ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 273 จากทั้งหมด 6199 หน้า แสดงรายการที่ 5441 - 5460 จากข้อมูลทั้งหมด 123961 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | ||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
5441 | มาตรการรองรับฤดูแล้ง ปี 2565/2566 และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง ปี 2566 | นร.14 | 01/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑.
รับทราบและเห็นชอบมาตรการรองรับฤดูแล้ง
ปี ๒๕๖๕/๒๕๖๖ และโครงการเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน้ำเพื่อรองรับสถานการณ์ภัยแล้งและฝนทิ้งช่วง
ปี ๒๕๖๖ และมอบหมายหน่วยงานดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว
โดยรายงานให้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติทราบ พร้อมทั้งสรุปผลการดำเนินงานรายงานคณะรัฐมนตรีเพื่อทราบต่อไป
ตามที่คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ ทั้งนี้
ให้คณะกรรมการทรัพยากรน้ำแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงคมนาคมและสำนักงบประมาณ
ที่เห็นว่าหากมีค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้จ่ายจากงบประมาณรายจ่ายประจำปีที่ได้รับการจัดสรร
หรือพิจารณาปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ หรือโอนเงินจัดสรร
หรือเปลี่ยนแปลงเงินจัดสรร แล้วแต่กรณี ตามระเบียบว่าด้วยการบริหารงบประมาณ พ.ศ.
๒๕๖๒ และระเบียบว่าด้วยการโอนงบประมาณรายจ่ายบูรณาการ
และงบประมาณรายจ่ายบุคลากรระหว่างหน่วยรับงบประมาณ พ..ศ. ๒๕๖๒
หรือใช้จ่ายจากเงินนอกงบประมาณในโอกาสแรกก่อน
โดยคำนึงถึงความครอบคลุมของทุกแหล่งเงิน ความประหยัด ความคุ้มค่า
ผลสัมฤทธิ์และประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับเป็นสำคัญด้วย
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป ๒. มอบหมายให้กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงมหาดไทย
สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งติดตามการดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้การกักเก็บน้ำใต้ดินในพื้นที่ต่าง ๆ เป็นไปอย่างเหมาะสมและสอดคล้องกับคู่มือการเติมน้ำใต้ดินระดับตื้นของกรมทรัพยากรน้ำบาดาลและแล้วเสร็จทันฤดูแล้งที่กำลังจะมาถึง |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
5442 | ขออนุมัติโครงการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการประมง ระยะที่ 2 | กษ. | 01/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. อนุมัติโครงการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการประมง
ระยะที่ ๒ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ
โดยในส่วนของกรอบวงเงินงบประมาณในการดำเนินโครงการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องผู้ประกอบการประมง
ระยะที่ ๒ จำนวน ๑,๐๕๐.๕ ล้านบาท
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมประมง) ธนาคารออมสิน
ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร ดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมประมง) ร่วมกับธนาคารออมสินและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรเร่งรัดกระบวนการพิจารณาสินเชื่อของโครงการฯ
ระยะที่ ๑ และโครงการฯ ระยะที่ ๒ ให้แล้วเสร็จโดยเร็ว เพื่อให้ผู้ประกอบการประมงที่เข้าร่วมโครงการทั้ง
๒ ระยะ
สามารถใช้ประโยชน์จากสินเชื่อตามโครงการดังกล่าวได้อย่างมีประสิทธิภาพและทันต่อสถานการณ์ ๒.
ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมประมง)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงคมนาคม กระทรวงพาณิชย์
สำนักงบประมาณ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และธนาคารแห่งประเทศไทย รวมทั้งข้อสังเกตของกระทรวงการคลัง เช่น
ควรพิจารณาคุณสมบัติของผู้ประกอบการประมงให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด
และควรมีการกำกับ ติดตามและประเมินผลการดำเนินโครงการ เป็นต้น
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
5443 | รายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ (กปช.) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 | นร.02 | 01/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบและเห็นชอบ
ตามที่คณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติเสนอ ดังนี้ ๑. รับทราบสรุปรายงานผลการดำเนินงานของคณะกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๕ มีสาระสำคัญ ได้แก่ (๑)
สร้างความตระหนักรู้และความเข้าใจของประชาชนต่อเรื่องสื่อสารที่สำคัญ (๒)
สร้างความตระหนักรู้ ทัศนคติเชิงบวกและการมีส่วนร่วมของประชาชนไทยและชาวต่างประเทศต่อการต่างประเทศ
(๓) บริหารจัดการข้อมูลข่าวสารพัฒนาสื่อสร้างสรรค์สร้างการรู้เท่าทันและการมีส่วนร่วม
(๔) พัฒนาคลังข้อมูลข่าวสารอัจฉริยะ (๕)
ยกระดับบุคลากรด้านการประชาสัมพันธ์และสื่อสารมวลชนของประเทศ และ (๖)
ผลการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการประชาสัมพันธ์แห่งชาติระดับจังหวัดตามแนวทางการพัฒนาทั้ง
๔ แนวทาง ๒. มอบหมายหน่วยงานภาครัฐรับข้อเสนอของประชาชนไปดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
ได้แก่ กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์
กระทรวงการคลัง กระทรวงแรงงาน กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงวัฒนธรรม
กระทรวงยุติธรรม สำนักนายกรัฐมนตรี และการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ๓. มอบหมายกระทรวงมหาดไทยเน้นย้ำผู้ว่าราชการจังหวัด
๗๖ จังหวัด
ให้ความสำคัญกับงานประชาสัมพันธ์และสื่อสารมวลชนในพื้นที่และสั่งการให้หน่วยงานในระดับจังหวัดสนับสนุนและประสานการดำเนินงานร่วมกันเพื่อขับเคลื่อนและพัฒนางานประชาสัมพันธ์ในภาพรวมของประเทศให้เกิดประสิทธิภาพ |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
5444 | ขอรับการสนับสนุนการดำเนินโครงการซ่อมแซมแหล่งน้ำขนาดเล็กของส่วนราชการที่ยังไม่ได้ถ่ายโอนให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ปี พ.ศ. 2565-2570 ของมูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริ | นร.14 | 01/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบในหลักการโครงการซ่อมแซมแหล่งน้ำขนาดเล็กของส่วนราชการที่ยังไม่ได้ถ่ายโอนให้กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ปี พ.ศ. ๒๕๖๕-๒๕๗๐ ของมูลนิธิปิดทองหลังพระ สืบสานแนวพระราชดำริในกรอบวงเงิน
๕๓๑.๓๕๙๗ ล้านบาท ตามที่สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเสนอ
และให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติเลื่อนระยะเวลาโครงการจากปี พ.ศ. ๒๕๖๕-๒๕๗๐ เป็น
ปี พ.ศ. ๒๕๖๖-๒๕๗๐ ตามความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
สำหรับการดำเนินโครงการและค่าใช้จ่ายที่จะเกิดขึ้นในปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๖
และในปีต่อ ๆ ไป ให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กรมพัฒนาที่ดินและกรมชลประทาน)
กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (กรมทรัพยากรน้ำ)
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ๒.
ให้สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
(กรมพัฒนาที่ดินและกรมชลประทาน) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
(กรมทรัพยากรน้ำ) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงคมนาคม
กระทรวงมหาดไทย สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
และสำนักงานคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เช่น ให้หน่วยงานเจ้าของโครงการกำกับดูแลโครงการให้เป็นไปตามกฎหมาย
ระเบียบ หลักเกณฑ์ มติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง และหลักธรรมาภิบาลให้ถูกต้องและครบถ้วนในทุกขั้นตอน
เร่งรัดการถ่ายโอนแหล่งน้ำให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเมื่อดำเนินโครงการซ่อมแซมแล้วเสร็จ
คำนึงถึงความจำเป็นและภารกิจของหน่วยงานของรัฐตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ
พ.ศ. ๒๕๖๑ และพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ควรวางระบบติดตามผลการดำเนินงานควบคู่ไปด้วยเพื่อประกอบการตัดสินใจในการดำเนินโครงการในระยะต่อไป
ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
5445 | ขออนุมัติยกเว้นการปฏิบัติตามข้อ 20 แห่งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยบำเหน็จความชอบสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. 2550 | ตช. | 01/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติให้ยกเว้นการปฏิบัติตามข้อ
๒๐ แห่งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยบำเหน็จความชอบสำหรับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานในจังหวัดชายแดนภาคใต้ พ.ศ. ๒๕๕๐
ซึ่งเป็นการดำเนินการตามแนวทางคำพิพากษาศาลปกครองสูงสุดได้วางไว้โดยมีปัญหาข้อขัดแย้งและข้อเท็จจริง
ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ ๒.
ให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาและสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี
ที่เห็นว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องย่อมต้องมีหน้าที่ดำเนินการให้มีการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ
เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีด้วย
และในขณะที่ยังมิได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมดังกล่าว
สำนักงานตำรวจแห่งชาติก็คงยังมีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามข้อ ๒๐ แห่งระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ ที่ใช้บังคับอยู่ในปัจจุบัน ซึ่งมีผลใช้บังคับแล้วเมื่อวันที่
๑๗ ตุลาคม ๒๕๖๕ มาตรา ๗๗ ได้กำหนดหลักเกณฑ์การแต่งตั้งข้าราชการตำรวจ
ในแต่ละระดับตำแหน่งไว้อย่างชัดเจน
โดยกำหนดระยะเวลาการดำรงตำแหน่งหรือเคยดำรงตำแหน่ง
เพื่อใช้เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งที่สูงขึ้น และมาตรา ๗๗
วรรคสอง กำหนดให้การนับระยะเวลาการดำรงตำแหน่ง ให้นับระยะเวลาที่ดำรงตำแหน่งจริง
โดยมิให้นับระยะเวลาทวีคูณ
จึงเป็นกรณีที่มีกฎหมายเฉพาะกำหนดหลักเกณฑ์การมิให้ระยะเวลาทวีคูณไว้เป็นการเฉพาะแล้ว
ดังนั้น หากคณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้ยกเว้นการปฏิบัติตามข้อ ๒๐ ของระเบียบฯ
และได้มีการแก้ไขเพิ่มเติมระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีแล้ว
ในอนาคตเพื่อให้ระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ
มีความเหมาะสมและสอดคล้องกับกฎหมายที่ใช้บังคับในปัจจุบัน เห็นควรให้สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาความเหมาะสมในการแก้ไขระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีฯ
ดังกล่าว ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
5446 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดแบบเครื่องหมายคำรับรองเครื่องชั่งตวงวัด (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | พณ. | 01/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงกำหนดแบบเครื่องหมายคำรับรองเครื่องชั่งตวงวัด
(ฉบับที่ ..)
พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการแก้ไขเพิ่มเติมกฎกระทรวงกำหนดแบบเครื่องหมายการรับรองเครื่องชั่งตวงวัด
พ.ศ. ๒๕๖๐ เพื่อเพิ่มเติมแบบเครื่องหมายคำรับรอง ชนิดที่ ๕ คือชนิดซีล (Seal) ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
5447 | ผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปค ครั้งที่ 29 และการประชุมอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง | กค. | 01/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบผลการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปค ครั้งที่ ๒๙ และการประชุมอื่น
ๆ ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ ๑๙-๒๐ ตุลาคม ๒๕๖๕ ณ กรุงเทพมหานคร
โดยมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นหัวหน้าคณะผู้แทน
โดยผลการประชุมฯ มีสาระสำคัญเกี่ยวข้องกับสถานการณ์เศรษฐกิจโลกและภูมิภาคเอเปค
ความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ การเงินและการคลังที่สำคัญของภูมิภาค
และแสดงถึงความคืบหน้าของการดำเนินการภายในกรอบการดำเนินงานภายใต้กรอบการประชุมรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเอเปค
ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
5448 | รัฐบาลสมาพันธรัฐสวิสเสนอขอแต่งตั้งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทย (นายเปโดร สวาห์เลน) | กต. | 01/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายเปโดร สวาห์เลน (Mr. Pedro Zwahlen)
ให้ดำรงตำแหน่งเอกอัครราชทูตวิสามัญผู้มีอำนาจเต็มแห่งสมาพันธรัฐสวิสประจำประเทศไทยคนใหม่
โดยมีถิ่นพำนัก ณ กรุงเทพมหานคร สืบแทน นางเฮเลเนอ บุดลีเกอร์ อาร์ทิเอดา (Mrs.
Helene Budliger Artieda) ซึ่งครบวาระการดำรงตำแหน่ง
ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
5449 | สาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศขอเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์ ณ จังหวัดชลบุรี และแต่งตั้งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ ณ จังหวัดชลบุรี (นางสาวพจนา พะเนียงเวทย์) | กต. | 01/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ดังนี้ ๑.
การเปิดสถานกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ ณ จังหวัดชลบุรี
โดยมีเขตกงสุลครอบคลุมจังหวัดชลบุรี ฉะเชิงเทรา จันทบุรี ปราจีนบุรี ระยอง สระแก้ว
และตราด ๒.
การแต่งตั้ง นางสาวพจนา พะเนียงเวทย์ ให้ดำรงตำแหน่งกงสุลกิตติมศักดิ์สาธารณรัฐประชาชนบังกลาเทศ
ณ จังหวัดชลบุรี
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
5450 | การขอความเห็นชอบการขอรับความช่วยเหลือทางวิชาการจากสำนักงานส่งเสริมการค้าและการพัฒนาแห่งสหรัฐอเมริกา เพื่อดำเนินโครงการศึกษาจัดทำแผนพัฒนาระบบโลจิสติกส์และการขนส่งต่อเนื่องอย่างบูรณาการของประเทศไทย (Thailand Integrated Logistics and Intermodal Transport Development Plan) | คค. | 01/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการขอรับความช่วยเหลือทางวิชาการจากสำนักงานส่งเสริมการค้าและการพัฒนาแห่งสหรัฐอเมริกา
เพื่อดำเนินโครงการศึกษาจัดทำแผนพัฒนาระบบโลจิสติกส์และการขนส่งต่อเนื่องอย่างบูรณาการของประเทศไทย
(Thailand Integrated Logistics and Intermodal
Transport Development Plan) โดยให้ทุน วงเงินรวมทั้งสิ้น ๑๓๖๐๗๔๐
ดอลลาร์สหรัฐ แก่สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร
และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามฝ่ายไทยสำหรับการลงนามในบันทึกความตกลงการให้ความช่วยเหลือทางวิชาการฯ
ดังกล่าว ตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ และให้กระทรวงคมนาคม
(สำนักงานนโยบายและแผนการขนส่งและจราจร) รับความเห็นของสำนักงบประมาณ
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงานอัยการสูงสุด
ไปพิจารณาดำเนินการ โดยให้คำนึงถึงความเหมาะสมในการเข้าถึงข้อมูลและการใช้ประโยชน์จากรายงานผลการศึกษาอย่างละเอียด
รอบคอบ และรัดกุมด้วย ทั้งนี้
หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างบันทึกความตกลงการให้ความช่วยเหลือทางวิชาการจากสำนักงานส่งเสริมการค้าและการพัฒนาแห่งสหรัฐอเมริกา
เพื่อดำเนินโครงการศึกษาจัดทำแผนพัฒนาระบบโลจิสติกส์และการขนส่งต่อเนื่องอย่างบูรณาการของประเทศไทย
ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงคมนาคมดำเนินการได้ โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง
พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย |
|||||||||||||||||||||||||||||||||
5451 | แผนปฏิบัติการด้านการจัดการขยะของประเทศ ฉบับที่ 2 (พ.ศ. 2565 - 2570) | ทส. | 01/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบแผนปฏิบัติการด้านการจัดการขยะของประเทศ
ฉบับที่ ๒ (พ.ศ. ๒๕๖๕-๒๕๗๐) ซึ่งคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติได้เห็นชอบแล้วเมื่อวันที่
๓ สิงหาคม ๒๕๖๕ โดยแผนปฏิบัติการฯ ได้กำหนดเป้าหมายขยะที่ต้องได้รับการจัดการอย่างถูกต้องผ่าน
๓ มาตรการ ได้แก่ (๑) การจัดการขยะที่ต้นทาง เช่น
การควบคุมป้องกันการออกแบบผลิตภัณฑ์ (๒) การเพิ่มประสิทธิภาพระบบกำจัดขยะ เช่น
กำหนดให้มีสถานที่กำจัดขยะเพิ่มขึ้นและครอบคลุมทุกภูมิภาค และ (๓)
การพัฒนาเครื่องบริหารจัดการขยะ เช่น
การพัฒนากฎหมายส่งเสริมเศรษฐกิจหมุนเวียนให้ครอบคลุมการจัดการที่ต้นทาง
โดยมีกลไกการขับเคลื่อนคือ การสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่ทุกภาคส่วน และการใช้กลไกคณะกรรมการ
คณะอนุกรรมการ และคณะทำงานที่เกี่ยวข้องในการขับเคลื่อนการบริหารจัดการขยะ
อีกทั้งกำหนดการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานเป็นประจำทุกปี ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
5452 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (ร้อยตำรวจเอก ไพรัตน์ เทศพานิช) | ปปง. | 01/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง
ร้อยตำรวจเอก ไพรัตน์ เทศพานิช ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งเลขานุการกรม
สำนักงานเลขานุการกรม สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
(นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
ตั้งแต่วันที่ ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๖๕ ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์
ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายวิษณุ เครืองาม) เสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
5453 | แต่งตั้งกรรมการอื่นในคณะกรรมการขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้ (นายสุรเดช อุทัยรัตน์) | ทส. | 01/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติแต่งตั้ง นายสุรเดช อุทัยรัตน์
เป็นกรรมการอื่นในคณะกรรมการขององค์การอุตสาหกรรมป่าไม้
แทนนายอภิสิทธิ์ ไล่สัตรูไกล กรรมการอื่นเดิมที่พ้นจากตำแหน่งเนื่องจากมีอายุครบหกสิบปีบริบูรณ์ ทั้งนี้
ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติเป็นต้นไป
โดยผู้ได้รับแต่งตั้งแทนนี้อยู่ในตำแหน่งเท่ากับวาระที่เหลืออยู่ของกรรมการซึ่งได้แต่งตั้งไว้แล้ว
ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
5454 | การแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการเคหะแห่งชาติ (1. พลตรี เจียรนัย วงศ์สอาด ฯลฯ รวม 10 คน) | พม. | 01/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการอื่นในคณะกรรมการการเคหะแห่งชาติ รวม ๑๐ คน เนื่องจากประธานกรรมการและกรรมการอื่นเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี
ทั้งนี้
ให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๑ พฤศจิกายน ๒๕๖๕) เป็นต้นไป ตามที่กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เสนอ ๑. พลตรี เจียรนัย
วงศ์สอาด ประธานกรรมการ ๒. นางพัชรี อาระยะกุล กรรมการ ๓. นายรณชัย จิตรวิเศษ กรรมการ ๔. นายจเรรัฐ ปิงคลาศัย กรรมการ ๕. นายอัครพล
ลีลาจินดามัย กรรมการ ๖. นายธีรภัทร
ประยูรสิทธิ กรรมการ ๗. นายชยงการ ภมรมาศ กรรมการ ๘. พลเอก สุวิชา
แก้วรุ่งเรือง กรรมการ ๙. นายอนุกูล ปีดแก้ว กรรมการ
(ผู้แทนกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์) ๑๐. นางศุกร์ศิริ
บุญญเศรษฐ์ กรรมการ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
5455 | การกำหนดวันหยุดราชการเป็นกรณีพิเศษในเขตกรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี และจังหวัดสมุทรปราการ ในช่วงการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ครั้งที่ 29 และการประชุมที่เกี่ยวข้อง (เพิ่มเติม) | นร. | 01/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีพิจารณาเห็นว่า
เพื่อให้การดำเนินการจัดการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจพิเศษเอเปค ครั้งที่ ๒๙ และกิจกรรมต่าง ๆ
ที่เกี่ยวข้องดังกล่าวข้างต้นเป็นไปด้วยความเรียบร้อย เหมาะสม เกิดภาพลักษณ์ที่ดีต่อประเทศ
และกระทบต่อการเดินทางและการใช้ชีวิตประจำวันของประชาชนให้น้อยที่สุด คณะรัฐมนตรีจึงมีมติเพิ่มเติมให้ชัดเจน
รวมทั้งให้ประชาสัมพันธ์เพื่อขอความร่วมมือภาคเอกชนและประชาชนทั่วไปด้วย ดังนี้ ๑. ในช่วงการประชุมฯ ระหว่างวันที่ ๑๖-๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๕
จะมีการปิดการจราจรในเส้นทางโดยรอบศูนย์การประชุมสิริกิติ์ รวมทั้งให้งดใช้สวนเบญจกิติ ๒. การให้บริการรถไฟฟ้าใต้ดิน (MRT) ในช่วงวันที่ ๑๖-๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๕
เปิดให้บริการปกติแต่จะงดจอดรับ-ส่งผู้โดยสารเฉพาะสถานีศูนย์การประชุมสิริกิติ์
จนกว่าการจัดการประชุมฯ จะเสร็จสิ้น ๓. ในส่วนของโรงเรียนและสถาบันการศึกษาต่าง ๆ ในเขตพื้นที่ดังกล่าว ที่อาจได้รับผลกระทบจากการปิดการจราจรให้โรงเรียนและสถาบันการศึกษานั้น ๆ
พิจารณางดการจัดการเรียนการสอนหรือกิจกรรมใด ๆ ในช่วงวันที่ ๑๖-๑๘
พฤศจิกายน ๒๕๖๕ ยกเว้นในกรณีที่โรงเรียนหรือสถาบันการศึกษานั้น ๆ
มีภารกิจสำคัญที่จำเป็นต้องดำเนินการในช่วงวันดังกล่าวอันมิอาจเหลีกเลี่ยงหรือเลื่อนออกไปก่อนได้ ๔. ในช่วงค่ำของวันที่ ๑๘ พฤศจิกายน ๒๕๖๕
จะมีการจัดเลี้ยงอาหารค่ำแก่ผู้นำเอเปคที่หอประชุมกองทัพเรือ
ซึ่งจะมีการเดินทางไป-กลับของผู้นำประเทศและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจากหลายเส้นทาง
จึงขอความร่วมมือจากประชาชนทุกภาคส่วนในการอำนวยความสะดวกในการเดินทางแก่ผู้นำประเทศและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องด้วย
โดยขอให้หลีกเลี่ยงหรืองดใช้รถใช้ถนนในเส้นทางที่เกี่ยวข้อง
รวมทั้งการสัญจรทางเรือในแม่น้ำเจ้าพระยาซึ่งจะมีการปิดการจราจรทางน้ำในวันที่ ๑๘
พฤศจิกายน ๒๕๖๕ ด้วย
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
5456 | การพิจารณาความเหมาะสมของอัตราการเรียกเก็บเงินนำส่งจากสถาบันการเงิน | กค. | 01/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบอัตราการเรียกเก็บเงินนำส่งจากสถาบันการเงินให้แก่ธนาคารแห่งประเทศไทย
ที่อัตราร้อยละ ๐.๔๖ ต่อปี ในงวดนำส่ง ปี ๒๕๖๖ เป็นต้นไป เพื่อให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๑๐ เมษายน ๒๕๕๕ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
5457 | รายงานผลการพิจารณาตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา | สผ. | 01/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
5458 | ข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | สผ. | 01/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ
ดังนี้ ๑. รับทราบข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา โดยคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ
ของวุฒิสภา เห็นควรแก้ไขเพิ่มเติมเหตุผลประกอบร่างพระราชบัญญัติฯ บางประการ
และคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา
ได้มีข้อสังเกตเกี่ยวกับการเร่งปรับปรุงประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ บรรพ ๓
หุ้นส่วนและบริษัท เพื่อรองรับการดำเนินการทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์
เพื่อให้กฎหมายมีความทันสมัยสอดคล้องกับการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายนี้ การรับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสียอย่างรอบด้านในการออกกฎกระทรวงตามพระราชบัญญัตินี้
การออกกฎกระทรวงเพื่อกำหนดให้ลดหรือยกเว้นค่าธรรมเนียม
ควรเรียกเก็บเพียงเท่าที่จำเป็นและเป็นจำนวนเงินที่เหมาะสม
เพื่อไม่เป็นภาระแก่ประชาชนเกินสมควร และการจัดทำตัวอย่างข้อบังคับที่มีกลไกในการแก้ปัญหาข้อพิพาทให้ผู้มาจดทะเบียนสามารถเลือกใช้ได้
ตามที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภาเสนอ ๒.
ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีนำเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ ของวุฒิสภา
เป็นเหตุผลของร่างพระราชบัญญัติในเรื่องนี้ในการประกาศในราชกิจจานุเบกษาต่อไป ๓.
ให้กระทรวงพาณิชย์เป็นหน่วยงานรับหลักรับข้อสังเกตของคณะกรรมาธิการวิสามัญฯ
ของสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภาดังกล่าว ไปพิจารณารวมกับสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อพิจารณาศึกษาแนวทางและความเหมาะสมของข้อสังเกตดังกล่าว
และสรุปผลการพิจารณาหรือผลการดำเนินการเกี่ยวกับเรื่องดังกล่าวในภาพรวม
แล้วส่งให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันที่ได้รับแจ้งคำสั่ง เพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีต่อไป
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
5459 | รายงานประจำครึ่งปี (มกราคม - มิถุนายน 2565) ของธนาคารแห่งประเทศไทย | กค. | 01/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบรายงานประจำครึ่งปี (มกราคม-มิถุนายน ๒๕๖๕) ของธนาคารแห่งประเทศไทย
สรุปสาระสำคัญได้ ดังนี้ (๑) เศรษฐกิจไทยในช่วงครึ่งแรกของปี ๒๕๖๕ ขยายตัวที่ร้อยละ ๒.๔
จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนเสถียรภาพเศรษฐกิจการเงินในประเทศโดยรวมปรับดีขึ้น
และเสถียรภาพด้านต่างประเทศของไทยอยู่ในเกณฑ์ดี และ (๒) ธนาคารแห่งประเทศไทยมีการดำเนินการ
เช่น การดำเนินนโยบายด้านอัตราดอกเบี้ย
โดยคณะกรรมการนโยบายการเงิน มีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ร้อยละ ๐.๕๐ ต่อปี
เพื่อสนับสนุนให้เศรษฐกิจฟื้นตัวอย่างต่อเนื่อง การประเมินผลนโยบายสถาบันการเงินและกำกับดูแลสถาบันการเงินในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-๑๙
ซึ่งมีมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้กลุ่มเปราะบางเพิ่มเติม
โดยการต่ออายุมาตรการสินเชื่อรายย่อยและปรับเงื่อนไขสินเชื่อเพื่อรองรับผู้ประกอบธุรกิจ
และการประเมินนโยบายการชำระเงิน พบว่า แนวโน้มการชำระเงินทางอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้นทั้งในเชิงปริมาณและมูลค่า
ส่วนการให้บริการผ่าน Mobile Banking/Internet
Banking ขยายตัวสูงสุดร้อยละ ๕๐.๗ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
|
|||||||||||||||||||||||||||||||||
5460 | รายงานผลการเดินทางเยือนราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียของรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ | พณ. | 01/11/2565 | ||||||||||||||||||||||||||||||
|