ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 2 จากทั้งหมด 20 หน้า แสดงรายการที่ 21 - 40 จากข้อมูลทั้งหมด 391 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
21 | โครงการโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ภูเก็ต | อว. | 28/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ ดังนี้ ๑. อนุมัติในหลักการการยื่นคำของบประมาณรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่
๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป ตามนัยมาตรา ๒๖
แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม โครงการโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ ภูเก็ต (พ.ศ. ๒๕๖๙ - ๒๕๗๒)
ในวงเงินงบประมาณ ๓,๑๔๐,๓๑๓,๐๐๐ บาท ระยะเวลาดำเนินการ ๔ ปี (พ.ศ. ๒๕๖๙ - ๒๕๗๒) ทั้งนี้
ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น สำนักงบประมาณ เห็นควรคำนึงถึงความประหยัด
ความคุ้มค่า ประโยชน์ที่จะได้รับ ประสิทธิภาพและผลสัมฤทธิ์ที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ
ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑
โดยพิจารณาจัดลำดับความสำคัญของโครงการให้เหมาะสมกับความจำเป็นเร่งด่วน
ศักยภาพในการดำเนินการ พันธกิจของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
ตลอดจนสถานะการเงินการคลังของประเทศ รวมทั้งให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม จัดทำแผนการดำเนินการด้านบุคลากร
และยืนยันความพร้อมของโครงการดังกล่าว โดยมีรายละเอียดแบบรูปรายการ
ประมาณการค่าก่อสร้าง สถานที่/พื้นที่พร้อมที่จะดำเนินการ
โดยให้ความสำคัญกับประโยชน์ที่ประเทศชาติและประชาชนจะได้รับ รวมถึงความครอบคลุมและชัดเจนเกี่ยวกับวัตถุประสงค์และเป้าหมายการให้บริการผู้ป่วยกลุ่มผู้มีสิทธิในระบบหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ
ผู้มีสิทธิในระบบประกันสังคม
และผู้มีสิทธิรักษาพยาบาลสวัสดิการข้าราชการได้เข้าถึงการบริการที่มีมาตรฐานและมีคุณภาพชีวิตที่ดี
ตลอดจนความสอดคล้องกับมติคณะรัฐมนตรี สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นควรมีการบริหารจัดการโครงการฯ ให้เป็นไปตามกรอบระยะเวลาที่กำหนดอย่างเคร่งครัด
และพิจารณาความเป็นไปได้ของการร่วมลงทุนจากภาคส่วนต่าง ๆ
ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจเวลเนสอันดามัน (Andaman
Wellness Economic Corridor) อาทิ หน่วยงานท้องถิ่นและภาคเอกชนที่มีศักยภาพให้เข้ามาร่วมลงทุน
เนื่องด้วยโครงการมีเป้าหมายในการสร้างรายได้จากบริการนักท่องเที่ยวต่างชาติระดับสูงร่วมด้วย
ซึ่งจะช่วยแบ่งเบาภาระงบประมาณของภาครัฐให้สามารถนำเงินไปลงทุนพัฒนาหน่วยบริการสาธารณสุขอื่นได้เพิ่มขึ้น
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
22 | โครงการสร้างเครื่องกำเนิดแสงซินโครตรอนระดับพลังงาน 3 GeV และห้องปฏิบัติการ | อว. | 28/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ ดังนี้ ๑. อนุมัติในหลักการการยื่นคำของบประมาณรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่
๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป ตามนัยมาตรา ๒๖
แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม โครงการสร้างเครื่องกำเนิดแสงซินโครตรอนระดับพลังงาน ๓
พันล้านอิเล็กตรอนโวลต์ (GeV) และห้องปฏิบัติการ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมรับความเห็นของสำนักงบประมาณ
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย สำนักงบประมาณ เห็นควรให้สถาบันแสงซินโครตรอน
(องค์การมหาชน) คำนึงถึงความประหยัด ความคุ้มค่า ประโยชน์ที่จะได้รับ
ประสิทธิภาพและผลสัมฤทธิ์ที่จะเกิดขึ้นจากการดำเนินโครงการ
ตามนัยพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ โดยพิจารณาจัดลำดับความสำคัญของโครงการให้เหมาะสมกับความจำเป็นเร่งด่วน
ศักยภาพในการดำเนินการ ตลอดจนสถานะการเงินการคลังของประเทศ และคำนึงถึงภาระผูกพันงบประมาณในแต่ละปีงบประมาณให้เป็นไปตามสัดส่วนของรายจ่ายลงทุนที่กำหนด
ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๐ กุมภาพันธ์ ๒๕๕๒ สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรให้ความสำคัญกับการประชาสัมพันธ์ให้กลุ่มผู้ใช้บริการเดิมรับทราบถึงแผนการดำเนินงานโครงการในช่วงเปลี่ยนผ่าน
เพื่อเป็นประโยชน์ต่อการวางแผนการใช้บริการเครื่องกำเนิดแสงเพื่อพัฒนางานวิจัยที่จำเป็นต้องใช้ระยะเวลานานในการศึกษาและวิเคราะห์เพื่อให้ได้ผลสรุป
รวมทั้งกำหนดแผนการตลาดเชิงรุกเพื่อส่งเสริมการใช้ประโยชน์จากเครื่องกำเนิดแสงซินโครตรอนจากภาคเอกชนและกำหนดแผนการขยายกลุ่มผู้ใช้บริการให้หลากหลายมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะผู้ประกอบการวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมทั้งในและต่างประเทศ
และควรพิจารณาทบทวนอัตราค่าบริการให้มีความเหมาะสมและเพียงพอต่อการบริหารโครงการในระยะยาวและเพื่อสามารถลดการพึ่งพางบประมาณจากทางภาครัฐ
พร้อมทั้งวางแผนการบริหารโครงการอย่างรัดกุมและรอบคอบเพื่อให้โครงการสามารถแล้วเสร็จได้ตามกำหนด ๒. มอบหมายให้สำนักงบประมาณนำคำของบประมาณฯ ตามข้อ ๑ ไปพิจารณาร่วมกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เพื่อกลั่นกรองความจำเป็นเหมาะสมในภาพรวมของข้อเสนองบประมาณของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐในรายการงบลงทุนและรายการงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่ ๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไปทั้งหมดให้เหมาะสม สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา แล้วให้สำนักงบประมาณนำผลการพิจารณาในภาพรวมทั้งหมดเสนอต่อคณะรัฐมนตรีตามขั้นตอนและกรอบเวลาของปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๙ ต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
23 | โครงการจัดหาระบบแฟ้มสะสมทักษะ (Skill/Credit Portfolio) รายบุคคลระดับอุดมศึกษาสำหรับการวางแผนและพัฒนากำลังคน ของประเทศ | อว. | 28/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติในหลักการการยื่นคำของบประมาณรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่
๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไป ตามนัยมาตรา ๒๖
แห่งพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๑ ของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม โครงการจัดหาระบบแฟ้มสะสมทักษะ (Skill/Credit Portfolio) รายบุคคลระดับอุดมศึกษาสำหรับการวางแผนและพัฒนากำลังคนของประเทศ
วงเงินรวมทั้งสิ้น ๕,๔๑๓.๗๕ ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ ๔ ปี
(พ.ศ. ๒๕๖๙ - ๒๕๗๒) ทั้งนี้ ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงบประมาณ
และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงการคลัง เห็นควรเชื่อมโยงหรือแลกเปลี่ยนข้อมูลร่วมกับหน่วยงานด้านการศึกษาอื่นที่เกี่ยวข้อง
ตลอดจนการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานและการจัดหาระบบคลาวด์ควรดำเนินการให้เป็นไปตามนโยบาย
มาตรฐาน และกรอบกฎหมายที่เกี่ยวกับเรื่องดังกล่าว สำหรับการกำหนดกรอบการจัดสรรงบประมาณให้เป็นไปตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
โดยคำนึงถึงความสอดคล้องกับหลักเกณฑ์ต่าง ๆ
ที่กำหนดตามพระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. ๒๕๖๑ กฎหมาย ระเบียบ
ประกาศ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องโดยเคร่งครัด
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่าและเกิดประโยชน์สูงสุด สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เห็นว่าหากจะมีการพัฒนาระบบในการสะสมและจัดการข้อมูลทักษะที่สามารถเชื่อมโยงระหว่างการศึกษาและอาชีพ
ควรมีการหารือร่วมกันระหว่างกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง อาทิ กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงแรงงาน
สถาบันคุณวุฒิวิชาชีพ (องค์การมหาชน) ในการออกแบบพิมพ์เขียว (blueprint) ระดับประเทศ
โดยพิจารณาต่อยอดจากแพลตฟอร์มการพัฒนาทักษะและยกระดับทักษะของบุคคลที่มีการดำเนินการอยู่แล้ว
และออกแบบองค์ประกอบภายในแพลตฟอร์ม (module) ที่มีการกำหนดบทบาทหน้าที่และผู้รับผิดชอบที่ชัดเจนอย่างเป็นเอกภาพบนมาตรฐานเดียวกัน
ซึ่งจะช่วยให้ภาครัฐสามารถวางแผนพัฒนาทักษะของกำลังคนได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ ๒. มอบหมายให้สำนักงบประมาณนำคำของบประมาณฯ ตามข้อ
๑ ไปพิจารณาร่วมกับสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
เพื่อกลั่นกรองความจำเป็นเหมาะสมในภาพรวมของข้อเสนองบประมาณของส่วนราชการและหน่วยงานของรัฐในรายการงบลงทุนและรายการงบประมาณที่มีวงเงินตั้งแต่
๑,๐๐๐ ล้านบาทขึ้นไปทั้งหมด
ให้เหมาะสม สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลที่ได้แถลงไว้ต่อรัฐสภา แล้วให้สำนักงบประมาณนำผลการพิจารณาในภาพรวมทั้งหมดเสนอต่อคณะรัฐมนตรีตามขั้นตอนและกรอบเวลาของปฏิทินงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๙ ต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
24 | กรอบวงเงินงบประมาณด้านการอุดมศึกษาในความรับผิดชอบของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม กรอบวงเงินงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2569 และระบบการจัดสรรและบริหารงบประมาณแบบบูรณาการที่มุ่งผลสัมฤทธิ์ | อว. | 28/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติกรอบวงเงินงบประมาณด้านการอุดมศึกษาในความรับผิดชอบของกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม และกรอบวงเงินงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๙ รวมทั้งระบบการจัดสรรและบริหารงบประมาณแบบบูรณาการที่มุ่งผลสัมฤทธิ์
สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติเสนอ สำหรับกรอบวงเงินงบประมาณด้านการอุดมศึกษาในความรับผิดชอบของกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๙ จำนวน ๑๑๕,๒๓๖,๑๕๗,๑๐๐ บาท และกรอบวงเงินงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๙ จำนวน ๔๔,๙๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท นั้น
สำนักงบประมาณจะพิจารณาตามประมาณการรายรับและฐานะการคลังของประเทศ
โดยคำนึงถึงภารกิจและความจำเป็นในการดำเนินการให้สอดคล้องยุทธศาสตร์ชาติ
แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๓ และนโยบายสำคัญของรัฐบาล
ตลอดจนความพร้อม ความครอบคลุมของแหล่งเงิน
ศักยภาพและความสามารถในการใช้จ่ายงบประมาณ
รายงานผลสัมฤทธิ์หรือประโยชน์ที่ได้รับจากการใช้จ่ายงบประมาณของหน่วยรับงบประมาณที่ผ่านมา
การมีส่วนร่วมของภาคเอกชน ความเป็นธรรมทางสังคม และนโยบายรัฐบาล
รวมทั้งการติดตามและประเมินผลการดำเนินงานโดยผ่านกลไกของกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพและความคุ้มค่าในการใช้จ่ายงบประมาณ
และเกิดผลสัมฤทธิ์ในการบริหารจัดการภาครัฐ ตามนัยพระราชบัญญัติวิธีการงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๑ ต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ ให้สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับความเห็นของกระทรวงการคลังและกระทรวงพลังงาน
และข้อเสนอแนะของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงการคลัง เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการดำเนินการดังกล่าวให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง
เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่า และเกิดประโยชน์สูงสุด
รวมทั้งควรติดตามและประเมินผลการดำเนินงานเพื่อให้เกิดผลสำเร็จอย่างยั่งยืน |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
25 | ขออนุมัติต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (ครั้งที่ 1) (นางสาววิภารัตน์ ดีอ่อง) | อว. | 07/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติต่อเวลาการดำรงตำแหน่งของนางสาววิภารัตน์
ดีอ่อง ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ซึ่งจะดำรงตำแหน่งดังกล่าวครบ
๔ ปี ในวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ ต่อไปอีก ๑ ปี (ครั้งที่ ๑) ตั้งแต่วันที่ ๙
กุมภาพันธ์ ๒๕๖๘ ถึงวันที่ ๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๖๙
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
26 | ร่างบันทึกความเข้าใจว่าด้วยความร่วมมือในโครงการภายใต้กองทุนพิเศษแม่โขง-ล้านช้าง ประจำปี พ.ศ. 2567 (Memorandum of Understanding on the Cooperation on Projects of the Mekong-Lancang Cooperation Special Fund 2024) | อว. | 07/01/2568 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
27 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการมาตรวิทยาแห่งชาติเพิ่มเติม (นางเกศรา มัญชุศรี) | อว. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางเกศรา มัญชุศรี เป็นกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการมาตรวิทยาแห่งชาติเพิ่มเติมในตำแหน่งที่ว่าง
โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่คณะรัฐมนตรีมีมติ (๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๗) เป็นต้นไป
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
28 | ขอยกเว้นมติคณะรัฐมนตรีที่ห้ามใช้ประโยชน์ป่าชายเลน เพื่อให้มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัยใช้ประโยชน์พื้นที่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าคลองกะลาเส และป่าคลองไม้ตาย ท้องที่ตำบลไม้ฝาด อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง เพื่อใช้ประโยชน์ด้านการศึกษาตามภารกิจของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลศรีวิชัย | อว. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
29 | การแต่งตั้งผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (ศาสตราจารย์ชูกิจ ลิมปิจำนงค์) | อว. | 24/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้ง ศาสตราจารย์ชูกิจ ลิมปิจำนงค์ เป็นผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
(ตามมติคณะกรรมการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในการประชุม ครั้งที่ ๑๑/๒๕๖๗
เมื่อวันที่ ๒๕ พฤศจิกายน ๒๕๖๗) ตามความในมาตรา ๑๓
แห่งพระราชบัญญัติพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พ.ศ. ๒๕๓๔ ต่อไปอีก ๑ วาระ ตั้งแต่วันที่
๒๗ สิงหาคม ๒๕๖๘ ถึงวันที่ ๒๖ สิงหาคม ๒๕๗๑ ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติรับความเห็นของสำนักงาน
ก.พ.ร. ที่เห็นว่า ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
(สวทช.) จะต้องปฏิบัติงานตามวัตถุประสงค์ เป้าหมาย
ตัวชี้วัดและผลผลิตตามที่คณะกรรมการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติเห็นชอบ
เพื่อให้การดำเนินภารกิจของ สวทช. บรรลุผลสัมฤทธิ์และตอบโจทย์การพัฒนาประเทศ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งการขับเคลื่อนและพัฒนาระบบนิเวศด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (S&T Ecosystem) ซึ่งต้องมีกลไกการทำงานที่สอดคล้อง
เชื่อมโยง ลดความซ้ำซ้อน และมุ่งเน้นการบูรณาการระหว่างหน่วยงาน ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
30 | ร่างบันทึกการจัดตั้งเครือข่ายความร่วมมือระหว่างสถาบันอุดมศึกษาชั้นนำของรัฐสมาชิกการประชุมว่าด้วยการส่งเสริมปฏิสัมพันธ์และมาตรการสร้างความไว้เนื้อเชื่่อใจระหว่างประเทศในภูมิภาคเอเชีย | อว. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
31 | การแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (1. นางสุพิชชา จันทรโยธา ฯลฯ จำนวน 4 คน) | อว. | 17/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบแต่งตั้งกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
จำนวน ๔ คน เนื่องจากกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิเดิมได้ดำรงตำแหน่งครบวาระสามปี
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ ดังนี้ ๑. นางสุพิชชา จันทรโยธา ๒. นางสุภา หารหนองบัว ๓. นายสมหมาย เตชวาล
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
32 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อว. | 11/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา
อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ
เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ (ฉบับที่ ..) พ.ศ.
.... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาในสาขาวิชา
อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา และสีประจำสาขาวิชาสำหรับสาขาวิชาเทคโนโลยี
และสาขาวิชาวิจิตรศิลป์และประยุกต์ศิลป์ ที่ได้เปิดสอนเพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
33 | ร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อว. | 11/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. อนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นยกเลิกมาตรา
๓๘ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
พ.ศ. ๒๕๖๒ ที่กำหนดให้ดำเนินการตราพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งสถาบันวิทยาศาสตร์บริการตามกฎหมายว่าด้วยองค์การมหาชนให้แล้วเสร็จภายใน
๓ ปี นับแต่วันที่พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงการอุดมศึกษาฯ
มีผลใช้บังคับ และให้ยุบเลิกกรมวิทยาศาสตร์บริการ (วศ.) ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วส่งให้คณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป ๒. ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมรับความเห็นของสำนักงาน ก.พ. สำนักงาน ก.พ.ร. และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
เช่น สำนักงาน ก.พ. เห็นว่ากรมวิทยาศาสตร์บริการควรพิจารณาทบทวนบทบาทภารกิจและการบริหารอัตรากำลัง
ตามติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ ๑๔ มีนาคม ๒๕๖๖ เรื่อง
แนวทางการบริหารจัดการกำลังคนภาครัฐ ตามที่คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ
(คปร.) กำหนดไว้ในมาตรการบริหารจัดการกำลังคนภาครัฐ (พ.ศ. ๒๕๖๖ - ๒๕๗๐) สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรจัดทำแผนบริหารและแนวทางการปฏิบัติราชการให้มีความคล่องตัวและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
34 | ร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสาธารณรัฐเกาหลีว่าด้วยความร่วมมือในการใช้พลังงานนิวเคลียร์ในทางสันติ | อว. | 11/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
35 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อว. | 03/12/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุม
(ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดค่าธรรมเนียมสำหรับผู้ประกอบวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุม
ในสาขานิติวิทยาศาสตร์ และสาขาอาชีวอนามัยและความปลอดภัย
เพื่อให้สอดคล้องกับการกำหนดให้สาขาดังกล่าว เป็นวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุมเพิ่มเติม
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไป ๒. ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมรับความเห็นของสำนักงบประมาณ เห็นว่า
เมื่อสภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติส่งเสริมวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
พ.ศ. ๒๕๕๑ สามารถดำเนินการเก็บค่าธรรมเนียมผู้ประกอบวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีควบคุมจากสาขาที่กำหนดเพิ่มเติม
ตามที่กำหนด หรือมีรายได้ต่าง ๆ เพิ่มมากขึ้น เห็นควรที่สภาวิชาชีพวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีจะนำเงินรายได้มาใช้ในโอกาสแรก
เพื่อลดการขอรับเงินอุดหนุนจากงบประมาณแผ่นดิน ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
36 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ รายการก่อสร้างกลุ่มอาคารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ (อาคารเรียนรวมและปฏิบัติกลาง) ต่อจากที่ก่อสร้างบางส่วนแล้วของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ | อว. | 29/11/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่
เพิ่มวงเงินรายการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการกลุ่มอาคารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
(อาคารเรียนรวมและปฏิบัติกลาง) ตำบลสะลวง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ๑ รายการ จากวงเงินเดิมที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติอนุมัติ
จำนวน ๓๖๗,๕๐๐,๐๐๐ บาท เป็นวงเงิน ๔๑๒,๔๙๒,๑๐๗.๐๒
บาท โดยใช้จ่ายจากเงินงบประมาณ จำนวน ๓๗๑,๒๔๒,๘๙๖.๓๑ บาท และเงินนอกงบประมาณ จำนวน ๔๑,๒๔๙,๒๑๐.๗๑ บาท
และอนุมัติขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการดังกล่าว จากปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๓ - พ.ศ. ๒๕๖๘ เป็นปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๓ - พ.ศ. ๒๕๗๐ ตามนัยข้อ ๗ (๓)
ของระเบียบว่าด้วยการก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ ทั้งนี้ ให้มหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ดำเนินการตามกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ มติคณะรัฐมนตรี และหนังสือเวียนที่เกี่ยวข้อง
ตลอดจนมาตรฐานของทางราชการให้ถูกต้องครบถ้วนในทุกขั้นตอน
โดยคำนึงถึงประโยชน์สูงสุดของทางราชการเป็นสำคัญ ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ
และให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมกำกับ ติดตาม
และเร่งรัดการดำเนินการก่อสร้างกลุ่มอาคารมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์
(อาคารเรียนรวมและปฏิบัติกลาง) ตำบลสะลวง อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่
ของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ให้แล้วเสร็จ ภายในกรอบวงเงินและระยะเวลาที่ได้รับการอนุมัติไว้ในครั้งนี้อย่างเคร่งครัด
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
37 | ร่างกฎกระทรวงความร่วมมือระหว่างสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ. .... | อว. | 19/11/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างกฎกระทรวงความร่วมมือระหว่างสถาบันอุดมศึกษา พ.ศ.
.... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขความร่วมมือในการจัดการศึกษา การวิจัย และการสร้างนวัตกรรม
และในด้านอื่น ๆ ระหว่างสถาบันอุดมศึกษาของรัฐและเอกชน ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
38 | ร่างปฏิญญาระดับรัฐมนตรีสำหรับการประชุม IAEA Ministerial Conference on Nuclear Science, Technology and Applications and the Technical Cooperation Programme | อว. | 19/11/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
39 | โครงการกองทุนการศึกษาระดับอุดมศึกษา (ระยะที่ 2) | อว. | 12/11/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการให้สำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ดำเนินโครงการกองทุนการศึกษาระดับอุดมศึกษา (ระยะที่
๒) ภายในกรอบวงเงิน ๕๕,๐๘๗,๘๐๐ บาท ประจำปีงบประมาณ
พ.ศ. ๒๕๖๘ - ๒๕๘๐ ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ สำหรับค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการกองทุนการศึกษาระดับอุดมศึกษา
(ระยะที่ ๒) ซึ่งจะเริ่มดำเนินการตั้งแต่ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๘ นั้น
เห็นควรให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
โดยสำนักงานปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ดำเนินการตามวิธีการงบประมาณและขั้นตอนของกฎหมาย
ระเบียบ ข้อบังคับ และมติคณะรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องให้ถูกต้อง ครบถ้วน รวมถึงการจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
เพื่อเสนอขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีตามความจำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ทั้งนี้ ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมรับความเห็นของกระทรวงการคลัง สำนักงาน ก.พ.
สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และสำนักงาน ก.พ.ร. ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย
เช่น กระทรวงการคลัง เห็นควรให้ความสำคัญกับการควบคุม
และกำกับดูแลการดำเนินโครงการให้เป็นไปตามกฎหมาย ระเบียบ ข้อบังคับ
และหลักเกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้การใช้จ่ายงบประมาณมีความคุ้มค่า |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
40 | ขออนุมัติเพิ่มวงเงินและขยายระยะเวลาก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณรายการก่อสร้างอาคารปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ ตำบลท่าช้าง อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี ของมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี | อว. | 12/11/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการเพิ่มวงเงินก่อหนี้ผูกพันข้ามปีงบประมาณ
รายการอาคารปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ ตำบลท่าช้าง อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี
จำนวน ๑ หลัง จากเดิม จำนวน ๑๖๙,๖๗๑,๙๑๒.๔๗ บาท เป็น จำนวน ๒๑๕,๒๘๖,๙๑๒.๔๗ บาท และขอขยายระยะเวลาผูกพันข้ามปีงบประมาณ สำหรับรายการดังกล่าว จากเดิม
ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ - พ.ศ. ๒๕๖๑ เป็น ปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๕๕ - พ.ศ. ๒๕๖๙ ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม กำกับ ติดตาม และเร่งรัดการดำเนินการก่อสร้างอาคารปฏิบัติการวิทยาศาสตร์
ตำบลท่าช้าง อำเภอเมืองจันทบุรี จังหวัดจันทบุรี ของมหาวิทยาลัยราชภัฏรำไพพรรณี
ให้ถูกต้อง และแล้วเสร็จภายในกรอบวงเงินและระยะเวลาที่ได้รับการอนุมัติไว้ในครั้งนี้อย่างเคร่งครัด รวมทั้งให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
กระทรวงมหาดไทย และสำนักงบประมาณไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เห็นควรพิจารณาความสอดคล้องกับประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เรื่อง กำหนดโครงการ กิจการ หรือการดำเนินการ
ซึ่งต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม และหลักเกณฑ์ วิธีการ
และเงื่อนไขในการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม พ.ศ. ๒๕๖๖
หากมีลักษณะเป็นโครงการ กิจการ หรือการดำเนินการ ตามประกาศกระทรวงดังกล่าว จะต้องจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
และจะต้องจัดกระบวนการมีส่วนร่วมของประชาชนตามประกาศสำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
เรื่อง
แนวทางการมีส่วนร่วมของประชาชนในกระบวนการจัดทำรายงานการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อม
พ.ศ. ๒๕๖๖ ด้วย |