาติของผังเมืองรวมให้เป็นกลไกชี้นำแนวทางได้อย่างยั่งยืน
การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดียิ่งขึ้น
โดยได้มีการกำหนดแผนผังและการใช้ประโยชน์ที่ดินภายในเขตผังเมืองรวมให้เป็นกลไกชี้นำแนวทางได้อย่างยั่งยืน
การพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนได้ดียิ่งขึ้น ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
5411 | ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านการส่งเสริมการลงทุนโดยตรงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย | กต. | 08/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
5412 | ร่างกรอบท่าทีของประเทศไทยต่อวาระการประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์ ครั้งที่ 19 (CITES CoP19) | ทส. | 08/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกรอบท่าทีของประเทศไทยต่อวาระการประชุมภาคีอนุสัญญาว่าด้วยการค้าระหว่างประเทศซึ่งชนิดสัตว์ป่าและพืชป่าที่ใกล้สูญพันธุ์
ครั้งที่ ๑๙ (CITES CoP19) มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ ๑๔-๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๕ ณ ปานามา
คอนเวนชั่น เซ็นเตอร์ กรุงปานามา ซิตี้ สาธารณรัฐปานามา โดยมีสาระสำคัญเป็นการกำหนดท่าทีของประเทศไทยที่มีต่อข้อเสนอ
(Proposals)
ของประเทศต่าง ๆ ที่จะขอเปลี่ยนแปลงบัญชีรายการตามบัญชีท้ายอนุสัญญาฯ
และท่าทีต่อเอกสารการดำเนินงานตามอนุสัญญาฯ (Working Document) โดยยังไม่มีการทำความตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรระหว่างกัน ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
และให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ที่เห็นว่าหากมีความจำเป็นต้องปรับปรับปรุงแก้ไขร่างกรอบท่าทีฯ
ก็ควรเป็นไปเพื่อรักษาผลประโยชน์แห่งชาติและคำนึงถึงพันธกรณีของประเทศไทยต่อความตกลงระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้อง
และหากความตกลงระหว่างรัฐบาลของรัฐภาคีมีเนื้อหาที่ก่อให้เกิดผลผูกพันทางกฎหมายระหว่างกันตามกฎหมายระหว่างประเทศ
ก็จะเข้าลักษณะเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา ๑๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย
หากการดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามหนังสือสัญญาต้องมีการออกพระราชบัญญัติ
หรือหนังสือสัญญานั้นอาจมีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ สังคม
หรือการค้าหรือการลงทุนของประเทศอย่างกว้างขวางตามมาตรา ๑๗๘ วรรคสอง
ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ก็ต้องเสนอขอความเห็นชอบจากรัฐสภาก่อน
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย ๒.
ให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
5413 | การเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีกรณีมีการแก้ไขปรับเปลี่ยนชื่อร่างเอกสาร ชื่อหน่วยงาน หรือชื่อ/ตำแหน่งของผู้ลงนามในร่างเอกสารที่เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 178 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ร่างบันทึกความเข้าใจ ร่างความตกลงหรือร่างเอกสารเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ | นร. | 08/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นว่า
เพื่อให้การเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรีเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสม
และสอดคล้องกับกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องกับการเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี
คณะรัฐมนตรีจึงมีมติเป็นหลักการว่า
ในกรณีที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบหรืออนุมัติร่างเอกสารที่เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา
๑๗๘ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ร่างบันทึกความเข้าใจ ร่างความตกลง
หรือร่างเอกสารอื่นใดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ไปแล้วและต่อมาส่วนราชการ/หน่วยงานของรัฐเจ้าของเรื่องมีเหตุผลความจำเป็นต้องแก้ไขเปลี่ยนแปลงชื่อร่างเอกสาร
ชื่อหน่วยงาน หรือชื่อ/ตำแหน่งของผู้ลงนามในร่างเอกสารดังกล่าว
โดยไม่กระทบต่อสาระสำคัญของร่างเอกสารที่คณะรัฐมนตรีได้เคยเห็นชอบหรืออนุมัติไว้ก่อนแล้ว
ให้ส่วนราชการ/หน่วยงานของรัฐดำเนินการต่อไปได้ โดยให้นำเรื่องดังกล่าวเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
5414 | ผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ 55 และการประชุมระดับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง | กต. | 08/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน ครั้งที่ ๕๕
และการประชุมระดับรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และพิจารณาสั่งการหน่วยงานที่มีภารกิจเกี่ยวเนื่องตามนัยสรุปประเด็นสำคัญสำหรับการติดตามผลการประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน
เพื่อนำไปปฏิบัติและติดตามความคืบหน้าต่อไป โดยมีรองนายกรัฐมนตรี
และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ (นายดอน ปรมัตถ์วินัย) เข้าร่วมประชุมฯ
โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้ (๑) การสร้างประชาคมอาเซียน เช่น
การสนับสนุนข้อริเริ่มของกัมพูชาตามหัวข้อหลัก “ASEAN
A.C.T. : Addressing Challenges Together” และการเตรียมความพร้อมความร่วมมือกับประเทศที่เป็นที่ตั้งสำนักงานของศูนย์อาเซียนด้านการรับมือกับภาวะฉุกเฉินทางสาธารณสุขและโรคอุบัติใหม่
และการรับรองเอกสารผลลัพธ์ของการประชุม จำนวน ๑๑ ฉบับ (๒)
ประเด็นด้านความมั่นคงในภูมิภาคและระหว่างประเทศ เช่น สถานการณ์ในเมียนมาและช่องแคบไต้หวัน
และ (๓) ความสัมพันธ์กับประเทศคู่เจรจาและภาคีภายนอก เช่น
ไทยได้ร่วมเป็นสักขีพยานการลงนามตราสารภาคยานุวัติ TAC
โดยเดนมาร์ก กรีซ เนเธอร์แลนด์ โอมาน กาตาร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (รวม ๖ ฉบับ)
โดยในส่วนของยูเครนยังมิได้มีการลงนามตราสารฯ เนื่องจากเมียนมายังดำเนินกระบวนการภายในไม่แล้วเสร็จ
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
และให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ รวมทั้งข้อสังเกตของสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ
เช่น ควรดำเนินการตามกฎหมาย ระเบียบ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด
ควรมีการยกระดับการดำเนินงานด้านการเสริมสร้างความเข้มแข็งในการฟื้นฟูภายหลังการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา
๒๐๑๙ ผ่านการแลกเปลี่ยนความรู้และประสบการณ์ในประเด็นการบริหารจัดการขยะติดเชื้อ
ขยะมูลฝอย และขยะพลาสติก
และประเด็นความมั่นคงในบางกรอบการประชุมอาเซียนที่ไม่ได้มอบหมายให้มีการติดตาม
อาทิ การประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน-ออสเตรเลีย ซึ่งสำนักงานฯ พร้อมที่จะให้ความร่วมมือประสานข้อมูลกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
5415 | ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ระหว่างกระทรวงพาณิชย์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน กับกระทรวงพาณิชย์แห่งราชอาณาจักรไทย | พณ. | 08/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ระหว่างกระทรวงพาณิชย์แห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนกับกระทรวงพาณิชย์แห่งราชอาณาจักรไทย
และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในร่างบันทึกความเข้าใจฯ
โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีวัตถุประสงค์เพื่อเสริมสร้างความร่วมมือและกำหนดขอบเขตความร่วมมือด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ผ่านความร่วมมือแบบทวิภาคีระหว่างไทยและจีน
เช่น ส่งเสริมการค้าคุณภาพสูง (เช่น สินค้าเกษตรแปรรูปหรือผลไม้พรีเมียมของไทย
และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ของจีน) ส่งเสริมความร่วมมือทางวิชาการ
ตลอดจนร่วมกันร่างแผนปฏิบัติการประจำปีด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ เป็นต้น
โดยร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ลงนามเป็นเวลา ๓ ปี
และจะมีผลบังคับใช้ต่อไปอัตโนมัติ
เว้นแต่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งแจ้งยกเลิกร่างบันทึกความเข้าใจฯ ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความเข้าใจฯ
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย ๒.
ให้กระทรวงพาณิชย์ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณากำหนดมาตรการในการกำกับดูแลและตรวจสอบการดำเนินการของผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์และคุณภาพของสินค้าในตลาดพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ให้มีมาตรฐานที่ถูกต้องเหมาะสม
เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและคุ้มครองประโยชน์ของผู้บริโภค
รวมทั้งให้พิจารณาจัดเตรียมมาตรการรองรับผลกระทบและปกป้องผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของไทย
เช่น
เร่งถ่ายทอดองค์ความรู้ด้านพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์แก่ผู้ประกอบการพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ของไทยเพื่อให้มีความรู้เท่าทันกับเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไปอยางต่อเนื่อง
เป็นต้น |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
5416 | ขอทบทวนมติคณะรัฐมนตรี เรื่อง บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งคณะทำงานร่วมด้านความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างกระทรวงดิจิทัลและเศรษฐกิจของสาธารณรัฐออสเตรียกับกระทรวงพาณิชย์ของราชอาณาจักรไทย | พณ. | 08/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบการทบทวนมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๙ มิถุนายน
๒๕๖๔ เรื่อง บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งคณะทำงานร่วมด้านความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างกระทรวงดิจิทัลและเศรษฐกิจของสาธารณรัฐออสเตรียกับกระทรวงพาณิชย์ของราชอาณาจักรไทย
ในส่วนของการเปลี่ยนชื่อบันทึกความเข้าใจฯ จากเดิม
“บันทึกความเข้าใจว่าด้วยการจัดตั้งคณะทำงานร่วมด้านความร่วมมือทางการค้าและเศรษฐกิจระหว่างกระทรวงแรงงานและเศรษฐกิจของสาธารณรัฐออสเตรียกับกระทรวงพาณิชย์ราชอาณาจักรไทย”
รวมถึงการเปลี่ยนหน่วยงานรับผิดชอบและตำแหน่งของผู้ลงนามของฝ่ายสาธารณรัฐออสเตรีย ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ๒. ให้กระทรวงพาณิชย์ได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๒๔ พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี)
ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
5417 | ร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการให้หรือรับของขวัญของเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ. .... | นร.01 | 08/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบในหลักการร่างระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยการให้หรือรับของขวัญของเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการยกเลิกระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี
ว่าด้วยการให้หรือรับของขวัญของเจ้าหน้าที่ของรัฐให้สอดคล้องกับแผนการปฏิรูปประเทศด้านการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ
(ฉบับปรับปรุง)
กฎหมายประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบและสภาพการณ์ปัจจุบัน
ตามที่สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเสนอ
และให้ส่งคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีตรวจพิจารณา
โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงศึกษาธิการ
และสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เช่น ในการกำหนดบทนิยามคำว่า
“บุคคลในครอบครัว” ตามข้อ ๔ แห่งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีดังกล่าว
ควรบัญญัติบทคำนิยามคำว่า “บุคคลในครอบครัว” ให้สอดคล้องกับบทนิยามคำว่า
“คู่ชีวิต”
ตามร่างพระราชบัญญัติคู่ชีวิตซึ่งได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีแล้วและปัจจุบันอยู่ระหว่างการพิจารณาของรัฐสภา
ข้อคิดเห็นในข้อที่ ๙ ควรพิจารณาเพิ่มข้อความว่า
“ของขวัญนั้นต้องไม่จูงใจให้เกิดการปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
หรือเอื้อประโยชน์ให้แก่บุคคลหนึ่งบุคคลใด ควรปรับปรุงร่างข้อ ๑๒ วรรคสาม
โดยใช้คำว่า “บุคคลในครอบครัว” เนื่องจากมีการกำหนดไว้ในบทนิยาม เป็นต้น
ไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ที่เห็นควรให้ความสำคัญกับการสร้างการรับรู้
รวมถึงการให้คำแนะนำแก่เจ้าหน้าที่ของรัฐทุกระดับเพื่อให้รับทราบและสามารถปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง
และให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างกลไกเพื่อบังคับใช้ร่างระเบียบดังกล่าวให้ครอบคลุมทุกหน่วยงานของรัฐและรัฐวิสาหกิจ
ปรับหลักเกณฑ์หรือสาระให้สอดคล้องกับกฎหมายที่มีอยู่ เช่น
ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยการเรี่ยไรของหน่วยงานของรัฐ พ.ศ. ๒๕๔๔
และพระราชบัญญัติมาตรฐานทางจริยธรรม พ.ศ. ๒๕๖๒ เป็นต้น
และควรนำระบบอิเล็กทรอนิกส์มาใช้ในการจัดเก็บข้อมูลบันทึกรายงานเกี่ยวกับการรับของขวัญด้วย
ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
5418 | ขอปรับเพิ่มค่าอาหารกลางวันของนักเรียน | ศธ. | 08/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
5419 | ขอถอนร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าว ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยการดึงดูดคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย พ.ศ. .... | มท. | 08/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นว่า
เพื่อเป็นการสร้างการรับรู้และความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ
และเงื่อนไขการได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าวทั้งระบบ
เห็นควรให้กระทรวงมหาดไทยพิจารณาทบทวนกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข
การได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าว พ..ศ. ๒๕๔๕
ควบคู่ไปกับการนำร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าว
ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุน โดยการดึงดูดคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย
พ.ศ. .... ไปรับฟังความคิดเห็นและวิเคราะห์ผลกระทบอย่างรอบด้านก่อนดำเนินการต่อไป
ซึ่งคณะรัฐมนตรีพิจารณาแล้วลงมติ ๑.
อนุมัติให้กระทรวงมหาดไทยถอนร่างกฎกระทรวงการได้มาซึ่งที่ดินเพื่อใช้เป็นที่อยู่อาศัยของคนต่างด้าว
ตามมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจและการลงทุนโดยดึงดูดคนต่างด้าวที่มีศักยภาพสูงสู่ประเทศไทย
พ.ศ. .... ที่อยู่ระหว่างการตรวจพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตามที่เสนอได้
และแจ้งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาทราบต่อไป ทั้งนี้
ให้กระทรวงมหาดไทยรับความเห็นของคณะรัฐมนตรีไปดำเนินการต่อไปด้วย ๒.
ให้กระทรวงมหาดไทยได้รับยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๒๔
พฤศจิกายน ๒๕๕๘ (เรื่อง การเสนอเรื่องเร่งด่วนต่อคณะรัฐมนตรี) ในการเสนอเรื่องนี้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
5420 | รายงานผลการพิจารณาตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติพืชกระท่อม พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร และข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการร่วมกันเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติพืชกระท่อม พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร | ยธ. | 08/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานผลการพิจารณาตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติพืชกระท่อม
พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎร
และข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการร่วมกันเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติพืชกระท่อม พ.ศ.
.... ของสภาผู้แทนราษฎร ซึ่งกระทรวงยุติธรรมได้ดำเนินการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแล้ว
โดยกระทรวงสาธารณสุขได้แก้ไขกฎหมายเพื่อให้มีการพัฒนาการใช้ประโยชน์จากพืชกระท่อม
กำหนดนโยบาย แผนการปฏิบัติงาน และทำงานเชิงบูรณาการ
มีการแต่งตั้งคณะอนุกรรมการประสานงาน เร่งรัด ส่งเสริม และสนับสนุนการขอขึ้นทะเบียนผลิตภัณฑ์สมุนไพร
ยา อาหาร และเครื่องสำอางที่ผลิตจากพืชกระท่อม สำนักงาน ป.ป.ส. จะประสานกับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยาศึกษาแนวทางการดำเนินการและวางระบบการชำระค่าธรรมเนียมการต่ออายุใบอนุญาตแทนการยื่นคำขอต่ออายุใบอนุญาต
กำหนดเพิ่มเติมการห้ามขายให้แก่บุคคลบางกลุ่ม
กำหนดเพิ่มเติมสถานที่หรือวิธีการที่ห้ามขายใบกระท่อม ทั้งนี้ ควรให้สำนักงาน
ป.ป.ส.
เป็นหน่วยงานหลักในการรวบรวมหัวข้อหรือโครงการวิจัยและพัฒนาการใช้ประโยชน์จากพืชกระท่อมทั้งในระยะสั้น
ระยะกลาง และระยะยาว เพื่อให้การพัฒนาพืชกระท่อมให้เป็นพืชเศรษฐกิจอย่างแท้จริง
นอกจากนี้ สำนักงาน ป.ป.ส.
และสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะประสานการทำงานร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข กระทรวงมหาดไทย
กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ร่วมกันชี้แจงและประชาสัมพันธ์สร้างความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการใช้ประโยชน์จากใบกระท่อมและไม่นำไปใช้ในทางที่ผิด
พัฒนาระบบการออกใบอนุญาตนำเข้าหรือส่งออกใบกระท่อมและให้สามารถขอรับใบอนุญาตทางอิเล็กทรอนิกส์ได้
รวมทั้งกำหนดพิกัดศุลกากรเกี่ยวกับสินค้าพืชกระท่อม
เพื่อให้รองรับกระบวนการนำเข้าและการส่งออกใบกระท่อม
ประกอบกับกระทรวงอุตสาหกรรมมีกลไกให้ความช่วยเหลือและสร้างความเข้มแข็งให้กับกลุ่มธุรกิจรายย่อยและวิสาหกิจชุมชน
ตามที่กระทรวงยุติธรรมเสนอ และแจ้งให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบต่อไป
|