ค้นหาข้อมูลมติคณะรัฐมนตรี
ค้นหาเพิ่มเติม
หน้าที่ 4 จากทั้งหมด 20 หน้า แสดงรายการที่ 61 - 80 จากข้อมูลทั้งหมด 391 รายการ
ลำดับ | ชื่อเรื่อง | ส่วนราชการ เจ้าของเรื่อง |
วันที่มีมติ | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
61 | ขอความเห็นชอบการจัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับการใช้พลังงานนิวเคลียร์ในทางสันติ (Agreement for Cooperation between the Government of the Kingdom of Thailand and the Government of the United States of America concerning Peaceful Uses of Nuclear Energy) (123 Agreement) | อว. | 22/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้เลื่อนการพิจารณาเรื่อง
ขอความเห็นชอบการจัดทำความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับการใช้พลังงานนิวเคลียร์ในทางสันติ
(Agreement
for Cooperation between the Government of the Kingdom of Thailand and the
Government of the United States of America concerning Peaceful Uses of Nuclear
Energy) (123 Agreement) ออกไปก่อนเป็นวันอังคารที่
๒๙ ตุลาคม ๒๕๖๗ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมเสนอ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
62 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ (นางสาวอัณณ์ณิชา โตกิจกล้าธวัฒน์) | อว. | 22/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นางสาวอัณณ์ณิชา โตกิจกล้าธวัฒน์
ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งผู้อำนวยการกอง (ผู้อำนวยการสูง)
กองมาตรฐานการวิจัยและสถาบันพัฒนาการดำเนินการต่อสัตว์เพื่องานทางวิทยาศาสตร์
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ ให้ดำรงตำแหน่งที่ปรึกษาด้านระบบวิจัย
(นักวิเคราะห์นโยบายและแผนทรงคุณวุฒิ) สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ
กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ตั้งแต่วันที่ ๔ เมษายน ๒๕๖๗
ซึ่งเป็นวันที่มีคุณสมบัติครบถ้วนสมบูรณ์ ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
63 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาการส่งข้อมูลการอุดมศึกษาและการอื่นที่เกี่ยวข้อง พ.ศ. .... | อว. | 15/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาการส่งข้อมูลการอุดมศึกษาและการอื่นที่เกี่ยวข้อง
พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และระยะเวลาที่หน่วยงานของรัฐทุกหน่วยงานและหน่วยงานภาคเอกชนตามลักษณะที่สภานโยบายการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติประกาศกำหนดส่งข้อมูลเกี่ยวกับการอุดมศึกษาและการอื่นที่เกี่ยวข้องให้แก่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ตามที่ได้รับการร้องขอ เพื่อให้กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม มีข้อมูลครบถ้วนในการจัดทำฐานข้อมูลการอุดมศึกษา
การวิจัยและนวัตกรรม นำไปสู่การพัฒนาการจัดการอุดมศึกษาและพัฒนาบุคลากรของประเทศต่อไป
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็นของกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
สำนักงาน ก.พ.ร. สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
และข้อมูลเพิ่มเติมที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมเสนอไปประกอบการพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้ เช่น กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม
เห็นว่ากฎกระทรวงเป็นอนุบัญญัติซึ่งอาศัยกฎหมายแม่บทให้ฝ่ายบริหารกำหนดรายละเอียดเพิ่มเติมจากที่กฎหมายระดับพระราชบัญญัติให้อำนาจไว้เท่านั้น
ดังนั้น
ร่างกฎกระทรวงดังกล่าวจึงไม่อาจกำหนดมาตรการบังคับและบทกำหนดโทษสำหรับหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานภาคเอกชนตามร่างข้อ
๑๑ ได้ ประกอบกับกรณีดังกล่าวได้มีการกำหนดไว้แล้วในมาตรา ๗๔ แห่งพระราชบัญญัติการอุดมศึกษา
พ.ศ. ๒๕๖๒ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
เห็นว่าพระราชบัญญัติการอุดมศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๒ ซึ่งเป็นกฎหมายแม่บทกำหนดให้เป็นอำนาจของกระทรวงเท่านั้นที่สามารถร้องขอให้หน่วยงานฯ
ส่งข้อมูลเกี่ยวกับการอุดมศึกษาและการอื่น
หากแต่ในร่างกฎกระทรวงนี้ซึ่งออกโดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติดังกล่าวได้ให้หน้าที่และอำนาจแก่สำนักงานปลัดกระทรวง
(ฐานะเป็นกรม) สามารถร้องขอข้อมูล
และสามารถออกหนังสือเตือนหัวหน้าหน่วยงานของรัฐหรือหน่วยงานภาคเอกชนที่จัดส่งข้อมูลไม่ถูกต้อง
ไม่ครบถ้วน หรือไม่ดำเนินการภายในระยะเวลาที่กำหนดได้ อีกทั้งหากหน่วยงานฯ
ไม่ปฏิบัติตามจะมีโทษทางปกครองอีกด้วย
จึงมีข้อสังเกตว่าการกำหนดในลักษณะดังกล่าวจะขัดแย้งกับกฎหมายแม่บทที่ให้อำนาจหรือไม่ ๒. ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมรับความเห็นของสำนักงาน
ก.พ.ร. เห็นว่าการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ
และระยะเวลาการส่งข้อมูล (ร่างข้อ ๕) ควรระบุรายการข้อมูลที่ต้องการให้ชัดเจน การจัดส่งข้อมูล
(ร่างข้อ ๖) ควรกำหนดนิยามรูปแบบ ขนาด ประเภท รายการข้อมูล คำอธิบายข้อมูล (Metadata) พจนานุกรมข้อมูล
(Data Dictionary) และบัญชีรายชื่อข้อมูล (Data
Catalog) รอบระยะเวลาการจัดส่งข้อมูลที่สอดคล้องกับการจัดเก็บข้อมูล
และการจัดหาแพลตฟอร์มเชื่อมโยงข้อมูลเข้าสู่ฐานข้อมูลการอุดมศึกษา (ร่างข้อ ๙)
ควรคำนึงถึงความสอดคล้องกับมาตรฐานต่าง ๆ เช่น มาตรฐานข้อมูลด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารตามกฎหมายว่าด้วยการปฏิบัติราชการทางอิเล็กทรอนิกส์
มาตรฐานด้านความมั่นคงปลอดภัยในการแลกเปลี่ยนข้อมูล รูปแบบข้อมูล
การจัดเก็บรักษาข้อมูลตามมาตรฐานสากล ไปพิจารณาดำเนินการต่อไปด้วย |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
64 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อว. | 15/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา
อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ
และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงราย (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ....
มีสาระสำคัญเป็นการเพิ่มเติมปริญญาปรัชญาดุษฎีบัณฑิตของสาชาวิชาการแพทย์แผนไทย
และแก้ไขชื่อ “สาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์” เป็น “สาขาวิชาบริหารรัฐกิจ” รวมถึงกำหนดปริญญาในสาขาวิชา
อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา และสีประจำสาขาวิชาพยาบาลศาสตร์ที่ได้เปิดสอนเพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
65 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อว. | 15/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา
อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ
และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลพระนคร (ฉบับที่ .) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาในสาขาวิขาและอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาบริหารรัฐกิจ
และสาขาวิชาวิจิตรศิลป์และประยุกต์ศิลป์ เพิ่มระดับชั้นปริญญาโทในสาขาวิชาเทคโนโลยี
รวมถึงกำหนดสีประจำวิทยาลัยการบริหารแห่งรัฐ ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
66 | ร่างเอกสารถ้อยแถลงในการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนว่าด้วยวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ด้านปัญญาประดิษฐ์ [ASEAN Ministerial Meeting on Science, Technology and Innovation (AMMSTI) Statement on Artificial Intelligence (AI)] | อว. | 08/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
67 | การแต่งตั้งผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม | อว. | 08/10/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติมอบหมายเป็นหลักการให้รัฐมนตรีเป็นผู้รักษาราชการแทนรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ในกรณีที่ไม่มีผู้ดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม หรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติราชการได้ ตามความในมาตรา ๔๒ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน
พ.ศ. ๒๕๓๔ จำนวน ๒ ราย ตามลำดับ ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมเสนอ ดังนี้ ๑. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (นายพิพัฒน์
รัชกิจประการ) ๒. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (พลตำรวจเอก
เพิ่มพูน ชิดชอบ)
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
68 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง | อว. | 24/09/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายวันนี นนท์ศิริ ข้าราชการพลเรือนสามัญ
ตำแหน่งผู้ช่วยปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
ให้ดำรงตำแหน่งผู้ตรวจราชการกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เพื่อทดแทนตำแหน่งที่ว่าง ตั้งแต่วันที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้งเป็นต้นไป
ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
69 | ร่างความตกลงระหว่างทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศกับคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เรื่อง การแต่งตั้งคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เป็น International Atomic Energy Agency Collaborating Centre - Anchor Centre | อว. | 17/09/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบการจัดทำร่างความตกลงระหว่างทบวงการพลังงานปรมาณูระหว่างประเทศกับคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล เรื่อง การแต่งตั้งคณะแพทยศาสตร์ โรงพยาบาลรามาธิบดี
มหาวิทยาลัยมหิดล เป็น International Atomic
Energy Agency Collaborating Centre - Anchor Centre และมอบหมายให้คณบดีคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล เป็นผู้แทนในการลงนามร่างความตกลงดังกล่าว
โดยร่างความตกลงฯ มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดกรอบความร่วมมือที่ไม่ผูกขาดระหว่างคู่สัญญา
ในด้านการเสริมสร้างศักยภาพและระบบสุขภาพในรูปแบบ Anchor Centre โดยคณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล ในฐานะ Anchor
Centre จะทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการให้ความรู้ด้านการแพทย์รังสี
สาขาการถ่ายภาพมะเร็ง (รังสีวิทยาและเวชศาสตร์นิวเคลียร์) รังสีวิทยามะเร็ง
และฟิสิกส์การแพทย์ แก่ประเทศสมาชิกของ IAEA ในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
รวมถึงประเทศสมาชิกในภูมิภาคอื่น
ตามแผนงานที่เป็นส่วนหนึ่งของร่างความตกลงฉบับนี้และการรายงานผลการดำเนินงานให้ IAEA
ทราบ โดยมีกิจกรรมภายใต้แผนงานครอบคลุมประเด็นต่าง ๆ เช่น การฝึกอบรมผู้เชี่ยวชาญ
นักวิจัย หรือแพทย์ประจำบ้านตามคำแนะนำของ IAEA ในสาขาความเชี่ยวชาญของ
Anchor Centre การจัดหาผู้เชี่ยวชาญด้านรังสีวิทยา
เวชศาสตร์นิวเคลียร์ และฟิสิกส์การแพทย์ให้กับ IAEA เป็นต้น ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ
(หนังสือกระทรวงการต่างประเทศ ที่ กต ๑๐๐๕/๑๖๙๕ ลงวันที่ ๑๓ กันยายน ๒๕๖๗) ไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับเปลี่ยนร่างความตกลงฯ ในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับหลักการที่คณะรัฐมนตรีได้ให้ความเห็นชอบไว้
ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมดำเนินการได้
โดยให้นำเสนอคณะรัฐมนตรีทราบภายหลัง พร้อมทั้งให้ชี้แจงเหตุผลและประโยชน์ที่ไทยได้รับจากการปรับเปลี่ยนดังกล่าวตามหลักเกณฑ์ของมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่
๓๐ มิถุนายน ๒๕๕๘ (เรื่อง
การจัดทำหนังสือสัญญาเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ)
ด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
70 | ร่างกฎกระทรวงกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และระยะเวลาการส่งข้อมูลการอุดมศึกษาและการอื่นที่เกี่ยวข้อง พ.ศ. .... | อว. | 03/09/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติให้เลื่อนการพิจารณาเรื่องนี้ออกไปก่อน
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
71 | ร่างกฎกระทรวงความมั่นคงปลอดภัยทางนิวเคลียร์ พ.ศ. .... | อว. | 03/09/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวงความมั่นคงปลอดภัยทางนิวเคลียร์ พ.ศ. ....
ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์
วิธีการ และเงื่อนไขเกี่ยวกับความมั่นคงปลอดภัยทางนิวเคลียร์
เพื่อให้ผู้รับใบอนุญาตและผู้มีไว้ในครอบครองวัสดุนิวเคลียร์ต้องปฏิบัติ ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมรับความเห็นของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณา
ดำเนินการต่อไปด้วย ดังนี้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เห็นว่าสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ที่ใช้เครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์วิจัย
ที่มีกำลังตั้งแต่ ๒ เมกะวัตต์ (ความร้อน) ขึ้นไป ต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับประกาศกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมที่เกี่ยวข้อง สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นว่าร่างกฎกระทรวงในเรื่องนี้มีความเกี่ยวข้องกับกฎกระทรวงฉบับอื่นที่จะมีการประกาศใช้ตามพระราชบัญญัติพลังงานนิวเคลียร์เพื่อสันติ
พ.ศ. ๒๕๕๙ และที่แก้ไขเพิ่มเติม ควรพิจารณากำหนดระเบียบ ประกาศ
หรือคู่มือในการดำเนินงานสำหรับกำหนดรายละเอียดในการออกแบบสถานประกอบการทางนิวเคลียร์ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
72 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์การวิจัยและข้อกำหนดจริยธรรมการวิจัยซึ่งมีปัญหากับหลักศาสนาวัฒนธรรม จารีตประเพณี หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน พ.ศ. .... | อว. | 03/09/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. ให้ถอนร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์การวิจัยและข้อกำหนดจริยธรรมการวิจัย
ซึ่งมีปัญหากับหลักศาสนา วัฒนธรรม จารีตประเพณี หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน พ.ศ.
....
ที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาคืนไปเพื่อพิจารณาทบทวนในรายละเอียดอีกครั้ง
ตามที่รองนายกรัฐมนตรี (นายภูมิธรรม เวชยชัย) ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี
ในฐานะประธานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติเสนอ ๒. ให้สภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาตินำร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์การวิจัยและข้อกำหนดจริยธรรมการวิจัย
ซึ่งมีปัญหากับหลักศาสนา วัฒนธรรม จารีตประเพณี หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน พ.ศ.
.... ไปรับฟังความคิดเห็นอย่างรอบด้านจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและประชาชนอีกครั้ง
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
73 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์การวิจัยและข้อกำหนดจริยธรรมการวิจัยซึ่่งมีปัญหากับหลักศาสนาวัฒนธรรม จารีตประเพณี หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน พ.ศ. .... | อว. | 27/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยหลักเกณฑ์การวิจัยและข้อกำหนดจริยธรรมการวิจัยซึ่งมีปัญหากับหลักศาสนา
วัฒนธรรม จารีตประเพณี หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดหลักเกณฑ์การวิจัยและข้อกำหนดจริยธรรมการวิจัยซึ่งมีปัญหากับหลักศาสนา
วัฒนธรรม จารีตประเพณี หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
กำหนดให้มีคณะกรรมการพิจารณาการวิจัยซึ่งอาจมีปัญหากับหลักศาสนาฯ
และกำหนดลักษณะของการวิจัยที่มีปัญหากับหลักศาสนาฯ
รวมทั้งกำหนดวิธีดำเนินการวิจัยที่มีปัญหากับหลักศาสนาฯ ตามที่สภานโยบายการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาเป็นเรื่องด่วน โดยให้รับความเห็นของกระทรวงการคลัง
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติไปประกอบการพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้ เช่น กระทรวงการคลัง เห็นควรตัดความในมาตรา ๑๔ ของร่างพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว
ตามร่างมาตรา ๑๔ ที่กำหนดให้ประธานกรรมการ กรรมการ ประธานอนุกรรมการ อนุกรรมการ
ได้รับเบี้ยประชุมและประโยชน์ตอบแทนอื่นตามพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยเบี้ยประชุมกรรมการ
ว่า อาจเป็นการกำหนดเกินบทบัญญัติในมาตรา ๓๓ วรรคสาม
แห่งพระราชบัญญัติการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ การวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. ๒๕๖๒
ประกอบกับพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการ พ.ศ. ๒๕๔๗ และที่แก้ไขเพิ่มเติม
ซึ่งให้สิทธิเฉพาะเบี้ยประชุมกรรมการและอนุกรรมการที่เข้าข่ายตามนัยนิยาม มาตรา ๕
มิได้รวมถึงกรรมการที่แต่งตั้งโดยพระราชกฤษฎีกา
และมิได้มีบทกำหนดเกี่ยวกับประโยชน์ตอบแทนอื่นไว้ในพระราชกฤษฎีกาเบี้ยประชุมกรรมการฯ
เพื่อมิให้เกิดปัญหาในทางปฏิบัติ สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ เห็นว่าหากมีความจำเป็นต้องมีการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาการวิจัยซึ่งอาจมีปัญหากับหลักศาสนาวัฒนธรรมจารีตประเพณี
หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน เพื่อทำหน้าที่ในลักษณะเดียวกันคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมตามกฎหมายว่าด้วยสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ (กสว.) โดยความเห็นชอบของสภานโยบายการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ กำหนดหลักเกณฑ์การวิจัยและข้อกำหนดจริยธรรมการวิจัย กสว.
อาจจำเป็นต้องบัญญัติบทให้อำนาจในการแต่งตั้งคณะกรรมการดังกล่าวไว้ในพระราชกฤษฎีกา
หรืออาจต้องบัญญัติให้การกำหนดหลักเกณฑ์การวิจัยและข้อกำหนดจริยธรรมการวิจัยซึ่งมีปัญหากับหลักศาสนา
วัฒนธรรม จารีตประเพณี หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน
ของคณะกรรมการหรืออนุกรรมการตามพระราชกฤษฎีกาต้องได้รับความเห็นชอบจาก กสว.
รวมทั้งอาจจำเป็นต้องบัญญัติในเรื่องของการอุทธรณ์คำวินิจฉัยของคณะกรรมการและการพิจารณาอุทธรณ์ดังกล่าวไว้ในพระราชกฤษฎีกาด้วย
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
74 | ร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี พ.ศ. .... | อว. | 13/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี พ.ศ.
.... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการปรับปรุงการบริหารมหาวิทยาลัยอุบลราชธานีให้เป็นสถาบันอุดมศึกษาของรัฐที่ไม่เป็นส่วนราชการแต่อยู่ในกำกับของรัฐ
เพื่อให้มหาวิทยาลัยมีการบริหารจัดการที่เป็นอิสระ มีความคล่องตัวและมีธรรมาภิบาล
สามารถจัดการศึกษาในระดับอุดมศึกษาได้อย่างมีคุณภาพและประสิทธิภาพเพื่อความเป็นเลิศทางวิชาการและวิชาชีพชั้นสูง
รวมทั้งเพื่อให้สอดคล้องกับการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม
และการปฏิรูปการอุดมศึกษา ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา โดยให้ส่งความเห็นของกระทรวงการคลังไปเพื่อประกอบการพิจารณาของคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร
ก่อนเสนอสภาผู้แทนราษฎรต่อไป
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
75 | การแต่งตั้งข้าราชการพลเรือนสามัญให้ดำรงตำแหน่งประเภทบริหารระดับสูง (นายศุภชัย ปทุมนากุล) | อว. | 06/08/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติแต่งตั้ง นายศุภชัย ปทุมนากุล
ข้าราชการพลเรือนสามัญ ตำแหน่งรองปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง
ให้ดำรงตำแหน่งปลัดกระทรวง สำนักงานปลัดกระทรวง กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม เพื่อทดแทนผู้ดำรงตำแหน่งที่จะเกษียณอายุราชการ ตั้งแต่วันที่ ๑
ตุลาคม ๒๕๖๗ เป็นต้นไป ตามที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
76 | โครงการเพิ่มการผลิตบุคลากรสาขาพยาบาลศาสตร์ (ปีการศึกษา 2566-2570) | อว. | 30/07/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ดำเนินโครงการเพิ่มการผลิตบุคลากรสาขาพยาบาลศาสตร์
(ปีการศึกษา ๒๕๖๖ - ๒๕๗๐) เพื่อผลิตพยาบาลวิชาชีพ จำนวน ๕
รุ่น จำนวนรวมทั้งสิ้น ๑๕,๙๘๕ คน ส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินโครงการ
จำนวน ๑๑๐,๐๐๐ บาท/คน/ปี หรือ ๔๔๐,๐๐๐
บาท/คน/หลักสูตร
ซึ่งเป็นอัตราค่าใช้จ่ายเดิมตามที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีในโครงการเพิ่มการผลิตฯ
ระยะที่ ๑ (ปีการศึกษา ๒๕๖๑ - ๒๕๖๒) สำหรับวงเงินงบประมาณจนสิ้นสุดโครงการ จำนวน ๗,๐๓๓,๔๐๐,๐๐๐ บาท ให้กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ
ตามค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง
พร้อมทั้งรายละเอียดที่เกี่ยวข้องเพื่อเสนอขอรับการจัดสรรงบประมาณเท่าที่จำเป็นและเหมาะสมตามขั้นตอนต่อไป
ตามความเห็นของสำนักงบประมาณ ให้กระทรวงกลาโหม กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรม กระทรวงสาธารณสุข สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
และกรุงเทพมหานครรับความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
ข้อเสนอแนะของสำนักงาน ก.พ.ร. และข้อสังเกตของสำนักงาน ก.พ. ไปพิจารณาดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไปด้วย
เช่น สำนักงาน ก.พ.ร. เห็นควรกำหนดระยะเวลาและเงื่อนไขการชดใช้ทุนสำหรับผู้สำเร็จการศึกษาจากโครงการฯ
เพื่อให้การใช้งบประมาณแผ่นดินสนับสนุนการผลิตบุคลากรสาขาพยาบาลศาสตร์เป็นไปอย่างคุ้มค่า
มีประสิทธิภาพ สอดรับกับทิศทางการพัฒนาด้านสาธารณสุขของประเทศ สำนักงาน ก.พ. เห็นว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรบริหารอัตรากำลังบุคลากรทางการแพทย์
การพยาบาล และการสาธารณสุข
ตามหลักการและแนวทางการบริหารจัดการกำลังคนภาครัฐตามที่คณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ
(คปร.) กำหนดไว้ในมาตรการบริหารจัดการกำลังคนภาครัฐ (พ.ศ. ๒๕๖๒ - ๒๕๗๐) ที่คณะรัฐมนตรีเห็นชอบในการประชุมเมื่อวันที่
๑๔ มีนาคม ๒๕๖๖ เพื่อให้การบริหารอัตรากำลังเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด
ตลอดจนสอดคล้องกับแนวทางการบริหารจัดการกำลังคนด้านสุขภาพของประเทศในภาพรวม |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
77 | ร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... | อว. | 23/07/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยปริญญาในสาขาวิชา
อักษรย่อสำหรับสาขาวิชา ครุยวิทยฐานะ เข็มวิทยฐานะ
และครุยประจำตำแหน่งของมหาวิทยาลัยราชภัฏเชียงใหม่ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดปริญญาในสาขาวิชาอักษรย่อสำหรับสาขาวิชาและสีประจำสาขาวิชาสำหรับสาขาวิชาเทคโนโลยี
และสาขาวิชาวิจิตรศิลป์และประยุกต์ศิลป์ที่ได้เปิดสอนเพิ่มขึ้น ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา
แล้วดำเนินการต่อไปได้
|
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
78 | ร่างตราสารแก้ไขและต่ออายุความตกลงเกี่ยวกับความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และวิชาการระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสหรัฐอเมริกา | อว. | 16/07/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างตราสารแก้ไขและต่ออายุความตกลงเกี่ยวกับความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และวิชาการระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสหรัฐอเมริกา
และอนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
หรือผู้แทนที่ได้รับมอบหมายจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมเป็นผู้ลงนามในร่างตราสารฯ โดยมอบหมายให้กระทรวงการต่างประเทศจัดทำหนังสือมอบอำนาจเต็ม
(Full Powers) ให้แก่ผู้ลงนามในร่างตราสารฯ
โดยร่างตราสารฯ มีสาระสำคัญเป็นการต่ออายุความตกลงเกี่ยวกับความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และวิชาการระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทยกับรัฐบาลแห่งสหรัฐอเมริกา
ไปอีกเป็นระยะเวลา ๑๐ ปี
ต่อเนื่องจากร่างตราสารต่ออายุความตกลงฉบับก่อนหน้าที่ได้สิ้นสุดลงเมื่อวันที่ ๕ สิงหาคม
๒๕๖๖ โดยมีการแก้ไขข้อบทบางประการและร่างตราสารฯ ซึ่งจะมีผลตั้งแต่วันที่ ๖
สิงหาคม ๒๕๖๖ เป็นต้นไป โดยจะมีผลบังคับใช้ ณ วันที่ได้มีการลงนามครบถ้วน ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา
วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศและสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณาดำเนินการต่อไป
ดังนี้ กระทรวงการต่างประเทศ เห็นควรพิจารณาปรับแก้ถ้อยคำในร่างตราสารฯ
ฉบับภาษาไทย เพื่อความถูกต้องและเหมาะสมยิ่งขึ้น สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นควรพิจารณานำเสนอรายงานผลการดำเนินงานจากความร่วมมือระหว่างประเทศประกอบด้วย
เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้รับทราบและเล็งเห็นถึงประโยชน์ที่ได้รับอย่างเป็นรูปธรรมจากการมีความร่วมมือดังกล่าว
รวมถึงกรอบความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมระหว่างประเทศไทยกับประเทศภาคีต่าง
ๆ ที่ได้มีการลงนามแล้ว
ควรได้รับการประชาสัมพันธ์ถึงผลการดำเนินงานและประโยชน์ที่เกิดขึ้นทั้งต่อภาคการศึกษาและภาคอุตสาหกรรมเป้าหมายของประเทศ |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
79 | ร่างกฎกระทรวงวัสดุนิวเคลียร์ที่ผู้ดำเนินการไม่ต้องขอรับใบอนุญาต พ.ศ. .... | อว. | 09/07/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑.
เห็นชอบร่างกฎกระทรวงวัสดุนิวเคลียร์ที่ผู้ดำเนินการไม่ต้องขอรับใบอนุญาต พ.ศ.
.... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว
มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดวัสดุนิวเคลียร์
ที่ผู้ดำเนินการไม่ต้องขอรับใบอนุญาตมีไว้ในครอบครอง ใช้ นำเข้า ส่งออก หรือนำผ่าน
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ ๒. ให้กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์
วิจัยและนวัตกรรมรับความเห็นของกระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงสาธารณสุข และสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติไปพิจารณา
ดำเนินการต่อไปด้วย เช่น กระทรวงสาธารณสุข เห็นว่าหากร่างกฎกระทรวงฯ
มีผลใช้บังคับ ขอให้มีการกำกับดูแลอย่างเคร่งครัด
เพื่อความปลอดภัยต่อสาธารณะและประชาชนโดยรวม สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ เห็นว่าสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติควรมีการเตรียมความพร้อมในการกำหนดแนวทางการตรวจสอบเชิงรุก
ณ สถานประกอบการที่ได้มีการแจ้งการครอบครองวัสดุนิวเคลียร์ เพื่อเป็นการลดความเสี่ยงและป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากความประมาทหรือการขาดความรู้เท่าทัน
อันจะนำไปสู่การเพิ่มระดับความปลอดภัยของผู้ใช้งาน
ประชาชนและสิ่งแวดล้อมโดยรอบได้อย่างเหมาะสมต่อไป |
||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
80 | ร่างกฎกระทรวงศักยภาพทางเทคนิคของผู้ขอรับใบอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสี พ.ศ. .... | อว. | 09/07/2567 | |||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||||
คณะรัฐมนตรีมีมติ ดังนี้ ๑. เห็นชอบร่างกฎกระทรวงศักยภาพทางเทคนิคของผู้ขอรับใบอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสี
พ.ศ. .... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว มีสาระสำคัญเป็นการกำหนดศักยภาพทางเทคนิคของผู้ขอรับใบอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสี
เพื่อให้ผู้ขอรับใบอนุญาตเกี่ยวกับวัสดุกัมมันตรังสีต้องมีศักยภาพทางเทคนิคเพียงพอในการดูแลความปลอดภัยของวัสดุกัมมันตรังสีที่ขออนุญาต
ตามที่กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมเสนอ
และให้ดำเนินการต่อไปได้ |